วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Respiration of love

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ
ลิงค์นี้นะค่ะ

Respiration of love
fic by.... NiNni

ตอนที่ 1 : Respiration of Love // นักเรียนคนใหม่

แก๊ง แก๊ง แก๊ง!! เสียงศาสตรามักกอนนากัลเคาะแก้วเสียงดังเป็นเชิงให้นักเรียนหุบปากแล้วหยุดพูด เพราะเธอกำลังจะพานักเรียนปีหนึ่งมาคัดสรรเข้าบ้านแต่ละบ้าน..เธอเดินไปหยิบหมวกคัดสรรซึ่งเก่าแก่คร่ำคร่าและบุบเบี้ยวเป็นที่สุด เธอถือมันวางบนแป้นสามขาเหมือนตอนที่แฮร์รี่ คัดสรร..แล้วจึงเดินไปต่อที่ประตูห้องโถงทางเข้าแล้วต้อนพวกนักเรียนปีหนึ่งน่าตาตื่นกลัวให้เข้ามาในห้องโถงใหญ่..แต่สายตาของแฮร์รี่สะดุดที่นักเรียนหญิงคนหนึ่ง เธอสูงกว่าพวกนั้นจนเห็นได้ชัดและ เขาสังเกตุว่าเธอดูไม่เหมือนเด็กปีหนึ่งเลยสักนิด เด็กชายจึงถองรอนที่ซี่โครงแล้วกระซิบกับรอนว่า “นายเห็นผู้หญิงที่สูง ๆ นั่นไหม..ฉันว่าเธอดูไม่เหมือนเด็กปีหนึ่งเลย..”

“อืม..นั่นสิ เหมือนอยู่ปีเดียวกับพวกเราเลย” รอนกระซิบตอบแฮร์รี่ ขณะที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลส่งสายตาแผดเผาอย่างร้อนแรงมาที่พวกเขา แฮร์รี่ที่สังเกตุแววตาของศาสตราจารย์มักกอนนากัลได้ทันควันจึงหุบปากลงและนั่งดูการคัดสรรเงียบ ๆ แทน..ไม่ช้าหมวกก็เริ่มร้องเพลงคัดสรร..เมื่อเพลงจบลง นักเรียนชั้นโต ๆ ทั้งหลายจึงเฝ้ามองการคัดสรรของเด็กปีหนึ่งที่ถูกคัดสรรส่งไปยังแต่ละบ้าน..

“คนแรก....เอเบอร์ครอมบี้, ยวน”

“กริฟฟินดอร์!” นักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ตบมือดังลั่น

แถวยาวๆ ของนักเรียนปีหนึ่งสั้นลงอย่างเชื่องช้า ช่วงหยุดสั้นๆ ระหว่างขานชื่อกับเวลาที่หมวกตัดสินใจ...ในที่สุด “แซลเลอร์, โรส” ก็ถูกไปยังบ้านฮัฟเฟิลพัฟ

นักเรียนปีหนึ่งถูกส่งเข้าบ้านจนหมดเหลือเพียงนักเรียนคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ขาน..

นั่นก็คือ เด็กหญิงคนที่ตัวสูง ๆ นั่นเอง...เธอมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาหวาดหวั่น ก่อนที่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์จะเรียกเธอไปหาเขาเพื่อแนะนำ...

“เอาละ...นักเรียนทุกคนฉันมีความยินดีที่จะกล่าวกับพวกเธอทุกคนว่าในปีการศึกษานี้จะมีนักเรียนคนใหม่ซึ่งเมื่อก่อนเราจะไม่รับนักเรียนกลางปีกลางศึกษา..แต่ว่าฉันเห็นว่ามันเป็นการจำเป็นจริง ๆ ฉันจึงต้องรับ

มิสกรีมานี่ เข้าเรียน เพราะบิดาของเธอได้เลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงานทำให้ครอบครัวของเธอต้องย้ายจากประเทศ Australia มาอยู่ที่ประเทศนี่แทน...เพื่อสะดวกในการทำงานแต่ทว่า..ลูกสาวของพวกเขาซึ่งเมื่อก่อนศึกษาอยู่ที่โรงเรียนเวทมนตร์ใน Australia จำเป็นต้องย้ายด้วย พวกเขาจึงขอร้องให้ฉันรับ มิสกรีมานี่ มาเรียนด้วย ในตอนแรกพวกเขาบอกฉันว่าจะให้มิสกรีมานี่ เริ่มต้นเรียนใหม่ตั้งแต่ปีหนึ่ง...” เกิดเสียงกระซิบพึมพำทั่วห้องโถง ขณะศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์อธิบายให้พวกเขาฟัง

“ฉันขอให้...พวกเธอทุกคน เงียบ หน่อย...- - “ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์พูดอย่างอารมณ์ดี..นักเรียนทุกคนจึงพร้อมใจกันเงียบเสียง และตั้งใจฟังแทน

“เอาละ...ฉันจะพูดต่อนะ... ในตอนแรกพวกเขาบอกฉันว่าจะให้มิสกรีมานี่ เริ่มต้นเรียนใหม่ตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่ฉันไม่คิดว่าทำไมเธอจะต้องเริ่มเรียนใหม่ด้วยในเมื่อการเรียนของเธอก็อยู่ในระดับที่ดีอยู่แล้ว...ฉันจึงรับเธอมาเข้าเรียนในชั้นปีที่ 5” สิ้นเสียงศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็เกิดการกระซิบกระซาบพึมพำทั่วห้องโถงใหญ่อีกครั้ง..

แก๊ง แก๊ง แก๊ง!!! ศาสตราจารย์มักกอนนากัลลุกขึ้นยืนและเคาะแก้วอีกและส่งสายตาแผดเผาทั่วห้องโถงไปที่นักเรียนที่กระซิบกระซาบพูดคุยกัน ครั้งก่อนจะเรียก มิสกรีมานี่ ไปคัดสรรบ้าน...ทั้งห้องโถงเงียบทันที ศาสตราจารย์มักกอนนากัลจึงพูดว่า “กรีมานี่, เฟริด้า“

เป็นเวลากว่า 1 หรือ 2 นาที ก่อนหมวกขยับปากเล็กน้อยและประกาศว่า “ ปี 5, กริฟฟินดอร์!! ” โต๊ะของพวกกริฟฟินดอร์เฮลั่น..พลางตบมือ และจับมือแสดงความยินดีกับ เฟริด้า..เธอยิ้มแห้ง ๆ และจับมือกับผู้ที่แสดงความยินดีกับเธอด้วย...

เมื่อจบการคัดสรร พวกเขาจึงลงมือกินอาหารทันที...เมื่อจานสีทองไม่มีเศษอาหารเหลืออยู่แล้ว ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ก็เริ่มพูดเกี่ยวกับอาจารย์คนใหม่ ป่าต้องห้ามและการคัดเลือกนักกีฬาควิชดิชประจำบ้าน และคงจะพูดต่อหากไม่มีเสียง “ อะแฮ่ม ๆ” การไอโง่ ๆ จากอัมบริดจ์ เธอสาธยายเสียยืดยาว (โดยที่มีการจรจลเต็มขั้นใต้จมูกของเธอ) เกี่ยวกับกระทรวงเวทมนตร์และฮอกวอตส์ พร้อมไปกับการควบคู่ติเตียนการสอนต่างๆ ของฮอกวอตส์..เมื่อเธอพูดจบเหล่าคณาจารย์ต่างๆ ก็ปรบมือให้เธอ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์จึงพูดต่อ และ บอกให้พวกเขาไปนอนได้..รอนและเฮอรไมโอนี่ จึงบอกลาแฮร์รี่และไปไล่ต้อนนักเรียนปีหนึ่งที่ท่าทางตื่นกลัวแทน..แฮร์รี่จึงเดินขึ้นบันไดไปคนเดียว และเจอเนวิลล์ที่หน้ารูปทางเข้าหอนอนและบอกรหัสเขา..เมื่อเดินเข้ามาในหอนอนแฮร์รี่จึงเห็น เฟริด้า กำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าเตาผิง..เด็กชายจึงเดินเข้าไปทักเธอ เธอสะดุ้งและดูตกใจแต่เธอก็พูดว่า “หวัดดี..ฉันเอ่อ - - ราตรีสวัสดิ์นะ” เธอพูดก่อนจะเดินเร็วขึ้นหอนอนไป ทิ้งให้แฮร์รี่งุนงงว่าทำไมเธอไม่อยากคุยกับเขา แล้วเขาก็คิดได้ว่าเพราะ “เดลี่ฟรอเฟ็ต” นั่นเองที่ทำให้ เฟลิด้ากลัว และไม่พูดกับเขา แฮร์รี่นึกแล้วถึงกับโมโห..และตั้งใจไว้ว่าพรุ่งนี้เช้าเขาจะต้องพูดกับเฟริด้าให้ได้...หรือไม่ก็บังคับให้เธอเชื่อเขา แฮร์รี่คิดอย่างหัวเสียก่อนจะเดินขึ้นหอนอน

รุ่งเช้า..

แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่เดินลงมาทานอาหารเช้า ที่ห้องโถงใหญ่ตามปรกติ..แต่เช้านี้ออกจะไม่ค่อยปรกติเท่าไรนัก เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีใครเห็น เฟริด้า เลยแม้แต่คนเดียว..

“นี่..เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะรีบไปไหนกันนะ ดูซิ กินเร็วขนาดนั้น เดี๋ยวก็สำลักหรอก” แฮร์รี่ว่า

“ก็มีเหตุผลเดียวนี่..ฉันจะไป - -“ เฮอร์ไมโอนี่ยังพูดไม่ทันจบรอนและแฮร์รี่ก็พูดขึ้นมาพร้อมกันว่า

“ห้องสมุด!!”

“เออ..เธอก็รู้นี่ แล้วถามทำไม” เฮอร์ไมโอนี่พูดก่อนลุกขึ้นและจะก้าวฉับ ๆ เดินออกไป

‘ว้า...ห้องสมุดยังไม่เปิด สงสัยเราจะมาเช้าเกินไป’ เฮอร์ไมโอนี่คิดในใจก่อนที่จะตัดสินใจเดินไปที่ทะเลสาบเพื่ออ่านหนังสือ...

“หวัดดี เธอคือ กรีมานี่ ซิใช่มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่ทักเฟริด้า พลางขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเห็นผมสีน้ำตาลเข้มยาวและเป็นมันแววของเธอมีร่องรอยว่าเปียกน้ำเสียจนชุ่มราวกับเธอเอาหัวไปจุมน้ำมา...

“อ้ะ...ธะ – เธอ” เฟริด้าดูตกใจที่เห็นเฮอร์ไมโอนี่ ก่อนจะโบกไม้กายสิทธ์เร็ว ๆ ไปที่ผมสีเข้มของเธอ ให้มันแห้งสนิท

“ทำไมผมของเธอ ถึงเปียกโชกแบบนั้นล่ะ..” เฮอร์ไมโอนี่ถาม

“อ้ะ...เอ่อ มะ – ไม่มีอะไร เอ่อ...หวัดดี เกรนเจอร์ เรียกชั้นว่า เฟริด้า ก็ได้ จ๊ะ” เฟริด้าตอบตะกุกตะกัก

เฮอร์ไมโอนี่มองเธออย่างชั่งใจก่อนจะตอบกลับไปว่า “อื้ม...เรียนชั้นว่า เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้”

“อะ..เอ่อ...อื้ม งั้น ชะ – ชั้น ไปเรียน ก่อนนะ ละ – แล้วเจอกันนะ” เฟริด้าว่าก่อนจะเดินเร็ว ๆ ไปที่ปราสาท

“แปลก ๆ แฮะ...เฟริด้าเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำกับตัวเองเบา ๆ


ตอนที่ 2 : Respiration of Love // หวีนางเงือก

“อ้าว...เฟริด้า ทำไมมานั่งคนเดียวอยู่ที่นี่ล่ะ ที่ข้างหน้าก็มีตั้งเยอะนี่นา” เฮอร์ไมโอนี่ถามเฟริด้าอย่างแปลกใจ เพราะเธอเดินมานั่งที่หลังสุดของห้องเรียน

“เธอจะเห็นหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอีก...

“อ้อ...เห็นสิ นั่งตรงน่ะดีแล้ว คือ ชะ – ชั้นไม่ได้หมายความว่าฉันไม่ต้องการนั่งกับเธอนะ!! ตะ – แต่ฉันอยากนั่งตรงนี้น่ะ” เฟริด้ารีบพูดอย่างรวดเร็วจนตะกุกตะกัก

“ฉันก็ไม่ได้พูดอย่างนั้นนี่นา” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยอย่างแปลกใจ

ระหว่างเวลาเรียนเฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่และรอน แอบมองไปที่โต๊ะของเฟริด้าบ่อย ๆ และบ่อยครั้งเสียเหลือเกินที่เขาจะเห็นเธอทอดสายตาอาลัยอาวอนไปที่ทะเลสาบ..พวกเขาได้แต่กระซิบถามกันว่าเธอมองไปที่ทะเลสาบทำไมกัน เฮอร์ไมโอนี่จึงออกความเห็นว่า “เธออาจจะแค่มองไปที่ทะเลสาบ...แต่สมองของเธออาจจะคิดถึงประเทศเดิมของเธอก็ได้นะ..”

