วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

JE TE VEUX ....ต้องการคุณ(21-22)

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1

JE TE VEUX : Chapter 21 รอยร้าว
จินนี่มองสามีของเธอเดินผ่านเข้ามาทางประตูบ้าน เธอนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น และถึงแม้ว่าเข็มนาฬิกาจะเดินผ่านไปแล้วสองชั่วโมงนับตั้งแต่เธอเริ่มอ่าน เธอก็ยังอ่านหน้านั้นไม่จบ
เวลาเลิกงานตามปกติคือสิบแปดนาฬิกาตรง จินนี่ไม่เข้าใจว่าทั้งที่เธอและแฮร์รี่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน เหตุใดในระยะหลังนี้เขาถึงยืนยันที่จะไปทำงานและกลับบ้านด้วยรถคนละคันกับเธอ และเหตุใดเธอจึงถึงบ้านก่อนเขาสองหรือสามชั่วโมงทุกวัน ทั้งๆ ที่พวกเขาเลิกงานเวลาเดียวกัน
จินนี่ปิดหนังสือลงขณะที่แฮร์รี่เดินข้ามห้องโถงเข้ามา เขาเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องนั่งเล่น เอนกายพิงกรอบประตูโดยแขนทั้งสองห้อยอยู่ข้างลำตัว สายตาของเขาจับจ้องราวกับจะค้นหาอะไรบางอย่างบนพรม
จินนี่ยิ้มให้เขาแม้ว่าเขาจะไม่มองเธอเลย เธอวางหนังสือลงที่โต๊ะเล็กๆ และเดินข้ามห้องมาหาเขา เธอหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาและเขย่งเท้าขึ้นจูบเขาเร็วๆ บนริมฝีปากที่เม้มเป็นเส้นตรง
ทำไมกลับช้าจังคะเธอถามอย่างอ่อนหวาน ทั้งที่เธอแทบอยากจะกระชากคอเขาแล้วเค้นหาคำตอบ
ในที่สุดแฮร์รี่ก็มองเธอจนได้ เขายิ้มทั้งๆ ที่เธอเห็นความเครียดในตาของเขา
ฉันแวะระหว่างทางนิดหน่อย
จินนี่คิดว่าเป็นคำตอบที่ดูไม่สมเหตุสมผลนัก แต่เธอก็กลั้นใจพยักหน้าแม้ว่าเธออยากจะร้องกรี๊ดและบังคับให้เขาอธิบายเหตุผลที่เขาทำตัวประหลาดๆ และห่างเหินกับเธอในช่วงหลังนี้
ฉันเตรียมมื้อเย็นไว้แล้ว เธอไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ
แฮร์รี่พยักหน้าอย่างเหนื่อยๆ และหันหลังเดินตรงไปที่บันไดซึ่งทอดสู่ชั้นสอง จินนี่ถอนหายใจและจ้องมองขณะแฮร์รี่ก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก
แฮร์รี่เธอเรียกเขาอย่างกลัดกลุ้มขณะที่เขาก้าวขึ้นขั้นที่สี่
เขาหันมาและมองเธออย่างเลื่อนลอย
เธอเป็นอะไรรึเปล่า ?” จินนี่ถามอย่างหมดความอดทน และภาวนาให้คำตอบที่หลุดออกมาจากปากของเขาไม่ทำให้เธอสะเทือนใจไปมากกว่าท่าทีห่างเหินของเขา
แฮร์รี่กระตุกยิ้มที่มุมปาก เขามองเธอด้วยสายตาล้ำลึกและเหมือนกับกำลังพินิจพิจารณา
ฉันกำลังคิดอะไรบางอย่าง

แฮร์รี่เลื่อนกายลงในอ่างอาบน้ำ เขายกมือขึ้นเสยผมที่เปียกชุ่มอย่างหนักใจ เขาเริ่มหวนนึกถึงการสนทานาอันจืดชืดและห่างเหินเมื่อครู่ระหว่างเขากับจินนี่ ดูเธอไม่สบายใจนักกับปฏิกิริยาของเขาที่มีต่อเธอในพักหลัง มันเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และค่อยๆ เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนในที่สุด... วันหนึ่งแฮร์รี่ก็ต้องยอมรับกับตัวเองอย่างรังเกียจ
เขาไม่ได้รักจินนี่
ฝ่ามือของเขาฟาดลงบินผิวน้ำอย่างแรง ให้ตายเถอะ! แฮร์รี่สบถในใจ เขาเกลียดตัวเองเหลือเกิน ทุกครั้งที่เขามองจินนี่ มองในดวงตาสีฟ้าที่จ้องมองเขาราวกับกำลังสำรวจตรวจค้นนั้น เขาแทบอยากจะวิ่งหนีไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง เขาทนเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เขาทรยศภรรยาที่รักและซื่อสัตย์กับเขา
ในขณะที่เขา...
ภาพของเฮอร์ไมโอนี่ปรากฏขึ้น และทำให้หัวใจของเขาเต้นรัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้เขาแทบหยุดหายใจ เขาต้องทนทรมานกับความคิดที่ว่าเฮอร์ไมโอนี่ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของไอ้คนสารเลวเดรโก มัลฟอย มันทำให้แววตาของเธอชอกช้ำ เขาเห็นได้ในวันนี้และนั่นทำให้หัวใจของเขาเกือบสลาย เขาพบว่าตัวเองยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอไม่ให้เจอกับความเจ็บปวดนั้น เขายินดีจะฆ่ามัลฟอยอย่างร่าเริง และเขาสาบานว่าจะทำ ถ้าไอ้คนโฉดชั่วนั่นยังไม่หยุดการกระทำชั่วๆ ที่มันทำกับเฮอร์ไมโอนี่
แฮร์รี่ถอนหายใจและเลื่อนตัวลงใต้น้ำ ตอนนี้... เรื่องของจินนี่เอาไว้ก่อนได้ เฮอร์ไมโอนี่ตางหากที่เขาต้องสนใจ

