วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

จุดเริ่มต้น...ของมิตรภาพ

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ
ลิงค์นี้นะค่ะ

จุดเริ่มต้น...ของมิตรภาพ ตอนที่ 1

“เรียบร้อยแล้วค่ะพี่เฮอร์ไมโอนี่”
“เสร็จแล้วเหรอ ไหนขอพี่ดูหน่อย”
เฮอร์ไมโอนี่รับตารางการจัดแบ่งหน้าที่ของเหล่าพรีเฟ็คมาตรวจเช็คอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ตารางนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงทุกเดือน เพื่อจะหมุนเวียนให้ทุกคนได้ทำงานร่วมกัน แม้จะมีบางคนที่ทำงานกันไปก็ทะเลาะกันไปก็ตาม เฮอร์ไมโอนี่ไล่ปลายนี้ไปตามรายชื่อแล้ววางกระดาษในมือลง
“ขอบใจมากจ๊ะมาเรีย”
“ไม่เป็นไรค่ะ” มาเรียทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เธอเหลียวมองไปรอบห้องทำงานของพรีเฟ็ค “ว่าแต่ว่า พรีเฟ็คคนอื่นหายไปไหนหมดคะเนี่ย”
ปกติห้องนี้จะมีพรีเฟ็คที่คอยอยู่ประจำเอาไว้คนหรือสองคนเผื่อเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินอะไร แต่วันนี้มีเพียงเฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

เฮอร์ไมโอนี่ยิ้ม เธอเริ่มลงมือสรุปรายละเอียดงานในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอีกครั้ง
“ก็วันนี้เป็นวันที่ต้องไปฮอกมี้ดกันนี่ พี่ก็เลยต้องอยู่เฝ้าแทน”
“อ้าว!! อย่างนี้พี่ก็ไม่ได้ไปน่ะสิคะ”
“ไม่เป็นไรนี่ ถึงจะไปกี่ครั้งมันก็เหมือนเดิม พี่ก็เลยฝากรอนกับแฮร์รี่เที่ยวแทน เดี๋ยวสองคนนั้นก็ซื้อขนมมาฝากเองแหล่ะ”
“พี่น่ะใจดีเกินไป” มาเรียบ่น เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่ยิ้ม

ทุกวันนี้พรีเฟ็คทุกคนต้องทำงานกันหนัก ต้องคอยดูแลปลอดภัยของเพื่อนนักเรียนกันทุกคืน แถมบางวันที่มีข่าวลือว่ามีผู้เสพความตายแวะเวียนอยู่แถว ๆ ฮอกวอตส์ ก็ทำให้ต้องคอยเฝ้ากันทั้งวันทั้งคืน ทำให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอน วันนี้เป็นวันหยุดที่พรีเฟ็คทุกคนต่างเฝ้ารอ แต่ถึงแม้จะได้ไปเที่ยวกัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยระวังความปลอดภัยที่ภายนอกด้วย

เมื่อมีคนมาขอร้องให้อยู่เฝ้าแทน เธอก็ไม่ขัดข้องอะไร มาเรียนั่งอยู่อีกครู่หนึ่ง แล้วก็ขอตัวกลับไปเมื่อใกล้เวลาที่จะเดินทางไปฮอกมี้ด เสียงเจี๊ยวจ๊าวดังขึ้นไปทั่วลานหน้าปราสาทเมื่อได้เวลา

เฮอร์ไมโอนี่ชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นปีที่ 3 ค่อย ๆ ทยอยเดินไปฮอกมี้ด โดยมีนักเรียนรุ่นน้องหลายคนพากันยืนมองด้วยความอิจฉา

หลังจากนั้นไม่นานความเงียบสงบก็กลับมาเยือนอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่นั่งเขียนอยู่พักใหญ่ แล้วก็วางปากกาลงเมื่อเขียนบรรทัดสุดท้ายเสร็จ เธอปิดสมุดรายงานพร้อม ๆ กับที่ประตูห้องทำงานพรีเฟ็คถูกเปิดออก