“จริงเหรอ” รอนเซ้าซี้

“โอ๊ย! รอน...ถ้านายถามชั้นว่าจริงมั้ย ชั้นก็คงต้องตอบนายละ ว่าถ้านายถามชั้น แล้วนายจะให้ชั้นไปถามใคร” เฮอร์ไมโอนี่ตอบฉุนๆ

“ไม่รู้เหมือนกันแฮะ” แฮร์รี่ตอบงง งง

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันล่ะ” รอนตอบสีหน้างง งวยไม่แพ้แฮร์รี่

เมื่อเลิกเรียนเฮอร์ไมโอนี่จึงบอกให้แฮร์รี่และ รอนไปก่อนเพราะเธอจะคอยเฟริด้าก่อน แฮร์รี่และรอน ยักไหล่น้อยๆ ก่อนจะเดินล่วงหน้าไปก่อน เพราะเฮอร์ไมโอนี่ สังเกตุว่าเฟริด้ามักจะเก็บของช้าที่สุดเสมอและ เข้าห้องเรียนสายบ่อยครั้งในตอนเช้า..

“อ้ะ...ธะ – เธอมายืนอะไรตรงนี้” เฟริด้าตั้งคำถามเฮอร์ไมโอนี่

“ก็.....รอเธอน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างไม่ตะกิดตะกวงใจ

“รอชั้นน่ะหรอ...” เฟริด้าถามเสียงค่อย

“เธอ ไม่อยากมีเพื่อนหรอกหรือ ฉันเห็นเธอไม่ค่อยมีเพื่อน...เลยอยากเป็นเพื่อนกับเธอแค่นั้นเอง” เฮอร์ไมโอนี่พูดพึมพำอย่างน้อยใจ

“เออ....ปะ เปล่า ฉันน่ะอยากมีเพื่อนมาตลอดเลย....แต่เธอคงไม่อยากมีเพื่อนอย่างชั้นหรอก เชื่อสิ” เฟริด้าพูดแล้ววิ่งไปที่ห้องเรียนต่อไปทันที ทิ้งให้เฮอร์ไมโอนี่งุนงงกับคำพูดของเธอ...

********************* 2 ********************

นาฬิกาตีบอกเวลา 5 ทุ่มเฮอร์ไมโอนี่จึงตัดสินใจจะเข้านอน เด็กสาวก้มลงจะเก็บหนังสือทั้งหมดแต่เธอแอบสังเกตุเห็นว่า เฟริด้า เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์ เธอจึงตัดสินใจว่าจะต้องรู้ให้ได้ว่าที่เธอพูดหมายความว่าอย่างไร น่าขันที่สุด ‘แต่เธอคงไม่อยากที่มีเพื่อนอย่างชั้นหรอก’ หมายความว่าอะไรทำไมชั้นต้องไม่อยากมีเพื่อนอย่างเธอ...ฮึ..ขนาดมนุษย์หมาป่าฉันยังเป็นเพื่อนได้เลย เฮอร์ไมโอนี่คิดในใจ ขณะเดินตามเฟริด้าออกไปจากห้องนั่งเล่นรวม..

เฮอร์ไมโอนี่แอบเดินตามเฟริด้าไปอย่างเงียบกริบ และสงสัยว่าทำไมเธอจึงต้องเดินมาที่ทะเลสาบด้วยนะ..แต่แล้วเธอก็เข้าใจ เมื่อเด็กสาวเห็นเฟริด้าเดินลงไปในลงทะเลสาบ...และฉลับพลันทันใดเฟริด้าเดินลงไปในน้ำที่ลึกถึงเอวแล้วเธอก็กระโจนลงน้ำไป แม้เฮอร์ไมโอนี่เองก็แทบไม่เชื่อตาตัวเองเมื่อเห็นเสื้อผ้าของเฟริด้าหายไปจนหมดสิ้น..มีเพียงร่างเล็ก ๆ ของเธอ และในขณะที่เฟริด้าว่ายน้ำเล่นอยู่นั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็แทบจะหวีดร้องด้วยความตกใจเมื่อเธอเห็นหางปลาขนาดใหญ่สีเขียวอมฟ้าที่มีความแวววาวเพราะน้ำสะบัดขึ้นลงทุกครั้งที่เธอดำน้ำไป..สักครู่เด็กสาวได้ยินเสียงหวีดหวิวดังมาจากทะเลสาบ เฮอร์ไมโอนี่หันกลับไปมองอีกครั้งด้วยหัวใจที่เต้นเร็วผิดปรกติ แต่ภาพที่เธอเห็นมันกลับทำให้เธออยากกรีดร้องออกมาแต่ต้องยกมือปิดปากเพราะภาพที่เธอเห็นคือ ชาวเงือกทั้งหลายว่ายขึ้นมาที่เฟริด้า และพูดคุยกับเฟริด้าด้วยภาษาเงือกที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจ แต่สามารถแยกออกได้เลยว่าใครคือ เฟริด้า เพราะเฟริด้าเป็นเงือกที่สวยที่สุดในนั้นและไม่มีผมสีเขียว ๆ น้ำเงิน ๆ น่าเกลียดแบบชาวเงือกของฮอกวอตส์แต่ผมของเธอกลับเป็นสีน้ำตาลเข้มสะท้อนแสงจันทร์อย่างสวยงามและเป็นประกาย โดยที่ชาวเงือกของ ฮอกวอตส์ไม่มีทางมีเหมือนเธอได้...และแล้วสมองของเฮอร์ไมโอนี่ก็ทำงานอย่างรวดเร็ว เธอมาจาก Australia นี่...ลือกันว่าที่นั่นมีชาวเงือกสายพันธ์ ไซเรน* ที่สวยงามที่สุดในสายพันธุ์เงือกทั้งหมด...แน่นอนเฟริด้าจะต้องเป็นเงือกสายพันธุ์ ไซเรนแน่นอน..แต่เธอไม่แน่ใจว่าชาวเงือกที่อาศัยอยู่ที่ทะเลสาบของฮอกวอตส์จะเป็นสายพันธุ์เมอร์โรว์** หรือ เซลกี้*** แต่เธอแน่ใจว่าเฟริด้า ไม่ใช่หนึ่งใน 2 สายพันธุ์นี้แน่นอน แต่ทำไม ทำไมล่ะ ในเมื่อ เฟริด้าเป็นเงือก แล้วเธอมี 2 ขาได้อย่างไร

******************** 3 ********************

วันรุ่งขึ้น...เฮอร์ไมโอนี่ตื่นแต่เช้าเธอมองไปที่เตียงของเฟริด้าที่ว่างเปล่า เธอจึงเดินลงมาที่ทะเลสาบและเฝ้ามองไปที่ทะเลเด็กสาวเห็นเฟริด้ากำลังเล่นน้ำ แต่น่าแปลกคือเธอกำลังยิ้มกว้างขณะว่ายไปรอบ ๆ ปลาหมึกยักษ์และสะบัดหางที่เป็นมันแววของเธอ..สักพักเฟริด้าจึงว่ายกลับขึ้นมาร่างของเธอกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง...เสื้อผ้าและผม ของเฟริด้า เปียกโชกและกำลังง่วนอยู่กับการเสกเสื้อผ้าให้แห้ง เฮอร์ไมโอนี่จึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาเฟริด้า

“หวัดดี เฟริด้า เช้านี้อากาศดีนะ”

เฟริด้าเงยหน้ามองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสีหน้าตกใจเป็นที่สุด...ดวงตาเบิกกว้าง

“ธะ – เธอ เห็น เห็นใช่ มั้ย แล้วเธอก็คงไม่อยากเป็นเพื่อน ฉะ – ฉัน อีกแล้ว ชะ – ใช่ มั้ย” เฟริด้าพูดขณะที่ดวงคู่งามของเธอรื้นน้ำตา

“เปล่านะ เฟริด้า อย่าเพิ่งร้องไห้สิ” เฮอร์ไมโอนี่มองเฟริด้าอย่างตกใจ

“ธะ – เธอ คง มะ – มั้ยอยากมี พะ – เพื่อน ยะ – อย่างฉัน แล้วใช่มั้ย เธอรังเกลียดที่ ฉะ – ฉัน ปะ – เป็น เงือก ชะ – ใช่ มั้ย” เฟริด้าพูดแล้วสะอื้นอย่างหยุดไม่อยู่ น้ำตาใส ๆ ไหลรินลงมาจากดวงตาของเฟริด้า

“ไม่จริงนะ เฟริด้า” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาด้วยความตกใจที่เห็นเฟริด้าร้องไห้

“มะ – ไม่ต้อง มะ – มา โกหก ฉะ – ฉันหรอก ฉะ – ฉันชิน ละ – แล้ว ที่ ถะ – ถูกเกลียดแบบนี้” เฟริด้าร้องไห้ออกมาขณะโบกไม้กายสิทย์เร็ว ๆ ไปที่เสื้อผ้าและผมของเธอ

“เฟริด้า....ฟังฉันนะ ฉันไม่รังเกียจเธอสักนิดนะ เฟริด้า ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอจริง ๆ นะ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามอธิบายให้เฟริด้าฟัง

“จะ – จริงหรอ” เฟริด้ามองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูดออกมา

“จริงซิ.....เมื่อ 2 ปีก่อนชั้นยังมีเพื่อนเป็นมนุษย์หมาป่าเลยนะ แล้วฉันก็ไม่กลัวด้วย” เฮอร์ไมโอนี่เล่าให้เฟริด้าฟังด้วยสีหน้าโล่งอก

“โอ....เธอ เธอใจดีมากเลย ฉันอยากมีเพื่อนมาตลอด แต่เพราะชั้นเป็นแบบนี้เลยไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับชั้น พวกเขาหาว่าชั้นเป็น...เป็น พวกครึ่งพันธุ์....” เฟริด้าพูดน้ำเสียงขมขื่น “ครึ่งพันธุ์โสมม...” เธอพึมพำต่อ พลางใช้มือปาดเร็ว ๆ ไปที่ตา

“เธอสัญญานะ...เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะเป็นเพื่อนกันชั้นนะ” เฟริด้าถาม

“สัญญา...ชั้นจะเป็นเพื่อนกับเธอนะ เฟริด้า” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างใจดีที่ไม่เห็นเฟริด้าร้องไห้อีก

“เธอใจดีที่สุดเลย...เธอเป็นเพื่อนที่เป็นมนุษย์คนแรกของฉัน ฉันจะให้ หวีนางเงือก ให้เธอ” เฟริด้าพูดพลางล้วงเข้าไปในเสื้อคลุมและหยิบ หวีสีเขียวอมฟ้า ที่ด้ามจับหวีมีเกล็ดหางนางเงือกติดประดับอยู่รอบ ๆ ทำให้หวีมีความสวยงามเป็นอย่างมาก

“เธอให้ชั้น จริง ๆ หรอ เฟริด้า” เฮอร์ไมโอนี่ถามแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“ใช่...ฉันมีอีกเยอะแยะเลย...แล้วอันนี้ฉันให้เธอ หวีอันเนี้ยฉันได้มาจากคุณป้าที่เป็นญาติทางแม่ของฉัน ท่านเป็นเงือกที่สวยมากเลย...” เฟริด้าพูดกับเฮอร์ไมโอนี่พร้อมกับยื่นหวีให้

“ขอบคุณนะ เฟริด้า....เราขึ้นไปเรียนกันเถอะ” เออร์ไมโอนี่ชวน

“อื้ม.....” เฟริด้าพูดพลางยิ้มกว้าง

เฟริด้าคิดว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ต้องอยู่คนเดียวตอนกลางวันอีกแล้ว เธอมีเพื่อนแล้วล่ะ...

<< --------------------------------------------------------------------------------------- >>

*ชาวเงือกสายพันธุ์ไซเรน(กรีซ) มักจะปรากฏอยู่ตามวรรณกรรมและภาพเขียนของมักเกิ้ล ในลักษณะของนางเงือกแสนสวยที่อาศัยอยู่แถบทะเลน้ำอุ่น

**เมอร์โรว์แห่งไอร์แลนด์จะไม่สวยงามเท่าไซเรน แต่จะมีความรักในเสียงดนตรีเหมือนไซเรนและเซลกี้

***เซลกี้แห่งสกอตแลนด์จะไม่สวยงามเท่าไซเรน แต่จะมีความรักในเสียงดนตรีเหมือนไซเรนและเมอร์โรว์


ตอนที่ 3 : Respiration of Love // เกล็ดที่หางของนางเงือก..

“เฮ้.....เฮอร์ไมโอนี่...เธอผูกมิตรกับ กรีมานี่ แล้วหรอ...” รอนกระซิบถามเฮอร์ไมโอนี่ขณะกำลังเสกให้หนูของเขาให้หายไปตามคำสั่งของศาสตราจารย์มักกอนนากัล

“รอน...เค้าชื่อ เฟริด้า ต่างหาก...อีกอย่างชั้นน่ะได้เป็นเพื่อนกับเฟริด้าแล้วด้วย” เฮอร์ไมโอนี่ตอบขณะเสกให้หนูของเธอหายไปทั้งตัว

“เยี่ยมมาก...มิสเกรนเจอร์ 10 คะแนน กริฟฟินดอร์” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ่ยชมเฮอร์ไมโอนี่

เมื่อจบชั่วโมงเรียนเฮอร์ไมโอนี่จึงลากเฟริด้ามาอยู่กับเธอ แฮร์รี่และรอนด้วย..แต่เนื่องจากเฮอร์ไมโอนี่อธิบายเรื่องของเฟริด้าให้เพื่อน 2 ฟังหมดแล้วจึงไม่ต้องอธิบายอะไรอีก

“หวัดดีเธอคือ แฮร์รี่ พอเตอร์ใช่มั้ย แล้วเธอก็คือ รอน วีสลีย์ สิใช่มั้ย เฮอร์ไมโอนี่เล่าเรื่องพวกเธอให้ชั้นฟังเยอะแยะเลยล่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เฟริด้าทักพลางยิ้มให้ทั้ง 2 คน

“อื้ม....” แฮร์รี่และ รอนตอบพร้อมกัน

“ฮึ...ยัยเลือดสีโคลน เจ้าพอตตี้ และเจ้าวีเซิ่ล..อ้อ ยัยครึ่งพันธุ์โสมมอีกคน สรบสูตรเลนสินะ ถอยไปซะ!!” เสียงยานครางดังขึ้นข้างหลังพวกเขาไม่ใช่ใครอื่น เดรโก มัลฟอย นั่นเอง..

