วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Trap chapter 13

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ
ลิงค์นี้นะค่ะ

chapter 7 ; Bloody Valentine (1)

เฮอร์ไมโอนี่ขยับตัวช้าๆ กระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้ชินกับแสงสว่างที่ลอดเข้ามาในห้อง เฮอร์ไมโอนี่เหลียวซ้ายแลขวาหาคนที่กอดเธออย่างอบอุ่นเมื่อคืนนี้ แต่เธอก็ไม่พบใครอยู่ในห้องนอกจากเธอ เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นนั่ง แล้วพับเสื้อคลุมตัวใหญ่ที่ปกป้องเธอจากความหนาวเย็นในยามค่ำคืน เธอไมโอนี่ได้กลิ่นกลิ่นกายของเขาจางๆ จากเสื้อคลุม ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นราวกับว่าเขาอยู่ข้างๆ เธอ 'สงสัยกลับไปก่อนละมั้ง' เฮอร์ไมโอนี่คิด พลางเดินออกไปจากห้องนั้น

"เฮอร์ไมโอนี่ ไปไหนมาแต่เช้า" เดฟทักขึ้นอย่างสดใสเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของหอประธานนักเรียน

"ฉัน เอ่อ คือ " เฮอร์ไมโอนี่อึกอัก ไม่แน่ใจว่าควรจะบอกเขาดีหรือไม่

"ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร ไปกินข้าวกันเถอะ" เขายิ้มกว้างให้เธอ

"เดี๋ยวฉันขอไปล้างหน้าเก็บของก่อนนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วก็เดินทางหอนอนประธานนักเรียนหญิง แล้วเธอก็หันมาพูดกับเดฟ "เดฟ ถ้าหิวไปก่อนเลยนะ"

"ไม่ล่ะ ฉันรอดีกว่า เดี๋ยวจะมีใครมาดักฉุดเธอไประหว่างทาง" เขายิ้มเล่นๆ อย่างมีเลศนัย

"บ้า ใครจะมาฉุดฉัน งั้นรอแป๊บนึงนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดขำ ก่อนที่จะเดินขึ้นหอนอนไป

"เดรโก มัลฟอยยังไงล่ะ" เขาพูดเบาๆ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จริงอย่างที่เดฟคิด วันนี้เดรโกพยายามที่จะหาโอกาสคุยกับเฮอร์ไมโอนี่ทั้งวัน แต่ก็ยังหาโอกาสไม่ได้สักที เพราะช่วงเวลาพักเดฟก็จะตามประกบเฮอร์ไมโอนี่อยู่ตลอดเวลา ช่วงเวลาเรียนอัศวินทั้งสองของเธอก็คอยประกบ โดยเฉพาะเจ้าพอตเตอร์ที่คอยมองเขาอย่างพวกหมาหวงก้าง นั่นทำให้เขาหงุดหงิดมาก เขาอยากจะเตือนเธอเรื่องที่เจ้าเดวิด คาร์ลอส เป็นผู้เสพความตาย แต่ให้ตายเถอะเขาไม่มีโอกาสได้คุยกับเธอสักที

เดรโกเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องเอาเรื่องนี้มาบอกเธอด้วย เขาไม่รู้ว่าเขาเป็นห่วง หรือว่าต้องการมาเยาะเย้ยเธอ เขาถอนหายใจอย่างเชื่องช้าเมื่อเห็นว่าวันนี้เขาคงไม่ได้คุยกับเธอแน่ เพราะตอนนี้เธอถูกประกบด้วยเจ้าคาร์ลอสทุกฝีก้าว แถมเจ้าคาร์ลอสยังเหมือนจะรู้ว่าเขาทำอะไร จะบอกอะไร เพราะนอกจากมันจะตามเฮอร์ไมโอนี่ทุกฝีก้าวแล้ว มันยังส่งสายตามามองอย่างคนที่เหนือกว่ามาที่เขาอีกด้วย

เขาพยายามที่จะหาโอกาสคุยกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่หลายวัน แต่ความพยายามของเขาก็ไม่เป็นผล เขาเดินไปตามระเบียงอย่างเซ็งๆ และแล้วเขาก็ได้ยินเสียงๆ หนึ่ง ดังขึ้นอยู่อีกด้านหนึ่งของระเบียง

"นี่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายทนเรียนวิชาพยากรณ์ศาสตร์ได้ยังไงมาตั้งหลายปี" เสียงใสๆ ดังขึ้น เดรโกจำได้ทันทีว่าเป็นเสียงใคร เขายืนพิงกำแพงหาที่หลบพวกเขาทั้งสามคน

