วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

จะรักเธอตลอดไป ยัยเลือดสีโคลน ..by ทานตะวัน

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ
ลิงค์นี้นะค่ะ



วันนี้อากาศสดใส เป็นวันแรกของการเปิดเรียน เหล่าสามสหายต่างเล่าถึงเรื่องราวในช่วงฤดูร้อนให้กันและกันฟังอย่างสนุกสนาน และเช่นเคยที่เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์จะต้องผูดถึงหนึ่งสือเรียนเล่มใหม่ที่ทั้งใหญ่ทั้งหนาและทั้งหนัก ที่จะสามารถทำให้กระเป๋าของพวกเขาขาดได้ง่ายๆ


"ฉันอ่านตำราบางเล่มมาบ้างแล้วหละ ให้ตายเถอะ ปีนี้บทเรียนยากน่าดู โดยเฉพาะวิชาปรุงยา สเนปกะจะเราเป็นกูรูรอบรู้เรื่องปรุงยากันเลยหรือยังไง ถึงได้ใช้ตำราเล่มนี้สอนเรา ดูสิมีแต่สูตรยายากๆทั้งนั้น ซับซ้อนน่าดู" เฮอร์ไมโอนี่ พูดขึ้นพร้อมกับหยิบตำราปรุงยาขั้นสูงขึ้นมาเปิดดู หน้าตาเหนื่อยใจเอามากๆ

"เธอไม่จำเป็นต้องคิดมากหรอกเฮอร์ไมโอนี่"แฮรี่เอ่ยขณะที่มีกบช็อกโกเลตอยู่เต็มปาก

"ฉันต่องหากที่ต้องคิดมาก เธอก็รู้ว่าฉันไม่เอาไหนเลยวิชานี้ สเนปคงจะไม่ให้ฉันเกิดแน่ในวิชาของเขา คราวนี้คงจะสนุกกับการหักคะแนนเราน่าดู พวกนายว่าไหม" เขาถามเพื่อนทั้งสองคน แล้วกลืนกบช็อกโกเลตจนหมดปาก แต่ไม่มีคำตอบใดๆจากเพื่อนทั้ง2คน แต่เขากลับได้คำตอบจากใครคนนึงแทน

" ฉันก็ว่าอย่างงั้น" เสียงเย็นเฉียบน่าขนลุกของเด็กชายผมบลอนหน้าขาวซีด ยืนอยู่หน้าประตู แฮรี่คิดออกว่าเขาลืมอะไรหลังจากที่ซื้อของจากรถขายขนม เขาลืมปิดประตูนั้นเอง

"ฉันว่าพวกกริฟฟินดอร์คงไม่เหลือซักแต้มแน่ปลายปีนี้" เขาพูดเยาะเด็กทั้งสามคนอย่างสะใจ

"งั้นเหรอ แต่ฉันคิดว่ากริฟฟนดอร์จะได้แต้มจากการลงสนามแข่มควิชคิชในปีนี้อีกแน่เลยหละ" เฮอร์ไมโอนี่ พูดอย่างโอ้อวด

"หุบปากของเธอซะนังเด็กเลือดสี..."แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบไม่กายสิทธิ์ของรอนก็ไปจ่ออยู่ที่คอหอยของเขา

"ถ้านายยังไม่หยุดพูดอีกละก็ นายจะไม่กล้าไปพบหน้าใครที่ฮอกวอตส์แน่ มัลฟอย" รอนขู่ด้วยความโกรธจัด ท่าทางของรอนทำให้มัลฟอยถายหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความตกใจ

"พวกนายไม่ได้เกิดวิชาปรุงยาแน่เตรียมตัวเตรียมใจไว้ซะ โดยเฉพาะเธอเกรนเจอร์" มัลฟอยทิ้งท้ายอย่างแสบคันแล้วเดินจากไป

"หวังว่าเราจะไม่เป็นอย่างที่เค้าพูดหรอกน่ะ" เสียงของเฮอรืไมโอนีสั่นๆ




และทุกอย่างก็เป็นอย่างที่พวกเขาคิดกันไว้ วิชาปรุงยาทำให้พวกเขาปวดหัวเอามากๆ สเนปสอนแบบน่าเบื่ออย่างเคย แถมเปิดเรียนไม่กี่วันบ้านกริฟฟินดอร์ก็ถูกหักคะแนนจนนับไม่ถ้วน ด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าท่าเอาซะเลย

" ฉันกลัวจังเลย ฉันกลัวว่าฉันจะไม่ผ่านวิชานี้" เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นอย่างหวาดๆในขณะที่กินอาหารเย็นกันอยู่

"แต่เธอยังไม่โดนหักคะแนนเลยนะเฮอร์ไมโอนี่ ฉันกับแฮรี่สิที่ต้องกลัว สเนปเล่นงานพวกฉันจนน่วมเลย" รอนพูดขณะเขี้ยวใข่ดาวในปากไปพร้อมๆกัน

"และพรุ้งนี้สองคาบแรกเราก็ต้องเจอดีอีกแน่" แฮรี่เอ่ยอย่างเศร้าๆเพราะวิชาแรกของวันพรุ้งนี้คือวิชาปรุงยา แถมคืนนี้พวกเขายังต้องนอนดึกอีกเพราะต้องเขียนรายงานเรื่องสัจจะเซรุ่ม ของสเนปอีก2หน้ากระดาษ เฮอร์ไมโอนี่ตั้งใจจะเขียน4หน้ากระดาษ เพราะความคิดที่ว่าเธออาจจะไม่ผ่านวิชานี้ยังวนเวียนอยู่ในหัวของเธอตลอด