เฮอร์ไมโอนี่มองแม็คไกวน์อย่างเสียใจขณะที่เขายกถ้วยชาขึ้นจิบ เธอถูกแม็คไกวน์เชิญมาพบในห้องทำงานของเขา และนี่เป็นจิบที่ห้าหลังจากที่แม็คไกวน์แทบจะล้วงคอให้เฮอร์ไมโอนี่เล่าให้เขาฟังทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันนี้ หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่เล่าจบ แม็คไกวน์ก็เริ่มจิบน้ำชาในถ้วยกระเบื้อง
เธอเฝ้ามองขณะแม็คไกวน์วางถ้วยลงบนจาน และเลื่อนจานมาวางไว้บนโต๊ะที่คั่นกลางระหว่างเธอและเขา แม็คไกวน์ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่แปลกใจด้วยการลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ด้วยท่าทางสง่างาม เขาเดินไปที่ตู้ไม้แกะสลักอย่างสวยงามซึ่งตั้งอยู่ติดกับผนังกระจกด้านหนึ่งซึ่งสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบบ้าน เขาเปิดประตูบานเล็กๆ ซึ่งปรากฏให้เห็นแผงปุ่มคอนโทรลล์ เฮอร์ไมโอนี่ชะโงกกายมองขณะเขากดรหัสและทำให้บานไม้ด้านหนึ่งเลื่อนขึ้น เฮอร์ไมโอนี่แทบจะร้องออกมาเมื่อเห็นปืนทุกแบบทุกขนาดเรียงรายอยู่ด้านใน ตู้ใบนั้นมันคลังขีปนาวุธชัดๆ
แม็คไกวน์หยิบปืนกล็อก 9 มม. คู่ใจออกมาและหันมายิ้มให้เฮอร์ไมโอนี่ คุณว่าสำหรับการฆ่าเดรโก มัลฟอยเนี่ย ต้องใช้กระสุนกี่นัดครับ
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นยืนและมองเขาด้วยดงตาเบิกโพลงอะไรนะคะ!
แม็คไกวน์พูดอย่างใจเย็น ผมว่าเขาหนังหนาและอึดเหมือนกระทิง สี่นัดคงพอสำหรับเขาเขาขมวดคิ้วในระหว่างที่คำนวณ
คุณจะไม่ฆ่าเขา!เฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงหลงและวิ่งถลาเข้ามาหยุดตรงหน้าเขาเขาเป็นเพื่อนของคุณนะคะ!
รอยยิ้มแบบเทพบุตรกระหายเลือดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแม็คไกวน์ผมคิดว่าเขาคงยื่นใบลาออกการเป็นเพื่อนกับผมตั้งแต่วันที่เขาเริ่มทำร้ายคุณแล้ว ถ้าเขาเป็นเพื่อนผมจริง เขาต้องรู้ว่าผมจะไม่ทนกับการทำร้ายผู้หญิงทุกรูปแบบ และเขาต้องรู้ด้วยว่าผมจะลากไอ้พวกทำร้ายผู้หญิงทุกคนมาเชือด
แต่คุณจะฆ่าเขาเพียงเพราะเขาทำร้ายฉันงั้นเหรอคะเฮอร์ไมโอนี่แย้งอย่างร้อนใจ
แม็คไกวน์ก้มลงมองดูเธออย่างแปลกใจนี่ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าคุณกำลังปกป้องเขา
สีแดงเข้มแล่นขึ้นไปรวมตัวกันบนแก้มซีดๆ ของเฮอร์ไมโอนี่ หัวสมองของเธอตีกลับ เรียกร้องให้ดึงคำพูดที่หลุดออกไปคืนมา เธอมองแม็คไกวน์อย่างตกตะลึง และในที่สุดเธอก็สามารถบังคับให้ตัวเองพูดออกมาได้ ด้วยเสียงที่สั่นและตะกุกตะกัก
คะ... คุณไม่ได้หมายความ... อย่าง... อย่างนั้นหรอกเธอยิ้ม แต่ไม่สบตาเขา เธอรู้ว่าเขากำลังมองเธออย่างค้นหา เฮอร์ไมโอนี่ก้าวขาสั่นๆ กลับไปที่โซฟา และทิ้งตัวลงนั่งอย่างมั่นคง
ฉันจะปกป้องเขาทำไม...เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ และขณะที่เธอกำลังหาข้อแก้ตัวให้ตนเอง เธอก็รู้สึกดีใจที่แม็คไกวน์เก็บปืนของเขาและเดินกลับมาที่โซฟา เธอพยายามบอกตัวเองว่าเธอแค่รู้สึกไม่อยากให้แม็คไกวน์ออกไปฆ่าใคร แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่กล้ามองแม็คไกวน์ที่ค่อยๆ นั่งลงบนโซฟาตรงหน้าเธอ
ผมคิดว่าการที่คุณอยู่กับเขานานเกินไป... ทำให้คุณเริ่มรู้สึกเป็นห่วงเขาแม็คไกวน์พูดขึ้นหลังจากที่เขาเงียบไปพักใหญ่ คำพูดของเขาดึงศีรษะของเฮอร์ไมโอนี่ให้เงยขึ้น
เธอมองเขาอย่างตกตะลึงฉันเปล่า
แม็คไกวน์ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน แต่ในความคิดของเฮอร์ไมโอนี่แล้วมันเป็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจ... เหมือนที่มัลฟอยมักจะทำบ่อยๆ
เธอคิดถึงเขาอีกแล้ว...
ผมอยากให้คุณเลิกคิดถึงผู้ชายคนนั้น ... เลิกคิดถึงเขา เลิกโกรธเขา เลิกสาปแช่งเขาเขาเอื้อมมือข้ามโต๊ะตัวเล็กๆ มาจับมือเธอไว้ เฮอร์ไมโอนี่มองมือของเขาอย่างครุ่นคิดอย่าให้เขามีอิทธิพลกับคุณไม่ว่าเรื่องใดๆ ถ้าคุณยังเลิกคิดเรื่องของเขาไม่ได้ เขาจะครอบงำคุณตลอดไป
และนั่นเป็นสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ทนไม่ได้ ความคิดที่ว่ามัลฟอยจะติดตัวเธอไปตลอดกาลทำให้เธอรู้สึกท้อแท้ เขาคือคนที่เธออยากจะลืม และแม็คไกวน์พูดถูก เธอต้องตัดอารมณ์ที่มีต่อเขาในทุกๆ ด้านออกไป
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองเขา และเอเห็นคำขอโทษมากมายที่เขาส่งมาให้ เขาดูสลดและเหมือนจะรู้สึกผิด
ผมเองก็ไม่ต่างจากเขานัก ผมทำให้คุณเป็นทุกข์เขาดึงมือกลับไปและเอนหลังพิงโซฟาอย่างห่อเหี่ยว ผมทำให้ชีวิตของคุณพังพินาศ และผมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อชดใช้ความผิดที่ผมก่อขึ้น
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาดูราวกับเด็กนักเรียนที่กำลังนั่งสารภาพผิดอยู่ตรงหน้าคุณครู เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เขา เขาเป็นคนดี... และในตอนนี้เขาเป็นเพื่อนของเธอ
ฉันให้อภัยคุณค่ะคำพูดของเธอดึงรอยยิ้มกว้างสดใสขึ้นบนใบหน้าของเขา

