วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

FoR YoU WiTh My LoVe

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ
ลิงค์นี้นะค่ะhttp://www.yimwhan.com/board/show.php?user=icu11&topic=2&Cate=11

“เฮ้อ….” รอนถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเขานึกถึงเรียงความเรื่อง สัจจะเซรุ่มยาว 2 มัวนกระดาษที่เขาจะต้องเขียนส่งสเนปภายในคาบเรียนวิชาปรุงยาวันพรุ่งนี้

“คืนนี้เขียนจนถึงเที่ยงคืนแน่” แฮร์รี่พูดแล้วนึกถึงคาบเรียนวิชาปรุงยาเมื่อชั่งโมงที่แล้ว…

“มิสเตอร์เนวิลล์ ลองบัตท่อม!!!”สเนปตะโกนลั่นคุกใต้ดินเมื่อเขามองลงไปในหม้อปรุงยาของเนวิลล์

“สัจจะเซรุ่มของใครที่ไหนเขาเป็นสีดำกัน หักคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์15คะแนนโทษฐานที่ไม่ตั้งใจเรียน และนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ทุกคนทำรายงานเรื่อง สัจจะเซรุ่ม ยาว 2 ม้วนกระดาษ ฉันหวังว่าสูตรยาคงจะเข้าไปในสมองทึบๆของเธอได้นะมิสเตอร์ลองบัตท่อม” สเนปพูดพลางมองเนวิลล์ด้วยสายตาดูถูก

แล้วก็มีเสียงเป่าปากและเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังมาจากนักเรียนบ้านสลิธีรินซึ่งกำลังนั่งฟัง สเนปหักคะแนนกริฟฟินดอร์อย่างตั้งใจ

…“งั้นฉันจะไปหาหนังสือ สัจจะเซรุ่ม ที่ห้องสมุดมาทำเรียงความก็แล้วกัน”เฮอร์ไมโอนี่แล้วเธอก็เดินแยกกับแฮร์รี่และรอนเดินตรงไปยังห้องสมุดโดยทันที

“มาดามพินช์คะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเรียกหาบรรณนารักษ์ห้องสมุดของฮอกวอตส์

“จ้ะๆมีอะไรให้ช่วยไหมจ้ะมิสเกรนเจอร์” มาดามพินช์เลื่อนเก้าอี้มาทางเฮอร์ไมโอนี่

“หนังสือเรื่อง สัจจะเซรุ่ม หาได้ที่ตู้หนังสือตู้ไหนคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“อ๋อ!รู้สึกว่าหนังสือเรื่องนั้นนักเรียนชั้นปีสาม ของบ้านสลิธีรินจะยืมไปแล้วล่ะจ้ะเมื่อกี้นี่เอง” มาดามพินช์พูด

“หา…” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางคิดในใจว่า (พวกสลิธีรินต้องรวมหัวกันแกล้งกริฟฟินดอร์อีกแน่ๆเลย)

“แต่ครูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ ลองไปหาที่ชั้นหนังสือตรงโน้นดูสิมิสเกรนเจอร์” มาดามพินช์พูดแล้วชี้นิ้วไปทางตู้หนังสือทางขวามือ

“ขอบคุณค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็รีบเดินตรงไปยังตู้หนังสือนั่นทันที

“สัจจะเซรุ่มๆ” เธอพูดพลางเลื่อนนิ้วไปเรื่อยๆ

“สมาคมพ่อมด…สมาคมแม่มด….สังคมแห่งเวทมนต์” เธอพูดไปเรื่อยๆตามหนังสือที่เธอไล่นิ้วไป

“อ๊ะ…เจอแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอกำลังจะเอื้อมมือขึ้นไปหยิบแต่…

“แอ็กซิโอ หนังสือสัจจะเซรุ่ม” แล้วหนังสือเรื่องสัจจะเซรุ่มก็ลอยผ่านมือของเฮอร์ไมโอนี่ไป

“มัลฟอย!” เธอพูดเมื่อหันไปเห็นผู้ที่ร่ายคาถา

“ไงเกรนเจอร์” มัลฟอยพูดแล้วคว้าหนังสือไว้

“เอาหนังสือเล่มนั้นมานะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ทำไมล่ะก็ฉันอยากจะยืมหนังสือเล่มนี้นี่นา” แล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก

“ฉันต้องใช่หนังสือเล่มนั้นเขียนเรียงความส่งสเนปนะ!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างโกรธๆ

“นี่คือวิธีขอของเด็กที่ได้คะแนนสูงสุดของชั้นปีหรอเนี่ย ไม่ยักกะรู้” มัลฟอยพูดพลางยิ้มเยาะๆ

“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามขณะนี่เธอกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแต่เธอก็ต้องระงับเอาไว้

“จูบฉันซิ” มัลฟอยพูดแล้วชี้นิ้วไปที่ริมฝีปากของตน พลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“หา…ว่ายังไงนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเธอแทบไม่เชื่อหูตัวเองกับประโยคที่เธอเพิ่งได้ยินเมื่อครู่

“จูบไงล่ะ…จูบฉันซิยัยเลือดสีโคลน” มัลฟอยพูด

“จะบ้าหรอ คิดหรือว่าฉันจะยอมจูบริมฝีปากโสโครกของนายน่ะ ฉันหาหนังสือเล่มอื่นแทนก็ได้”เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็หันหลังไปแต่มัลฟอยก็คว้าข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่ไว้

“เธอพูดว่ายังไงนะ” มัลฟอยพูดเขาหน้าเขาแดงด้วยความโกรธ

“อย่างน้อยน่ะฉันก็ยังดีกว่าเธอ ที่เกิดมาจากครอบครัวของพวกมักเกิ้ลโง่เง่านั่…”

“เผียะ”

มัลฟอยอึ้งไปซักพักแล้วเขาก็หันกลับมา

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ” มัลฟอยพูด แล้วหยิบไม้กายสิทธิ์ของเขาออกมาจากเสื้อคลุมชี้ไปทางเฮอร์ไมโอนี่

“หยุดนะพวกเธอทั้งสองคน” มาดามพินช์ซึ่งเห็นเหตุการณ์พูดแล้ววิ่งเข้าไปหาทั้งสอง

“พวกเธอทำอะไรกันน่ะ” มาดามพินช์ถามพลางมองไปทางทั้งสองคน

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะมาดามพินช์” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“อย่างนั้นหรอแล้วภาพที่ฉันเห็นเมื่อกี้นั่นมันอะไร ตามฉันมาเดี๋ยวนี้เลยทั้งสองคน” มาดามพินช์พูด แล้วเดินตรงไปยังห้องทำงานของเธอ มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่จึงจำใจเดินตามมาดามพินช์ไป

“ฝากไว้ก่อนเถอะ….” มัลฟอยกระซิบกับเฮอร์ไมโอนี่เบาๆ เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองหน้าของมัลฟอยซึ่ง ตอนนี้หน้าของเขานั้นแดงเถือกเป็นรูปมือของเฮอร์ไมโอนี่

(เราตบแรงไปหรือป่าวเนี่ย) เฮอร์ไมโอนี่คิด

(ไม่หรอกคนอย่างมันน่ะสมควรโดนแล้ว) เฮอร์ไมโอนี่คิดแล้วเดินตามมัลฟอยเข้าไปในห้องพักของมาดามพินช์…



“ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอทะเลาะกันเรื่องอะไรหรอกนะ แต่มันถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือกันเลยหรอ” มาดามพินช์ถามแต่มัลฟอยกับเฮอร์ไมโอนี่ต่างก็เงียบด้วยกันทั้งคู่เพราะทั้งสองคนไม่ได้ตั้งใจฟังมาดามพินช์ที่กำลังอยู่ ทั้งสองกำลังมองไปรอบๆห้องของมาดามพินช์ ภายในห้องนั้นมีตู้หนังสือมากมายพอๆกับในห้องสมุดที่อยู่ด้านนอก

(นี่เธออ่านหนังสือหมดนี่เลยหรอเนี่ย) เฮอร์ไมโอนี่มองดูด้วยความทึ่ง แม้แต่หนอนหนังสืออย่างก็ยังไม่เคยอ่านหนังสือที่มากมายขนาดนี้

“นี่พวกเธอฟังฉันอยู่หรือเปล่า” มาดามพินช์ถาม

“ฟังอยู่ครับ” มัลฟอยตอบ ใบหน้าเขาเริ่มกลับเป็นปรกติไม่มีรอยรูปมือสีแดงอยู่บนหน้าแล้ว

“เฮ้อ…หักคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์กับสลิธีริน 20 คะแนน แล้วจำไว้เป็นบทเรียนล่ะ” มาดามพินช์พูด

“ไปได้แล้วทั้งสองคนฉันต้องทำงานอีก” มาดามพินช์พูดแล้วไล่พวกเขาทั้งสองคนออกจากห้องพักของเธอ

“ปัง” เสียงประตูปิดตามหลังมัลฟอยเมื่อเขาออกมา

“เผียะ”

“เธอทำฉันก่อนนะ” มัลฟอยพูดแล้วชี้มือไปที่เฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งขณะนี้หน้าของเธอเริ่มแดงด้วยความโกรธอีกครั้ง

“แล้วนายตกลงจะเอาหนังสือนั้นมาให้ฉันได้ยัง” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางยื่นมือออกไปรับหนังสือ

“บอกแล้วไงจูบฉันก่อนซิ” มัลฟอยพูดพลางยิ้มเยาะๆที่มุมปาก

(เฮอะ…ยังไงยัยนี่ไม่มีวันจูบฉันอยู่แล้วแหละน่า) มัลฟอยคิด

“เอ้า…ตกลงเธอจ” แต่มัลฟอยพูดไม่ทันจบก็ถูกเฮอร์ไมโอนี่ดึงเข้าไปจูบ ทั้งสองจูบกันอยู่ซักพักหนึ่งแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ถอนริมฝีปากออก

“พอใจหรือยัง” เฮอรืไมโอนี่กระแทกเสียงแล้วกระชากหนังสือจากมือของมัลฟอยแล้ววิ่งออกจากห้องสมุดไป มัลฟอยอึ้งไปซักพักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้แล้วเขาก็เอามือแตะริมฝีปากของเขาเอง ใบหน้าของมัลฟอยเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แขนขาไม่มีแรงแล้วเขาก็ทรุดลงไปกองกับพื้น

(น่ะนี่เราเป็นอะไรไปเนี่ย) มัลฟอยคิด

ทางด้านเฮอร์ไมโอนี่

“รีคา-ดูโอ” เฮอร์ไมโอนี่บอกรหัสผ่านกับสุภาพสตรีอ้วนแล้วปีนเข้าไปใน้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์ซึงตอนนี้ไม่มีคนอยู่เลย

“อ้าว…นี่ได้เวลาเข้าเรียนของวิชาสมุนไพรศาสตร์แล้วนี่”เฮอร์ไมโอนี่พูด

“เฮ้อ…ช่างเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา

“ไอ้มัลฟอยบ้า” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางใช้แขนเสื้อคลุมของเธอปาดน้ำตาซึ่งไหลออกมา แล้วเธอก็เริ่มลงมือทำเรียงความ สัจจะเซรุ่ม ของ สเนป…….