"หวังว่าสเนปจะพอใจรายงานของฉันนะ" เฮอร์ไมโอนีพูดขึ้นอย่างมีความหวัง พร้อมกับเก็บปากกาขนนกใส่กระเป๋า

"ฉันว่าเขาต้องพอใจกับการหักคะแนนเธอมากว่าละสิ เค้าสั้งให้เขียนแค่2แผ่น แต่เธอดันเขียนซะ4แผ่น" รอนพูด

"ฉันพอใจจะเขียนแบบนี้มีอะไรไหม "เฮอร์ไมโอนี่แยกเคี้ยว แล้วเดินขึ้นบันไดหอนอนไป โดยไม่กล่าวลาอะไรเพื่อนทั้ง2คนเลย




หลังอาหารเช้า แฮรี่ เฮอร์ไมโอนี่ และรอน เดินลงไปคุกใต้ดินเพื่อนที่จะเรียนวิชาปรุงยา ที่หน้าห้องเรียนทั้งสามคนหยุดยืนคุยกับนักเรียนบ้ายกริฟฟินดอร์ที่มาถึงก่อน และแล้วพวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มนักเรียนที่พวกเขาอยากเจอเป็นกลุ่มสุดท้าย

" ไงพอตเตอร์ กริฟฟินดอร์โดนหักไปกี่แต้มแล้วละ" มัลฟอยยิมเยาะ แพนซี่ พากินสัน หัวเราะคิกคักยืนแนบคู่มัลฟอย

"แล้วไงละ ฉันบอกแล้วไง กริฟฟินดอร์จะกลับมาเป็นที่หนึ่งเมื่อกริฟฟินดอร์ลงสนาม" เฮอร์ไมโอนีพูดขึ้นอย่างเสียงดังและท้ายทาย

"งั้นหรอ .. แต่ฉันว่าถ้าทีมของพวกนายยังเล่นได้แค่เด็ก3ขวบละก็ กริฟฟินดอรืไม่เหลือชิ้นดีแน่"รอยยิ้มของมัลฟอยทำให้เฮอรืไมโอนีโกระจนควันออกหู

"นายมันก็ดีแต่โอ้อวด อันที่จริงแล้วนายก็ไม่ได้มีอะไรดีสักอย่าง มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันพูดด้วยความโกรธ

"อย่าปากดีนะ ...เด็กเลือดสีโคลน" เฮอร์ไมโอนี่เลือดขึ้นหน้า มือล้วงเข้าไปในเสื้อคลุม เตรียมจะดึงไม่กายสิทธิ์ออกมาทันทีที่มัลฟอย จะเอ่ยปากพูดอีกครั้ง ทันใดนั้น สเนปก็เปิดประตูห้องเรียนออกมาและต้องให้นักเรียนเข้าไปในห้อง

"วันนี้พวกเธอคงไม่ลืมส่งงานฉันนะ" สนเปเอ่ยน้ำเสียงไร้อารมณ์ เมื่อนักเรียทุกคนนั้นที่กันเรียบร้อยแล้ว เฮอร์ไมโอนี่หยิบม้วนกระดาษรายงานของเธอขึ้นมาวางบนโต๊ะอย่าเตรียมพร้อม

"วันนี้ฉันอยากให้พวกเธอจับคู่กัน" สเนปพูดขณะเดินเก็บม้วนรายงานตามโต๊ะ โดยไม่เงยหน้ามองนักเรียนที่กำลังเดินไปหาคู่ของตัวเอง และเช่นเคย รอนต้องคู่กับแฮรี่ และเฮอร์ไมโอนี่คู่กับเนวิวล์

"ไม่ๆ ไม่ใช่อย่างนั้นฉันได้จับคู่ไว้ให้พวกเธอแล้ว " สเนปโบกไม่กายสิทธิ์ไปที่กระดานดำที่ว่าเปล่า มีตัวหนังสือเป็นชื่อคนสองคนเขียนเรียงกันลงมา ยาวสุดขอบกระดานด้านล่าง และที่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ เฮอร์ไมโอนี่ได้คู่กับมัลฟอย เป็นไปได้อย่างไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้คำถามนับร้อยรุสเร้าเข้ามาในหัวของเฮอร์ไมโอนี่

" อาจารย์ค่ะ ...มัน..."

"ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้นคุณเกรนเจอร์ เอาตามนี้หละ เดรโกไปนั้นข้างๆคุณเกรนเจอร์ซะไป" สเนปตัดบทอย่างรวดเร็ว มัลฟอยเดินมานั้งข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ สีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

"ทีนี้เรามาเริ่มเรียนกันได้แล้ว ฉันอยากให้พวกเธอเปิดหนังสือไปหน้า 584"

"สัจจะเซรุ่ม!"เฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงดังด้วยความตกใจ

"จะร้องเสียงดังไปทำไมเกรนเจอร์"มัลฟอยตกใจ

"พอทีสองคนนี้" สเนปเอ็ดเสียงดังและหันมาทางมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่

"แต่เรายังไม่น่าจะเรียนเรื่องนี้นะคะอาจารย์ มันเร็วเกินไป" เฮอร์ไมโอนี่ร้องบอกสเนปด้วยความสงสัยและตกใจ

