วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

Dream Girl 8

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1


Chapter 8
เฮอร์ไมโอนี่เคาะประตูของคฤหาสน์มัลฟอย เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาผ่านไปนานเหลือเกินทั้งที่จริงๆแล้วผ่านไปเพียงสามวันเท่านั้นที่เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอพบว่าบิล วีสลีย์ และเหล่าผู้ทำลายคำสาปแช่งต่างๆ ทำงานร่วมกันอย่างหนักเพื่อค้นคว้าหาทางแก้ไขคำสาปที่แฮร์รี่ต้องพบเจอ

หลังจากหนึ่งวันเต็มๆของการค้นคว้า และการตรียมตัว พวกเขาก็พร้อมที่จะจัดการกับคำสาปแช่ง และ ยาถอนพิษ พวกเขารีบไปหาแฮร์รี่ที่นอนอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลเซนต์มังโก แฮร์รี่อยู่ในโรงพยาบาลสองวันก่อนหน้า ในที่สุดแผลเป็นได้เลือนหายไป และในตอนนี้แฮร์รี่ต้องอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล เพื่อที่ผู้รักษาจะสามารถป้องกันบาดแผลจากเลือดที่ไหลไม่หยุดได้ เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าแฮร์รี่คงจะตายอีกในไม่กี่วัน ถ้าสิ่งนี้ไม่ได้ผล

บิลลองเสกคาถาโต้กลับในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ และจินนี่ป้อนยาถอนพิษให้แฮร์รี่ การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นทันทีทันใดอย่างที่เธอคาดหวัง

พวกเขาจับตามองสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงใดๆก็ตามที่จะบ่งบอกถึงผลการรักษา ในที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ จินนี่ และบิลเผลอหลับไปบนเก้าอี้ข้างเตียงของแฮร์รี่

เช้านี้เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้นเพราะแสงอาทิตย์ที่ส่องสว่างผ่านหน้าต่างห้องในโรงพยาบาล เธอต้องตกใจที่ได้เห็นเพื่อนรักของเธอนั่งอยู่บนเตียงกำลังกินไส้กรอก และไข่ด้วยความหิว เธอกระโจนใส่เขา และถกเสื้อของเขาขึ้นเพื่อดูรอยแผลเป็นที่อยู่บนหน้าอก มันหายไปแล้วไม่เหลือแม้แต่รอยแผลเป็นทิ้งไว้ จินนี่ตื่นขึ้นมาในทันที และส่งสายตาให้เฮอร์ไมโอนี่ในแบบที่บอกว่า

เธอกำลังทำบ้าอะไรอยู่น่ะ

จนกระทั่งเธอรับรู้ได้ว่าแฮร์รี่ลุกขึ้นมานั่งด้วยตัวเอง พวกเขาทั้งหัวเราะ ร้องไห้ และ กอดแฮร์รี่จนเขาบ่นว่า เขาหายใจไม่ออก ไม่ช้าไม่นานผู้รักษาอาการประกาศว่าการรักษาประสบผลสำเร็จ และแฮร์รี่ไม่เป็นอะไรแล้ว เธอรู้สึกว่ามันคงจะดีกว่าที่จะทิ้งเขาไว้ในการดูแลของภรรยา

แฮร์รี่อ่อนแอจากคำสาปแช่งที่อยู่ในตัวเขามาอย่างยาวนาน แต่ด้วยเวลาและการพักผ่อนเขาจะหายดีอย่างแน่นอน

ความโล่งใจของเธอราวกับจะดึงทุกเศษเสี้ยวของพลังงานทั้งหมด ออกไปจากตัวเธอ อะดรีนาลีนในร่างกายที่เธอทำงานหนักมาตลอด 3 วันที่ผ่านมาหายไปจากเธอจนหมดสิ้น และสิ่งที่เธอต้องการทำ คือ การนอน

โดยไม่ทันได้คิด เธอพบว่าตัวเองอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอยอีกครั้ง ชั่วขณะก่อนหน้านี้ที่เธออยู่ในเขตหายตัวของเซนต์มังโก ทั้งหมดที่เธอคิดถึง คือ ความปลอดภัย บ้าน และ การนอนหลับ หลังจากที่เธอหายตัว เธอคาดว่าจะพบว่าตัวเองอยู่หน้าประตูห้องพักของเธอ แต่กลับพบว่าตัวเองอยู่ที่นี่ ที่คฤหาสน์มัลฟอยตอน 6 โมงเช้า นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่

เธอยิ้มและเคาะประตู ชังกี้ตอบพร้อมกับแสดงความเบิกบานใจแบบปกติ กับการปรากฏตัวของเฮอร์ไมโอนี่

ชังกี้นำเธอไปยังห้องพร้อมกับคำสัญญาว่าจะกลับมาพร้อมกับอาหารในไม่ช้า เฮอร์ไมโอนี่อาบน้ำ เปลี่ยนชุดเป็นกางเกงยีนต์แบบมักเกิ้ล และ เสื้อเชิร์ตสีน้ำตาล เธอไม่อาจคิดถึงอาหาร หรือ การนอนหลับได้ จนกว่าเธอจะได้เห็นคนๆหนึ่งที่เธอคิดถึงตลอดเวลาตั้งแต่ที่เธอออกจากบ้านหลังนี้

เธอเดินตรงไปยังประตูที่เชื่อมห้องของเธอกับเดรโก และเคาะสามครั้ง ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในห้อง ห้องมืดสลัว และเงียบสงัด เฮอร์ไมโอนี่มองไปยังเตียง เธอเห็นแต่ผ้าปูที่นอน และผ้าห่มที่กองกันยุ่ง แต่มันไร้เจ้าของ

เฮอร์ไมโอนี่ออกจากห้อง เดินหาเดรโกในแต่ละห้อง ในที่สุดสายตาของเธอก็เห็นผมสีทองเป็นประกายผ่านหน้าต่างห้องรับแขก เดรโกอยู่ที่นั่นในสวนกำลังนั่งบนม้านั่งหิน

โดยไม่ลังเล เฮอร์ไมโอนี่เดินไปยังที่ที่เขาอยู่ เธอรู้ว่าเขาต้องได้ยินเสียงของเธอที่กำลังเข้าใกล้ เสียงใบไม้ที่ร่วงหล่น และเสียงก้อนกรวดที่อยู่ใต้เท้าเมื่อเธอเดิน แต่เขายังคงไม่ขยับเขยื้อน เขายังคงนั่งกอดเข่าหันหลัง และมองตรงไปข้างหน้า