"เฮอร์ไมโอนี่…ตื่นเถอะ” แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ตื่นขึ้น พบว่าตัวเองนั้นหลับคาเรียงความสัจจะเซรุ่มยาว 2 ม้วนกระดาษ ที่เพิ่งเขียนเสร็จ
“ทำไมไม่เข้าเรียนวิชาสมุนไพรศาสตร์ล่ะเฮอร์ไมโอนี่”รอนถามด้วยความสงสัย

“ยังดีนะที่ศาตราจารย์สเปราต์ไม่ทันสังเกตว่าเธอไม่เข้าเรียนน่ะ เพราะเธอมัวยุ่งอยู่กับต้นไม้กินคนที่งับเอาหัวแม่โป้งของเนวิลล์ไป” แฮร์รี่พูด

“เอ่อ…”เฮอร์ไมโอนี่พยายามจะพูด

“ถ้าเธอไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรหรอกแต่ขอลอกเรียงความสัจจะเซรุ่มของเธอหน่อยได้ป่าวอ่ะ” รอนถามพลางชี้ไปที่ม้วนกระดาษยาว 2 ม้วนกระดาษ ที่วางอยู่บนตักของเฮอร์ไมโอนี่

“อื้อ…ได้สิ”เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วจู่ๆนกฮูกสีดำ-ขาวตัวหนึ่งก็บินเข้ามาทางหน้าต่างแล้วหย่อนจดหมายลงบนตักของเฮอร์ไมโอนี่

“อะไรกัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความแปลกใจแล้วเธอก็แกะซองจดหมายดู

มาพบฉันที่แปลงสมุนไพรเวลา 6 โมงถ้าอยากได้ไม้กายสิทธิ์คืน

มัลฟอย

“หา…”เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความตกใจแล้วลองหาไม้กายสิทธิ์ดู

(เอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน) เฮอร์ไมโอนี่คิดเมื่อเธอหาไม้กายสิทธิ์ไม่เจอ

“ไปกินข้าวกันเถอะท้องร้องจะตายแล้ว”รอนบ่น เฮอร์ไมโอนี่จึงหันไปดูนาฬิกาซึ่งขณะนี่เวลา 6 โมงแล้ว

“ขอโทษทีแต่ฉันขอตัวก่อนนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็รีบวิ่งไปที่แปลงสมุนไพรโดยเร็วที่สุด…….



เมื่อมาถึงแปลงสมุนไพรเฮอร์ไมโอนี่ก็มองไปรอบๆแต่เธอก็ยังไม่เห็นวี่แววของมัลฟอย เธอจึงเดินไปเดินมา ด้วยความกังวล

(มันจะมาลูกไม้ไหนอีกนะ คนอย่างมัลฟอยไม่ยอมคืนไม้กายสิทธ์ให้ดีๆแน่) เฮอร์ไมโอนี่คิด

“มาเร็วจัง” เสียงยานคางคุ้นหูดังขึ้นจากข้างหลังของเฮอร์ไมโอนี่

“เอาไม้กายสิทธิ์ของฉันคืนมานะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่หันหลังไปพูดกับมัลฟอย

แต่มัลฟอยก็ไม่ตอบเขาหยิบไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมาควงเล่น

“เธอนะวิ่งออกไปไม่ดูตาม้าตาเรือเลย ไม้กายสิทธิ์หล่นยังไม่รู้เรื่องเลย” มัลฟอยพูด

“เอาคืนมา” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแข็ง

“ไม่!” มัลฟอยตอบ

“แล้วจะให้ฉันทำยังไง จูบนายอีกรอบมะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วหน้าขาวซีดของมัลฟอยก็เริ่มแดงขึ้น

“เอามานะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ขอดีๆสิ”มัลฟอยตอบ

“เรื่องอะไรฉันต้องพูดดีๆกับคนโสโครกสกปรกแบบนายด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็รู้ว่าเธอคิดผิดที่พูดแบบนั้นออกไป มัลฟอยกำลังเดินตรงมายังเธอด้วยแววตาที่มุ่งร้าย

”แก…ไอ้พวกเลือดสีโคลน” มัลฟอยพูดแล้วชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เฮอร์ไมโอนี่

“เฟอนันคูลั…เกรนเจอร์ระวัง!” มัลฟอยพูดแล้วชี้ไม่กายสิทธิ์ไปที่ด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี่

“สตูเปฟาย” แล้วคาถาก็ไปสะกดตนไม้กินคนที่กำลังจะงับหัวของเฮอร์ไมโอนี่

“ขะ…ขอบใจ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางเดินถอยหลังออกจากต้นไม้นั้น

“ทีนี้จะขอดีๆยัง”มัลฟอยพูด หน้าเขาแดงขึ้นมาเล็กน้อย ด้วยความอายที่เฮอร์ไมโอนี่ขอบคุณเขา

“ทำไมนายถึงช่วยฉันล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างงงๆ

“กะ…ก็”มัลฟอยพูดมาถึงขั้นนี้แล้วหน้าของเขาก็แดงอย่างเห็นได้ชัด

“ช่างมันเถอะ…” มัลฟอยพูดแล้วยัดไม้กายสิทธิ์คืนใส่มือให้เฮอร์ไมโอนี่ไป

“อ้าว…ทำไม…” เฮอร์ไมโอนี่พูด แต่มัลฟอยนั้นก็วิ่งกลับปราสาทไปเสียก่อน

“อะไรกันเนี่ย…” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความแปลกใจแล้วเธอก็เดินกลับเข้าปราสาทไป

“ก็ฉันชอบเธอไงยัยเลือดสีโคลน” มัลฟอยพูดกับตัวเองเบาๆแล้วเขาก็เลี้ยวเข้าหอของสลิธีรินไป…


“เอ้า…กริฟฟินดอร์ทุกคนนำเรียงความเรื่อง สัจจะเซรุ่ม มาวางบนโต๊ะ”สเนปพูดแล้วนักเรียนกริฟฟินดอร์ทุกคนก็นำเรียงความไปวางบนโต๊ะของสเนป ซึ่งดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อยเนื่องจากนักเรียน กริฟฟินดอร์ทุกคนทำมาส่งได้ครบ(เนื่องมาจากการดัดแปลงต้นฉบับเรียงความของเฮอร์ไมโอนี่เล็กน้อย)

“เอาล่ะคราวนี้ฉันจะสอนวิธีทำสัจจะเซรุ่มอีกรอบนะ เนื่องจากคราวที่แล้วผลออกมาไม่ค่อยดีนักฉะนั้นฉันจะให้ทำเป็นคู่” สเนปบอก

“เนวิลล์เธอคู่กับฉันก็ได้” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบกับเนวิลล์

“ไม่มิสเกรนเจอร์เธอจะต้องไปคู่กับ…..มิสเตอร์มัลฟอย”สเนปพูดพลางชี้ไปที่มัลฟอย เฮอร์ไมโอนี่จึงจำใจขนอุปกรณ์เครื่องมือของเธอไปนั่งข้างๆมัลฟอย

“ยัยเลือดสีโคลน” มัลฟอยกระซิบเบาๆให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ยิน

“เฮอะ…” เฮอร์ไมโอนี่ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเธอก็เริ่มปรุงยา มัลฟอยฉวยโอกาสขณะที่ทุกคนกำลังปรุงยาและเฮอร์ไมโอนี่กำลังก้มไปจุดไฟที่ใต้หม้อของเธอก้มลงไปหอมแก้มเธอเบาๆทีนึง แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็เงยหน้าขึ้นมา มัลฟอยสังเกตเห็นว่าหน้าของเฮอร์ไมโอนี่กับเขาตอนนี้แดงไม่แพ้กันเลย

“นายทำอะไรน่ะ”เฮอร์ไมโอนี่กระซิบเบาๆ

“หอมแก้มเธอไง” มัลฟอยพูดแล้วหน้าของทั้งสองก็แดงขึ้นอีกครั้ง

“รีบปรุงยาเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนเรื่องแล้วเริ่มปรุงยาต่อ

“ดีมากมิสเตอร์มัลฟอย” สเนปชมเมื่อเขาเดินมาดูหม้อของเฮอร์ไมโอนี่แล้วมัลฟอย

“เอาล่ะทุกคนเทยาของตัวเองลงในขวดแก้วแล้วนำมาวางไว้บนโต๊ะ” สเนปพูด แล้วทุกคนก็เริ่มเทน้ำยาของตัวเองลงขวดที่สเนปเตรียมไว้ให้

“เหวอ…” เสียงของรอนและเนวิลล์ร้องขึ้นพร้อมกัน เมื่อน้ำยาของพวกเขาแทนที่จะลงไปอยู่ในขวดกลับละลายขวดแก้วของสเนปแทน

“หักคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์ 20 คะแนน โทษฐานที่ทำให้ฉันต้องเสียขวดแก้วไปถึง 2 ขวด” สเนปพูด

“เหตุผลอะไรของเขาล่ะเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำพลางร่ายเวทย์ให้หม้อเทน้ำยาลงใส่ขวด

“โอ๊ย…” เฮอร์ไมโอนี่ร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อน้ำยาสัจจะเซรุ่มร้อนๆหกใส่แขนของเธอ

“เป็นอะไรหรือเปล่า” มัลฟอยถามเมื่อเห็นท่าทางของเฮอร์ไมโอนี่

“ศาสตราจารย์สเนปครับเกรนเจอร์บาดเจ็บครับ” มัลฟอยพูดกับสเนป

“อ้าวๆโดนอะไรหรอมิสเกรนเจอร์” สเนปพูดแล้วมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาที่มุ่งร้าย

(จะหาเรื่องคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์อีกล่ะสิ) เฮอร์ไมโอนี่คิด

“ผมทำน้ำยาหกใส่เกรนเจอร์ครับ ผมพาเธอไปห้องพยาบาลนะครับ” มัลฟอยพูดแล้วลาก เฮอร์ไมโอนี่ออกมาจากคุกใต้ดิน เฮอร์ไมโอนี่มองเขาด้วยความแปลกใจ

(คุณหนูที่เมื่อก่อนพยายามหาเรื่องหักคะแนนกริฟฟินดอร์ทุกวินาที แต่เมื่อกี้กลับโกหกสเนปเพื่อช่วยกริฟฟินดอร์ไว้หรือ) เฮอร์ไมโอนี่คิด

“ทำไมถึงโกหกสเนปล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามเมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากคุกใต้ดินพอสมควรแล้ว

“มันเสียเวลาน่ะ แล้วแขนเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ”มัลฟอยถาม แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ยกแขนขึ้นมาให้เขาดู

“อืม…คงไม่เป็นไรหรอกพองนิดเดียวเองใส่ยานิดหน่อยเดี๋ยวก็หาย” มัลฟอยพูด ขณะนี่ทั้งสองเดินมาถึงหน้าห้องพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นหรือ” มาดามพอมฟรีย์นางพยาบาลประจำฮอกวอตส์ถาม

“เกรนเจอร์โดนน้ำร้อนลวกครับ” มัลฟอยพูดพลางชี้ไปที่แผลของเฮอร์ไมโอนี่

“อืม…ไม่หนักหนามากนัก มิสเกรนเจอร์ตามฉันไปทำแผลส่วนมิสเตอร์มัลฟอยรออยู่ข้างนอกนี่นะจ้ะ” มาดาม พอมฟรีย์พูดแล้วเธอก็พาเฮอร์ไมโอนี่ไปทำแผลที่อีกด้านหนึ่งของม่านปล่อยให้มัลฟอยรอเธออยู่ข้างนอกคนเดียว ไม่นานนักเฮอร์ไมโอนี่ก็เดินออกมา แผลของเธอปิดสนิทจนแทบไม่รู้เลยว่าเธอเพิ่งถูกน้ำร้อนลวกจนพองมา

“เป็นไงมั่ง” มัลฟอยลุกขึ้นแล้วถามเฮอร์ไมโอนี่

“ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะ เป็นห่วงฉันหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามแล้วมัลฟอยก็เริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ

“อะ…อื้อ” มัลฟอยพยักหน้าตอบ และคราวนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็เริ่มหน้าแดงบ้าง

“นายต้องไปเอาอุปกรณ์การเรียนที่คุกใต้ดินก่อนหรือเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่หันไปถามมัลฟอย

