วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

in the end ตอนที่ 1-13 (จบ)

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ
ลิงค์นี้นะค่ะ

in the end ตอนที่ 1-13 (จบ)
fic by..tom_emma
ฟิคคู่ D/Hr

ตอนที่1:

ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนที่แสนจะน่าเบื่อของแฮรรี่ดำเนินต่อไปได้ประมาณอาทิตย์หนึ่งแล้วช่างเป็นชีวิตที่แสนเซ็งในซอยพรีเว็ท เป้นที่รู้กันว่าเขาไม่มีอิสระอะไรเลยที่นี่ ตอนนี้เขาอยากกลับไปที่ฮอกวอส์ตเต็มทน แต่ในปีหน้านี่ก็เป็นปีสุดท้ายของเขาแล้วแล้วต่อจากนั้นไปเขาจะทำอย่างไร เขาต้องทนอยู่กะพวกเดอร์สลีย์อย่างนั้นหรือ
แฮรรี่ยังคงมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างอย่างเบื่อหน่าย แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นบางสิ่งกำลังเคลื่อนที่เข้ามาหาเขา
ใช่เลย มันเป็นนกฮูกจำนวน4-5ตัวถ้าเขามองไม่ผิด แฮรรี่รีบเปิดหน้าต่างให้นกฮูกพวกนั้นเข้ามา เฮ็ดวิด ส่งเสียงร้องเอะอะเมื่อเห็นจ้านายตนสนใจนกฮูกตัวอื่น
“ชู่ววว เฮ็ดวิก เงียบๆซะถ้านายไม่อยากให้ชั้นเจอทำโทษ” แฮรรี่หันมาบอกเฮ็ดวิกและลูบหัวมันเป็นเชิงรักใคร่
นกฮูกพวกนั้นบินลงมาเกาะบนเตียงแฮรรี่ 1ในจำนวนนั้นเป็นนกฮูกจิ๋วตัวกระเปี๊ยกบินวนส่งเสียงร้องเป็นเชิงว่ามันทำงานสำเร็จ แน่นอนเลย มันคือ พิกวิดเจียน พร้อมกับกล่องของขนาดใหญ่แนบจม.รอนมาด้วย ที่สำคัญ พิกวิดเจียนแทบจะแบกมาไม่ไหว แฮรรี่เปิดกล่องออกเห็นว่ามันเป็น ชุดฝึกซ้อมควิดดิชจำลอง แน่นอนมันเป็นxxxบที่มีลูกควัฟเฟิล บลัดเจอร์และลูกสนิช ไว้สำหรับให้แฮรรี่ฝึกควิดดิช และมีของอีก2อย่าง เป็นขวดแก้วกับลูกกวาดหลากสี เขาหยิบจดหมายของรอนขึ้นมาอ่าน
หวัดดี แฮรรี่เพื่อนรัก
happy birthday สุขสันต์วันเกิดครบ 17 ปี ชั้นส่งของขวัญมาให้นาย หวังว่าคงชอบ เฟร็ดกะจอร์จก็ส่งมาให้ด้วย นายอ่านในจม.ของพวกเขาเองละกัน นายเป็นไงมั่ง ส่วนพวกชั้นสบายดีทุกคน ชั้นบอกพ่อให้ไปรับนายมาที่บ้านโพรงกระต่ายมะรืนนี้ ชั้นชวนเฮอร์ไมโอนีด้วยนะ อ้อใช่มัลฟอยด้วย แต่มัลฟอยเค้าไม่ว่างเค้าบอกว่าแล้วจะตามไปทีหลัง ชั้นปรึกษากับเฮอร์ไมโอนีว่าพอมัลฟอยมาจะลองไปทัวร์โลกมักเกิ้ลกันดู เขาบอกว่ามีอะไรน่าสนใจเยอะแยะไปหมด หวังว่านายจะมาที่บ้านโพรงกระต่ายนะ แล้วเจอกันแฮรรี่
รัก…..รอน
จากนั้นแฮรรี่ก็หยิบจม.อีกฉบับที่สอดมากับของขวัญขึ้นมาอ่าน
ไง แฮรรี่
ของขวัญที่เราส่งมาถูกใจมั๊ย อย่างเพิ่งงงนะว่ามันคืออะไร แน่นอน มันคือของเล่นวิเศษที่พวกเราสร้างขึ้นใหม่ เป็นสินค้าใหม่ของร้าน ตอนนี้ร้านขายของเล่นตลก “เฟร็ดดี้&จอร์จี้” ขายดีกว่าร้าน “ซองโก้”แล้วนะ
เอาเหอะ คือเฟร็ดเค้าส่งลูกอมเปลี่ยนเสียงไปให้นายน่ะ แต่ละสีจะเป็นของคนต่างกัน มันมีลูกที่เป้นสีขาวด้วยใช่มั๊ย นั่นเอาไว้อัดเสียงใหม่น่ะ วิธีอัดเสียงก็เพียงแต่รอให้คนๆนั้นพูดแล้วนายก็ พูดชื่อของเค้าแล้วท่องว่า
“คอปิรัส”ง่ายๆใช่มั๊ย ส่วนชั้นสงน้ำยาหลอมละลายไปให้นาย มันสมารถหลอมทุกอย่างให้ละลายได้เจ๋งใช่มั๊ยล่ะ แต่มันจะลลายอยู่ได้1 ชม. เท่านั้นนะ หวังว่านายจะช่วยเผยแพร่ เกมกลวิเศษวีสลีย์แทนพวกเราที่เรียนจบแล้วด้วยล่ะ
โชคดี… เฟร็ด & จอร์จ
จากนั้น แฮรรี่ก็หยิบของขวัญของเฮอร์ไมโอนีมา มันเป็นชุดทำความสะอาดไม้กวาดไฟลโบล์ ของเขา แล้วเปิดจม.อ่าน
หวัดดีแฮรรี่
สุขสันต์วันเกิด ขอให้เธอมีความสุขมากๆนะ ชั้นส่งของขวัญมาให้ หวังว่าคงถูกใจเธอ อ้อ เธอคงรู้จากรอนแล้วสินะว่าเราจะไปบ้านโพรงกระต่ายกัน พวกรอนจะไปรับเธอ แล้วชั้นจะรอที่บ้านรอนนะ อ้อใช่ๆ ชั้นคุยกะรอนว่าอยากจะไปสวนสนุกกันน่ะ มีสวนสนุกเปิดใหม่อยุ่ที่นึงเอาเป็นว่าแล้วค่อยคุยกันที่บ้านโพรงกระต่ายนะ
รักและคิดถึง …เฮอร์ไมโอนี
เมื่ออ่านจบยังมีนกฮูกอีก3ตัว แน่นอนตัวหนึ่งเป็นของทางโรงเรียนที่มาแจ้งเรื่องตำราวิชาต่างๆ แต่อีกตัวเป็นนกฮูกสีเทาเข้ม ตัวใหญ่มจม.ผูกมากับขามัน แฮรรี่หยิบมันเปิดอ่าน
ถึงแฮรรี่
แฮรรี่ที่รัก เป็นยังไงบ้าง สบายดีรึเปล่าแล้วก็สุขสันต์วันเกิดนะชั้นส่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่หายากมากๆมาให้เป้นของขวัญ มันมีอำนาจที่จะป้องกันเวทย์มนต์ดำได้ที่ชั้นส่งมันมาให้เธอเพราะชั้นอยกให้เธอดื่มมัน แล้วระวังตัวให้มาก ตอนนี้ พวกผู้เสพความตายเคลื่อนไหวอย่างโจ่งแจ้งแล้ว ยุคมืดกำลังกลับมาอีกครั้ง ชั้นกลัวว่าเธอจะเป้นอันตรายแฮรรี่ แล้วก็ตอนนี้ดัมเบิลดอร์กับกลุ่มที่รวบรวมได้กำลังคิดแผนการรับมือกันอยู่ แล้วดัมเบิลดอร์ก็เกลี้ยกล่อมให้ ลูเซียส มัลฟอย ยอมเข้ากลุ่มด้วยอีกคนแล้ว อ้อใช่ลืมบอกไป ตอนนี้ชั้นพ้นโทษแล้วล่ะ สามารถออกเดินไปไหนได้สบาย เร็วๆนี้ชั้นจะไปที่ฮอวอส์ต แล้วค่อยเจอกันที่นั่น
รัก ซิเรียส
นกฮูกตัวสุดท้ายเป็นนกฮูกตัวใหญ่ขนสีน้ำตาลอ่อน แฮรรี่หยิบมันขึ้นมาเปิดดูของมันเป็นร็อกเก็ตสีน้ำเงินอร่าม
ไงแฮรรี่……
สุขสันต์วันเกิด เห็นร็อคเก็ตแล้วใช่มั๊ย พอดีพ่อชั้นเล่าให้ฟังเรื่องที่คนที่รู้ว่าใครจะกลับมาน่ะ ชั้นเลยส่งนี่มาให้ มันเป้นร็อคเก็ตคุ้มภัย ถ้ามีอันรายมันจะส่องแสงออกมา แล้วไงๆก็รอไว้เจอกันที่บ้านโพรงกระต่ายละกัน ชั้นมีเรื่องต้องปรึกษาพวกนายด้วย
บาย….เดรโก
แฮรรี่รู้สึกดีใจมากที่ได้รับจม.จากเพื่อนๆ เขารีบลงไปขอนุญาตลุงเวอร์นอน เพื่อไปที่บ้านโพรงกระต่าย
“เอ่อ ลุงฮะ ผมจะขออนุญาตไปบ้านเพื่อนตลอดซัมเมอร์นี้ได้มั๊ยฮะ คือ รอ..เขาจะมารับผม” แฮรรี่พูดอย่างเกรงๆ
“หึ เจ้าพวกเพื่อนประหลาดของแกงั้นรึ” ลุงเวอร์นอนตอบ
“คบเจ้าพวกประหลาด มันทำให้เป็นอัปมงคลต่อบ้านเราจริงๆ แกจไปไหนก้รีบๆไปซะ เพราะบ้านนี้ไม่เคยต้องการใหแกอยู่อยู่แล้ว” ลุงเวอร์นอนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ขอบคุณฮะ” แฮรรี่ตอบและรีบวิ่งกลับไปตอบจดหมายเพื่อนๆว่าเขาจะไป และแทบทนรอไม่ไหว….


In the end : ตอนที่2

ในที่สุดก็ถึงวันที่แฮรรี่รอคอย เขาเก็บของใส่ในxxxบ แน่นอน ไม่ลืมที่จะกินยาของซิเรียส และของฝากของทุกคน เขาเอาร็อคเก็ตที่ได้จากเดรโกห้อยไว้ที่คอ แล้วรีบลงไปรอรอนข้างล่าง ขณะที่แฮรรี่เดินไปเดินมารอบๆบ้าน โดยที่ลุงเวอร์นอนไม่ว่าอะไรเพราะตอนนี้แฮรรี่เก่งกล้าขึ้น จนลุงของเขายังขยาด ทันใดนั้นก้มีเสียง “บรึ้มมม”
แสงสีเขียวสว่างวาบปรากฎร่างรอน เฟร็ด และจอร์จขึ้น
“ไงแฮรรี่ รีบไปเอาxxxบมาเร็ว ” รอนทักขึ้น ในขณะที่เฟร็ดและจอร์จเดินเข้าไปหาลุงเวอรืนอนเพื่อทักทาย
“สวัสดีครับ ผมเป็นพี่ชายฝาแฝดของรอน วันนี้คุณพ่อไม่ว่าง พวกผมเลยมาแทน เราจะดูแลแฮรรี่ให้ตลอดซัมเมอร์นี้” เฟร็ดพูดจบ เขาก็โค้งทักทายป้าเพ็ทตูเนีย แล้วจอืจก็เดินไปามห้องต่างๆในบ้าน เขาเข้าไปที่ห้องครัว
ดัดลีย์รีบตามเขาไปทันที ด้วยความกลัวว่าจอร์จจะขโมยของกินเขา
“ไอ้คนประหลาด แกจะมาแย่งของกินชั้นสินะ” ดัดลีย์ร้อง
“หุบปากนะดัดลีย์!!” เสียงลุงเวอร์นอนตะคอกกลับ แต่ว่าไม่ใช่เสียงของลุงแต่เป้นเสียงที่เสกขึ้นมาเก็บไว้ในลูกอมสินค้าใหม่ของร้านเขา ทำให้ทุกคนอึ้งอ้าปากค้าง เมื่อแฮรรี่และรอนลงมา
“งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ” เฟร้ดพูด แล้วก็เกิดเปลวสีเขียวพุ่งออกมาในเตาผิง ทันใดนั้นพวกเขาก็หายไป
ณ บ้านโพรงกระต่าย --------
“ไง แฮรรี่ ” บิลทักขึ้น “สวัสดีครับ ก็เรื่อยๆแหละฮะ ” แฮรรี่ตอบกลับ
“พ่อกับแม่ไปแล้วหรอ” รอนถาม
“อืม เขาบอกว่าจะไม่กลับมาหลายวัน ดัมเบิลดอร์เรียกตัวไปน่ะ ให้พวกเราดูแลพวกนาย”ชาลีตอบ
“แฮรรี่!!!” เสียงใสๆของเด็กหญิงดังมาจากบันได เฮอรไมโอนีนั่นเอง
“ไงเฮอร์ไมโอนี ” แฮรรี่ทัก
“มานี่เร็ว พวกนายต้องรู้ ” เฮอร์ไมโอนีพูดจบก็ลากแฮรรี่และรอนขึ้นไปข้างบน แล้วเอาเดลี่พรอเพ็ตให้ทั้งคู่อ่าน มันเป้นข่าวการตายของคนในกระทรวงเวทย์มนต์คาดว่าเป็นฝีมือของผู้เสพความตาย
“นี่มัน…หรือว่าคนที่รู้ว่าใคร กลับมาแล้ว…” รอนถาม
“อืม ชั้นรู้แล้วล่ะ ซิเรียส ส่งข่าวถึงชั้นเหมือนกัน เค้าบอกว่าอีกไม่นานจะไปที่รร. แล้วจะมีการหาลืออีกครั้ง แล้วลูเซียสก็มาเป้นฝ่ายเราแล้วด้วย” แฮรรี่บอก ทั้งห้องอยู่ในความเงียบ
“ชั้นว่าเราาวางแผนการเที่ยวพรุ่งนี้ดีกว่านะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเดรโกจะมา” เฮอร์ไมโอนีพูด
“อืม จริงสิ เรื่องนี้ปล่อยให้ดัมเบิลดอร์จัดการดีกว่า ”รอนว่า แล้วทั้ง3ก็นั่งคุยกันถึงเริ่องสวนสนุกที่จะไปหลังจากนั้นก็ทานอาหารเย็นจนตกดึก พวกเขาก้เข้านอน
“รอน .. ยังตื่นอยู่รึเปล่า” แฮรรี่ถาม
“หืม มีไรรึ” รอนตอบเสียงงัวเงีย
“ชั้นรู้สึกสังหรณ์ใจไงไม่รู้สิ …ชั้นรู้สึกว่า ครั้งนี้ คงมีการตายเหมือนอย่างเซดริกอีก ” แฮรรี่บอก
“ไม่เอาน่า แฮรรี่ ตอนนี้พวกเราเก่งกว่าตอนปี4เยอะ อีกอย่าง ดัมเบิลดอร์ไม่อยู่เฉยแน่” รอนว่า
“อืมนั่นสินะ งั้น…ราตรีสวัสดิ์”แฮรรี่ตอบ กลางดึกคืนนั้น แฮรรี่ยังคงนอนไม่หลับ เพราะเรื่องของโวลเดอร์มอร์คงรังควานใจอยู่แล้วท่ามกลางความมืดนั่น เขาก็เห็นแสงสีแดงลอยอยู่บนฟ้า ลอดผ่านช่องผ้าม่าน เขารีบลุกขึ้นไปดู แต่มันก็หายไปแล้ว แฮรรี่คิดว่ามันอาจจะเป็น “ฟอกส์” ก็ได้ ถ้าขนาดดัมเบิลดอร์ใช้นกฟินิกซ์นั่น คงไม่ใช่เรื่องธรรมดา เขารู้สึกถึงความมืดที่กำลังเคลื่อนเข้ามา และรู้สึกว่าเพื่อนๆและตัวเขาจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

เช้าวันต่อมา ขณะที่พี่น้องวีสลีย์6คน (เพอร์ซี่ไปกระทรวงกับพ่อและแม่) และแฮรรี่กับเฮอร์ไมโอนีทานอาหารเช้า ก็ปรากฎแสงสีเขียวที่เตาผิงนั่นคือ เขานั่นเอง
“เดรโก!!” เฮอร์ไมโอนีร้องทักด้วยใบหน้าที่เริ่มเป็นสีชมพู
“ไงพ่อหนุ่ม มานั่งสิ จะได้กินข้าวกัน” บิลพูดขึ้น
“อืม ขอบคุณฮะ แต่ว่าผมกินมาแล้ว” เดรโกพูดขึ้น
พวกเขาทุกคนคุยกันเรื่องสัพเพเหระ แล้วชาลีก็พูดขึ้น “พวกนายนี่โตขึ้นเยอะเลยนะ”
จะว่าไปเมื่อมาลองมองดูแล้วพวกเขาโตขึ้นมากจริงๆ ตอนนี้พวกเขาอายุ17 รอนแฮรรี่ และเดรโก สูงขึ้นมาก ในบรรดานั้น รอนสูงที่สุดในหมู่ทุกคน เขาสูงกว่าคนในครอบครัวตัวเองเสียอีก พวกเขาเริ่มมีกล้ามเป็นมัด เสียงแตกหนุ่มเต็มตัว ขณะเดียวกัน เฮอร์ไมโอนีก็สูงขึ้นหน้าตาสวยขึ้น และแตกเนื้อสาวเต็มตัว แขนขาเรียวยาว
“เรื่องนั้นช่างเถอะน่าชาลี นานๆจะได้พักงาน ชั้นอยากไปดูโลกมักเกิลเร็วๆแล้ว” บิลพูดขึ้น
“จริงสิ โลกมักเกิลเป้นยังไงมั่งน่ะ ชั้นไม่ค่อยจะรู้เรื่องพวกนี้” เดรโกถาม
“เรื่องนี้นายน่าจะถามแฟนนายนะ” รอนตอบพลางชี้ไปที่เฮอร์ไมโอนี
“โลกมักเกิลก็ไม่ได้ต่างจากนี่หรอก เพียงแต่ทุกคนทำอะไรๆโดยไม่ใช้เวทย์มนต์น่ะ”เธอตอบพลางหน้าแดง
“เดี๋ยวเราก็ได้เห็นเองล่ะ” แฮรรี่บอก เมื่อทานอาหารเสร็จ บิลก็ไปนำพรมวิเศษออกมา ทุกคนขึ้นไปบนนั้นแล้วบิลก็ขับพรมวิเศษเพื่อไปสวนสนุกมักเกิล โดยที่เสกคาถาล่องหนไว้เพื่อไม่ให้มักเกิลมองเห็น โดยมีเฮอร์ไมโอนีคอยบอกทาง เมือ่ไปถึง ทุกคนก้ต้องอึ้งไปตามๆกัน สวนสนุกเต็มไปด้วยเสียงกรี๊ดของคนที่เล่นเครื่องเส่นหวาดเสียว
และเสียงหัวเราะ
“ไอ้กลมๆใหญ่ๆนั่นอะไรน่ะ แล้วนั่นมันรถไฟนี่ ทำไมหมุนอย่างนั้น”รอนร้อง
“เฮ้ แล้วนั่นอะไรน่ะ เรือลำเบ้อเริ่มแต่ไม่ยักมีน้ำ เอาแต่แกว่งไปมา”บิลถาม
“ว้าย นั่นน่ารักจัง” จินนี้ร้องขึ้นเมื่อเห้นตัวโบโซ่คอยแจกลูกโป่งเด็กๆ
“พวกเขาทำได้ไงกันน่ะ” เดรโกถาม
“นั่นมันถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์น่ะ” แฮรรี่ตอบ ”คอมพิวเตอร์ก็คือ สมองกลที่มนุษย์สร้างขึ้นมาใช้งานตามแต่ต้องการ งานแต่ละอย่างก็ทำขึ้นจากสิ่งที่เรียกว่าโปรแกรม ถ้าให้อธิบายก็อีกยาวน่ะนะ…”
“ยังไงก็เถอะ รีบไปเล่นไอ้ของพวกนี้กันเหอะ ”จอร์จพูด
“รอนานมั๊ย ” เฮอร์ไมโอนีกลับมาพร้อมตั๋วหลายใบแล้วพวกเขาก็เข้าไปเล่นของในสวนสนุกพวกเขาเริ่มจากของที่น่าหวาดเสียวที่สุดเริ่มจาก รถไฟเหาะตีลังกา space mountain ไวกิ้งยักษ์ เฮอร์ริเคน เล่นหอคอยลิฟท์(ให้ยืนบนหอคอยสูงๆแล้วมันจะตกลงมาอย่างรวดเร็ว เสียวไส้มาก) พวกเขาเล่นติดๆกันจนเริ่มเกิดอาการแปลกๆ
“โอย..ชั้นไม่ไหวแล้ว ….ตาลายยยอยากอ้วก” รอนครางหลังจากลงมาจากรถไฟเหาะอันหนึ่งเขาทรุดลงบนม้านั่ง
“หนูก็ด้วยค่ะ“จินนี่ร้องอีกคน
“อะไรกันพวกนาย กะลังมันส์เลยนะเนี่ย” เฟร็ดกะจอร์จบ่นอุบ
“เอางี้มั๊ย เราเข้าไปบ้านผีสิงแก้เวียนหัวก่อนละกัน” แฮรรี่เสนอ
“ก็ดีนะ ชั้นว่า ไม่งั้นเราคงได้หามรอนกะจินนี่แน่” บิลบอก
“เอ๋!!บะ บ้านผีสิงหรอ…” เฮอร์ไมโอนีพูดหน้าแหยๆ
“อะไร เธอกลัวหรอ” รอนถามอย่างล้อเลียน
“ป่ะ…ป่าวซักหน่อย…” เธอตอบ แล้วทุกคนก็เข้าไปในบ้านผีสิง ข้างในมืดสลัว มองไม่เห้นทางเดินเลย มีเสียง(สเตอริโอนั่นแหละ) น่ากลัวดังมาเป็นจังหวะ ข้างในอากาศเย็นเฉียบ รอบๆมีหลุมศพเต็มไปหมดน่าขนลุกเดินๆไปก็จะมีผี(ปลอม) โผล่ออกมาหลอก แล้วก้ตกใจไปตามๆกัน พวกเขาเดินเกาะกลุ่มกันไป(เดินเบียดกันไปมากกว่า)
จู่ๆก็มีมือโผล่มาจับรอนจากข้างหลัง “ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก” รอนร้องลั่นบ้านผีสิง ทำให้ทุกคนตกใจร้องกันไปด้วย พวกเขารีบวิ่งไปที่ทางออก แล้วหัวกะโหลกก็ตกลงมาหน้าเฮอร์ไมโอนี
“กรี๊ดดดดดดดดดดด” เธอร้องลั่นแล้วโผเข้าไปกอดเดรโกที่เดินข้างๆเธอ
“งะ..ไง..รอน หายเวียน..หัวยั..ง” แฮรรี่ถามแบบปอดๆ
“อือออออชั้นจะ..ช็อคตายมากกว่า…”รอนตอบไม่ทันขาดคำก็มีเสียงดัง “ตูมมม”และตามด้วยเสียงกรีดร้องกระหน่ำมาจากด้านนอกบ้านผีสิง
“เฮ้ นั่นเสียงอะไรนะ” ชาลีตะโกนถาม
“ชั้นไม่รู้ รีบออกไปดูเถอะ” แฮรรี่ตอบกลับ แล้วทุกคนก็รีบวิ่งออกจากบ้านผีสิง เมื่อออกมาถึงก็ต้องอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น ….