“นาย...ระ – รู้” เฟริด้าพึมพำอย่างตกใจสุดขีด..ก่อนจะถอยหลังไปแล้ววิ่งออกไปทันที

“เฟริด้า!!....โธ่เอ๊ย!! พูดบ้าอะไรของนายไอ้โรคจิต...นายเที่ยวว่าคนอื่นแบบนี้ทำไมคนอย่างนายมันก็แค่ตัวเฟเร็ตเจ้าแห่งการกระโดดเท่านั่นแหละ!!” เฮอร์ไมโอนี่ต่อท้ายอย่างดุเดือดก่อนจะลากแฮร์รี่และรอน ที่ทำท่าเหมือนจะเข้าชกมัลฟอยซักเปรี้ยง!!

“ฝากไว้ก่อนเถอะ..ยัยเลือดสีโคลนโสโครก” มัลฟอยพึมพำอย่างกราดเกรี้ยว

******************** 2 ********************

“เฟริด้า...” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยทักเสียงค่อย

“เฮอร์ไมโอนี่.....ผู้ชายคนนั้นรู้ได้ยังไงว่าชั้นเป็น เอ่อ - - เป็นแบบที่เธอก็รู้น่ะ” เฟริด้าถามเสียงสั่น

“สงสัย...คงจะรู้มาจากสเนป” เด็กหญิงพึมพำ

“จริงหรอ...!!! เขาไม่น่า...จะบอกนักเรียนนี่..“ เฟริด้าพูดอย่างตกใจ

“แล้วหมอนั่นเป็นใคร...” เฟริด้าถามต่ออย่างมีโมโห

“เจ้าหมอนั่นน่ะชื่อ เดรโก มัลฟอย อยู่บ้านสลิธีริน เป็นศัตรูของพวกเราที่โรงเรียนน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่อธิบาย

“อ้อ....” เฟริด้าตอบก่อนจะยิ้มแบบชั่วร้ายโดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่ทันมอง

“ยิ้มอะไรหรอ เฟริด้า” เฮอร์ไมโอนี่ถามแปลกใจที่เห็นเธอยิ้ม

“อ๋อ...เอ้อ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร” เฟริด้าแก้ตัว

เมื่อเลิกเรียนเฮอร์ไมโอนี่จึงเดินมาขึ้นหอกริฟฟินดอร์กับเพื่อน ๆ เหมือนปรกติทุกวันเพื่อทำการบ้านที่แสนหฤโหดเป็นตั้ง ๆ จนทำให้การลงไปเล่นที่ทะเลสาบของเฟริด้ามีอันต้องชะงักไปเพราะถ้าเธอลงไปว่ายน้ำเล่นล่ะก็มีหวัง..เธอจะต้องโดนทำโทษทุกอาทิตย์เป็นแน่..เพราะไม่ได้ทำการบ้าน แถมตายังเป็นหมีแพนด้าอีกต่างหาก..

ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลาประมาณ 5 ทุ่มเฮอร์ไมโอนี่จะมาส่งเฟริด้าเพื่อกลายร่างเป็นเงือก..และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน เฮอร์ไมโอนี่เดินมาส่งเฟริด้าที่ทะเลสาบพร้อมกับดูต้นทางไปพร้อม ๆ กัน และเมื่อเฟริด้าลงไปว่ายน้ำ เฮอร์ไมโอนี่ก็จะใช้เวลานั้น ‘อ่านหนังสือและทบทวนบทเรียน’ ซึ่งเป็นเรื่องที่เฟริด้าไม่เข้าใจ เพราะอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะสอบ ว.พ.ร.ส ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่แก้ตัวว่า ‘ทบทวนตั้งแต่เนิ่น ๆ น่ะดีแล้ว’ แต่วันนี้ออกจะแปลกไปหน่อยเพราะเฟริด้าดำน้ำลงไปที่ก้นทะเลสาบและไปขอของบางอย่างจากชาวเงือกที่อยู่ก้นทะเลสาบ โดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้!!

“หวัดดี...ชั้นมีบางอย่างอยากให้พวกเธอช่วยหน่อย” เฟริด้าถามชาวเงือก

“มีอะไรให้พวกเราช่วยหรือ” ชาวเงือกถาม

“ก็....ขอแค่เกล็ดที่หางของแม่มดแนททานี่ แม่มดแห่งชาวเงือกน่ะ ขอแค่ 7 แผ่นเท่านั้นเอง...” เฟริด้าบอกกับพวกชาวเงือก

“แม่มดแห่งชาวเงือกใจดีให้พวกเราอยู่แล้ว...งั้น พรุ่งนี้เวลา 2 ทุ่มมาหาพวกเราที่ริมทะเลสาบนะ แล้วจะเอามาให้” ชาวเงือกหนึ่งในนั้นบอกกับเฟริด้า

“ขอบคุณนะ” เฟริด้าเอ่ยก่อนจะว่ายกลับขึ้นฝั่งพร้อมกับยิ้มกริ่มไปตลอดทางเข้าหอกริฟฟินดอร์ โดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจเลย..


ตอนที่ 4 : Respiration of Love // พี่ชายของเฟริด้า

“เฮ้...นกฮูกใครน่ะ มาตอนเที่ยง” แฮร์รี่ร้องอย่างแปลกใจ

“เอ๋...นั่นมัน ปาเปร่า!!” เฟริด้าพูดออกมาขณะเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ..ลงมองนกฮูกสีน้ำตาลแซมจุดสีขาวกำลังบินวนอยู่ตรงทะเลสาบโดยที่ไม่เห็นเธอ

“ปาเปร่า! ปาเปร่า!...ชั้นอยู่นี่!!” เฟริด้าร้องเรียกมัน...นกฮูกสาวโผบินตรงมาหาเฟริด้าทันที พร้อมกับยื่นจดหมายให้เฟริด้า

“ทำไมมันไม่บินมาหาเธอล่ะ” รอนถามอย่างแปลกใจ

“อ๋อ...ก็ มันชอบคิดว่าชั้นน่ะอยู่ใน น้ำ น่ะสิ” เฟริด้าตอบง่าย ๆ พลางแกะจดหมายออกขึ้นอ่าน..

“ห๋าาาา!!!!!” จู่ ๆ เฟริด้าก็ร้องออกมาขณะอ่านจดหมาย

“มีอะไร...” ทั้ง 3 ถามพร้อมกันทันที เฟริด้าจึงยื่นจดหมายให้ทั้ง 3 อ่าน..

“ก็..พี่ชายตัวดีของชั้นน่ะสิ พี่แอชตัน บอกว่าจะมาที่นี่ ที่ฮอกวอตส์น่ะ เขาบอกว่าจะมาสมัครงาน...” เฟริด้าพูดพลางพ่นลมออกจากจมูก

“แล้วไงล่ะ” แฮร์รี่ถาม

“ก็เพราะชั้นไม่อยากให้พี่ชั้นมา จุ้นจ้าน ที่นี่น่ะสิแฮร์รี่...พี่ชายน่ะนะ...จอมบ๊องเลยล่ะ แถมยังหวงไม่เข้าเรื่องอีกด้วย..เมื่อปีก่อนชั้นมีแฟนคนนึง..น่ะ แต่ชั้นไม่ได้บอกพี่ชั้นหรอกนะ เพราะว่าถ้าชั้นบอกไปละก็...โอย มีหวัง....“ เฟริด้าเล่าด้วยสีหน้าหนักใจ

“อ้าว....แล้วตอนนี้เธอยังเป็นแฟนกับนายคนนั้นอยู่รึเปล่า” แฮร์รี่ถาม

“โอย....ไม่หรอก ๆ พี่ชายชั้นจัดการนายนั่นไปเรียบร้อยหลังจากที่นายน่ะพยายามจะจูบชั้นน่ะ โดยที่ฉันไม่เต็มใจด้วยน่ะ” เฟริด้าพูดเรียบ ๆ

“ถึงตายเลยหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามท่าทีตกใจ

“ไม่หรอก ๆ เธอจะบ้ารึไง พี่แอชตันก็แค่สั่งสอนเล็กน้อยแค่นั้นเองน่ะ” เฟริด้าตอบพลางหัวเราะ

“เล็กน้อยยังไงหรอ” รอนถาม

“ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ...ชั้นก็ไม่เห็นหรอกนะตอนที่พี่ทำเค้าน่ะ.. เพียงแต่พี่ชั้นบอกน่ะ ว่าเล็กน้อย” เฟริด้าตอบง่าย ๆ

................................................................

“เออ....ใช่ เฟริด้า เธอยังไม่ได้เล่าให้พวกเราฟังเลย...ว่าเธอเป็นเงือกได้ยังไงน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่กระซิบถามเฟริด้าขณะเดินออกมาจากชั้นเรียน

“อ๋อ...งั้นออกมาข้างนอกซิ แล้วจะเล่าให้ฟัง” เฟริด้าตอบพลางยิ้ม ๆ

ทั้งหมดจึงพากันออกมาที่ทะเลสาบเพื่อให้เฟริด้าเล่าเรื่องของพวกเธอ

“อืม...เริ่มยังไงดีล่ะ” เฟริด้าพึมพำ

“ก็เริ่มแบบนี้สิ เธอน่ะเป็นเงือกได้ยังไง..” รอนออกความเห็น

“ก็...แม่ของชั้นเป็นเงือก แต่ไปรักกับพ่อของชั้น...ซึ่งพ่อของชั้นเป็นพ่อมด..และด้วยความรักทำให้แม่กับพ่อของชั้นได้แต่งงานกัน...แล้วท่านก็มีลูกซึ่งก็คือพี่ชายชั้น กับชั้นไง” เฟริด้าหยุดหายใจ

“แล้ว..ทีนี้พอชั้นกับพี่ชั้นอยากเป็นเงือกเมื่อไหร่..ก็แปลงร่างเอา แล้วก็ลงน้ำได้ แล้วพออยากเป็นมนุษย์ธรรม***็แปลงร่างกลับ แค่นี้เอง” เฟริด้าพูด

“เจ๋ง........” รอนพูดออกมา

“ดีจังเลย....” เฮอร์ไมโอนี่ครางออกมา

“ชั้นอยากเห็นเธอกลายเป็นนางเงือกบ้าง” แฮร์รี่บอกเฟริด้า เฟริด้าใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูก่อนจะพุดกลบเกลื่อนว่า “แต่เธอจะไม่อยากเป็นเงือกแน่นอน เพราะว่าหนึ่งนะ เธอจะโดนด่าว่าเป็น พวกครึ่งพันธุ์โสมม และไม่มีใครอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอแน่นอน เมื่อเธอโดนว่าว่า พวกครึ่งพันธุ์น่ะ..และข้อสองมีพ่อมดแม่มดบางกลุ่มพยายามล่าหางนางเงือกน่ะสิ” เฟริด้าตอบ

“มีด้วยหรอ....” เฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่ถามพร้อมกันอย่างแปลกใจ

“มีสิ....เยอะเลยด้วย..พวกนี้น่ะ บ้าเลือดชัดๆ” รอนตอบขรึม ๆ

“ช่าย....พ่อมดแม่มดพวกนี้ เกือบจะล่าหางของชั้นกับแอชตันไปแล้วล่ะ” เฟริด้าพูดพลางทำท่าสยอง

................................................................

วันนั้นเวลา 2 ทุ่ม เฟริด้าบอกแฮร์รี่ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ว่าเธออยากไปเดินเล่นที่ทะเลสาบหน่อยเดี๋ยวจะกลับ

“ไง...ได้มารึยัง” เฟริด้าถามชาวเงือกที่อยู่ริมฝั่งทะเลสาบ

“ได้มาแล้ว....นี่ไง” ชาวเงือกตัวที่อยู่ใกล้เธอมากที่สุดส่งขวดแก้วขวดเล็ก ๆ ที่มีเกล็ดแม่มดชาวเงือกอยู่ข้างในให้เธอ

“ขอบใจมากนะ....เออ....ฝากขอบคุณแม่มดแนททานี่ด้วยล่ะ” เฟริด้ากล่าวกับชาวเงือกทั้งหมด

“ไม่เป็นไร พวกเรายินดีช่วยเหลือ เต็มความสามารถถ้าเราช่วยได้“ ชาวเงือกร้องบอกเธอ

เฟริด้ายิ้มให้ชาวเงือกก่อนจะลุกขึ้นยืนและเก็บขวดเกล็ดแม่มดชาวเงือกใส่กระของเธอแล้วยิ้มกริ่มไปตลอดทางขึ้นหอกริฟฟินดอร์...


ตอนที่ 5 : Respiration of Love // นาฬิกาทรายต้องห้าม

“เฟริด้า...เขียนจดหมายถึงใครหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ถามเฟริด้าขณะง่วนอยู่กับการอ่านหนังสือ

“อ๋อ....พ่อมดแห่งท้องทะเลน่ะ” เฟริด้าเงยหน้าขึ้นตอบ

“เขียนไปทำไมหรอ...แล้วพ่อมดแห่งท้องทะเลนี่ใครกัน” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย

“ก็...ขออะไรนิด ๆ หน่อย ๆ จากพ่อมดแห่งท้องทะเล...อืมแล้วพ่อมดแห่งท้องทะเลก็คือคุณปู่ของชั้นน่ะ ท่านเป็นเพื่อนกับปู่ชั้น” เฟริด้าพูดราวกับท่องออกมา

“ขออะไรหรอ” เฮอร์ไมโอนี่ยังคงถามต่อไปอีก

“ความลับจ้ะ” เฟริด้าพูดแล้วยิ้มก่อนจะเดินลงไปที่ทะเลสาบเพื่อส่งฝากส่งจดหมายไปให้พ่อมดแห่งท้องทะเล

................................................................