เมื่อเธอเกือบจะถึงตัวเขา เธอตั้งใจจะเข้าไปหาเขาโดยไม่ได้คิดว่าจะมองไปยังสิ่งที่เขาสนใจอยู่ ที่ตรงนั้น ในเงาของต้นไม้ต้นหนึ่ง คือ แผ่นจารึกหน้าหลุมศพหินอ่อนสีดำขนาดเล็ก ตัวหนังสือที่เคลือบด้วยทองอ่านได้ว่า นาร์ซิสซา มัลฟอย แม่ผู้เป็นที่รักของฉัน เฮอร์ไมโอนี่หยุดเดิน เธอรู้สึกแย่ที่จะก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวที่หลุมฝังศพแม่ของเขา ก่อนที่เธอจะหันกลับไป เขาพูดขึ้น

เธอกลับมา เขายังคงไม่หันมา

ใช่ ฉันขอโทษที่รบกวน ฉันไม่คิดว่าฉันจะรอนายอยู่ที่บ้าน เฮอร์ไมโอนี่พูด กำลังหันกลับไป

ไม่ อย่าไป เขาพูดค่อยๆหันไปมองเธอช้าๆ ดวงตาสีเทาของเขาเพ่งมองเธออย่างเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ และ มันทำให้เธอรู้ว่าเธอต้องการจะเห็นเขาพอๆกับที่เขาต้องการจะเห็นเธอ

สามวันที่ผ่านมาทำให้เธอเหน็ดเหนื่อยแต่เธอไม่อาจหลับได้ จนกว่าเธอจะได้มีโอกาสที่พูดคุยกับเดรโก เธอเห็นว่าเขาดูซีดขาวแค่ไหน และเป็นอีกครั้งที่มีรอยคล้ำใต้ตา เธอเดินมานั่งบนม้านั่งหินอ่อนสีดำข้างๆเขาเผชิญหน้ากับแผ่นจารึก

เธอมองไปยังอักษรสีทองที่อยู่บนแผ่นจารึก และไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เธอจับมือทั้งสองข้างของเขาไว้ ดึงมือที่ประสานกันไว้ วางลงบนตักของเธอ ในขณะที่เธอเอนหัวไปพาดที่ไหล่ของเขา

หลังจากหลายนาทีแห่งความเงียบที่อบอุ่นใจ เดรโกถอนหายใจยาว และ พูดขึ้น
เขาฆ่าเธอเฮอร์ไมโอนี่ยกหัวขึ้นออกจากไหล่ของเขา และมองหน้าเขา รอคอยอย่างอดทน ต่อสิ่งที่เขาอยากจะพูด

ฉันไม่เคยบอกใครถึงเรื่องนั้น ไม่เคยพูดมันมาก่อน มันเกิดขึ้นในคืนที่แฮร์รี่ฆ่าโวลเดอมอร์

ความทรงจำนั่น มันกำลังทำลายฉัน ฉันฝันถึงมันอีก ฝันถึงคืนนั้นในป่า และ ความตายของแม่คืนแล้ว คืนเล่า ฉันพยายามทุกอย่างที่จะหยุดมัน ยาที่ทำให้นอนหลับได้โดยไม่ฝัน, น้ำยาที่ทำให้หลับ, แอลกอฮอล์ ในที่สุดฉันก็พบว่าบางสิ่งได้ผล เขาหลับตาลง

เมื่อเธอ และบิล วีสลีย์ ปรากฏตัวในวันนั้นฉันคิดว่าพวกเธอมาเพื่อจับกุมฉัน เขาใช้มือลูบผมไปมาด้วยความปั่นป่วน จากนั้นถอนหายใจ ลดไหล่ลงด้วยความสิ้นหวัง

เดรโก อะไร? นายทำอะไร?

วันก่อนหน้าที่เธอจะมาถึงฉันใช้คาถา คาถาแห่งศาสตร์มืดเพื่อเก็บรวบรวมความทรงจำเหล่านั้น และ ใส่มันไว้ในขวดแก้ว เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างสงสัย ส่ายหัวในขณะที่เธอพูด
เดรโก คาถาแห่งศาสตร์มืดไม่จำเป็นต้องเก็บรวบรวมความทรงจำไว้ในขวดแก้วเพนซิพ

ไม่เพียงแค่เก็บเท่านั้นเฮอร์ไมโอนี่ คาถานี้เป็นเหมือนคาถาเปลี่ยนแปลงความทรงจำแต่แม่นยำมากกว่า ฉันดึงความทรงจำเหล่านั้นออกไปจากหัวของฉันคล้ายการใช้ท่อดูดน้ำยาบางอย่าง ฉันไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านั้นหลงเหลืออยู่เลยตั้งแต่ที่พวกมันถูกย้ายไปสู่ขวดแก้ว คาถาเคลื่อนย้ายความทรงจำ นำมันออกไปจากความทรงจำของฉันทั้งหมด

เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ยังคงดูสับสน เขาถอนหายใจด้วยความผิดหวัง และดึงถุงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาเปิดมันออก และส่งมันให้เธอ เมื่อเธอหยิบมันมามีเสียงกระทบกันของแก้ว ภายในมีขวดแก้ว 2 ใบซึ่งเก็บความทรงจำไว้ และมีกระดาษหนังแผ่นหนี่ง เธอหยิบกระดาษ และ อ่านมัน:


แม่ตายแล้ว พ่อทำร้ายแม่อย่างหนัก เธอตายเพราะอาการบาดเจ็บเมื่อฉันมาไม่ทันในวันรับตรามารของฉัน
พ่อตายแล้ว นายฆ่าเขาเพื่อแก่แค้นให้เธอ ขวดแก้วเหล่านี้บรรจุความทรงจำพวกนั้นไว้ ฉันใช้คาถาเดลีโอ เมโมรา เพื่อลบพวกมันออกไปจากความทรงจำของฉัน พวกมันหลอกหลอนฉันในฝัน และเวลานอนมานานกว่า 2 ปีแล้ว พวกมันทำให้ฉันต้องทนทุกข์ ฉันไม่อาจทนมันได้อีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่จะปลดปล่อยพวกมันและก้าวเดินต่อไป ถ้านายฉลาด นายจะไม่พยายามดูความทรงจำเหล่านี้ เพราะมันมีแต่จะทำให้ทุกข์ทรมาน โกรธแค้นและเจ็บปวด
เดรโก มัลฟอย

ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นเพื่อตัวเองจะได้อ่านหลังจากที่ได้ใช้คาถาไปแล้ว เมื่อคาถาได้ผล ฉันรู้แค่เพียงว่าฉันได้เขียนมันลงในเศษกระดาษ ฉันไม่มีความทรงจำพวกนั้นหลงเหลือ หรือไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งฉันไม่รับรู้ก็ยิ่งทำให้ฉันสบายใจ และมันเป็นสิ่งดีเพียงสิ่งเดียวในชีวิตของฉันที่ได้ใช้คาถาแห่งศาสตร์มืด