In the end : ตอนที่3

“เฮ้ นั่นเสียงอะไรนะ” ชาลีตะโกนถาม
“ชั้นไม่รู้ รีบออกไปดูเถอะ” แฮรรี่ตอบกลับ แล้วทุกคนก็รีบวิ่งออกจากบ้านผีสิง เมื่อออกมาถึงก็ต้องอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น มันเป้นสิ่งที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ บริเวณรอบๆมีร่องรอยการระเบิดอยู่ สิ่งที่บรรดาพ่อมดแม่มดเห็นต้องตกใจกลัว
“นั่น…ตรามารนี่” เดรโกร้องขึ้น ตรามารปรากฎขึ้นบริเวณหน้าชิงช้าสวรรค์ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของที่นี่พอดี
“ใครเป็นคนทำแบบนี้…” จินนี่พูดด้วยเสียงที่สั่นเทา
“เฟร็ด จอร์จ ดูแลน้องๆนะ ชาลีมากับชั้น ชั้นจะไปดูซักหน่อย ฟังนะ อย่าไปไหนเด็ดขาดเข้าใจนะ” บิลสั่งการในฐานะที่เขาเป็นพี่คนโตและมีประสบการ์ณทีสุดแล้วเขากับชาลีก็รีบไปตรงที่เกิดเหตุทันที
เวลาผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ พวกแฮรรี่ยืนรอบิลกับชาลี
“จะเกิดอะไรขึ้นมั๊ยนะ” จินนี่ร้อง
“ไม่หรอกน่า พวกพี่น่ะ เก่งจะตายไป”รอนตอบ แต่ในใจก็กลัวๆเหมือนกัน แต่ทันใดนั้น แฮรรี่ก็รู้สึกเสียววาบไปทั่วแผ่นหลัง เขาหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติเขากวาดสายตาไปรอบๆ
“เป็นอะไรรึ แฮรรี่” เดรโกถาม
“อ๋อ…เปล่าหรอก..ไม่มีอะไร” แฮรรี่ตอบกลับ แต่เดรโกก็ยังคงสงสัยอยู่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เมื่อบิลกับชาลีกลับมา พวกเขาก็รีบพาพวกแฮรรี่กลับทันที
“เกิดอะไรขึ้น บิล” เฟร็ดถามทันที
“ไว้ถึงบ้านแล้วชั้นจะเล่าให้ฟัง ที่นี่อันตราย” ว่าแล้วเขาก็ขึ้นพรมวิเศษแล้วพาทุกคนกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านโพรงกระต่าย
“ว่าไงล่ะ เล่าซักที” จอร์จถาม
“มีคนตายน่ะ …มีมักเกิลตายด้วย” ชาลีพูดขึ้น ขณะกำลังเดินมานั่งในห้องนั่งเล่น
“อืม ในบรรดาคนที่ตาย มีแม่มดที่ทำงานเป็นหน่วยปราบมารตายด้วยคนนึง ทุกคน สภาพศพแหลกเหลว ตอนนี้พวกมักเกิลที่เรียกตัวเองว่า ตำหนวด กำลังเคลียร์พื้นที่อยู่” บิลพูด
แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น พ่อ แม่และเพอร์ซี่กลับมาแล้ว
“ไงเด็กๆ ไม่เป้นไรกันใช่มั๊ย คือชั้นหมายถึง สบายดีกันทุกคนนะ” นายวีสลีย์พูดขึ้นทันทีเพราะพวกเขาทราบข่าวเรื่องสวนสนุกแล้ว
“ค่ะ พวกเราสบายดี” จินนี่ตอบ
“เอาล่ะ วันนี้ทุกคนรีบเข้านอนด้วยนะจ๊ะเพราะพรุ่งนี้เราต้องไปตรอกไดแอนกอนกัน” นางวีสลีย์พูดด้วยสีหน้าสั่นเทาแล้วรีบเดินขึ้นชั้นบนไป
“แม่เป็นอะไรไปฮะ” เฟร็ดถาม
“เรามีเรื่องกันนิดหน่อยคือชั้นหมายถึงปัญหาหนักหัวน่ะ ” นายวีสลีย์นั่งลงแล้วเริ่มเล่าให้ฟัง
“วันนี้เราไปพบดัมเบิลดอร์มา แน่นอน ด้วยเรื่องบางเรื่องที่ดัมเบิลดอร์ฝากให้ไปช่วยจัดการน่ะ”
- - - - เหตุการณ์นี้เกิดที่ฮอกวอตส์ - - - -
“เอ่อ ศ. ดัมเบิลดอร์ครับ พวกเราจะเอาไงดีครับ” เสนปเอ่ยปากถาม
“อืม..ตอนนี้ชั้นแน่ใจว่าโวลเดอร์มอร์ได้กลับมามีอำนาจเต็มที่อีกครั้งแล้ว และไม่ช้าก็เร็วนี้มันต้องมาฮอกวอตส์แน่”ดัมเบิลดอร์กล่าวอย่างเคร่งเครียด
“ถ้าอย่างนั้น เด็กๆก็ไม่ควรกลับมาที่ฮอกวอตส์” ศ.มักกอนากัลถาม
“ชั้นก็ไม่รู้มิเนอร์ว่า..เราเสียมือปราบมารไปมากตั้งแต่ที่พวกมันเริ่มไหวตัว ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกแล้ว”ดัมเบิลดอร์กล่าว
“พวกเราจะทำอะไรได้บ้างครับ” อาเธอร์ถาม
“เราจะมีการประชุมอีกครั้ง อาเธอร์ พวกคุณต้องทำงานที่กระทรวงอย่างลับๆ โดยไม่ให้ รมต.ฟัดจ์รู้เรื่อง” ดัมเบิลดอร์ กล่าว
“หรือว่า…ท่าน” ซิเรียสถาม
“ไม่เชิงหรอก..ซิเรียส …แต่เรายังสรุปไม่ได้ เขาเป็นคนหัวรั้นและตอนนี้เขาก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้ แต่ยังไงชั้นได้เรียกเค้ามาประชุมครั้งสุดท้ายพร้อมพวกเราด้วย” ดัมเบิลดอร์ตอบ
“การประชุมนั้น มีเมื่อไรครับ” ลูปินถาม
“เร็วที่สุด รีมัส …เพราะเราต้องไม่เดินให้ช้ากว่าฝ่ายโน้นแม้ครึ่งก้าวก็ตาม”ดัมเบิลดอร์กล่าว
“ตอนผมอยู่ที่ซ่อน ฝ่ายโน้น เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย ผมเกรงว่าเราจะล่าช้าไปแล้ว ” ซิเรียสกล่าว
“ผมก็คิดเช่นนั้นนะครับท่าน พวกเขาฆ่าฝ่ายเราไปเยอะขณะที่เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย เราอาจจะสายไป”เสนปว่า
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ กำลังของพวกเรามีน้อยจนเกินไป พวกนั้นได้ผู้เสพความตายไป เท่ากับนักโทษทั้งอัสคาบันเป้นศตรูกับเราทั้งหมด” ดัมเบิลดอร์กล่าวพลางมองไปนอกหน้าต่าง
“ยังไงก็ตาม มีเรื่องนึงที่ต้องเร่งดำเนินการ ” แฮกริดพูด
“ชั้นก็คิดอย่างนั้น แฮกริด”ดัมเบิลดอร์กล่าว “พวกเขากำลังอยู่ในอันตราย”
“ยังไงก็ตาม พวกเราต้องจัดเวรในรร.ให้เข้มขึ้น มิเนอร์ว่า ไปบอกให้พวกเอลฟ์ สร้างอาคมเพิ่มที่ฮอกวอตส์ทุกอย่างต้องเป็นปกติที่สุดแน่นอน ต้องให้มัลฟอยคอยดำเนินการอย่างลับๆในกระทรวงด้วยได้มั๊ย แฮกริด รีมัส และซิเรียส คอยสืบข่าวพรรคพวกของเรา และเรียกพวกเขากลับมาที่ฮอกวอตส์ด้วย และ อาเธอร์กับมอลลี่ ผมขอมอบหน้าที่ใหญ่ให้คุณด้วย”ดัมเบิลดอร์สั่งการ
“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบสนองเสียงของดัมเบิลดอร์ด้วยความเคารพรัก
“หน้าที่ของพ่อกับแม่คืออะไรรึครับ” รอนถาม
“ดูแลรักษาไพ่ตายของเราน่ะสิ เพราะมันบอบบางมาก” อาเธอร์ตอบ
“ไพ่ตาย..รึคะ” เฮอร์ไมโอนีถาม
“ใช่ ไพ่ตาย กุญแจสำคัญเลยล่” อาเธอร์ยิ้มแล้วเดินจากไป
“นายว่าพ่อกำลังปิดอะไรเราอยู่รึเปล่า” รอนถาม
“ของตายเลยล่ะ” เฟร็ดกับจอร์จตอบ
เช้าวันต่อมา ทุกคนไปที่ตรอกไดแอนกอน
ทุกคนแยกย้ายกันไปซื้อของใช้ในปีที่7 แน่นอน แฮรรี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่ และเดรโกไปด้วยกัน ส่วนนายและนางวีสลีย์ไปกับจินนี่
“เฮอร์ไมโอนี ชั้นว่าเธอน่าจะมีนกฮูกซักตัวนะ ในสถานการณ์อย้างนี้มันจะได้คอยติดต่อกับพวกเราได้” รอนบอก
“อืม แต่ชั้นมีครุกแชงก์อยุ่แล้ว และมันก็พึ่งพาได้ไม่แพ้นกฮูกหรอก” เธอตอบ แล้วพากันเดินเข้าไปร้านขายสัตว์เลี้ยงเพื่อซื้อปลอกคออันใหม่ให้มัน แต่ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปนั้น พวกแฮรรี่ก็เหลือบไปเห็นซอยเล็กๆด้านหลัง มีคสวมเสื้อลุมยาวมีผ้าปิดที่หัว กำลังจับกลุ่มคุยกัน พวกเขาเงี่ยหูฟังก้ต้องได้ยินสิ่งที่น่าตกตะลึงเข้า
“เมื่อวาน อลหม่านกันใหญ่เลย สะใจจริงๆ” ชายคนนึงพูดขึ้น
“ตายไปเท่าไร อย่าให้มากนักนะ ถ้านายไม่อยากหัวขาดเร็ว เดี๋ยวจะเป้นเรื่อง” ชายอีกคนที่ยืนหันหลังให้พูด
“3คน ไม่เท่าไรหรอกน่า” แล้วซอยเล็กๆก็ก้องไปด้วยเสียงหัวเราะแหลม
เด็กทั้ง4เหงื่อแตกพลักตัวสั่นเทา รีบเดินออกไปจากที่นั่นทันที

In the end ตอนที่4

“ที่นี่ ถูกพวกนั้นยึดด้วยรึ” รอนร้อง
“ชู่ววว เบาๆสิ มีที่ไหนจะปลอดภัยอีกมั่ง” เดรโกร้อง
“ไม่ใช่ที่นี่แน่” เฮอร์ไมโอนีใบหน้าซีดเผือด
“ฟังนะ ชั้นไม่คิดว่านี่เป้นเรื่องล้อเล่น ชั้นว่าตอนนี้ โวลเดอร์มอร์กำลังสนุกกับการฆ่าคน”แฮรรี่บอก”อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ ชั้นว่าที่ไม่มีคนเล่าให้ฟัง ทั้งซิเรียส รวมทั้งพ่อแม่นายด้วยรอนดูเหมือนพวกเขาพยายามจะไม่บอกอะไรพวกเรามากนัก ชั้นว่าเป้นเพราะ พวกเขาไม่อยากให้เรารู้เรื่อง”
“แต่ ทำไมเราต้องไม่รู้เรื่องล่ะ ” รอนถาม
“หรือว่า … เพื่อให้พวกเราไม่ไปเกี่ยวข้อง” เดรโกถาม
“ใช่ เป้าหมาย คงจะเป็นชั้น…” แฮรรี่ตอบ ฉฮรรี่พูดจบ ทุกคนก็อึ้งไปเฮือกใหญ่
“ไม่หรอกมั้ง แฮรรี่”รอนว่า
“เป้นงั้นได้ก็ดีสิ”แฮรรี่ตอบ แล้วทุกคนก็พากันเดินกลับไปตามที่ได้นักกันนายวีสลีย์ไว้ ระหว่างทาง แฮรรี่รู้สึก เสียวสันหลัง เขารีบหันกลับไปมอง้างหลังเขา แต่ก็ไม่มีอะไรอีกเช่นเคย เขาเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ปกติ แต่คงไม่ใช่โวลเดอร์มอร์ เพราะเขาไม่ได้เจ็บที่แผลเป็น
เมื่อเด็กๆกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นพวกเขาต้องกลับไปฮอกวอตส์ วันนี้พวกเขาเล่นควิดดิชกัน เพราะตอนนี้ แฮรรี่เป็นกัปตันทีมของบ้านกริฟฟินดอร์ และ เดรโกก็เป็นกัปตันบ้าน สลิธีลินเฮอร์ไมโอนีและจินนี่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในบ้าน บางทีก็จะคุยกันเรื่องที่พ่อกับแม่ปิดบังไว้ วันนี้เป้นวันที่ผ่อนคลายวันสุดท้ายก่อนต้องไปเผชิญเรื่องอันเลวร้ายที่ฮอกวอตส์
เช้าวันต่อมานายและนางวีสลีย์ไปส่งเด็กๆที่สถานีรถไฟ ก่อนรถไฟจะออก นายวีสลีย์ไม่ลืมที่จะเตือนพวกเด็กๆว่า
“ฟังนะ อย่าเข้าไปยุ่งในสิ่งที่รู้ว่ามันอันตราย และก็ระวังตัวให้ดีทุกคน” พูดจบ เสียงหวูดรถไก็ดังขึ้น เมื่อรถไฟแล่นไปลับตาแล้วนางวีลีย์ก็พูดว่า
“พวกเขา จะเป็นอะไรมั๊ยคะ”
“อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด พวกเราก็คุ้มครองเขาจนวินาทีสุดท้ายแล้ว”อาเธอร์พูด
ในรถไฟ เด็กทั้ง4นั่งตู้เดียวกัน แฮรรี่เล่าเรื่องที่ซิเรียสเขียนมา
“ทำไมนายถึงคิดว่าเป้าหมายคือนายล่ะ” เดรโกถาม
“ความรู้สึกน่ะ… ชั้นรู้สึกว่ามีคนจ้อง เป็นสายตาเยือกเย็น น่ากลัว จ้องชั้นอยู่”แฮรรี่บอก
“เธอหมายวามว่าไง” เฮอร์ไมโอนีถาม
“ไม่รู้สิ บอกไม่ถูกเหมือนกัน”แฮรรี่ว่า แล้วพวกเขาก็นั่งคุยกันเรื่องนี้พักใหญ่ทีเดียว จนกระทั่ง รถไฟได้มาถึง ฮอกวอตส์แล้ว
“เดี๋ยวเรามานะ ต้องไปทำหน้าที่พรีเฟ็ค” เดรโกว่าแล้วพลางเดินไปกันเฮอร์ไมโอนน เดรโกคอยคุมนักเรียนบ้านสลิธีลิน และเฮอร์ไมโอนีก็คุมนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์เมื่อทุกคนเข้าไปในปราสาทแล้วแน่นอน เจ้าพีฟฟ์ไม่อยู่เฉยแน่ มันเสกหัวกระโหลกใส่เด็กปี1และปี2 ทุกคนส่งเสียงกรีดร้อง ทำให้พีฟฟ์รู้สึกสนุกจับใจ
“หยุดนะ พีฟฟ์!!!” เสียงศ.มักกอนากัลตะโกนมา “ถ้าไม่หยุด ชั้นจะเอาเรื่องนี้ไปบอก ฟิลล์” เมื่อนั้นพีฟฟ์ก็หยุดเสกกระโหลก แล้วเด้งไปเด้งมาหายไป
“เดี๋ยวเราจะทำการคัดสรรเด็กปีหนึ่งเข้าบ้าน ทุกคนไปที่ห้องโถงใหญ่ด้วย” ศ.มักกอนากัลบอก แล้วเดินนำเด็กปี1ไปเมื่อถึงเวลาหมวกวิเศษก็ทำการคัดสรรเด็กปี1 จากนั้นศ.ดัมเบิลดอร์ก็กล่าวเปิดการศึกษาใหม่
“ยินดีต้อนรับกลับมาอีกปีหนึ่งในฮอกวอตส์แห่งนี้ ชั้นเชื่อว่า ทุกคนคงได้ยินข่าวมาบ้างไม่มากก็น้อยในเรื่องของโวเดอร์มอร์ ชั้นขอย้ำว่าเราจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด แต่กระนั้นก็ขอให้นักเรียนดูแลตัวเองด้วย อย่าไปไหนคนเดียว และด้วยเหตุนี้ รร.จึงมีมาตรการใหม่ซึ่งจะใช้ตั้งแต่วันนี้ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ คือนักเรียนทุกคนต้องกลับเข้าหอพักของแต่ละบ้านภายในเวลา 18.00น. หากฝ่าฝืน มีโทษสถานหนัก เมื่อทราบตรงกันแล้ว ก็ขอให้ทุกคน สนุกกับมีการศึกษาใหม่นี้” เมื่อกล่าวจบ อาหารมื้อใหญ่ก็ปรากฎขึ้นมากมายบนโต๊ะ
“โอยยยชั้นหิวจนตาลายแล้ว” รอนบอก
“เธอก็หิวตลอดเวลาอยู่แล้วนี่”เฮอร์ไมโอนีย้อนเมื่อทานอาหารเสร็จ ทุกคนก็กลับหอพัก ก่อนกลับหอพัก เดรโกก็มาหาเฮอร์ไมโอนี
“ระวังตัวหน่อยนะ” เดรโกบอก
“ไม่เป็นไรหรอกน่า…ถ้าอยู่ในหอพัก ไม่มีใครเข้าไปได้หรอก”เธอบอก พลางหอมแก้มเดรโก “ชั้นไปก่อนนะ”
“เอ่อ..อืม..”เด็กหนุ่มตอบกลับ จากนั้นทั้ง2ก็แยกไปรวมกลุ่มกับบ้านตัวเอง
“เหอะ..หวานซะไม่มี” รอนทำท่าเลี่ยนๆ
“เรื่องของชั้น” เธอตอบกลับ
คืนนั้น แฮรรี่ นอนไม่หลับเอาซะเลย เขารู้สึกว่าอันตรายกำลังใกล้ตัวเค้าเข้าทุกที เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่พวกแฮรรี่กำลังกินข้าวเช้า เรโกก็เดินเร่งเข้ามาหา
“เฮ้ เฮอร์ไมโอนี ได้เดลี่พรอเพ็ตยัง?” เดรโกถามพลางนั่งลงที่โต๊ะกริฟฟินดอร์
“ยัง ทำไมหรอ”เธอถามขณะทานข้าวโอ๊ตต้มอยู่
“ดูนี่ อัซคาบันแตก...!!!!พวกผู้ก่อการร้ายกำลังระดมพลกัน พวกเขาคาดว่าเป็นฝีมือของคนภายใน”เขาบอกอย่างเร่งรีบ
“ว่าไงนะ!!” ทั้ง3ร้อง “แต่ที่ว่าคนภายใน…” รอนสงสัย
“พวกนั้นเชื่อตามฟัดจ์น่ะสิ ฟัดจ์น่ะไม่ยอมรับว่าโวลเดอร์มอร์คืนชีพ” แฮรรี่บอก
“งั้นนี่ก็ฝีมือ…” รอนถาม “ใช่ …คนที่รู้ว่าใคร” เดรโกตอบ หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวก็เริ่มแพร่สะพลัด เด็กๆเริ่มแตกตื่น “รีบเข้าชั้นเรียนเถอะ วันนี้พวกเราต้องเรียน วิชาดูแลสัตว์วิเศษใช่มั๊ย” เฮอร์ไมโอนีพูดพลางลุกขึ้น
เมื่อไปถึงกระท่อมแฮกริด วันนี้เขาสอนการดูแลตัว วอยเลอร์ มันเป็นสัตว์เชื่องช้า แต่สามารถพ่นไฟได้ เด็กๆทั้ง4คน ไปคุยกับแฮกริดเรื่องที่พวกเขารู้สึกไม่ค่อยดี
“ดัมเบิลดอร์จะไม่ปล่อยให้พวกเธอเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เธอ แฮรรี่”แฮกริดพูด
“เพราะผมเป้นไพ่ตาย งั้นรึฮะ” แฮรรี่ถาม “อะไรคือไพ่ตาย..” รอนถาม
“เฮ้อ…เพราะเธอ..แฮรรี่ เธอมีพลังที่น่าอัศจรรย์เธอหนีรอดเงื้อมือของเขามาได้ครึ้งนึงใช่มั๊ย…ชั้นเกรงว่า เธอ..เอ่อ..ชั้นหมายถึงว่า เธอจึงเป็นกุญแจสำคัญไงล่ะ” แฮกริกว่า”ชั้นว่าเราอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ เอาเป็นว่า เธอต้องดูแลตัวเองให้ดี ทุกคน…” แฮกริดพูดแล้วลุกไปเดินดูเด็กคนอื่นที่กำลังเลี้ยงตัววอยเลอร์
“อีกแล้ว พวกเขากำลังปิดบังอะไรแน่” รอนว่า เมื่อจบวิชานี้ พวกเขาก็เดินไปเรียนวิชาถัดไปจนเย็นแล้วพวกเขาก้มาเจอกันที่ห้องโถงใหญ่
“จริงสิ แฮรรื่ อาทิตย์หน้า เราต้องแข่งควิดิชกันนะ ” เดรโกบอก
“จริงสิ ชั้นลืมสนิทเลย…ให้ตายสิ เป้นกัปตันนี่มันวุ่นวายชะมัด ดีนะที่เฟร็ดกับจอร์จเลือกคนเล่นเป็นบีตเตอร์ไว้แล้ว” แฮรรี่บอก เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จพวกเขาก็ต้องกลับเข้าหอพัก
“ให้ตายสิ กลับหอพักเร็วๆนี่น่าเบื่อชะมัด” รอนว่า
“แล้วเฮอร์ไมโอนีล่ะ ไม่เห้นตั้งแต่ตอนแยกไปเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์แล้วนี่…” แฮรรี่ถามอย่างกังวลนิดๆ
“อ๋อ ไม่ต้องห่วง ตะกี๊เดรโกบอกว่าเขาอยู่ห้องสมุด เขากำลังจะไปรับพอดี”รอนว่า
“งั้นก็แล้วไป” เมื่อแฮรรี่กับรอนเดินไปถึงรูปสุภาพสตรีอ้วน ก็พูดรหัส “เปิดเดี๋ยวนี้นะ เจ้าอ้วน” แล้วรูปภาพก็เลื่อนเปิด “ให้ตายสิ จะตั้งรหัสให้ดีกว่านี้ไม่ได้รึไงนะ” สุภาพสตรีอ้วนพูดอย่างหงุดหงิด
“ถ้าคุณจะว่าก็ต้องไปบอกศ.มักกอนากัลนะครับ เพราะเฮอร์ไมโอนีบอกว่าศ.เป็นคนตั้ง” แฮรรี่บอกก่อนจะเดินเข้าไปในโถงกริฟฟินดอร์….


