วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

JE TE VEUX ....ต้องการคุณ(12)

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1

JE TE VEUX chapter 12 : สับสน

Chapter 12 : สับสน

มัลฟอยยิ้มกริ่ม...
เห็นสีหน้าของผู้มาเยือนแล้วเขาก็รู้ได้ทันทีว่าความบาดหมางไม่สามารถจางหายไปได้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี
ประตูไม้สนทะมึนผางออกพร้อมกับกองกำลังหน้าเครียดที่ประดากันเข้ามาราวกับจะซ้อมรบ
ชายหนุ่มคิดอย่างพึงใจ พอตเตอร์ก็คือพอตเตอร์... หมอนี่ไม่เคยละความทึ่มออกไปจากตัวเองได้
ยินดีต้อนรับคุณพอตเตอร์...เขากล่าวทักทายอย่างนอบน้อม สุภาพที่สุดเท่าที่เดรโก
มัลฟอยคนนี้จะทำได้
คงไม่ต้องแนะนำตัวล่ะมั้ง ในเมื่อเราก็คุ้นเคยกันดีอยู่ความคุ้นเคยที่แสนเลวร้ายน่ะสิ
แฮร์รี่คิดอย่างหงุดหงิด ใบหน้าของเขาบึ้งตึงขึ้นทุกขณะตามวินาทีที่ต้องยืนมองหน้าไอ้คนเจ้าเล่ห์
แฮร์รี่ยอมรับกับตัวเองอย่างจนปัญญาว่ามัลฟอยเปลี่ยนไปมาก...
ขณะยืนประจันหน้ากันนี้ความสูงของทั้งคู่ไม่รองด้อยกว่ากันเลย
แต่อาจจะล้ำกันนิดหน่อยเรื่องความบึกบึนแข็งแรง แฮร์รี่ยอมแพ้มัลฟอยในข้อนั้น
แม้เขาจะมีกล้ามบ้างในแบบที่พออวดใครได้...
แต่มัลฟอยกลับดูตัวกว้างใหญ่และมัดกล้ามที่ดันเนื้อผ้านั่นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าหมอนี่ไม่ใช่ธรรมดา
หมายค้น มิสเตอร์มัลฟอยสายตาที่จับจ้องกันอยู่คงจะทำให้ละเลยหญิงสาวผมแดงที่ยืนหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆ
มัลฟอยหันมายิ้มกริ่มให้สุภาพสตรีที่เกือบๆจะเป็นเจ้าสาวแล้ว
เธอมีใบหน้าที่บึ้งตึงไม่แพ้ว่าที่สามี...
และเขาก็ยอมรับว่าเธอสวยเพราะผมสีแดงเร่าร้อนและดวงตาสีฟ้าอำพันตามแบบฉบับของคนตระกูลวีสลี่ย์
แต่อย่างไรมันก็ไม่ทำให้เขานึกหลงใหลมากกว่าผมเป็นน้ำตาลเป็นลอนสวยและดวงตาสีน้ำตาลที่ด่าเขาอยู่ทุกวินา
ทีได้เลย
อ้า... มิสวีสลี่ย์ อ้อ! อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะได้เป็นมิสซิสพอตเตอร์แล้วสินะ
มัลฟอยหยอกเย้าอย่างสนุกปาก
จ้องมองใบหน้าไม่เป็นมิตรของสตรีผมแดงอย่างเหยียดหยันซึ่งถูกปิดบังและเก็บงำไว้อย่างดีด้วยรอยยิ้มเป็นกั
นเอง เขาคว้าหมายค้นซึ่งเป็นกระดาษเปื้อนหมึกธรรมดาๆมาจากมือของจินนี่
แล้วยัดมันใส่กระเป๋าเสื้ออย่างไม่สนใจใยดี ความไม่พอใจปรากฏบนใบหน้าของแฮร์รี่อย่างรวดเร็ว
เราจะขอค้นเดี๋ยวนี้แฮร์รี่บอกเสียงเข้ม เมื่อมัลฟอยผายมือไปด้านหลังอย่างเชื้อเชิญ
แฮร์รี่ดันมัลฟอยออกไปข้างๆ... ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังรักษาอารมณ์สุนทรีของตัวเองไว้ได้เต็มที่
เขาหัวเราะไล่หลังกองกำลังจากกระทรวงเวทมนตร์ที่ก้าวฉับๆตามหัวหน้าซื่อบื้อไป
อยากรู้จริงๆเลย นายจะหาสาวน้อยน่ารักของฉันเจอมั้ยเขาพึมพำอย่างมีความสุข
รู้อยู่แก่ใจว่าพอตเตอร์จะไม่มีทางหาเกรนเจอร์พบ ตราบเท่าที่เกรนเจอร์จะยังคงรักพอตเตอร์อยู่
น่าแปลกที่เขาเป็นคนยกเอาข้อนี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่กลับตะขวงใจพิลึก

แฮร์รี่งุ่นง่านไปมา เขาทำตัวราวกับหนูติดจั่นที่วิ่งเข้าวิ่งออกห้องนั้นห้องนี้ไปทั่ว
ตะโกนสั่งลูกน้องเสียงขรมอย่างเคร่งเครียด ให้ตายเถอะ!