เมื่อเธอและวีสลีย์มาจากกระทรวง ฉันใช้คาถาในคืนก่อนหน้า ฉันคิดว่าบางทีกระทรวงอาจจะใส่ตัวติดตามค้นหาคาถาแห่งศาสตร์มืดในไม้กายสิทธิ์ของฉันหรืออะไรแบบนั้น

เมื่อเธอดูความทรงจำของฉัน มันกลายเป็นว่าความทรงจำที่เธอค้นหา คือความทรงจำที่ฉันเอาออกไป แล้วแต่ฉันไม่แน่ใจ เธอค้นหาความทรงจำที่เกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างพอตเตอร์กับโวลเดอมอร์ ไม่ใช่ความทรงจำระหว่างฉันกับพ่อ เมื่อเธอตรวจดูความทรงจำของฉันมันจึงไม่พบสิ่งใด และฉันคิดว่านั่นจึงเป็นไปได้ว่าสิ่งที่เธอต้องการเห็นคือความทรงจำที่ฉันเก็บไว้ ความทรงจำอันเดียวกับที่อยู่ในขวดแก้วนี้

สองถึงสามสัปดาห์ หลังจากที่เธอค้นหาความทรงจำได้ไม่สำเร็จ ฉันก็ไม่อาจปฏิเสธมันได้อีกต่อไป มันชัดเจนต่อฉันว่า ขวดแก้วเหล่านั้นต้องบรรจุสิ่งที่เธอกำลังมองหาอย่างแน่นอน

เดรโก เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างอ่อนโยน และทำให้เขาต้องประหลาดใจ

ทำไมนายต้องดูความทรงจำเหล่านั้นด้วย มันทำให้เจ็บปวด ทำไมนายไม่แค่ส่งมันให้ฉันดูเท่านั้นล่ะ? กรามของเดรโกยึดติดกันแน่น และดวงตาสีเงินมืดมัวจ้องมองไปหาเธอ

ฉันต้องดูความทรงจำพวกนั้นก่อน ฉันไม่อาจให้เธอดูโดยไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในบ้าง เฮอร์ไมโอนี่ มันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตของฉันที่ฉันไม่รู้ ฉันรู้ว่ากำลังหลบซ่อนจากตัวเอง ซ่อนจากอดีตของฉัน นับตั้งแต่ความทรงจำเหล่านั้นถูกย้ายออกไป ฉันยังคงฝันร้ายทุกคืน ฉันไม่รู้สึกดีมากนักหรอก เขาหยุด ทันใดนั้นเขาดูคล้ายผู้ชายที่ผ่านการเดินทางอันยาวนาน เหน็ดเหนื่อยแต่โล่งใจที่ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว

ฉันวางแผนที่จะให้ความทรงจำแก่เธอ แต่โชคก็ทำให้ความฝันเริ่มต้นอีกครั้งในคืนนั้น รอยยิ้มของเดรโกชิงชังและเย้ยหยันตัวเอง

สิ่งที่เธอเห็นในคืนนั้นเป็นเพียงแค่บางส่วนของทั้งหมด ความทรงจำที่แท้จริงมีรายละเอียดมากกว่านี้และฉันอยากจะให้เธอดูมันทั้งหมด ถ้าเธออยากที่จะดู

เฮอร์ไมโอนี่ผงกหัวโดยไม่ออกเสียงใดๆ เธอรู้ว่าเขาอยากที่จะเล่าให้เธอฟังมากๆ และยินดีที่จะรับฟังถ้ามันจะช่วยเขาได้แม้เพียงเล็กน้อย
ฉันจะต้องไปพบพ่อที่คฤหาสน์ เราทั้งคู่จะต้องหายตัวเข้าไปในป่า เพื่อร่วมพิธีรับตรามารที่ฉันจะต้องรับมัน เดรโกเงียบอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่คะยั้นคะยอให้เขาพูดต่อ และเขาก็เริ่มพูด

มู้ดดี้เป็นสายของฉันกับภาคี ฉันต้องบอกให้เขารู้ เมื่อฉันต้องไปรับตรามาร และทำให้พวกเขารู้ว่าโวลเดอมอร์และพวกผู้เสพความตายอยู่ที่ไหน แผนการคือ พวกเขาจะซุ่มโจมตีโวลเดอมอร์ก่อนที่เขาจะมอบตราให้แก่ฉัน ภาคีกลัวว่าทันทีที่ฉันได้ตรา โวลเดอมอร์จะสามารถอ่านความคิดของฉันได้ เพราะฉันไม่เชี่ยวชาญการสกัดใจเท่าสเนป

เขาหยุดพูด เงยหน้ามองท้องฟ้าอันสดใส

การพบกันของเราทั้งคู่ยาวนานทีเดียว มู้ดดี้อยากจะแน่ใจว่าเขาได้ข้อมูลที่ถูกต้องทุกอย่างแล้ว

เดรโกหยุดพูดอีกครั้งและครั้งนี้เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าเขากำลังต่อสู้กับการควบคุมความรู้สึกของตัวเอง เมื่อเขาพูด น้ำเสียงของเขาพร่ามัวเต็มไปด้วยอารมณ์

เมื่อฉันกลับไปถึงบ้าน ชังกี้ก็วิ่งมาหาฉัน และพูดบางอย่างที่น่ากลัว มันเกิดขึ้นกับแม่ เมื่อชังกี้นำฉันไปที่ห้องรับแขก แม่อยู่ที่นั่นบนพื้น มีบาดแผลและเลือดไหล เขาทำร้ายเธอและสาปเธอจนเกือบตาย เธอขอร้องฉันด้วยลมหายใจสุดท้ายไม่ให้ฉันรับตรา เธอพูดว่าเธออยากช่วยฉันให้พ้นจากชีวิตที่ถูกสาปของผู้เสพความตาย อยากให้ฉันเป็นอะไรที่ดีกว่า เป็นอะไรที่ขาวสะอาดและดี

ฉ-ฉันบอกกับแม่ว่า ฉันเป็นสมาชิกภาคี ฉันบอกเธอว่า...ฉันเริ่มอยู่กับภาคีตั้งแต่สงครามเริ่มต้น ฉันให้สัญญากับแม่ว่า ฉันจะไม่รับตรามาร และไม่เป็นผู้เสพความตาย ไม่เป็นเหมือนอย่างพ่อ จากนั้นฉันกอดแม่ไว้แน่นในอ้อมแขน ขณะที่เธอตายจากไป ฉันฝังแม่ไว้ที่นี่ในสวนที่เธอรักมาก