In the end ตอนที่5

พอแฮรรี่กลับเข้าหอพักไม่ทันไร เฮอร์ไมโอนีก็ลอดช่องรูปภาพเข้ามา พร้อมหนังสือกองเท่าภูเขา
“เฮอร์ไมโอนี ไม่เป็นอะไรนะ” แฮรรี่ถาม
“นี่เธอ ชั้นแค่ไปห้องสมุดเท่านั้นเองนะ” เธอบอก
“ไม่บอกก็รู้” รอนพูดพลางมองกองหนังสือที่เฮอร์ไมโอนีแบกมา
“อ๋อ งั้นหรอ ช่วยไม่ได้ ยิ่งเวลาแบบนี้ยิ่งต้องฝึกเวทย์มนต์เยอะๆ เผื่อไว้คราวจำเป็น” พูดจบเธอก็เดินขึ้นหอพักเธออย่างไม่พอใจเท่าไร
เช้าวันต่อมา เฮอร์ไมโอนีเดินไปทานข้าวเช้าที่โต๊ะกริฟฟินดอร์ (มีเดรโกนั่งด้วย) เธอดูเพลียๆ โทรมๆ
“เฮอร์ไมโอนี เป็นอะไรน่ะ” รอนถามอย่างเป็นห่วง
“อ๋อ ปล่าวหรอก ชั้นแค่ไม่ได้นอนเท่านั้นเอง” เธอตอบ
“อย่าหักโหมนักซี่” เดรโกว่า
“อืม ไม่เป็นไร ชั้นรู้สึกว่ามันจำเป็นน่ะ ก็เลยฝึกถึงเช้า ” เธอตอบ
“งั้น ยังไงก็อย่าฝืนมากนักก็แล้วกัน ” เดรโกบอก
“เฮ้ ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว วันนี้ชม.ศ. เสนปด้วยนะ” แฮรรี่เตือนเพื่อนๆ
“จะว่าไปนะ เดรโก รู้สึกว่าปีนี้ กริฟฟินดอร์จะเรียนกับสลิธีลินแทบทุกคาบเลยนะ ไม่ใช่นายใช้อำนาจพรีเฟ็คเพื่อจะอยู่กับเฮอร์ไมโอนีหรอกนะ” รอนถาม
“หึๆ แล้วแต่จะคิดนะ” เดรโกยิ้มเยาะแล้วเดินไปหาเฮอร์ไมโอนี
“เชื่อเขาเลย” รอนร้อง ขณะที่ทั้ง4กำลังเดินข้ามหอคอยไปยังคุกใต้ดิน ก็เกิดลมกรรโชกพัดมา
“ว้าย!!” เฮอร์ไมโอนีร้องเมื่อทำหนังสือหลุดมือเนื่องจากแรงลม แฮรรี่และเดรโกช่วยกันก้มเก้บ แต่จุ่ๆรอนก็เดินไปทางระเบียงท่าทางเหม่อลอย
“รอน .. จะไปไหนน่ะ”แฮรรี่ถาม
แต่ว่ารอนไม่ตอบกลับเขาเดินไปหยุดที่ระเบียง แล้วจู่ๆเขาก็หล่นวูบตกลงจากระเบียง
“รอน!!!!!!” ทั้ง3รีบวิ่งมาที่ระเบียงและชะเง้อดูข้างล่าง
“วินเดอ..อาราเคิล!!!” เฮอร์ไมโอนีตะโกนร้องพลางชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่รอนที่หล่นลงไปเกือบจะถึงพื้นเพียงไม่กี่ฟุต ทันใดนั้นสายลมก็มารวมตัวที่รอน แล้วค่อยๆประคองตัวเขาลงกับพื้น เด็กทั้ง4รีบวิ่งลงไปด้านล่าง ท่ามกลางเสียงตื่นระหนกของเด็กๆคนอื่นที่ผ่านไปมา ศ.สเนปวิ่งออกมาถามเด็กบ้านสลิธีลินแถวนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น
“มีคนตกจากระเบียงค่ะ คนที่อยู่บ้านกริฟฟินดอร์” เด็กสลิธีลินพูด ไม่รอช้า เสนปรีบวิ่งลงมาดู
“รอน!! เป็นอะไรรึเปล่า” แฮรรี่ร้องถาม
“นี่…ชั้นเป็นอะไร..แล้วทำไมพวกนายต้องมามุงชั้นด้วย” รอนถาม
“นี่นายตกลงมาจากระเบียงนะ” เดรโกว่า
“หา ? ชั้นจะหล่นลงมาจากระเบียงได้ไงในเมื่อชั้นไม่รู้เรื่อง”รอนว่า คำพูดของรอนทำให้เด็กทั้ง3มองหน้ากันอย่างงงๆ แล้วเสนปก็ตะโกนมาจากข้างหลังว่า “เป็นไงกันบ้าง”
“เอ่อ..ศ.คะ จะพาเขาไปห้องพยาบาลก่อนได้มั๊ยคะ”เฮอร์ไมโอนีว่า
“แค่วีสลีย์เท่านัน แล้วพวกเธอก็รีบกลับมาเรียนด้วย” เขาพูดจบแล้วก้เดินจากไป
เมื่อไปถึงห้องพยาบาลแล้ว พวกแฮรรี่ก็กลับมาเรียนระหว่างทางพวกเขาก็คุยกัน
“ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ”เฮอร์ไมโอนีพูดอย่างใส่อารมณ์เล็กๆ
“ดูก็รู้ เหมือนว่าตอนนั้นรอนขาดสติ” เดรโกว่า
“นายจะบอกว่า…คาถาสะกดใจรึ” แฮรรี่ถาม
“มันก็เป็นไปได้นี่นา เพราะนายก็รู้ว่าเขาคือใคร”เดรโกตอบกลับ
“ยังไงก็ตาม ชั้นว่าช่วงนี้ดูยังไงก็ชักจะไม่ดีแน่ๆ อย่าห่างกันเลยนะพวกเราน่ะ” แฮรรี่ว่าแล้วทั้ง3ก็เดินไปยังคุกใต้ดิน ในขณะที่เดรโกทำสีหน้ากังวลเล็กน้อยเหมือนมีอะไรอยู่ในใจแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วเดินตามทั้ง2ไป
เมื่อจบวิชาปรุงยา พวกเขาก้รีบไปหารอนแล้วพวกเขาก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้รอนฟัง
“งั้นหรอ ชั้นไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยนะ” รอนว่า เกิดความเงียบขึ้นกับเด็กทั้ง4
“เอาเถอะ ยังไงพวกเราก็ระวังๆไว้หน่อยก็แล้วกันนะ”เฮอร์ไมโอนีพูดขณะที่ทั้ง4เดินออกจากห้องพยาบาล
“พวกนายกลับไปกันก่อนมั๊ย ชั้นกับเดรโกว่าจะไปซ้อมควิดดิช” แฮรรี่ถามรอน
“ไม่เป็นไร ชั้นก็อยากจะดูเหมือนกัน จริงมั๊ย” รอนตอบพลางหันไปถามเฮอร์ไมโอนีซึ่งเธอก็พยักหน้ารับ
เด็กทั้ง4จึงไปที่สนามซ้อม เฮอร์ไมโอนีนั่งอ่านหนังสือเล่มโตที่เธอยืมมาจากห้องสมุดเมื่อวาน ส่วนรอนก็ตั้งหน้าตั้งตาดูเพื่อนของเขาซ้อมควิดดิช จนกระทั่งเย็น
“นี่…ชั้นว่าเราควรจะกลับได้แล้วนะ นี่มัน5โมงครึ่งแล้ว” เฮอร์ไมโอนีตะโกนบอกแฮรรี่และเดรโก
ทั้งสองจึงค่อยๆนำไม้กวาดลงมาถึงพื้น แล้วทุกคนก็พากันกลับหอพัก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เด็กชายทั้ง3ทานอาหารเช้า เฮอร์ไมโอนีก็เดินมาร่วมโต๊ะ ท่างทางเธออ่อนเปรี้ยเพลียแรง
“เฮอร์ไมโอนี ชั้นบอกแล้วไงว่าอย่าหักโหม…” เดรโกว่า
“ชั้นไม่เป็นไร ขอบใจที่เป็นห่วง ”เฮอร์ไมโอนีบอก
“นี่ถามจริงเถอะ เธอนอนดึกทำอะไรงั้นรึ” รอนถาม
“เขาฝึกคาถาขั้นสูง” เดรโกบอก
“ศ.มักกอนากัลบอกให้ชั้นลองฝึกดู เพราะมันคงจะมีประโยชน์กับชั้นบ้างในสถานการณ์อย่างนี้” เธอบอก
“ถึงไงเธอก็ไม่ควรหักโหมนะ” เดรโกพูด “อืมมม รู้แล้วน่า” เธอตอบยิ้มๆ ไม่ทันไรนกฮูกตัวหนึ่งก็บินมาเอาเดลี่พรอเพ็ตมาส่งให้เฮอร์ไมโอนี พวกเขารีบอ่านทันที
“พระเจ้าช่วย…” เธอร้อง “มีข่าวว่า นักโทษที่แหกคุกอัซคาบันทุกคนประกาศเข้ากับโวเดอร์มอร์แล้ว”
“ว่าไงนะ !!!” ทั้ง3ร้องพลางฉกนสพ.ไปจากเฮอร์ไมโอนี
“เสียมารยาทจริงนะพวกเธอ” เธอบ่นแต่ก็ไม่ได้แย่งกลับคืนมา
“ลางไม่ดีแล้วสิ” แฮรรี่ว่า
“โวลเดอร์มอร์เข้มแข็งขึ้นมากเลยนะเนี่ย” รอนร้องออกมา
“ชั้นไม่ได้หมายความอย่างงั้น แต่ชั้นคิดว่าถ้ามันรวมพรรคพวกเสร็จ มันคงจะมาจัดการที่ฮอกวอตส์แน่ๆ”แฮรรี่ว่า
ทำให้ทั้ง3คนถึงกับนิ่งอึ้งไป แล้ววันนี้พวกเขาก็นั่งคุยเรื่องนี้เกือบทั้งวันเพราะว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ จะมีก็แต่เฮอร์ไมโอนีกับเดรโกที่แยกตัวไปห้องสมุดในตอนบ่าย
“ชั้นรู้สึกเสียวๆไงไม่รู้สิ ” เธอร้องด้วยเสียงสั่นๆ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ชั้นจะอยู่กับเธอนะ” เดรโกพูดปลอบพลางมองไปในดวงตากลมโตของเธอ แล้วเขาก็ค่อยๆโน้มตัวมาและจูบลงที่ปากสีชมพูของเฮอร์ไมโอนี
“บ้า…เวลาแบบนี้ยัง..” เฮอร์ไมโอนียังพูดไม่ขาดคำ เดรโกก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด
“ชั้นไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรแน่” เดรโกพูดน้ำเสียงฟังดูเอาจริงเอาจัง ตอนนี้เขาเหมือนเป็นกังวลอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
“เดรโก …เป็นอะไรไปน่ะ” เธอถามอย่างงงงัน แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด……

In the end6

ในวันรุ่งขึ้น ทุกคนลงมาทานข้าวในห้องโถงใหญ่เดลี่พรอเพ็ตยังคงลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องของนักโทษที่แหกคุกอัซคาบันได้ ซึ่งเป็นที่ฮือฮาในหมู่นักเรียนด้วย
“วันนี้มีแข่งควิดดิชนี่นา”รอนถาม
“อืม กริฟฟินดอร์กับสลิธีลิน” แฮรรี่ตอบ ไม่ทันขาดคำศ.มักกอนากัลก็ประกาศให้นักกีฬาไปเตรียมตัวแล้วไปรวมที่สนาม แฮรรี่และเดรโกจึงขอตัวไปก่อน เฮอร์ไมโอนีและรอนก็รีบกินข้าวเพื่อจะไปจองที่บนอัฒจรรย์
เมื่อใกล้จะถึงเวลาแข่ง คนเริ่มเยอะขึ้น
“แหมม ชั้นจะเชียร์ทีมไหนดีนะ ใครจะชนะก็ดีทั้งนั้นเลย” เฮอร์ไมโอนีพูดยิ้มๆ
“แหวะ..” รอนอุบอิบคนเดียวแต่ก็ไม่พ้นที่เฮอร์ไมโอนีจะได้ยินและมองตาขวางมาทางเขา แล้วก็ถึงเวลาเริ่มการแข่งขัน นักกีฬาทั้ง2ทีมลงสู่สนาม มาดามฮูซก็ลงมาเพื่อเปิดเกมการแข่งขัน ลูกควัฟเฟิลถูกโยนขึ้นเป็นสัญญาณเปิดการแข่งขัน ทันใดนั้นเองผู้เล่นทั้ง2ฝ่ายก็เข้าไปแย่งลูกทันที ทีมของสลิธีลินยังคงเล่นสกปรกเหมือนเดิม ยกเว้นเดรโกคนเดียว เริ่มเล่นเกมไปไม่กี่นาที สลิธีลินก็นำไปก่อน 10-0 เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นทั้งสนาม จากนั้นไม่นาน กริฟฟินดอร์ก็ตีตื้นเป็น 10-10 ตอนนี้ลูกควัฟเฟิลยังคงถูกส่งไปส่งมาอยู่กลางสนามโดยไม่มีใครระวังตัว ลูกบลัดเจอร์ก็พุ่งไปชนกับผู้เล่นกริฟฟินดอร์คนนึงอย่างแรง ทำให้เขาร่วงหล่นลงมาจากไม้กวาดนอนจุกอยู่กับพื้นจึงเป็นโอกาศดีที่สลิธีลินจะทิ้งแต้ม แล้วก็เขาไปอีกลูก สลิธีลินพลิกกลับมานำแล้ว ทันใดนั้น แฮรรี่และเดรโกก็เห็นแสงสีทองเล็กๆส่องประกายออกมา ไม่รอช้า ทั้ง2 รีบบึ่งไม้กวาดของตนไปทางนั้นทันที ลูกสนิชสีทองอยู่ไม่เกินเอื้อม แต่ทันใดนั้น ไม้กวาดของแฮรรี่ก็ผิดปกติ มันสายไปส่ายมา สะบัดแฮรรี่จนปลิวแต่แฮรรี่ยังเกาะไม้กวาดไว้ได้ ไม่นานนัก ไม่กวาดของผู้เล่นทุกคนในสนามก็เป็นแบบเดียวกัน
“เกิดอะไรขึ้น!!!” เฮอร์ไมโอนีร้อง
“มะ..ไม้กวาดพยศรึ!!?” รอนตอบกลับ เกิดความวุ่นวายขึ้นในกลุ่มคนดูและผู้เล่นในสนาม ไม่เว้นแม้แต่ในกลุ่ม อาจารย์
“ไม้กวาดพวกนั้นเริ่มพยศแรงขึ้นแล้วนะ”รอนว่า ไม่ขาดคำ เด็กบ้านสลิธีลินก็ร่วงลงจากไม้กวาด และอีกหลายๆคนก็เริ่มร่วงลงมาด้วย
“ไปกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนีตะโกนบอกพลางคว้าแขนรอนมาด้วย
“ไปไหน!!!” รอนถาม แต่เฮอรืไมโอนีไม่ตอบ ทั้ง2วิ่งมาจนถึงขอบสนาม ทันใดนั้น แฮรรี่ก็ถูกเหวี่ยงตกจากไม้กวาด แต่เดรโกก็เข้าไปรับไว้ได้พอดีไม้กวาดเดรโกยิ่งสะบัดแรงขึ้นอีกเมื่อแฮรรี่พยายามปีนขึ้นมาบนไม้กวาดด้วย
แฮรรี่คว้าไม้กวาดเดรโกไว้ได้ แต่เดรโกเสียหลักนิดนึง ไม้กวาดจึงดีดตัวขึ้น แฮรรี่และเดรโกร่วงลงกับพื้นทั้งคู่
“แซนด์ เอเนอร์ไมร่า” เฮอร์ไมโอนีตะโกนก้องพลางชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่ทั้ง2คน ทันใดนั้น ทรายที่อยู่ที่พื้นสนามก็พุ่งขึ้นกลางอากาศมาห่อหุ้มทั้ง2คนแล้วค่อยๆพาลงสู่พื้น แต่พอลงมาได้กลางทางดูเหมือนว่ามันจะรับน้ำหนักไม่ไหวทรายก็แตกออก ทั้ง2ร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว
“แฮรรี่!!…เดรโก!!!”รอนและเฮอร์ไมโอนีส่งเสียงร้อง แล้วทันใดนั้นก็เกิดเงาประหลาดสีดำพุ่งมาทางทั้ง2คนอย่างรวดเร็ว แล้วเงานั้นก็มาหยุดอยู่หน้ารอนและเฮอร์ไมโอนี
“คุณซิเรียส!!” รอนร้อง”คุณมานี่ได้ไง” ขณะที่เฮอร์ไมโอนีเข้าไปพยุงเดรโกและแฮรรี่ ให้นั่งลงกับพื้น
“เรื่องนั้นไว้ก่อน ฝาก2คนนั้นด้วย ชั้นต้องไปช่วยพวกเด็กก่อน” ซิเรียสพูดแล้วก็รีบหันกลับไป ในตอนนั้น ศ.ลูปินกำลังร่ายคาถาช่วยพวกเด็กๆที่ตกลงมาบาดเจ็บอยู่
“อูยยยย…เจ็บ ชะมัด” แฮรรี่ร้อง
“ไม่เป็นอะไรนะแฮรรี่” รอนถาม “อืมมม ไม่เป็นไร ” แฮรรี่ตอบกลับ
จากนั้นไม่นาน ดัมเบิลดอร์ก็ร่ายคาถาให้ไม้กวาดกลับสู่สภาพเดิม เด็กทุกคนถูกพามาไว้ข้างสนาม เพื่อเตรียมพาไปห้องพยาบาล แต่แล้วก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง บรรดาอาจารย์ต่างตกใจกับเรื่องประหลาดนี้
“ศ.ดัมเบิลดอร์…นี่มัน” เสนปพูด
“อืม ..คงจะใช่ล่ะนะ เซเวอรัส”ดัมเบิลดอร์พูดอย่างใจเย็น
เสียงกรีดร้องจากเด็กๆดั งไปทั่วสนามควิดดิช อัฒจรรย์ที่สร้างจากเวทย์มนต์พังครืนลงมา อัฒจรรย์อันหนึ่งพังลงมาตรงที่พวกแฮรรี่ ซิเรียสรีบเข้ามาช่วย
“ริดดิคูรัส” ซิเรียสร้อง เกิดแสงสีขาวพุ่งไปที่อัฒรรย์ที่ล้มลงมา แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ มีชิ้นส่วนหนึ่งพุ่งมาทางเฮอร์ไมโอนี
“กรี๊ดดดด” เธอร้อง แต่เดรโกพุ่งตัวเข้าไปบัง “ฉึก!!” เศษแหลมเสียบเข้าไปที่หลังของเดรโก เลือดท่วมหลัง
“เดรโก!!!!” เฮอร์ไมโอนีร้องน้ำตาคลอเบ้า “ทำใจดีๆไว้” เธอเขย่าเดรโก
“โอ๊ยยยยัยบ๊องงงส์ ถ้าเธอยังเขย่าชั้นอีกชั้นตายแน่ๆ” เดรโกร้องแต่มีเลือดไหลออกมาทางปากของเขา
“ขอ..ขอโทษ เธอโอเคนะ ชั้นจะรีบพาไปห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ” เธอร้อง ขณะที่ซิเรียสและแฮรรี่กับรอนวิ่งเข้ามาดู “อย่าเพิ่งไปตอนนี้ดีกว่า นี่มันยังอันตรายอยู่ ”ซิเรียสบอก ทันใดนั้น ดัมเบิลดอร์ที่เริ่มร่ายคาถาสะกดแผ่นดินไหวอยู่นานก็ร้องขึ้น “ฟินิอูล คาราโอลลา เดวาเอนอฟ!!!!!” แล้วพื้นดินก็เกิดแสงสว่างขึ้น และก็เริ่มสงบลง เด็กๆถูกพาไปยังห้องพยาบาลรวมทั้งแฮรรี่กับเดรโกด้วย เด็กคนอื่นๆได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก จะมีที่บาดเจ็บหนักก็คือเด็กปี4บ้านกริฟฟินดอร์ที่เป็นบีตเตอร์เคราะห์ร้าย โดนลูกบลัดเจอร์เข้าท้องไปเต็มๆและยังโดนเสาอัฒจรรศ์หล่นมาทับอีก ทำให้กระดูกซี่โครงหักหลายซี่ กับเดรโกที่โดนชิ้นส่วนเสียบเข้าที่หลัง เด็กคนอื่นๆเมื่อได้รับการรักษาก็พากันกลับ เหลือแต่เด็กกริฟฟินดอร์ และเดรโก มาดามพรอมฟรีย์บอกให้คนอื่นๆรออยู่ด้านนอกขณะที่เธอเข้าไปรักษาทั้ง2คนข้างใน มีเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่ข้างใน โดยเฉพาะเสียงของเดรโกที่บาดเข้าไปในหูของเฮอร์ไมโอนี
“เป็นเพราะชั้นแท้ๆเลย…” เธอร้องขณะนั่งคอยอยู่ด้านนอกน้ำตาไหลอาบแก้ม
“จะบ้าหรอ ไม่เกี่ยวกะเธอซักหน่อย” รอนบอก
“นั่นสิ อย่าโทษตัวเองเลย เฮอร์ไมโอนี” แฮกริด ที่มาเป็นเพื่อนบอก
เวลาผ่านไปจนเกือบเย็น มาดามพรอมฟรีย์ก็ออกมา พวกแฮรรี่กรูกันเข้าไปถามอาการของทั้ง2คน
“เขา2คนโอเคดี ต้องให้พักผ่อนที่ห้องพยาบาลอีกซัก2-3วันก็โอเคแล้ว พวกเธอเข้าไปเยี่ยมอย่านานนักล่ะ คนเจ็บต้องการพักผ่อน” มาดามพรอมฟรีย์พูดจบก็เดินไป เด็กๆจึงเข้าไปดูอาการ
“ชั้นขอตัวไปดูเด็กก่อนนะ” แฮรรี่บอก ด้วยเพราะเขาเป้นกัปตันทีม จึงต้องไปเยี่ยมลูกทีมด้วย
“เดรโก…เป็นไงบ้าง” เฮอร์ไมโอนีวิ่งไปนั่งอยู่ข้างเตียงเขา
“อืมมม ไม่เป็นไร เจ็บนิดหน่อย” เขาตอบ
“หึ ถ้าแค่นี้ไม่ไหวก็เสียท่าหมดสิ จิงมั๊ยเจ้าหัวทอง” รอนพูดแหย่
“อิจฉาหรอไงที่เฮอร์ไมโอนีคอยเป้นห่วงชั้น เจ้าหัวแดง” เดรโกแหย่กลับ
“หา? อิจฉากะผีน่ะสิ ”รอนว่า แล้วทั้งหมดก็พากันหัวเราะ แล้วแฮกริดก็บอกให้ทุกคนกลับหอพักได้แล้ว เพราะเย็นมากแล้วด้วย
“แล้วชั้นจะมาเยี่ยมใหม่นะ” เฮอร์ไมโอนีบอก
“อืม ระวังตัวล่ะ” เดรโกว่า แล้วทั้งหมดก็พากันออกจากห้องพยาบาลไป…