เวลาปาเข้าไปเกือบสองชั่วโมงแล้วแต่เขาก็ยังไม่สามารถตรวจตราคฤหาสน์อันแสนกว้างใหญ่หลังนี้ได้ทุกซอกทุกมุม เวลาทุกวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว แฮร์รี่กัดฟันกรอดขณะยังคงวิ่งไปวิ่งมา
อารมณ์ของเขาดูจะเร่งร้อนมากขึ้นตามทุกวินาทีที่สูญไปในคฤหาสน์หลังนี้
จินนี่! เธอพบอะไรบ้างมั้ยเขาตะโกนถามว่าที่เจ้าสาวของตัวเองเมื่อเธอวิ่งมาหาเขา
เขาไม่กล้าถามหรอกว่าพบเฮอร์ไมโอนี่มั้ยเพราะกลัวว่าตัวเองจะผิดหวัง
เขาขอแค่ได้พบหลักฐานอะไรบางอย่างก็ได้ที่ยืนยันว่าเธอถูกซ่อนอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้
รองเท้าส้นสูงหรือเส้นผมยาวหยิกสีน้ำตาลก็ได้ ขอแค่เป็นอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเธอ
ฉันอยากจะบอกเธอว่าเคราเมอร์ลิน! ฉันไม่พบอะไรเลย ให้ตายเถอะ!
จินนี่ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลเป็นหยุดลงมาจากปลายเส้นผมสีแดงเพลิงของเธอ แฮร์รี่สบถอย่างหยาบคาย เขาวิ่งผ่านจินนี่ไป... ปล่อยให้เธอวิ่งเข้าไปหาในอีกห้องหนึ่ง
ชายหนุ่มวิ่งขึ้นมาตามบันไดวนสูงที่หรูหรา
เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าด้านด้านขวาของบันไดมีช่องแคบๆเล็กๆซ่อนตัวอยู่หลังผ้าม่านที่ราวกับจะอำพรางทางไว้
ใจของเขาเต้นระทึกและโลดไปไกลเร็วพอๆกับที่เท้าของเขาก้าวไป ชายหนุ่มก้มตัวผ่านพ้นผ้าม่าน
มันเป็นระเบียงทางเดินแคบๆที่สองข้างทางเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทอดตัวสูงไปถึงเพดาน
ที่ปลายสุดของระเบียงแฮร์รี่พบบันไดทอดต่อขึ้นไปอีก เขาไม่รั้งรอที่จะรีบสาวเท้าไปที่บันไดนั้น
เพียงแต่...
ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะไม่เข้าไปที่นั่นน้ำเสียงของคนพูดเหมือนจะเคร่งเครียด
แฮร์รี่เหลียวไปด้านหลัง...