***************************


“โห...นั่นนายคิดจะซื้อไว้กันทั้งปีเลยหรือไงรอน” เชมัสถามรอนที่หอบถุงขนมหอบใหญ่ออกมาจากร้านฮันนี่ดุกส์
“นี่พวกนายเหมาหมดร้านเลยหรือยังไงกัน” เนวิลล์ถามแฮร์รี่ที่ถือถุงใหญ่ไม่แพ้กัน
“อ๋อ ซื้อไปฝากเฮอร์ไมโอนี่น่ะ” แฮร์รี่ตอบ
“ฝากเฮอร์ไมโอนี่? ทำไมต้องฝากด้วยล่ะ” ดีนสงสัย เขาคว้าถุงขนมถุงเล็กที่อยู่อันบนสุดมามาเปิดกินโดยไม่สนใจรอนที่โวยวายออกมาเสียงดังลั่น
“วันนี้เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้มา เพราะต้องอยู่เฝ้าโรงเรียนแทนพรีเฟ็คคนอื่นน่ะ”
ดีนขมวดคิ้ว เชมัสกับเนวิลล์มองหน้ากัน “ไม่ได้มา? นายเข้าใจผิดไปหรือเปล่าแฮร์รี่ ก็เมื่อกี้พวกเรายังเจอเฮอร์ไมโอนี่อยู่เลย”
“ฮะ! นายเจอเฮอร์ไมโอนี่เหรอ” แฮร์รี่หันไปหาเนวิลล์ รอนหันมาสนใจเนวิลล์แทนดีน “ใช่”
“นายมองผิดไปหรือเปล่าเนวิลล์”
“ไม่ผิดหรอก ก็พวกเรายังทักเฮอร์ไมโอนี่อยู่เลย”
คราวนี้แฮร์รี่กับรอนชักงง “ก็ไหนนายบอกว่ามีคนแลกเวรกับเฮอร์ไมโอนี่ไงรอน”
“ใช่...มีคนแลกเวรกับเฮอร์ไมโอนี่ เมื่อเช้านี้เฮอร์ไมโอนี่เองก็ยังบอกพวกเราอยู่เลย นายก็ได้ยินไม่ใช่เหรอ” รอนขมวดคิ้ว “หรือว่า...”
“หรือว่าอะไร”
“หรือว่าเฮอร์ไมโอนี่จะโกหกเรา”


***************************


“นี่!! ยัยหัวฟู!! เดินให้มันเร็ว ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง เราไม่มีเวลาทั้งวันหรอกนะ!!” มัลฟอยหันมาถามเด็กสาวที่เดินตามมาอย่างเหลืออด
เฮอร์ไมโอนี่เดินมาหยุดยืนหอบอยู่ข้าง ๆ เธอค้อนคนขายาวที่เอาแต่เดินจ้ำโดยไม่สนใจคนที่เดินมาด้วยกัน “นะ...นายน่ะ...หัดรอคนอื่นบ้างสิ” เธอแว๊ดออกมาด้วยความโมโห เพราะตั้งแต่ออกมาจากฮอกวอตส์นั้น เธอได้แต่วิ่งตามจนเหนื่อย รู้หรอกน่าว่าต้องรีบไปทำงานที่ได้รับมอบหมายมาให้เรียบร้อย แต่อย่างน้อยเขาก็น่าจะมีความเป็นสุภาพบุรุษบ้าง

“อ๊ะ!! เดี๋ยวซิมัลฟอย!!” เฮอร์ไมโอนี่รีบคว้าต้นแขนแกร่งไว้เมื่อเด็กหนุ่มเริ่มขยับตัว
“อะไรของเธออีกล่ะเกรนเจอร์” เขาทำเสียงเบื่อหน่าย
“นี่...ขอชั้นพักสักแป๊บนึงไม่ได้เหรอ ชั้นเหนื่อยแล้วนะ” เธอถามเสียงอ่อย
มัลฟอยถอนใจ เขามองดูนาฬิกาที่ข้อมือ “ทนอีกหน่อยได้มั้ยเกรนเจอร์” เขาถามเสียงเรียบ แต่ดวงตาที่เย็นชาอยู่เป็นนิจนั้นอ่อนแสงลง เมื่อเห็นสภาพที่เหนื่อยอ่อนของเด็กสาว
“ถ้าเราไปไม่ทันรถไฟเที่ยวเช้านี่ เราต้องไปรถไฟเที่ยวบ่ายโมง แล้วเราก็จะกลับมาถึงฮอกวอตส์ไม่ทันคืนนี้นะ”
“แต่ว่า...”
“มาเถอะ...” มัลฟอยจับมือเฮอร์ไมโอนี่แล้วเริ่มออกเดินอีกครั้ง “...อีกนิดเดียวก็จะถึงสถานีแล้ว เอาไว้ไปพักทีเดียวบนรถไฟแล้วกัน”
“ดะ...เดี๋ยว…นี่!!!...มัลฟอย...” เฮอร์ไมโอนี่พยายามร้องห้ามเด็กหนุ่มที่ลากเธอไปด้วยโดยไม่ฟังคำทัดทานของเธอเลย แต่เมื่อไม่เป็นผล เธอก็ได้แต่เดินไปตามแรงจูงนั้นเท่านั้น


***************************


“ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะมาเรีย รีบไปกันเถอะ” เลตตี้ มาร์ เพื่อนสาวคนสนิทของมาเรียร้องเรียกเพื่อนที่เอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมขยับไปไหน
มาเรียหันมามองเพื่อน แล้วหันไปมองร่างสองร่างที่จับจูงมือกันอยู่ไกล ๆ อีกครั้ง ไม่ผิดแน่ แม้จะเห็นเพียงด้านหลังเห็นหน้าทั้งสองไม่ชัด แต่เธอแน่ใจว่านั่นคือสองประธานนักเรียนของฮอกวอตส์