“มีอะไรให้พวกเราช่วยอีกหรือ....” ชาวเงือกถามเฟริด้าเพราะเธอเรียกชาวเงือกขึ้นมาหาเธอ

“ก็...แค่ช่วยจดหมายน่ะ นกฮูกมันก็ไม่บินลงน้ำซะด้วย ชั้นก็เลยมาฝากพวกเธอส่งน่ะ ช่วยชั้นได้มั้ย” เฟริด้าพูดกับชาวเงือก

“อ๋อ...ได้ พรุ่งนี้พวกเราจะไปที่นั่นอยู่แล้ว ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราส่งให้” ชาวเงือกพูดอย่างใจดี ซึ่งปรกติชาวเงือกจะไม่ใจดีกับมนุษย์ (แต่เฟริด้าเป็นลูกครึ่งเงือกนี่)

“ขอบคุณพวกเธอครั้งนึงนะ...อืม แล้วรอคำตอบจากพ่อมดแห่งท้องทะเล ด้วยนะ ขอบคุณมากอีกครั้งจ๊ะ” เฟริด้าพูดพลางลุกขึ้นยืนและหมุนตัวกลับไปที่หอกริฟฟินดอร์

................................................................

“เธอไปไหนมาน่ะ...เฟริด้า” รอนถาม

“ไป..อืม.. ไปทะเลสาบมาน่ะ” เฟริด้าตอยค่อย ๆ

“ไปทำไมกันนะ” แฮร์รี่ถามอีก

“ไป.... - - เอ่อ ชั้นขอไม่บอกละกันนะ แล้วไปนอนเถอะ ไป ไป ไป” เฟริด้าเปลี่ยนเรื่องทันที แล้วไล่พวกเขาไปนอน

“อะไรกันนะ....ยัยนี่ เอ้อ...ไปก็ได้” แฮร์รี่ตอบงง งง

................................................................

“นี่....ตื่นไปแล้ว จะนอนไปถึงไหน” เฟริด้าร้องเรียกแฮร์รี่ ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังปลุกรอนอยู่

“เธอก็เหมือนกัน รอน! ตื่นซะทีสิ” เฮอร์ไมโอนี่ปลุกอย่างรำคาญใจ

“อะไรกันเนี่ย...” แฮร์รี่สลึมสลือถาม

“โอ๊ย...ชั้นง่วงนี่” รอนพึมพำอย่างหัวเสีย

“ไม่ตื่นใช่มั้ย..” เฟริด้าถามอย่างมีโมโห

“ดี....งั้นเราไปกันเถอะเฟริด้า ทิ้ง 2 คนนี่ นอนกันไป เราไปเรียนกันเถอะ สายแล้วด้วย” เฮอร์ไมโอนี่พูดต่อด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

“โอ๊ย.......ตื่นก็ได้เธอ 2 คนเนี่ย” แฮร์รี่พึมพำก่อนจะลุกขึ้นมา

“งั้น....ออกไปได้มั้ย เราจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้ากันซะที” รอนพูด

“ก็ได้!” เฟริด้าและเฮอร์ไมโอนี่โต้กลับพร้อมกันอย่างหัวเสียก่อนจะหมุนตัวและเดินออกไป

วันนี้แฮร์รี่ก็อารมณ์เสียกับอัมบริดจ์เหมือนเดิม..ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และเฟริด้าต่างพยายามเกลี้ยกล่อมแฮร์รี่ แต่ก็แฮร์รี่ก็เหมือนกับ ท่อนไม้ ที่ไม่ยอมฟังพวกเธอเอาซะเลย รอนก็คอยแต่นั่งเงียบ ซึ่งทั้ง เฮอร์ไมโอนี่และเฟริด้าต่างรู้ดีว่าการที่รอนไม่ออกความเห็นก็คงเพราะไม่ต้องการให้แฮร์รี่ตวาดและโมโหใส่เด็กชายอีก

และการเกลี้ยกล่อมแฮร์รี่ก็ดูเหมือนการยั่วโมโหใส่แฮร์รี่นั่นแหละ ไม่ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะเกลี้ยมกล่อมสักเท่าไร แฮร์รี่ก็ยิ่งโมโหมากขึ้นมากนั้น...

................................................................

“เฟริด้า! จะไปไหนหรอ” แฮร์รี่ถามขณะมองเห็นเฟริด้ากำลังปีนออกไปจากห้องนั่งเล่นรวมในตอนเย็น

“อ๋อ...ไปเอ่อ..อืม เอ้อ..ไปธุระน่ะ เดี๋ยวมานะ” เฟริด้าพูดอย่างรัวเร็วและปีนออกไปทันที

“ธุระ..” แฮร์รี่ทวนคำอย่างแปลกใจเพราะหมู่นี้เห็นเฟริด้ามีธุระเกือบทุกวัน จนแฮร์รี่แน่ใจว่าไม่มีแต่เพียงเขากับรอน ที่มีความลับเหมือนกัน

“เฮ้อ...เกือบไม่รอดแล้ว” เฟริด้าพึมพำขณะเดินตรงไปที่ทะเลสาบ

“ไง...พ่อมดแห่งท้องทะเลว่าอย่างไรบ้าง” เฟริด้าถามชาวเงือกอย่างตื่นเต้น

“อ๋อ..ท่านบอกมาให้ฝากห่อนี้มาให้เธอ แล้วก็บอกว่า ใช้ดี ๆ ด้วย เออ..แล้วยังบอกอีกว่าใส่นาฬิกาแก้คำสาปมาให้แล้วด้วย แล้ว นาฬิกาแก้คำสาปคืออะไรหรือ” ชาวเงือกพูดกับเธอพร้อมกับทำท่างุนงงกับ ‘นาฬิกาแก้คำสาป’

“ก็...เอ่อ..ไม่มีอะไรหรอก ไหนล่ะ” เฟริด้าถาม

“อยู่นี่...เอ้า” ชาวเงือกบอกกับเธอพร้อมกับส่งห่อของให้เฟริด้า

“ขอบคุณอีกครั้งนะ...ชั้นไปแล้วดีกว่า... ลาก่อนนะ” เฟริด้าพูดพร้อมกับยิ้มกว้างก่อนจะเดินอย่างรวดเร็วกลับไปที่หอกริฟฟินดอร์

................................................................

“เฮอร์ไมโอนี่ ชั้นไปนอนก่อนนะ” เฟริด้าบอกเฮอร์ไมโอนี่

“ทำไมวันนี้นอนเร็ว” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจ

“ก็...วันนี้ง่วงเร็วน่ะ ไปนอนก่อนนะ” เฟริด้ายิ้มกับเฮอร์ไมโอนี่ก่อนจะเดินขึ้นไปนอน

“ได้ซะที...” เฟริด้าคิดในใจ ขณะลงมือแกะห่อของสีน้ำตาล เธอแกะอย่างรวดเร็วและ...

‘นั่นล่ะ! ขวดนาฬิกาทรายต้องห้ามสีฟ้าน้ำทะเล 2 ขวดแน่ะ..ดีจังเลย ฮึ..มัลฟอยจะต้องเสียใจแน่ที่มายุ่งกับคนอย่างชั้น’ เธอคิดพร้อมกับยิ้มกริ่ม ‘อ้ะ..นาฬิกาแก้คำสาปนี่นา..‘ เฟริด้านึกในใจพลางหยิบนาฬิกาทรายแก้พิษสีแดงกลีบกุหลาบ 2 ขวดเท่ากับนาฬิกาทรายต้องห้าม...

“ฮึ...พรุ่งนี้ มัลฟอย จะต้องสำนึก” เฟริด้าคิดอย่างมุ่งร้ายก่อนจะล้มตัวลงนอน

ตอนที่ 6 : Respiration of Love // นาฬิกาทรายต้องห้าม 5-6

“นี่....เฟริด้า ตื่นได้แล้วนะ.. วันนี้น่ะวันเสาร์ ถึงมันจะเป็นวันหยุด แต่เธอก็ไม่ต้องตื่นสายหรอกนะ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามปลุกเฟริด้าด้วยการดึงแขนเฟริด้าสุดแรงจนเฟริด้าลุกขึ้นมา

“โอ๊ย....ก็ได้ ก็ได้...เธอจะลงไปก่อนก็ได้นะ..เดี๋ยวชั้นจะ จะ จะตามไป” เฟริด้าพูดพลางสลับหาว

“จริง ๆ เลย...” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำอย่างฉุน ๆ

“น่านะ...ลงไปก่อนเหอะ” เฟริด้าพูดอีก

“ก็ได้..งั้นชั้น รอนแล้วก็แฮร์รี่ ลงไปก่อนนะ ตามไปเร็วๆ ละ” เฮอร์ไมโอนี่ตกลง

“จ๊าาา...” เฟริด้าลากเสียงกวน ๆ

“ฮึ..” เฮอร์ไมโอนี่ส่งเสียงเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไป

เมื่อเฟริด้าแน่ใจว่าไม่มีใครเห็นเธอแล้ว เด็กหญิงค่อย ๆ หยิบนาฬิกาทรายขนาดเล็กออกมา เธอวางมันบนโต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบเกล็ดของแม่มดแนททานี่ออกมาวางไว้ข้างกัน..เฟริด้าล้วงไม้กายสิทธิ์ออกมา พึมพำคาถาสองสามคำ เกิดแสงเรืองเล็ก ๆ ที่รอบ ๆ ขวดเกล็ดแม่มดแนททานี่ เกล็ดทั้งหมดก็กลายเป็นผงฝุ่นเม็ดเล็ก ๆทันที.. เฟริด้ายิ้มกับตัวเองอย่างพอใจ ก่อนจะเปิดเกลียวหมุนเพื่อใส่เกล็ดนางเงือกที่กลายเป็นเม็ดเล็ก ๆ แล้ว เด็กหญิงค่อย ๆ บรรจงเทมันลงไป แล้วหมุนเกลียวปิด เธอเขย่าเบา ๆ พอให้เม็ดทรายและผงเกล็ดนางเงือกให้เข้ากันพอดี..แล้วเก็บมันใส่กระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวและเดินออกหอนอนไปสบทบกับพวกแฮร์รี่ที่รออยู่ที่ห้องโถงใหญ่

“แหม...กว่าจะลงมาได้” แฮร์รี่แขวะใส่เฟริด้าทันทีที่เห็นเธอเดินลงมา

“เชอะ...” เฟริด้าสะบัดหน้าหนีก่อนจะเดินลิ่วๆ นำพวกเขาไปที่โต๊ะอาหารกริฟฟินดอร์

“เออ..พอที กินกันเสร็จรึยัง แฮร์รี่“ รอนถาม

“อืมม์ เสร็จแล้ว” แฮร์รี่ตอบ

“งั้นไปเอ่อ - - ไปทดลองซ้อมควิชดิชกับชั้นหน่อยสิ คือนะนายก็รู้ ซ้อมเพื่อไว้น่ะ” รอนกระอักกระอ่วนถาม

“อ๋อ...ได้เลย” แฮร์รี่ตอบอย่างรื่นเริง พยายามไม่มองหน้าเฮอร์ไมโอนี่ที่มองทั้ง 2 อย่างตำหนิ เด็กหญิงเม้มปากก่อนจะหันไปพูดกับเฟริด้าด้วยความมั่นใจว่าเฟริด้าจะไปกับเธอ “เราไปทำการบ้านกันเถอะ”

“อะไรนะ...พรุ่งค่อยทำก็ได้มั้ง” เฟริด้าพูดอย่างไม่แน่ใจ

“จริง ๆ เลย...พวกเธอเนี่ย!!” เฮอร์ไมโอนี่ระเบิดใส่แฮร์รี่ รอน และเฟริด้าแล้วเดินปึงปังขึ้นบันไดห้องโถงไป

“งั้น...พวกเธอไปซ้อมเถอะ” เฟริด้าพูดกับแฮร์รี่และรอน

“แล้วเธอล่ะ” รอนถามบ้าง

“ก็...จะไปเดินเล่นแถว ๆ ทะเลสาบน่ะ” เฟริด้าตอบง่าย ๆ แล้วเดินมุ่งหน้าออกไปจากห้องโถงใหญ่ทันที

+*+*+* ที่ทะเลสาบ *+*+*+

เด็กหญิงหยิบขวดแก้วอันเล็กออกมานั่งดูพลางคิดว่าจะนำมันไปให้มัลฟอย กินได้อย่างไรตอนเย็นนี้ เฟริด้าคิดไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้สายลมที่พัดเอื่อย ๆ พัดผมสีน้ำตาลเข้มของเธอ บางทีลมที่พัดก็พัดเอาใบไม้มาติดผมของเธออีกด้วย..สร้างความรำคาญให้เด็กหญิงเป็นอย่างมาก

‘อ้อ...แกล้งทำเป็นหกใส่อาหารก็ได้นี่’ เฟริด้าคิดอย่างเฉียบแหลม พลางจินตนาการถึงเวลาที่มัลฟอยหลุดเข้าไปอยู่ในขวดนาฬิกาทรายของเธออย่างสนุกสนานโดยไม่คิดถึงเวลาเลย จนใกล้เวลาอาหารเย็น... เฟริด้าเก็บขวดไว้ในเสื้อคลุมแล้วเดินทอดน่องอย่างสบายใจกลับไปที่ปราสาท โดยไม่รู้เลยว่าเรื่องที่เธอทำมันจะทำให้เรื่องบางเรื่องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล...

................................................................