“อื้อ” มัลฟอยตอบแล้วทั้งสองก็เกินลงไปที่คุกใต้ดิน

“มันล็อคนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อเธอเดินไปถึงประตูคุกใต้ดินที่มีกุญแจดอกใหญ่แขวนอยู่

“ถอยไป อโลโฮโมล่า” มัลฟอยร่ายคาถาแล้วกุญแจก็คลายออก

“เก่งเหมือนกันนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเดินเข้าไปโดยไม่ทันสังเกตว่าในขณะนี้หน้าของมัลฟอยนั้นแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุกเสียอีก

“เอ้าไปกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่หยิบอุปกรณ์การเรียนของเธอแล้วหันไปคุยกับมัลฟอย

“ของๆฉัน แครบ กับ กอยย์ คงหยิบไปให้แล้วล่ะมั้ง” มัลฟอยพูดพลางมองไปที่โต๊ะของเข่าที่ว่างเปล่า

“นะ…นี่เกรนเจอร์” มัลฟอยพูดแล้วใช้มือทั้ง 2 ข้างของเขาดันเฮอร์ไมโอนี่ไปติดกำแพง

“มะ…มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดดัวยความตกใจ แล้วหน้าของเธอก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ มัลฟอยใช้มือทั้ง 2 ของเขายันกำแพงคร่อมตัวของเฮอร์ไมโอนี่ไว้

“วันพรุ่งนี้สลิธีรินจะแข่งควิชดิชกับกริฟฟินดอร์” มัลฟอยเว้นจังหวะ

“เธอจะเชียร์ใคร ฉันหรือพอตเตอร์” มัลฟอยพูดแล้วขยับหน้าของเขาเข้ามาใกล้ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่มากยิ่งขึ้น

“ถามอะไรบ้าๆ ต้องแฮร์รี่อยู่แล้วสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดว่าแฮร์รี่ แต่ในใจของเธอนั้นกลับตอบตรงกันข้าม

“จริงหรอ?” มัลฟอยพูดแล้วขยับหน้าเข้าไปใกล้หน้าของเฮอร์ไมโอนี่อีก จนตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงลมหายใจอันอบอุ่นที่กำลังรดใบหน้าของเธออยู่

“ก็ได้ๆ สลิธีริน พอใจยัง” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นอย่าเห็นได้ชัด แล้วรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นที่มุมปากของมัลฟอย

“ไม่ต้องเชียร์สลิธีรินหรอก เชียร์แค่เดรโก มัลฟอยฉันคนเดียวก็พอแล้ว” มัลฟอยพูดแล้วประทับริมฝีปากของเขาลงไปกับริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่อย่างนุ่มนวล เขาขยับริมฝีปากของเขาเป็นจังหวะ เฮอรืไมโอนี่รู้สึกถึงความอบอุ่นจากริมฝีปากซีดๆของมัลฟอย แล้วมัลฟอยก็ถอนริมฝีปากออก

“ทำไมคราวนี้ไม่ขัดขืนล่ะ” มัลฟอยถาม

“กะ…ก็ เฮอร์ไมโอนี่พูดตะกุกตะกัก แต่แล้วก็มีเสียฝีเท้าเดินเข้ามาทำให้มัลฟอยผละจากตัวของเฮอร์ไมโอนี่ทันที

“เฮอร์ไมโอนี่ เธออยู่นี่หรือเปล่า” เสียงของแฮร์รี่ดังขึ้นเรื่อยๆ

“”งั้นฉันไปก่อนนะเกรนเจอร์” มัลฟอยพูดแล้วเดินออกจากคุกใต้ดินไป แฮร์รี่ก็เดินเข้ามาพอดีเขาสวนกันที่หน้าประตู มัลฟอยหันไปแสยะยิ้มกับแฮร์รี่ชั่วขณะนึงแล้วเขาก็เดินจากไป

“เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดพลางวิ่งเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนพิงกำแพงอยู่

“เป็นอะไรหรือเปล่า มัลฟอยไมได้ทำอะไรเธอใช่ไหม” แฮร์รี่เริ่มถามเฮอร์ไมโอนี่ด้วยความเป็นห่วง

“ไม่… ไม่มีอะไรหรอกเราแค่คุยกันนิดหน่อยน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด เธอพยายามหลบสายตาของแฮร์รี่

“ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าแดงจัง” แฮร์รี่ถามพลางยื่นมือไปแตะหน้าผากของเฮอร์ไมโอนี่

”เปล่าๆ ไม่เป็นไรหรอกฉันสบายดี” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“เรารีบไปเรียนวิชาแปลงร่างกันเถอะ เดี๋ยวศาสตราจารย์มักกอนนากัลดุเอา” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้ววิ่งออกไปจากคุกใต้ดินด้วยใบหน้าที่อมยิ้มเล็กๆ….



“แก็งๆๆๆ” เสียงเคาะแก้วของดัมเบิ้วดอร์ดังก้องไปทั่วห้องโถงของฮอกวอตส์ในเวลาอาหารเย็น

“ฟังทางนี้หน่อยๆ” ดัมเบิ้ลดอร์พลางมองไปทางโต๊ะสลิธีรินซึ่งตอนนี้กำลังพูดคุยกันอยู่อย่างเสียงดัง

“อีกไม่นานก็จะถึงวันวาเลนไทน์ประจำปีนี้แล้ว” ดัมเบิ้ลดอร์พูด

“ในวันวาเลนไทน์ปีนี้ของดการเรียนการสอนทั้งหมด” ดัมเบิ้ลดอร์พูดแล้วก็มีเสียงแสดงความยินดีปรีดาจากนักเรียนทุกๆคน ยกเว้นพวกหนอนหนังสืออย่างเฮอร์ไมโอนี่เท่านั้น

“โธ่…” เฮอร์ไมโอนี่ร้องด้วยความเสียดายแล้วหันไปมองมัลฟอยซึ่งกำลังตั้งใจฟังดัมเบิ้ลดอร์พูด

“ช่วงเช้าจะเปิดให้นักเรียนทุกคนไปฮอกมี้ดส์ได้ ส่วนช่วงเย็นจะเปิดงานเลี้ยงเต้นรำที่ห้องโถงนี้ ให้นักเรียนทุกคนหาคู่เต้นรำให้ได้ไม่งั้นจะไม่อนุญาตให้เข้ามาภายในงานเลี้ยงเต้นรำนี้ และอีกอย่างงานเต้นรำจะเริ่มตอน 2 ทุ่มตรง อย่าลืมล่ะ เอ้า…กินต่อได้” ดัมเบิ้ลดอร์พูดจบแล้วก็มีของหวาน โผล่ขึ้นมาจากโต๊ะของแต่ละบ้าน

“ทำไมโรงเรียนเราชอบจัดงานเลี้ยงเต้นรำกันจัง” แฮร์รี่บ่นซึ่งก็เป็นความจริงเพราะพวกเขาเพิ่งมีงานเลี้ยงเมื่อไม่ถึง 2 เดือนมานี้เอง

“แล้วนายจะชวนใครไปล่ะ” แฮร์รี่ถามรอน

“ยังไม่รู้เลย คงเป็นปัทมาเหมือนเดิมมั้ง” รอนพูดแล้วรอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของรอน

“แล้วเธอล่ะเฮอร์ไมโอนี่“ รอนถาม

“ก็ยังไม่รู้เลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางหันไปมองโต๊ะบ้านสลิธีรินซึ่งตอนนี้มัลฟอยไม่อยู่แล้ว

“ฉันกลับหอก่อนนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเดินออกจากห้องโถงไป

“นายรู้สึกว่าช่วงนี้เฮอร์ไมโอนี่แปลกๆไปป่ะ” แฮร์รี่ถามรอน

“ไอ่อี่(ไม่นี่)” รอนตอบพลางยัดพุดดิ้งก้อนใหญ่เข้าไปในปากของเขา

-ทางด้านเฮอร์ไมโอนี่-

“โอ๊ย….” เฮอร์ไมโอนี่ร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อขณะที่เธอเดินกลับหอโดนพีฟส์ผีโพสเตอร์ไกด์ขัดขาล้มคางฟาดพื้นอย่างแรง

“ฮิฮิฮิฮิฮิฮิฮิ” พีฟส์หัวเราะอย่างสะใจ

“อูย…ไอ้ผีบ้าสตูเปฟาย!” เฮอร์ไมโอนี่ร่ายคาถาแต่พีฟส์ก็เบี่ยงตัวหลบได้ทัน

“ฮ่าๆยัยเลือดสีโคลน คนอย่างเธอน่ะไม่มีวันทำร้ายพีฟส์ผู้นี้ได้หร….”

“สตูเปฟาย” แล้พีฟส์ก็ค้างไปกลางอากาศ เฮอร์ไมโอนี่หันไปมอง

“แล้วถ้าเกิดเป็นพวกเลือดบริสุทธิ์ล่ะ” มัลฟอยพูดแล้วเดินเข้ามาข้างๆเฮอร์ไมโอนี่

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” มัลฟอยถาม

“อื้อ…” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับมัลฟอย

“เธอมีคู่ที่จะไปงานเต้นรำหรือยังล่ะ” มัลฟอยถามพลางเก็บไม้กายสิทธิ์ของเขาเข้าเสื้อคลุม

“ยะ…ยังหรอก” เฮอร์ไมโอนี่ตอบพลางปัดเศษฝุ่นที่เสื้อคลุมของเธอ

“แล้วเธอจะคู่กับฉันไหม” มัลฟอยถาม แล้วใบหน้าของเขาก็เริ่มกลายเป็นสีแดง

“กะ…ก็ได้” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ เธอพยายามหลบสายตาสีซีดอันคมกริบของมัลฟอย

“ฉันปะ…ไปก่อนนะ เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็รีบวิ่งกลับหอไป

“รีคา-ดูโอ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วปีนเข้าหอหญิงของกริฟฟินดอร์ไป

“พี่เฮอร์ไมโอนี่ไปทำอะไรมาค่ะ ทำไมหน้าตายิ้มแย้มดูมีความสุขจัง” จินนี่ ถามเมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเฮอร์ไมโอนี่

“ไม่มีอะไรหรอก” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง

“ราตรีสวัสดิ์นะจินนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็คล้อยหลับไป…..



“อรุณสวัสดิ์เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดพร้อมกับวางไม้กวาดไฟโบลต์ของเขาไว้ข้างลำตัว

“อรุณสวัสดิ์” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็ยกน้ำฟักทองที่อยู่ตรงหน้าเธอขึ้นมาดื่ม

“นักกีฬาควิชดิชบ้านสลิธีรินและบ้านกริฟฟินดอร์ทุกคนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลพูด แล้วนักกีฬาของสลิธีรินก็เริ่มลุกออกไปทีละคน สองคน

“โชคดีนะแฮร์รี่” รอนพูด

“อือ…” แฮร์รี่พยักหน้าแล้ววิ่งตามโอลิเวอร์ วู้ดไป

“เอ้า…ไปกันเถอะรอน” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมลุกขึ้น

“อาอีบไอไอนเออไอโออี่(จะรีบไปไหนเฮอร์ไมโอนี่)” รอนพูดพลางเคี้ยวเนื้อไก่ชิ้นใหญ่ในปากของเขาอย่างมูมมาม

“อ้าว…ก็รีบไปหาที่นั่งไงเดี๋ยวที่นั่งเต็มหมดหรอก” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางมองไปรอนด้วยความแปลกใจ

“ไอ่อ้องอีบไออรอก(ไม่ต้องรีบไปหรอก)” รอนพูดแล้วกลืนไก่ชิ้นใหญ่ทั้งหมดนั้นลงไป

“ทำไมล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยความแปลกใจ

“เอาน่าเดี๋ยวเธอก็รู้เองแหละ” รอนพูดแล้วเขาก็คว้าไก้ชิ้นที่อยู่ใกล้มือเขาที่สุดมากินต่อ…….