"ก็ดีกว่าไปนั่งมองตัวเลขแหละน่า เธอนั่นแหละเฮอร์ไมโอนี่ ทนเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ได้อย่างไร" เสียงรอนพูดขึ้น ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตาเขียวปั๊ดที่เขาบังอาจมาว่าวิชาสุดโปรดของเธอ

"เอาล่ะๆ พวกเราแยกย้ายกันไปเรียนดีกว่า แล้วเจอกันนะเฮอร์ไมโอนี่" เสียงแฮร์รี่ดังขึ้นเพื่อยุติสงครามย่อมๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น

เดรโกลอบเห็นรอนกับแฮร์รี่เดินไปอีกทาง และจังหวะนั้นเองที่เขาเห็นเฮอร์ไมโอนี่อยู่คนเดียวครั้งแรกในรอบหลายๆ วันนี้เลยทีเดียว เขากำลังที่จะออกเดินไปหาเธอ

"มัลฟอย นั่นนายกำลังจะทำอะไร" เสียงๆ หนึ่งดังขึ้นทำให้เขาหยุดชะงัก

"คาร์ลอส ไม่เกี่ยวกับนาย" เขาคำราม เมื่อเห็นหน้าเจ้าของเสียง

"เกี่ยวสิ เกี่ยวอย่างมาก เพราะนายกำลังจะทำให้แผนนายท่านเสีย" เขาพูดหน้าเครียด "นายกำลังจะไปบอกเฮอร์ไมโอนี่ใช่ไหมว่าฉันเป็นผู้เสพความตาย หึๆๆ นายเป็นเลือดบริสุทธิ์อย่างนายไม่น่าไปคลุกคลีกับเลือดสีโคลนเลยนะมัลฟอย พ่อของนายคงผิดหวังมาก" เขาหัวเราะในลำคอและทำท่าทางน่ากลัวอย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน

"คาร์ลอส แก" เดรโกคำรามใส่เดฟ ขณะที่มือขย้ำคอเสื้อของเขา

"เอามือออกจากคอเสื้อฉัน มัลฟอย อย่าลืมว่าฉันมีสิทธิ์ทั้งตัดคะแนนบ้านและเอาเรื่องของนายไปบอกนายท่าน" เขาพูดเสียงเย็น แล้วผลักอกเดรโกออกไป "จำเอาไว้มัลฟอย อย่าบอกเฮอร์ไมโอนี่เรื่องฉัน" เดฟพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไป แต่เดรโกก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

"นายต้องการอะไรจากเฮอร์ไมโอนี่ คาร์ลอส" เดรโกจ้องมองหน้าเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

"ไม่ใช่เรื่องของนาย" เขายิ้มเยาะๆ ก่อนที่จะสะบัดผ้าคลุมเดินจากไป

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเป็นครั้งที่ร้อยของวันได้แล้ว ตอนนี้เธอนั่งอยู่ที่ที่ประจำที่ห้องสมุด เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเดฟถึงตามประกบเธอในช่วงอาทิตย์นี้ แต่ยามใดที่เธอถามเขาถึงสาเหตุ เขาก็จะยิ้มด้วยแววตาขี้เล่นตามสไตส์ของเขา พร้อมกับบอกเธอว่า "เฉยไว้ เฮอร์ไมโอนี่ แล้วจะดีเอง" วันนี้ก็เช่นกัน เธอพยายามที่จะสลัดเขาให้หลุดจากการประกบ แต่มันก็ทำได้ยากยิ่ง ถ้าเธออยู่ในโลกของมักเกิล เธอคงคิดว่าเขาคงติดเครื่องมือติดตามตัวเธอไว้สักแห่งในตัวเธอแล้ว เพราะไม่ว่าเธอจะสลัดเขามาได้สักกี่หน แต่เขาก็จะเจอตัวเธอภายในเวลา 15 นาทีทุกที

"เดฟฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ" เธอพูดเสียงเบาๆ พอให้ได้ยินกันเพียงสองคนเท่านั้น

"ว่าไง" เขาเงยหน้าจากหนังสือรู้ทันศาสตร์มืดชั้นสูงมามองหน้าเธอ

"นายเลิกตามฉันสักทีได้ไหม คือ ฉันรู้สึกอึดอัดนะเดฟ ฉันไม่ได้หมายความว่าฉันรำคาญเธอนะ เพียงแต่ว่า เอ่อ ฉันจะพูดยังไงดีล่ะ" เฮอร์ไมโอนี่พยายามเรียบเรียงคำพูดไม่ให้ทำร้ายจิตใจเขา