“อะไรกัน!! 5 โมงแล้วหรอ..เวลานี่ผ่านไปเร็วจริง ๆ” เฮอร์ไมโอนี่บ่นพึมพำขณะลุกยืนขึ้นจากกองหนังสือ แล้วก้าวยาว ๆ ออกไปจากห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์ แล้วปีนรูปสุภาพสตรีอ้วนออกไปหาเฟริด้า เธอออกจะแน่ใจว่า

เฟริด้าจะต้องอยู่ที่ทะเลสาบแน่นอน เพราะหมู่นี้เฟริด้ามักจะไปที่ทะเลสาบบ่อยมาก และส่วนมากที่เธอไปก็จะไม่มีเหตุผลเหมือนกันทุกครั้งไป...

เด็กหญิงเดินตรงไปที่ทะเลสาบทันที...

................................................................

“ดีจัง...ตอนนี้ยังไม่มีคนเลย ทางสะดวกแล้ว” เฟริด้าพึมพำแล้วล้วงขวดนาฬิกาทรายสีฟ้าน้ำทะเลออกมา

“เทที่ไหนดีนะ..” เฟริด้าพึมพำขณะเดินไปที่โต๊ะอาหาร เนื่องจากนักเรียนไม่ค่อยอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ เฟริด้าจึงแกล้งเดินไปที่โต๊ะสลิธีรินแล้วทำเป็นว่า ขวดนาฬิกาทรายของเธอตกแตกแถว ๆ น้ำฟักทองที่โต๊ะสริธีริน แล้วเททรายครึ่งค่อนขวดที่มีอยู่ในนาฬิกาทรายอย่างว่องไวทันที... แล้วรีบสาวเท้ากลับมาที่โต๊ะกริฟฟินดอร์อย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความรีบมันทำให้ เพล้ง!! ขวดนาฬิกาแก้วที่แตกละเอียดตกลงไปในซุปทันที เด็กหญิงตกใจเป็นที่สุด..เพราะมันเป็นโต๊ะอาหารกริฟฟินดอร์!! ทรายทั้งหมดที่เหลือละลายหายไปทันที!!

“เฮ้!! เฟริด้า เป็นอะไรไปน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจขณะเห็นสีหน้าของเฟริด้า เธอเดินมาที่ถ้วยซุปที่มีทรายต้องห้ามผสมอยู่ด้วยแล้วนั่งลงกำลังจะกินมัน!!!

“ไม่!!...เฮอร์ไมโอนี่ อย่ากินมัน” เฟริด้าร้องอย่างตกใจ

“ทำไมล่ะ?” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างแปลกใจ คิ้วของเธอขมวด

“ก็...อย่ากินมันนะ” เฟริด้าขอร้อง

“ทำไมล่ะ...อร่อยออกนะ” เฮอร์ไมโอนี่ตักซุปขึ้นมากินทันที

“เฮอร์ไมโอนี่!!!!!!“ เฟริด้าหวีดร้องออกมา

“ทำไมล่ะ...ชั้นไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนะ..” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างงุนงงกับท่าทางของเฟริด้า แล้วตักซุปขึ้นกินอีก.

“เฮอร์ไมโอนี่..ชั้น ชั้น ชั้นขอโทษ.....” เฟริด้าร้องออกมาขอบตามีน้ำตารื้อขึ้นมา

“ขอโทษอะไรกัน..” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างงุนงงเป็นที่สุด แล้วมองไปรอบ ๆ ห้องโถงใหญ่ แล้วสายตาของเธอก็ไปสะดุดที่มัลฟอยที่ทำท่าเหมือนจะหลับ จนแครบกับกอยล์ต้องมาหิ้วปีกเขาเดินลงคุกใต้ดินไปทันที เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะคิกคักแล้วชี้ให้เฟริด้าดู

“มันออกฤทธิ์แล้ว!!” เฟริด้าพูดอย่างตกใจสุดขีด แล้วมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาหวาดหวั่นเป็นที่สุด

“ทะ ทะ ทำไมวันนี้ชั้น ง่วงเร็วจังเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นมาแล้วฟุบหลับไปบนโต๊ะกริฟฟินดอร์ทันที

“เฮอร์ไมโอนี่!!!!!!!!!!!“ เฟริด้าหวีดร้องออกมาสุดเสียงแล้วล้มลงน้ำตาเริ่มไหลออกมาและสลบลงไปกองกับพื้นไปด้วยความตกใจที่เห็นเฮอร์ไมโอนี่ฟุบหลับไป!!!

เสียงของเฟริด้าหวีดร้องดังไปทั่วห้องโถงใหญ่ผู้คนจำนวนมากหันมามองเธอ และเห็นเธอลงล้มกับสลบไป ทำให้แฮร์รี่และรอน ที่เพิ่งเดินเข้ามาเห็นเฟริด้าและเฮอร์ไมโอนี่ ทั้งสองจึงช่วยกันประคองเฟริด้าและเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมา แฮร์รี่ที่ต้องอุ้มเฟริด้าลำบากที่สุด เพราะเฟริด้านอนค่ำอยู่ที่พื้นแฮร์รี่ต้องออกแรงยกเธอขึ้นจากพื้นและประคอง เฟริด้าไปที่ห้องพยาบาล ส่วนรอนเองก็ประคองเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไปบนหอกริฟฟินดอร์ โดยที่ไม่รู้สาเหตุที่เด็กหญิงทั้ง 2 เป็นแบบนี้แม้แต่นิดเดียว...


ตอนที่ 7 : Respiration of Love // การทดสอบของนาฬิกา


“โอ๊ย..ที่นี่ที่ไหน” เฮอร์ไมโอนี่ครางออกมาและค่อย ๆ ยกหนังตาที่หนักอึ้งของเธอเปิดขึ้นแล้วเริ่มมองไปรอบ ๆ ที่นี่เป็นป่านี่..แล้ว แล้ว เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เฮอร์ไมโอนี่คิดเท่าที่สมองที่มึนเวียนของเธอจะอำนวย แต่แล้วสายตาของเธอก็สะดุดกับสิ่ง ๆ หนึ่ง นูน ๆ เป็นก้อน ๆ เฮอร์ไมโอนี่รวบรวมพละกำลังที่มีทั้งในตัวเธอในตอนนี้ยกตัวเองขึ้นแล้วคลานช้า ๆ ไปที่ก้อนหินนั่น...เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นแตะเบา ๆ หมายว่าจะใช้พิงแล้วหลับได้ แต่น่าแปลกที่ก้อนหินนั้นนุ่มนิ่มชอบกล เฮอร์ไมโอนี่ชักมือกลับทันที เด็กหญิงเริ่มต้นคลานอีกครั้งไปรอบ ๆ ก้อนหิน เธอคิดอย่างแปลกใจว่า ‘ทำไม..ก้อนหินนี่ มีขนด้วย สีบลอนด์ ๆ ขาว ๆด้วยนะ’ แล้วเร็วเท่าความคิดเธอยกมือขึ้นอีกครั้งและลองสัมผัสมันดู “ อึ๋ย..” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาเพราะเธอคาดว่ามันน่าจะแข็งแต่ทำไมมันถึงลื่น ๆ ล่ะ...ทันใดนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็คิดได้ว่าไม่ควรจะยุ่งกับมันอีกแล้ว แล้วคลานกลับมาที่เดิมแล้วเกาะไม้เพื่อพยุงตัวเองให้ยืนขึ้น แต่ขามันเหมือนจะไม่ยอมรับน้ำหนักตัวของเธอเอาซะเลย..มันเอาแต่สั่นระริกทุกครั้งที่เด็กหญิงพยายามยืนขึ้น จนเฮอร์ไมโอนี่ท้อใจและลงไปนั่งพิงต้นไม้แทน เธอหลับตาลงราว ๆ 10 นาทีก็มีเสียงใครคนหนึ่งมาขัดจังหวะการนอนของเธอ ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจ

“ยัยเกรนเจอร์!!” มัลฟอยร้องด้วยความตกใจ

“มัลฟอย!!” เฮอร์ไมโอนี่ก็ร้องขึ้นด้วยความตกใจไม่แพ้กัน

“เธอมาที่นี่ได้ยังไง” เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยร้องถามขึ้นพร้อมกัน

“ไม่รู้!!” ทั้งสองตอบพร้อมกันอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่เม้มริมฝีปากแล้วก้มหน้ามองพื้นแววตาครุ่นคิด ส่วนมัลฟอยเองก็เบือนหน้าไปอีกทางด้วยความโมโหโทโสระคนงุนงง

“นั่น..นาฬิกาอะไรน่ะ” จู่ ๆ มัลฟอยก็ทำลายความเงียบขึ้นแล้วมองไปที่นาฬิกาทรายอันใหญ่

“เหมือนกับ..เวลาอะไรสักยัง” เฮอร์ไมโอนี่ตั้งข้อสังเกต ทันใดนั้นก็มีเสียงใครคนหนึ่งพูดขึ้นว่า...

“ยินดีต้อนรับสู่นาฬิกาทรายต้องห้าม..บัดนี้คุณได้มาอยู่ในนี้แล้วและจะไม่สามารถออกไปได้นอกจากจะจบบททดสอบ หรือมีคุณได้ทานยาแก้คำสาปไปแล้วเท่านั้น แต่ในขณะนี้ยังไม่มีใครช่วยคุณ คุณต้องผ่านบททดสอบให้ได้ก่อน..เวลาจะหมดลงเมื่อนาฬิกาทรายร่วงลงมาจนหมด อีก 2 นาทีจะเริ่มบททดสอบที่หนึ่ง จำไว้ว่าเวลาของพวกคุณมีไม่มาก..พยายามผ่านบททดสอบให้ทันเวลา มิฉะนั้นคุณจะเจอสิ่งที่ไม่คาดคิด..เอาล่ะบททดสอบที่หนึ่ง..ทดสอบความกลัว 3 2 1 เริ่ม!! ”

เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยมองหน้ากันด้วยสีหน้าตกใจเป็นอย่างมาก..เฮอร์ไมโอนี่เหมือนช็อคไปแล้ว ส่วนมัลฟอยเมื่อได้สติเขาก็หันมาตวาดเฮอร์ไมโอนี่ “ยายบื้อ! เธออยากเจอสิ่งที่เธอไม่คาดคิด รึไง”

“ไม่” เฮอร์ไมโอนี่ตอบทันควัน

“งั้นก็เดินเซ่!” มัลฟอยตวาดอีกครั้งแต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นนาฬิกาที่ทรายเริ่มร่วงลงมาแล้วเธอก็ถึงแทบช็อคเมื่อมันร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว..ทำเอาเธอตัวแข็งทื่อ ยืนเหมือนรากงอก จนมัลฟอยรำคาญลากเธอเดินไปตามทาง...

“โอ๊ย! ชั้นเจ็บนะมัลฟอย ปล่อยซะที!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาขณะโดนมัลฟอยลาก

“ ฮึ! จะบอกให้นะ ถ้าชั้นไม่กลัวตายไปพร้อมเธอล่ะก็ ชั้นไม่ลากเธอให้มือของชั้นเปรื้อนโคลน หรอก!” มัลฟอยหันมาต่อว่าเฮอร์ไมโอนี่ก่อนจะปล่อยเฮอร์ไมโอนี่อย่างแรง จนเฮอร์ไมโอนี่กระเดนไปโดนต้นไม้ เด็กหญิงน้ำตาคลอด้วยความเจ็บปวดและเสียใจ เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะโหดร้ายแบบนี้ เด็กหญิงรู้สึกเกลียดเขาขึ้นมาจับใจทันที

“เอ้า! เดินซิ” มัลฟอยเร่ง เฮอร์ไมโอนี่ลุกแล้วเดินตามเขาเงียบ ๆ มัลฟอยยังคงสถบด่าทอคนที่ทำให้เขาและเฮอร์ไมโอนี่มาอยู่ในที่แบบนี้

“กรี้ด!!!!” เสียงเฮอร์ไมโอนี่หวีดร้องเสียงดังแต่เนื่องจากมัลฟอยเดินเร็วและอีกทั้งเฮอร์ไมโอนี่พยายามเดินห่างเขาเพราะกลัว โคลน จะไปเปรื้อนของ บริสุทธิ์ อย่างเขา มัลฟอยจึงไม่ได้ยินเสียงของเธอหวีดร้องเลย..เด็กชายยังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่หายไปเสียแล้ว..

“นี่..ยัยเกรนเจอร์ ทำไมในป่าต้องห้ามไม่เห็นมีอะไรเลย” มัลฟอยพูดขึ้นทำลายความเงียบที่เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

“เธอมีปากมั้ย!” มัลฟอยตวาดที่ไม่ได้ยินเสียงเธอ เด็กชายหันหลังไปดูเฮอร์ไมโอนี่ แต่กลับไม่พบเลยแม้แต่เงา ของเฮอร์ไมโอนี่..มัลฟอยเริ่มใจเสีย แม้เขาจะยังไม่เจออะไร แต่มีเฮอร์ไมโอนี่มาด้วยมันก็ทำให้เขารู้สึกว่ามีเพื่อน แต่เมื่อเฮอร์ไมโอนี่หายไปแล้ว..ตอนนี้เขาก็ไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่เหลือแล้วจริง ๆ

“เฮ้! เกรนเจอร์ อย่าแกล้งชั้นแบบนี้ซิ” มัลฟอยเริ่มร้องเรียก ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่คิดว่าเฮอร์ไมโอนี่จะแกล้งหลบเขาเลยแม้แต่น้อย..แต่แล้วมัลฟอยก็ได้ยินเสียงกรอบ แกรบ ที่พุ่มไม้..เด็กชายเริ่มรู้สึกหวาดกลัว ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างเฮอร์ไมโอนี่ลุกยืนขึ้น..เธอยิ้มให้เขา ซึ่งตอนนี้ผงะถอยหลังไปแล้ว..เธอร้องเรียกเขาให้ตามเธอไป มัลฟอยซึ่งไม่ได้สังเกตุว่าเธอกำลังนำทางเขาไปที่ทะเลสาบที่อยู่ในป่า! เด็กชายเดินตามไปด้วยความสงสัยว่าเธอจะพาเขาไปที่ไหน...หลังจากเดินไปได้สักพักเธอก็พาเขามาหยุดอยู่ที่ริมทะเลสาบภายในป่า มัลฟอยแปลกใจที่อยู่ๆ เฮอร์ไมโอนี่ก็เดินน้ำไป พลางทำท่าให้เขาเดินลงไปด้วย มัลฟอยจึงเริ่มโมโหและตวาดเธอ “ ยัยโง่ มีสมองรึเปล่าเวลาจะหมดอยู่แล้ว! ยังจะมีหน้าลงไปเล่นน้ำ ยัยเลือดสีโคลน! ขึ้นมาเดี๋ยวนี้..!”