เกือบเที่ยงคืนเมื่อเฮอร์ไมโอนี่กลับเข้าห้องนอนที่แม็คไกวน์รับรองว่าเป็นห้องนอนที่ดีที่สุดในคฤหาสน์รองจากห้องนอนของเขา เฮอร์ไมโอนี่ล็อคประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องที่มืดมิด วันนี้เธอเหนื่อยมาก... และมีเรื่องมากมายที่ทำให้เธอต้องคิด เธอนั่งลงบนเตียง และคิดถึงแฮร์รี่... เธอยิ้มและยกมือขึ้นแตะเบาๆ ที่ริมปีปากราวกับว่าถ้าเธอแตะแรงเกินไป สัมผัสของแฮร์รี่จะหายไป
ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่แข็งกร้าวขึ้น ผู้ชายสารเลวคนนั้นจัดการให้สัมผัสของแฮร์รี่หายไปแล้ว แทนที่ด้วยจูบที่น่าขยะแขยงนั้น เธอยกแขนขึ้นถูริมฝีปากแรงๆ อย่างรังเกียจ ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นเคยใช้มือสกปรกๆ นั่นสัมผัสเธอทั่วทั้งร่าง แต่ไม่มีครั้งไหนที่เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนเท่าครั้งนี้ เขาจูบเธอหลังจากที่แฮร์รี่จูบ มันทำให้เธอคลื่นไส้
ลมเย็นๆ พัดเข้ามา ทำให้ร่างที่อยู่ในชุดนอนบางๆ ของเฮอร์ไมโอนี่สะท้าน เธอหันไปที่ระเบียงและพบว่าบานเลื่อนกระจกถูกเปิดไว้ เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วขณะจ้องมองผ่าม่านที่ขยับไหวเพราะต้องแรงลม เธอจำได้ว่าไม่เคยเปิดมันเลย เฮอร์ไมโอนี่ให้เหตุผลกับตัวเองว่าบางทีอาจจะเป็นแม่บ้านที่เข้ามาทำห้องก็ได้
เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นและเดินไปที่ระเบียง ลมเย็นๆ นั้นทำให้เธอต้องถูแขนด้วยความหนาว เธอยื่นมือผ่านผ้าม่านที่พลิ้วสะบัดเพื่อจะปิดบานเลื่อน แต่เงาสูงของร่างหนึ่งก็กระโจนเข้าหาเธอ!
ยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้อ้าปากร้อง ปากอุ่นๆ ของร่างนั้นก็ประกบปากของเธอไว้ แขนแข็งแรงข้างหนึ่งสอดเข้ามาที่สะโพกของเธอและยกตัวเธอขึ้นจนเท้าลอยจากพื้น เฮอร์ไมโอนี่พยายามดิ้นแต่มือข้างที่ว่างของเขาก็ประทับลงที่ท้ายทอยของเธอและกดลง บังคับให้ริมฝีปากเธอแนบกับเขามากขึ้น เสียงร้องของเธออัดแน่นอยู่ในลำคอ และเมื่อรู้ตัวอีกที เธอก็ถูกวางลงบนเตียงอย่างทะนุถนอมที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
เฮอร์ไมโอนี่อาศัยช่วงเวลานั้นอ้าปากเพื่อที่จะกรีดร้อง แต่ปากของเขาก็ประทับลงมาอย่างรวดเร็วราวกับรู้ใจเธอ มือที่ตีเปะปะของเธอถูกรวบไว้ด้วยมือใหญ่โตข้างเดียว น้ำตาของเธอไหลเมื่อรู้สึกว่าข้อมือของเธอถูกพันธนาการด้วยเชือกหรืออะไรสักอย่าง เขาผูกปมอย่างแน่นหนาและถูกต้องโดยที่ยังไม่ละริมฝีปากไปจากเธอ
ในที่สุดเขาก็ยกศีรษะขึ้น เฮอร์ไมโอนี่เพ่งสายตาในความมืดอย่างตกตะลึง ... เงานั้นเป็นเงาที่ชัดเจนและเธอคุ้นเคย เขาก้มลงจูบที่แก้มเธออย่างนุ่มนวล เฮอร์ไมโอนี่ตกตะลึงเกินกว่าที่จะร้องออกมาได้ เธอคิดว่าเธอรู้ว่าเขาเป็นใคร... เมื่อริมฝีปากของเขาจูบไล่ไปถึงใบหูของเธอ
คิดถึงฉันมั้ย...
ไม่มีทางที่เฮอร์ไมโอนี่จะลืมน้ำเสียงนั้นได้ ดวงตาของเธอเบิกกว้างขณะที่ฝันร้ายของเธอค่อยๆ ยกศีรษะขึ้น แสงจันทร์จากระเบียงส่องผ่านเข้ามา และทำให้ฝันร้ายของเธอชัดเจนในความมืด
เดรโก มัลฟอย
หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่เต้นแรงขณะที่เขาก้มลงและจูบที่ปากเธอเบาๆ อีกครั้ง เธอได้แต่นอนตัวแข็งไม่กล้ากรีดร้อง ไม่กล้าแม้แต่จะคิดอะไรด้วยซ้ำ เหมือนกับปุ่มหยุดทำงานในร่างกายของเธอถูกกด มัลฟอยจูบไปทั่วใบหน้าของเธอ เธอเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง พยายามจะทำความเข้าใจกับสัมผัสอันอ่อนโยนของเขา
ฉันคิดถึงเธอเขากระซิบขณะที่ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของเธออย่างโหยหาฉันจะพาเธอไปจากที่นี่
สติของเธอกลับคืนมา ร่างกายของเธอเริ่มทำงาน ไซเรนในหัวของเธอเริ่มกรีดร้อง เฮอร์ไมโอนี่ทุบเขาด้วยทั้งสองมือที่ถูกมัดไว้ เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่งได้แต่เขาไม่ปล่อยให้เธอหนี เธออ้าปากจะร้องเรียกแม็คไกวน์ แต่แขนข้างหนึ่งของเขารัดเอวบางเธอไว้และใช้อีกมือหนึ่งตะปบปากเธอ
เขากระซิบอยู่ข้างหูเธอ ขณะที่เธอพยายามดิ้นหนี ฉันคิดว่าเรารู้เรื่องกันแล้วซะอีกเขาคำรามอย่างดุดัน เขาดึงแขนข้างที่รัดเอวเธอออกและใช้ขาพาดทับลำตัวเธอ ท่าไม่อยู่ในสถานการณ์อันตรายนี้เฮอร์ไมโอนี่คงจะหัวเราะเพราะพวกเขาคงดูเหมือนเด็กเล่นมวยปล้ำ เขาล้วงเข้าไปในประเป๋ากางเกงและดึงผ้าสีขาวผืนหนึ่งออกมา เหมือนตั้งใจเตรียมมาไว้แต่แรก และใช้ผ้านั้นมัดปากเธอและผูกปมที่ด้านหลังศีรษะเธออย่างคล่องแคล่ว
ให้ตายสิ!เขาร้องราวกับได้รับความทรมานฉันไม่อยากทำแบบนี้เลย!
เขาดันเธอให้นอนลงกับเตียงอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่ครางอู้อี้อยู่ในลำคอขณะที่เฝ้ามองเขาทอดเสื้อโค้ทสีดำสนิทออก เขาใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งตัว ทำให้ร่างของเขาเหมือนจะกลืนหายไปในความมืด มีแต่ผมสีทองและสีผิวของเขาเท่านั้นที่สะท้อนแสงจันทร์
เขาเอาเสื้อโค้ทนั้นห่อร่างของเธอเอาไว้ราวกับเธอเป็นศพที่รอการทำพิธี โดยไม่สนใจเสียงอู้อี้เล็กๆ ของเธอเมื่อเขายกตัวเธอขึ้นพาดบ่า เขาจับเธอไว้ด้วยมือข้างเดียวราวกับเธอเป็นแค่กระสอบแป้งเบาๆ แขนอีกข้างของเขาห้อยอยู่ข้างลำตัวอย่างสบายๆ เขาสบถพึมพำขณะก้าวลงจากเตียงอย่างมั่นคง
“... สิ่งแรกที่ฉันจะทำหลังพาเธอไปจากคฤหาสน์เวรนี่คือขุนเธอให้อ้วนเป็นหมู...น้ำเสียงของเขาหงุดหงิดและไม่พอใจ เฮอร์ไมโอนี่อยากจะสวนกลับไปว่าน้ำหนักของเธอไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา แต่เมื่อเขาก้าวออกไปที่ระเบียง เฮอร์ไมโอนี่ก็มีเรื่องให้คิดมากกว่า
มัลฟอยก้าวขึ้นไปยืนบนขอบระเบียงอย่างน่าหวาดเสียว ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไร และเหมือนเขาจะจับความกังวลและสงสัยของเธอได้ เขาปรับท่าโดยอุ้มเธอไว้ด้วยแขนข้างเดียวเหมือนเธอเป็นเด็กทารก ทำให้เธอต้องก้มลงมองเขาและส่งเสียงห้ามในลำคอ
ใช่แล้ว... ที่รักเขายิ้มร่าอย่างอวดดีราวกับเด็กเกเรเธอชอบโรมิโอแอนดจูเลียตมั้ยล่ะ
เฮอร์ไมโอนี่อยากจะตอบเขาว่าเธอชอบ แต่สถานการณ์ตอนนี้กับในนิยายนั้นมันคนละเรื่องกันเลย แทบจะไม่เกี่ยวข้องกันสักนิด ในนิยายมิโอปีนขึ้นมาหาจูเลียต ไม่ใช่จับเธอมัดมือมัดปากแล้วกำลังจะ... กำลังจะ...
เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงกรี๊ดในลำคอ เมื่อมัลฟอยค่อยๆ ไต่ลงไปตามระเบียง โดยแบกเธอไว้บนบ่าอย่างมั่นคง