"ฉันเข้าใจเฮอร์ไมโอนี่ แต่แค่ช่วงนี้เท่านั้น" ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังเล็กน้อย ไม่ใช่ขี้เล่นอย่างที่ผ่านๆ มา

"มีเรื่องอะไรที่นายไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าเดฟ" เฮอร์ไมโอนี่หน้าเครียดเมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของเขา เธอไม่ค่อยเห็นใบหน้าที่บ่งบอกไปถึงความเครียดและความกังวลจากเพื่อนคนนี้สักเท่าไหร่นัก

"นิดหน่อย นิดหน่อยเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องเก็บมาคิดหรอกน่า" เขากลบเกลื่อนด้วยการเอามือขยี้ผมเธอเบาๆ แล้วยิ้มหวานให้

"นายแน่ใจนะว่าไมมีอะไร" เธอมองตาเขา หวังที่จะอ่านความคิดที่ซ่อนอยู่ในรอยยิ้มหวานๆ นั้น

"ถึงมี มันก็อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ ไปกันเถอะฉันหิวแล้ว" เขาพูดพลางเอามือลูบท้อง เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงเข้าใจ ก่อนที่จะเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเดินตามเขาไป

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วันนี้เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องนั่งเล่นรวมเพื่ออ่านหนังสือ ใจจริงเธอก็อยากไปอ่านหนังสือที่ทะเลสาบอยู่เหมือนกัน แต่เธอรู้ดีว่าถ้าเธอไปที่นั่นเดฟก็จะตามเธอไปอีกเหมือนเคย ทำให้เธอตัดสินใจที่จะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ อยู่บนหอนอนเพียงลำพัง เธอต้องการที่จะอยู่เงียบๆ บ้าง เพื่อที่จะคิดอะไรบางอย่าง ตอนนี้เธอเริ่มคิดว่าสถานการณ์รอบๆ ตัวเธอกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง มีอะไรบางอย่างที่เธอยังไม่รู้ อย่างเช่นพฤติกรรมแปลกๆ ของเดฟ เธอรู้ดีว่าเดฟมีอะไรปิดบังเธออยู่ เธอเคยสงสัยพฤติกรรมของเดฟตั้งแต่มาทำหน้าที่ประธานนักเรียนด้วยกัน แต่เธอก็คิดว่าบางที อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่อาจให้ใครรู้ได้ ประกอบกับเรื่องของเธอกับเดรโกทำให้เธอไม่มีเวลายุ่งเรื่องของเดฟมากนัก แต่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่าเดฟยิ่งแปลกไปกว่าทุกที เขาบอกว่าเขาจะช่วยเธอคืนดีกับเดรโก แต่ทุกครั้งที่เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเดรโกกำลังจะเข้ามาคุยกับเธอ เขาก็จะกันตัวเธอออกไปทุกครั้ง เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น

หลังจากวันที่เธอพบกับเดรโก เธอเริ่มมั่นใจว่าความสัมพันธ์ของเขาและเธอคงจะดีขึ้น เธอรู้สึกถึงสายตาที่เขามองมาทางเธอบ่อยๆ และไม่ใช่สายตาของความแค้น อาฆาต แต่เป็นสายตาที่บ่งบอกความหมายอะไรสักอย่างที่เธอก็ไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงอะไร แต่ที่เธอรู้ตอนนี้ก็คือ ขืนเดฟและเธอยังเป็นเงาตามตัวอยู่อย่างนี้ เขากับเธอไม่มีทางที่จะคืนดีกันอย่างแน่นอน และเขาต้องเขาใจผิดไปต่างๆ นานา เฮอร์ไมโอนี่คิดอย่างกลัดกลุ้ม เฮอร์ไมโอนี่ตัดสินใจบางอย่างเงียบๆ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นไปหยิบกระดาษกับปากกาขนนกขึ้นมาเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง

"เดรโก
ฉันขอร้องให้นายอ่านจดหมายนี้จนจบก่อนที่เธอจะฉีกมันไป ขอบคุณนะ ฉันไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง แต่ฉันอยากให้นายรู้ว่าฉันเองอยากเจอนาย........."