In the end7

ในคืนนั้น ขณะที่เดรโกอยู่ในห้องพยาบาล เขาก็ต้องสะดุ้งตื่น เมื่อเขารู้สึกว่ามีอะไรอยู่ที่เหนือหัวของเขา เขาลืมตาขึ้นแล้วก็ต้องตกใจ
“เฮือก!!! เข้ามาได้ไงน่ะ” เขาพูดกับนกฮูกของเขาที่เกาะอยู่เหนือหัวเขา มันมีจม.ผูกมากับขา เดรโกแกะออกมาอ่านในนั้นมีข้อความว่า
ถึงเดรโก
ได้ข่าวว่าลูกได้รับบาดเจ็บ คงไม่เป็นอะไรมากนะ พรุ่งนี้พ่อจะไปที่รร. เพราะพรุ่งนี้ดัมเบิลดอร์นัดให้พ่อช่วยไปทำภารกิจบางอย่าง เพราะอย่างนั้น พ่ออาจจะไม่ได้ติดต่อกับลูกอีกพักใหญ่ ไงๆก็ระวังหน่อย ฟังนะ อยู่ห่างแครบ กับกอยล์ไว้ แล้วก็เรื่องที่ลูกเคยมาปรึกษาพ่อเรื่อง มิส เกรนเจอร์ ถึงพ่อจะห้ามลูกยุ่งกับพวกเลือดสีโคลนแต่ลูกคงไม่ยอมฟังใช่มั๊ย แล้วลูกจะถามพ่อทำไม เอาเป็นว่าตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็ยังอยู่ในข่ายอันตราย หาทางแก้เอาเองละกัน ถ้าลูกต้องการช่วยผู้หญิงนั่นแล้วก็ระวังตัวนะ เท่าที่พ่อสืบรู้ อีกไม่นาน โวลเดอร์มอร็คง
เริ่มลงมือแล้วล่ะ พวกนักโทษแหกคุกพวกนั้น มีข่าวมาว่าพวกนั้นแอบซุ่มอยู่แถวๆฮอกวอตส์รอคำสั่งอยุ่
จำไว้นะ อย่าอยู่ห่างจากเขตปราสาท…
รีบๆหายซะทีล่ะ ลูเซียส
“ฮึ ไอ้พ่อบ้า ทำเป็นพูด สุดท้ายก็อนุญาตให้คบกับเฮอร์ไมโอนีใช่มั๊ยล่ะ” เดรโกบ่นอุบอิบออกมา แล้วเขาก้เขียนจม.ตอบกลับไปให้พ่อเขา เมื่อนกฮุกเขาบินจากไป ขณะที่เขาจะหลับตาลงนอน เขารู้สึกว่ามีอะไรจ้องเขาอยู่ แต่เมื่อเขามองไปรอบๆก็ไม่เห็นอะไร “ต้องมีอะไรเกิดขึ้นในเร็วๆนี้แน่ๆ”เขาคิด แล้วเขาก็ข่มตาหลับลง
เช้าวันถัดมาเฮอร์ไมโอนีตื่นตั้งแต่ยังไม่ไก่โห่ รีบไปมทานข้าวแล้ววิ่งไปหาเดรโกที่ห้องพยาบาล ระหว่างทางไปห้องพยาบาล จู่ๆก็มีลมเย็นยะเยือกพัดวูบเข้ามา เธอหันไปมองที่หน้าต่างอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ก็ไม่มีอะไร และเริ่มรู้สึกไม่ดี จึงรีบวิ่งไปหาเดรโก
“เป้นอะไรไป หอบแฮ่กเชียว”เดรโกถาม
“ดะ..เดรโก ตื่นอยู่หรอ” เธอเดินเข้ามาที่เตียง “ตะกี๊รู้สึกเหมือนถูกจ้อง…คงคิดไปเองมั๊ง” เดรโกได้ฟังก็อึ้งไป และคิดถึงข้อความในจดหมาย แต่เขาก็เก็บอารมณ์เอาไว้
“เดรโก เธอไม่เป็นไรนะ ชั้น..ขอโทษนะ ที่ทำให้เธอ…” เธอก้มหน้าพูด
“งั้นขออะไรอย่างสิ”เดรโกถาม
“เอ๋ ..” เธอพูดไม่ขาดคำ เดรโกก็ดึงเธอลงมาจูบอย่างอ่อนโน เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ เขาค่อยๆปล่อยเธอออก
“แค่นี้ไม่เท่าไรหรอก ชั้นจะอยู่ข้างๆเธอนะ อย่าคิดมากสิ” เขาพูดพลางปาดน้ำตาออกจากแก้มสีชมพูของเธอ
“ดี๋ยวเย็นนี้ชั้นจะออกจากห้องพยาบาลแล้วล่ะ ”เดรโกบอก
“เอ๋ แต่ว่าเค้าให้พักอีกซัก2-3วันไม่ใช่หรอ” เธอตอบ
“ต่อรองมาน่ะ ที่นี่มันน่าเบื่อ อีกอย่งชั้นมีเรื่องต้องทำ”เขาบอก
“เรื่องอะไร” เธอถาม
“คล้ายๆกับที่เธอฝึกคาถา แต่ชั้นจะต้องไปตามสืบเรื่งเจ้าแครบกับกอยล์หน่อย 2คนนั่น มันดูมีพิรุธน่ะ”เขาตอบ
“เดรโก ระวังตัวล่ะ เธอยังไม่หายดีนะ” เธอตอบ “เป็นห่วงหรอ” เดรโกแหย่
“บ้า” แล้วเธอก็โน้มตัวลงมาลมหายใจปะทะกัน ริมฝีปากใกล้กันเข้ามาเรื่อยๆ
“อะ-แฮ่ม เรามาผิดเวลามั้ง แฮรรี่” รอนพูดอย่างหน้าแดงๆ เดรโกและเฮอร์ไมโอนีรีบแยกออกจากกัน ทั้ง2หน้าแดงก่ำ เฮอร์ไมโอนีรีบบอกว่าเธอจะไปห้องสมุด แล้วก็เดินออกไปทันที
“ไง หายดีแล้วมั้ง ไอ้หัวทอง” รอนถาม
“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะรอน เดรโก นายมีเรื่องอะไรปิดบังเรารึเปล่า ชั้นเห้นนายแปลกๆไปนะ” แอรรี่ถาม
“อืม แต่ยังบอกไม่ได้หรอก เพราะยังไม่ชัวร์น่ะ แล้วชั้นจะบอกให้แน่นอน แต่ที่ชั้นอยากจะบอกไว้คือ ฟังนะ !!เฮอร์ไมโอนี อาจจะอยู่ในอันตราย อย่าปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียว” เดรโกบอก
“หมายความว่าไง” รอนถาม
“ยังบอกไม่ได้ พ่อติดต่อมาหาชั้น บอกว่าตอนนี้พวกนักโทษแหกคุกอยู่รอบๆรร.เรานี่แหละ” เขาบอก
“ว่าไงนะ งั้นที่รู้สึกเหมือนถูกจ้องก็…แล้วยังเรื่องรอนตกจากระเบียง”แฮรรี่ว่า
“อืม พ่อบอกว่าพวกมันได้รับคำสั่งให้มาก่อความวุ่นวาย แต่ถ้าโวเดอร์มอร์สั่งการใหญ่มา คงเริ่มลงมือกัน”เดรโกว่า “พวกดัมเบิลดอร์คงรู้กันแล้ว เห็นว่าเร็วๆนี้จะมีประชุมใหญ่เพราะตอนนี้ซิเรียสกับศ.ลูปินก็มาแล้ว” แฮรรี่ว่า
“อีกไม่นาน แม้ดอายมู้ดดี้ กับอีกหลายคนคงกลับมา ” แฮรรี่พูดต่อ
“ไงๆนายก็รีบๆหายล่ะ เราต้องไปเข้าเรียนแล้ว” รอนบอก แล้วพวกแฮรรี่ก็เดินออกไป
เย็นวันนั้นเดรโกก็ออกจากห้องพยาบาล แล้วเหตุการณ์ก็สงบไปอีกพักใหญ่ จนพวกนร.เริ่มตายใจ เพราะหลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย นั้นก้ผ่านมา2เดือนกว่าแล้ว
แล้ววันฮาโลวีนก็ใกล้จะมาถึง
“ฟังทางนี้นักเรียนทุกคน พรุ่งนี้เป็นวันฮาโลวีน อย่างที่รู้ เราจะมีปาร์ตี้แฟนซีกัน เพราะฉะนั้น พรุ่งนี้เราจะไม่มีการเรียนการสอน และให้ทุกคนไปหาซื้ออุปกรณ์ทำชุดที่ฮอกมี้ดส์ ”ดัมเบิลดอร์พูดจบก็เกิดเสียงเฮขึ้น
“เฮ้ เราจะทำชุดอะไรกันดี”รอนถาม
“อืม ชั้นจะทำเข้าชุดกับโชเค้านะ โทษทีนะเพื่อน”แฮรรี่ว่า
“ชั้นก็เหมือนกัน เธอก็ไปถามปัทมาสิรอน”เฮอร์ไมโอนีเสริมแบบยิ้มๆ
“พวกนายนี่ ให้ตายสิ งี้ทุกที”รอนบ่นอุบ
“อ๊ะ!! เดรโกนี่ เดี๋ยวชั้นมานะ ”เฮอร์ไมโอนีบอกพลางวิ่งไปหาเดรโกที่เดินกับพวกบ้านสลิธีลิน
“มาพอดีเลยเฮอร์ไมโอนี ไปฮอกมีดส์กับชั้นนะ ”เดรโกพูดพลางเข้าไปหาเฮอรืไมโอนีที่เดินมาหา
“อืม ชั้นก็จะมาชวนเหมือนกัน”เฮอร์ไมโอนีบอก แล้วเดรโกก็เดินเข้ามาหาพวกแฮรรี่(จูงมือเฮอร์ไมโอนีมาด้วย)
แล้วพาพวกแฮรรี่เดินหลบพวกสลิธีลินไปจนถึงสวนด้านข้างปราสาท
“ฟังนะ อย่าพยายามอยู่ใกล้แครบกับกอยล์นะ เท่าที่ชั้นสืบดู เหมือนกับ2คนนั่นจะเป็น..ผู้เสพความตาย”เดรโกบอกคำพูดนั้นทำให้พวกแฮรรี่อึ้งไปพักนึง
“จริงรึ..แต่2คนนั่นดูไม่เห็นมีพิษสงอะไรเลย”รอนร้อง
“ชั้นก็ไม่รู้ แต่ว่าตอนมัน2คนจะอาบน้ำชั้นแอบเห็นนะ เป็นรอยสักที่หัวไหล่ เหมือนกับรอยที่พวกผู้เสพความตายใช้ แต่มันเห็นไม่ชัด ชั้นไม่แน่ใจเท่าไรแต่ระวังไว้ดีกว่า” เดรโกบอก
“ชั้นว่ามันคงไม่มีอะไรมั้ง นี่มันก็ผ่านมาตั้ง2เดือนแล้วนะ”รอนว่า
“ขอให้เป็นงั้นเหอะ ชั้นเองก็ยังรู้สึกไม่ดีเท่าไรเลย”แฮรรี่ว่า ในขณะที่ทั้ง4คนคุยกัน หารู้ไม่ว่าพวกเขาถูกมองผ่านกระจกรูปจันทร์เสี้ยวของดัมเบิลดอร์ ซึ่งจ้องมองมาทางพวกเขาด้วยใบหน้าบอกไม่ถูกแต่หากเขาไม่สามารถที่จะเอ่ยปากออกมาได้ -- - - - - - - - - - - -


In the end 8

เมื่อถึงวันไปเที่ยวฮอกมี้ด พวกแฮรรี่แยกกันไปกับคู่ของตนเพื่อไปหาซื้ออุปกรณ์สำหรับงานแฟนซี และได้นัดเจอกันที่ร้านไม้กวาดสามอัน พวกเขาต่างเลือกซื้อของอย่างสนุกสนาน แฮรรี่ไปกับโช รอนไปกับปัทมา ส่วนเฮอร์ไมโอนีไปกับเดรโก
“เฮอร์ไมโอนี” เดรโกเรียกเธอขณะที่เธอกำลังเลือกซื้อของอยู่
“มีอะไรหรือ”เธอหันมาถามและยิ้มให้
“เอ้า..นี่ ใส่ติดตัวไว้นะ” เขาตอบพลางใส่สร้อยให้เธอ มันเป็นสร้อยสีเงินที่มีรูปนกอินทรีโอบลูกแก้วสีนวลเงินไว้ลูกเล็กๆ “มันจะช่วยเตือนภัยเธอได้”เขาพูดอีกครั้ง
“หมายความว่าไงน่ะ” เธอถาม
“อืมม ไม่รู้สินะ แต่ชั้นรู้สึกทะ***ๆ เมื่อตอนวันเกิดแฮรรี่ชั้นให้จี้คล้ายๆกันนี่กับแฮรรี่ มันเป็นจี้เตือนภัยน่ะ แล้วชั้นรู้สึกเป็นห่วงเธอน่ะก็เลยเอาให้เธอด้วย”เดรโกตอบ
“แต่ว่าเรื่องมันก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วนะ” เธอตอบ
“ชั้นรู้สึกว่าเรื่องมันยังไม่จบ ชั้นเคยคุยกับแฮรรี่เหมือนกัน แฮรรี่บอกว่า มันอาจเป็นกับดักให้เราตายใจ”เขาว่า
“อืม ยังไงก็ขอบใจนะที่เป็นห่วง” เธอกล่าวขอบคุณ แล้วทั้งสองที่ซื้อของเรียบร้อยก็เดินไปที่นัดพบที่ร้านไม้กวาดสามอัน เมื่อถึงร้าน แฮรรี่กับโชมายืนรออยู่ก่อนแล้ว
“มาเร็วจังแฮรรี่ หวัดดีค่ะโช จบไปแล้ว เป็นไงบ้างคะ” เฮอร์ไมโอนีกล่าวทักทายโช
“อ๋อ คือวันนี้ที่มานี่ก็มาคุยกับศ.ดัมเบิลดอร์น่ะเรื่องที่จะมาเป็นอาจารย์ที่นี่ แล้วแฮรรี่ก็ชวนมาฮอกมีดส์พอดี”เธอกล่าวแบบยิ้มๆ “แต่เดี๋ยวชั้นก็ต้องกลับแล้วล่ะ เพราะว่าต้องไปพบศ.ดัมเบิลดอร์ด้วย”
“แล้วจะมางานแฟนซีมั๊ยคะ”เธอถามต่อ
“อืมมม แน่นอนซิ ”โชตอบ
“แฮรรี่ รอนยังไม่มารึ”เดรโกถาม “อืมม หมอนี่ก็งี้แหละ”แฮรรี่ตอบ ไม่ขาดคำรอนก็วิ่งหอบแฮ่กมาคนเดียว
“อ้าวรอน ปัทมาล่ะ” เฮอร์ไมโอนีถาม
“อ๋อ เขากลับไปแล้ว ปาราวตีเรียกกลับน่ะ” รอนบอก แล้วโชก็พูดขึ้นบ้าง “งั้น ชั้นขอตัวกลับก่อนนะ”
“โชคดีครับ /ค่ะ” ทุกคนกล่าวลาโช จากนั้น พวกเขาก็เดินไปคุยไปเรื่อยๆจต้องหยุดอยู่ที่ซอกๆหนึ่งเมื่อได้ยินเสียงแครบกับกอยล์และใครอีกคนหนึ่ง พวกแฮรรี่เดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อให้ได้ยินที่พูดกัน
“ตกลงนายจัดการกับดัมเบิลดอร์แล้วใช่มั๊ย” กอลย์ถาม
“ชั้นไม่รู้ มันไม่ใช่หน้าที่ชั้น” เสียงแหบๆหนึ่งพูดขึ้น
“เมื่อไรจะเริ่ม”แครบถามบ้าง
“คืนวันฮาโลวีน ”เสียงแหบๆพูดอีกครั้ง “อย่าทำเสียแผน ล่อมันออกมาให้ได้”
“แกร๊บบบบบ” เสียงถุงกระดาษกระทบกันดังออกมาจากมือรอน ทำให้พวกแครบและกอยล์ตะโกนออกมา
“ใครอยู่ตรงนั้น!!!!!!!!!” พวกแฮรรี่ไม่รู้จะทำยังไงดี ชายเสียงแหบพูดออกมาว่า “ชั้นจัดการเอง” เสียงฝีเท้าของเขาใกล้เข้ามาพวกแฮรรี่ได้ยินเสียงควักไม้กายาสิทธิ์ออกจากเสื้อคลุมดัง “สวบ” ทันใดนั้น ร็อกเก็ตของ
แฮรรี่ก็ส่องประกายสีฟ้าสดออกมา และสร้อยที่เดรโกให้เฮอร์ไมโอนีก็ส่องประกายสีเขียวมรกต นั่นเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา
“ทำ…ไงดี….” รอนร้อง ทั้ง4คนตัวสั่นเทาทันใดนั้น แฮรรี่ก็นึกขึ้นได้ เขาหยิบลูกอมที่เฟร็ดกับจอร์จให้ขึ้นมา และล้วงเอาลูกสีม่วง สีเทา และสีน้ำตาลออกมา แฮรรี่อมลูกอมสีม่วงและให้รอนอมลูกอมสีน้ำตาล และเดรโกอมสีเทา แฮรรี่เริ่มพูดออกมาว่า
“อ้าววว ศ.เสนป ไม่นึกว่าคุณก็มาด้วย”ใช่แล้วมันเป็นเสียงศ.มักกอนากัลนั่นเอง แล้วแฮรรี่ก็สะกิดให้เดรโกพูด เขาจึงพูดด้วยคำพูดเคร่งขรึมให้เหมือนเสนปว่า “อ้อ…ศ.มักกอนากัล ผมมาซื้อของสำหรับวันฮาโลวีนคุณเองก็คงทำยังงั้นแน่ใช่ไหมครับ…แล้วคุณ….”เดรโกพูดให้เหมือนว่ามีอีกคนหนึ่งยืนอนู่ด้วย แน่นอนเพราะเขาคือรอน แต่เขายังไม่รู้ว่ารอนจะพูดเป็นเสียงใครจึงไม่ได้พูดชื่อออกมา
“อ้อ ศ.เสนป ผมเองก็มาหาซื้อของแน่นอน จะสะดวกไหมถ้าเราจะไปนั่งที่ร้านไม้กวาดสามอันกัน”เสียงแฮกริดนั่นเอง แล้วพวกเขาก็ทำเสียงให้เหมือนมีคนเดินจากไป พวกเขาทั้ง4เหงือแตกพลั่ก แล้วรู้สึกตัวอีกทีพวกแครบกอยล์ก็หายไปจากซอกนั้นแล้ว
“เป็นไปตามที่แฮรรี่คิดเลย มันยังไม่จบ” เดรโกว่า
“โชคดีที่เฟร็ดกับจอร์จให้ของนี่มา ”แฮรรี่ว่า
“แล้วที่ว่าจะจัดการดัมเบิลดอร์ล่ะ” เฮอร์ไมโอนีถาม
“เราต้องรีบไปเตือนศ.ดัมเบิลดอร์”แฮรรี่บอก
“ยังไงล่ะ ดัมเบิลดอร์ออกไปพบพวกซิเรียสนอกฮอกวอตส์ตั้งแต่เมื่อเช้าจะกลับมาก็วันฮาโลวีน”เฮอร์ไมโอนีว่า
“แล้วที่พวกนั้นว่าจะทำอะไรวันฮาโลวีน”รอนพูด
“ไม่รู้สิ พวกเรามแต่ต้องระวังตัวเท่านั้น โดยเฉพาะเธอเฮอร์ไมโอนี”แฮรรี่บอก
“ชั้นสงสัยมาตั้งนานแล้ว พวกเราโดนเล่นงานมาหมดแล้ว เหลือแค่เธอ ถ้าหากพวกนั้นจ้องจะเล่นงานชั้น เพื่อนสนิทอย่างพวกเธอคงไม่รอดมันด้วย ”แฮรรี่ว่า
“แต่ทำไมเฮอร์ไมโอนียังไม่โดน”รอนถาม
“เพราะเฮอร์ไมโอนีเป้นผู้หญิงไง”เดรโกตอบ
“หา???”คำตอบนั่นทำให้รอนยิ่งงงเข้าไปใหญ่ “ไม่เข้าใจรึไง ทึ่มจริงนานยนี่”เดรโกว่า
“ฟังนะ เพราะเฮอร์ไมโอนีเป็นผู้หญิง เราจึงไม่ค่อยปล่อยเขาไปไหนคนเดียวแล้วยิ่งรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดกับชั้นชั้นต้องระวังให้เพื่อนๆมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะเฮอร์ไมโอนี แล้วพอพวกเราโดนกันครบแล้ว ก็ยิ่งระวังมากขึ้น การที่มันวางมือไปทำให้พวกเราละเลยการระวังตัว แล้วมันก็จะกลับมาอีก ”แฮรรี่บอก
“แต่กะอีแค่พวกเรา จะหนักหนาแค่ไหนกับผู้เสพความตายพลังมากกว่าเราตั้งเยอะ” รอนถาม
“ชั้นไม่รู้ แต่เอาเป้นว่าตั้งแต่นี้ไป อย่าอยู่คนเดียวเด็ดขาด โดยเฉพาะเธอ เฮอร์ไมโอนี” แฮรรี่ว่า
“อืมมม”เธอตอบด้วยเสียงสั่นเทา แล้วเดรโกก็เอามือโอบไหล่เธอไว้เป็นเชิงปลอบ
“ไม่ต้องกลัวน่า เราจะอยู่กับเธอด้วย” แฮรรี่บอก…