เฮอร์ไมโอนี่ยังคงมีถ้าทีแปลกใจ และเหยียดยิ้มแบบที่มัลฟอยไม่เคยเห็นมาก่อนมาก่อน ภาพที่เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเหมือนแสยะ มากกว่ายิ้ม..ทันใดนั้นก็มีเสียงม้าร้อง..แล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็กลายเป็นม้าที่ไม่มีขนแผงคอสักเส้น...มัลฟอยอ้าปากค้างกับภาพที่เห็น..เด็กชายผงะถอยหลังไปและสะดุดรากไม้ทำให้ล้มลง..แล้วจู่ ๆ ก็มีตัวเคลปี้อีก สองตัวยกร่างที่สลบไม่ได้สติของเฮอร์ไมโอนี่ตัวจริงขึ้นมาจากน้ำ..ผมที่เคยฟองฟูบัดนี้กลับลีบและลู่ลงเนื่องจากเปียกน้ำ..มัลฟอยมองด้วยความตกใจอย่างยิ่ง แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ “ สตูเปฟาย!” ลำแสงสีแดง 2 ลำพุ่งไปที่ตัวเคลปี้ที่ยกร่างเฮอร์ไมโอนี่อยู่ทันที มันปล่อยเฮอร์ไมโอนี่ลงและหายไปทันที มัลฟอยร่ายคาถายึดแน่นไปที่ตัวเคลปี้ที่อยู่ริมทะเลสาบ มันแผดเสียงลั่นก่อนจะสงบลง มัลฟอยเสกบังเxxxยนออกมาแล้วคล้องเข้าที่รอบคอของของตัวเคลปี้ทันที มันยืนสงบนิ่งเหมือนรอให้เขาไปขี่มัน..มัลฟอยไม่รอช้าเมื่อเห็นร่างเฮอร์ไมโอนี่กำลังจะจมลงเขากระโดดขี่ตัวเคลปี้ทันทีแล้วบังคับมันให้ลงน้ำไปช่วยเฮอร์ไมโอนี่..เด็กชายยื่นมือออกไปคว้าเอวของเฮอร์ไมโอนี่แล้วชักบังเxxxยนที่ตัวเคลปี้มันหันหลังหลับมุ่งหน้าสู่ฝั่งทันที..มัลฟอยปล่อยเฮอร์ไมโอนี่ลงกับพื้นพลางหอบแฮ่ก..เขาหันหน้ามาดูเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังสลบอยู่...เธอนอนนิ่ง ริมฝีปากซีดเชียว ผมลีบลงและเปียกโชก..มัลฟอยจ้องเธอเนิ่นนานจนไม่ได้สังเกตุว่านานเท่าไร..แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าถ้าเฮอร์ไมโอนี่เป็นเช่นนี้ทั้งเขา และเฮอร์ไมโอนี่เองก็จะต้องตายในนาฬิกาทรายบ้าบอนี้แน่!!


ตอนที่ 8 : Respiration of Love // ความสัมพันธ์เริ่มก่อตัว

“เกรนเจอร์..เกรนเจอร์ ตื่นสิ ตื่น...ถ้าเธอตายชั้นจะทำยังไงล่ะ..จะออกได้รึเปล่าก็ไม่รู้..ตื่นสิ ตื่น ตื่นซะทียัยหัวฟู” มัลฟอยร้องเรียกเฮอร์ไมโอนี่

“ตื่นซิ! เฮ้..อย่างแกล้งตายน่า..” มัลฟอยเริ่มใจหวิว ๆ เพราะเขาเพิ่งมือมือไปแตะที่จมูกของเธอ มันแผ่วเบาจนเกือยจะไม่หายใจอยู่แล้ว..

“ทำไงดีล่ะ...ทำไงดี” มัลฟอยพึมพำด้วยความหนักใจและกังวล

“ผายปอด ใช่แล้ว! แต่ให้ผายให้ยัยนี่ เนี่ยนะ..” มัลฟอยคิดแล้วยกมือขึ้นกุมขมับ

“ วิธีอื่นไม่มีรึไงนะ..คิดสิ คิด” มัลฟอยพึมพำอย่างหัวเสียที่ต้องผายปอดเฮอร์ไมโอนี่ เขาหันกลับมามองเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง...แล้วก็ตัดสินใจ “เอาก็เอา..เฮ้อ!” มัลฟอยทำใจ แล้วเขยิบไปใกล้ ๆ เฮอร์ไมโอนี่ เด็กชายมองหน้าเฮอร์ไมโอนี่อย่างชั่งใจ เขาค่อย ๆ ก้มหน้าลง มือกำลังเอื้อมไปจับปากเฮอร์ไมโอนี่ แต่ไม่ทันไร..โป๊ก!!!

“โอ๊ยยยยย....” ทั้งสองร้องพร้อมกัน มัลฟอยคลำศรีษะป้อย ๆ ด้วยความเจ็บ ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ก็ลูบศรีษะที่ปูด..ด้วยความเจ็บและโกรธเคือง

“นาย! คิดจะทำอะไรชั้นน่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่ตวาดด้วยความโมโห

“ก็เมื่อกี้ชั้นเห็นจะไม่หายใจอยู่แล้วนะ! เฮอะ! ใครอยากทำเธอไม่ทราบ..” มัลฟอยเถียงเสียงดูแคลน

“ก็ชั้นหายใจเข้าอยู่น่ะสิ! ก็...ก็..ก็เมื่อกี้นาย...นาย....ก้มลงมา จะทำ...ทำ....อะไรชั้นล่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่หน้าเป็นสีชมพู ยังตวาดเขาต่อ..แต่มือก็ยังลูบศรีษะที่ปวดระบมตุบๆ

“จะ – จริงหรอ...ชั้น...ชั้นกำลังช่วยเธอให้รอดตาย ทำไมไม่ขอบคุณกันบ้างล่ะ” มัลฟอยยังคงเถียงต่อไปแม้ว่าเขาหน้าแตกก็เถอะ...จะ ใบหน้าของเด็กชายก็เกิดริ้วสีชมพู ๆ ขึ้นแต่มันก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณ! จะให้ชั้นขอบคุณนาย...อีก 10 ชาติก็ไม่มีวัน!” เฮอร์ไมโอนี่ทำเสียงดูภูก

“แล้วชั้นจะคอยดู...ในป่าแบบนี้ 2 คนซะด้วย..” มัลฟอยพูดพลางแสยะยิ้ม

“นาย....โรคจิตที่สุด!” เฮอร์ไมโอนี่สถบออกมาแล้วยันตัวลุกขึ้นยืน เด็กหญิงสบัดหน้าใส่มัลฟอยแล้วเดินต่อไปทันที

“เฮ้! เกรนเจอร์ ระวังนะ ข้างหน้าจะมีอะไรบ้างก็ไม่รู้..” มัลฟอยขู่ขณะเดินตามมา เฮอร์ไมโอนี่หันขวับมามองเขาทันทีก่อนจะพูดว่า “ชั้นว่านายจะยังอันตรายกว่าสัตว์บางตัวซะอีก!” เธอเน้นคำว่าสัตว์อย่างจงใจ

“ปากดีจริงนะ!” มัลฟอยพูดเสียงขู่แล้วผลักเฮอร์ไมโอนี่ติดต้นไม้ทันที มือของเด็กชายกำกายสิทธิ์จอที่คอหอยของเฮอร์ไมโอนี่ โดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถทำอะไรด้วยเลยเพราะไม้กายสิทธิ์ของเธอหายไปตั้งแต่ตอนที่โดนตัวเคลปี้จับลงน้ำ!..เธอจ้องไม้กายสิทธิ์ของมัลฟอยอย่างหวาดกลัว...ดวงตาที่เคยเป็นสีซีดของมัลฟอยบัดนี้มันลุกโชนด้วยความโกรธ..

“เธอ..เธอทำแบบนี้ไม่ได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างลำบากเพราะบัดนี้มือของมัลฟอยเลื่อนมารวบจับคอของเธอราวกับจะบีบให้ตาย

“ทำไมชั้นจะทำไม่ได้!” มัลฟอยตะคอกเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนนิ่งด้วยความกลัว

“เธอ...เธอฆ่าชั้นไม่ได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาน้ำตาเริ่มปริ่มอยู่ที่ขอบตา

“ทำไมชั้ - - อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!” มัลฟอยร้องเสียงดังลั่นเพราะมีมือล่องหนที่มองไม่เห็นขนาดใหญ่คว้าตัวเขาขึ้นไปบนฟ้า เด็กชายดิ้นรนที่จะลงมา เขาทั้งเตะ ทั้งต่อย ทั้งดิ้น แต่มือนั้นกลับรัดแน่นขึ้นและมีพลังมหาศาลทำให้เด็กชายแทบกระดิกตัวไม่ได้..”คุณจะมาฆ่าใครให้ตายภายในนาฬิกานี้ไม่ได้..มันเป็นกฏอย่างหนึ่งของที่นี่..ถ้าคุณไม่อยากตายอย่างทรมาน และกรุณาอย่าทำร้ายสุภาพสตรี!” เสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาดังกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณนั้น แล้วมือนั้นก็ปล่อยมัลฟอยร่วงลงมาจากข้างบนด้วยความสูงถึง 20 เมตร..พลั่ก!!

“อ๊ากกกกกก....” มัลฟอยร้องลั่น เฮอร์ไมโอนี่หวีดร้องด้วยความตกใจแล้วรีบวิ่งไปดูอาการมัลฟอยที่ร้องโอดโอยอย่างน่าสงสาร..เธอค่อย ๆ ประคองเด็กชายขึ้นมา ขอบตาร้องผ่าวเธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาต่อหน้ามัลฟอย

“มัลฟอย! ขาเธอ....” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา ขณะก้มลงมองขาของมัลฟอยที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

“เอาไม้กายสิทธิ์มาสิ..มัลฟอย!” เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดพลางคลำหาไม้กายสิทธิ์

“ไม่! เธอจะเอาไปทำไม” มัลฟอยพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวดเพราะขายิ่งมีเลือดออกมามากกว่าเก่า

“ทำแผลให้เธอน่ะสิ..เร็วเข้า” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงสั่นเคลือ น้ำตาเริ่มไหลรินออกมาจากดวงตาสีน้ำตาลกลมโตของเธอทำเอามัลฟอย เริ่มรู้สึกละอายใจที่ทำร้ายเธอเมื่อกี้! ทั้งๆ ที่เขาทำร้ายเธอ ทำไมเธอถึงต้องช่วยเขาด้วย..

เด็กชายส่งไม้กายสิทธิ์ให้เธอ เฮอร์ไมโอนี่รีบปาดน้ำตาอย่างรวดเร็วและหวังว่ามัลฟอยจะไม่เห็นเธอร้องไห้..เด็กหญิงคว้าไม้ไปแล้วเริ่มร่ายคาถาเสกผ้าพันแผลออกมาเธอค่อย ๆ บรรจงพันให้มัลฟอยที่ร้องโอดโอยไม่หยุด

“อยู่นิ่งๆ หน่อยได้มั้ย..แล้วหยุดแหกปากร้องได้แล้ว ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้นสักหน่อย” เฮอร์ไมโอนี่กำชับมัลฟอย

“เจ็บสิ...เธอลองตกลงมาแบบนั้นบ้าแล้วจะรู้สึก!” มัลฟอยย้อน

“โอ๊ย! ไม่หรอกถ้าชั้นตกลงมาแล้วใครจะมานั่งทำแผลให้ชั้น แบบเธอล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ตอบขณะพันผ้าที่ขามัลฟอยเธอพันไหร่เลือดก็ยิ่งซึมออกมาจนเธอคิดว่าคงจะพันแน่นเกินไปมันเลยยิ่งบีบเลือดออกมา เธอแก้มันออกแล้วเริ่มต้นพันใหม่

“ก็ชั้นไง!” มัลฟอยตอบแบบไม่ทันคิด เฮอร์ไมโอนี่หันมามองเขาทันทีใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู เธอรีบก้มหน้าก้มตาพันต่อทันที มัลฟอยเมื่อได้ยินว่าตัวเองพูดอะไรไปก็เกิดริ้วๆ สีชมพูเข้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของเด็กชาย

ทั้งคู่เงียบไป..ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกจน....”เอ้าเสร็จแล้ว...เดินต่อเถอะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางลุกขึ้นแล้วตั้งท่าจะเดินต่อ

“เดี๋ยวสิ..ชั้นลุกเองไม่ได้นะ เจ็บจะตาย ดึงชั้นหน่อยสิ” มัลฟอยพูดเสียงไม่พอใจแล้วยกมือให้ราวกับจะให้เฮอร์ไมโอนี่จับมือเขาแล้วดึงขึ้น

“เรื่องมากจริง” เฮอร์ไมโอนี่บ่นพึมพำขณะเอื้อมมือไปจับมือมัลฟอย ฉับพลันมัลฟอยออกแรงดึงตัวเฮอร์ไมโอนี่มาแล้วคว้าเอวเธอพลางลุกขึ้นเฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาหน้าเป็นสีแดงระเรื่อทันที ก่อนจะพูดด้วยเสียงไม่พอใจเอามาก ๆ “นายแค่ให้ชั้นดึงขึ้นมานี่...ปล่อยนะ!” เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นรน

“โอ๊ย! ชั้นเจ็บนะ..แค่ประคองชั้นหน่อย..จะตายรึไง” มัลฟอยพูดเสียงกวน ๆ แล้วรัดแน่นขึ้น

“ไม่!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างโมโหแล้วผลักมัลฟอยออกไป

“โอยยย..ชั้นคนเจ็บนะ แทนที่จะช่วย” มัลฟอยร้อง

“ฮึ..คนฉวยโอกาส!” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างมีอารมณ์แล้วเชิดใส่มัลฟอย จนมัลฟอยนึกขำกับท่าทีของเธอ..