"ฉันเป็นอาจารย์นะ ฉันจะสอนอะไรมันก็เรื่องของฉัน เธอมีหน้าที่เรียนก็เรียนไป" สนปพูดฟังดูเบื่อหน่าย มัลฟอยหัวเราะเยาะอย่างสะใจ

"เอาหละวันนี้ฉันอยากให้พวกเธอปรุงสัจจะเซรุ่ม ฉันหวังว่าพวกเธอจะทำได้ดีน่ะ เพราะฉันได้สั่งให้พวกเธอเขียนรายงายมาแล้ว และอย่าให้มีปัญหาล่ะ เอาหละเริ่มปรุงได้" สิ้นเสียงสเนปเฮอร์ไมโอนี่ก็เดินไปหลังห้อง

หยิบหม้อใหญ่ของเธอพร้อมกับส่วนผสมต่างๆที่ต้องใช้ ในขณะที่มัลฟอย นั้งมองเธอที่กำลังหอบของพลุงพลังมายังโต๊ะ

"ไม่คิดจะช่วยกันเลยใช่ไหม" เฮอร์ไมโอนี่ตำหนิขณะวางของที่หอบมาไว้บนโต๊ะ มัลฟอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากให้เธอ แล้วยื่นมือไปหยิบของออกจากหม้อ 2-3 ชิ้น

"ช่วยแค่นี้พอใจไหม "

"ขอบคุณ" เฮอร์ไมโอนี่กระแทกเสียงอย่างประชดประชัน แล้วจัดแจงวางส่วนผสมทุกอย่างวางลงบนโต๊ะ และเธอก็เริ่มปรุงทันที มัลฟอยได้แต่นั้งมองดูเธอแล้วก็อมยิ้มให้เธอจนหมดชั่วโมง........










********************************************


ที่ห้องทำงานสเนป ชายวัยกลางคนกำลังนั้งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของเขา เขามองดูกระดาษที่เขากำลังถืออยู่คือรายงานที่เขากำลังตรวจ สเนปนั้งตรวจรายงานตั้งแต่หลังอาหารเย็น เขานั้งอยู่ในห้องนี้ได้ราวๆชั่วโมงกว่า การตรวจการบ้านนับว่าเป็นงานที่น่าเบื่อหน่ายเป็นอย่างมากสำหรับเขา เพราะต้องทนอ่านรายงานที่ไม่ได้เรื่องอยู่หลายฉบับ และเป็นที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดในโลก ก็คือการที่จะต้องแจกตัว "ล" ให้กับรายงานที่ไม่เอาไหนเลยจริงๆบางฉบับ ท่ามกลางความเงียบมีเพียงเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาของเขา เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาในความเงียบ สนเปถึงกับสะดุ้งตื่นจากภวงค์แห่งการจินตนาการอันสุดแสนไร้สาระ ที่เกิดจากเรียนความ ที่เขาตั้งใจจะให้ "ล"ไปกินทันทีเมื่อเขาอ่านจบ

"มีอะไรเดรโก" สเนปถามทันทีเมื่อเด็กชายเดินเข้ามาในห้อง

"ส่งงานครับ" มัลฟอยทำเสียงเซ็งๆ

"ส่งช้าน่ะ" แต่เสียงสเนปเซ็งยิ่งกว่า

"ก็ผมทำไม่เป็นนี่นา ครูสั่งงานอยากจะตายไปใครจะไปทำได้ "

"งั้นเห็นทีเธอจะต้องตรวจการบ้านช่วยฉันก่อนขึ้นนอกแล้วล่ะ เธอจะได้เห็นว่ารายงานที่เธอบอกว่ายากจนจะทำให้เธอตายน่ะ มันจะยากแค่ไหนถ้าคนที่มีสมองทำ" สเนปสั่งอย่างแสบคัน มัลฟอยเดินมานั้งเก้าอี้ตรงข้ามสเนปอย่างไม่เต็มใจนัก สเนชี้นิ้วไปที่กองรายงานที่ตรวจเสร็จแล้ว เพื่อให้มัลฟอยหยิบขึ้นมาอ่าน มัลฟอยหยิบม้วนกระดาษที่หนากว่าเพื่อนขึ้นมาดูและแกะอ่าน กระดาษ4แผ่นที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือ ที่บรรจงเขียนอย่างาสุดชีวิติ บนหัวกระดาษแผ่นแรกมีตัว "ด" ตัวใหญ่สะดุดตา ตามมาด้วยชื่อของผู้เขียนรางงาน 4 แผ่นนี้ ..เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์..