In the end 9

เช้าวันต่อมา แน่นอน วันฮาโลวีนนั่นเอง นักเรียนต่างหมกมุ่นกับการทำชุดงานแฟนซี พวกแฮรรี่ลงมากินข้าวเช้ากันเหมือนปกติแต่ดูเหมือนรอนจะไม่ปกติ
“ชั้นไปก่อนนะ” รอนบอก หลังจากกินข้าวเช้าอย่างเร่งรีบแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“รอนเขาเป็นอะไรน่ะ”เฮอร์ไมโอนีมองตามรอนอย่างงงงันแล้วก็หันไปถามแฮรรี่
“อ๋อไม่มีไรมากหรอก เมื่อคืนเค้าทำชุดแฟนซีผิดพลาดน่ะ เลยจะรีบไปแก้ แบบว่าร่ายคาถาพลาดน่ะ”แฮรรี่ตอบพลางยักไหล่ แล้วพูดต่อว่า “แล้วเธอล่ะ”
“ชั้นเสร็จแล้วล่ะ แต่เดี๋ยวจะไปถามเดรโกเรื่องชุดเหมือนกัน จะได้แต่งรายละเอียดให้เข้ากัน”เธอตอบยิ้มๆ
แฮรรี่มองเธอที่ยิ้มอย่างเขินๆแล้วเขาก็พูดอะไรบางอย่างออกมา
“ชั้น…ชอบเธอนะ…” แฮรรี่พูดเบาๆ นั่นทำให้เฮอร์ไมโอนีหันมามองหน้าแฮรรี่อย่างรอดเร็วด้วยสายตางงเป็นอย่างมาก เธอพูดอะไรไม่ออกด้วยความตกใจ
“เอ้อ..ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอตกใจหรอก แต่ว่า คือว่า…ชั้นพูดจากใจจริงนะ…ชั้นคิดจะตัดใจหลายครั้ง แต่ว่าชั้นทำไม่ได้น่ะ…เธอคงไม่เชื่อชั้น เราะวาชั้นเคยชอบโชมาก่อนแต่ว่า..ชั้นก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร..เอ่อ…”แฮรรี่พูดแล้วก็เกิดความเงียบขึ้น “ช่างมันเถอะ อย่าใส่ใจเลย” แฮรรี่พูดขึ้น
“เฮอร์ไมโอนี!! ไงแฮรรี่… เฮอร์ไมโอนี มานี่สิชั้นกะลังจะไปหาเธออยู่พอดี” เดรโกร้องเรียก
“อืมมม” เธอตอบกลับแล้วก็หันมามองแฮรรี่อย่างไม่กล้าสบตา “แฮรรี่ ..ชั้นขอโทษนะ แล้วก็ขอบคุณที่เธอรู้สึก…เอ่อ กับชั้น แต่ว่าชั้นมีเดรโกแล้วน่ะ…เธอคงเข้าใจ…ชั้นไปก่อนนะ”เธอตอบแล้วรีบวิ่งไปหาเดรโก
แฮรรี่มองดูทั้ง2คนเดินไปจนออกจากห้องโถงใหญ่ไป เขาจึงเดินกลับไปที่ห้องเพื่อช่วยรอนแก้ชุดแฟนซี
เฮอร์ไมโอนีและเดรโกเดินไปถึงริมทะเลสาบเฮอร์ไมโฮนีเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊ให้เดรโกฟัง
“อืมมม บอกแล้วหรอ” เดรโกพูดพลางถอนหายใจ
“นี่เธอรู้อยู่แล้ว…?!”เธอหันมาถาม
“อืม รู้ตั้งนานแล้วล่ะ นานมาก รู้สึกว่าสายตาเขาเริ่มเปลี่ยนจากโชแชงมาที่เธอ”เดรโกตอบแล้วก็เกิดความเงียบขึ้น “ช่างเถอะ อย่าคิดมากเลยนะ”เดรโกว่า
“ว่าแต่ชุดแฟนซีน่ะ….”แล้วทั้ง2ก็เริ่มคุยเรื่องชุดแฟนซีต่อไป
เมื่อค่ำแล้วงานแฟนซีก็เริ่มขึ้น ….เด็กๆบางคนยังคงแต่งตัวไม่เสร็จรวมทั้งแฮรรี่กับรอนด้วย รอนยังคงแต่งตัวอยู่ เขาแต่งเป็นแดร็กคิวล่า ในชุดดำที่มีผ้าคลุมสีแดง แต่ดูสะดุดตาที่หน้ากากประหลาดของเขาที่แบ่งครึ่งหน้าเป็นสีเงินกับอีกครึ่งหนึ่งเป็นสทอง และมีเขี้ยวด้วย ส่วนแฮรรี่ที่แต่งตัวเสร็จแล้ว เขาดูดีในชุดโจรสลัดที่มีเสื้อคลุมขาดๆสีน้ำตาล กางเกงขายาวและบู๊ทคู่ใหญ่ กับหมวกปีกกว้างของเขา แขนข้างหนึ่งเขาติดตะขอเข้าไปด้วย
“เฮ้รอน ชั้นว่าเราควรจะรีบลงไปได้แล้วนะ” แฮรรี่ว่า แล้วทั้ง2ก็ลงไปที่ห้องนั่งเล่นบ้านกริฟฟินดอร์ ที่นั่นเฮอร์ไมโอนียืนรอเขออยู่แล้ว เธอดูสวยราวกับเทพธิดา เธอแต่งชุดราตรีสีฟ้าอ่อน เนื้อผ้าพริ้วเบาส่องประกายระยิบระยับ ผมของเธอเหยียดตรงเธอรวบไว้ด้านข้างติดดอกไม้เล็กๆมากมายดูน่ารัก แซมด้วยไหมสีเงินเป็นประกาย เธอใส่สร้อยที่มีรูปมังกรที่อุ้มลูกแก้วที่เดรโกให้มา ใช่เลย เธอแต่งเป็นธิดาน้ำแข็งนั่นเอง
“โหหหห ไม่นึกว่าเป้นเธอเลยนะนี่” รอนทัก
“ขอบใจรอน พวกเธอก็ดูดีเหมือนกัน”เธอตอบ แต่เมื่อเธอมองไปทางแฮรรี่เธอก็รีบหลบสายตาทันที
“ไปกันเหอะ”รอนว่าแล้วก็เดินนำไป
“ขอโทษที่ทำให้เธอลำบากใจ…”แฮรรี่ว่าพลางมองไปที่เฮอร์ไมโอนี
“อืมม ชั้นไม่เป้นไร”เธอพูดแล้วยิ้มให้แฮรรี่ นั่นทำให้แฮรรี่รู้สึกดีขึ้นทันที เมื่อทั้งหมดไปถึงโถงใหญ่ เดรโกที่อยู่ในชุดสีฟ้าเข้มกว่าเฮอร์ไมโอนียืนรออยุ่ เขาดูดีมาก เขาใส่ผ้าคลุมสีขาวเนื้อผ้าพริ้วเบาเหมือนชุดเฮอร์ไมโอนี ทำให้ทั้ง2ดูเข้ากันมาก “ช้าจริงนะพวกนายนี่”เดรโกว่า
เมื่อดัมเบิลดอร์กล่าวเปิดงานจบทั้งหมดก็สนุกกับการเต้นรำ และดื่มบัตเตอร์เบียร์ บางคนก็แต่งชุดให้เข้ากัน
เป็นกลุ่ม พวกบ้านฮัฟเฟิลพัฟบางคนแต่งเป็นมัมมี่กลุ่มใหญ่กำลังแข่งกันดื่มบัตเตอร์เบียร์อยู่ พวกสลิธีลินกลุ่มนึงแต่งเป็นผู้คุมวิญญาณคอยแกล้งเด็กปี1เดรโกและเฮอร์ไมโอนีออกมาที่ระเบียงที่ไม่มีคน
“วันนี้…เธอ..น่ารักดีนะ”เดรโกบอกพลงหน้าแดงเป็นมะเขือ
“ขอบใจ เธอก็เหมือนกัน” เธอยิ้มตอบ แล้วเดรโกก็เอามือของเขามาจับที่หน้าของเฮอร์ไมโอนี เขาโน้มตัวลงมาแล้วกระซิบ “ชั้นไม่ยกเธอให้แฮรรี่หรอก เธอเป็นคนสำคัญของชั้น…” แล้วเขาก็จูบลงที่ปากสีชมพูของเฮอร์ไมโอนี
ชุดราตรีของทั้ง2สะท้อนแสงจันทร์ในคืนวันฮาโลวีน เดรโกโอบเธอไว้ในอ้อมแขน แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องครวญคราง และเสียงร้องที่น่ากลัวราวกับจะฆ่าทุกสิ่งที่ผ่านมา ดังก้องมาจากป่าต้องห้าม เด็กทุกคนรวมทั้งบรรดาอาจารย์ต่างตกใจกลัว เด็กๆกรีดร้องกันยกใหญ่
“เกิดอะไรขึ้น สัตว์ในป่าต้องห้ามอาระวาดรึ” รอนร้อง
“เฮอร์ไมโอนีกับเดรโกไม่อยู่”แฮรรี่พูดจบทั้ง2ก็ออกตามหา
ทางด้านเดรโก จู่ๆก็มีชายที่ใส่เสื้อคลุมดำโผล่มา พร้อมเสียงร้องที่เย็นยะเยือก “คึคึคึ…”
“แก…ผู้เสพความตายสินะ”เดรโกพูด “เฮอร์ไมโอนี..หนีไปซะ…ชั้นจะไม่ให้แกแตะเฮอร์ไมโอนีแม้แต่ปลายก้อยเลย” เดรโกพูด
“ไม่!!ชั้นไม่ทิ้งเธอหรอก เธอเพิ่งหายบาดเจ็บจากควิดดิชนะ” เธอร้อง
“เอมอร์รุส โททารัส!!!” ผู้เสพความตายร้องพลางชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่เดรโก แสงสีม่วงพุ่งมาที่เขาทันที
“ชีลดาเรเคิล!!” เดรโกพูด ทันใดนั้นก็มีกำแพงแสงสีขาวขึ้นมาป้องกันเขาจากแสงสีม่วงที่พุ่งมาแต่กำลังของเดรโกไม่พอกับกำลังของผู้เสพความตาย กำแพงแตกออก เขาโดนเวทย์มนต์เข้าไปอย่างจัง ตอนนี้เขามีเลือดไหลออกมาจากไหล่ของเขา
“เดรโก!!!” เฮอร์ไมโอนีร้อง ทันใดนั้น ผู้เสพความตายก็หันมาหาเฮอร์ไมโอนี ทำให้เธอยืนค้าง
“หนีไปซะเร็ว!! เป้าหมายมันคือเธอนะ” เดรโกร้องบอกในขณะที่เขาแทบจะหมดแรง ผู้เสพความตายพุ่งเข้าหาเฮอร์ไมโอนี เขาบีบคอเธอและยกขึ้นจนขาลอยสูงจากพื้น
“เอ็ดดิวิคูรอล!!!”แสงจากปลายไม้กายาสิทธิ์ของเดรโกพุ่งเข้ากลางหลังของผู้เสพความตายทำให้เขาหันมาทางเดรโกแล้วคลายมือเขาทิ้งเฮอร์ไมโอนีลงที่พื้น
“ออกห่างเธอซะ…ไอ้ปีศาจ”เดรโกพูด”ฟรายเรสฟิอัส!!” ลูกไฟพุ่งออกจากไม้กายาสิทธิ์เดรโกอีกครั้ง ผู้เสพความตายร้องโหยหวนเนื่องจากไฟที่เผาผลาญเขาอยู่ แล้วก็หายไป
“เฮอร์ไมโอนี…ไม่เป้นไรนะ”เขาเดินเข้ามาพยุงเธอขึ้น
“ไม่เป้นไร แต่เธอ…”เฮอร์ไมโอนีเริ่มน้ำตาคลอ
“ชั้นไม่เป้นไรน่า แค่ถากๆไหล่น่ะ ”
“แต่เลือดออกเยอะอย่างนั้น”เธอร้อง เดรโกเอามือปาดน้ำตาที่แก้มเธอแล้วพูดว่า”บอกแล้วไง..ว่าชั้นจะเป็นคนปกป้องเธอเอง ไม่มีวันให้ใครแตะหรอก” เขาพูดแล้วก็ล้มลง
“เดรโก!!!! ”เธอร้อง พอดีกับที่แฮรรี่และรอนมาถึง ทั้ง2รีบวิ่งมาหาเฮอร์ไมโอนี
“เกิดอะไรขึ้น!! เดรโก!!!”รอนร้อง
“ผู้เสพความตายมาที่นี่ …เขาช่วยชั้น…”เธอกล่าวแล้วเริ่มร้องไห้
“เรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะ พาเขาไปห้องพยาบาลก่อนเถอะ”แฮรรี่บอก………


In the end10

หลายเดือนต่อมา อาการบาดเจ็บของเดรโกก็หายดีแล้ว แต่ก็ทำให้พวกแฮรรี่ระวังตัวเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว
ใกล้จะคริสต์มาสแล้ว แน่นอนว่าแฮรรี่จะไม่กลับบ้าน เพราะฉะนั้น รอนจึงอยู่เป็นเพื่อนแฮรรี่ที่รร.
แต่เฮอร์ไมโอนีกับเดรโกต้องกลับบ้าน เดรโกขออนุญาติทางบ้านเขาเพื่อไปค้างบ้านเฮอร์ไมโอนีและคอยดูแลเธอ
และพ่อเขาก็อนุญาต
“ไงพวกเธอ…”แฮกริดเรียก
“หวัดดีแฮกริด” แฮรรี่ทัก
“กลับมาแล้วหรอฮะ”รอนถาม
“ช่าย แล้วรู้อะไรมั๊ย พ่อทูลหัวเธอก็มานะ”เขาบอก
“จริงหรือฮะ ตอนนี้เขาอยู่ไหน”แฮรรี่ถาม
“คงอยู่กับดัมเบิลดอร์มั้ง”แฮกริดตอบ
ไม่รอช้าแฮรรี่ก็ลาแฮกริดแล้ววิ่งไปหาพ่อทูลหัวเขากับเพื่อนๆ
เขาวิ่งไปที่ห้องศ.ดัมเบิลดอร์ “เดี๋ยวแฮรรี่ เธอมีรหัสผ่านหรอ”เฮอร์ไมโอนีถาม
ทันใดนั้นประตูก็เลื่อนเปิดเหมือนรู้ว่าพวกเขามา ทั้ง4ก้าวเข้าไปแล้วนั่น ซิเริยส แบล็ก รีมัส ลูปิน และศ.เสนป กับศ.มักกอนากัลอยู่ข้างใน แฮรรี่วิ่งไปกอดซิเรียสด้วความคิดถึง
พวกเขาพูดคุยกันเป็นการใหญ่แต่แล้วศ.ดัมเบิลดอร์ก็ขอให้พวกแฮรรี่ออกไปก่อนเพราะพวกเขากำลังประชุมกันอยู่ พวกแฮรรี่จึงเดินออกมา
“นายว่าพวกเขาคุยไรกัน“รอนถาม
“แหงสิ เรื่องคนที่รู้ว่าใคร ชั้นได้ข่าวมาว่าพวกมันยึดเอาอัซคาบันเป็นฐาน” เดรโกตอบ
“โห จะไหวมั๊ยเนี่ย ไปถึงอัซคาบัน”รอนร้อง
“ทำยังกะนายจะไป”เฮอร์ไมโอนีว่า
“ก็ไม่เสียหายนี่นา” รอนว่า
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันคริสมาสพวกเฮอร์ไมโอนีก็กลับบ้าน เดรโกบอกเธอว่าพรุ่งนี้เช้าเขาจะไปหาเธอที่บ้าน
เมื่อเฮอร์ไมโอนีกลับถึงบ้าน นายและนางเกรนเจอร์ก็ต้อนรับเธอกลับบ้านอย่างดี คืนนั้นครอบครัวเธอมีอาหารค่ำมื้อพิเศษฉลองวันคริสมาสต์ ค่ำคืนที่เงียบงันหิมะตกลงมาอย่างเงียบๆพร้อมกับความมืดที่ย่างกรายเข้ามา ตอนนั้นเอง เฮอรืไมโอนีได้ยินเสียงแปลกๆเธอจึงลุกมายืนดูที่หน้าต่างแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติแต่ด้วยสัญชาตญาณของแม่มด เธรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติเธอสั่นไปทั้งตัว หน้าซีดเผือด
“เฮอร์ไมโอนี เป็นอะไรไปจ๊ะ”นางเกรนเจอร์ถาม
“พ่อคะ..แม่คะ..ขออะไรอย่างได้มั๊ยคะ”เธอพูดแบบหวั่นๆ
“อะไรรึจ๊ะ?” นางเกรนเจอร์ถามตอบ
“ช่วยมาอยู่ใกล้ๆหนูตอนนี้เลยได้มั๊ยคะ ”เธอตอบหน้าเคร่งเครียดพลางดึงไม้กายาสิทธิ์ออกมา
“เฮอร์ไมโอนี..เกิดอะไรขึ้นรึลูก”นายเกรนเจอร์ถามบ้าง
“เอาเถอะค่ะ มาอยู่ข้างๆหนูเร็วเข้า!!” เธอเริ่มเหงื่อแตกพลั่ก นางและนายเกรนเจอร์ทำตามที่เธอขอแล้วเธอก็พูดต่อว่า “เอาล่ะ ออกมาเถอะ ชั้นรู้ว่าพวกแกมาที่นี่” เธอตะโกดังลั่นบ้านทันใดนั้นก็เกิดความเงียบและความรู้สึกสยดสยองขึ้น ผู้เสพความตาย2คนปรากฎขึ้น
“กรี๊ดดดดดดดด” นางเกรนเจอร์ร้องขึ้น
“ต้องการอะไร?”เฮอร์ไมโอนีพูดพลางกำไม้กายาสิธิ์แน่น เธอรู้ว่าในตอนนี้เธอต้องทำหน้าที่ปกป้องพ่อและแม่เธอ และต้องอดกลั้นความกลัวไว้
“หึหึหึ “เสียงแหบน่าสยดสยองดังออกมาภายใต้เสื้อคลุมสีดำสนิทแล้วร่างนั้นก็ยกไม้กายาสิทธิ์ขึ้นและร้องว่า
“อิมเพนทิเรีย!!!!” แสงสว่างวาบขึ้นมา ไม่รอช้า เฮอร์ไมโอนีร่ายคาถาตอบกลับ
“สเปียรีเทิร์นนอร์!!!!” แสงพุ่งออกจากไม้ของเธอพุ่งผ่านคาถาของผู้เสพความตายอย่างรวดเร็วทำให้คาถาของเผู้เสพความตายย้อนกลับหาตัวเองทำให้ได้รับบาดเจ็บและล้มลงทั้ง2คนแล้วเธอก็ร่ายคาถาต่ออีก
“อีไมเทอร์นอส!!” ทันใดนั้นทุกอย่างเหมือนเป็นภาพสโลโมชั่น เวลาช้าลง เธอตะโกนบอกพ่อกับแม่เธอให้หนีไปพร้อมวิ่งไปปล่อยครุกแชงก์ออกจากกรงแล้วให้ไปกับพ่อและแม่เธอ ก่อนจะปล่อยครุกแชงก์เธอมองตามันแล้วพูว่า “แกรู้..ว่าต้องทำอย่างไร ชั้นจะรอนะ!!” แล้วเธอก็พามันและพ่อกับแม่เธอออกไปจนถึงประตูหน้าบ้านแต่ทันใดนั้นผู้เสพความตายก็ร่ายคาถาปลดมนต์ของเธอ เธอจึงหันหลังกลับมาแล้วบอกพ่อกับแม่เธอว่า
“หนูรักพ่อกับแม่นะคะ รีบไปซะเถอะค่ะ” แล้วเธอก็ร่ายมนต์ “ฮอกวอตส์ ฟรายเลซ่า!!!” แล้วร่างของพ่อแม่และครุกแชงก์ก็เกิดประกายสีเหลืองเจิดจรัสและเหาะไปบนฟ้ามุ่งสู่ฮอกวอตส์อยาางรวดเร็ว
พ่อและแม่ส่งเสียงร้องโอดครวญหาเธอเพราะไม่ต้องการทิ้งเธอไปแต่สายไปแล้วร่างของพวกเขาเหาะลอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
“ขอให้เราได้เจอกันอีกนะคะ ”เธอพูดเบาๆพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเธอ เพราะเธอคิดไว้แล้วว่าเธอคงจะไม่รอดแน่ แต่เธอก็ยืนหยัดสู้กับผู้เสพความตายทั้ง2ที่ยกไม้กายาสิทธิ์ขึ้นมาสมานแผลตนเอง
เธอหลับตาลงแล้วตั้งจิตคิดถึงเดรโก “ช่วยด้วย !!!! เดรโก….” จากนั้นก็คิดถึงแฮรรี่
“แฮรรี่…ออกมาหน้าประตูใหญ่เร็ว!!!”
ทางด้านแฮรรี่ที่นั่งเล่นหมากรุกกับรอนอยู่ก็สะดุ้งขึ้น
“เป็นอะไรไปแฮรรี่ ตานายแล้วนะ”รอถาม
แฮรรี่หันซ้ายหันขวาไม่เห็นใครแล้วตอบว่า”ชั้นได้ยินเสียงเฮอร์ไมโอนี…”
“โธ่เอ๊ยแฮรรี่ อย่าว่าไง้นงี้เลยนะ ชั้นรู้นะว่านายอ่ะชอบเธออยู่แต่ว่าเขามีเจ้าของแล้วนะ ..”รอนว่า
แฮรรี่เงียบแป๊บนึงแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องนั่งเล่นทันที
“แฮรรี่จะไปไหนน่ะ!!”รอนถามแล้ววิ่งตามมา
“เสียงเฮอร์ไมโอนี ฟังดูเศร้าๆ เธอบอกว่าให้ไปที่หน้าประตูใหญ่”แฮรรี่บอกพลางวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
“หา???”รอนตอบด้วยความงงแต่ก็วิ่งตามไป แล้วทั้ง2ก็ชนกับซิเรียส
“นั่นเธอ2คนจะรีบไปไหน”ซิเรียสถาม
“แฮรรรี่น่ะฮะ เขาบอกว่าได้ยินเสียง”รอนตอบพลางหอบแฮ่ก
“เสียง?”ซิเรียสย้อน
“เฮอร์ไมโอนีฮะ เขาบอกให้ไปที่หน้าประตู ผมต้องรีบ”ว่าแล้วแฮรรี่ก็ออกวิ่งอีกครั้ง ทั้งซิเรียสและรอนก็วิ่งตามไป
แต่เมื่อไปถึงหน้าประตูก็ต้องตกใจเมื่อเห็นมักเกิล2คนนอนสลบอยู่หน้าประตูนั่นเพราะฮอกวอตส์มีคาถาป้องกันการลอบเข้ามา
“นั่นมัน คุณเกรนเจอร์!!!” รอนร้องเสียงสั่นด้วยความเหนื่อย แล้วข้างๆนั่นคือ แมวสีส้มมีหางเหมือนแปรงล้างวด ครุกแชงก์นั่นเอง มันเดินมาหาซิเรียสท่าทางกระสับกระส่ายแล้วก็ล้มลงหมดสติไป พวกแฮรรี่จึงรีบพาทุกคนไปห้องพยาบาล