<<วันนี้เป็นวันที่อากาศแจ่มใสนะครับ และเป็นวันที่สลิธีรินซึ่งนำทีมโดย มาคัส ฟลินต์ จะทำการแข่งควิชดิชกับ ทีมกริฟฟินดอร์ซึ่งนำทีมมาโดย โอลิเวอร์ วู้ด ครับ>> เสียงของรอนดังก้องไปทั่วสานมควิชดิชด้วยเครื่องขยายเสียงที่อยู่ตรงหน้าของเขา โดยมีเฮอร์ไมโอนี่และศาสตราจารย์มักกอนนากัลนั่งอยู่ข้างๆ

<<อ๋อ!..ทุกท่านคงจะแปลกใจซินะครับที่ผม รอน วีสลีย์ มาบรรยายข้างสนามแทนที่จะเป็น ลี จอร์ดัน>> รอนพูด


<<คือวันนี้จอร์ดันเจ็บคอน่ะครับเลยมาบรรยายไม่ได้ อ๊ะ! เกมส์เริ่มขึ้นแล้วครับ>> รอนพูดเมื่อเห็นมาดามฮูช โยนลูกควัฟเฟิลออกจากมือ

<<ตอนนี้สลิธีรินกำลังได้ลูก มาคัส ฟลิตส์โฉบผ่าน อลิเซียไป โอ๊ย…เข้าไปแล้วครับ สลิธีรินขึ้นนำกริฟฟินดอร์ 10 ต่อ 0 ครับ>> รอนพูดแล้วกดป้ายคะแนนซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าของเขา

แล้วในขณะนั้นเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆรอนก็เหลือบไปเห็นมัลฟอยซึ่งกำลังหักเลี้ยวไม้กวาดนิมบัส2001 อย่างรวดเร็ว ท่าทางเขาคงจะเห็นลูกสนิชแล้ว และก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิดเฮอร์ไมโอนี่มองตรงไปยังทางที่มัลฟอยกำลังพุ่งไปก็เห็นลูกสนิชสีทองกำลังบินวนไปวนมาอยู่แถวๆพื้นสนาม

<<อ๊ะ!นั่น ท่าทางมัลฟอยซีกเกอร์ของทีมสลิธีรินจะเจอลูกสนิชซะแล้วล่ะครับ>> รอนพูดทำให้แฮร์รี่ซึ่งกำลังหาลูกสนิชอยู่ที่อีกด้านหนึ่งหันควับและตรงมายังมัลฟอยซึ่งอยู่ที่อีกฟากของสนามอย่างรวดเร็ว

<<เร็วหน่อยแฮร์รี่>> รอนเร่งแฮร์รี่เมื่อตอนนี้มัลฟอยกำลังพุ่งดิ่งลงไปเป็นแนวตรงสู่พื้นเพื่อคว้าลูกสนิช

(เดี๋ยวก็กระแทกพื้นหรอก) เฮอร์ไมโอนี่คิดเมื่อมัลฟอยพุ่งดิ่งลงไป เขาอยู่ห่างจากพื้นไม่เกิน 10 เมตรแล้ว

<<ไม่ทันแล้ว เฟร็ตตีลูกบลัดเจอร์ไปทางมัลฟอยเร็ว>> รอนพูดแล้วเขาก็โดนศาสตราจารย์มักกอนนากัลตบหัวไปซะหนึ่งที

ขณะนี้สายตาทุกคู่ของคนดูจับจ้องไปที่มัลฟอยกับแฮร์รี่ ซึ่งตอนนี้แฮร์รี่ไล่ตามมัลฟอยมาทันแล้วเละกำลังเบียดกันเพื่อที่จะจับลูกสนิชอยู่

“ป๊าบ!!!!…” แล้วจู่ๆลูกบลัดเจอร์ที่เฟร็ตตีมาทางมัลฟอยก็พลาด กลับไปโดนแขนของแฮร์รี่แทน

“โอ๊ย…” แฮร์รี่ร้องด้วยความเจ็บปวดเขาชะงักไปนิดนึง ทำให้มัลฟอยมีโอกาส

<<เฟร็ต!!!>> รอนจะโกนด้วยความตกใจ แล้วส่งสายตาขุ่นเขืองไปทางเฟร็ต พี่ชายของเขา

(อีกนิดเดียว) มัลฟอยคิดพลางยืดมือของเขาออกไปหมายจะคว้าลูกสนิชที่อยู่ตรงหน้าของเขา

(มัลฟอยยกหัวไม้กวาดขึ้น) เฮอร์ไมโอนี่คิด ขณะนี้มัลฟอยนั้นอยู่ห่างจากพื้นไม่ถึง 5 เมตร แล้ว

<<ใครก็ได้หยุดมัลฟอยที>> รอนพูดแล้วเขาก็โดนศาสตราจารย์มักกอนนากัลตอบเข้าไปที่หัวอีกทีนึง

4 เมตร…..3……2……1 แลัวมือของมัลฟอยก็หลุดออกจากไม้กวาดนิมบัส2001ของเขา
“ตูม!!!!” เสียงร่างของมัลฟอยตกกระทบพื้นอย่างแรงด้วยความเร็วกว่า 180 กิโลเมตรต่อ ชั่วโมง ทำให้ฝุ่นกระจายไปทั่วสนามควิชดิช

“มัลฟอย!!!!” เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนออกไปแล้วพยายามมองหามัลฟอยแต่เธอก็มองไม่เห็น เพราะฝุ่นที่ฟุ้งขึ้นมานั่นบังวิสัยทัศน์ของเธอไปหมด

“เรเพ็ตโต!!” เสียงของศาสตราจาร์ยดัมเบิ้ลดอร์ดังขึ้นแล้วน้ำก็พุ่งออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเขา แล้วฝุ่นก็เริ่มจางลง ทำให้เฮอร์ไมโอนี่เห็นภาพของมัลฟอยซึ่งตอนนี้หัวไหล่ของเขาอาบไปด้วยเลือดชูลูกสนิชขึ้นกลางอากาศ แล้วเขาก็ล้มลงไป……



“”มัลฟอย…อ้าว!ยังหลับอยู่หรอ โอย…มองไม่เห็นเลย” เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้น

“ลูมอส!” เฮอร์ไมโอนี่ร่ายคาถาแล้วก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นที่ปลายไม้กายสิทธิ์ของเธอ ทำให้เธอเห็นบรรยากาศของห้องพยาบาลยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน มัลฟอยนอนอยู่บนเตียงข้างในสุดส่วนแฮร์รี่ซึ่งแขนหักจากการที่เฟร็ตตีลูกบลัดเจอร์ไปโดนก็นอนอยู่ที่เตียงด้านตรงกันข้ามของมัลฟอย

“อืม…ยังหลับอยู่จริงๆด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อเธอเดินไปถึงเตียงของมัลฟอย

“ถ้างั้น…ราตรีสวัสดิ์นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็หันกลับไป

“เดี๋ยว!!!!” มัลฟอยพูดแล้วยื่นมือของเขามาจับข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่ไว้

“อูย…” มัลฟอยครางด้วยความเจ็บปวดแล้วเลื่อนมือของเขามอจับหัวไหล่ขวาของเขา

“อย่าเพิ่งขยับสิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพูดพลางหันหลังกลับไปดูอาการของมัลฟอย

“หัวไหล่นายหลุดน่ะแถมแขนของนายยังหักอีก” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางหยิบเก้าอี้มาแล้วนั่งลงข้างๆเตียงของ มัลฟอย

“แล้วหลังจากที่ฉันสลบไปเป็นยังไงบ้างล่ะ” มัลฟอยถาม

“ก็…” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วพยายามทบทวนความทรงจำของเธอ


“อ๋อ!…หลังจากนั้น…..” เฮอร์ไมโอนี่จึงเล่าเรื่องหลังจากที่มัลฟอยสลบไปให้ฟัง…

<<โธ่! เดรโก มัลฟอย จับลูกสนิชได้แล้วครับฉะนั้นสลิธีรินจึงชนะกริฟฟินดอร์ไปด้วยคะแนน 160 ต่อ 0 เริ่มเกมส์มาแค่ 20 วินาทีมัลฟอยก็จับลูกสนิชได้แล้วครับแต่ตอนนี้มัลฟอยยังสลบอยู่น่ะครับ(สมน้ำหน้า รอนอุบอิบ)โอ๊ย!!ขอโทษครับศาสตราจารย์มักกอนนากัล>> รอนพูดน้ำเสียงเศร้าๆแล้วเขาก็โดนศาสตราจารย์มักกอนนากัลตบหัวส่งท้ายไปอีกหนึ่งที

(มัลฟอย!!!) เฮอร์ไมโอนี่คิดแล้วลุกขึ้น แต่ศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ได้ลงไปจนถึงตัวของมัลฟอยแล้ว เขาโบกไม้กายสิทธิ์ทีนึงแล้วร่างมัลฟอยก็ลอยขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปหามัลฟอยตอนกลางคืน

“ฉันไม่อยากเจอพวกสลิธีรินน่ะก็เลยแอบมาหาเธอตอนกลางคืนโดยใช้ผ้าคลุมล่องหนของแฮร์รี่เนี่ย” มัลฟอยพูดแล้วเธอก็ชูผ้าคลุมล่องหนของแฮร์รี่ขึ้นมาให้มัลฟอยดู มัลฟอยทำหน้าขยะแขยงเล็กน้อยเมื่อเห็นผ้าคลุมล่องหนของแฮร์รี่

“ตอนแรกฉันนึกว่านายตายไปแล้วรู้ไหม พุ่งดิ่งลงมาอย่างนั้นน่ะ ตกลงมาเสียงดังสนั่นเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ก็…จะให้ฉันแพ้ต่อหน้าเธอได้ยังไงล่ะ อุตส่าห์เชียร์ฉันทั้งที” มัลฟอยพูด

“แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้นี่” เฮอร์ไมโอนี่พูด ตอนนี้ใบหน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นด้วยความโกรธ

“โอ๋ๆ อย่าโกรธนะฉันขอโทษ คราวหน้าฉันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้วก็ได้” มัลฟอยพูดแล้วยื่นนิ้วก้อยของเขาออกมา

“แน่นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“อื้อ” มัลฟอยผยักหน้าแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ยื่นนิ้วก้อยของเธอไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของมัลฟอย

“ท่าทางฉันคงต้องไปแล้วล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อเธอหันไปเห็นนาฬิกาซึ่งบอกเวลาว่าขณะนี้ 5 ทุ่มแล้ว

“ราตรีสวัสดิ์นะมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางก้มหน้าของเธอลงไปหอมแก้มมัลฟอยทีนึง แล้วเธอก็หันหลังกลับ

“เกรนเจอร์!” มัลฟอยฉุดข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องหันไปอีกครั้ง แล้วเขาก็ประทับริมฝีปากลงไปบนปากของเฮอร์ไมโอนี่อย่างนุ่มนวล

“ราตรีสวัสดิ์” มัลฟอยถอนปากแล้วพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ เฮอร์ไมโอนี่อมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องพยาบาลไป

“พี่เฮอร์ไมโอนี่ชอบมัลฟอยหรอค่ะ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากหลังประตูห้องพยาบาล

“จะ…จินนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยความตกใจ

(เธอเฝ้าดูเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน) เฮอร์ไมโอนี่คิด

“หนูเฝ้าดูพี่ตั้งแต่พี่กับมัลฟอยเกี่ยวก้อยกันแล้วล่ะ” จินนี่ตอบเหมือนเธอรับรู้ถึงความคิดของเฮอร์ไมโอนี่ได้