มัลฟอยคิดว่าเขาคงจะต้องเจรจากับรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ในเร็วๆ นี้ ปัญหาเรื่องการใช้เวทมนตร์ในเขตมักเกิ้ลนั้นเป็นเรื่องหยุมหยิม แต่เรื่องที่เขาดันมือหนักไปหน่อยนี่สิ ยามสามคนแรกของแม็คไกวน์หลับไปอย่างสบายๆ ด้วยคาถาของเขา แต่อีกสองคนกลับใช้กระบองสารเลวนั่นฟาดเขา เขาโกรธนิดหน่อยเลยซัดสองคนนั่นด้วยเพ็ตติฟิคัส โททาลัส สงสัยว่าเพราะเขาไม่ได้จับไม้กายสิทธิ์นาน พอได้กลับมาใช้ก็เลยสนุกมือไปหน่อย
ในที่สุดเท้าของเขาก็สัมผัสพื้นอย่างปลอดภัย ต้องขอบคุณเฮอร์ไมโอนี่ที่ทำตัวน่ารักตลอดการปีนลงมา เธอไม่ดิ้นและไม่ส่งเสียงสักแอะราวกับเสียงหรือการขยับตัวของเธอจะไปทำลายสมาธิของเขาและทำให้พวกเขาร่วงลงมา เฮอร์ไมโอนี่ต้องเริ่มประเมินความสามารถของเขาใหม่ ถึงเขาจะดูเหมือนเศรษฐีช่างสำรวยที่วันๆ เอาแต่จิบไวน์และนับเงินเล่น แต่จริงๆ แล้วเขามักจะใช้เวลาอยู่กลางแจ้งหรือออกกำลังกายแบบอื่นๆ โดยเฉพาะการปีนเขาซึ่งเขาโปรดปรานเป็นพิเศษ ไม่น่าแปลกที่เขาจะปีนลงมาจากระเบียงชั้นสามของคฤหาสน์แม็คไกวน์ได้ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที
มัลฟอยเริ่มเดินตัดสนามหญ้าเข้าสู่ความมืด เขาเดินก้าวฉับๆ อย่างมั่นใจราวกับว่าเขามองเห็นได้ในความมืดที่โอบล้อมพวกเขาอยู่ เขากระชับร่างเฮอร์ไมโอนี่ไว้แนบอก ...เธอตัวสั่นและนิ่งเงียบ นั่นทำให้เขาไม่สบายใจนัก เขาคิดว่าเธออาจจะเป็นลม แต่เมื่อเท้าของเขาสะดุดอะไรบางอย่างบนพื้น และทั้งเขาและเฮอร์ไมโอนี่ก็รู้ได้ว่ามันคืออะไรหลังจากการเพ่งมอง เฮอร์ไมโอนี่ก็หวีดร้องออกมาเบาๆ สิ่งที่เขาสะดุดคือแขนของยามคนหนึ่งที่เขาเพิ่งจัดการไปเมื่อตอนเข้ามา เขามีสภาพเหมือนสัตว์ที่ถูกสต๊าฟ แต่ยังไม่ตาย มัลฟอยรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่เห็นภาพไม่น่าดูนานนัก
นาเดียของเขาจอดรออยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์อย่างงดงาม มัลฟอยรีบตรงไปยังรถคู่ใจเพื่อไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่ได้ทันเห็นผลงานของเขาที่นอนจมอยู่บนพื้นสองสามคน เขาขยับเฮอร์ไมโอนี่ให้กลับมาอยู่บนบ่าอีกครั้งเพื่อล้วงหากุญแจรกในกระเป๋ากางเกง เขากดรีโมทและเปิดประตูออก ก่อนจะส่งร่างของเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปทางที่นั่งข้างคนขับอย่างทะนุถนอม...
ในที่สุด... มัลฟอยคิดเมื่อเขาได้นั่งประจำอยู่หลังพวงมาลัยของนาเดียแล้ว... ในที่สุดเธอก็มาอยู่ที่นี่ อยู่ในที่ที่สมควรอยู่นั่นคือในรถคันนี้และเคียงข้างเขา มันต้องเป็นอย่างนี้สิ แถมเธอยังนั่งเงียบเชียบ สงบปากสงบคำเป็นที่สุด ซึ่งมัลฟอยคิดว่ามันอาจเป็นผลพวงจากการที่เธอคิดว่าตัวเองเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แถมยังเห็นสภาพอันโหดร้ายของยามโขยงนั้น เธอหน้าซีดและตัวสั่นงันงก... ช่างน่าสงสาร... มัลฟอยคิด แต่เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว เขาจะปลอบให้เธอให้หายกลัวเอง
เขาเสียบกุยแจและสตาร์ทเครื่อง นาเดียส่งเสียงกระหึ่มร้องซึ่งมัลฟอยคิดว่าคงจะปลุกให้แม็คไกวน์ตื่น เพราะแสงไฟในตัวบ้านสว่างขึ้น และเขาได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถอีกหลายคัน
ที่รักมัลฟอยยิ้มและเริ่มออกรถฉันไม่ให้พวกนั้นมาเอาตัวเธอไปได้หรอก
รถคันหนึ่งโผล่พ้นออกมาจากประตูรั้วและเริ่มขับไล่จี้มาด้านหลัง ขณะนั้นเองที่เฮอร์ไมโอนี่รู้แล้วว่ามัลฟอยกำลังจะทำอะไร เมื่อเขาเพิ่มเกียร์... เธอรีบมองไปที่มาตรวัดความเร็ว
ความเร็วเพิ่มขึ้นที่ 60 ไมล์ต่อชั่วโมงทันทีที่พ้นเกียร์หนึ่ง...
เฮอร์ไมโอนี่เริ่มกดตัวเองลงกับเบาะที่นั่ง เลขแปดสิบเลยไปอย่างงดงาม...
เก้าสิบ... เฮอร์ไมโอนี่เริ่มส่งเสียงร้องผ่านผ้าที่มัดปากเธอไว้
หนึ่งร้อย...
เธอได้ยิน ได้ยินเสียงเจ้ารถคันนี้กรีดร้อง เสียงของมันเหมือนกับเสียงกรีดร้องของปิศาจที่ถูกปลดปล่อย รถคันนี้ถูกดัดแปลงให้เป็นปิศาจ... เพราะปิศาจเป็นคนขับมัน
ปิศาจตนนั้นหันมามองเธอ และเฮอร์ไมโอนี่อยากตะโกนร้องให้เขาหยุด แต่เขาไม่หยุด เขากลับยิ้มให้เธออย่างร้ายกาจ เป็นการคลี่ยิ้มบางๆ อย่างสบายใจและชั่วร้ายราวกับเป็นจอมวายร้ายตัวแสบ มือข้างหนึ่งของเขาอยู่ที่พวงมาลัย ขณะที่อีกข้างวางอยู่บนกระปุกเกียร์อย่างสบายๆ ราวกับเขากำลังขับรถพาครอบครัวไปปิกนิก
แต่มันไม่ใช่! เมื่อเธอเหลือบตามองกระจกส่องหลัง รถจากคฤหาสน์แม็คไกวน์กลายเป็นจุดเล็กๆ บนท้องถนน ขณะที่เสียงเครื่องยนต์ดังกระหน่ำใส่หู เธอคิดว่าเขาจะหยุดแล้ว หยุดที่ความเร็วที่น่าใจหายนี่ แต่ไม่... เขาไม่หยุด
เธอหันไปมองเขาสลับกับมาตรวัดความเร็ว เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอกำลังมองโดยตอบรับด้วยการเพิ่มความเร็วเป็นร้อยสิบ
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้งอย่างช้าๆ ขณะที่เขาหันมามองเธอ อวดยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวแหลมๆ อย่างร้ายกาจ
ร้อยยี่สิบ
นาเดียออกตัวพุ่งไปและแผดเสียงคำรามกึกก้อง ประดุปิศาจร้ายที่กำลังแผดเสียงโหยหวน...


...........................................