ชังกี้ บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้าที่ฉันจะมาเจอแม่ในสภาพแบบนั้น พ่อโกรธเมื่อฉันมาช้า แม่พูดเสียดสีเขา บอกเขาว่า ฉันหนีไปแล้ว แม่บอกเขาว่าฉันปฏิเสธไม่รับตรามาร และเธอส่งเสริมการตัดสินใจของฉัน ฉันคิดว่าแม่ถูกทรมาน และถูกขู่ให้ฉันรับตราในวันก่อนหน้านั้น เธอเหน็ดเหนื่อยต่อการถูกข่มเหง การสอดแนมตลอดทั้งชีวิตที่เป็นภรรยาของผู้เสพความตาย

แม่ไม่อาจสงบจิตใจได้ ที่คิดว่าฉันจะรับตรามาร ฉันคิดว่าแม่เต็มใจที่จะตายมากกว่าทนดูเห็นฉันเป็นผู้เสพความตายต่อจากพ่อ แม่คงคิดว่าการที่จะให้พ่อทำร้ายแม่ มันจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันขัดขืนไม่เข้ารับตรามาร และปฏิเสธมัน เดรโกก้มหน้าลง มือกุมศีรษะด้วยความเสียใจเงียบๆ

เฮอร์ไมโอนี่ยืนขึ้นตรงหน้าเขา แขนทั้งสองข้างของเธอโอบล้อมตัวเขาไว้ ประคองศีรษะของเขาโน้มเอนมาไว้ที่อกเพื่อปลอบใจ ในขณะที่น้ำตาของเขาไหลรินออกมาเงียบๆ เขากอดเธอไว้ รัดตัวเธอแน่นมาก

เมื่อฉันหายตัวไปในป่า โวลเดอมอร์ยังไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาพูดต่อใน 2-3 นาทีต่อมา

ลูเซียส ตรงมาหาฉันด้วยความโกรธ เขาคิดว่าฉันหนีไปแล้ว เขาพูดว่า ถ้าเขาบอกโวลเดอมอร์ว่า ฉันหนีไป และไม่ยอมรับตรา ชีวิตครอบครัวเราจะหมดสิ้น เดรโกพูดอย่างเยาะเย้ยถากถาง

เขาไม่รู้เลยว่าแม่ตายแล้ว ไม่รู้ว่าเธอตายเพราะความเจ็บปวดที่เขาฝากไว้ให้เธอ ฉันไม่ยอมให้เขาสมน้ำหน้าหรือสะใจไปมากกว่านี้ที่ได้รู้

ถึงแม้ว่ามือขวาของฉันจะเรียกร้องที่จะบีบคอเขาให้ตายในตอนนั้น แต่ฉันรู้ว่าภาคีวางแผนซุ่มโจมตี ฉันยังไม่อาจจะทำอะไรเขาได้ การที่ไม่ฆ่าเขาเลยในตอนนั้น มันเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่ฉันเคยทำในชีวิต หลังจากที่ฉันเพิ่งฝังศพแม่ ที่ตายด้วยน้ำมือของเขา

การมองดูวายร้ายที่เป็นฆาตกร และต้องขอโทษที่มาช้า ในขณะที่ร่างของแม่เพิ่งถูกฝัง นอนอยู่ในหลุมศพ มันเกือบจะฆ่าฉันได้เลย ฉันหาข้ออ้างที่ทำให้เขาสงบลง และรอการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น

เฮอร์ไมโอนี่จูบลงบนศีรษะของเขา รู้สึกถึงความเจ็บปวด ความโกรธ ที่ออกมาจากตัวเขา ราวกับว่าเหตุการณ์เหล่านี้เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวาน

เธอกอดเขาอีกครั้ง และปล่อยให้เขานั่งลงข้างๆเธอ เป็นอีกครั้งที่เธอจับมือเขาประสานไว้ด้วยมือทั้งสองข้างและวางลงบนตักของเธอ เขาบีบมือเธอแน่นในขณะที่พูดต่อ

โวลเดอมอร์มาถึงก่อนที่พ่อจะทันได้ลงโทษฉันที่มาช้า พิธีเริ่มต้นขึ้น แต่บางสิ่งผิดปกติ ภาคีน่าจะโจมตีก่อนที่โวลเดอมอร์จะมอบตรามารแก่ฉัน ฉันรอคอยการโจมตีที่จะเริ่มขึ้น แต่เมื่อนิ้วมือของโวลเดอมอร์แตะลงที่แขนของฉัน ฉันรู้ได้ทันทีว่ามันสายไปแล้ว และบางอย่างต้องผิดพลาด

ทั้งหมดที่ฉันคิดถึงคือแม่ เธอขอร้องไม่ให้ฉันรับตรามารและไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ฉันให้สัญญาก่อนที่แม่จะตายว่าฉันจะไม่รับมัน ฉันบอกแม่ไปว่าฉันจะไม่เป็นผู้เสพความตายแบบพ่อ เป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่

โดยไม่รู้ตัว ปลายนิ้วมือของเธอลูบไปบนแขนของเขาที่ซึ่งในตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่สังเกตเห็นถึงร่องรอยจางๆที่เคยมีตรามารอยู่ ในฉับพลันมือของเขาเคลื่อนที่ไปปกปิดท่อนแขน พยายามป้องกันการสัมผัสของเธอ

ไม่นะ เธอพูดเงียบๆ อย่าซ่อนมันเลย ให้ฉันดูได้ไหม ดวงตาของเธอเบิกกว้างและดวงตาสีช็อกโกแลตของเธอจับจ้องอยู่ที่เขา สีหน้าของเธอร้องขอให้เขาไว้ใจ เขามองเธออย่างลังเล จากนั้นถอนหายใจและผ่อนแขนลงบนตักของเธอ หงายฝ่ามือขึ้น

เธอเอียงหัวไปที่แขนของเขา เพื่อพินิจพิเคราะห์ดูสิ่งที่โวลเดอมอร์ทิ้งไว้บนผิวที่ราบเรียบของเดรโก

แขนของเขายังคงมีร่องรอยชัดเจน เนื้อเป็นรอยย่น และรอยนูน รอยแผลเป็นที่ไร้สีสันคล้ายการสักแบบไร้น้ำหมึก แต่ไม่เหมือนกับรอยสักของผู้เสพความตายคนอื่นๆ มันไม่อาจขยับหรือเคลื่อนที่ได้ ร่องรอยของรูปงูไม่เลื้อยหรือออกมาจากปากของหัวกระโหลกที่ไร้น้ำหมึกอีกต่อไป เขาถอยหนีเล็กน้อยเมื่อเธอแตะมันด้วยปลายนิ้วมือ