“มองอะไรอยู่น่ะมาเรีย” เลตตี้เดินมาหยุดข้าง ๆ แล้วมองไปตามทิศทางเดียวกันกับเพื่อน แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากเด็กจำนวนมากที่เดินกันขวักไขว่
“ไม่มีอะไรหรอก ไปกันเถอะ” มาเรียจูงมือเลตตี้กลับไปหากลุ่มเพื่อนที่ยืนรอกันอยู่


***************************


“ไม่มีเฮอร์ไมโอนี่อยู่ในแผนที่นี้” แฮร์รี่เงยหน้าบอกรอนหลังจากกวาดสายตามองตามแผนที่ตัวกวนอย่างละเอียด “แสดงว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้อยู่ในฮอกวอตส์อย่างที่พวกเราสงสัยจริง ๆ “
“ทำไมเฮอร์ไมโอนี่ต้องหลอกเรา” รอนสงสัย “ทำไมต้องหลอกเราด้วยว่าต้องอยู่เวรแทนคนอื่น ๆ”
“เขาอาจจะไม่ได้หลอกเราก็ได้นะรอน บางทีเฮอร์ไมโอนี่เขาอาจจะมีธุระด่วนที่ไหนก็ได้” แฮร์รี่บอกพร้อมกับพับแผนที่เก็บ เขามองรอนที่ทำหน้ามุ่ยแล้วอมยิ้ม ทำไมเขาจะไม่รู้เรื่องที่รอนคิดกับเฮอร์ไมโอนี่เกินกว่าคำว่าเพื่อน แม้แต่เฮอร์ไมโอนี่เองก็เถอะ แม้จะทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่เขาก็รู้ว่าเธอเองก็รู้เหมือนกัน
แฮร์รี่ตบไหล่รอนเบา ๆ “เอาเถอะ เดี๋ยวเอาไว้เจอเฮอร์ไมโอนี่แล้วค่อยถามละกันว่าเขาไปทำอะไรที่ไหน”


***************************


“เอ้า ดื่มซะ” มัลฟอยยื่นน้ำแก้วใหญ่ที่รับมาจากคนขายขนมบนรถไฟส่งให้เด็กสาวที่นั่งหมดแรงอยู่ในห้อง “รีบดื่มซะ เดี๋ยวเกิดเป็นอะไรไป ชั้นยังไม่อยากจะหอบหิ้วศพเธอกลับฮอกวอตส์”
เฮอร์ไมโอนี่ค้อนขวับ แต่เหนื่อยเกินกว่าจะต่อปากต่อคำ เธอไม่แยแสกับหลอดน้ำแต่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอึกใหญ่ จนกระทั่ง...”แค่ก ๆๆๆๆๆ”
“เอ้า...เดี๋ยวก็สำลักน้ำตายหรอกยัยหัวฟู” เขาเหลือบมองเด็กสาวที่ไอไม่หยุดแว่บหนึ่งก่อนจะมองไปนอกหน้าต่าง
เสียงไอดังขึ้นอยู่พักใหญ่แล้วก็เงียบไปพักหนึ่ง แล้วเสียงเฮอร์ไมโอนี่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“นี่มัลฟอย ว่าแต่เราจะไปที่ไหนกันก่อนล่ะ เราจะไปเอาจดหมายของ ศ.มักกอนนากัลก่อนหรือว่าเราจะไปเอาของที่ ศ.ดัมเบิ้ลดอร์สั่งไว้ก่อนดีล่ะ”
มัลฟอยหันมามองเฮอร์ไมโอนี่ที่เอาแต่ก้มหน้าจดหมายสั่งงาน “แล้วที่ไหนใกล้กว่า แล้วที่ไหนใช้เวลานานกว่ากันล่ะ”
“จดหมายอยู่ไกลกว่า ส่วนของของ ศ.ดัมเบิ้ลดอร์อยู่ใกล้กว่า แต่ดูท่าว่าจะใช้เวลานานกว่า” มัลฟอยย่นคิ้ว “ถ้าเราแยกกันไป...”
“ไม่!!” มัลฟอยค้านเสียงห้วน “ไม่ต้องแยก ไปด้วยกัน”
“แต่ถ้าเราแยกกันไป มันจะเร็วกว่านะมัลฟอย”
“ไม่!!” มัลฟอยยังคงค้านดังเดิม
เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเด็กหนุ่มที่เอาแต่ใจอย่างขัดใจ “แต่มัลฟอย...”
“เอ๊ะ!! เกรนเจอร์ เธอฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือยังไง ไม่ก็คือไม่สิ เซ้าซี้อยู่ได้!!”
เฮอร์ไมโอนี่ทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ เธอหรี่ตามองเด็กหนุ่มคู่อริแล้วเอ่ยเย้า “เอ...อย่าบอกนะว่าคุณชายมัลฟอยกลัว ไม่กล้าอยู่คนเดียวท่ามกลางพวกมักเกิ้ลจำนวนมาก”
มัลฟอยสะดุ้งน้อย ๆ เขามองเด็กสาวตาขุ่น “เกรนเจอร์!!! พูดอะไรของเธอ ใครกันจะไปกลัวพวกมักเกิ้ลงี่เง่าพวกนั้น” เขาตวาด ใบหน้ามีสีระเรื่อขึ้นมาน้อย ๆ
“ก็ถ้าไม่กลัว งั้นก็แยกกันไปสิ นายกล้ามั้ยล่ะ”
มัลฟอยมองเด็กสาวที่ท้าทายตาขุ่น “เกรนเจอร์...” น้ำเสียงบอกชัดว่า...อันตราย แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่กลัว เธอพยายามกลั้นยิ้มอย่างเต็มความสามารถ