มัลฟอยยืนกอดอกพิงกำแพงที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าม่านสีเขียวแก่แบบสลิธีรินที่เขาเพิ่งก้าวผ่านมา
เขาดูไม่เหมือนมัลฟอยเจ้าเล่ห์และยอกย้อนแบบที่เห็นเมื่อเช้าที่หน้าประตู
ดวงตาสีซีดค่อยๆจับจ้องมองแฮร์รี่ทีละนิดผ่านอาการเขม่นตา
หมายความว่าไง...มัลฟอยแฮร์รี่สะกดกลั้นยิ้มที่เหมือนจับพิรุธได้
เขาเพ่งพิศมองมัลฟอยเหมือนเหยี่ยวที่รอตะครุบเหยื่อ ถ้ามัลฟอยออกตัวห้ามเขาเช่นนั้น
นั่นหมายความว่ามีโอกาสสูงมากที่เฮอร์ไมโอนี่จะอยู่ทางด้านนั้นของระเบียง แฮร์รี่คิดอย่างมีชัย
เปล่าหรอกมัลฟอยกล่าวเสียงเครียด เขาขยับตัวเล็กน้อยและก้าวเดินมาหาแฮร์รี่อย่างเชื่องช้า
ฉันก็แค่คิดว่าหากนายยังมีมารยาทและสมองอยู่
นายน่าจะรู้ว่าที่ที่ดูลับๆแบบนั้นเป็นที่ส่วนตัว...ที่ฉันไม่ค่อยอยากจะให้ใคร...
เขาประชิดหน้าเข้าไปใกล้ๆอย่างมาดร้ายเข้าไปวุ่นวาย
ฉันมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะค้นที่ไหนก็ได้ในบ้านหลังนี้ตามข้อบัญญัติในหมายค้นแฮร์รี่ยิ้ม
และมัลฟอยนึกเกลียดรอยยิ้มนั่น มันเป็นยิ้มที่บอกว่าหมอนั่นอ่านออกทะลุปรุโปร่งว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
และหมอนั่นอาจจะรู้ไปถึงแผนการที่เขาวางไว้แล้วก้ได้
แต่หมอนั่นไม่มีทางวางตัวเหนือแผนนี้ได้...
คิดได้ถึงข้อนี้มัลฟอยก็หน้ารื่นขึ้นมา
เอาเลยสิ ถ้านายอยากค้นห้องนั้นใจจะขาด อ้อ!
เดินขึ้นบันไดไปแล้วเชิญเปิดประตูค้นหาได้ตามสบายทุกซอกทุกมุม ระวังหน่อยนะ...เพราะห้องนั้น...
ฉันค่อนข้างจะหวงนะชายหนุ่มเหยียดยิ้มและเน้นย้ำคำว่า หวงหนักแน่น
แฮร์รี่รู้สึกเจ็บใจที่เขาจับพิรุธมัลฟอยไม่ได้ แต่...
แต่เขาก็รู้แล้วว่าเขาควรจะเข้าไปค้นหาในห้องนั้น
แต่แฮร์รี่อดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าบ้านั่นกำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่
และดูเหมือนจะสนุกกับเกมส์นี้มากเสียด้วย
แฮร์รี่ข่มขู่มัลฟอยทางสายตาเฉียบคมของเขา เขาเดินไปตามระเบียงทางเดินที่ทอดยาวนั้น
ชายหนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้าของมัลฟอยเหยียบลงบนพรมยวบและก้าวตามเขามาอย่างเชื่องช้า
บรรยากาศราวกับว่าเขาจะถูกลอบสังหารทางด้านหลังได้ทุกเมื่อ
ชายหนุ่มได้ยินเสียงมัลฟอยหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างเหี้ยมโหด จนเขาเผลอล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง กำด้ามไม้กายสิทธิ์เอาไว้แน่น หูของเขาคอยเงี่ยฟังมัลฟอยอยู่บ่อยๆอย่างไม่ไว้ใจ
แฮร์รี่ก้าวขึ้นไปตามขั้นบนไดเวียนที่มืดทึบ บันไดเวียนนี้แคบและกำแพงทั้งสองข้างก็ทำจากหินเผาแก่ที่ทำให้ดูเหมือนบันไดเวียนขึ้นไปยังหอคอยสูง ผนังทั้งสองด้านทอดเงาสูงของเขาและชายเจ้าเล่ห์ที่เดินตามหลังมา คบไฟปะดับอยู่ตามผนังเพื่อให้แสงสว่างในทางเดินที่มืดแคบนี้