เกิดอะไรขึ้นกับมัน? เขาไม่ต้องการอธิบายในสิ่งที่เธอถาม

เมื่อ พอตเตอร์ ฆ่า โวลเดอมอร์ มัน...เผาไหม้ แย่กว่าตอนที่เขาให้มันกับฉันเสียอีก ฉันขยับตัวไม่ได้ ไม่อาจจดจ่อกับอะไร มีแต่ความเจ็บปวด เมื่อฉันยกแขนเสื้อขึ้นดู ฉันคิดว่าแขนของตัวเองจะติดไฟหรือเนื้อถูกฉีกออก มันเจ็บปวดมาก แต่กลับกลายเป็นว่าน้ำหมึกไหลขึ้นไปด้านบนสุดของผิวหนัง หยดออกจากตาคล้ายเหงื่อสีดำและสีเขียว มันไหลออกมาจนหมด ไม่หลงเหลืออะไรอีก และกลายเป็นเพียงแค่รอยแผลเป็นเท่านั้น

ไม่มีเวทมนตร์หรือคาถาใดที่จะรักษามันหรือเอามันออกไปได้ มันเป็นรอยแผลเป็นต้องคำสาป ฉันคิดว่าในที่สุดพอตเตอร์ และฉันต่างก็มีอะไรเหมือนกัน เขาพูดด้วยเสียงหัวเราะแบบถากถาง

โดยไม่คาดคิด เฮอร์ไมโอนี่ยกแขนของเขามาไว้ที่ปากของเธอ และจูบรอยแผลเป็นอย่างอ่อนโยน เดรโก กระตุกแขนออกจากปากของเธอ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอด้วยความตกใจกลัว

อย่า เฮอร์ไมโอนี่ มันเป็นเครื่องเตือนให้นึกถึงเขา ฉันแทบจะทนดูมันไม่ได้ ปล่อยมันไว้อย่างนั้นเถอะ

เดรโก ฉันรู้ว่านายคิดว่า รอยแผลเป็นนี้แสดงถึงทุกสิ่งที่นายเกลียด โวลเดอมอร์ ลูเซียส และวันที่แม่นายตาย และดูเหมือนนายจะคิดว่ามันหมายความว่านายเป็นผู้เสพความตาย นายไม่เข้าใจเหรอ? มันแสดงถึงความเข้มแข็งของนายด้วย

นายมีชีวิตอยู่รอดจากเหตุการณ์ทั้งหมด นายแก้แค้นให้กับการตายของแม่โดยให้คนพวกนั้นชดใช้ พวกนั้นตายในคืนเดียวกัน นายต่อสู้กับพวกเขา และนายยังคงมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ นายเอาชนะพวกเขาได้ เดรโก รอยแผลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ ตรานี้ไม่ได้ทำให้นายเป็นผู้เสพความตาย เพราะ นายไม่ต้องการที่จะเป็น นายต่อสู้ไม่ยอมรับมัน และการกระทำเช่นนั้นหมายถึงการทำลายโวลเดอมอร์

มันเป็นเรื่องที่ว่านายคือใครในตอนนี้และตลอดไป อย่าเกลียดมันเลย เดรโก มันเป็นเครื่องเตือนให้นายนึกถึงสิ่งที่นายยืนหยัด ถึงเวลาแล้วที่นายสมควรได้สิ่งที่นายควรได้รับ นายควรมีความสุข นายควรอยู่อย่างสงบเสียที

เดรโก มองเธอ และเฮอร์ไมโอนี่คิดว่า เธอเห็นได้ถึงความเข้าใจที่ฉายแสงในดวงตาของเขา เขามองไปยังรอยแผลเป็นจางๆ ที่เป็นรอยอยู่บนท่อนแขน และพินิจดูมันชั่วครู่ราวกับว่าเพิ่งมองเห็นและรู้สึกถึงมันเป็นครั้งแรก เขายิ้มให้เธอและเอนตัวจูบที่หน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน

ขอบคุณ เขากระซิบ

เกิดอะไรขึ้นเหรอ ฉันหมายถึง...หลังจากที่นายได้ตรา- ทำไมโวลเดอมอร์ ถึงโกรธเกี้ยวแทบจะในทันที เฮอร์ไมโอนี่ถาม

เอาล่ะ เธอก็รู้ว่า การสกัดใจ และการที่เราแบ่งความทรงจำเพื่อป้องกันการพินิจใจ ฉันได้เรียนกับ สเนปตั้งแต่ที่ฉันออกมาจากฮอกวอตส์ ฉันทำมันได้ แต่มันไม่เพียงพอที่จะปิดกั้นโวลเดอมอร์ หลังจากที่ฉันได้รับตราแล้ว

เซเวอร์รัสเคยบอกฉันว่า ตรามารทำให้โวลเดอมอร์ใช้ การพินิจใจกับเหล่าผู้เสพความตายของเขาได้ง่ายขึ้น เขาอธิบายว่า การป้องกันเพียงอย่างเดียวของเขาคือ เขาใช้การสกัดใจตลอดเวลาแม้กระทั่งเวลาหลับ ความคิดของเขาถูกแบ่งและถูกควบคุมอยู่ตลอด

ฉันนึกไม่ถึงจริงๆว่าจะได้รับตรา สายไปแล้ว ฉันรู้ว่าฉันต้องสงบตัวเอง เพื่อใช้การสกัดใจ ซ่อนความโกรธและความสับสนวุ่นวายในจิตใจ ไม่อย่างนั้นโวลเดอมอร์จะเห็นทุกอย่าง

ฉันพยายามทนต่อความเจ็บปวดที่เขาสร้างให้แก่ฉัน สิ่งสำคัญมากที่สุดสำหรับฉันในตอนนั้น คือจะต้องควบคุมความคิด เรื่องการที่ภาคีจะซุ่มโจมตีในงานพิธี เผื่อในกรณีที่พวกเขายังไม่มาและล่าช้า ในการโจมตีมันสำคัญที่จะซ่อนข้อมูลนั้นจากโวลเดอมอร์

ในไม่ช้า ฉันพยายามเก็บข้อมูลนั้น โวลเดอมอร์ก็มอบตรามารให้ฉันเสร็จสิ้นพอดี เขาใช้การพินิจใจเพื่อดูความคิดของฉันโดยเร็ว ทั้งหมดที่ฉันทำได้คือ การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการซุ่มโจมตีไว้ เขาเห็นทุกสิ่ง และรู้ในทันทีว่า เซเวอร์รัสและฉันทำงานให้กับภาคี เดรโกจับหัวของเขา ปั่นป่วนกับความทรงจำ

โวลเดอมอร์อยากให้ฉันละทิ้งพ่อทูนหัว และ ฆ่าสเนปซะ จากนั้นเขาจะฆ่าฉัน ฉันเกลียดเขาเกือบจะเท่าที่ฉันเกลียดพ่อ บางทีอาจจะมากกว่า โวลเดอมอร์แค่ต้องชดใช้ต่อความทนทรมานและความตายของแม่ เช่นเดียวกับพ่อ

ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะฆ่าเขา แต่ฉันหวังว่าภาคี และแฮร์รี่จะทำ ทันทีที่ฉันคิดว่า เขาจะฆ่าฉัน การต่อสู้ก็เริ่มขึ้น ฉันลืมความเกลียดชังในตัวพ่อ ทั้งหมดที่ฉันคิดได้ คือการพาเซเวอร์รัสหลบออกจาการต่อสู้ก่อนเพื่อให้เราทั้งสองฟื้นตัวจากความเจ็บปวดทรมาน หลังจากนั้นไม่นานพวกเราก็กลับมาเข้าร่วมการต่อสู่กับเหล่าภาคี

ในเวลาอันสั้น ผู้เสพความตายเหลืออยู่ไม่มาก ฉันยอมรับว่า ฉันตกตะลึงไปชั่วขณะที่ได้เห็นพอตเตอร์สู้กับโวลเดอมอร์ เขาน่าทึ่งจริงๆ และฉันก็หวังว่าจะได้เห็น พอตเตอร์ ฆ่าโวลเดอมอร์จริงๆ

เมื่อพ่อวิ่งเต็มฝีเท้า จากที่ไหนซักแห่ง และชี้ไม้กายสิทธิ์มาที่ด้านหลังของพอตเตอร์ ฉันตอบโต้โดยสัณชาติญาณ ช่างเป็นพ่อของฉันจริงๆที่พยายามโจมตีคนจากทางด้านหลัง ฉันไม่อาจปล่อยให้เขาฆ่าพอตเตอร์ได้ ฉันกระโดดขั้นกลางระหว่างพ่อกับพอตเตอร์โดยไม่ได้คิด สายตาที่ตกตะลึงบนใบหน้าของพ่อคือสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ฉันตกใจ ในขณะที่ฉันเสกคำสาปแช่งใส่เขา

ฉันไม่มีแม้แต่ความเสียใจ หรือการลังเลแม้แต่ครั้งเดียว ฉันไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ฉันทำ หรือเสียใจกับการตายของเขาจนถึงวันนี้ ฉันแค่ไม่อยากจะทนเห็นมันทุกๆคืนอีกต่อไป ฉันต้องก้าวเดินต่อไป มองเห็นแม่ตายทุกๆคืนในความฝัน มันกำลังฉีกฉันออกเป็นชิ้นๆ คล้ายกำลังสูญเสียเธอไปครั้งแล้วครั้งเล่า ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในความฝันของฉันราวกับว่าฉันอยู่ในเหตุการณ์นั้นทุกคืน

ฉันขอโทษ เฮอร์ไมโอนี่ ขอโทษที่ฉันปฏิเสธความทรงจำที่เธอค้นหา ขอโทษที่ฉันติดหนี้ พอตเตอร์ทั้งเวลา และความเจ็บปวด เหนือสิ่งอื่นใด ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกให้เธอรู้เกี่ยวกับความทรงจำให้เร็วกว่านี้

เดรโก ขอบคุณนะ ฉันเข้าใจในสิ่งที่นายทำ และฉันเข้าใจดีว่าทำไมแฮร์รี่ปลอดภัย พอๆกับที่ฉันเสียใจที่นายต้องเปิดขวดแก้วความทรงจำเหล่านั้นซ้ำอีกเขาส่วยหัว

ไม่ เฮอร์ไมโอนี่ มันดีแล้ว ฉันไม่อาจหนีอดีตของฉันได้ ฉันแค่ต้องเผชิญกับมันและผ่านมันไป เหมือนกับคนอื่นๆ ไม่มีการซ่อน ไม่มีอีกต่อไปแล้ว

เวลานี้ เดรโกยืนขึ้น ยื่นมือให้เธอ เขานำเธอออกไปจากสวนอย่างเงียบๆและเข้าสู่ตัวบ้าน เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องรับแขก เดรโกยืนด้วยความเหน็ดเหนื่อยตรงหน้าเตาผิง ใช้นิ้วลูบไล้ไปตามใต้ชั้นของเตาผิง

เฮอร์ไมโอนี่ เดรโกพูด มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ

ฉันดีใจที่เธอรู้ทุกอย่าง ฉันอยากให้เธอเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในป่าคืนนั้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมฉันจึงไม่ไปกระทรวงเพื่อร้องหาตำแหน่งฮีโร่ การจะถูกเรียกว่าเป็นฮีโร่ไม่ใช่เหตุผลจากสิ่งที่ฉันทำ

ฉันเพียงแค่ทำในสิ่งที่อาจจะชดเชยได้ สำหรับสิ่งผิดพลาดที่ฉันเคยทำในชีวิต เธอก็รู้สิ่งที่ฉันทำ...แบบที่ฮอกวอตส์ ฉันไม่ใช่ฮีโร่ และฉันไม่มีทางที่จะสมบูรณ์แบบ

เขาถอนหายใจในขณะที่เขาจ้องเธอ ดวงตาสีเทาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนแอประกอบกับความแน่วแน่ มันทำให้เธอตกใจที่เห็นสายตาเช่นนั้นปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา

3 วันที่ผ่านมานี้ เมื่อเธอจากไปมันทำให้ฉันทรมานใจมาก เขาส่งรอยยิ้มแบบไม่สมดุลนักให้เธอ ซึ่งทำให้หัวใจของเธอปวดร้าว

ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับตัวเอง ฉันกินไม่ได้ ฉันไม่มีสมาธิที่จะทำงาน เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะหยุดฉันตอนไหนก็ได้ถ้าเธอไม่ต้องการให้ฉันพูดในสิ่งที่ฉันอยากพูด

เขาเดินออกห่างจากเตาผิง เข้ามาใกล้จนกระทั่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขาวางนิ้วมือเรียวยาวใต้คางของเธอเพื่อเชยคางของเธอขึ้น ทำให้แน่ใจว่าเธอมองเขาอยู่

สิ่งที่ฉันจะพูดคือ ...ฉันต้องการเธอ

เขาจูบเธอหลังจากนั้น จูบเนิ่นนานซึ่งยั่วเย้า และทำให้ภายในตัวเธอรู้สึกเร่าร้อนไปหมด แขนทั้งสองข้างของเขาโอบล้อมเอวของเธอ ดึงเธอเข้าไปที่ตัวเขา

ฉันต้องการเธอ ให้เธอร่วมชีวิตกับฉัน เฮอร์ไมโอนี่ ฉันต้องการโอกาสระหว่างเรา อยากจะทำให้มันดีขึ้น แข็งแกร่งขึ้น บางทีอาจจะทำให้มันยาวนานไปตลอดกาล เขาเม้มริมฝีปากโดยไม่รู้ตัวและรอคอยคำตอบจากเธอ

หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่เต้นตุบๆในอก ดวงตาค้นหาความลึกซึ้งในดวงตาสีเทาชัดเจนของเขา เธอไม่เห็นสิ่งใดขวางกั้น ไม่เห็นความเย็นชา ไม่เห็นความหยอกล้อ เธอเห็นเขาในสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ เห็นผู้ชายคนหนึ่ง เห็นความแข็งแรงที่มีรอยร้าว เห็นมนุษย์คนหนึ่งที่เปราะบางแต่งดงามในเวลาเดียวกัน เธอวางมือไว้ที่แก้มของเขา รู้สึกได้ถึงความหยาบของหนวดเคราที่ยาวขึ้นใหม่ เธอไม่อาจเชื่อว่าชายคนนี้จะเปิดเผยและซื่อตรง เขาช่างเหลือเชื่อ ชายคนที่เป็นเหมือนเจ้าชาย ที่ยากเกินกว่าจะเข้าใจ ชายคนที่ทำเพื่อเธอ....