“เอาเถอะ ตามใจ ถ้าอยากไปด้วยกันก็ไปด้วยกัน เฮ้อ...” เฮอร์ไมโอนี่ทอดถอนใจ “...ถ้าใครเขารู้ว่าคุณชายมัลฟอยกลัวมักเกิ้ลล่ะก็...” เธอเหลือบมองใบหน้าซีดที่แดงขึ้นมาทันตา “...รู้ถึงไหน อายเขาถึงนั่น!!!”
“เกรนเจอร์!!!” มัลฟอยตวาดเสียงดังลั่น
แต่เฮอร์ไมโอนี่ยักไหล่ แล้วหยิบหนังสือที่ถือติดมือมาขึ้นมาอ่านโดยไม่สนใจเด็กหนุ่มที่ทำท่าฮึดฮัดอีกต่อไป


***************************


“เอ้า...ตกลงจะเอายังไงล่ะจ๊ะคนเก่ง ไหนบอกมาซิ เธออยากจะไปทางไหนก่อน” เฮอร์ไมโอนี่เย้าเด็กหนุ่มที่ยืนหันรีหันขวางอยู่หน้าสถานีรถไฟ เธอพยายามกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นเขาทำท่าจะกระโดดหนีทุกครั้งที่มีมักเกิ้ลเดินเฉียดเข้ามาใกล้
มัลฟอยก้มลงมองจดหมายพยายามไม่สนใจเด็กสาวที่กำลังดูสนุก “เราไปเอาของของ ศ.ดัมเบิ้ลดอร์ก่อนละกัน”
เฮอร์ไมโอนี่ย่นคิ้ว “แต่มันใช้เวลานานนะ”
“ก็แล้วเธอจะรอเอาของเลยทำไมล่ะ เราไปสั่งเขาก่อนแล้วค่อยกลับมาเอาทีหลังก็ได้นี่” มัลฟอยยิ้มที่มุมปาก “เรื่องแค่นี้ อัจฉริยะอย่างเธอน่าจะคิดได้นะเกรนเจอร์”
เฮอร์ไมโอนี่หรี่ตาอย่างไม่พอใจเมื่อโดนเยาะ “ใครเขาจะเก่งอย่างเธอล่ะ รู้ดีว่างานสองชิ้นจะสำเร็จลงได้เพราะร่วมมือกันทำดีกว่าแยกกันทำ”
มัลฟอยคอแข็งเมื่อโดนตอกกลับ ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างไม่ยอมแพ้ แล้วพร้อมใจกันสะบัดหน้าไปตรงไปเอาร้านที่ ศ.ดัมเบิ้ลดอร์สั่งของไว้ทันที


***************************


แม้จะไปรับจดหมายของ ศมักกอนนากัลกลับมาแล้ว แต่ของของ ศ.ดัมเบิ้ลดอร์ก็ยังคงไม่เรียบร้อย
“อีกนานมั้ยคะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างร้อนใจ เหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 ชั่วโมง รถไฟก็จะออกจากสถานีแล้ว
“ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะคุณน้อง พอดีว่าพวกพี่มีงานเร่งเข้ามาพวกเราก็เลยต้อง...”
“มีงานด่วนเข้ามาก็เลยต้องทิ้งงานของพวกเรางั้นเหรอ” มัลฟอยขัดเสียงเย็น “ทั้ง ๆ ที่พวกคุณนัดให้เรามารับของในวันนี้แล้ว ความจริงคุณควรที่จะทำให้เสร็จตั้งแต่เมื่อวานนี้ด้วยซ้ำ” เขากวาดตามองของที่เสร็จเพียงแค่บางส่วน “ทำแบบนี้ไม่มีความรับผิดชอบชัด ๆ!!!”
“เอ่อ...คือ...”
“เอาน่า ใจเย็น ๆ น่ามัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่แตะแขนเขาเบา ๆ มัลฟอยสะบัดแขนหนี เขาทำเสียงเชอะ แล้วเดินเลี่ยงไปทางอื่น