In the end11

ทางด้านเดรโกที่กลับมาถึงบ้านแล้วขณะที่เขากำลังกินข้าวเย็นอยู่ เขาก็ได้ยินเสียง
“เดรโก ช่วยด้วย!!!…อันตราย …กำลังมา…รีบตามดัมเบิลดอร์เร็ว!!!”
นั่นเป็นเสียงที่คุ้นหูมาก ใช่แล้ว เสียงเฮอร์ไมโอนีแฟนเขานั่นเอง ไม่รอช้าเขารีบลุกไปที่ประตูทันที
“นิมบัส2001 แอ็กซีโอ!!!” เขาตะโกนร้องและรีบขี่ไม้กวาดออกไปทันที
ทางด้านแฮรรี่ที่กำลังเฝ้าพยาบาลนายและนางเกรนเจอร์อยู่ แฮรรี่คิดว่าต้องเกิดอะไรขึ้นกับเฮอร์ไมโอนีแน่ๆ แต่เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นขณะนั้นครุกแชงก์ก็ฟื้นขึ้น ไม่รอช้ามันรีบเข้ามาหาซิเรียสทันที มันคลอเคลีย พยายามบอกอะไรซักอย่าง ซิเรียสเปลี่ยนร่างเป็นสุนัขตัวใหญ่สีดำและเข้าไปคุยกับครุกแชงก์ แต่ไม่นานก็มีเสียงเคาะหน้าต่าง รอนและแฮรรี่หันไปมองทันที
“เดรโก!!! นายมาทำไรที่นี่ “รอนร้องเสียงหลง
“เปิดเร็วเข้า!!”เดรโกตะโกนอย่างไม่หายใจหายคอแฮรรี่รีบเดินไปเปิดหน้าต่าง
“เร็วเข้า เฮอร์ไมโอนีแย่แล้ว ”เดรโกร้อง
ซิเรียสเปลี่ยนร่างกลับเป็นเหมือนเดิมแล้วอุ้มครุกแชงก์ไว้ในมือ “เร็วเถอะ เฮอร์ไมโอนีถูกผู้เสพความตายจับไป”ซิเรียสบอก “ไม้กวาดแอ๊กซิโอ!!”
แล้วทั้งหมดก็ขึ้นไม้กวาดขี่ไปบ้านเฮอร์ไมโอนีทันที ระหว่างทางนั้น
“เกิดอะไรขึ้นน่ะเดรโก....” แฮรรี่ถามอย่างประหลาใจที่ได้เจอเดรโก
“อืม มีเรื่งนึงที่ชั้นยังไม่ได้บอกพวกนายให้รู้ คือ เฮอร์ไมโอนีเค้าฝึกคาถาจิตได้สำเร็จแล้ว พวกนายคงจำได้ ตอนต้นๆเทอมที่เค้าเพิ่งได้เป็นพรีเฟ็คน่ะ ที่ดูเค้าเพลียๆน่ะ ไม่ใช่เพราะทำหน้าที่พรีเฟ็คหรอก ความจริงเค้าแอบฝึกคาถานี่ตอนกลางคืนจนไม่ได้นอนน่ะ”เดรโกตอบ
“เรื่องสำคัญอ่ยางนี้ทำไมไม่บอกพวกเราล่ะ”รอนถาม
“เพราะเค้าไม่ยอมให้ชั้นบอกน่ะสิ เค้ากลัวพวกนายเป็นห่วง อีกอย่างชั้นเองก็คิดว่าเรื่องนี้มีคนรู้ยิ่งน้อยก็ยิ่งดี”
เดรโกตอบ
“ให้ตายสิ พวกนายนี่มัน....”รอนร้อง
“แล้วไงต่อ” แฮรรี่ถาม
“อืม เมื่อกี๊เฮอร์ไมโอนีเรียกชั้น บอกว่าให้รีบตามดัมเบิลดอร์ด่วน บอกว่าให้ช่วยด้วย อันตรายกำลังมา”เดรโกตอบท่าทางเคร่งเครียด
“งั้นเสียงที่ชั้นได้ยินเมื่อกี๊ก็เฮอร์ไมโอนีจริงๆน่ะสิ”แฮรรี่ถาม
“นายได้ยินหรอ” เดรโกถาม
“อืม เค้าบอกให้ชั้นออกไปหน้าฮอกวอร์ต พอพวกชั้นออกไปก็เจอครุกแชงก์กะพวกคุณเกรนเจอร์”แฮรรี่บอก
“ชั้นรู้สึกลางไม่ดีเลยแฮะ”รอนว่า
เมื่อไปถึง บ้านเกรนเจอร์ว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย
“เฮอร์ไมโอนี เธออยู่ไหน....เฮ้....” ทุกคนช่วยกันร้องเรียก
“ดูเหมือนพวกเราจะช้าไปแล้วล่ะ ดูนี่ ร่องรอยการใช้คาถา คงมีการต่อสู้กัน” ซิเรียสบอก
“หมายความว่า......”รอนร้องหน้าเสีย
“บ้าเอ๊ย !!!!!”เดรโกโกรธจัด เขาก้มหน้ลงคิดอยู่ในใจว่าขอให้เธอปลอดภัย
“ชั้นว่าเรากลับฮอกวอตส์ก่อนเถอะ แล้วชั้นจะรีบไปหาดัมเบิลดอร์เพื่อบุกรังพวกมันให้เร็วที่สุด แต่ชั้นบอกก่อนนะ ว่าเร่องนี้เราต้องใจเย็นๆ ถ้าเราเข้าไปไม่ระวัง จะเป็นการฆ่าตัวตาย”ซิเรียสบอก
จากนั้นทุกคนก็กลับฮอกวอตส์ ซิเรียสไม่รอช้าที่จะไปหาศ.ดัมเบิลดอร์ อาจารย์ทุกคนถูกเรียกไปยังห้องทำงานของดัมเบิลดอร์รวมทั้งนายอาเธอร์และนายลูเซียสก็ถูกเรียกมาด้วย พวกแฮรรี่เองก็ไปแอบฟังเหมือนกัน
“เราต้องรีบแล้วนะครับ ตอนนี้เด็กในรร.เราโดนมันทำร้ายมามากแล้ว”เสนปบอก
“ชั้นเห็นด้วยกับศ.เสนปนะอัลบัส”ศ.มักกอนากัลว่า
“ใจเย็นๆ มิเนอร์ว่า เซเวอร์รัส” ดัมเบิลดอร์พูด
“ชั้นรู้ดีว่าจะทำอะไร แน่นอน ชั้นตัดสินใจแล้วเราจะไปบุกอัซคาบันในวันพรุ่งนี้ วันนี้”
“งั้น ให้ผมไปบอกทางกระทรวงมั๊ยครับ” นายอาเธอร์กล่าว
“รบกวนด้วยล่ะ คุณอาเธอร์”ดัมเบิลดอร์ว่า “ขอให้ทุกคนเตรียตัวให้พร้อมด้วย”
พวกแฮรรี่เองก็ตกใจอยู่ไม่น้อยที่เรื่องราวกระทันหันขนาดนี้ แต่สองวันนั้นสั้นมาก ไม่นานนักก็ถึงเย็นวันที่สองแล้ว ดัมเบิลดอร์เหลืออาจารย์ไว้ดูแลโรงเรียนบ้าง คือ ศ.ฟลิกวิก ศ. ทรีลอนีย์ ศ.สเปราห์ ศเวกเตอร์ มาดามฮูซและมาดามพรอมฟรีย์ นอกนั้นให้ล่วงหน้าไปยังอัซคาบันเพื่อสำรวจพื้นที่พร้อมกับกระทรวงเวทมนต์ ตอนนี้นร.ทุกคนก็ล้วนแต่เข้าใจสถานการณ์ดี ทั้งห้องทำงานดัมเบิลดอร์ตอนนี้เหลือแต่ตัวดัมเบิลดอร์คนเดียว พวกแฮรรี่ รอน เดรโกจึงเข้ามา
“ศ. ครับ พวกผมอยากไปด้วยครับ” แฮรรี่พูดขึ้น
“ชั้นไม่ควรให้พวกเธอไป...” ดัมเบลดอร์หันมาพูดด้วย
“แต่ ศ.ก็รู้ว่าพวกราไม่ทิ้งเพื่อน” รอนบอก
“ชั้นเข้าใจ ...แต่ว่าชั้นยอมให้เธอไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้” ชายชราตอบ
“แต่ว่า..”แฮรรี่จะท้วงแต่เดรโกก็พูดแทรกขึ้มาก่อน
“ เรารู้ว่ามันอันตรายครับ และแค่ผู้เสพความตายคนเดียวเราอาจจะชนะไม่ได้ด้วยซ้ำ แตว่า ถึงยังงั้น ความรู้สึกอยากช่วยเฮอร์ไมโอนีมันรุนแรงกว่าครับ ถ้าพวกเราไม่ทำอะไรซักอย่างเราก็ไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว”
“ใช่ครับ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเฮอร์ไมโอนีละก็ พวกเราคงรู้สึกผิดตลอดกาลที่ไม่ได้ทำอะไรเลย”แฮรรี่บอก
“งั้นขอถามหน่อย ถ้าหากเธอช่วยเฮอร์ไมโอนีไม่ได้ เธอจะทำยังงัย “ ดัมเบิลดอร์ถาม
“ ไม่รู้สิครับ แต่อย่างน้อยเราก็ทำได้ดีที่สุดแล้ว” รอนตอบเสียงเข้ม
“การต่อสู้ครั้งนี้สาหัสนัก เธอแน่ใจหรือว่าเธอจะกล้ายืนหยัดสู้ ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเธอไม่ได้ไปเล่นๆ” ดัมเบิลดอร์ถามกลับ
“ศ.คิดว่าพวกผมจะต้องถ่อไปเล่นกันถึงอัซคาบันรึครับ “ แฮรรี่ถามกลับ
จนถึงตอนนี้ดัมเบิลดอร์ก็ยิ้มออกมาแล้วบอกว่า” พวกเธอโตขึ้นจนเข้มแข็งแล้วจริงๆ”
“ตกลง ชั้นจะพาพวกเธอไปด้วย “ ว่าแล้วเขาก็เดินมากอดพวกเด็กๆ แล้วอุบอิบบางอย่างทันใดนั้นเด็กๆก็รู้สึก เหมือนถูกดูดอย่างแรงแล้วพอพวกเขารู้สึกตัว เขาก็มาอยู่บนชายฝั่งแห่งหนึ่ง ไม่แปลกใจเลยว่าตะกี๊พวกเขาได้หายตัวมาแน่นอน แฮรรี่เห็นเกาะอยู่กลางทะเล บรรยากาศอึมครึม
“นั่นล่ะ อัซคาบันล่ะ” ดัมเบิลดอร์ตอบ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _


In the end 12
รอบอัซคาบันเต็มไปด้วยความวุ่นวายเล็กๆของพวกคนในกระทรวงเวทย์มนต์ ที่คอยสอดส่องดูลาดเลา ปฏิบัติหน้าที่ของตน แล้วก็มีเรื่อเล็กๆลำหนึ่งแล่นตรงมาทางพวกเขา มีชายสองคนอยู่บนนั้น เมื่อเรือเข้าใกล้ แฮรรี่เห็นว่าชายทั้งสองคือมือปราบมารนั่นเอง เขาตะโกนบอกทุกคนว่า “ ผมคิดว่าถ้าจะบุกตอนนี้ก็คงเหมือนๆกัน เพราะผมลองดูรอบๆแล้วไม่มีใครเลยซักคน นี่อาจเป็นกับดัก” ชายคนนั้นพูดกับทุกคนแล้วดัมเบิลดอร์ก็เดินเข้ามาพร้อมด้วยพวกเด็กๆแล้วพูดขึ้นว่า “ โวลเดอร์มอร์คงรู้อยู่แล้วว่าพวกเราจะมา ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้ และชั้นจะแปลกใจ ถ้าเขาไม่รู้” ชายชรากล่าว
“ ดัมเบิลดอร์ นี่คุณคงไม่คิดจะมาสู้กับปีศาจร้ายในตำนานโดยที่มีเด็กๆเกาะตามมาด้วยตั้งสามคนหรอกนะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นพลางเดินก้าวมาที่พวกเขา คอนีเลียส ฟัดจ์นั่นเอง
“ ไม่หรอก คอนีเลียส พวกเค้าเป็นกุญแจสำคัญ อย่าลืมว่าคุณพอตเตอร์ เคยชนะโวลเดอร์มอร์มาแล้ว” ดัมเบิลดอร์พูดอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร “ผมว่าเรารีบไปกันดีกว่านะ จะไปตอนไหนก็เหมือนกัน เพราะโวลเดอร์มอร์ก็รู้อยู่แล้วว่าเรามา ถ้าเรายังชักช้า ผมเกรงว่าตัวประกันอาจจะไม่ปลอดภัย” ดัมเบิลดอร์พูดพลางเดินไปที่เรือเล็ก
“ตัวประกันงั้นหรือ? “ ฟัดจ์พูดอย่างสงสัยพลางมองมาที่เด็ก
“ อ๋อ เฮอร์ไมโอนีถูกจับไปน่ะครับ คุณคงยังไม่รู้ “ เดรโกพูดพลางส่งสายตาน่ากลัวไปทางฟัดจ์ เป็นเชิงว่า “ชาตินี้คุณคงไม่สนใจใครนอกจากตัวคุณเอง”
ทุกคนลงเรือเล็กมุ่งหน้าไปยังอัซคาบัน ไม่นานนัก พวกเขาก็นำเรือจอด อัซคาบัน ใหญ่โตกว่าที่เด็กๆคิดไว้มาก
มันเป็นเหมือนป้อมปราการขนาดยักษ์ที่มีป่ารายล้อมอยู่รอบนอกบรรยากาศชวนขนลุกน่าขยะแขยง กลิ่นเหม็นสาบอบอวลไปทั่วจนรอนเกือบจะอ้วกออกมา
“ ให้ตายสิ ที่นี่สุดจะทนจริงๆ” รอนพูดพลางเบ้ปากด้วยความรังเกียจที่นี่เต็มกลืน ดัมเบิลดอร์เรียกให้ทุกคนมารวมกัน
“ผมอยากให้เราแบ่งเป็นกลุ่มๆเข้าไป เพราะที่นี่ใหญ่มาก เราไม่รู้ข้อมูลภายในมากนักด้วย แล้วมันคงดีกว่าถ้าเราแยกกัน ถ้าหากเราเสียท่าจะได้ไม่โดนจับหมด เอาเป็นว่า กลุ่มแรก ผมขอให้ ซิเรียส กับรีมัส เข้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนกำลังเสริมคุณก็เลือกไปกันเองละกัน ส่วนคุณ ลูเซียส กับเซเวอรัส แล้วก็มู้ดดี้ ผมอยากให้คุณเข้าทางทิศใต้ ทางนั้นพวกคุณคงรับศึกหนักหน่อย ผมอยากให้คุณช่วยดึงกำลังไว้ให้มากที่สุด จะไหวรึเปล่า?” ดัมเบิลดอร์ถาม “ แน่นอน ศ.ดัมเบิลดอร์ เราไหวแน่นอนครับ “ เสนปตอบเสียงเด็ดขาด
“งั้นก็ดี ส่วนมิเนอร์ว่า แฮกริด แล้วก็อาเธอร์ ผมอยากให้คุณดูแลส่วนที่เป็นบริเวณป่าทั้งหมด พยายามจัดการพวกหลบๆซ่อนๆ แล้วคอยติดต่อกับทางกระทรวงและทางฮอกวอตส์ไห้ดี ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราจะได้ขอกำลังเสริมได้ทัน ส่วนผม จะไปกับ คอนีเลียส และพวกด็กพวกนี้ ทางทิศเหนือ” ดัมเบิลดอร์ว่า
“ เป็นความคิดที่ดี งั้นเรารีบไปกันได้แล้วล่ะ” คอนีเลียสพูดจบก็จัดการให้ทุกคนเริ่มออกเดินทางทันที
“เดรโก....” เสียงทุ้มต่ำเรียกเดรโกไว้ เดรโกรู้ดีว่านั่นเสียงใคร แต่เจ้าของเสียงกลับพูดกับเขาโดยไม่มองแม้แต่หน้าลูกชายตัวเอง “ อย่าตายซะล่ะ ดูแลคนอื่นๆด้วย “ เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่น แล้วเดินจากไป เดรโกได้แต่พยักหน้ารับคำนายลูเซียสแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไป
เมื่อเด็กๆเข้าไปในอัซคาบัน ก็รู้สึกเสียวสันหลังวูบในทันที พวกเขาเดินไปตามทางที่มืดมิด มีเพียงแสงจากคบเพลิงที่สว่างเป็นจุดๆส่องอยู่เท่านั้น เดินเข้าไปลึกพอสมควรพวกเขาเริ่มกระวนกระวาย เพราะกลัวเฮอร์ไมโอนีจะเป็นอะไรไป โดยเฉพาะคนที่แสดงออกมาที่สุดคือ เดรโก และแล้พวกเขาก็เห็นกลุ่มเงาสีดำทมึนอยู่ข้างหน้ากลุ่มใหญ่ “ผู้คุม...วิญญาณ นี่....” ฟัดจ์ร้องอย่างปอดๆ ไม่รอช้าเลย แฮรรี่ รอน เดรโก และดัมเบิลดอร์คว้าไม้กายาสิทธิ์ขึ้นมา ผู้คุมวิญญาณเดินเข้ามาล้อมพวกเขา ทำให้แฮรรี่รู้สึกหน้ามึด ทันใดนั้น
“เอ็กซ์เป็กโต พาโตรนุม!!!!”พวกเขาร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน แสงสีเงินพุ่งออกมาจากปลายไม้กายาสิทธิ์ ผู้คุมวิญญาณล้มลงทันที แต่ “อ๊ากกกกกกกอย่าเข้ามานะ” ฟัดจ์ร้องโหยหวน ทำให้ทุกคนหันมามองทันทีฟัดจ์ถูกผู้คุมวิญญาณบบคอแล้วยกตัวเขาขึ้นลอยสูงจากพื้น
“ เอ็กซ์เป็กโต พาโตรนุม” ดัมเบิลดอร์ร้อง และเกิดแสงสีเงินเช่นเดิมพุ่งไปทางฟัดจ์ ผู้คุมวิญญาณล้มลงทันที
“เฮ้อ ...ขอบ..ขอบใจ ....”ฟัดจ์พูดด้วยเสียงเหนื่อยอ่อน นั่นทำให้เด็กๆมองเขาว่าเป็นตัวไร้ประโยชน์ที่สุดเลยก็ว่าได้ อย่างน้อยก็รองจากกิลเดอรอยด์ ล็อกฮาร์ท
พวกเขายังคงเดินต่อไปจนมาถึงทางโล่งทางหนึ่ง ข้างหน้ามีประตูบานใหญ่ พวกเขาเดินตรงไปที่ประตูนั้น แต่จู่ๆร็อคเก็ตของแฮรรี่ก็ส่องแสงวาบขึ้นมา ทั้งหมดหันควับมามองทันที เดรโกรีบคว้าไม้กายาสิทธิ์ขึ้นมา พลางพูดว่า
“ ระวังตัวนะ คราวนี้คงระลอกใหญ่” สิ้นเสียงเดรโกทกคนรีบรวมตัวกัน เขาหัหลังล้อมกันเป็นวง แล้วก็มีเสียงฝีเท้ามากมายดังขึ้น พวกนั้นเข้ามาล้อมเป็นกรอบไว้ ภายใต้เสื้อคลุมดำนั่น ผู้เสพความตายแน่นอนแล้วก็เริ่มเกิดเสียงหัวเราะแหลม แต่แฝงด้วยความน่าขยะแขยงขึ้น พวกมันคนนึงไม่รอช้าร่ายคาถาใส่ทันที ดัมเบิลดอร์ร่ายคาถาสกัดอาคมไว้ จากนั้นผู้เสพความตายก็กรูกันเข้ามา ทำให้กลุ่มดัมเบิลดอร์แตกจากกัน
“ เอเมอร์นูรอลลล” เดรโกแผดเสียง
“ เทรโนรัส” รอนร้อง
“ครูซิโอ” ฟัดจ์ร้องขึ้นบ้าง
เกิดการต่อสู้ขึ้นอย่างชุลมุนเป็นเวลานาน ทั้งหมดยังคงโต้กันไปมาด้วยคาถา บ้างก็หลบพ้น บางทีก็เฉียดผิวไป เกิดเลือดสีแดงฉานไหลหยดลงบนพื้นจนไม่รู้ว่าไหนเป็นเลือดใคร ผู้เสพความตายบางคนเริ่มล้มลง ดัมเบิลดอร์เองก็เหนื่อยเต็มที เพราะเขาชรามากแล้ว ไม่เหมาะกับการสู้ประชิดตัวที่ต้องใช้กำลังมาก ทันใดนั้นผู้เสพความตายคนนึงก็คว้าแฮรรี่เอาไว้ เขาจ่อไม้กายาสิทธิ์ที่คอแฮรรี่ “ บ๊ายบาย พอตเตอร์” เสียงนั้นพูดขึ้น แต่ทันใดนั้น เดรโกก็กระโดดพุ่งเข้าใส่ผู้เสพความตายคนนั้นแล้วก็ลงกับพื้น “ อิสเตฟาฮาลลลล”เขาร้อง ทำให้ผู้เสพความตายนั้นนิ่งไปทันที เดรโกพลิกตัวเขาขึ้นแล้วเปิดผ้าคลุมออก และต้องตะลึงกับภาพี่เห็น
“แครบ!!!!!!” เด็กทั้งสามร้องพร้อมกัน “ ถ้างั้นหมายความว่าในพวกนี้ต้องมีกอลย์สิ “ รอนว่าพลางสู้กับผู้เสพความตาย ไม่นานนักพวกเขาก็จัดการผู้เสพความตายได้ทุกคนมีแผลตามตัว ฟัดจ์ถูกผู้เสพความตายคนหนึ่งกัดจนเนื้อที่แขนแหว่งไปเล็กน้อย ทั้งหมดพักห้ามเลือดแล้วดัมเบิลดอร์ก็ร่ายคาถาบรรเทาแผลให้ เพียงแค่ทำให้เลือดหยุดไหล และให้ปากแผลปิดเท่านั้น เพราะเขาไม่ชำนาญเท่ามาดามพรอมฟรีย์ แล้วทุกคนก็เดินเข้าไปในประตูใหญ่นั้น แล้วทุกคนก็ต้องตะลึง!!!!!!
มาทางด้ายของเสนป ลูเซียส และมู้ดดี้ เป็นอย่างที่ดัมเบิลดอร์ว่า เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาที่ปราสาท พวกเขายังไม่ได้ปล่อยมือจากไม้กายาสิทธิ์เลย เพราะทางฝั่งที่พวกเขาเข้าเป็นฝั่งที่มีห้องขังนักโทษเยอะมาก คุ๋ต่อสู้ส่วนใหญ่จึงเป็นนักโทษ ที่ฝีมือไม่น้อยทีเดียวพวกเขาต่อสู้ดูเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวก็จริง แต่ร่างกายพวกเขาก็เต็มไปด้วยแผลและเริ่มอ่อนพลังขึ้นทุกที
“ ทำไมมันถึงไม่หมดไม่สิ้นซักทีนะ” มู้ดดี้คำราม พลางโถมเข้าใส่พวกนักโทษ
“ดัมเบิลดอร์เข้าใจคิดดีนี่ กลับไปจะเล่นงานให้น่าดู” ลูเซียสพูดบ้าง พวกเขาไม่สนใจที่จะจัดการนักโทษทังหมดนัก แค่เพียงจัดการเฉพาะคนที่เข้ามาขวางทางเท่านั้น เพราะพวกเข้าต้องการเข้าไปให้เร็วที่สุด เพื่อไปจัดการโวเดอร์มอร์ และไปสมทบกับดัมเบิลดอร์ด้วย
ทางด้านลูปินและซิเรียส พวกเขาบุกเขาไปโดยเน้นในเรื่องความเร็วเป็นสำคัญ เพราะฝั่งนี้เป็นฝั่งที่ผู้คุมวิญญาณอยู่เยอะ พวกเขาจึงไม่อยากสู้ด้วยมาก เพราะใครก็รู้ว่ามันคงรู้สึกไม่ดีนักถ้าโดนผู้คุมวิญญาณแตะตัวได้ โดยเฉพาะพวกเขาที่มีความทรงจำที่น่าเศร้า ของเจมส์อยู่ด้วย ในทีสุดพวกเขาก็ผ่านออกจากทางเดินที่เต็มไปด้วยผุ้คุมวิญญาณนั่นแล้ว
“แล้วไปทางไหนต่อดีล่ะ”ลูปินถาม
“ชั้นก็ไม่รู้ ตอนชั้นอยู่ที่นี่ ก็อยู่แต่ในห้องขังเลยไม่รู้ว่าข้างนอกเป็นยังไง “ ซิเรียสตอบ
“แต่ชั้นว่าน่าจะทางนี้ “ ซิเรียสพูดพลางชี้ไปทางขวา
“งั้นก็ไปกันเร็วเถอะ” ลูปินพูดพลางออกวิ่งไป _ _ _ _ _ __ _