JE TE VEUX : Chapter 22 โจรกลับใจ
เฮอร์ไมโอนี่ฝันถึงมัลฟอย...
ในฝันนั้นเธอนอนอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่เธอไม่คุ้นตา เตียงและห้องที่ไม่คุ้นเคยแต่ก็ให้ความสบายอย่างน่าประหลาด แต่สิ่งเดียวที่รบกวนความสุขสบายของเธอคือมัลฟอย... กับผู้ชายสูงอายุท่าทางน่าสงสารคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก มัลฟอยตะคอกใส่ชายชราผู้น่าสงสารคนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า และหลายครั้งที่เขาถลาเข้าไปหาชายชราคนนั้น แต่ถูกเสียงร้องโหยหวนอย่างตกใจของชายชราห้ามไว้
ทำไมเธอยังไม่ตื่น! หมอทำอะไรกับเธอ!มัลฟอยตะโกนด้วยเสียงดังสนั่นแบบที่สามารถปลุกคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ ใบหน้าของเขาแดงจัดจากความโกรธ
สาบานได้ว่าผมไม่รู้! เธอแค่เป็นลมเท่านั้นเฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงชายชราพูดตะกุกตะกักออกมาเป็นภาษาฝรั่งเศส
หยุดพูดภาษาฝรั่งเศสใส่หน้าผม! ผมฟังไม่รู้เรื่องมัลฟอยตะโกน
โง่... เฮอร์ไมโอนี่คิดในใจอย่างสะลึมสะลือ
เธอแค่ต้องการพักผ่อน ผมบอกไม่ได้ว่าเธอจะฟื้นตอนไหนแต่เธอต้องฟื้นแน่นอน เราแค่ต้องรอ...ถึงตอนนี้ชายชราหน้าซีดเผือดราวกับนักโทษที่รอขึ้นลานประหาร เขาเอ่ยออกมาอย่างตื่นตระหนกด้วยภาษาอังกฤษ
มัลฟอยแผดเสียงร้องออกมาอย่างหงุดหงิด ทันใดนั้นเขาหันมาหาเธอ ดวงตาของเขาตื่นตระหนกขณะคว้าคอชายชราถลาเข้ามาหาเธอ
เธอลืมตา! เมื่อกี้เธอลืมตา หมอ! ดูเธอสิ... เฮอร์ไมโอนี่!
แล้วความฝันของเฮอร์ไมโอนี่ก็สิ้นสุดลง


มัลฟอยถือถาดบรรจุแก้วน้ำและน้ำสะอาดหนึ่งเหยือกเข้าไปในห้องนอน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เข้าได้ยกอ่างใบเล็กบรรจุน้ำอุ่นและผ้าขนหนูเข้าไปแล้ว และก่อนหน้านั้นอีกที่เขายกถาดอาหาร หนังสือวิชาการที่เขาเกลียดเข้าไส้ แจกันใส่ดอกกุหลาบขาว น้ำมันหอมระเหยที่ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียน และอื่นๆ อีกมากมาย
สาเหตุที่เขาทำเช่นนั้นมีอยู่สองเหตุผล หนึ่งคือเขาไม่สามารถอยู่ว่างได้ และสองคือเขาต้องการให้แน่ใจว่าในห้องนั้นมีทุกอย่างที่ต้องการเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ตื่น
หลังจากที่เธอลืมตาครู่หนึ่งเมื่อสองสามชั่วโมงที่ผ่านมา มัลฟอยได้ไล่หมอที่ไร้ประโยชน์คนนั้นออกไป เขาทนนั่งอยู่ข้างเตียงและเฝ้ามองเฮอร์ไมโอนี่หลับได้เพียงสิบนาที ก่อนที่เขาจะเริ่มก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้าน แม่บ้านหกคนที่มีอยู่ในคฤหาสน์แทบจะขอลาออกตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อเขาออกคำสั่งให้พวกเธอไปหาสิ่งของที่เขาต้องการไม่หยุดไม่หย่อน นอกจากนี้เขายังเกือบทำให้พ่อบ้านชราคนเดียวของคฤหาสน์เป็นลมเนื่องจากการตะคอกและตะโกนอย่างเผ็ดร้อนของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
มัลฟอยกำลังอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดเหมือนหมีกินผึ้ง เขาแทบเสียสติตอนที่ปลุกเฮอร์ไมโอนี่แล้วเธอไม่ตื่น เขาเห็นเธอนิ่งไปตั้งแต่อยู่ในรถและเขานึกว่าเธอหลับเพราะความอ่อนเพลีย เขาอุ้มเธอขึ้นเครื่องบินส่วนตัวโดยที่เธอยังหลับอยู่เช่นนั้น แล้วเขายังคิดว่าเป็นการดีเสียอีกที่เธอไม่ตื่นขึ้นมาโวยวาย เขารู้ว่าเธอนิ่งไปเพราะหมดสติเมื่อเครื่องบินลงจอด ณ ที่หมายและเขาปลุกเท่าไรเธอก็ไม่ตื่น
มัลฟอยวางถาดลงบนโต๊ะที่จัดเข้ากันกับโซฟาสองตัว โต๊ะข้างเตียงและโต๊ะเครื่องแป้งเต็มไปด้วยสิ่งของที่เขาขนเข้ามาก่อนหน้านี้ เมื่อจัดแจงวางถาดใบหนักได้เรียบร้อยแล้วเขาจึงเดินเข้าไปหาเฮอร์ไมโอนี่ ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงและมองดูเธอ
ถ้าอีกสิบนาทีเธอไม่ตื่น...มัลฟอยกระซิบเสียงเข้ม แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใยและวิตกกังวลฉันจะปล้ำเธอ
เขาขยับผ้าห่มให้เธอทั้งที่เขาเพิ่งขยับให้เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว เขาสัมผัสเส้นผมอ่อนนุ่มของเธอเบาๆ ลูบไล้นิ้วมือเล็กๆ ขาวซีดของเธออย่างอ่อนโยน เมื่อคิ้วของเธอขมวดและใบหน้าของเธอเคร่งขึ้นเพราะฝันร้าย เขาก็กระซิบปลอบโยนเธอเบาๆ ที่ข้างหู ชายหนุ่มสาละวนง่วนอยู่กับการดูแลเธอเล็กๆน้อยๆ ราวกับว่าเขาไม่สามารถทนนั่งอยู่นิ่งๆ โดยไม่สัมผัสเธอได้
เมอซิเออร์มัลฟอยครับเสียงเรียกเบาๆ อย่างยำเกรงของพ่อบ้านดังขึ้นที่ประตู สายตาอ่อนโยนของมัลฟอยเปลี่ยนเป็นเย็นชาเมื่อเขาหันไป
ฉันสั่งว่าไม่ให้ใครมารบกวนไงมัลฟอยกล่าวเสียงขุ่น
พ่อบ้านยืนกระสับกระส่าย ครับ แต่ว่าผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาน่ะครับ
มัลฟอยมองพ่อบ้านผู้นั้นอย่างขัดใจครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหันกลับไปที่เฮอร์ไมโอนี่และกระซิบบอกเธอเบาๆ ว่าเขาจะกลับมาให้เร็วที่สุดแม้จะรู้ว่าเธอไม่ได้ยินก็ตาม
มัลฟอยลุกขึ้นยืน เขาเดินผ่านประตูห้องและพ่อบ้านออกไปก่อนที่พ่อบ้านผู้น่าสงสารจะรีบก้าวยาวๆ ตามไป