ตอนที่ 9 : Respiration of Love // การช่วยเหลือ

“รอกันบ้างซิ! ชั้นป่วยนะเดินทางนานไม่ได้ เธอก็รู้” มัลฟอยอ้างออกมาเป็นรอบที่ 4

“เฮอะ! ชั้นเห็นนายอ้างแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ 2 ชั่วโมงก่อนที่ขาหักแล้วนะ..แล้วชั้นก็ไม่ใช่คนรับใช้ หรือองครักษ์ของนายที่ต้องมาถือไม้กายสิทธิ์แล้วเดินอยู่ใกล้ๆ พยายามระวังภัยให้คุณหนูนะ แล้ว...แล้วยังต้องมาประคองคนบ้า ๆ อย่างนายอีก!” เฮอร์ไมโอนี่ระเบิดออกมาอย่างมีโมโห แต่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

“เชอะ! แค่นี้ก็ช่วยคนเจ็บที่น่าสงสารยังชั้นก็ไม่ได้” มัลฟอยพูดแกล้งทำเสียงน้อยใจ

“โอ๊ย...อย่ามาแกล้งชั้นเลย..โกหกชัดๆ คนอย่างนายเนี่ยนะ น่าสงสาร..” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาแล้วตั้งต้นหัวเราะ

มัลฟอยทำหน้าบูดแล้วพูดว่า “ทำไมเกรนเจอร์...ชั้นขาหัก ตลกนักรึไง”

“ก็..ก็ มะ – ไม่หรอก นะ ตะ – แต่ นายละ - เล่นละครได้ไม่ กะ – เก่งเอาซะเลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วหัวเราะต่อ

มัลฟอยยิ่งโมโหมากขึ้นไปกว่าเดิมเด็กชายเดินหน้าไปโดยไม่รอเฮอร์ไมโอนี่สักนิด เฮอร์ไมโอนี่มองขาที่หักของมัลฟอยอย่างแปลกแล้วตะโกนถามเขา “เฮ้! มัลฟอย นายเจ็บขามากเลยไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเดินเร็วแบบนี้ล่ะ”

มัลฟอยหันกลับมามองเฮอร์ไมโอนี่อย่างตกใจ พอนึกได้เขาก็ร้องโอดโอยอีกครั้ง....

“โธ่เอ๊ย! ไม่ต้องมาหลอกชั้นแล้วนะ ชั้นไม่เชื่ออีกแล้ว โกหกชัดๆ หลอกใช้ชั้นนี่” เฮอร์ไมโอนี่ก้าวฉับๆ ไปที่เขา แล้วต่อว่าเด็กชายอย่างฉุนเฉียว

“ชั้นเจ็บจริงนะ..เกรนเจอร์ ชั้นก็เพิ่งจะรู้ว่าพวกมักเกิ้ลนี่ใจร้ายสุดๆ” มัลฟอยโต้กลับ

“เจ็บตรงไหน!” เฮอร์ไมโอนี่ย้อน

“เนี่ย...ดูสิ เมื่อกี้ชั้นโกรธจนลืมเจ็บ...(ตอนนี้หน้าของมัลฟอยมีรอยสีชมพูจางๆ) พอนึกขึ้นได้เลือดมันก็ไหลออกมาแบบนี้” มัลฟอยพูดแล้วชี้ไปที่ขาที่มีรอยเลือดซึมอยู่ทั่ว เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองอย่างตกใจรีบสั่งให้เขานั่งลงใต้ต้นไม้แถวนั้น แล้วแกะผ้าพันแผลอันเก่าที่เปรื้อนเลือดออกมาทันที...

ปากยังคงบ่นพึมพำว่า “นายนี่นะ..เหมือนเด็กจริงๆ เลย มีที่ไหนโกรธจนลืมเจ็บ ประสาท” ไม่ก็

“ทำไมชั้นต้องมาทำอะไรแบบนี้ให้นายด้วยนะ..น่ารำคาญที่สุด” และ “ทำไมมันยุ่งยากแบบนี้นะ...ทำเองก็ทำไม่ได้ นายนี่มันบ้าที่สุดเลย”

เฮอร์ไมโอนี่พันแผลแบบมั่วๆ จึงใช้เวลานานเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพันให้ใครเลย..เธอบ่นพึมพำจนมัลฟอยขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงด้วย จึงหลับไป..ไม่นานเฮอร์ไมโอนี่ก็พันเสร็จและเห็นเขาหลับไป..เธอเงยหน้ามองบนฟ้า ‘ฟ้ามืดแล้วสินะ..อ้ะ..นะ - -นอนกะไอ้หมอนี่‘ เฮอร์ไมโอนี่คิดแทบจะเอามือกุมขมับ..”นอนตรงไหนดีล่ะ..” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำออกมา

‘ที่แน่ๆ ต้องไกลจากมัลฟอยสุดๆ เลยด้วย’ เฮอร์ไมโอนี่คิดแล้วเดินไปที่ต้นไม้ตรงข้ามกับต้นที่มัลฟอยพิงหลับอยู่ เธอมัวแต่เขี่ยใบไม่มากองทับๆ กันให้นิ่มขึ้นมาบ้าง จนไม่ได้สังเกตุว่ามัลฟอยตื่นขึ้นมาแล้วเด็กชายนั่งมองเฮอร์ไมโอนี่จนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว...เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ลองกระโดดๆ ดูบนที่นอนชั่วคราวของเธอว่านิ่มหรือยัง (คราวนี้มัลฟอยถึงกับเอามืออุดปากกลั้นหัวเราะสุดชีวิต) เมื่อเธอคิดว่ามันนิ่มแล้วเธอจึงนอนลงไปและหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว...มัลฟอยมองเธออย่างเอ็นดู แล้วค่อยๆ เดินไปนอนข้างๆ เฮอร์ไมโอนี่...

...รุ่งเช้า...

“กรี้ด!!!! มัลฟอย!” เฮอร์ไมโอนี่หวีดร้องดังลั่นเพราะมัลฟอยดันมานอนอยู่ใกล้ๆ หรือเรียกได้ว่าติดกันทีเดียว...

“อะไรกัน.....เกรนเจอร์” มัลฟอยร้องถามขึ้นอย่างงัวเงีย

“นาย....นายมานอนตรงนี้ได้ยังไง! อีตาบ้า ไอ้โรคจิต ไป!! ไปไกลๆชั้น!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาพลางคว้ากิ่งไม้แถวนั้นระดมขว้างมันไปที่มัลฟอย ซึ่งบัดนี้นอนขุ้ดขู้ดอยู่...

“โอ๊ย!! ยัยบ้า ขว้างมาทำไม” มัลฟอยร้องออกมา

“ก็นาย....นาย...” เฮอร์ไมโอนี่ใบหน้าเป็นที่เข้มด้วยความอายและโกรธเคือง “มานอนตรงนี้ทำไมเล่า!” เธอต่อจนจบประโยคแล้วมองไปที่กระดุมที่เสื้อซึ่งถูกแกะจนหลุดออกมา...มัลฟอยมองตามเธอไปอย่างงุนงง เมื่อเห็นว่าเฮอร์ไมโอนี่กำลังมองกระดุมเสื้อที่หลุดของเขา เด็กชายก็เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ก็เมื่อคืน.....” มัลฟอยพูดพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย

“เมื่อคืนอะไร...” เฮอร์ไมโอนี่ตวาดลั่น

“เมื่อคืน...เธอน่ะ...เป็นคนเริ่มก่อนนะ” มัลฟอยพูดพลางยิ้มมุมปาก

“ไม่จริง...ไอ้บ้า ไอ้ปีศาจ” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมาอย่างโกรธจัด

“ไม่จริงได้ยังไง..ก็เมื่อคืนเธอน่ะ.....” มัลฟอยกำลังจะพูดต่อแต่เฮอร์ไมโอนี่ขัดขึ้นมาก่อน “หยุด!!!!!! หยุดพูดเดี๋ยวนี้” เธอยกมือขึ้นปิดใบหูราวกับไม่ต้องการฟัง ใบหน้าของเด็กหญิงมีน้ำตาอาบแก้ม...

มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างตกใจ...

“เกรนเจอร์...เธอคิดไปถึงไหนกันนะ...” มัลฟอยพูดอย่างอ่อนใจพลางก้าวไปหาเธอช้าๆ

“เฮ้อ...เอาล่ะ ชั้นไม่แกล้งเธอแล้ว..ไม่อีกแล้ว..โอเค เดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟัง เธอหยุดร้องไห้เถอะนะ” มัลฟอยพูดเสียงค่อย...เขาไม่ถนัดเรื่องปลอบใจใครนัก

เฮอร์ไมโอนี่ค่อยๆ ลดมือที่เธอใช้ปิดหูลงมา แล้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

“หยุดร้องแล้ว....ใช่มั้ย” มัลฟอยถามอย่างกังวล

“ฮื่อ...” เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าช้าๆ แต่ดวงตามีแววตาขุ่นเคือง

“เอาล่ะ...ฟังนะ เมื่อคืนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก...ชั้นแค่ไม่อยากให้เธอไปนอนไกลๆ ชั้นเพราะชั้นไม่รู้ว่าในนาฬิกาบ้าบอนี่มันมีอะไรบ้าง..ชั้นก็เลยไปนอนใกล้เธอเพื่อมีอะไรชั้นจะได้ช่วยเธอได้ทัน...ส่วนกระดุมน่ะ....” มัลฟอยเสริมขึ้นเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ยังมองกระดุมของเด็กชายไม่วางตา...”เธอเป็นคนเริ่มก่อน...ชั้นไม่อยากเชื่อเลย...ว่าเธอจะทำได้.....” มัลฟอยยังพูดไม่ทันจบเฮอร์ไมโอนี่ที่โกรธจัดก็ขว้างกิ่งไม้อันเบ้อเริ่ม

*+*+*+ ณ ห้องพยาบาลโรงเรียนฮอกวอตส์ +*+*+*

“อืม..มิสกรีมานี่ไม่เป็นอะไรมากหรอก....แค่ช็อคน่ะ” มาดามฟอมฟรีย์บอกกับแฮร์รี่และรอนที่มายืนดูด้วยความเป็นห่วง

“เอ่อ....แล้วตอนนี้ฟื้นรึยังฮะ” แฮร์รี่รีบถาม

“ยังหรอกจ๊ะ...ชั้นเพิ่งให้ทานยาเข้าไปพรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่นะจ๊ะ ตอนนี้กลับไปได้แล้วล่ะ” มาดามฟอมฟรีย์พูด

“ขอเราเยี่ยม - -“ รอนพูดแต่ถูกมาดามฟอมฟรีย์พูดตัดบทว่า “ไปได้แล้ว..มิสกรีมานี่ไม่เป็นอะไรมากก็จริง...แต่เธอต้องการพักผ่อนนะ” มาดามฟอมฟรีย์พูดจบก็โยนทั้งสองออกจากห้องพยาบาลแล้วปิดประตูใส่หน้าพวกเขาทันที...แฮร์รี่และรอนตัดสินใจเดินกลับหอกริฟฟินดอร์แทน..

เมื่อกลับถึงหอแฮร์รี่และรอนก็รีบพุ่งไปหาปาราวตีกับลาเดนเดอร์ที่ยืนคุยกันอย่างเคร่งเครียดกันอยู่ทันที..

“ปาราวตี...เฮอร์ไมโอนี่เป็นไงบ้าง” รอนรีบถาม

“เฮอร์ไมโอนี่นอนดิ้นไปดิ้นมาล่ะ...หวดซ้ายป่ายขวา แถมยังกรี้ดอะไรก็ไม่รู้ดังลั่นไปหมดเลย” ปาราวตีตอบสีหน้าหนักใจ

“ใช่...ชั้นว่าพาเฮอร์ไมโอนี่ไปห้องพยาบาลดีกว่านะ” ลาเดนเดอร์รีบพูด

“เออ...ได้ แต่เราขึ้นไปหอเธอไม่ได้หนิ” รอนตอบฉุนๆ

“ได้..เดี๋ยวเราไปพาเฮอร์ไมโอนี่มานะ” ปาราวตีพูดจบก็เดินเข้าหอไปพร้อมลาเวนเดอร์

ผ่านไปประมาณ 5 นาทีลาเวนเดอร์และปาราวตีก็เดินประคองเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังคงหลับสนิทอยู่ลงมา รอนกับแฮร์รี่รีบเข้าไปช่วยปาราวตีกับลาเวนเดอร์ทันที..



ตอนที่ 10 : Respiration of Love // การจากลา...