"นังเด็กเลือดสีโคลนโสโครก" มัลฟอยพึมพำอย่างชัดเจน สเนปมองหน้ามัลฟอยอย่างตำหนิ

"ทำไมไปว่าเค้าแบบนั้นล่ะ"

"ก็ยายนี่ปากดีนิ ทั้งปากดี ทั้งอวดเก่งทำยังกับตัวเองวิเศษ ผมหมั่นใส้นัก คิดจะทำตัวเองให้เด่นเพราะหวังจะปิดปมด่อยของตัวเองละซิ ผู้หญิงอะไรร้ายกาจนัก" มัลฟอยพูดใส่อารมณ์ อย่างเมามัน

"แล้วเธอก็น่ารักด้วยใช่ไหม"สเนปถามเด็กชายด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมดาที่สุด เป็นไปตามที่สเนปคิด มัลฟอยดูงงๆกับคำถามของเขาทันที สเนปยิ้มที่มุมปากอย่างมีนัย

"ครูว่าเธอชอบเค้าน่ะ ครูหมายถึง คุณเกรนเจอร์ น่ะ " สเนปมองหน้ามัลฟอยที่กำลังตกใจสุดขีด

"ไม่มีทาง!" เสียงของมัลฟอยเด็ดขาด จนเกือบจะทำให้สเนปเชื่อ แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาเชื่อในความคิดของตัวเองมากกว่า

"งั้นหรอ" สเนปถามอย่างขำขัน

"ผมไม่มีวันจะชอบนังเด็กเลือดสีโคลนโสโครกนั้นเป็นอันขาด ไม่มีวัน!" เด็กหนุ่มกระแทกเสียงด้วยความโมโห แล้วเดินออกจากห้องไปทันที สเนปยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้นจนเมื่อ มัลฟอยออกไปจากห้องแล้ว ซึ่งมีเขาอยู่เพียงลำพัง เขาเปิดลิ่นชักใต้โต๊ะทำงานออก ข้างในนั้นดูสะอาดและเรียบร้อยแตกต่างจากบนโตะโดยสิ้นเชิง เขาหยิบซองกระดาษที่เก่าจวนจะขาดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ซองกระดาษซองนี้เก่ามากจนกระดาษกลายเป็นสีน้ำตาล และดูเหมือว่าจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เขาเปิดซอง ดึงการดาษที่พับอยู่ข้างในซองออกมา คลี่กระดาษแผ่นนั้นออกอย่างบรรจงและปราณีต เขานั้งจ้องมองดูกระดาษแผ่นนั้นอยู่ครู่ใหญ่

แล้วจึงพับเก็บไว้ที่เดิมอย่างทะนุถนอม




********************************************


"เธอทำแบบมันไม่ถูกน่ะ เฮอร์ไมโอนี่" รอนบ่นให้เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังนั้งทำการบ้านอยู่ในห้องนั้นเล่น

"อะไร...ชั้นไปทำอะไรผิดฮะ ก็สเนปเล่นแกล้งฉันแบบนั้น จะให้ฉันทำยังไงล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่บ่นเช่นกัน

"แล้วทำไมต้องไปสนิทสนมกับเขาด้วยล่ะ เธอลืมไปแล้วหรือว่าเขาคือศัตรูของเรา"รอนเริ่มหน้าแดงเพราะความโมโห

"ฉันรู้น่า ... ก็แค่สนิทกันในฐานะเพื่อนร่วมงาน"เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าตาไม่รู้ร้อน

"เพื่อนร่วมงานหรอ... แหมก็ใช่สิเดี่ยวนี้สเนปจับให้คู่กับมัลฟอยบ่อย จนจะทำให้คำว่าศัตรูกลายเป็นคำว่าเพื่อนละซิใช่มั้ย หรือว่ามันจะมากกว่าคำว่าเพื่อนล่ะ" รอนหมดความอดทน

"รอน!" เฮอร์ไมโอนี่ทนไม่ไหวเช่นกัน

"มันก็ไม่แน่หรอกน่ะ ถึงเค้าจะไม่เอาไหนในหลายๆเรื่อง แต่อย่างน้อยเค้าก้เป็นคนมีเหตุผลไม่หมือนกับเพื่อนบางคนของฉันละกัน"เฮอร์ไมโอนี่โมโหสุดขีด และเดินขึ้นบันไดหอนอนหายวับไปในความมืด

*****************************************

วิชาปรุงยาเช่นเคยที่เฮอร์ไมโอนี่ต้อ่งได้คู่กับมัลฟอย แต่แทนที่ทั้งสองจะกัดกันทั้งชั่วโมง ทั้งสองคนกลับเข้ากันได้อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำให้เป็นที่แปลกใจของใครหลายๆคน

"ฉันบอกนายแล้วไงว่าให้ใส่ตับกบลงไปก่อน ถ้านายไม่เชื่อฉันป่านนี้คงโดนอาจารย์หักคะแนนไปแล้ว"เฮอร์ไมโอนี่พูดยิ้มๆให้กับมัลฟอย ขณะเก็บข้าวของให้เข้าที่







"ครูบอกเธอแล้วก็ไม่เชื่อ"สเนปเอ่ยขึ้นในขณะที่อยู่กับมัลฟอยตามลำพังในห้องทำงาน

"ว่าเธอนะ ชอบคุณเกรนเจอร์" สเนปยิ้มกริ่มให้มัลฟอยเชิงล้อ

"ผมไม่ได้ชอบเธอซักหน่อย แค่เป็นเพื่อนกันนะครับ" อาการของมัลฟอยแตกต่างกันจากครั้งก่อนที่สเนปเอ่ยถึงเฮอร์ไมโอนี มัลฟอยมีอาการหน้าแดงและแอบยิ้มอย่างเขินๆ เมื่อได้ยินชื่อเธอ

"ครูจะไปประชุมแล้ว เธอช่วยจัดหนังสือให้เข้าที่ให้ครูด้วยน่ะ"และสเนปก็เดินออกจากห้องทำงาน มีเพี่ยงเด็กหนุ่มนั้นอยู่คนเดียว มัลฟอยจัดเก็บข้าวของของสเนปทุกอย่างให้เข้าที่ เหลือเพียงกระดาษ2-3 แผ่น เท่านั้น เขาตั้งใจจะเก็บไว้ในลิ้นชัก เมื่อเขาเปิดลิ้นชักออกมาเขาเห็นสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่มีซองกระดาษสีน้ำตลแผ่นเก่าๆ