“...สั่งทุกคนให้ออกไปจากบ้านหลังนี้ แม่บ้านให้มาทำความสะอาดสัปดาห์ละสองครั้ง... พวกคนสวนให้มาทุกวันอาทิตย์ ส่วนพวกดูแลคอกม้าให้มากันแค่สองคนและมาทุกวันมัลฟอยร่ายรายการคำสั่งที่เขาวางแผนไว้ ขณะที่พ่อบ้านอาวุโสชื่อว่า เฟรเดอริค ยืนตัวตั้งอย่างมั่นคง ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและย่ำเกรง แต่แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
“...และที่สำคัญที่สุดทุกคนต้องไม่ให้ภรรยาของฉันเห็น อย่าให้เธอรู้ว่าพวกคุณเข้ามาในบ้าน อย่าให้เธอรู้ว่าในบ้านนี้มีคนอื่นนอกจากฉัน...
ให้ผมถามอะไรคุณสักนิดได้มั้ยครับ เมอร์ซิเออร์มัลฟอยเฟรเดอริคเอ่ยถามด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศส
ไม่มีคำถาม คุณเฟรเดอริคมัลฟอยขัดขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ทำตามคำสั่งของฉันเท่านั้น ไม่ต้องถามอะไรทั้งสิ้น เข้าใจมั้ย
พ่อบ้านชรามองนายจ้างหนุ่มด้วยความลังเลครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าดั๊กกอร์ เมอร์ซิเออร์
มัลฟอยขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดที่พ่อบ้านใช้ภาษาที่เขาไม่เข้าใจ แต่ดูเหมือนพ่อบ้านชราจะรู้ถึงความไม่พอใจของเจ้านาย เขารีบพูดต่ออย่างสงบว่า ครับ เจ้านาย
ดี... ถ้างั้น...
เมอร์ซิเออร์!เสียงของแม่บ้านคนหนึ่งร้องขึ้นอย่างกระวนกระวาย เธอวิ่งเข้ามาหาเฟรเดอริคและแอบเหลือบตามองมัลฟอยด้วยสายตาหวาดกลัว มัลฟอยคอยอย่างอดทนขณะรอให้แม่บ้านคนนั้นร้องเอะอะโวยวายเป็นภาษาฝรั่งเศสที่เขาไม่เข้าใจ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอก มองสีเลือดค่อยๆ หายไปจากใบหน้าของเฟรเดอริคเรื่อยๆ ในที่สุดแม่บ้านคนนั้นก็พยักหน้ารับคำสั่งจากเฟรเดอริคก่อนที่เธอจะวิ่งหายไปและร้องตะโกนเอะอะลงไปที่ชั้นล่าง
เมอร์ซิเออร์ครับเฟรเดอริคผู้มีสีหน้าสดใสราวกับซากศพเรียกเขา ชายชราก้มหน้าต่ำราวกับจะสารภาพบาป
มีอะไรมัลฟอยถามเสียงห้วน
มาดาม... มาดามเฟรเดอริคพูดเสียงสั่น
มาดามหายไปครับ


เฮอร์ไมโอนี่ซบหน้าผากลงกับต้นไม้ต้นหนึ่ง เธอรู้สึกว่าตัวเองวิ่งมาไกลเหลือเกินทั้งๆ ที่ตัวคฤหาสน์สีขาวโอ่อ่ายังตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังเธอ เธอยังไม่พ้นเขตคฤหาสน์นี้ด้วยซ้ำ เฮอร์ไมโอนี่สาปแช่งมัลฟอยที่เขาสร้างบ้านที่มีเนื้อที่กว้างขวางยังกับอุทยานแห่งชาติ ถ้าหัวของเธอไม่ได้กำลังปวดเหมือนจะระเบิด หรือถ้าเธอมาที่นี่โดยที่ไม่ได้ถูกลักพาตัวมา เธอคงจะชื่นชมและเพลิดเพลินกับการจัดสวนในคฤหาสน์แห่งนี้ซึ่งตกแต่งด้วยมวลแมกไม้รกครึ้มราวกับป่า อีกทั้งยังตั้งขนาบไปกับลำธารสายเล็กๆ น่าชื่นใจ
เฮอร์ไมโอนี่พึมพำด่ามัลฟอยขณะที่เธอเริ่มออกวิ่งช้าๆ อย่างไม่รู้จุดหมาย สามีประเภทไหนกันที่ลักพาตัวภรรยาได้ การเจอกันในศาลสิถึงจะเป็นวิธีการต่อสู้ที่ถูกต้องของสามีกับภรรยา ไม่ใช่การลักพาตัว...
หรือการข่มขืน...
เฮอร์ไมโอนี่สบถด่าอีกครั้ง พลางสงสัยว่าเธอจะติดนิสัยชอบพ่นคำด่าเหมือนมัลฟอย ถ้า ถ้านะ... ถ้าเธอออกไปจากที่นี่ได้ เธอสาบานว่าเธอจะจัดการให้เรื่องระหว่างเขากับเธอขึ้นไปอยู่ในชั้นศาลให้ได้ แต่ตอนนี้เธอต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน... เฮอร์ไมโอนี่ให้กำลังใจตัวเองเช่นนั้น แม้จะไม่รู้ว่ามัลฟอยพาเธอมาอยู่โลกไหนก็ตาม
ทันใดนั้นเอง เสียงตะโกนร้องของคนกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลังเธอ เฮอร์ไมโอนี่ร้องกรี๊ดเบาๆ อย่างใจหาย เธอถูกจับได้เสียแล้ว... มีคนรู้เสียแล้วว่าเธอออกมาจากคฤหาสน์... จากห้องนอนนั่น เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เฮอร์ไมโอนี่พยายามวิ่งให้เร็วที่สุด... แต่ก็ยังไม่เร็วพอ หัวของเธอปวด และกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายของเธอกรีดเสียงประท้วงให้เธอหยุดวิ่ง แต่เธอไม่ทำตาม
มือหนึ่งจับแขนเธอได้ มือนั้นออกแรงดึงและเฮอร์ไมโอนี่ก็หงายหลังไปตามแรงดึงนั้น แต่เธอไม่ได้ล้มลงบนพื้นอย่างที่ควรจะเป็น แผ่นอกแข็งแรงของผู้ชายรองรับเธอไว้ และแขนทั้งสองข้างก็รัดเธอไว้แนบแผ่นอกราวกับเครื่องพันธนาการ
เธอทำบ้าอะไรเนี่ย!เสียงปนหอบของมัลฟอยดังอยู่ข้างหูเธอ เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องและพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหนทาง
ปล่อยฉัน!เฮอร์ไมโอนี่ร้องและดิ้นหนี แต่เขากลับกอดรัดเธอแน่นขึ้นปล่อยฉันนะ!
ฉันไม่อยากทำให้เธอเจ็บนะ ...หยุดดิ้น!!!เขาตะคอกใส่ แต่ไม่รุนแรง และเสียงตะคอกของเขาไม่สามารถหยุดเธอได้ เฮอร์ไมโอนี่ยังคงดิ้นรน
ไป!มัลฟอยหันไปตะโกนด้านหลังโดยที่ไม่ให้เฮอร์ไมโอนี่หันไปด้วย ราวกับว่าเขาไม่อยากให้เธอรู้ว่าข้างหลังนั้นมีใครอยู่บ้าง ไปให้พ้น! กลับไป!
มีเสียงตะโกนของชายชราเป็นภาษาฝรั่งเศสให้ทุกคนแยกย้ายกันไป เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนหลายคนวิ่งจากไป และเมื่อเสียงฝีเท้าสุดท้ายหายไป มัลฟอยก็อุ้มเธอไว้ในวงแขน
ปล่อยฉันนะ คนสารเลว!
มัลฟอยเริ่มก้าวเดินไปตามทางเดินริมน้ำที่แวดล้อมไปด้วยหมู่ไม้เธอนี่ติดนิสัยฉันมาแล้วนะ ไอ้การด่าคนอื่นน่ะ
ฉันด่าเฉพาะเธอคนเดียวนั่นแหละ คนชั่ว!เฮอร์ไมโอนี่สบถใส่
มัลฟอยก้มลงยิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์และกวนโมโหเป็นที่สุด ไม่เอาน่า... อุตส่าห์มาฮันนีมูนกัน เราอย่ามาทะเลาะกันเลยนะ
นี่เธอเรียกการลักพาตัวว่าการฮันนีมูนงั้นเหรอ!
มัลฟอยแกล้งทำเสียงน้อยใจอะไรกัน... ฉันอุตส่าห์ทำโรแมนติกปีนขึ้นไปช่วยเธอลงมาจากหอคอยเหมือนเจ้าหญิงราพันเซลนะ
เฮอร์ไมโอนี่ทำเสียงเยาะเย้ยไหนตอนแรกบอกว่าโรมิโอกับจูเลียตไง
ก็แล้วแต่ว่าเธอชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน ฉันน่ะชอบทุกเรื่องแต่ขอให้เธอเป็นนางเอกแล้วฉันเป็นพระเอกก็พอมัลฟอยยิ้มกว้างอวดเขี้ยวคม
ปล่อยฉัน!เฮอร์ไมโอนี่ทำเสียงเด็ดขาดยังไงเธอก็ทำไม่สำเร็จหรอก เดี๋ยวแฮร์รี่หรือแม็กไกวน์ก็ต้องมาช่วยฉันอยู่ดี... เหมือนที่พวกเขาเคยทำมาแล้ว!
เหอะ!มัลฟอยหัวเราะเยาะแต่คราวนี้ความช่วยเหลือของไอ้พวกกระจอกพวกนั้นมาไม่ถึงที่นี่หรอก
เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด... มาไม่ถึง... หมายความว่ายังไง จริงสิ ที่นี่อากาศอุ่นสบายทั้งที่เมื่อวันที่เธอถูกลักพาตัวมาอากาศยังหนาวเย็นอยู่ และภาษาที่เธอได้ยินคนคุยกันเมื่อครู่เป็นภาษาฝรั่งเศส
ที่นี่คือที่ไหน...เฮอร์ไมโอนี่ถามออกมาได้ในที่สุด แม้ว่าเธอจะกลัวคำตอบที่จะหลุดออกมาจากปากของมัลฟอย
มาดาม...มัลฟอยกล่าวอย่างสุภาพ ถ้าเขาไม่อุ้มเธออยู่เขาคงโค้งคำนับไปแล้วฝรั่งเศสยินดีต้อนรับ