เฮอร์ไมโอนี่เขียนจดหมายได้แค่นี้ก็ขยำกระดาษทิ้ง และเอาไม้กายสิทธิ์มาเสกคาถาให้มันไหม้มอดไป 'ไม่ได้เขียนอย่างนั้นไม่ดี ดูง้อจนเกินไป เอาไงดีน้า' เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดพลางหยิบกระดาษแผ่นใหม่ขึ้นมาแล้วจรดปากกาขึ้นมาใหม่

"เดรโก มัลฟอย
ฉันเห็นนายป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวฉันหลายวัน นายมีอะไรหรือเปล่า"

'ไม่ดีๆ ถ้าเขาไม่อยากเจอเราล่ะ' เฮอร์ไมโอนี่คิด เธอนั่งเอามือกุมหัวอยู่สักพักก่อนที่จะล้มตัวลงนอน 'รอวันวาเลนไทน์ละกัน' เฮอร์ไมโอนี่คิด พลางหยิบสร้อยที่มีจี้เป็นรูปมังกรออกมา เธอมองมันอยู่นานก่อนที่จะบรรจงใส่มันในกล่องเล็ก และห่อของขวัญอย่างปราณีต พอเสร็จแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนแรง "นายต้องรับของจากฉันนะเดรโก" เธอคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสักพัก นิทราก็พาเธอไปสู่ดินแดนแห่งความหลับไหล

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ในอีกทางด้านหนึ่งของปราสาท ในหอนอนชายสลิธิลิน เดรโก มัลฟอยนั่งลงอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือของเขา ข้างหน้ามีกระดาษที่เขียนจดหมายค้างเอาไว้ เขาตั้งใจจะเขียนจดหมายไปนัดหมายกับเฮอร์ไมโอนี่ เพื่อที่จะบอกเรื่องราวทั้งหมด ถึงแม้ว่าเขาไม่อาจจะเลี่ยงลิขิตจากฟากฟ้าที่เขาจะต้องเป็นผู้เสพความตายที่ต้องฆ่าผู้คนบริสุทธิ์มากมาย แต่เขาก็ยังอยากให้เธอปลอดภัย การอยู่ห่างจากผู้เสพความตายน่าจะเป็นสิ่งที่ปลอดภัยสำหรับเธอ แต่ความคิดนั้นก็จบลงเมื่อมีนกฮูกสีน้ำตาลตัวหนึ่งบินมาเคาะกระจกที่หอนอนเขา แล้วมันก็หย่อนจดหมายที่ว่างเปล่าฉบับหนึ่งลงที่เขา เขารู้ดีว่าจดหมายนี้มาจากใคร เขาพึมพำรหัสลับระหว่างเขากับพ่อสองสามคำก่อนที่จะก้มลงอ่านจดหมาย

"เดรโก
นายท่านมีคำสั่งให้แกไปฆ่าครอบครัวเกรนเจอร์ทั้งหมดในวันที่ 14 นี้ คงไม่ยากเกินไปสำหรับแกที่จะกำจัดมักเกิลธรรมดาๆ สักคนสองคน
ลูเซียส"

เดรโกรู้สึกชาไปทั้งร่างเมื่ออ่านจดหมายนี้จบ นี่เขาต้องไปฆ่าพ่อแม่ของเฮอร์ไมโอนี่อย่างนั้นหรือ เขาคิดอย่างอ่อนแรง ถ้าเขาไม่ทำ นั่นหมายถึงความเคลือบแคลงในความภักดีที่มีต่อลอร์ดโวลเดอร์มอร์ต แต่ถ้าเขาทำ นั่นหมายถึงการทำร้ายคนที่เขารักมากที่สุด ตอนนี้ความคิดของเขาตีกันยุ่งเป็นยุงตีกัน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ควรทำอย่างไรดี

เขาหัวเราะหึๆ ในลำคอด้วยความสมเพชตัวเอง เขาจำได้ดีว่าตอนคริสมาสต์เขาคิดยาวมาถึงวันวาเลนไทน์ว่า เขาจะเซอร์ไพส์เธอด้วยการให้ช่อดอกไม้ช่อโตที่สั่งจากฮอกมีดส์ แต่พอถึงเวลาจริงๆ เขากลับต้องมานั่งคิดว่าเขาต้องฆ่าครอบครัวเกรนเจอร์ดีหรือไม่

"ปัดโธ่โว้ย" เขาตะโกนออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ก่อนที่จะนั่งเอามือกุมตัวอยู่เพียงลำพัง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น