ยื่นออกมาจากริมขอบสมุด ด้วยความอยากรู้ เด็กชายเปิดสมุดเล่มนั้นดูทันที ข้างในเป็นบันทึกประจำวันหรื่อประมานว่าจดบันทึกเฉพาะวันสำคัญๆอะไรอย่างนั้น ถึงแม้จะไม่มีวันที่บอกอย่างแน่ชัด แต่สภาพของกระดาษก็บ่งบอกบอกได้ว่าสุมดเล่มนี้ผ่านการใช้งานมาไม่ต่ำกว่า15ปีอย่างแน

่นอน ข้อความหลายข้อความส่วนมากจะเป็นคำบ่นเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ ไปตลอดจนสภาพร่างกายของผู้เขียน เด็กหนุ่มอ่านข้อความเหล่านั้นผ่านๆ จนมาถึงข้อความหนึ่งที่เขาสะดุดตา







.......วันนี้เจอยัยตัวรายนั้นอีกแล้ว เธอน่ารักจัง ตาเธอสดใส แก้วใส่ๆ สีชมพู อยากเจอเธออีกจัง.........







และอีกหลายๆข้อความที่ทำให้มัลฟอยถึงกับอึ้ง




..........วันนี้เธอพูดกับเราดีๆ ทำไมเราถึงต้องตะคอกใส่เธอด้วยน่ะ แล้วแบบนี้เธอจะพูดกับเราอีกไหมเนี้ย...........




..........เธอมาช่วยเราดีใจจังเลย ที่เธอมาช่วย อยากคุยกับเธอจัง ทำไมเราถึงปากแข็งกับเธอแบบนี้น่ะ................




ทุกข้อความนั้นไม่ได้บ่นถึงสภาพอากาศอีกต่อไปแล้ว มีแต่ข้อความที่บรรยายถึงผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าสเนปจะหลงรัก







....... วันนี้ต้องจากกันแล้ว ขอให้มีความสุขกับเจ้านั้นมากๆนะ ยัยเลือดสีโคลน ......




นี่เป็นข้อความสุขท้ายที่ถูกเขียนบันทึกไว้ มัลฟอยถึงกับยืนนิ่งคิดอะไรไม่ออก ยัยเลือดสีโคลนที่สเนปหลงรักคือใครน่ะทำไมเขาถึงรักเธอมากขนาดนี้ แล้วตอนนี้เธออยู่ไหน ถ้าสเนปรักเธอมาก ทำไมเขาไม่ตามหาเธอหละ

*********************************************


ความสัมพันธ์ของรอนกับเฮอร์ไมโอนี่เริ่มเดินไปในทางลบมากขึ้น เมื่อเธอจะไปเดทกับมัลฟอยในวันหยุดนี้ ทำให้ทังรอนและเฮอร์ไมโอนี่ ไม่พูดกันเลย ถ้าไม่จำเป็น

"เราไปกันได้หรือยัง" มัลฟอยถามเฮอร์ไมโอนี่เมื่อทั้งสองเจอกันที่นัดพบ

"ก็ไปสิ"เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างอายๆและเดินนำหน้าออกไป มัลฟอยยืนยิ้มดูเธอแล้วจึงเดินตามเธออย่างรีบเร่ง เมื่อมาถึงตัวเธอ เขาก็คว้ามือเธอมาจับ โดยที่เฮอร์ไมโอนี่ได้แต่ก้มหน้าเขินๆ ไม่กล้ามองหน้าเขา มัลฟอยเดินจับมือเธอไปตลอดทาง ผู้คนที่ส่วนมากจะเป็นนักเรียนต่างมองอย่างไม่เชื่อสายตาที่เห็นสองคนนี้มาเที่ยวด้ว

ยกัน

"เราไปร้านไม้กวาดสามอันกันเถอะ ฉันมีเรื่องอะไรจะบอกน่ะ" มัลฟอยดึงแขนของเฮอร์ไมโอนี่เข้าไปในร้านไม้กวาดสามอันทันทีที่พูดจบ เขาพาเฮไปนั้นที่ๆปลอดคนและบรรยากาศกีที่สุดในร้าน

"มีอะไรหรอ" เฮอร์ไมโอนี่สงสัย แต่แก้มของเธอก็ยังเป็นสีชมพูอยู่

"คือ....." มัลฟอยดูไม่มีความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก

"อื่ม..ฉันรักเธอเฮอร์ไมโอนี่" และแล้วคำพูดที่ติดอยู่ในปากของเขาก็หลุดออกมาจนได้ เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีแดงแล้วตอนนี้

"แล้วฉันก็อยากจะถามเธอว่า ..เราจะเป็นแฟนกันได้ไหม" เกิดความเงียบขึ้นในระหว่างนั้น มีเพียงเสียงจอแจของคนในร้านที่ดูเหมือนจะไม่สำคัญอะไรสำหรับเขาสองคนเลยในเวลานี้

"ฉันยังให้คำตอบนายตอนนี้ไม่ได้หรอกน่ะเดรโก"เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงเบา ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามทำเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด




***************************************************

"เป็นยังไงบ้างล่ะไปเดทกับเดรโก คงจะสนุกมากเลยละซิ" รอนขึ้นเสียงใส่เฮอร์ไมโอนี่ทันทีเมื่อเห็นเธอปีนผ่านช่องประตูห้องนั้นเล่นเข้ามา

"อย่ากวดประสาทฉันได้ไหมรอน"เฮอร์ไมโอนี่หัวเสีย

"ทำไมละหรือว่ามัลฟอยเป็นคู่เดทที่ไม่ได้เรื่อง" รอนกัดอย่างเจ็บแสบ

"ฉันจะบอกอะไรให้น่ะ เค้าเป็นคู่เดทที่วิเศษที่สุดเท่าทีฉันเคยเจอมาเลยละ นิ..รอน ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆนะ ว่าทำไมนายถึงได้เป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้น่ะ ฉันจะไปไหนกับเดรโกมันก็เรื่องของฉันนายไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรด้วยเลย แล้วนายก็ไม่ต้องมาเดือดร้อนอะไรด้วยเลย"เฮอร์ไมโอนี่เหลืออด

"เพราะฉันรักเธอ ฉันรักเฮอร์ไมโอนี่"รอนก็ตอบอย่างเหลืออดเช่นกัน

"รอน !"เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยโฮออกมาเหมือนกับว่าเธออดกลั้นไว้นานแล้ว แล้วเธอก็โผลเข้ากอดรอนทันที

"เป็นอะไรไปเฮอร์ไมโอนี่" รอนถามเฮอร์ไมโอนี่น้ำเสียงเปลี่ยนไปจากเมื่อครู่

"ฉันรอคำนี้จากเธอนานแล้วน่ะ ฉันนึกว่าเธอจะไม่พูดคำนี้กับฉันอีกแล้ว"เฮอร์ไมโอนี่สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนของรอน

"เดรโกขอฉันเป็นแฟน ฉันไม่รู้จะทำยังไง ฉันไม่กล้าตอบตกลงเขาไป ฉันกลัวว่าฉันจะพลาด ฉันอยากรอฟังเธอให้แน่ชัด เพราะฉันกลัวว่าฉันอาจจะคิดไปเอง รอน..เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ฉันทนเจอหน้ากันแต่มองหน้ากันไม่ติดแบบนี้ไม่ไหวแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่มองหน้ารอนอย่างมีความหวัง รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของรอน ซึ่งทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที

***************************************************


"มาหาครูมีเรื่องอะไรหรอ"สเนปถามมัลฟอยที่นั้งอยู่ตรงข้ามกับเขาโดยมีโต๊ะทำงานขั้นกลาง

"ผมบอกรักยายเลือดสีโคลนไปแล้ว" และมัลฟอยก็ตั้งใจเล่าเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดให้สเนปฟัง

"ผมชวนเธอไปเดท และผมก็ขอเธอเป็นแฟน แต่เธอบอกว่ายังให้คำตอบไม่ได้" เมื่อมัลฟอยเล่าจบสเนปก็เต้นเป็นลิงโลดขึ้นมาทั้นที

"ดีเยียม!สุดยอดเลย มันต้องอย่างนี้เดรโก"สเนปเดินมาตบไหล่เด็กหนุ่มอย่างแรง2-3 ที แต่สีหน้าของมัลฟอยไม่ได้รู้สึกยินดีแม้แต่น้อย ดูเขาออกจะเป็นกังวลเสียมากกว่า

"ครูครับ"

"อะไร"

"ครูเล่าเรื่องยายเลือดสีโคลนที่ครูแอบชอบให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ"อาการณ์ของสเนปเปลี่ยนไปทันที

"เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง"น้ำเสียงของเขากลับมาสงบเหมือนเดิม

"ผมขอโทษครับ ผมเปิดสมุดบันทึกของครูดูก็เลยรู้"มัลฟอยสารภาพผิดอย่างกล้าๆกลัวๆ สเนปเดินอาดๆมานั้นที่เก้าอี้ตัวเดิม

"อันที่จริงครูอยากเก็บเรื่องนี้ไว้กับครูคนเดียวน่ะ เพราะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย แต่ถ้าเธออยากรู้ แต่ก็นั้นแหละเธอรู้แล้ว และไม่มีประโยชน์อะไรที่ครูจะปิดบังมันไว้ แต่มันก็ต้องมีข้อต่อรองกันบ้างเป็นธรรมดานะ เดรโก" สเนปมองหน้าเด็กชายที่ตอนนี้กำลังตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ

"ครับ" เป็นคำตอบเดียวที่จะให้ได้ เพื่อที่จะแลกกับเรื่องราวคลั้นยังหนุ่มของสเนป

"ข้อตกลงก็คือ....ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น ให้มีคนรู้แค่เรา2คน ตกลงน่ะ" สเนปถอนหายใจยาว..จากนั้นเขาก็เริ่มเล่าสิ่งที่เด็กหนุ่มที่นั้นอยู่ตรงหน้าเขาต้องการจะรู้