“ไม่ทราบว่าจะเสร็จทันวันนี้หรือเปล่าคะ พวกเราน่ะไม่ใช่คนที่นี่หรอกนะ เราจะต้องกลับไปให้ทันภายในวันนี้ แล้วตอนนี้เราก็มีเวลาเหลือเพียงแค่ 2 ชม. เท่านั้น”
“2 ชม.!!! ...ค่ะ...เสร็จทันแน่ค่ะไม่ต้องห่วง” เจ้าของร้านอุทานแล้วรีบตอบรับทันทีที่รู้สึกถึงสายตาขุ่นขวางที่จ้องมองมา
“งั้นก็ตกลงตามนั้น” มัลฟอยเดินเข้ามาคว้าแขนเฮอร์ไมโอนี่ไว้ “อีก 2 ชม. เราจะมาใหม่อีกครั้ง แล้วถ้าคราวนี้ยังทำไม่เสร็จอีกล่ะก็เราจะได้เห็นดีกัน” เขาขู่เจ้าของร้านที่หน้าซีดลงเรื่อย ๆ
“เธอนี่...เลิกขู่เขาสักทีได้มั้ย!!!” “พูดมากน่ายัยหัวฟู ไปจากที่นี่กันเถอะ ยิ่งอยู่ยิ่งหงุดหงิด”


***************************


“นี่มัลฟอย เธอว่าที่ร้านเขาจะทำชุดของ ศ.ดัมเบิ้ลดอร์เสร็จมั้ย” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างกังวล ตอนนี้พวกเธอนั่งกันอยู่ที่ร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากร้านตัดเสื้อมากนัก
“คงจะเสร็จมั้ง” มัลฟอยตอบอย่างไม่ใส่ใจ “แต่ตาแก่นั่นก็พิลึก ทำไมต้องมาตัดเสื้อกับพวกมักเกิ้ลงี่เง่าพวกนี้ด้วยก็ไม่รู้ ชักช้าเสียเวลา!!” เขาคนแก้วกาแฟไปมาอย่างหงุดหงิด
“น่า...อาจารย์เขาก็คงมีเหตุผลของเขาน่ะแหล่ะ”
“เฮอะ!!”

ใบหน้าคมเข้ม ท่านั่งสบาย ๆ แต่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในตนเองสูงดึงดูดสายตาของคนที่อยู่ภายในร้านมาเป็นจุดเดียว เฮอร์ไมโอนี่เริ่มขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อรู้สึกว่ามีหญิงสาวหลายคนทั้งสวยและไม่สวยเดินเฉียดเข้ามาที่โต๊ะของพวกเธอและทุกคนต่างก็พากันส่งสายตาเชิญชวนมาให้กับเขาอย่างเต็มที่ แต่มัลฟอยกลับไม่สนใจ เขายกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเฉย

“นี่ มีเวลาอีกตั้งนาน เรา...อย่ามานั่งกันอยู่อย่างนี้เลยนะ” เฮอร์ไมโอนี่ชวน
มัลฟอยเลิกคิ้ว “แล้วเธอจะไปไหนล่ะ”
“คือ...ใกล้ ๆ กันนี้มีห้างสรรพสินค้าน่ะ เราไปเดินกันที่นั่นเถอะนะ”
“นี่เธออยากจะไปช็อปปิ้งงั้นเหรอ” เขาถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นี่เรามาทำธุระกันนะ ไม่ได้มาเที่ยว เชื่อเขาเลย”
“น่า มีแอร์เย็น ๆ มีของให้ดูเพลิน ๆ เดี๋ยวแป๊บ ๆ เวลาก็หมดไปเองแหล่ะ”
มัลฟอยหงุดหงิด “จะไปให้ได้ว่างั้นเถอะ”
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มหวาน ต้องการเอาใจเขาเต็มที่ รอยยิ้มหวานดึงดูดสายตาหนุ่ม ๆ หลายคนรวมทั้งคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นด้วย “นะมัลฟอย เอาแต่มานั่งคอยเวลาอย่างนี้น่าเบื่อออก”
“เฮ้อ...” เขาถอนใจ ทำไมถึงต้องใจอ่อนกับยัยหัวฟูนี่ทุกทีนะ “ตามใจเธอแล้วกันยัยหัวฟู แต่ถ้าเธอเอาแต่เดินช็อปปิ้งเพลินจนลืมเวลาล่ะก็ เธอต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ เข้าใจมั้ย”