“ตอนแรกหนูนึกว่าพี่จะมาพบพี่แฮร์รี่ซะอีก” จินนี่พูด

“เฮ้อ…งั้นกลับไปถึงหอพี่จะเล่าให้ฟัง” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ แล้วเธอกับจินนี่ก็เดินกลับหอกริฟฟินดอร์ไป

“เหยียบไว้เลยนะจินนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับจินนี่เมื่อเธอเล่าเรื่องของมัลฟอยให้จินนี่ฟัง

“ค่ะ…แต่อันที่จริงแล้วพี่มัลฟอยก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย” จินนี่คิดพลางปีนขึ้นเตียงของเธอ

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่เฮอร์ไมโอนี่ อย่าเป็นห่วงพี่มัลฟอยมากเกินไปจนนอนไม่หลับนะคะ” จินนี่พูด

“จินนี่!!” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางขว้างหมอนของเธอใส่จินนี่

“ฮิฮิ” จินนี่หัวเราะเบาๆแล้วล้มตัวลงบนเตียงของเธอ

(เฮ้อ…จินนี่ไม่น่าไปเห็นเราตอนที่มัลฟอยจูบเราเลย จริงๆเลยยัยจินนี่) เฮอร์ไมโอนี่คิดแล้วเธอก็หลับไปพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า


เช้าวันรุ่งขึ้นเฮอร์ไมโอนี่ตื่นแต่เช้าแล้วเธอก็รีบตรงไปยังห้องพยาบาลทันทีเพื่อจะไปหามัลฟอยแต่แพนซี่ พาร์กินสัน ก็มาเยี่ยมมัลฟอยตั้งแต่เช้าเช่นเดียวกัน เธอจึงแอบดูทั้งคู่อยู่หลังผ้าม่านผืนใหญ่
”เดรโกจ้า เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหมจ้ะ” แพนซี่ พาร์กินสัน พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้มัลฟอย ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียนขึ้นมาทันที

“เลิกเรียกฉันว่าเดรโกซักทีเถอะ” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกความเบื่อหน่ายของเขาได้อย่างชัดเจน

“ทำไมล่ะจ้ะ ว่าแต่ว่า…วันนี้วันที่12 แล้วนะจ้ะเดรโก” แพนซี่ พาร์กินสัน พูดด้วยน้ำเสียงที่หวานจนเลี่ยน

“ก็เพราะว่าฉันไม่อนุญาตให้เธอเรียกชื่อต้นฉัน และฉันก็รู้ดีว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่” มัลฟอยตอบอย่างรำคาญถ้าทำได้เขาคงเดินออกไปจากที่ตรงนี้นานแล้ว

“โธ่ เดรโกเนี่ยล่ะก็…” แพนซี่ พูดแล้วเธอก็ส่งสายตาขุ่นเคืองมาให้มัลฟอยเล็กน้อย

“ก็อีกแค่ 2 วันก็จะถึงวันวาเลนไทน์แล้วไงล่ะจ้ะ หวังว่าเธอคงจะหายทันนะไม่งั้นฉันคงเหงาแย่เลยที่คู่เต้นรำของฉันไม่มา” แพนซี่พูด พลางยืนมือทั้ง2ข้างของเธอไปกุมมือของมัลฟอยไว้

“ใครว่าฉันจะคู่กับเธอ” มัลฟอยพูดด้วยความรำคาญและสบัดมือของแพนซี่ พาร์กินสันออก

“อ้าว…เธอมีคู่แล้วหรอจ้ะเดรโกจ้า” แพนซี่พูด เธอหน้าเสียแต่เธอก็ยังคงตีหน้าออดอ้อนอยู่เหมือนเเดิม

“ใช่” มัลฟอยตอบห้วนๆ แต่แพนซี่ก็ยังไม่ยอมแพ้

“ใครหรอจ้ะเดรโก เธอบอกฉันหน่อยได้ไหม” เธอพยายามเค้นเอาความจริงออกมาให้ได้เพราะยังไงเธอก็ยังไม่เชื่อว่ามัลฟอยจะไปงานวันวาเลนไทน์กับคนอื่นนอกจากเธอ

“ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วย มันไม่ใช่เรื่องของเธอซะหน่อย ไสหัวออกไปได้แล้ว!” มัลฟอยพูดด้วยความโกรธเมื่อแพนซี่ถามถึงเรื่องส่วนตัวของเขา

“แต่…”

“ไม่มีแต่ออกไปได้แล้วพาร์กินสัน” มัลฟอยพูดพลางชี้นิ้วไปที่ประตูห้องพยาบาล แพนซี่จึงเดินออกไปด้วยความน้อยใจโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าเฮอร์ไมโอน่กำลังแอบฟังพวกเขาอยู่

“ออกมาได้แล้วล่ะเกรนเจอร์ ยัยหมูตอนนั่นออกไปแล้ว” มัลฟอยพูดทำให้เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ

“ทำไมเธอรู้ล่ะว่าฉันแอบฟังพวกเธออยู่ที่นี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเดินออกมาจากหลังม่าน

“ก็มันออกจะชัดเจน ใครมองไม่ออกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว แต่ยัยพาร์กินสันก็เป็นหนึ่งในนั้นน่ะนะ” มัลฟอยพูดพลางหันมามองหน้าเฮอร์ไมโอนี่

“ไหล่นายเป็นยังไงบ้างล่ะ หายดีหรือยัง” เฮอร์ไมโอนี่พูดและนั่งลงไปบนเก้าอี้ที่เมื่อกี้แพนซี่ พาร์กินสันนั่ง

“มาดามพอมฟรีย์บอกว่าอีก2วันก็คงออกจากห้องพยาบาลได้แล้วล่ะ” มัลฟอยพูด

“งั้นก็…ทันวันวาเลนไทน์ใช่ป่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“กลัวคู่เต้นรำไปงานไม่ได้หรอเฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยพูดด้วยเสียงยานคางแบบฉบับของเขา

“ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าให้นายเรียกชื่อต้นของฉันได้น่ะ” เฮอร์ไมโอนี่แย้งขึ้น

“ทำไมล่ะที่พอตเตอร์กับวีเซิ่ลยังเรียกได้เลย” มัลฟอยพูดพลางยิ้มเยาะๆ

“ก็พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทของฉัน” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ

“เพื่อนสนิทหรอเพื่อน‘รัก’ล่ะไม่ว่า” มัลฟอยพูด

“เอาเถอะๆ” เฮอร์ไมโอนี่ตัดบทเพราะเธอรู้ว่าเธอคงเถียงเขาไม่ได้เธอจึงยอมให้เขาเรียกชื่อของเธอแต่โดยดี

“เธอจะเรียกฉันว่าเดรโกก็ได้นะฉันไม่รังเกียจหรอก” มัลฟอยพูด

“อะ…อื้อ…เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูด แต่แล้วก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะโรแมนติกของทั้งสองคน

“อ้าว…มิสเกรนเจอร์มาเยี่ยมมิสเตอร์มัลฟอยตั้งแต่เช้าเชียวนะ” มาดามพอมฟรีย์เดินเข้ามาพร้อมกับถาดยาและผ้าพันผ้าในมือ

“ค่ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะมาดามพอมฟรีย์” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“เธออกไปรอข้างนอกได้ไหมจ้ะ เดี๋ยวครูต้องเปลี่ยนผ้าพันแผลให้มิสเตอร์มัลฟอยหน่อยน่ะ” มาดามพอมฟรีย์พูดแล้วเธอก็วางถาดยาลงที่โต๊ะข้างๆเตียงของมัลฟอย

“แต่…”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกำลังจะไปอยู่พอดีหายเร็วๆนะมัลฟอย…อืม…ดะ…เดรโก” มัลฟอยจะพูดแต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ขัดเขาไว้แล้วเธอก็เดินออกจากห้องพยาบาลไป

“แหม มิสเตอร์มัลฟอย ท่าทางมิสเกรนเจอร์จะเป็นห่วงเธอเหลือเกินนะ” มาดามพอมฟรีย์แซวมันฟอยขณะที่เธอกำลังคลี่ผ้าพันแผลของเธอ ทำให้ตอนนี้มัลฟอยหน้าแดงเท่ากับมะเขือเทศลูกนึงทีเดียว….



และแล้วก็ถึงวันที่ทุกคน(หรือพูดให้ถูกคือคนส่วนใหญ่)ตั้งตาคอย รุ่งเช้าของวันวาเลนไทน์ปีนี้นักเรียนทุกคนต่างตื่นเต้นกันถ้วนหน้า และส่วนมากก็รีบตื่นกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางเสียอีก

“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่เฮอร์ไมโอนี่” จินนี่ทักเฮอร์ไมโอนี่เมื่อเธอทำธุระส่วนตัวของเธอเสร็จ

“อือ…” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็หยิบเสื้อคลุมมาใส่และตั้งท่าจะออกไปข้างนอก

“จะรีบไปไหนแต่เช้าคะพี่เฮอร์ไมโอนี่ นี่ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะพาไปฮอกมี้ดส์เลยนะคะ” จินนี่ถามเฮอร์ไมโอนี่ด้วยความสงสัย

“อ๋อ!…ไปหาพี่มัลฟอยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะ” จินนี่ถาม

“ปะ…เปล่าซะหน่อยฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปหาเดรโกหรอกนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดปด เธอทึ่งกับความสามารถในการรับรู้ของจินนี่เหลือเกิน

“โห…เดี๋ยวนี้สนิทกันจนถึงกับเรียกชื่อต้นแล้วหรอคะ” จินนี่พูดทำให้เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหน้าแดงขึ้นด้วยความเขิน

“ช่างเถอะ…พี่ไปล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตัดบทและรีบปีนออกไปข้างนอกหอกริฟฟินดอร์ทันที

“ทำไมตื่นเช้าจัง ยัยหัวฟู” เสียงยานคางคุ้นหูดังขึ้นเมื่อเฮอร์ไมโอนี่หันไปมองก็พบว่ามัลฟอยได้รอเขาอยู่แล้วที่หน้ารูปภาพสุภาพสตรีอ้วน

“เขามารอตั้งแต่ตี5และล่ะแม่หนูน้อย” สุภาพสตรีอ้วนเสริม

“นายออกมาจากห้องพยาบาลได้แล้วหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“อือ…ฉันว่าตอนนี้เราไปที่ทะเลสาปกันเถอะ” มัลฟอยพูดแล้วเดินเข้าไปจูงมือเฮอร์ไมโอนี่

“ทำไมล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“เอาน่า…ฉันมีอะไรจะให้ดู” มัลฟอยว่าแล้วเขาก็ฉุดเฮอร์ไมโอนี่ไปข้างนอกตัวปราสาท

“ข้างนอกนี้ยังมืดอยู่เลย…มีอะไรจะให้ฉันดูหรอเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูด ขณะนี้เวลาตี5.40เองจึงไม่แปลกที่ฟ้าจะยังมืดอยู่

“เอาน่ารอหน่อย” มัลฟอยพูดแล้วเขาก็จูงเฮอร์ไมโอนี่ไปนั่งที่ริมทะเลสาป

“เฮ้อ…ยังง่วงอยู่เลย” เฮอร์ไมโอนี่หาวแล้วและเธอก็ยกมือขึ้นมาปิดปาก

“อ๊ะ….ขึ้นแล้วๆ” มัลฟอยพูดพลางชี้ไปที่ขอบฟ้าซึ่งตอนนี้มีแสงสีทองโผล่ขึ้นมาทีละนิด

“นี่เธอนัดฉันให้ฉันตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูด แต่เธอก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพระอาทิตย์ยามเช้านั้นมันสวยขนาดไหน

“ประมาณนั้นและ…” มัลฟอยพูดและเขาก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าสีชมพูอ่อนของเฮอร์ไมโอนี่