โอ๊ย!มัลฟอยร้องลั่นพร้อมกับยกมือข้างหนึ่งขึ้นแตะหน้าผาก เขาก้มลงมองหนังสือเล่มหนาที่เพิ่งกระแทกใส่หน้าเขาอย่างโกรธจัด เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น... หมอนใบหนึ่งก็กำลังตรงรี่เข้ามาหาเขาด้วยความเร็วราวกับลูกกระสุนปืน
ให้ตายสิวะ!เขาสบถแล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่ปัดหมอนใบนั้นหล่นลงไปกองรวมกับหนังสือ จากนั้นเขาก็ปัดหมอนอีกใบหนึ่ง แปรงหวีผม ผ้าขนหนู และที่หนักหน่อย... แจกันที่ยังมีดอกกุหลายสีขาวหอมกรุ่น เสียงกระเบื้องเคลือบแตกเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้สติของมัลฟอยขาดผึง
พอได้แล้ว!!!!เขาตะโกนอย่างโกรธจัดพลางก้าวยาวๆ เข้าไปหาร่างที่ยืนอยู่อีกฟากของห้อง เธอส่งเสียงร้องหวีดแหลมอย่างตกใจแล้วเงื้อมือขึ้นหมายจะป้องกันตัว มัลฟอยจับมือนั้นไว้แล้วกระชากเต็มแรงจนร่างนั้นเซถลาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างพอดิบพอดี
พาฉันกลับเดี๋ยวนี้! คนชั่ว!เธอเงยหน้าขึ้นตะโกนใส่หน้าเขา ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายวาวโรจน์ กำปั้นเล็กๆ ระดมทุบใส่อกเขาให้ความรู้สักจั๊กจี้เป็นที่สุด
ฉันจะพาเธอกลับก็ต่อเมื่อเรื่องที่ฉันอยากจะแก้ไขได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วเท่านั้น!เขาประกาศ
เรื่องบ้าบออะไร ? ไม่มีเรื่องอะไรที่เธอทำไปแล้วสามารถแก้ไขได้หรอก ทุกเรื่องที่เธอทำมันเลวร้ายจนแม้แต่ปิศาจยังขยะแขยง!
เขาผงะราวกับถูกเธอตบหน้าเพราะอย่างนั้นแหละฉันถึงอยากจะแก้ไข และฉันกับเธอจะไม่ไปจากที่นี่จนกว่าเราจะมีความเข้าใจกันเป็นอย่างดีแล้วน้ำเสียงของเขาราบเรียบอย่างข่มอารมณ์
ฉันไม่อยากอยู่ฝรั่งเศส!เธอร้องอย่างเหลืออด
งั้นฉันจะพาเธอไปที่อื่น เยอรมัน ออสเตรีย สก็อตแลนด์ หรือแม้แต่ขั้วโลกใต้! แต่ฉันจะไม่พาเธอกลับอังกฤษ... กลับไปอยู่ใกล้ไอ้พวกที่คอยวิ่งตามเธอต้อยๆ เหมือนลูกหมาพวกนั้น!
เฮอร์ไมโอนี่ตาเบิกกว้างราวกับเธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ริมฝีปากของเธอขยับเป็นเสียงกระซิบ เลว...
เพิ่งรู้รึไงมัลฟอยยิ้มอย่างชั่วร้าย
เขาก้มตัวลงช้อนร่างที่ดิ้นพล่านนั้นไว้ในอ้อมแขน ไม่นำพาต่อแรงทุบของกำปั้นเล็กๆ และเสียงกรีดร้องประท้วงด่าที่อยู่ข้างหู เขาก้าวยาวๆ และวางเธอลงบนเตียง ไม่เปิดโอกาสให้เธอขยับหนี เขารีบตามขึ้นไปและกดร่างเธอไว้กับเตียง ชะโงกหน้าเหนือร่างของเธอและเตรียมพร้อมที่จะปะทะคารมกับเธออีกรอบ
แล้วเขาก็เห็น...
ความกลัวทำให้ดวงตาที่วาวโรจน์เมื่อครู่หมองลง เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองเขานิ่งด้วยแววตาที่เหมือนกับเด็กตัวเล็กๆ มองปิศาจที่กำลังจะทำร้ายตน มือสั่นๆ ยื่นออกมาและผลักไหล่เขาอย่างหวาดกลัว เขารู้สึกได้ว่าร่างที่อยู่ใต้ร่างเขานั้นสั่นสะท้าน
เฮอร์ไมโอนี่...มัลฟอยกระซิบเบาๆ อย่างเจ็บปวด เธอกลัวเขา... เธอกลัวว่าเขาจะทำร้ายเธอเหมือนตอนนั้น เขาสามารถรับมือกับความเกลียดชังของเธอได้ แต่เขาไม่สามารถทนได้เมื่อคิดว่าเธอหวาดกลัวเขา เขาจับมือที่พยายามดันเขาออกมาจูบ ริมฝีปากสั่นๆแตะลงบนผิวเนื้อที่สั่นกว่า
ฉันจะ... ไม่ ไม่ยอม...เฮอร์ไมโอนี่สะอึกสะอื้นโดยไร้น้ำตา ความทระนงของเธอเปล่งออกมาพร้อมกับความหวาดกลัวธะ... เธอจะทำอะไรฉะ...ฉันไม่ได้อีกแล้ว
มัลฟอยหายใจด้วยปอดที่ปวดร้าว เขาก้มลงจูบขมับของเฮอร์ไมโอนี่อย่างทะนุถนอม ต้องการจะสื่อกับเธอโดยไร้คำพูดว่าเขาจะไม่ทำอะไรเธออีกแล้ว ...เขาให้คำสัญญากับเธอด้วยการประทับจูบที่เปลือกตาของเธอ เธอตัวสั่นและร้องเบาๆว่าไม่
ฉัน... ผมมัลฟอยกระซิบอย่างกระวนกระวาย เขาลนลานคว้ามือของเธอมาแนบแก้มเมื่อเธอดึงมือออกจากการเกาะกุมของมือเขา เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจขณะที่มัลฟอยกำลังพยายามเปลี่ยนแปลง
ผมจะไม่ทำร้ายคุณอีกสรรพนามที่แสดงความหยิ่งยโสของเขาหายไป มัลฟอยพูดอย่างร้อนรนกลัวว่าเธอจะไม่ยอมรับฟังเขา ผมสัญญา เชื่อผมนะ คุณจะไม่มีวันต้องเจ็บปวดด้วยน้ำมือของผมอีกแล้วเขาจูบปลายจมูกโด่งของหญิงสาว ภาวนาให้เธอเชื่อคำสัญญาของเขา
เชื่อผมนะ คนดีเสียงของเขาสั่นเครือ ใบหน้าโน้มลงหมายจะจุมพิตริมฝีปากที่แยกเผยอออกด้วยความประหลาดใจ เฮอร์ไมโอนี่เบี่ยงหน้าหนี ทำให้ริมฝีปากของมัลฟอยสัมผัสกับแก้มนุ่มของเธอแทน เฮอร์ไมโอนี่ซุกใบหน้าลงบนผ้าปูที่นอนอย่างสับสน ...ความอ่อนโยนของมัลฟอยทำให้เธออยากร้องไห้ เธอไม่เข้าใจ ...มัลฟอยคนสารเลวที่ทำเรื่องต่ำช้ากับเธอคนนั้นหายไปไหน มัลฟอยที่มองเธอด้วยแววตาของปิศาจร้ายในคืนนั้นหายไปไหน เฮอร์ไมโอนี่ยังจำเหตุการณ์ในคืนนั้นได้ และมันทำให้เธอเจ็บปวดจนเธอสั่นไปทั้งตัว น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาตามโค้งแก้ม แต่ก่อนที่มันจะได้หยดลงบนผ้าปูที่นอน ริมฝีปากของมัลฟอยก็ตามรอยน้ำตานั้นไป เขาจูบซับน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน มือของเขาลูบแนวผมที่หน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา
ไม่ต้องกลัวผมแล้วนะ ผมจะไม่ทำอะไรคุณอีกแล้วความจริงที่ว่าเสียงของมัลฟอยแหบพร่าด้วยความสะเทือนอารมณ์ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งสับสน
ออกไปเฮอร์ไมโอนี่พยายามเค้นเสียงให้หนักแน่น แต่ราวกับมัลฟอยไม่ได้ยิน เขายังคงวุ่นวายอยู่กับการจูบใบหน้าและการลูบเรือนผมของเธอ
ได้โปรด... ออกไปเฮอร์ไมโอนี่พูดอีกครั้ง เธอสับสนและหวาดกลัว และเธออยากอยู่คนเดียว สิ่งที่เธอต้องการที่สุดในเวลานี้คือการได้ตั้งสติคนเดียวเงียบๆ เพื่อพิจารณาหาเหตุผลในความเปลี่ยนแปลงของมัลฟอย
มัลฟอยจูบแก้มเธอเป็นครั้งสุดท้ายและค่อยๆ ขยับตัวลุกจากเตียง เขามองร่างที่นอนนิ่งบนเตียงอย่างโหยหา เขาอยากให้เธอเลิกกลัวเขา เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เธอหายกลัวเขาแล้วหรือไม่ เขาอยากจะอยู่เคียงข้างเธอในตอนนี้เพื่อขับไล่ความหวาดกลัวที่เธอมีต่อเขาออกไป แต่ความต้องการของเธออยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง มัลฟอยกล้ำกลืนในลำคอขณะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เรียกผมนะถ้าคุณต้องการอะไรเขาพูดและอดใจไม่ได้ที่จะก้มลงคว้าปอยผมของเธอมาจูบ เฮอร์ไมโอนี่ยังคงนิ่งไม่ไหวติง ขณะที่เขาเดินออกมาจากห้อง ...ก่อนที่เขาจะก้าวพ้นประตู เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
เฮอร์ไมโอนี่ ผมขอโทษ