แฮร์รี่ไม่คิดเลยว่าส่วนหนึ่งของคฤหาสน์ที่แสนจะหรูหรากลับมีมุมมืดไม่น่ามองหลบซ่อนอยู่ด้วย

เมื่อเท้าเหยียบลงบนบันไดหินเย็นลื่นขั้นสุดท้ายแล้ว ประตูบานยักษ์สีมึนทึนก็ตั้งตระหง่านน่าเกรงขามอยู่ตรงหน้า
ออกแรงเปิดเลยพอตเตอร์ มันค่อนข้างจะเปิดยากอยู่สักหน่อยนะเสียงมัลฟอยสั่งเคร่งดังมาจากด้านหลัง แฮร์รี่ถอนหายใจ... ถ้ามันนักทำไมนายไม่มาช่วยฉันวะ! เขาเริ่มหัวเสีย แต่เมื่อคิดว่าหากเฮอร์ไมโอนี่ซ่อนอยู่หลังประตูบานนี้จริงมันก็แสนจะคุ้มค่า ชายหนุ่มวางมือและกำรอบที่จับประตู ออกแรงดันหนักๆผลักประตูบานใหญ่เข้าไปด้านใน มันไม่หนักมากอย่างที่คิด แต่ก็พอจะทำให้แฮร์รี่รู้สึกล้าที่ต้นแขนบ้าง
ภายในห้องที่ครึ้มแสงนั้น แฮร์รี่ก้าวเท้าเข้าไปอย่างมาดมั่น เสียงสะท้อนของฝ่าเท้าที่ย่ำลงบนพื้นหินเย็นชืดก้องกังวานไปทั่วห้อง เสียงฝีเท้าเนิบๆของมัลฟอยก้าวตามมา เขาจ้องมองด้านหลังของแฮร์รี่
รู้สึกสะใจขึ้นมาเมื่อเห็นเจ้าโง่นั้นกวาดตาซอกแซกไปทั่วห้องแต่ก็ไม่พบอะไร
ที่นี่มีใครอยู่แฮร์รี่เหลียวหลังมาและเริ่มคาดคั้นมัลฟอย ชายหนุ่มนึกไว้แล้วว่าคนเจ้าเล่ห์นั่นไม่มีทางยอมให้เขาพบเฮอร์ไมโอนี่ได้ง่ายดายเช่นนี้หรอกหากว่ามันขัง
เธอไว้จริงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่าห้องอึมครึมนี้มีคนอยู่คือผ้าปูเตียงสีขาวที่สะอาดสะอ้านไร้ไรฝุ่น
อีกทั้งเครื่องใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องนี้ก็มีอยู่อย่างพร้อมเพรียงสำหรับการดำรงชีวิต สะภาพห้องสะอาดหมดจด ไม่เหมือนห้องที่น่าจะถูกปิดตายเอาไว้
มัลฟอยเผยยิ้มที่มุมปาก พอตเตอร์ไม่โง่อย่างที่เขาคิดไว้ ฉันเองแหละ บางทีฉันก็ขึ้นมาอยู่บนนี้บ้าง อย่างที่พวกคนรวยเขาเป็นกันแหละ หาความสงบไง...
เชอะ!แฮร์รี่นึกในใจ ชมตัวเองอย่างไม่กระดากปาก เย่อหยิ่งยโส สมแล้วที่เป็นมัลฟอย
แต่ยังไงฉันก็คงต้องขอค้นดูหน่อย เพื่อความมั่นใจเหมือนจะเหยียดหยันว่านายยมันคนไว้ใจไม่ได้
กามของเขากระตุกเล็กๆแต่ยังคงควบคุมอารมณ์และสีหน้ากวนประสาทไว้ได้ดี มัลฟอยมองตามแฮร์รี่ที่เริ่มขยับตัวไปยังส่วนต่างๆของห้องขอให้สนุกนะพอตเตอร์เขาคิดอย่างเครียดแค้น
....เสียงสนทนาของทั้งสองดังแว่วอยู่ในหูของเฮอร์ไมโอนี่ ตั้งแต่ตอนที่เธอได้ยินเสียงคนพูดคุยกันและเสียงผลักประตูเธอก็รีบเอาหน้าแนบช่องเล็กๆของประตูตู้เสื้อผ้าที่เธอซ่อนหลบอยู่ ภาพของแฮร์รี่ทำให้น้ำตาของเธอไหลเอาเสียดื้อๆ ความคิดถึงและความรักที่มีต่อเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลงแม้ว่าตัวเองจะแปดเปื้อนเท่าใด เฮอร์ไมโอนี่มองตามเขาอย่างสิ้นหวัง เสียงสะอื้นไม่ได้หลุดออกมาจากลำคอตามคำสั่งของมัลฟอย
อย่าให้เขารู้ว่าเธออยู่ที่นี่
พอตเตอร์!มัลฟอยเหยียดยิ้มและร้องเรียกเขา เอาล่ะ...