"ตอนนั้นครูอายุ 16 ปี อยู่ปี5 ที่นี่" มัลฟอยตั้งใจฟังอย่งจริงจัง

"ครูเป็นคนที่ไม่เอาไหนเลยในบางเรื่อง และครูก็เป็นคนชอบอยู่คนเดียวแล้วอยู่ดีๆ ครูก็มีศัตรูขึ้นมา มันน่าตลกใช่ไหมทั้งที่ครูไม่ได้ไปสุงสิงกับใครแต่ครูก็มีศัตรู และเวลาที่เจอกันครูก็ต้องโดนพวกนั้นเล่นงานเป็นประจำ ครูทำอะไรพวกนั้นไม่ได้เลยเพราะพวกมันมีกัน4คน แต่ครูมีคนเดียว และถ้ายายเลือดสีโคลนนั้นไม่มาช่วยครูเอาไว้ ครูก็ต้องโดนพวกนั้นเล่นงานถึงตาย ครูไม่รู้หรอกน่ะว่ายายนั้นสะกดรอยตามครูไปทุกที่หรือเปล่า แต่ว่าทุกๆครั้งที่ครูโดนแกล้ว เธอก็จะโผ่มาช่วยครูทุกครั้ง"

"แล้วพวกนั้นไม่ทำร้ายเธอด้วยหรอครับ"

"ไม่หรอก ไม่มีวันที่พวกนั้นจะทำร้ายเธอ เพราะว่าเธอเป็นคนรักของหัวหน้ากลุ่มของพวกนั้น 2คนนี้รักกันมาก ใครๆในโรงเรียนก็รู้ และครูก็รู้ด้วย...."ดวงตาสีดำของสเนปเหม่ลอยออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่มีจุดหมาย

"แต่ครูก็ยังชอบเธอ ไม่รู้เป็นอะไรน่ะเวลาเจอเธอเป็นต้องทะเลาะกันทุกครั้ง แต่พอเธอเจอครูตอนครูถูกแกล้ง เธอก็ช่วยครูทุกครั้ง"

"เธอเป็นยังไงบ้างครับ"

"เธอน่ารักมากเลยหละ เธอสดใส ร่าเริง มีเมตตา เธอชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าคนๆนั้นจะเต็มใจให่เธอช่วยหรือไม่ เธอเป็นเลือดสีโคลนที่ฉลาดมาก เธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกเวทมนต์ แล้วเธอก็เก่งกาจ ปากดีเป็นที่1 แต่เธอไม่เคยโกรธครูซักครั้งเลยน่ะที่ครูเรียกเธอว่าเลือดสีโคลน" สเนปหยุดพักเพื่อที่จะให้มัลฟอยตั้งคำถาม

"แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าครูชอบเธอครับ" เป็นคำถามที่ดีทีเดียวสำหรับเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าสเนปจะอยากตอบคำถามนี้เอามาก

"ไม่เลย ไม่รู้เลย จนถึงวันนี้เธอก็ยังไม่รู้ แต่มันก็ไม่สำคัญอะไรสำหรับเธอใช่ไหม เรื่องของเธอสิสำคัญกว่า ...และแล้วเดรโกมัลฟอย ก็ได้บอกรักเลือดสีโคลนที่เค้าหลงรักจนได้..." สเนปพูดอย่างภาคภูมิใจที่ได้เห็ฯมัลฟอยทำในสิ่งที่เป็นไปได้น้อยที่สุด

" แต่เธอยังไม่ตอบผมเลยน่ะครับ ว่าเธอรักผมหรือเปล่า"เด็กชายพูดเสียงเศร้าๆ อย่างไร้ความหวัง สเนปจ้องมองเด็กชายอย่างเห็นใจ

"มันคล้ายมันน่ะ..เรื่องของเรามันคล้ายกันมาก แต่ครูเห็นว่ามีสิ่งหนึ่งที่มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอ!เดรโก"สเนปชี้นิ้วไปที่มัลฟอย

"เธอมีความกล้า กล้าที่จะพูดในสื่งที่ตัวเองรู้สึก ไม่เหมือนครู...ครูไม่กล้วแม่แต่จะชอบเธอ แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ครูก็เลยต้องได้แค่แบบชอบ เธอทำถูกแล้วหละ ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงไม่ใชเนื่องสำคัญ มันสำคัญที่ว่าเธอได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้นก็พอแล้ว.....".........




**************************************************





อากาศหนาวเย็นจับใจหิมะสีขาวละเอียดปกคลุมไปทั่วพื้นสนาม สนามหญ้าจึงกลายเป็นสีขาวโพน รอนและเฮอร์ไมโอนี่กลับมาคืนดีกันเหมือนเดิมแล้ว และทุกอย่างดูเหมือนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมในไม่ช้า

“นัดฉันมามีเรื่องอะไรหรอ” มัลฟอยยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร

“คือว่า....เรื่องนั้นนะ” เฮอร์ไมโอนี่อ้ำอึ้ง

“อ๋อ..เรื่องที่ฉันขอเธอเป็นแฟนนั้นใช่ไหม กำลังอยากรู้อยู่เลย ว่ามาสิ.... ไม่เป็นไรพูดมาเลยฉันรับได้อยู่แล้ว” ดูเหมือนว่าเขาจะเตรียมตัวมาเป็นพิเศษ เพื่อที่จะมาฟังคำตอบจากเธอ