“ดะ…เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่อึ้งเล็กน้อยแต่คราวนี้เธอก็ไม่ขัดขืน ปล่อยให้มัลฟอยประทับริมฝีปากของเขาลงไปบนริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวล

“เธอนี่ดูไปดูมาก็น่ารักดีนะ” มัลฟอยพูดทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นเล็กน้อยด้วยความเขิน

“เพิ่งรู้หรอ” เฮอร์ไมโอนี่ประชดและเธอก็โผเข้ากอดมัลฟอย ทั้งสองล้มตัวลงไปบนผืนหญ้า (อย่าคิดลึกนะ หุหุ)และเฮอร์ไมโอนี่ก็ประทับริมฝีปากของเธอลงไปบนริมฝีปากของมัลฟอลอีกครั้ง ทั้งสองจูบกันอยู่นานจนเริ่มมีคนทยอยออกมานอกปราสาทเพื่อเช็คชื่อไปฮอกมี้ดส์กับฟิลล์แล้ว

“ฉันว่าเราไปกันเถอะ” มัลฟอยพูดขึ้น

“ก็ได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็ลุกขึ้น ทั้งสองเข้าไปท่ามกลางฝูงชนที่เริ่มแน่นขนัดผิดตากับเมื่อตอนเช้า

“ต่อไป” เสียงของฟิลล์ดังขึ้นแล้วเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยก็เดินเข้าไปให้ฟิลล์เช็คชื่อ

“นี่ๆมัลฟอยกับเกรนเจอร์ล่ะ” แล้วก็มีเสียงซุบซิบเบาๆมาจากนักเรียนผ็หญิงบ้านสลิธีรินคนหนึ่งที่ต่อแถวอยู่ข้างหลังเฮอร์ไมโอนี่

“มัลฟอย เธอทำไมถึงมากับยัยเกรนเจอร์นี่ได้ล่ะ” ฟิลล์ถามด้วยความสงสัยหลังจากที่เช็คชื่อทั้ง2คนเรียบร้อยแล้ว มัลฟอยจึงแกล้งพูดดังๆให้นักเรียนที่อยู่แถวนั้นได้ยินว่า…

“ก็เพราะผมกับเฮอร์ไมโอนี่จะไปเดทไงล่ะครับ” มัลฟอยพูดทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นจากนักเรียนคนอื่นๆ ซึ่งในขณะนี้เฮอร์ไมโอนี่ที่ยื่นอยู่ข้างๆหน้าแดงถึงขนาดที่ลูกตำลึงสุกยังอาย

“ถ้าไม่ว่าอะไรผมไปก่อนล่ะครับ” มัลฟอยพูดแล้วเดินออกมา ปล่อยให้นักเรียนคนอื่นๆรวมทั้งฟิลล์และคุณนายนอริส ยื่นอึ้งกันไปตามๆกัน……………


“คนเยอะจริงๆ” มัลฟอยบ่นเมื่อเขาเดินไปชนเด็กนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งคนนึงของบ้านเรเวนคลอเข้า

“อะ…อื้อ” เฮอร์ไมโอนี่พูด ใบหน้าของเธอยังไม่หายแดงจากเหตุการณ์ที่มัลฟอยประกาศก้องไปทั่วฮอกวอตส์ว่าเขากับเธอมาเดทกัน

“หน้าเธอแดงจังเป็นอะไรหรือเปล่า ไปหาอะไรดื่มกันก่อนไหมเฮอร์ไมโอนี่ “ มัลฟอยพูดแล้วเขาก็หยุดเดินกลางคัน เมื่อเขาหันมาเห็นใบหน้าที่แดงจัดของเฮอร์ไมโอนี่

“ฉะ…ฉันไม่เป็นอะไรหรอก” เฮอร์ไมโอนี่พูดแต่ใบหน้าของเธอนั้นไม่มีท่าทีที่จะแดงน้อยลงเลย

“อ๊ะ…นั่นร้านเปิดใหม่นี่เขาไปดูกันเถอะเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อสายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่ร้านขายแห่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ร้านนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก ตั้งอยู่ข้างๆร้านฮันนี่ดุ๊กส์ ประดับตกร้านภายนอกด้วยกระดาษสีชมพู-แดง ให้เข้ากับบรรยากาศของวันวาเลนไทน์ ที่หน้าร้านนั้นมีป้ายขนาดใหญ่แขวนชื่อร้านไว้

“ FoR YoU หรอ” มัลฟอยอ่านป้ายร้านแล้วทำหน้าเหยเก

“เอาน่า” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็กึ่งจูงกึ่งลากมัลฟอยเข้าไปภายในร้าน

“อรุณสวัสดิ์จ้ะแม่หนู และพ่อหนุ่ม” เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปภายในร้านก็มีผู้หญิงวัยกลางคน คนหนึ่งออกมาต้อนรับพวกเขาทั้งสอง

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถักตอบทำให้ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าสดชื่นขึ้นเล็กน้อย ภายในร้าน FoR YoU นี้มีของจิปาถะวางอยู่บนชั้นวางเต็มไปหมด แต่ส่วนมากของในร้านจะเน้นไปทางด้านของที่ระลึกสำหรับคู่รักมากกว่า

“พ่อหนุ่มยังนั้นหรือ” มัลฟอยพึมพำกับตัวเอง เขาไม่ค่อยชอบให้ใครมองเขาว่าเขายังเป็นเด็กอยู่

“แล้วจะเห็นดีกัน โอ๊ย!” มัลฟอยร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อเขาโดนเฮอร์ไมโอนี่เหยียบลงไปที่เท้าของเขาอย่างแรง

“ไปดูของกันเถอะเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่ขบฟันพูด และเดินลากมัลฟอยไปที่ตู้วางของที่ระลึกต่างๆ

“เฮอะ…” มัลฟอยพูดเซ็งๆ พอเขาสงบสติอารมณ์ได้แล้วเขาก็แยกเดินไปดูของที่ตู้อีกด้านหนึ่ง

“หืม…” มัลฟอยร้องด้วยความสนใจเมื่อสายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่ของสิ่งนึง ที่วางอยู่บนตู้

“แหวนอย่างนั้นหรอ” มัลฟอยพูดพลางมองลงไปที่แหวนสีเงิน ที่อยู่ภายในมือของเขา

“สนใจแหวนวงนี้หรอพ่อหนู” ผู้หญิงวัยกลางคน เจ้าของร้านของร้าน FoR YoU ถามและเดินเข้ามาหาเขา

“ครับ” ถึงแม้มัลฟอยจะไม่ยินดีนักที่เจ้าของร้านเรียกเขาว่าพ่อหนู แต่เขาก็ไม่อยากมีเรื่องกับใครขณะที่เฮอร์ไมโอนี่อยู่ด้วยเท่าไหร่นัก

“ราคาเท่าไหร่ครับ” มัลฟอยพูดเบาๆ เพื่อไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังมองดูของอยู่อีกฟากหนึ่งของร้านได้ยิน

“100 เกลเลียนค่ะ ถ้าซื้อและทางร้านเราบริการแกะสลักฟรีนะคะ” เจ้าของร้านพูดทำให้มัลฟอยสะดุ้งขึ้นเล็กน้อยด้วยราคาที่แพงเกินกว่าที่เด็กอายุ13 ทั่วไปจะมีเงินซื้อได้

(แต่เราก็ไม่ใช่เด็กอายุ 13 ธรรมดานี่เนอะ) มัลฟอยคิด……..


“เดรโกไปกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่เรียกมัลฟอยซึ่งค่อยๆเดินตามเธอออกมาจากร้าน

“ของร้านนี้สวยดีนะ แต่แพงอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วทั้งสองก็เดินเข้าร้านไม้กวาดสามอันไป

“ฉันจะไปสั่งเครื่องดื่มนะ จะเอาอะไรไหม” มัลฟอยถาม

“ขอบัตเตอร์เบียร์แก้วนึงก็แล้วกัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดและมัลฟอยก็เดินตรงไปยังเคาท์เตอร์ เฮอร์ไมโอนี่จึงนั่งลงบนเก้าอี้ของโต๊ะตัวที่อยู่ทางซ้ายมือของเธอ

“อ้าวๆ ยัยเลือดสีโคลน” เฮอร์ไมโอนี่หันไปมองต้นเสียงซึ่งก็เป็นใครอื่นไปไม่ได้เลยนอกจาก..

“ไง พาร์กินสัน” เฮอร์ไมโอนี่พูดโดยที่ยังไม่หันไปมองซะด้วยซ้ำว่าใครเพราะมัลฟอยเลิกเรียกเธอว่า ยัยเลือดสีโคลน มานานแล้ว

“มาทำอะไรที่นี่คนเดียวหรอ ฮึ ยัยโสโครก” แพนซี่พูด แล้วเธอก็หันไปหัวเราะคิกคักกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงจากสลิธีรินซึ่งยืนอยู่ข้างหลัง เฮอร์ไมโอนี่จึงสวนกลับไปว่า…

“แล้วเธอล่ะไม่มีผู้ชายที่ไหนเอาใช่ไหมล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดทำให้แพนซี่หันควับกลับมาด้วยความโกรธทันที

“ยัยเลือดโสโครก” แพนซี่พูดด้วยความโกรธพลางหยิบไม้กายสิทธิ์ของเธออกมาจากเสื้อคลุมพลางชี้ไปที่เฮอร์ไมโอนี่

“หยุดนะพาร์กินสัน!!!” เสียงของมัลฟอยดังขึ้นมาจากข้างหลังของเธอทำให้เธอตกใจผงะไปเล็กน้อย

“เดรโกที่รัก ทำไมเธอต้องปกป้องยัยเลือดสีโคลนด้วยล่ะ” แพนซี่พูดกับมัลฟอยด้วยน้ำเสียงงงสุดๆ

“ก็เพราะว่าพวกเรา ฉันเป็นคนชวนยัยนี่มาฮอกมี้ดส์ด้วยกันไงล่ะ” มัลฟอยพลางวางแก้วบัตเตอร์เบียร์ทั้งสองแก้วไว้บนโต๊ะ ซึ่งตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่หน้าของเธอเริ่มแดงขึ้นมาอีกรอบแล้ว

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด“ เสียงของแพนซี่กรีดร้องด้วยความตกใจ

“มะ…ไม่จริงใช่ไหมจ้ะเดรโกที่รัก” แพนซี่พยายามรวบรวมสมาธิเธอตั้งสติแล้วถามมัลฟอยออกไป

“ไม่เชื่ออย่างนั้นหรอ จะแสดงให้ดู” มัลฟอยพูดแล้วเขาก็ก้มตัวลงไปหอมแก้มเฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งอยู่ข้างๆเขา

“พอใจยัง” มัลฟอยพูดกับแพนซี่ซึ่งตอนนี้ได้ช็อคสุดขีดจนตัวแข็งทื่อกลายเป็นหินไปแล้ว

“รีบกินแล้วไปกันเถอะเฮอร์ไมโอนี่ที่นี่มันวุ่นวายจริงๆ” มัลฟอยพูดพลางเร่งเฮอร์ไมโอนี่ให้ดื่มบัตเตอร์เบียร์ให้หมดเร็วๆ ทั้งสองคนเพิ่งสังเกตว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของนักเรียนฮอกวอตส์ในร้านไม้กวาดสามอันทุกคน ทำให้มัลฟอยยิ่งเร่งเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปใหญ่

“ไปกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากร้านไม้กวาดสามอัน

“เฮ้อ…” มัลฟอยถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วทั้งสองก็เริ่มเดินกันต่อ

“จะกลับฮอกวอตส์หรือยัง” มัลฟอยพูดขึ้น

“จะกลับแล้วหรอ ยังไม่เร็วไปหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“ก็มันไม่มีอะไรให้เดินแล้วนี่นาและคนมันเยอะด้วยพวกเรากลับไปโรแมนติกกันต่อที่ฮอกวอตส์เถอะ” มัลฟอยพูดพลางยิ้มเยาะๆให้เฮอร์ไมโอนี่

“ตาบ้า” เฮอรืไมโอนี่พูดแล้วทั้งสองก็เดินทางกลับฮอกวอตส์กันไป…..