เขาพูดต่ออย่างตลกขบขัน ราวกับอ่านความคิดเธอออก

ใช่แล้ว ฉันอาจจะใจเย็น และไม่ได้บอกทั้งหมดกับเธอมาก่อน แต่เธออ่านความคิดฉันได้นิ ดังนั้นมันจึงดูโง่ที่จะทำให้ตัวเองยุ่งยากกับทั้งหมดนั่น เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะคิกคัก และเอนตัวหาเขา เหวี่ยงแขนล้อมรอบคอของเขาเพื่อกอดเขาแน่น

เดรโก ฉันไม่เคยพบใครแบบนายมาก่อนเลยในชีวิต นายพูดว่านายไม่ใช่ฮีโร่ แต่นายกล้าหาญเท่าๆกับฮีโร่ที่ฉันรู้จัก นายผ่านพ้นอะไรมามาก และยิ่งไปกว่านั้น นายผ่านมันมาตามลำพัง ฉันเห็นในสิ่งที่นายต้องฝ่าฟันในความทรงจำของนาย และฉันนับถือความแข็งแกร่งนั้น ฉันต้องการจะอยู่กับนายเช่นกัน ต้องการจะเห็นการลงเอยของเรา เธอสัมผัสแก้มของเขาอีกครั้งอย่างรักใคร่ และดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นหลอมละลายด้วยความต้องการ

เธอเอื้อมขึ้นไปจูบเขาอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากของเธอหล่อหลอมเข้ากับริมฝีปากของเขา สิ่งที่เธอเริ่มขึ้นอย่างอ่อนโยน เมื่อเวลาผ่านไปจูบของเขากลับกลายเป็นความเร่าร้อน และความต้องการที่มีมากขึ้น นิ้วมือของเขาชอนไชเข้าไปในเส้นผมดุจใยไหมของเธอ ปากของเขาลิ้มรส ทุกๆส่วนของเธออย่างกระหาย

นิ้วมือของเธอเกี่ยวพันผมของเขา และเธอร้องครางในขณะที่มือทั้งสองของเขาวนเวียนอยู่ด้านหน้าเสื้อของเธอ หลังของเธอแอ่นขึ้นอย่างตอบสนอง และสั่นเทิ้มไปทั้งตัว

เดรโกผละออกจากปากของเธอ หายใจแรง และเริ่มฝังร่องจูบอันเร่าร้อนลงบนลำคอขาวนวลเนียนของเธอ ลิ้นของเขาชอนไช และลิ้มรสผิวที่นุ่มนวลบริเวณคอของเธอ ชีพจรของเธอเต้นรุนแรงขึ้น เธอถูแก้มไปมากับเส้นผมนุ่มราวเส้นไหมของเขา ในขณะที่เขาสำรวจผิวบริเวณคอของเธอ มือของเขาอยู่ตรงหน้าอกของเธอ ยั่วเย้าอารมณ์ท่ามกลางเนื้อผ้า และชุดชั้นในของเธอ เวลานั้นเองที่เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอคงจะบ้าไปแล้ว เดรโกเลื่อนมือไปที่เอวของเธอ ผละตัวออกห่าง หน้าผากของเขาและเธอแนบชิดกัน เขาปิดตาลงและหายใจอย่างไม่สม่ำเสมอ เขาพูดว่า

เฮอร์ไมโอนี่ เราต้องหยุด เมอร์ลิน ฉันไม่เคยเสียใจที่ได้รับเกียรตินี้ในชีวิตของฉัน แต่เราต้องหยุด

เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มและเปลี่ยนตำแหน่งในขณะที่เธอโน้มตัวไปข้างหน้า จูบที่คอของเขาอย่างเย้ายวนใจ ความตื่นเต้นเล็กๆแล่นผ่านตัวเธอ เมื่อเธอได้ยินเสียงเสียงสูดลมหายใจที่รุนแรงของเขา

เฮอร์ไมโอนี่ เธอพยายามจะฆ่าฉันใช่ไหม? เขาพูดพ่นลมหายใจออกเสียงดัง แต่มือข้างหนึ่งของเขาเลื่อนขึ้นไปด้านหลังคอของเธอ เพื่อไม่ให้เธอขยับเขยื้อน ครู่หนึ่งก่อนที่มือทั้งสองข้างจะตกลงมาอยู่ข้างลำตัวของเขา

เธอเคยบอกเราว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอีก เธอต้องการรอจนกว่าเราจะแต่งงานกัน ฉันรอได้ แต่เธอต้องหยุดทำแบบนี้!

เฮอร์ไมโอนี่ปล่อยให้มือทั้งสองข้างของเธอเลื่อนต่ำลงไปจากรอบคอของเขา ลูบไล้พื้นผิวจากหัวไหล่ทั้งสองข้างและเลื่อนมือไปสู่แผ่นอก ในขณะที่เธอทำเช่นนั้น สะโพกของเดรโกเกร็งไปด้านหน้าอย่างตอบสนอง การสัมผัสของเธอและเธอรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่แสดงถึงหลักฐานจากความปรารถนาของเขา ที่มีอย่างหนักหน่วงต่อหน้าท้องของเธอ

ฉันไม่เคยพูดว่า ฉันอยากจะรอจนกว่าจะแต่งงาน เดรโก เธอกระซิบข้างหูของเขา อย่างเร้าอารมณ์ ในขณะที่เขารู้สึกอึดอัด และกำลังเพลิดเพลินอยู่กับความรู้สึกที่เธอทำให้มันเกิดขึ้น ฉันบอกว่าฉันอยากจะรอแต่ฉันยังพูดไม่จบ ฉันหมายถึงว่าฉันอยากจะรอจนกว่า ฉันจะมีความสัมพันธ์ที่ผูกพันอย่างแท้จริง เธอจุมพิตไปที่บริเวณหลังหูของเขา และเม้มติ่งหูของเขาไว้ในปาก

และฉันจริงจัง จริงจังมากๆในตอนนี้ เดรโก เมื่อฉันพูดว่าฉันอยากให้นายร่วมรักกับฉัน เดรโกส่งเสียงคำรามลึกเข้าไปในอกของเขา

อืม...