จุดเริ่มต้น...ของมิตรภาพ ตอนที่ 2 (จบ)



“ว้าว!!! น่ารักจังเลย!!!” เฮอร์ไมโอนี่หยิบตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่มากอดไว้ “ดูสิมัลฟอย นุ้มนุ่ม”
มัลฟอยมองเด็กสาวที่ยิ้มหน้าบานกอดตุ๊กตาไว้แน่น “นี่เธอ...อายุเท่าไหร่แล้วฮะยัยหัวฟู ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้” เขาเท้าสะเอว “ไม่ได้ดูตัวเองเล้ย”
เฮอร์ไมโอนี่หน้างอ “แหม...เธอนี่นะ พูดอะไรไม่ค่อยจะรักษาน้ำใจคนอื่นเขาเลย” เธอหยิบตุ๊กตาแบบเดียวกันแต่มีขนาดเล็กกว่าเป็นเท่าตัวขึ้นมา “ผู้หญิงน่ะนะ ต่อให้เด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่ว่าใครก็ชอบตุ๊กตาทั้งนั้นแหล่ะ ไม่ได้รู้อะไรเอาซะเลย” เธอเหล่มองมัลฟอยที่ทำหน้าเบื่อหน่าย “อุ๊ยตายจริง ชั้นลืมไปว่าคนเย็นชาไร้ความรู้สึกอย่างเธอคงจะไม่เข้าใจเรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้หรอก”
มัลฟอยมองเด็กสาวที่แกล้งทำท่าทางใสซื่อกึ่งขบขันกึ่งโมโห “ปากดีนักนะยัยหัวฟู แล้วอย่าบอกนะว่าเธอตั้งใจจะซื้อมันจริง ๆ”
“ก็อยากจะซื้อน่ะนะ แต่ตัวมันใหญ่ไปแล้วก็แพงเกินไปด้วย” เธอวางตุ๊กตาตัวใหญ่ลงอย่างเสียดาย แล้วเธอก็จับตุ๊กตาตัวเล็กขึ้นมาแนบกับแก้ม “ก็เลยตั้งใจว่าจะซื้อตุ๊กตาตัวเล็กนี้แทน เธอคิดว่ายังไงล่ะมัลฟอย”
“เฮ้อ...ก็ตามใจเธอก็แล้วกัน”


********************************************


“หายไปไหนของเขาน้า” เฮอร์ไมโอนี่เขย่งตัวชะเง้อหาร่างสูงของมัลฟอยท่ามกลางฝูงชนที่เดินกันไปมาขวักไขว่ เมื่อครู่ที่ผ่านมาเธอกับเขาแยกกันไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาก่อนที่จะกลับไปรับของอีกครั้ง “เอ้...”
“ทำอะไรของเธอฮะยัยหัวฟู” น้ำเสียงยานคางดังขึ้นด้านหลัง “นอกจากจะหัวฟูแล้วยังจะเตี้ยอีกแฮะยัยนี่”
เฮอร์ไมโอนี่ค้อนขวับ “เธอนี่นะ ผีเจาะปากมาพูดหรือยังไง ไม่เคยพูดอะไรดี ๆ เลย”
“ก็พอกันแหล่ะ” เขาสวนทันควัน “ถ้าผีเจาะปากฉันจริง ก็คงจะเจาะเธอด้วย ไม่งั้นเธอจะเถียงคำไม่ตกฟากอย่างนี้เรอะ”
เฮอร์ไมโอนี่หน้างอ เธอเหลือบไปเห็นถุงที่อยู่ในมือเขาแล้วขมวดคิ้ว “นี่เธอไปซื้อของมาเหรอมัลฟอย”
มัลฟอยยกถุงขึ้นมา “มีของจำเป็นต้องใช้นิดหน่อยน่ะ” เขาก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ “เราไปกันเถอะ ป่านนี้ชุดของ ศ.ดัมเบิ้ลดอร์น่าจะเสร็จแล้ว”


********************************************


ในเวลาอาหารเย็น ห้องโถงใหญ่ฮอกวอตส์ รอนกับแฮร์รี่เหลียวหาเฮอร์ไมโอนี่ที่ควรนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารด้วย แต่กลับไม่มีแม้แต่เงา
“นี่เขาหายไปไหนของเขากันนะแฮร์รี่ จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่โผล่มาอีก” รอนถามอย่างหงุดหงิด “จะไปไหนมาไหนก็น่าจะบอกกันบ้าง”
“น่า ใจเย็นน่ารอน บางทีเขาอาจจะมีเรื่องสำคัญก็ได้” แฮร์รี่ปลอบอย่างเซ็ง ๆ ก็วันนี้เขาใช้ประโยคนี้ปลอบไอ้เพื่อนรักมาหลายต่อหลายครั้งแล้วนี่ มันก็ฟังอยู่หรอก แต่เดี๋ยวก็เอาอีก บ่นอีกละ