เวลาแห่งความสนุกสนานของตัวเขาเองกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่ายัยนั่นแอบลอบมองยอดรักอยู่ตลอดเวลา ชิ! คอยดูเถอะ ฉันจะทำให้เธอไม่กล้ารักไอ้พอตเตอร์นั่นเลยเกรนเจอร์!
แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นจากลิ้นชักที่ว่างเปล่าซึ่งเขากำลังค้นคุ้ยอยู่ เขาหันไปมองคู่ปรับ
อะไร มัลฟอยแฮร์รี่หรี่ตาลงเพื่อสังเกตมัลฟอย รู้สึกพิกลกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทาบทับอยู่บนมุมปากของมัลฟอย
นายไม่คิดจะค้นตู้เสื้อผ้านั่นรึไงว่าแล้วก็ชี้นิ้วโป่งไปที่ด้านหลัง เขาได้ยินเสียงลมหายใจเร็วถี่ของเฮอร์ไมโอนี่ และเสียงกุกกักที่ตามมาเบาๆแสดงว่าเธอขยับออกจากบานประตูแล้ว
มันจะมาไม้ไหนอีกแฮร์รี่ครุ่นคิด... แต่การค้นหาในตู้เสื้อผ้าก็ยังมีประโยชน์กว่าการค้นคุ้ยในลิ้นชักที่ว่างเปล่า เฮอร์ไมโอนี่อาจจะไม่ได้อยู่ในตู้เสื้อผ้านั่น แต่อย่างน้อยเขาก็น่าจะได้หลักฐานอะไรบางอย่างที่ยืนยันการคงอยู่ของเธอ
ชายหนุ่มผมดำสาวเท้าผ่านร่างสูงของมัลฟอยไป แฮร์รี่หยุดยืนอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้า... ติ้วเข้มขมวดตึงเพราะความสงสัย แต่สิ่งใดก็มิอาจห้ามความต้องการที่จะค้นหาเพื่อนรักได้ โดยไม่ลังเลอีกต่อไป แฮร์รี่จับที่มือดึงเก่าแก่ของตู้เสื้อผ้าคร่ำครึ บานประตูค่อยๆเปิดออก... เร็วเท่ากับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนมุมปากข้างหนึ่งของมัลฟอย
เฮอร์ไมโอนี่นั่งซอมซ่ออยู่ในนั้น...
ดวงตากลมโตสีน้ำตาลที่เคยกล้าหาญปรากฏเพียงความหวาดกลัวและตื่นตระหนกเท่านั้น ภาพในดวงตาใสรื้นด้วยหยาดน้ำตาของเธอสะท้อนภาพชายอันเป็นที่รักซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอเพียงแค่มือเอื้อมเท่านั้น ริมฝีปากบางสั่นระริกด้วยความอยากที่จะร้องเรียกชื่อเขา มือเล็กบางของเธอสั่นเทาเพราะความปรารถนาที่จะยื่นออกไปเพื่อสัมผัสเขา...
เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะทำดั่งใจร้องเรียกแล้ว เพียงแต่มัลฟอยยืนตระหง่านอยู่ที่ด้านหลังของแฮร์รี่เท่านั้น
ประกายแจ่มจ้าในดวงตาสีซีดหม่นของเขาย้ำเตือนข้อตกลงที่เป็นดั่งบทลงโทษ เพียงแต่เขายกนิ้วเรียวขึ้นทำท่าเหมือนจะดีดนิ้วเท่านั้น เฮอร์ไมโอนี่ก็รีบซมซานถอยหลังกระเถิบตัวเข้าไปยังห้องมืดๆภายในตู้ซึ่งแฮร์รี่มองไม่เห็น เขามองไม่เห็นทั้งห้องโสโครกนั้น และมองไม่เห็นทั้งหญิงสาวที่มีสภาพน่าเวทนา
แขนของชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีมรกตยื่นออกไปเพื่อจะค้นหาอะไรบางอย่างในตู้นั้น ทั้งที่สิ่งที่เขาต้องการและคิดถึงมากที่สุดในตอนนี้อยู่ตรงหน้าเขาแล้วแท้ๆ คนที่กำลังสนุกยิ้มพรายให้หญิงสาวที่นั่งขดตัวจ้องมองคนรักของเธอทั้งน้ำตา ความสนุกของเขาทวีเพิ่มขึ้นเมื่อพอตเตอร์ยื่นมือไปเกือบจะสัมผัสกับร่างของคนที่เขาค้นหา และเธอต้องรีบถอยหนีโดยกระทำทุกสิ่งไม่ให้มีเสียงเล็ดรอดออกมาได้
ฉันอยู่ตรงนี้! แฮร์รี่เสียงในอกร่ำร้องโหยหาอย่างเศร้าหมอง เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกีดกั้นเสียงสะอื้น ดวงตาโศกเศร้าของเธอจ้องมองแฮร์รี่ราวกับว่าจะเก็บภาพของเขาไว้ในหัวใจ เผื่อว่าเธออาจจะไม่มีโอกาสได้ออกไปจากที่นี่ และเผื่อว่าเธออาจจะไม่ได้พบเขาอีกแล้ว
แม้ว่าเธอกำลังเก็บภาพของคนรักอยู่ แต่ปลายหางตาของเธอก็ชำเลืองมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังตลอด
เฮอร์ไมโอนี่ผวาทุกครั้งเมื่อมัลฟอยแค่แกล้งยกมือขึ้นทำท่าจะดีดนิ้ว ถ้ามัลฟอยดีดนิ้วนั่นหมายถึงแฮร์รี่จะถูกคำสาปที่เขาร่ายไว้ฆ่าตาย เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าให้มัลฟอย เธอขมุบขมิบปากเป็นเชิงขอร้อง และภาวนาขอให้แฮร์รี่ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!
แฮร์รี่ละมือจากตู้เสื้อผ้าโกโรโกโสใบนั้น ก้าวเท้าถอยหลังออกมาและส่งสายตาเกลียดชังให้มัลฟอย ซึ่งเขาไม่สะทกสะท้านเลย...
ฉันจะไปแล้ว ขอโทษที่เข้ามาบุกรุกบ้านนายเสียงขมขื่นนั้นคำรามออกมาลอดไรฟัน ไม่ต้องไปส่งฉัน ฉันไม่ค่อย...อยากเห็นหน้านายสักเท่าไรมัลฟอยยิ้มให้เขาและยักไหล่อย่างเสียมิได้
หลังจากที่ส่งความอาฆาตให้มัลฟอยผ่านสายตาแล้ว แฮร์รี่ก็เดินออกจากห้องไปอย่างหัวเสีย
เสียงฝีเท้าค่อยๆย่ำลงบันไดหินไป... เสียงนั้นค่อยๆเงียบลงเรื่อยๆ เมื่อเสียงสุดท้ายแว่วมาก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบสงบ...
ใบหน้าที่เมื่อครู่ช่างแสนสุขและฉาบไว้ด้วยรอยยิ้ม กลับเปลี่ยนเป็นใบหน้าเรียบเฉยเมื่อเขามองฝ่าความมืดเข้าไปในตู้ใบเก่า...
และเพ่งมองเห็นเค้าร่างสั่นเทาอยู่ในตู้นั้น
ออกมาสิเกรนเจอร์น้ำเสียงเคร่งครัดและดุเข้ม
มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ที่ค่อยๆเขยิบตัวออกมาจากตู้ด้วยแววตานิ่งเฉย เธอลุกขึ้นยืนอยู่ตรงหน้าเขา
ใบหน้าเปียกชุ่มด้วยหยาดน้ำตา
ปอยผมรุงรังที่คล้อยลงมาปิดใบหน้าติดแนบอยู่กับใบหน้าด้วยน้ำตาและเม็ดเหงื่อ
เธอยังไม่หยุดสะอื้น ความเจ็บปวดเมื่อครู่ยังไม่บรรเทาเบาบางลง...และอาจไม่มีวันจางหายไปได้
ความเจ็บปวดในวันนี้คือความเจ็บปวดที่รุนแรงที่สุดในชีวิต
เหมือนใจจะขาดตอนที่แฮร์รี่อยู่ตรงหน้าเธอเท่านั้นแต่เธอกลับร้องเรียกเขาไม่ได้
ทั้งที่เขาเป็นเพียงคนเดียวที่จะช่วยเธอได้...และทั้งที่เขาเป็นคนที่เธอรักมากที่สุด
แต่เธอกลับต้องยอมทนนิ่งเฉย ให้เขาคิดว่าเธอไม่มีตัวตน
ทำไมเธอต้องทำแบบนี้เสียงสั่นของเธอหลุดออกมาจากริมฝีปากที่สั่นระริก
ร่างกายของเธอสั่นเทาไปทุกส่วนและยังสั่นไม่หยุด ไม่มีคำถามใดๆที่เธออยากจะถามเขามากเท่ากับประโยคนี้
ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเห็นว่าความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเธอเป็นเรื่องสนุกอย่างนั้นหรือ?