“แล้วจะไปที่ไหนต่อดีล่ะ” มัลฟอยพูดเมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าปราสาท

“ห้องสมุดมะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ทำไมอ่า” มัลฟอยตอบ หน้าของเขาแสดงถึงความสงสัยในการตัดสินใจของเฮอร์ไมโอนี่อย่างชัดเจน

“ก็ฉันยังมีการบ้านวิชา แปลงร่าง วิชาปรุงยา วิชาสมุนไพรศาสตร์ วิชาตัวเลขมหัศจรรย์ อยู่น่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“สรุปนี่จะไปทำการบ้านใช่ไหมเนี่ย” มัลฟอยพูด

“มันเหลือเวลาอีกตั้งเยอะนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูด ซึ่งเธอก็พูดถูกเพราะเวลาตอนนี้ยังแค่บ่าย 4.15 เอง

“กว่างานเต้นรำจะเริ่มก็อีกตั้งนาน ไปทำการบ้านกันก่อนเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วลากมัลฟอยไปที่ห้องสมุด

“แล้วจะไม่ไปเอาการบ้านมาก่อนหรอ” มัลฟอยพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองเดินผ่านห้องพยาบาลมาแล้ว

“จริงด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็หยุดเดินกลางคัน

“แต่ไม่เป็นไรหรอก” เฮอร์ไมโอนี่พูดและหยิบไม้กายสิทธิ์ของเธอขึ้น

“แอ๊กซีโอ การบ้าน” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นและไม่นานการบ้านต่างๆของเธอก็ลอยแหวกอากาศมา

“หืม…” มัลฟอยพูดแล้วเขาก็ลองโบกไม้กายสิทธิ์ของเขาดูบ้าง

“แอ๊กซีโอ การบ้าน” มัลฟอยรายคาถาแล้วซักพักหนึ่ง***บใบใหญ่สีน้ำตาลใบหนึ่งก็พุ่งตรงมายังเขา

“เฮ้ย…” มัลฟอยพูดแล้วเบี่ยงตัวหลบกล่องใบนั้น ที่เฉียดหัวเขาไปเพีงไม่กี่เซนติเมตร

“เดรโก” เป็นอะไรหรือเปล่า” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอรีบวิ่งไปดูอาการของมัลฟอย

“เปล่าๆ ไม่เป็นไร” มัลฟอยพูดพลางก้มลงไปเปิด***บใบนั้น เฮอร์ไมโอนี่ก้มลงไปดูของที่อยู่ภายในกล่องใบนั้น ปรากฎว่าเป็นการบ้านของมัลฟอยนั้นเอง

“โธ่…ฉันต้องการ การบ้านอย่างเดียวเองใครใช้ให้เอากล่องมาด้วยเนี่ย” มัลฟอยบ่นอย่างเซ็งๆแล้วเตะกล่องที่ตั้งอยู่ข้างหน้าเขาไปหนึ่งที

“มัลฟอยนายมาทำอะไรอยู่ที่นี่เนี่ย” แครบซึ่งเดินผ่านมาโดยบังเอิญพูดกับลูกพี่ของเขา

“เอ่อ…มาก็ดีแล้วแครบช่วยเอากล่องนี่ไปเก็บไว้ที่หอให้ที่ดิ” มัลฟอยพูดพลางหยิบการบ้านของเขาออกมาจากกล่องใบนั้น

“ตะ…แต่” แครบพยายามจะพูดแต่มัลฟอยก็จูงมือเฮอร์ไมโอนี่เดินหนีออกมาจากตรงนั้นแล้ว

“เฮ้อ…” มัลฟอยถอนหายใจทีนึงแล้วเขากับเฮอร์ไมโอนี่ก็เลี้ยวเข้าห้องสมุดไป….


“เฮ้อ…เดรโกนายเหลือการบ้านอีกกี่วิชาน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจแล้วหันไปพูดกับมัลฟอยหลังจากที่เธอทำเรียงความเรื่อง ‘สงครามก่อกบฏของก๊อบลิน’ ของศาสตราจารย์ฟลิตวิกเสร็จ

“ฮือ…เหลืออีก 1 วิชาแปลงร่างน่ะ” มัลฟอยพูด

“หา…ทำไมนายทำเร็วจัง” เฮอร์ไมโอนี่พูดกับมัลฟอยพลางมองไปที่การบ้านที่เหลือของเธอ

“ของฉันยังเหลืออีกตั้ง2วิชา วิชาปรุงยา กับวิชาแปลงร่างน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ก็เธอทำช้านี่” มัลฟอยพูดพลางเขียนรายงานวิชาแปลงร่างของเขาต่อ

“อ๊ะ…เดรโกนี่หนึ่งทุ่มแล้วนี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อเธอเหลือไปเห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังของห้องสมุด

“แล้วไงอ่า” มัลฟอยหาวแล้วเขาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขา

“แล้วนายไม่รีบไปแต่งตัวหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางละสายตาจากเรียงความของเธอมามองหน้าของมัลฟอย

“ก็…คงงั้นมั้ง” มัลฟอยพูดแล้วเขาก็ลุกขึ้นเก็บการบ้านของเขา

“อีก1ชั่วโมงเจอกันที่หน้าหอกริฟฟินดอร์นะเฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยพูดแล้วเขาก็หอบการบ้านของเขากลับหอไป…..

“โห…พี่เฮอร์ไมโอนี่” จินนี่ร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจเมื่อเธอเหลือบมองไปเห็นผู้หญิงคนนึงที่มุมห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์ ผมยาวสีน้ำตาล ใส่เสื้อราตรีสีน้ำเงินประดับด้วยแก้วและลูกปัดทั่วทั้งตัว

“ทำไมหรอจินนี่?” เฮอร์ไมโอนี่หันมาถาม

“วันนี้พะ…พี่ดูสวยจัง” จินนี่พูดขึ้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นด้วยความอาย

“ขอบใจ” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“ไงจินนี่” รอนผู้ซึ่งเดินออกมาจากหอพักชายของกริฟฟินดอร์พูด แล้วสายตาของเขาก็มาหยุดอยู่ที่เฮอร์ไมโอนี่

“ฮะ….เฮอร์ไมโอนี่หรอ?” รอนพูดอย่างไม่เชื่อสายตาของเขาเอง

“มีอะไรหรอรอน” แฮร์รี่ที่เดินตามรอนมาพูดขึ้น แล้วเขาก็เหลือบมาเห็นเฮอร์ไมโอนี่เช่นเดียวกับรอน

“ฮะ…เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตนเองเช่นเดียวกันกับรอน

“มีอะไรหรอนี่ฉันดูประหลาดมากเลยหรอ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางมองไปที่ชุดของเธอ

“เปล่าหรอกเธอดู…สวยมาก” แฮร์รี่พูดแล้วเขาก็หน้าแดงขึ้นมาทันที

“นี่เธอมีคู่ไปงานแล้วหรอ” รอนพูดขึ้นเมื่อเขาเพิ่งได้สติ

“ใช่” เฮอร์ไมโอนี่พูด

“บอกเราหน่อยได้ป่ะ ว่าใคร” แฮร์รี่พูดด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่ตอเสียงแข็ง

“หนูว่าหนูรู้แล้วล่ะว่าพี่เฮอร์ไมโอนี่ไปงานเต้นรำกับใคร” จินนี่พูดพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“อย่านะจินนี่ไม่งั้นพี่โกรธจริงๆด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วหันไปมองจินนี่ด้วยสายตาขุ่นเคือง

“ค่ะๆ” จินนี่มองเฮอร์ไมโอนี่อย่างหวั่นๆแล้วตอบไป

“ใครหรอจินนี่” รอนถาม

“ถามพี่เขาเองซิค่ะ” จินนี่พูดพลางหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่แต่เธอไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว

“จินนี่นะจินนี่” เฮอร์ไมโอนี่บ่นอย่างหัวเสียพลางปีนออกมาจากรูปสุภาพสตรีอ้วน

“เฮอร์ไมโอนี่?” เสียงยานคางของมัลฟอยดังขึ้นมาจากข้างๆตัวเธอ

“ไงเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางมองไปที่มัลฟอยซึ่งวันนี้เขาแต่งตัวอย่างเรียบๆ กางเกงสีดำเสื้อเชิ้ตสีขาว

“คืนนี้เธอดูสวยจัง” มัลฟอยพูดมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ หน้าเขาเริ่มมีรอยสีแดงเรื่อๆปรากฏอยู่

“ขอบคุณ” เฮอร์ไมโอนี่พูด หน้าของเธอแดงด้วยความอาย

“เอ้า…ไปงานเต้นรำกันเถอะ” มัลฟอยพูดพลางยื่นมือของเขาออกมา

“อื้อ…” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วทั้งคู่ก็เดินจูงมือกันไปยังห้องโถงรวมฮอกวอตส์…..


“นั่นๆเกรนเจอร์กับมัลฟอยนี่ แสดงว่าข่าวลือที่ทั้งสองคนไปเที่ยวฮอกมี้ดส์ด้วยกันเป็นความจริงแน่ๆเลย” ไม่ว่าเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยจะเดินไปทางไหนก็มีแต่เสียงซุบซิบของนักเรียนฮอกวอตส์ดังไปทั่ว

“เฮ้อ…” มัลฟอยถอนหายใจเมื่อเขากับเฮอร์ไมโอนี่เดินฝ่าฝูงชนออกมาได้

“น่ารำคาญจัง ไอ้เสียงซุบซิบนินทาเนี่ย” มัลฟอยบ่นแล้วลากเฮอร์ไมโอนี่ไปที่ฟลอร์เต้นรำกลางห้องโถงรวมของฮอกวอตส์ วันนี้ห้องโถงรวมของฮอกวอตส์นั้นถูกเนรมิตให้กลายเป็นฟลอร์เต้นรำขนาดใหญ่ ที่มุมหนึ่งซึ่งปรกติจะเป็นโต๊ะกินข้าวของ สลิธีริน ก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นบาร์ขนาดใหญ่ และที่นั่งสำหรับอาจารย์เวลากินข้าวนั้นก็กลายไปเป็นที่สำหรับให้วงดนตรีบรรเลงเพลงแทน

“เดรโก!!!!” เสียงสูงแสบแก้วหูดังมาจากข้างหลังของพวกเขาทั้งสอง ซึ่งเสียงนี้จะเป็นของใครไม่ได้นอกจาก แพนซี่ พาร์กินสันนักเรียนปีสามบ้านสลิธีริน

“ทำไม” มัลฟอยพูดด้วยเสียงที่แสดงออกถึงความเบื่อหน่ายนิดๆ

“ทะ…ทำไมเธอถึงมากับยัยเลือดสีโคลนนี่ล่ะ” แพนซี่พูด

“ยังจะให้ฉันอธิบายอีกหรอ เมื่อเช้าฉันก็ว่าฉันอธิบายไปครบถ้วนแล้วนา” มัลฟอยพูด

“ไปกันเถอะเฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยจูงเฮอร์ไมโอนี่หนีออกมาจากแพนซี่ พาร์กินสัน โดยมีเสียงกรีดร้องของแพนซี่ดังตามมา

“น่าเบื่อจริงๆ” มัลฟอยบ่นแล้วทั้งคู่ก็ไปหยุดอยู่ที่ระเบียงห้องโถงรวมฮอกวอตส์

“นี่มัลฟอย พระจันทร์คืนนี้สวยจังเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วชี้มือของเธอไปที่พระจันทร์กลมโตที่ส่องแสงยามค่ำคืน