“คือ..ฉันเสียใจนะเดรโก....ฉัน...พยายามคิดว่าที่ผ่านมามันเป็นความรัก แต่มันไม่ใช่ ...เรื่องระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ ฉันเป็นลูกมักเกิ้ล ถ้าพ่อเธอรู้ พ่อของเธอต้องโกรธมาก และถ้าถึงตอนนั้นเรื่องมันก็จะไปกันใหญ่ ฉันอยากให้มันหยุดอยู่แค่นี้ได้ไหม....” ดวงตาสดใสที่ตอนนี้เต็มปริ่มไปด้วยน้ำตา แต่สีหน้าของมัลฟอย

กลับสงบนิ่ง

“ฉันรู้ ...ฉันรู้แล้วว่าเธอจะต้องตอบแบบนี้กับฉัน และฉันก็ยินดีด้วยนะที่เธอกับรอนกลับมาคืนดีกันแล้ว เธอคงจะมีความสุขที่ได้อยู่กับรอนมากกว่าฉัน เพราะฉันมันไม่เอาไหนนิ” มัลฟอยแกล้งยิ้มเพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น

“ฉันว่าฉันต้องไปเรียนแล้วหละ โชคดีน่ะ” เด็กหนุ่มส่งยิ้มให้เธอเป็นครั้งสุดท้ายแล้วหันหลังเดินจากไป โดยไม่หันกลับมามองหญิงสาวที่ยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกเลย

***********************************************************

และทุกอย่างก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างเต็มรูปแบบ เฮอร์ไมโอนี่กลับมาสดใสร่าเริงกับเพื่อนเหมือนเดิม และสเนปก็เลิกจับคู่มัลฟอยกลับเฮอร์ไมโอนี่ได้เสียที วันนี้ทั้งสามคนตื่นเช้าเป็นพิเศษ เพระว่าวันนี้มีการเข่งขัน ควิชดิชนัดชิงแชมป์ ขณะที่ทุกคนกำลังทานอาหารเช้าอยู่นั้น นกฮูกนับร้อยๆตัวบินโฉบอยู่บนหัวของพวกเขา

นกฮูกสีน้ำตาลตัวเล็กกระจิ๋วบินร่อนลงมายังโต๊ะอาหารข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ เธอรับจดหมายจากนกฮูกตัวนั้นทันที

“จดหมายใครหรอ” รอนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“จากที่บ้านนะ เธอทั้งสองคนไปที่สนามกันก่อนนะเดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน” แล้วเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที และเดินออกจากห้องโถงไปอย่างรวดเร็ว

“เธอเป็นอะไรของเธอน่ะ”รอนสงสัย

“ชั้งเถอะ มันเรื่องของเธอ”แฮรี่ตอบให้ง่ายๆ

***********************************************************

ที่ห้องนั้นเล่นของกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่ข้างๆเตาผิง ถือจดหมายที่เธอเพิ่งได้รับ เป็นเวลานานแล้วที่เธอไม่ได้รับจดหมายจากมัลฟอยนับตั้งแต่คุยกันครั้งนั้น แต่ในตอนนี้จดหมายที่เธอถืออยู่เป็นจดหมายที่เขียนโดยเดรโก มัลฟอย ส่งมาให้เธอ




***ถึงเลือดสีโคลนที่รัก***

เวลาไหนที่เธอทุกข์ ให้เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอจะเห็นความรักที่ฉันมีให้

ถ้าวันไหนที่เธอเหงา ให้เธอลองหลับตา เธอจะเห็นฉันอยู่ข้างๆเธอเสมอ

และถ้าวันไหนที่เธอเจอคนที่เธอรัก ฉันก็จะรักเธอตลอดไป........




หยดน้ำหยดหนึ่งกระทบลงบนผิวกระดาษทันทีที่เธออ่านจบ น้ำใส่ๆไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างของเฮอร์ไมโอนี่ ตอนนี้เธอไม่สามารถอดกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไปแล้ว เธอซบหน้าลงบนมือทั้งสองข้างและปล่อยให้ตัวเองร้องไห้อย่างโศกเศร้าเสียใจ







ชายวัยกลางคนที่มีผมสีดำเป็นมัน นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของเขา ดวงตาสีดำของเขาเหม่อลอย อย่างไม่มีจุดหมาย สเนปเปิดลิ้นชัก หยิบซองกระดาษเก่าคร่ำคร่าที่เขาเคยหยิบขึ้นมาหลายครั้งหลายหน เขาเปิดซองออก ดึงกระดาษแผ่นที่อยู่ข้างในออกมาอย่างทะนุถนอม จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่เขาตั้งใจจะให้ผู้หญิงที่เขาแอบรักเมื่อสมัยเรียน และเช่นเคยที่เขาไม่กล้าให้เธอ เขาเลยต้องเก็บจดหมายฉบับนี้ไว้กับตัวเองตลอดมา และสาวน้อยเลือดสีโคลนคนนั้น ก็ไม่มีวันได้รู้ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ




***ถึง ลิลลี่ เลือดสีโคลนที่รัก***

เวลาไหนที่เธอทุกข์ ให้เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอจะเห็นความรักที่ฉันมีให้

ถ้าวันไหนที่เธอเหงา ให้เธอลองหลับตา เธอจะเห็นฉันอยู่ข้างๆเธอเสมอ

และถ้าวันไหนที่เธอเจอคนที่เธอรัก ฉันก็จะรักเธอตลอดไป........




....เจ้าชายเลือดผสม....




********************************************************************

เวลารักใคร....จงอย่าเสียใจในสิ่งที่คุณทำ

แต่จงเสียใจ.....ในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ

********************************************************************




THE END

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น