ความเจ็บปวดและความเสียใจผสมกันจนกลั่นกรองออกมาเป็นความสิ้นหวัง
นับจากวันนี้เธอจะทำอะไรผู้ชายคนนี้ได้
ในเมื่อความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเธอเป็นเพียงแค่เรื่องสนุกของเขาเท่านั้น และเขาสามารถทำมันได้
ไม่มีความใดบอกออกมาทางสายตา ดวงตาของเขาไม่ได้บอกสิ่งใดเลยนอกจากความนิ่งเฉยที่ค่อยๆกลายเป็นเย็นชา
ดวงตาสีซีดสะท้อนภาพหญิงสาวที่คร่ำครวญอยู่ตรงหน้าเขา
คร่ำครวญเพราะความรัก...ความรักที่ให้กับไอ้พอตเตอร์!
เขาคอยๆวางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของเธออย่างนุ่มนวล เพียงแค่คิดว่าเธอร้องไห้เพื่อผู้ชายคนนั้น
ยอมเสียอิสรภาพเพื่อปกป้องชีวิตของผู้ชายคนนั้น ความรู้สึกทุกส่วนของเขากลับกระด้างเฉยชาขึ้นมา
ทำไมนะ? ทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้
เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างในตัวของเขามันตายไปหมดเลยเพียงแค่คิดว่าเธอรักหมอนั่น ทำไมกันนะ?
แรงสั่นจากสัมผัสบนหัวไหล่นั้นมัลฟอยสัมผัสได้ที่ใต้ฝ่ามือ
เธอยังคงสะอึกสะอื้นคร่ำครวญอยู่และไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองมัลฟอย
สิ่งสุดท้ายที่ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่อยากจะทำคือมองหน้าเขา
เธอแน่ใจว่าหากเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาตอนนี้เธออาจจะพลั้งมือฆ่าเขาในสักวันหนึ่ง
มัลฟอยเองก็รู้ดีในข้อนี้
แต่ในวินาทีนี้... เขายอมถูกเธอฆ่าตาย ขอแค่ให้ภาพของเขาสะท้อนอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้น
ทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้นะ
มัลฟอยเชยคางเธอให้มองเขา เธอมองเขาแล้ว...
ความรู้สึกแรกที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายคืออยากจะฆ่าเขาให้ตายด้วยมือของเธอเอง
มัลฟอยจับความรู้สึกนั้นได้จากแววตาที่ค่อยๆเปลี่ยนจากโศกเศร้าเป็นเย็นชา
นิ้วของเขาค่อยๆเกลี่ยไล้ริมฝีปากบางชื้นฉ่ำนั้นเล่น ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะประชิดใกล้
ประทับจูบแผ่วเบาที่อ่อนโยนที่สุดในชีวิตลงบนริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่
ดวงตาเฉยชาค่อยๆปิดลง... จูบนั้นไม่ดูดดื่มหรือร้อนแรงแบบที่มัลฟอยเคยทำ
แต่เป็นจูบแผ่วเบาที่เหมือนกับช่วยมลายความเจ็บปวดในใจของเธอลงไปได้ และเธอยอมรับจูบนั้นจากเขา...
ยอมอยู่นิ่งเฉยให้เขาปลอบประโลมเธอด้วยจูบนั้น
สักวันหนึ่งมัลฟอยกระซิบขณะที่ริมฝีปากของเขายังแนบตรึงกับริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่
ฉันจะบอกเธอว่าทำไมฉันถึงทำแบบนั้นเขาจะบอกเธอในสักวันหนึ่ง
วันที่ข้อสงสัยเกี่ยวกับความรู้สึกแปลกๆในใจของเขาหายไป
แต่วันนี้เขาจะขอจูบเธอก่อน... และจะขอให้จูบนี้เป็นนิจนิรันดร์..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น