“พี่พอตเตอร์คะ”
“อ้าว เบเนดิศ มีอะไรเหรอ”
“พี่เฮอร์ไมโอนี่ไม่อยู่เหรอคะ”
“ไม่อยู่หรอก นี่เขาหายไปไหนก็ไม่รู้ หายังไงก็หาไม่เจอ”
“งั้นเหรอคะ” มาเรียเหลียวมองไปที่อีกฟากหนึ่งของห้องโถง ที่ฝั่งนั้นก็ไม่มีร่างสูงนั่งอยู่ในที่นั่งประจำเช่นกัน
“มีอะไรหรือเปล่า”
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ งั้นชั้นขอตัวก่อนเลยนะคะ”


********************************************


ครืน...ปัง!!!
“อ๊ะ!!” เฮอร์ไมโอนี่ผวาตื่นด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงดังสนั่น
“อ้อ...ตื่นแล้วเหรอยัยหัวฟู ขี้เซาจริง ๆ เลยนะเธอ พออิ่มปุ๊บก็หลับปั๊บเลย ที่บ้านเธอนี่เลี้ยงดีจริง ๆ”
เธอมองเด็กหนุ่มที่นั่งถากถางอยู่ด้านตรงข้ามตาขุ่น “มีเพื่อนร่วมทางที่ไร้มนุษยสัมพันธ์ก็อย่างนี้แหล่ะ อย่างกะหุ่น ไร้ความรู้สึก!!” เธอเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้
มัลฟอยหรี่ตา เขาลุกขึ้นแล้วกระชากถุงที่วางด้านข้างขึ้นมา “รถไฟกำลังจะเข้าสถานี เตรียมตัวได้แล้วยัยเลือดสีโคลน” มัลฟอยเอ่ยย้ำด้วยน้ำเสียงเย็นชา แล้วเปิดประตูห้อง
เฮอร์ไมโอนี่แทบเต้นเธอรีบลุกขึ้นยืน แต่ยังไม่ทันได้โต้ตอบ ร่างสูงก็เดินพ้นไปจากห้องแล้ว เฮอร์ไมโอนี่คว้าถุงขึ้นมาเดินตามเขาออกไปด้วยความขุ่นเคืองใจ


********************************************


“เฮอร์ไมโอนี่...นี่เฮอร์ไมโอนี่ตื่นเถอะ” ปาราวตีเขย่าเพื่อนที่นอนนิ่งไม่ยอมขยับเบา ๆ นี่ก็เลยเวลาตื่นของเฮอร์ไมโอนี่มากแล้ว แต่เพื่อนเธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลยสักนิด “เฮอร์ไมโอนี่”
“อือ...” เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวน้อย ๆ เธอพยายามฝืนลืมตาที่หนักอึ้งให้เปิดขึ้น แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นไปได้ ก็แหง๋ล่ะ เมื่อคืนนี้กว่าเธอจะกลับมาถึง กว่าเธอจะได้ล้มตัวลงนอนก็เกือบตี 3 แล้ว
“ตื่นเถอะเฮอร์ไมโอนี่ รอนกับแฮร์รี่รออยู่ข้างล่างแหน่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่พลิกตัวซบหน้าลงกับหมอน “บอกให้รอนกับแฮร์รี่ไปกันก่อนเถอะปาราวตี ฉันจะนอน”
“จะนอนได้ยังไง แล้ววันนี้เธอมีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ”
“วันนี้ชั้นไม่เข้า” เฮอร์ไมโอนี่ดึงผ้าห่มที่ปาราวตีดึงไปกลับมา
“ไม่เข้า!? แต่เช้านี้เธอมีเรียนกับศ.มักกอนนากัลนะไม่เข้าเดี๋ยวก็โดนลงโทษหรอก” ปาราวตีตกใจ เรื่องโดดเรียนนี่เธอแน่ใจว่าเฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยทำแน่ แล้วยังเป็นวิชาของศ.มักกอนนากัลอีก นี่เธอหูฝาดไปหรือเปล่าเนี่ย “เฮอร์ไมโอนี่... “
“อื้อ...ไม่เป็นไรหรอกปาราวตี ศ.มักกอนนากัลรู้แล้ว”
“เหรอ แล้วเมื่อวานนี้เธอหายไปไหนกันเฮอร์ไมโอนี่ รอนกับแฮร์รี่เขาเป็นห่วงมากนะ” “ไปทำธุระให้ ศ.ดัมเบิ้ลดอร์กับ ศ.มักกอนนากัลมาน่ะ กว่าจะกลับมาก็ดึกมากแล้ว” เฮอร์ไมโอนี่คลุมโปง “ฝากบอกรอนด้วยนะปาราวตี”
“ได้ เดี๋ยวชั้นจะบอกให้”