“อ้าว..มิสเตอร์พอตเตอร์ มิสเตอร์วีสลีย์ ชั้นบอกแล้วไง...ว่ามิสกรีมานี่ไม่เป็นอะไร..” มาดามฟอมฟรีย์พูดอย่างฉุนเฉียวเมื่อเห็นแฮร์รี่ และรอนมาที่ห้องพยาบาลอีกครั้ง..

“ไม่ใช่ฮะ...คือ...เฮอร์ไมโอนี่น่ะฮะ..เป็นอะไรก็ไม่รู้ เหงื่อออกเต็มตัวไปหมด..นอนกระสับกระส่าย แล้วยังกรี้ดอะไรไม่รู้ลั่นหอเลย..เอ้อ - - อาจารย์อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ...ปาราวตีบอกผมน่ะ” รอนรีบเสริมเมื่อมาดามฟอมฟรีย์เลิกคิ้วอย่างฉงน...

“อ้อ...งั้นเธอเธอเข้ามาเลย..” มาดามฟอมฟรีย์เรียกพลางกระวีกระวาดไปที่เตียงว่าง...ปาราวตีและลาเวนเดอร์ประคองกึ่งลากเฮอร์ไมโอนี่ที่นอนไม่รู้เรื่องมานอนที่เตียง...เมื่อปาราวตี และลาเวนวางเฮอร์ไมโอนี่ลงที่เตียง..มาดามฟอมฟรีย์ก็จัดการไล่ทั้ง 4 ออกจากห้องพยาบาลทันที...

เมื่อเดินแฮร์รี่กำลังจะก้าวออกไปจู่ๆ เฮอร์ไมโอนี่ก็หวีดร้องออกมาดังลั่น ทั้ง 4 ถลากลับไปที่เตียงเฮอร์ไมโอนี่ทันที..มาดามฟอมฟรีย์ดูเหมือนจะตกใจเอามากๆ กับอาการของเฮอร์ไมโอนี่...

ในจังหวะเดียวกันนั้นแต่...แครบกับกอยล์ก็หิ้วปีกมัลฟอยเข้ามาในห้องพยาบาล ด้วยสาเหตุเดียวกับเฮอร์ไมโอนี่ทำเอาทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นมีอาการแปลกใจระคนงุนงงเป็นที่สุด

เสียงหวีดร้องของเฮอร์ไมโอนี่ทำเอาเฟริด้าที่นอนอยู่ในมุมมืดของห้องพยาบาลผุดลุกขึ้นมาทันที...เธอมองไปรอบๆ เมื่อคิดได้แล้วว่าเสียงเมื่อกี้เป็นของเฮอร์ไมโอนี่และสายตาของเธอก็ตวัดแว๊บไปที่มัลฟอย เธอเข้าใจทันที เด็กหญิงก็ถลาออกไปห้องพยาบาลทันที...เด็กหญิงวิ่งกลับที่หอกริฟฟินดอร์โดยไม่สนใจสักนิดว่าเธอวิ่งชนฟิลช์ล้มหัวคะมำไปแล้ว...ฟิลช์สถบด่าทอเฟริด้าอย่างโกรธจัด

“อยู่ไหน...อยู่ไหนนะ!!” เฟริด้าควานหานาฬิกาทรายแก้คำสาปในลิ้นชักตู้ข้างเตียงอย่างร้อนรน..

“เจอแล้ว...เจอแล้ว!!” เฟริด้าคว้ามันขึ้นมาแล้ววิ่งกลับไปที่ห้องพยาบาลทันที..ระหว่างทางขณะที่ฟิลช์เพิ่งลุกขึ้นได้เฟริด้าก็วิ่งมาแล้วชนโครม!! ทำเอาฟิลช์ล้มหัวคะมำลงไปอีก คราวนี้ฟิลช์วิ่งไล่เฟริด้าอย่างโมโหสุดขีด..มือข้างหนึ่งถือไม้กวาดไล่ตีเฟริด้า...จนถึงชั้น 3 ฟิชล์หอบฮัก จากการไล่ตามเฟริด้า...เฟริด้าได้ยินเขาสถบด่าทอเธอ และสาบานว่าเขาจะทำโทษเฟริด้าอย่างหนักเลยทีเดียว!!

“มะ – มาดาม – ฟะ –ฟอมฟรีย์ คะ...แฮ่ก ๆๆ “ เฟริด้าพลางหอบแล้วก้มลงไปใช้มือยันเขา สีข้างเจ็บแปลบ

“เธอวิ่งไปไหนมา...มิสกรีมานี่ กลับมานอนที่เตียงเดี๋ยวนี้!” มาดามฟอมฟรีย์สั่งเสียงเฉียบ

“มะ – ไม่ใช่คะ – คือว่า..โอย...ขะ – ขอหนูให้ ฮะ – เฮอร์ไมโอนี่ กะ – กิน ไอ้นี่ ดะ – ด้วย นะคะ” เฟริด้าพูดต่ออย่างยากลำบากเพราะสีข้างมันเจ็บปวดจากการออกแรงวิ่งสุดขีด...พลางชูนาฬิกาแก้วแก้คำสาปออกมา

“กินอะไรกัน” มาดามฟอมฟรีย์ถาม เลิกคิ้วอย่างฉงน แต่เฟริด้าไม่รอคำตอบเธอลากสังขารที่อ่อนแรงไปที่เตียงของมัลฟอยเพราะอยู่ใกล้เธอมากที่สุดแล้วเททรายแก้พิษลงไปเสียครึ่งขวดในปากของมัลฟอย...แล้วลากสังขารเดินต่อไปที่เตียงเฮอร์ไมโอนี่แล้วเททรายที่เหลือลงไปในคอของเฮอร์ไมโอนี่...ท่ามกลางความแปลกใจของทุกคนกับอาการของเฟริด้า...

เมื่อเฟริด้าเทเสร็จเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยเล็กของเธอก็ดูเหมือนจะพลันหายไปหมดสิ้น เธอล้มลงหัวกระแทกกับขอบเตียงเฮอร์ไมโอนี่แล้วแน่นิ่งไป....

..................................................................................

“อีตาบ้า...ลามก!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องด่าเขาพลางวิ่งไล่ ในมือถือดุ้นมือขนาดมหึมา

“เฮ้ย! เกรนเจอร์ ทำอะไรน่ะ...จะฆ่าชั้นรึไง” มัลฟอยร้องอย่างมีโมโห

“ใช่...ชั้นจะฆ่านาย!” เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางฟาดไม้ตีเขา แต่มัลฟอยโชคดีกว่าหน่อยกลิ้งตัวหลบมาได้..

“เธอรู้เรื่องเมื่อคืนหรือไง....” มัลฟอยถามยิ้มเจ้าเลศ

“หมายความว่าไง....” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างมีอารมณ์

“ก็หมายความว่า.......” มัลฟอยยังไม่ทันพูดเฮอร์ไมโอนี่ก็ยกมือขึ้นเตรียมขว้างมือขนาดยักษ์ใส่มัลฟอย

แต่ไม่ทันทีเฮอร์ไมโอนี่จะได้ฆ่ามัลฟอย...มัลฟอยก็พูดขึ้นมา “นี่ถ้าชั้นไม่บอกเธอ...เธอก็ฆ่าชั้นใช่มั้ย”

“ใช่!” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงสั่นด้วยความโกรธ

“ก็เมื่อคืนมันร้อน...แค่นั้นเอง...คิดไปถึงไหนกันนะ เธอเนี่ย” มัลฟอยพูดออกมา ทำเอาเฮอร์ไมโอนี่ตาค้าง..

“อะไร...นะ นายไม่ได้ทำอะไรชั้นใช่มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่ร้องถามขึ้น สีหน้าดูมีความสุขมากขึ้น

“หรือเธออยากให้ทำ....ชั้นทำได้นะ...อยากลองมั้ยล่ะ” มัลฟอยถามพลางยิ้มมุมปาก

“นาย...!!” เฮอร์ไมโอนี่กำลังอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมจะฆ่ามัลฟอยได้อยู่แล้วแต่.......แผ่นดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง...เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองพื้นดินด้วยความหวาดกลัว..เด็กหญิงทิ้งไม้ทันที...เธอแทบจะวิ่งเข้าไปกอดมัลฟอย

“กะ - - เกิดอะไรขึ้น!” เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างตกใจ แผ่นดินสั่นแรงขึ้นอีก..คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่กอดมัลฟอยแน่น

“ไม่รู้...” มัลฟอยดูงง งงที่จู่ๆ เฮอร์ไมโอนี่ก็กอดเขา แต่เมื่อแผ่นดินสั่นขึ้นอีกมัลฟอยจึงกอดตอบเฮอร์ไมโอนี่ทันที...

ทันใดนั้นก็มีเสียง เสียงเดิมดังขึ้นแผ่นดินหยุดสั่น.. “มีผู้มาช่วยคนทั้งสองแล้ว...พวกคุณโชคดีไป...แต่หากคุณยังอยู่ที่นี่..บอกไว้ก่อนว่า...ด่านต่อไปคือ ด่านทดสอบความจริงใจ และด่านสุดท้าย...คือด่านทดสอบความรัก...” เมื่อพูดถึงตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยต่างแยกออกจากกันทันที...ใบหน้าของทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม...

”ด่านต่างๆ ขึ้นอยู่กับความคิดของกระผม บวกกีบจิตใจ ของพวกคุณ...หากคนอื่นเข้ามาด่านทดสอบทั้งสามก็จะเปลี่ยนไป...กระผมอยากจะให้พวกคุณ....จดจำประสบการ์ณอันมีค่าที่คุณแสวงหาได้ในนาฬิกานี้...ตลอดไปนะขอรับ”

สิ้นเสียง..มัลฟอยพำพัมอย่างโกรธๆ “ประการณ์เกือบตายเนี่ยนะ...จะให้ชั้นลืมลง!”

เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินก็ถึงกับเม้มปากเพื่อกลั้นหัวเราะ...

จู่ๆ แผ่นดินก็สั่นสะเทือนรุนแรงมากขึ้น...ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความตกใจ..แต่แล้วน้ำตาก็เริ่มไหลออกจาก

ดวงงตาสีน้ำตาลคู่โตของเธออย่างห้ามไม่อยู่...เธอปฏิเสธหัวใจไม่ได้..ว่าเธออยากอยู่ใกล้มัลฟอย...แต่เธอก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเธออยากกับมัลฟอยแบบนี้ไปอีกนานหรือเปล่า...

แม้แต่มัลฟอยเอง...ก็อดรู้สึกหดหู่ไม่ได้...เขาไม่สามารถบอกได้ว่านี่คือ ความรัก หรือความเกลียดชังกันแน่...

แต่แล้วแผ่นดินก็ยิ่งสั่นแรงขึ้นราวกับแผ่นดินจากแตกออกเป็นเสี่ยงๆ มัลฟอยคว้ามือเล็กๆ ของเฮอร์ไมโอนี่มาจับไว้แน่น...ทั้งสองรู้แล้ว่าถึงเวลาที่จะต้องกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงเสียที...เขาบีบมือเธอเบาๆ เป็นเชิงเรียก..เฮอร์ไมโอนี่หันหน้ามามองเขา... ตอนนี้ร่างของทั้งสองเลือนลางแล้ว...

“เธอสัญญากับชั้นได้มั้ย...เกรนเจอร์...ว่าเธอจะไม่บอกเรื่องนี้...กับเจ้าสองคนนั่น” มัลฟอยพูดออกมา

“ชั้นสัญญา....” เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงสั่นเคลือ..

“เอาล่ะ....ชั้น...ชั้นคิดสว่าเราใกล้ฟื้นแล้ว...เมื่อเราฟื้นขึ้นมา...เราก็จะเกลียดกันเหมือนเดิมใช่มั้ย” เฮอร์ไมโอนี่ถามค่อยๆ ตอนนี้ร่างของทั้งสองเลือนลางมากขึ้น

มัลฟอยปล่อยมือเธอและกล่าวว่า...“ใช่....เราจะเกลียดกัน...เหมือนเดิม!” มัลฟอยรับคำเสียงหนัก...แม้ในใจจะฝืนทนสักเท่าไหร่...ก็เด็กชายก็ต้องบังคับตัวเองให้พูดออกไป

ทันใดนั้นร่างของทั้งสองก็เลือนลางมากขึ้น...จนจะไม่เห็นกันอยู่แล้ว...ถึงตอนนี้...น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่เงียบๆ เธอก้มหน้าลง...เม้มริมฝีปากแน่น มัลฟอยสังเกตุเห็นน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่...เขาเบือนหน้าไปอีกทาง พยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้จับมือเพื่อปลอบใจเฮอร์ไมโอนี่...

“ลาก่อน....มัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยกับมัลฟอย เมื่อเห็นว่าร่างของเธอและมัลฟอยเหลือเพียงเส้นใยบางๆ ที่ก่อตัวเป็นร่างของเด็กทั้งสอง...

“ลาก่อน....ยัยเลือดสีโคลน” มัลฟอยกัดริมฝีปาก

แล้วร่างของทั้งคู่ก็หายวับไป...ทิ้งไว้แต่เพียงสายลมที่พาดผ่านอากาศเวิ้งว้าง...และหยาดน้ำตาของเฮอร์ไมโอนี่

ที่เคยเป็นอดีตของชายหญิงคู่หนึ่ง...ที่เคยหลุดมาในนาฬิกาทรายต้องห้าม...แห่งนี้...

นี่อาจเป็นชะตาที่ฟ้าลิขิต..ให้เฟริด้านำนาฬิกาทรายมาเป็นเครื่องมือถักทอความรู้สึก...ของมัลฟอย

และเฮอร์ไมโอนี่ที่เคยห่างไกลกันจนสุดสายตา...ให้มาเชื่อมต่อเป็นเส้นเดียวกัน...

The end

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น