In the end 13

ทางด้านแฮรรี่ที่ยืนตาค้างกับภาพที่เห็น มันคือห้องโถงใหญ่เพดานสูงขึ้นไปซึกสิบๆเมตรได้ บรรยากาศมืดสลัว แต่ที่น่าตกใจคือตรงกลางของห้องโถงที่กว้างประมาณสนามควิดดิชนี้ มันคือใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่เรื่องแสงสีเขียวๆน่าขนลุก ที่ใจกลางใยแมงมุมนั้นคือ
“เฮอร์ไมโอนี!!!!!”เด็กๆร้องขึ้นพร้อมกันพลางวิ่งเข้าไปช่วยเธอ แต่พวกเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ๆก็มีเงาสีดำปรากฏขึ้นมาใต้ใยแมงมุมยักษ์นั่น แผลเป็นของแฮรรี่เจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที จี้ห้อยคอของแฮรรี่และเฮอร์ไมโอนีเรืองแสงออกมา แม้ว่าเฮอร์ไมโอนีจะสลบไม่รู้เรื่องก็ตาม ชายชุดคลุมดำนั่น ไม่ใช่ใครที่ไหน
“โวลเดอร์มอร์ “ แฮรรี่ครางออกมา
“ยินดีต้อนรับ แฮรรี่ พอตเตอร์กับเพื่อนๆ และก็ สหายเก่า ดัมเบิลดอร์....” เสียงแหบแห้งดังขึ้น
“โวลเดอร์มอร์ ... เราไม่ได้เจอกันนาน ถ้าเป็นไปได้ ผมไม่อยากจะเจอคุณนักเลย” ดัมเบิลดอร์เอ่ยเสียงเย็น
“เรายังมีคดีที่ต้องสะสางกันอยู่ จริงมั๊ยเพื่อนยาก” โวลเดอร์มอร์ยังคงพูดต่อไป เมื่อจบคำพูดเขา ทั้งสองต่างชักไม้กายาสิทธิ์ และร่ายคาถาใส่กันเหมือนนัดกันไว้ เกิดการปะทะกันของคาถา
“จริงสิ ชั้นยังไม่ได้แนะนำผู้เสพความตายที่ซื้อสัตย์ชองชั้นให้รู้จักเลยนี่นะ ....หึหึหึ “ โวลเดอร์มอร์พูดจบคาถาที่ต้านกันทั้งคู่ก็สลายไป แต่ทันใดนั้น
“เอ็กซ์เปลลิอาร์มัส”เสียงหนึ่งดังขึ้น ไม้กายาสิทธิ์ของดัมเบิลดอร์และพวกแฮรรี่ลอยไปหาเจ้าของสียงทันที
“คลอนีเลียส ...” ดัมเบิลดอร์อุทานออกมาเสียงเบา
“กะ..แก..ฟัดจ์..แกเป็นพวกเดียวกับมันงั้นรึ..”รอนร้องออกมาด้วยความโกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อไม่มีไม้กายาสิทธิ์ “ฮึ๊ย ..แกอย่าให้ชั้นได้ไม้กายาสิทธิ์นะ” รอนโมโห
“ฮ่าๆๆๆ เป็นยังไง นี่ไงลูกน้องผู้ซื้อสัตย์ของชั้น เอาตัวพวกมันไป “ พูดจบโวลเดอร์มอร์ก็ร่ายคาถาสาปศ.ดัมเบิลดอร์ให้เป็นหินทันที แล้วฟัดจ์ก็นำไปไว้ที่ห้องใต้ดินเขาวางไม้กายาสิทธิ์ทั้งหมดไว้แล้วหัวเราะ
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้แก่ ถ้าจะโทษก็โทษตัวเองเถอะนะ รู้อยุ่ว่าพวกเราไม่มีทางต่อกรได้ น่าจะยอมเป็นพวกเค้าซะจะได้ไม่ต้องมากลายเป็นแบบนี้ ช่างน่าสมเพชซะจริงฮ่าๆๆๆ” ฟัดจ์ถบสแล้วเขาก็นำร่างดัมเบิลดอร์ลงไปใต้ดินโดยที่ลืมไม้กายาสิทธิ์ไว้ในห้องที่เป็นทางลงสู่ใต้ดิน
ทางด้านแฮรรี่ โวลเดอร์มอร์ค่อยๆก้าวเข้ามาช้าๆ ขณะที่เด็กๆก้าวถอยหลังไปเรือยๆ “หึๆๆๆแฮรรี่ โตขึ้นเยอะเลยนะ หึหึหึ แต่...นั่นทำให้ข้ารู้สึกหงุดหงิด แกก็เป็นหนึ่งในตัวขวางหูขวางตา พ่อแกก็ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย ...”เขาเคลือตัวเข้ามาแล้วยกไม้กายาสิทธิ์ชี้มาทางแฮรรี่ ตอนนี้พวกเขาคิดว่า หากไม่มีไม้กายาสิทธิ์พวกเขาไปโลกหน้าแน่ และทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นในหัวเด็กทั้งสาม
“แอ็กซีโอ ...เร็วเข้า” มันเป็นเสียงที่คุ้นหูดี เฮอร์ไมโอนีนั่นเอง ทั้งสามหันไปมองเธอที่ยังสลบอยู่
“ ไม้กายาสิทธิ์ แอ็กซีโอ” ทั้งสามร้องขึ้น ไม่กี่อึดใจ ไม้กายาสิทธิ์ก็พุ่งเข้ามาในมือพวกเรา เด็กๆร่ายคาถาต้านกับโวลเดอร์มอร์อยู่นาน คาถาก็สลายไปทั้งูคู่ แล้วโวลเดอร์มอร์ก็หันไปมองเฮอร์ไมโอนี
“หึๆๆยังมีฤทธิ์อยู่รึ พวกเลือดสีโคลน อึดไม่เบานี่ ทั้งที่โดนคาถาเข้าไปขนาดนั้น “เขาพูดพลางย่างเข้าไปหาเธอ
“แก...หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ...ถอยออกมาจากเธอซะ” เดรโกร้องทันทีเมื่อรู้ว่าโวลเดอร์มอร์พยายามจะทำอไร
“หึหึหึ ลูกมักเกิลนี่ สำคัญสำหรับพวกแกขนาดนั้เชียวรึ ...งั้นก็นึกอะไรออกแล้วล่ะ หึหึหึ” เสียงหัวเราะแหลมดึขึ้น เดีดนิ้ว แล้วทันใดนั้นตาของเฮอร์ไมโอนีก็ค่อยๆเปิดขึ้น แต่มีบางอย่างผิดปกติ
“เฮอร์ไมโอนี ...” ทั้งสามร้องเมื่อเห็นดวงตาไร้ชีวิตของเธอ
“ไปฆ่าพวกมันซะ” โวลเดอร์มอร์สั่งเฮอร์ไมโอนี เธอเดินย่างสามขุมเข้ามาพลางชักไม้กายาสิทธิ์ขึ้นมา
“ลิดิตริอัส”เธอร้องพลางชี้ไม้กายาสิทธิ์ไปที่พวกแฮรรี่ เด็กชายทั้งสามกระโดดหลบไปคนละทาง พื้นที่โดนคาถาแตกเป็นเสี่ยงๆ เด็กทั้งสี่สู้กันอย่างดุเดือดเป็นเวลานาน ผลัดกันร่ายคาถาใส่ บ้างก็ปะทะกันกลางอากาศ แต่ทางฝ่ายแฮรรี่ไม่กล้าใช้คาถารุนแรงมาก เพราะกลัวเฮอร์ไมโอนีจะเป็นอันตราย
“ไม่ไหว ถ้าขืนเป็นแบบนี้พวกเราคงเสร็จแน่ “รอนร้อง
“เฮอร์ไมโอนี จำพวกเราไม่ได้รึไง พอเถอะนะ” แฮรรี่ร้องตะโกนลางหลบคาถาที่เธอเสกใส่ไปรอบๆแล้วเขาก็เสียหลักล้มลง เธอได้โอกาสร่ายคาถาใส่แฮรรี่ทันที แต่แล้ว
“ไฟไนท์ อินคานทาเท็มม” เดรโกเข้ามาขวางพลางร่ายคาถาสกัดเวทย์มนต์แต่เฮอร์ไมโอนีก็พุ่งตัวเข้ามา
“สวอร์ต อินคัมมิราอัส” เธอร้องแล้วไม้กายาสิทธิ์เธอก็เปลี่ยนเป็นดาบทันที เฮอร์ไมโอนีพุ่งเข้าฟันใส่เดรโก ไม้กายาสิทธิ์เขาร่วงลงกับพื้นเขาเอามือเปล่าจับที่คมดาบเพื่อดันดาบไว้ เลือดค่อยไหลอาบแขนทั้งสองของเขา
“เฮอร์..เฮอร์ไมโอนี...”เดรโกเรียกชื่อเธอ “นึกสิ นึกพวกเราให้ออก เธออย่ายอมแพ้มันนะ เธอรู้ว่าอะไรควรทำ”
เขาพูดเสียงเบาด้วยความอ่อนแรง ตาสีซีดจ้องเข้าไปในตาไร้ชีวิตของเธอ มันได้ผล เฮอร์ไมโอนีชะงักไป
“ฆ่ามันซะ ...เจ้าต้องฟังข้าเท่านั้น”โวลเดอร์มอร์ร้องเสียงดัง
“ไม่เฮอร์ไมโอนี เธอจำให้ได้สิ พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งนะเฮอร์ไมโอนี” แฮรรี่ร้อง
เฮอร์ไมโอนีกระชากดาบออกจากมือมัลฟอย เธอยกขึ้นและหันคมดาบลงที่มัลฟอยที่กำลังนั่งหมดแรงอยู่ที่พื้น
เลือดไหลอาบแขนทั้งสองจนเขาแทบจะหมดความรู้สึกที่แขน แต่เขาก็ยังคงจ้องมาที่เธอ
“ฆ่ามันเซ่....”โวลเดอร์มอร์ตะโกนสั่ง บัดนี้ร่างของเฮอร์ไมโอนีเริ่มสั่นเทา ดวงตาไร้ชีวิตมีน้ำใสๆเอ่อขึ้นมา
น้ำตาเธอไหลลงมาอาบแก้มทั้งสอง แต่เธอก็เงื้อมือแล้วแทงดาบลงมาที่มัลฟอย ช่วงเวลาระทึกขวัญที่รอนและแฮรี่ไม่อาจจะขยับตัวมาช่วยได้เลย แต่แล้วดาบก็หยุดอยู่หน้ามัลฟอยเพียงแค่สองสามเซ็นฯเท่านั้น
“เดร...โก...” เฮอร์ไมโอนีครางออกมาพร้อมกับดาบที่ร่วงลงกับพื้น เธอทรุดลงกับพื้นทันที
“เฮอร์ไมโอนี...”เดรโกรีบเข้ามากอดเธอไว้ “เธอไม่เป็นไรแล้วนะ”เฮอร์ไมโอนียิ้มเล็กน้อยในอ้อมแขนเขา
“เดรโก..พวกเธอมาช่วยชั้นจริงๆ “เธอพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ด้วยเสียงอ่อนระทวย
“ดัมเบิลดอร์...เค้าอยู่ใต้ดิน “ เธอกระซิบบอกมัลฟอยในอ้อมแขนเขาก่อนทีจะสลบไป
“หึ พวกมักเกิล ใช้การไม่ได้ ...ดูเหมือนข้าคงจะต้องลงมือเองสินะ”โวลเดอร์มอร์ก้าวออกมาพลางชี้ไม้กายาสิทธิ์ไปที่แฮรรี่ เด็กทั้งสามดันตัวขึ้นอย่างยากลำบากเพราะตอนนี้เขาเต็มไปด้วยบาดแผล ทั้งสามเริ่มร่ายคาถาต้านโวลเดอร์มอร์ที่ร่ายคาถาใส่พวกเขาอย่างกับคนบ้า ตอนนี้พลังพวกเขาอ่อนแรงเต็มที เป้าหมายของโวลเดอร์มอร์ดูเหมือนจะเป็นแฮรรี่ที่สังเกตจากการที่เขาร่ายาถาใส่แฮรรี่มากที่สุด ลำแสงสีต่างๆพุ่งออกจากไม้กายาสิทธิ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “แฮรรี่ ระวังงงงง”รอนร้องแล้วพุ่งตัวเข้ามารับคาถาโวลเดอร์มอร์เข้าไปเต็มแรง
“รอนนนนน” ตอนนี้เด็กทั้งสามลงไปนอนกองกับพื้นด้วยบาดแผลสาหัส
“ไปลงนรกซะ”สิ้นเสียงอันแหบแห้ง แสงสีแดงประกายออกจากไม้กายาสิทธิ์พุ่งมาที่แฮรรี่ที่นอนไม่ไหวติงอยู่กับพื้น “แฮรรี่ หลบไปปปปปป” รอนและเดรโกกรีดร้อง “เปรี้ยงงงงง” รอนและเดรโกค่อยๆลืมตาขึ้นมามอง
“พอดีเลยนะ รอดไปทีแฮรรี่” เสียงหนึ่งดังขึ้นหน้าแฮรรี่ และเขาก็มั่นใจว่าใคร
“ซะ..ซีเรียส .....ศ.ลูปิน...”รอนร้องครางขึ้น พลางดันตัวขึ้นยืน
“ แก ...นอกจากเจมส์แล้ว แกยังคิดจะทำร้ายแฮรรี่ ชั้นจะขอสะสางบัญชีที่แกเป็นเหตุให้ชั้นต้องอยู่ในอัซคาบันน่าขยะแขยงนี่ และยังหลอกปั่นหัวคนไปเป็นพวกอีก..”ซิเรียสพูดไม่ทันจบ
“คุณซิเรียส ศ.ลูปิน ผมว่าคุณรีบไปช่วยศ.ดัมเบิลดอร์เถอะครับ ผมเป็นห่วงเขามากกว่า” เดรโกร้องบอก
“เขากำลังอ่อนแรง และเขาก็ถูกสาบเป็นหิน ถ้ารีบ จะไม่ทันการ”
“แต่ว่า จะให้ชั้นทิ้งพวกเธอไว้นี่รึ” ลูปินถาม
“รีบไปรีบมาสิครับ”รอนร้องบอกขณะที่ยังชี้ไม้กายาสิทธิ์ไปทางโวลเดอร์มอร์
“โอเค ได้ แล้วเราจะกลับมา พวเธออย่าเพิ่งรีบตายล่ะ สัญญาได้รึเปล่า” ซิเรียสถาม
“โอเคครับ”ทั้งสามตอบรับ “เขาอยู่ที่ห้องใต้ดิน” เรโกเสริมขณะที่ซิเรียสและลูปิดวิ่งไป โวลเดอร์มอร์หันกลับไปหวังจะร่ายคาถาใส่ทั้งสอง
“หันไปไหน คู่ต่อสู้แกคือเรา” รอนร้องขึ้น
“เจ้าเด็กเมื่อวานซืน ไม่เจียมตัวซะเลยนะ”โวลเดอร์มอร์ร้อง แล้วทันใดนั้นก็เกิดการโต้คาถาอีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายต่างเริ่มอ่อนแรง รอนกระโจนเข้าไปล็อคโวลเดอร์มอร์ไว้ แฮรรี่และเดรโกร่ายคาถาใส่ทันที แต่เขาก็ผลักรอนออกแล้วร่ายคาถากัดได้ คาถาส่วนใหญ่ที่ร่ายใส่จะสะท้อนกลับมาสร้างบาดแผลไม่น้อยให้เด็กทั้งสาม
“ครูซิโออออ”แฮรรี่ร่ายคาถาใส่พร้อมรอนที่ตะโกนร้อง “สตูเปฟายยยย”
แต่พริบตานั้นเขารู้สึกเหมือนโวลเดอร์มอร์หายไปมีเพียงเดรโกที่เห็นการเคลื่อนไหว เขารู้ทันทีถึงเป้าหมายโวลเดอร์มอร์ เดรโกรีบดันตัวลุกขึ้น จังหวะเดียวกับที่โวลเดอร์มอร์ไปโผล่ด้านหลังแฮรรี่ ดูเหมือนจังหวะจะลงตัวอย่างเหลือเชื่อ เฮอร์ไมโอนีลืมตาตื่นขึ้นและมองไปยังพวกเขา ซิเรียสกับลูปินพยุงดัมเบิลดอร์ออกมาจากประตู รอบๆเหมือนเวลาหยุดนิ่งชั่วครู่หนึ่ง มันเหมือนภาพสโลโมชั่น ทุกอย่างเงียบกริมเหมือนสมองและความนึกคิดกำลังล่องลอยไป
“ลาก่อน แฮรรี่ พอตเตอร์...” เสียงแหบห้าวดังขึ้นเบาๆ แล้วทุกอย่างก็สว่างวาบ เหมือนโลกยุดหมุนห้องทั้งห้องเป็นสีเขียวด้วยพลังคำสาปต้องห้าม “อะวารา เดคาฟ รา “ เสียงร่ายคาถาดังขึ้นอีกครั้ง ทุกอย่างเหมือนค่อยๆเลือนหายไป ดวงตาทุกคู่เบิกโพลง ดัมเบิลดอร์หัวใจแทบหยุดเต้น
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เฮอร์ไมโอนีกรีดร้องขึ้นมา น้ำตาที่ไหลเอ่อล้นแอบสองข้างแก้ม
หัวใจเต้นรัวเร็ว ทุกคนทรุดลงกับพื้น แฮรรี่ค่อยๆลืมตาขึ้นดูสิ่งที่เกิดขึ้น นี่เขาตายแล้วหรือ? ไม่ เขาไม่เจ็บเลย
ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ร่างที่อาบไปด้วยเลือดที่ขวาง ระหว่างแฮรรี่และโวลเดอร์มอร์ ร่างนั้นค่อยๆทรุดลง แฮรรี่รีบคว้าไว้อย่างง่ายดายเหมือนเวลาค่อยๆหมุนผ่าน เด็กชายที่ลมหายใจแผ่วเบา แล้วทุกอย่างก็เหมือนกลับสู่ปกติ “ ดะ..เดรโก....” แฮรรี่ร้องอย่างไม่เชื่อสายตา เขาที่น่าจะต้องเป็นผู้ตาย แต่กลับถูกปกป้องโดยต้องแลกกับอีกชีวิต น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาทุกคู่
“ทำไมกัน...นายมาขวางทำไม “ แฮรรี่ร้องครางเสียงเบาคละน้ำตาขณะพูดกับร่างที่อาบไปด้วยเลือดในอ้อมแขน
“หึ ..นายมันเป็นคู่แข่งชั้นมาตลอดกลับต้องมาร้องไห้ให้ชั้น แปลว่าชั้นชนะสินะ”เดรโกยิ้มมุมปากที่เต็มไปด้วยเลือด “โทษทีนะ ชั้นคงผิดสัญญากับพ่อทูนหัวนายแล้วล่ะ” เขาพูดต่อไป
“ดูแล..เฮอร์ไม..โอ..นี..ด้วยนะ....”เขามองตาสีเขียวมรกตที่บัดนี้เต็มไปด้วยน้ำตาของแฮรรี่ “นายต้อง..รอด...”
แล้วดวงตาสีซีดก็ค่อยๆปิดลง ลมหายใจขาดสิ้น ร่างกายไม่ไหวติง แล้วทั้งห้องก็กึกก้องด้วยเสียงตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด พอดีกับที่ทางด้านลูเซียส ศเสนป และมู้ดดีวิ่งมาถึง ทุกคนต่างต้องตกตะลึงกับิสิ่งที่ยู่ตรงหน้า
ร่างของเด็กชายผมบรอนด์ที่อาบไปด้วยเลือด กับเสียงร้องโอดครวญของทุกคน ก็พอจะให้เข้าใจอะไรได้
น้ำตาจากดวงตาผู้เป็นพ่อหลั่งไหลออกมา เขารีบวิ่งเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณนั้น แต่ทันใดนันก็เกิดแสงบาดตา
วงกลมข่ายเวทย์หกแฉกปรากฏที่พื้นใต้บริเวณที่เฮอร์ไมโอนี ค่อยๆดันตัวยืนขึ้น น้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด ไม้กายาสิทธิ์เธอส่องแสงขาวสว่างวาบ
“นั่นมัน เวทย์ส่งวิญญาณ คาถาชั้นสูงขนาดชั้นยังใช้ไม่ได้เลย” มู้ดดี้ร้องขึ้น
“ไม่ได้การ ขืนเป็นแบบนี้ เด็กนั่น ตายแน่นอน คาถานี้จำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณ” ลูปินเสริมขึ้น
แฮรรี่และรอนดูเหมือนจะพร้อมใจกันร่ายคาถาปลดอาวุธจากโวเดอร์มอร์และรอนก็ร่ายคาถาพันธนาการเขาไว้อย่างพร้อมเพรียง ทุกอย่างรอบด้านกลายเป็นภาพขาวดำ ทุกสายตาที่จับจ้องไปที่เฮอร์ไมโอนี ไม่มีคาถาใดจะแรงเท่าคาถาศักดิ์สิทธิ์นี้นอกจากคาถาต้องห้าม หากคาถานี้ล้มเหลวคงไม่มีคาถาใดจะต้านโวลเดอร์มอร์ได้
“ ฟิเดรลิมัส ดิสซิโตรรุม เอ็นฟรอริเท็นโอ วาราดิเร โอมาเร เดท์ด เฟอร์ออริไคมัส”สิ้นเสียงเฮอร์ไมโอนีที่ตะโกนก้องสายตาจับจ้องไปที่โวลเดอร์มอร์ด้วยแววตามุ่งมั่นแฝงไปด้วยความโศกเศร้าแสนสาหัสและคราบน้ำตา
วงกลมเวทย์หกแฉกสว่างวาบ ลำแสงสีขาวสว่างพุ่งไปที่โวลเดอร์มอร์ทันที ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องของนกดังขึ้น
ลำแสงสีแดงพุ่งผ่านเฮอร์ไมโอนีไปตามลำแสงคาถาไปสู่โวลเดอร์มอร์ มันคือ ฟอกส์ นกฟินิกส์ของดัมเบิลดอร์นั่นเอง ทันใดนั้นร่างโวลเดอร์มอร์ก็ระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มควันทันที เฮอร์ไมโอนีทรุดฮวบลงทันที บรรดาอาจารย์ต่างเข้าไปช่วยเธอและเดรโก ฟอกส์บนมาหยุดที่เธอ และกางปีกสีแดงเพลิงออกทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างวาบออกมา ร่างกายของเฮอร์ไมโอนีเกิดแสงเรืองรอบ
“พระเจ้าช่วย เธอหายใจแล้ว” ลูปินร้อง
“พลังชีวิต กลับมาแล้ว” ศ.เสนปเอ่ย
ทุกคนต่างพอใจกับสิ่งนี้เพราะพวกเขาไม่ต้องการสูญเสียใครอีก แค่เพียงคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ทั้งหมดพากันออกจากอัซคาบัน หน้าอัซคาบัน บรรดาคนในกระทรวงต่างมารอรับ แฮกริดส่งนกฮูกไปขอความช่วยเหลือจากฮอกวอตส์ มาดามพรอมฟรีย์เข้ามารักษาทันที
ท้องฟ้าที่ขุ่นมัวค่อยๆเปิดออก แต่เสียงร้องแห่งความยินดีก็ต้องแผ่วลงเมื่อรู้ว่ามีเด็กชายคนหนึ่งที่ต้องเสียชีวิตในครั้งนี้ แฮรรี่ดูจะเป็นคนที่เหมือนศพเดินได้ที่สุด
“มันไม่ใช่ความผิดของนายหรอนะ” รอนโอบหลังเขาด้วยดวงตาที่แดงก่ำไม่แพ้สีผมเขา
“ถ้าชั้นรู้ตัวเร็วกว่านี้ ชั้นคงจัดการอะไรได้มากกว่านี้ เขาคงไม่ต้องมาปกป้องชั้น..” แฮรรี่พูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา แล้วก็มีมือๆหนึ่งมาสัมผัสที่ไหล่เขา
“ขอบใจที่ช่วยเดรโก”เสียงแหบสั่นของนายลูเซียสดังมาจากข้างหลัง
“เขาต่างหากที่ช่วยผม คุณควรจะลงโทษผมด้วยซ้ำ”แฮรรี่ร้องบอก
“ไม่มีใครผิดทั้งนั้น อย่างน้อย นั่นก็เป็นสิ่งที่เดรโกตัดสินใจทำด้วยตัวเอง ชั้น...ภูมิใจในตัวมันมาก” นาย
ลูเซียสพูดแล้วเดินจากไป แล้วทุกคนก็เดินทางสู่ฮอกวอตส์ เมื่อข่าวนี้ถูกป่าวประกาศโต๊ะสลิธีลินดูจะเป็นโต๊ะที่เศร้าที่สุด โดยเฉพาะแพนซี่พากินสันที่ร้องไม่หยุด
หนึ่งเดือนผ่านไป ในเช้าวันหนึ่ง เฮอร์ไมโอนีรู้สึกตัวที่ห้องพยาบาล “เป็นไงบ้าง เธอหลับไปเดือนนึงเต็มๆเลยนะ” แฮรรี่ถาม รอนและศ.ทุกคนก็นั่งอยู่ข้างๆ เฮอร์ไมโอนีนอนหงายมองเพดาน “มัน...เป็นความฝันใช่มั๊ย แฮรรี่? รอน?”เธอเอ่ยเสียงสันพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมา ไม่มีใครที่ตอบคำถามนี้แต่อย่างใดได้แต่นั่งเงียบ ทุกคนได้แต่คิดว่า เวลา..คงเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ วันต่อมา เฮอร์ไมโอนีหายดีและกลับไปบ้าน
กริฟฟินดอร์ ดัมเบิลดอร์ประกาศให้ในเวลาที่เหลือของปีนี้ให้ทุกคนไว้อาลัยให้แก่เดรโก มัลฟอย นักเรียนปีเจ็ดบ้านสลิธีลิน เหลือเวลาอีกอาทิตย์กว่าๆพวกเขาก็จะเรียนจบจากฮอกวอตส์แล้ว เฮอร์ไมโอนีมักจะเดินไปที่ทะเลสาบคนเดียวเสมอ และมองออกไปบ้างก็ก้มลงมองจี้ห้อยคอที่เดรโกเคยให้พลางคิดถึงวันคืนที่มีคนที่เธอรักอยู่ด้วย และน้ำตาก็จะค่อยๆไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ เธอยังคงไม่ลืมช่วงเวลาแห่งความสุขที่บัดนี้มันสลายไปกับอากาศเหมือนหมอกควัน ส่วนแฮรรี่ก็นอนซังกะตายด้วยความรู้สึกผิดที่ไม่อาจลบเลือนออกไปได้ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แฮรรี่เริ่มอาการดีขึ้นจากการปลอบของรอนและที่สำคัญคำปลอบของดัมเบิลดอร์ที่ทำให้เขาเลิกกังวลลงมาก แต่ไม่ใช่สำหรับเฮอร์ไมโอนี เธอยังคงคิดถึงเดรโกทุกลมหายใจ ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าหรือค่ำ วันนี้เฮอร์ไมโอนีก็ยังคงออกมาเดินที่ทะเลสาบเหมือนเช่นเคย วันนี้เป็นวันจบการศึกษาในปีเจ็ดแล้ว แต่ทุกคนแทนที่จะใส่เครื่องแบบสีอึมทึมกลับแต่งเสื้อคลุมสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า สร้างความแปลกใหม่ให้ในโรงเรียน เฮอร์ไมโอนีและพวกพรีเฟ็คจะแต่งชุดขาวที่ต่างจากคนอื่นออกไป แฮรรี่และรอนเดินเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี
“เธอไม่เป็นไรนะ” แฮรรี่ถาม
“อืม แค่คิดถึงฮอกวอตส์ คงเป็นเพราะช่วงเวลาเก่าๆมั้ง “ เธอพูดแล้วยิ้มนิดๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่เจือด้วยความเหงาและความเศร้า
“เมื่อก่อนพวกเราเคยทะเลาะกับเขาจะเป็นจะตายจำได้มั๊ย” แฮรรี่ถาม
“ใช่ๆ เธอเคยตบหน้ามันด้วย” รอนบอก และเกิดรอยยิ้มขึ้นระหว่างเขาสามคน เฮอร์ไมโอนีหลับตาลงพักหนึ่งแล้วลืมตาขึ้น “ วันสุดท้ายของที่นี่แล้ว ฮอกวอตส์จะเป็นสถานที่ในความทรงจำชั้นชั่วชีวิต”
“ชั้นด้วย” รอนบอก “อืม” แฮรรี่เอ่ย
แล้วบรรดาศ.ก็เดินมาหาเฮอร์ไมโอนี ทั้ศ.มักกอนากัล ศ.เสนปที่อยู่ในชุดขาวหาที่ไหนชมไม่ได้อีกแล้ว แฮกริดส่งยิ้มมาให้เธอ ศ.ดัมเบิลดอร์มองเธอด้วยสายตาเอ็นดู ศ.ลูปินและซิเรียส ก็เดินมาด้วยกัน นายและนางวีสลีย์ ทั้งบิล ชาร์ลี เพอร์ซี่ เฟร็ด จอร์จ วู้ด โชแชง และทุกคนที่จบจากฮอกวอตส์ก็กลับมา นายลูเซียสมากับภรรยาและด็อบบี้ วิเตอร์ครัมก็มาจากบัลแกเรีย นายและนางเกรนเจอร์ก็มาด้วย
“พ่อ แม่ ทุกคน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน” เฮอร์ไมโอนีถาม
“วันนี้เป็นวันพิเศษไง” แฮรรี่ตอบ เฮอร์ไมโอนีมองหน้าเขาด้วยความงงแล้วเธอก็ต้องอึงไปกับชายผู้หนึ่งในชุดขาวบริสุทธิ์ ที่กำลังเดินเข้ามา ทุกคนแหวกตัวออกเป็นทางเดินยาว ชายคนนั้นเสื้อคลุมพรีเฟคขาวบริสุทธิ์เหมือนเทวดา ผมที่ลงมาปรกตาชวนมองด้วยความแปลก ดวงตาสีน้ำตาลของเฮอร์ไมโอนีเริ่มเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา
ผมสีบรอนด์ส่องเป็นประกาย เขาเงยหน้าขึ้นและมองมาที่เธอด้วยสายตาอันอบอุ่น มันเป็นช่วงเวลาที่เกินจะบรรยายในความรู้สึกของเฮอร์ไมโอนี เธอวิ่งไปหาเขาทันทีแล้วกระโดดโผเข้ากอดพร้อมปล่อยโฮออกมาทันที น้ำตาที่ไม่อาจห้ามไว้ได้ หลั่งไหลออกมาเป็นทางยาว รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทั้งสอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้นในดวงตาของคนรอบข้าง ศ.มักกอนากัลกำลังสั่งน้ำมูกอยู่ห่างๆ นางเกรนเจอร์ยืนพิงนายเกรนเจอร์ ทั้งสองน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ นางนาร์ซิสซ่า ก็สะอื้นอยู่ไม่ห่างนายลูเซียส รอนกอดคอแฮรรี่ที่ยิ้มอยู่ไม่หุบเป็นการแสดงความยินดีให้กับทั้งเฮอร์ไมโอนีและเดรโกซึ่งคงเป็นสิ่งเดียวในตอนนี้ที่เขาจะทำได้ในฐานะเพื่อนสนิท และความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะตัดใจจากเฮอรไมโอนี แฮรรี่ยังคงยืนยิ้มอยุ่ ซึ่งรอนเองก็เข้าใจในความหมายของรอยยิ้มของเพื่อนซี้เขาดี
“นายเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่จริงๆแฮรรี่” รอนบอกพลางมองไปยังเฮอร์ไมโอนีกับเดรโกที่โอบกอดกันอย่างอบอุ่น
“นายหมายความว่าไง?”แฮรรี่ถามเป็นพิธี เพราะเขาเองก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจอยู่แล้ว
“ ซักวันนายจะพบ .... คนที่นายรักและเค้าก็รักนาย”รอนบอกพลางหันมามองหน้าเพื่อนเขา
“ เป็นงั้นก็ดีซินะ”แฮรรี่ว่า ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นสำหรับทุกคนที่อยู่รายล้อม
“เธอ .. ไปอยู่ไหนมา ชั้นนึกว่าเธอ..” เฮอร์ไมโอนีร้องถามทันที เดรโกเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้มเธอทั้งสอง
“ชั้นนึกว่าจะไม่ได้เจออีกแล้ว” เธอยังคงร้องต่อ เดรโกกอดเธอไว้แล้วกระซิบบอก
“ชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรเด็ดขาด ชั้นจะไม่ไปไหนอีกแล้วล่ะ” เฮอร์ไมโฮนีน้ำตาไหลพรากในอ้อมแขนอันอบอุ่นของคนที่เธอรัก ตอนนี้ ไม่ใช่ความฝัน เขาอยู่ที่นี่จริงๆ
“เฮอร์ไมโอนี...” เดรโกร้องเรียกเธอพลางหยิบกล่องเล็กๆขึ้นมา
“แต่งงานกับชั้นนะ...” เขาพูดเสียงเบาใบหน้าซีดขาวกลายเป็นสีชมพู
เฮอร์ไมโอนี ยิ้มรับแล้วโอบกอดเขาทันที “ อืม” เธอตอบ เดรโกสวมแหวนที่ทำจากคริสตัลเรืองแสง มีเพชร
“บลูวิ ช” ซึ่งเป็นเพชรสีฟ้ารูปหัวใจอยู่ตรงกลาง และสลักคำว่า DH. ไว้ ทั้งสองโน้มตัวเข้าหากันแล้วประทับริมฝีปากซึ่งกันและกันอยู่เนิ่นนาน เป็นจูบที่อบอุ่นที่สุดที่เฮอร์ไมโอนีรู้สึก
“ปัง ปัง ปัง “ เสียงจุดดอกไม้ไฟดังขึ้นพร้อมเสียงปรบมือของสักขีพยานทั่วฮอกวอตส์
“บัดนี้ จบไปอีกปีการศึกษาที่แสนวุ่นวาย มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ชั้นขอให้เธอรู้อย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าอย่างไร มิตรภาพของเพื่อน ความรัก ความสามัคคี ทุกๆอย่างจะนำความกล้าความสุขมาให้พวกเธอ ขอให้จำเอาไว้ ว่าไม่ว่าเมื่อไร มิตรภาพจะอยู่กับพวกเธอเสมอ และถือเป็นโอกาสดี ชั้นขอเปิดงานฉลองการสมรสของ มิสเตอร์เดรโก มัลฟอย และ มิส เฮอร์ไมโฮนี เกรนเจอร์ ท่ามกลางสักขีพยาน ขอให้เธอทั้งสองครองคู่กันตลอดไป” ดัมเบิลดอร์กล่าวจบก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นกึกก้องไปทั้งทะเลสาบ แฮรรี่และรอนเข้าไปแสดงความยินดี
“ขอให้มีความสุขนะเฮอร์ไมโอนี” แฮรรี่บอก
“ขอบใจแฮรรี่” เธอตอบและเธอเองก็เข้าใจในความหมายที่แฝงมากับคำอวยพรนั้น
“ดูแลเฮอร์ไมโอนีดีๆล่ะ นายหัวน้ำมันหอย แต่จะว่าไปวันนี้ไม่ละเลงน้ำมันนี่นะ” รอนแหย่เดรโก
“ เฮอะ ไว้ใจเหอะน่า” เดรโกตอบยิ้มๆแล้วหันมาหาแฮรรี่ซึ่งทั้งสองก็เข้ามากอดคอกันโดยไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปาก มันเป็นความเข้าใจของลูกผู้ชายที่มากเกินคำบรรยาย ไม่มีคำพูดใดจะออกมาได้ ใช่แล้ว มันเป็นความรู้สึกของผู้ที่ยอมตัดใจและแสดงความยินดีให้ด้วยใจจริง ทั้งสี่คนยืนคุยกันไปหัวเราะกันไปท่ามกลางเสียงครึกครื้นจากนักเรียนทุกคน คืนนี้เต็มไปด้วยความสุข ท่ามกลางดวงดาวนับร้อยที่ส่องประกายบนท้องฟ้า
- - - - - - - - - - - - -- - - - -- - in the end - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- -

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น