********************************************


แม้จะได้นอนเพียงไม่นาน แต่หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงเฮอร์ไมโอนี่ก็ลุกขึ้นแต่งตัว “เอ...หนังสือหายไปไหนน้า” เธอหาหนังสือที่ใช้เรียนในวันนี้ จริงอยู่ว่าเธอได้รับอนุญาตจาก ศ.มักกอนนากัลว่าไม่ต้องเข้าเรียนในเช้านี้ แต่วิชาต่อไปที่เป็นของ ศ.สเนปนั้น เธอไม่ได้รับอนุญาตเช่นนั้น
“อ๊ะ...อยู่นี่เอง” เธอคว้าหนังสือปรุงยาขั้นสูงมาวางไว้กับหนังสือเล่มอื่นที่วางอยู่บนโต๊ะ “ครบหรือยังน้า” เธอเช็คอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เมื่อเห็นว่าหนังสือทุกเล่มและอุปกรณ์ที่อย่างที่ต้องใช้ในวันนี้มีอยู่ครบแล้วเธอก็หันไปหยิบถุงใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างโต๊ะขึ้นมา ถุงใบนั้นก็คือถุงใส่ตุ๊กตาที่เธอซื้อมาเมื่อวานนี้เอง

“เอ...ทำไมมันแปลก ๆ ไปนะ” เธอพลิกถุงไปมาด้วยท่าทางงง ๆ “เหมือนมันจะ...ใหญ่กว่าเดิม...หรือเปล่านะ” เฮอร์ไมโอนี่เปิดถุงและก็ต้องตาโตเมื่อเห็นของที่อยู่ด้านใน “นี่มัน...”
เธอดึงตุ๊กตาที่อยู่ในถุงออกมา ไม่ใช่เพียงแค่ถุงเท่านั้นที่แปลกไป แม้แต่ตัวตุ๊กตาเองก็แปลกไปด้วย แม้จะจำได้ว่าตุ๊กตาตัวที่ดึงออกมานี้จะมีขนาดเดียวกันกับตัวที่เธอต้องตัดใจไปเพราะจำนวนเงินที่ต้องจ่ายไปนั้นไม่ใช่น้อย ๆ แต่เธอแน่ใจว่าตัวที่เธอซื้อมาไม่ใช่ตัวนี้แน่นอน
“ใส่ถุงผิดเหรอ ก็ไม่น่าจะใช่นะ เพราะเราหยิบไปจ่ายเงินเองนี่” เธอวางถุงลงอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เธอเพ่งมองตุ๊กตาตัวนั้นแล้วก็เห็นกระดาษใบเล็ก ๆ ที่อยู่ในมือตุ๊กตาหมี กระดาษใบเล็ก ๆ ที่มีคำเพียงแค่ 2 คำ ‘แลกกัน’

เฮอร์ไมโอนี่เลิกคิ้ว ถึงจะไม่มีการลงชื่อ แต่เธอก็จำได้อย่างแม่นยำว่าเป็นลายมืดใคร อืม...มัลฟอยคงจะเห็นเธอทำท่าเสียดายตุ๊กตาตัวนั้นสินะก็เลยซื้อมาคงจะแอบเอามาเปลี่ยนตอนที่เธอผล็อยหลับไปบนรถไฟซิท่า เธอยกตุ๊กตาขึ้น ย่นจมูกใส่ตาสีดำใหญ่ “เชอะ...แล้วมาทำเป็นว่าเราเป็นเด็ก” เธอยิ้มที่มุมปาก “เอาเถอะ ชั้นก็ไม่รู้หรอกนะว่านายทำอย่างนี้ทำไม เอาเป็นว่า ถือเป็นของที่ระลึกที่ได้ไปเที่ยวห้างกับนายแล้วกันนะมัลฟอย”

เธอหวนนึกไปถึงตุ๊กตาตัวเล็กที่ตั้งใจจะซื้อมาตั้งโชว์ที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วอมยิ้ม “ว่าแต่ไอ้ตัวที่ชั้นซื้อมานี่ นายจะเอาไปทำอะไรนะ จะเอาไว้ให้ยัยหมาจูแฟนนายงั้นเหรอ หรือว่า...” เธอปล่อยคิกออกมาเมื่อนึกภายโต๊ะเขียนหนังสือของมัลฟอยที่มีตุ๊กตาของเธอตั้งอยู่ “คนขี้เก๊กอย่างนายคงจะไม่ทำอะไรอย่างนั้นหรอกจริงมะ” เธอวางตุ๊กตาลงบนมุมหัวเตียงอย่างบรรจง “อยากรู้จริงจริ๊งว่านายจะทำยังไงกับตุ๊กตาของชั้นกันนะ เดรโก มัลฟอย”

The End

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น