“เต้นรำกันสักเพลงสองเพลงดีไหมเฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยพูด

“อื้อ…ก็ได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเพลงก็บรรเลงขึ้น มัลฟอยใช้มือข้างหนึ่งโอบรอบเอวของเฮอร์ไมโอนี่ไว้ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งของเขาก็จับมือข้างเฮอร์ไมโอนี่ไว้

“โอ๊ย…” มัลฟอยร้องขึ้นเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ก้าวเท้าไปเหยียบเท้าของเขาเข้า

“เต้นได้เก่งจริงๆเล้ย” มัลฟอยประชด

“เอาน่า” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วทั้งสองก็เต้นต่อไป

“นี่ๆแฮร์รี่ดูนั่นสิ” รอนพูดกับแฮร์รี่ซึ่งกำลังเต้นรำกับโช แชงอยู่

“อะไรหรอ” แฮร์รี่ถาม

“โน่นไงที่ระเบียง มัลฟอยกำลังเต้นรำอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่!!” รอนพูด ทำให้แฮร์รี่หันควับไปที่ระเบียงทันที

“บะ…บ้าน่ามัลฟอยให้เฮอร์ไมโอนี่กินยาล้างสมองเข้าไปหรือเปล่าเนี่ย” แฮร์รี่พูด

“ฉันว่าเราเข้าไปดูทั้งสองก่อนเถอะ” รอนพูดแล้วเขากับแฮร์รี่ก็เดินตรงไปยังมัลฟอย

“ทำอะไรน่ะจินนี่!!!” รอนพูดด้วนความตกใจเมื่อจินนี่เดินเข้ามาขวางทางเขากับแฮร์รี่ไว้

“พี่รอนกลับไปหาพี่ปัทมาก่อนเถอะเดี๋ยวพี่เขาก็โกรธเอาหรอก ส่วนพี่แฮร์รี่…หนูว่าพี่โช เขาโกรธไปแล้วล่ะ” จินนี่พูดแล้วดันทั้งสองกลับไปที่ฟลอร์เต้นรำ เธอหันไปมองเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอยซึ่งกำลังเต้นรำอยู่บนระเบียงพลางอมยิ้มเล็กน้อย.…

“นี่…เฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยพูด ขณะนี้เขากับเฮอร์ไมโอนี่ได้หยุดเต้นแล้ว

“คือ…ว่า…ฉะ…ฉัน” มัลฟอยพูดตะกุกตะกัก ใบหน้าของเขาเริ่มแดงขึ้นๆ แต่แล้วจู่ๆนกฮูกตัวหนึ่งก็หย่อนจดหมายลงมาทำให้มัลฟอยหยุดพูดแล้วหันไปเปิดซองจดหมายแทน หลังจากที่เขาอ่านซักพักหนึ่งใบหน้าของเขาก็เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏ

“มีอะไรหรอเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่มองดูอาการประหลาดๆของเขาแล้วถามขึ้น แล้วมัลฟอยก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากจดหมาย

“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะเฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยพูดแล้วเขาก็หยิบแหวนทองคำขาวสีเงินวงหนึ่งออกมาจากซองจดหมาย

“ให้ฉันสวมให้เธอนะเฮอร์ไมโอนี่” มัลฟอยพูด

“อะ…อื้อ” เฮอร์ไมโอนี่รับแล้วยื่นมือของเธอไปให้มัลฟอย ใบหน้าของเธอในตอนนี้นั้นแดงไม่แพ้ใบหน้าของมัลฟอยเลย เขาค่อยๆสวมแหวนลงไปบนนิ้วนางขวาของเฮอร์ไมโอนี่อย่างช้าๆ พอมัลฟอยใส่เสร็จเธอก็ก้มลงไปมอง เธอเห็นแหวนทองคำขาววงหนึ่งอยู่บนนิ้วนางขวาของเธอ พอเธอก้มลงไปดูชัดๆเธอก็เห็นข้อความที่สลักอยู่บนแหวนด้วยตัวหนังสือสีดำ

(F o R Y o U W i T h M y L o V e – D r A G o-) เฮอร์ไมโอนี่อ่านข้อความที่สลักอยู่ตรงข้างบนแหวน

“ยังดีนะที่เขาเอามาส่งให้ทันวันนี้น่ะ” มัลฟอยพูด พลางเก็บจดหมายจากร้านFoR YoU เข้ากระเป๋า

“สวยจังเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วพลิกแหวนของเธอไปมา

“ก็อยู่แล้วล่ะนะ” มัลฟอยพูด

“ขอบคุณนะเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางหันไปสบตาอันคมกริบ สีซีดของมัลฟอย

“เมื่อกี้เธอจะพูดอะไรหรอมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่พูดทำให้มัลฟอยสะดุ้งเล็กน้อย

“อยากฟังหรอ” มัลฟอยพูดพลางมองไปที่เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งผยักหน้าเล็กน้อย เขาหลับตาสูดหายใจเข้าไปเต็มปอดแล้วพูดออกมาว่า…

“ฉันรักเธอเฮอร์ไมโอนี่ ” มัลฟอยพูดแล้วลืมตาขึ้นมามองเฮอร์ไมโอนี่ซึ่งทำท่าอึ้งไปเล็กน้อย แล้วเธอก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

“ฉันก็รักเธอเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วเธอก็โผกระโดดเข้ากอดมัลฟอยท่ามกลางแสงจันทร์อันสวยงามยามค่ำคืน……


และแล้ววันเวลาก็ล่วงเลยมาถึงวันสุดท้ายของภาคเรียนปีที่ 3 ในฮอกวอตส์นี้ เฮอร์ไมโอนี่ รอนและแฮร์รี่ กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานที่โต๊ะกินข้าวของกริฟฟินดอร์ ห้องโถงใหญ่ของฮอกวอตส์วันนี้ถูกประดับไปด้วยธงสีแดงและธงสีทอง สัญลักษณ์ประจำบ้านกริฟฟินดอร์ ถึงแม้ว่าสเนปจะพยายามหาเรื่องหักคะแนนนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์เพียงใดก็ไม่อาจโค่นกิฟฟินดอร์ลงจากบัลลังค์บ้านดีเด่นได้ ส่วนถ้วยควิชดิชปีนี้ได้ตกเป็นของสลิธีริน ด้วยการเล่นถวายหัวของมัลฟอย(ทำให้โอลิเวอร์ วู้ดกัปตันทีมกริฟฟินดอร์กลับไปนอนร้องไห้ที่หอของเขา3วัน)

“แก๊งๆๆ” เสียงเคาะแก้วของดัมเบิ้ลดอร์อาจารย์ใหญ่โรงเรียนเวทมนต์ฮอกวอตส์ดังขึ้น

“และแล้วเวลาก็ผ่านไปอีก1ปี” ดัมเบิ้ลดอร์พูด

“ขอให้พวกเธอทุกๆคนโชคดี และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้พบกับพวกเธออีกในเร็ววันนี้” แล้วเขาก็นั่งลง ปล่อยให้เสียงปรบมือของนักเรียนทุกๆคนยังดังอยู่อย่างต่อเนื่องกระหึ่มห้องโถงรวมของโรงเรียนเวทมนต์ศาสตร์ ฮอกวอตส์…..

“เฮ้อ…” แฮร์รี่ถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้รถไฟ

“พอกลับไปบ้านก็ใช้เวทมนต์ไม่ได้แล้วล่ะซิ โธ่….” รอนบ่นแล้วเขาก็นั่งลงที่ว่างข้างๆของแฮร์รี่

“อือ…” เฮอร์ไมโอนี่พูด สายตาของเธอในตอนนี้จับจ้องอยู่ที่แหวนทองคำขาวที่มัลฟอยให้เธอมาในคืนวันวาเลนไทน์ เธอไม่ได้เจอมัลฟอยมาตั้งแต่วันวาเลนไทน์วันนั้นแล้ว

“ไงทุกคน” เฟร็ตและจอร์จ วีสลีย์พี่ชายฝาแฝดของรอนเดินเข้ามาในรถไฟตู้ โดยมีจินนี่เดินตามหลังเฟร็ตเข้ามา

“เป็นอะไรไปหรอพี่เฮอร์ไมโอนี่” จินนี่ถามพลางนั่งลงที่ข้างๆของเฮอร์ไมโอนี่ เธอมองดูอาการของเฮอร์ไมโอนี่อยู่สักพักนึงแล้วเธอก็เริ่มเดาเหตุการณ์ได้เธอจึงยิ้มเล็กๆแล้วหันออกไปมองที่นอกหน้าต่าง

“ป่าวหรอก” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างเซ็งๆ แล้วเสียงยานคางที่คุ้นหูก็ดังขึ้นจากประตูตู้รถไฟ

“คิดถึงใครอยู่หรอยัยเลือดสีโคลน” มัลฟอยพูดพลางก้าวเข้ามาในตู้รถไฟที่พวกแฮร์รี่นั่งอยู่โดยปราศจากแครบและกอยย์

“อ้าว…ไงมัลฟอยแล้วลูกสมุนทั้งสองหายไปไหนซะแล้วล่ะ” จอร์จพูด แต่มัลฟอยก็ไม่ได้สนใจฟังเขาแล้วเดินตรงไปยังเฮอร์ไมโอนี่

“ดะ…เดรโก” เฮอร์ไมโอนี่พูดใบหน้าของเธอเริ่มแดงเล็กน้อย แล้วจู่ๆมัลฟอยก็ก้มลงมาประทับริมฝีปากของเขาลงไปบนริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่ ปล่อยให้ผู้โดยสารที่อยู่ในรถไฟตู้นั้นตะลึงกันไปตามๆกัน แล้วเขาก็ถอนริมฝีปากของเขาออกอย่างช้าๆ

“ว่างๆก็ติดต่อไปหาฉันบ้างก็ได้นะเจ้าหญิงของฉัน” มัลฟอยพูด

”ไว้เจอกันในเร็วๆนี่นะ” เขาหลิ่วตาให้เฮอร์ไมโอนี่ทีนึงแล้วเขาก็เดินออกจากตู้รถไฟไป

“ฮะ…เฮอร์ไมโอนี่” รอนพูดอย่างไม่เชื่อสายตาของเขาเองกับสิ่งที่เขาเพิ่งได้เห็นไปเมื่อสักครู่นี้

“ฮะ…ฮะ…” แฮร์รี่ตกใจจนพูดไม่เป็นภาษา ส่วนสองฝาแฝดวีสลีย์นั้นก็ถึงกับช็อคจนพูดไม่ออกทีเดียว มีแต่จินนี่เพียงคนเดียวที่ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“หวานกันจริ๊ง” จินนี่ประชดพลางหยิบหนังสือพิมพ์แดรี่พรอเฟ็ตของเธอขึ้นมาอ่าน

“งะ…งั้นเธอก็รู้เรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้วงั้นสิ” พอรอนรวบรวมสติได้เขาก็หันไปถามจินนี่

“ประมาณนั้น” จินนี่พูดพลางอ่านหนังสือพิมพ์ของเธอต่อ

เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มพลางมองออกไปที่ข้างนอกหน้าตางซึ่งตอนนี้เธอเห็นชานชลาที่เก้าเศษสามส่วนสี่อยู่ลิบๆแล้ว
เธอกำแหวนที่มัลฟอยให้เธอไว้แน่น

(ฉันรักเธอเฮอร์ไมโอนี่) เฮอร์ไมโอนี่นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวันวาเลนไทน์พลางอมยิ้มเล็กน้อย แล้วรถไฟก็มาจอดเทียบท่าที่สถานี เธอจึงก้าวลงจากรถไฟด่วนฮอกวอตส์ออกไปสู่โลกของเหล่ามักเกิ้ล….

~+ThE EnD+

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น