แม็คไกวน์เฝ้ามองแฮร์รี่ พอตเตอร์เดินเข้ามาในห้องทำงาน เขามองใบหน้าเคร่งขรึมและวิตกกังวลของพ่อมดยอดฝีมือและรู้สึกราวกับว่ากำลังส่องกระจก เขารู้ว่าถ้าเขาได้เห็นใบหน้าของตัวเองในตอนนี้ สีหน้าของก็คงไม่ต่างจากสีหน้าของแฮร์รี่ พอตเตอร์นัก
เพื่อนคุณ คนชั่วช้าคนนั้น...แฮร์รี่เริ่มพูดอย่างเดือดดาล แต่แม็คไกวน์ยกมือขึ้นห้ามเสียก่อน เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานแล้วเดินเข้าไปยืนประจันหน้ากับพ่อมดผู้เลื่องชื่อ
ผมขอบอกคุณไว้ก่อนเลยว่า เจตนารมณ์ของผมนั้นตรงกับคุณทุกประการ ผมไม่ได้ชื่นชมการกระทำของเดรโก มัลฟอย ตรงกันข้ามแล้วผมกลับขยะแขยงเขาเสียด้วยซ้ำ และด้วยเหตุนี้ที่ผมต้องการความร่วมมือจากคุณในการตามหาเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
แฮร์รี่เหมือนจะค่อยๆ ซึมทราบข้อมูลนั้น เขาสูดลมหายใจช้าๆ อย่างข่มอารมณ์ แล้วคุณมีอะไรที่สามารถช่วยผมได้บ้าง จากรายงานของพวกมือปราบมารที่ได้จากการสอบปากคำลูกน้องของคุณ นอกจากว่ามัลฟอยขับรถด้วยความเร็วแบบนรกแตกหายไปในความมืด ก็ไม่ได้เรื่องอะไรอีกเลยมีแววเย้ยหยันในน้ำเสียงขณะที่แฮรี่พูด
ถ้าคุณไม่สามารถแกะรอยจากเส้นทางการเดินทางของเขาได้แม็คไกวน์พูดอย่างกระตือรือร้นและเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มสีดำซึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานด้านหลัง เขาส่งมันให้แฮร์รี่อย่างภาคภูมิใจ
อะไรแฮร์รี่เหลือบตามองแฟ้มนั้นและถามเสียงห้วน
นี่คือที่อยู่และข้อมูลของบ้านพักตากอากาศ โรงแรม ปราสาท คฤหาสน์ และอสังหาริมทรัพย์ทุกอย่างที่มัลฟอยเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ยังมีรายชื่อบุคคลต่างๆ ที่มัลฟอยติดต่อด้วย ผมมั่นใจว่ามัลฟอยไม่สามารถหลุดรอดจากเราไปได้หรอกถ้าเรามีข้อมูลพวกนี้
ใบหน้าของแฮร์รี่กระจ่างขึ้นและรีบรับแฟ้มนั้นมาถือไว้ในมือ เขามองมันราวกับว่ามันคืออาวุธชั้นเยี่ยม
แต่คุณอาจจะเหนื่อยหน่อยนะแม็คไกวน์เตือนด้วยความหวังดี มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าทำไมเดรโก มัลฟอยถึงยังคงร่ำรวยอยู่ได้หลังจากที่เขาบ้าซื้ออหังสาริมทรัพย์พวกนี้ราวกับว่ามันเป็นแค่ของเล่นหรือบ้านตุ๊กตา ผมที่เป็นเพื่อนกับเขามานานยังตะลึงเมื่อได้เห็นรายการทรัพย์สินยาวเหยียดเป็นหางว่าวของเขา
แต่แฮร์รี่ไม่ตกตะลึงไปกับความร่ำรวยของมัลฟอย เขาผงกศีรษะให้แม็คไกวน์นิดหนึ่งเป็นการกล่าวขอบคุณและอำลาก่อนจะเดินออกไปทางประตู เขาจับแฟ้มในมือแน่น แววตาของเขามุ่งมั่น ต่อให้ต้องค้นแม้กระทั่งแจกันทุกใบของมัลฟอยเขาก็จะต้องรู้ให้ได้ว่ามัลฟอยเอาเฮอร์ไมโอนี่ไปซ่อนไว้ที่ไหน

.............................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น