มือที่เคยกำหมัดแน่นข้างกายในตอนนี้เลื่อนขึ้นไปที่หลัง และ จับใบหน้าของเธอไว้ในอุ้มมือ เขาจ้องมองเธอ ค้นหาความจริงในดวงตาของเธอเพื่อทำความเข้าใจ

เฮอร์ไมโอนี่ ฉันไม่อยากให้เธอต้องเสียใจ ถ้าฉันมีอะไรกับเธอ อีก เธอต้องแน่ใจว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการ ฉันไม่อยากให้เธอรู้สึกคล้ายกับการทำอะไรที่เร่งรีบ เฮอร์ไมโอนี่โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อจูบเขา เวลาเดียวกับที่เธอเอื้อมมือไปสัมผัสบริเวณจุดที่ตั้งชันและไวต่อความรู้สึกของเขามากที่สุด

ได้โปรด เดรโก เธอกระซิบ

ร่วมรักกับฉัน สมองของเขาว่างเปล่าแล้วในตอนนี้

เขาจูบเธอออย่างชำนาญทำให้เธอตื่นเต้นมากขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงการสัมผัส การโอบกอดและสิ่งต่อไปที่เธอรู้คือ เธอพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงนอนไม้แกะสลักขนาดใหญ่ของเดรโกที่เขาหายตัวไปจากโซฟาในห้องรับแขก

เดรโกเป็นคู่รักที่เชี่ยวชาญและเขาค่อยๆร่วมรักกับเธออย่างลึกซึ้ง เขารอคอยความปรารถนาของตัวเองเพื่อเพิ่มความปรารถนาให้แก่เธอ เฮอร์ไมโอนี่ตกตะลึงกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น เธอไม่เคยรู้สึกเร่าร้อน ต้องการและมีพลังในเวลาเดียวกัน ชั่วขณะอันยาวนานหลังจากความปรารถนาของพวกเขา มาถึงจุดสูงสุดเป็นครั้งที่สาม พวกเขานอนลงหนุนแขนของกันและกัน แขนขาประสานกันอย่างลึกซึ้ง ทุกอณูของร่างกายแนบชิดติดกัน และร่างกายของทั้งสองแน่นิ่ง

นายรู้ไหม ทุกคนจะต้องคลั่ง ถ้าได้ยินเรื่องที่เราอยู่ด้วยกัน นายคิดอย่างงั้นไหม? เฮอร์ไมโอนี่คิดทบทวน

ฉันไม่สนว่าใครจะคิดยังไง เดรโกพูด กำลังเล่นผมเปียของเธอที่วางพาดอยู่บนอกของเขา

ตอบได้เยี่ยม เธอพูด ยิ้มให้อย่างเห็นด้วยและจูบตรงกลางอกที่เปลือยเปล่าของเขา

เวลายาวนานผ่านไปและเดรโกคิดว่าเธออาจจะล่องลอยไปสู่การนอนหลับเมื่อเสียงของเธอ แสดงถึงความง่วง และเธอเรียกเขาอย่างลังเลใจเล็กน้อย

เดรโก

ฮืม

นายหมายถึงอะไร ตอนที่พูดว่า นายรอได้จนกว่าเราจะแต่งงานกัน

เดรโกหยุดชั่วขณะและย้อนคิด เขาพูดอย่างั้นเหรอ...

เอาล่ะ เขาตอบ ดึงเธอขึ้น ให้ศีรษะของเธอวางอยู่บนไหล่ของเขา เพราะเขาจะได้มองเห็นดวงตาของเธออย่างชัดเจน

ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดแบบนั้นหรอก เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจซ่อนความผิดหวังในดวงตาของเธอได้

แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันกำลังคิด ฉันยอมรับกับตัวเองว่า ฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน ในช่วงที่เธอไม่อยู่ ฉันรู้สึกถึงการขาดหาย โดดเดี่ยว ไม่ใช่เป็นเพราะเพื่อน แต่เพราะ...เธอ

เธอทำให้ชีวิตของฉันแตกต่าง ฉันไม่เคยอยากกลับไปใช้ชีวิตโดยไม่มีเธอ ฉันต้องการให้เธออยู่กับฉัน...ตลอดไป ฉันคาดว่ายังไม่นานพอสำหรับเราที่จะพูดเรื่องแต่งงานจนถึงบัดนี้ ฉันไม่ต้องการให้เธอกลัว แต่เท่าที่ฉันทำได้ และทั้งหมดที่ฉันต้องการ คือเวลาที่จะทำให้เธอมั่นใจว่าเราเป็นของกันและกันจริง

เดรโก ฉ-ฉันไม่รู้จะพูดยังไง เธอพูด ดวงตาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา

นั่นก็เพราะความรัก เดรโกพูดเนิบๆในขณะที่เขาจูบปลายจมูกของเธอ และเปลี่ยนท่าเพื่อมองลงไปที่เธออีกครั้ง

และ เธอจำเป็นต้องมีความมั่นใจในความสัมพันธ์ของเรามากกว่านี้อีกหน่อย ซึ่งฉันเตรียมพร้อมที่จะสานต่อตราบนานเท่าที่เป็นไปได้ เขาจูบริมฝีปากของเธอด้วยความหลงใหล ซึ่งกระตุ้นความรู้สึกของเธออีกครั้ง

เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ ในขณะที่เขาจูบลำคอของเธอ และเธอสงสัยว่า...เธอควรจะต้องตกลงแต่งงานกับเขาแล้วในตอนนี้ ที่สุดแล้วเธอและเขารู้ดีว่ามันเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นที่จะสร้างความรักของกันและกัน 

.END..

Dream Girl 7

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1


Chapter 7
หลายชั่วโมงต่อมา เฮอร์ไมโอนี่ตื่นขึ้น หนังสือที่วางอยู่บนหน้าอกของเธอก่อนที่จะเผลอหลับไป ได้ตกลงสู่พื้นแล้ว การอ่านช่วยทำให้ความปรารถนาอันแรงกล้าของเธอหายไป หลังจากผละออกจากเดรโกเธอรู้สึกคล้ายกับเลือดในร่างกายพลุ่งพล่าน เธอพยายามข่มตาให้หลับแต่ก็เป็นแค่ช่วงสั้นๆเธอต้องหาวิธี เธอพยายามที่จะอ่านเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอออกจากแรงดึงดูดราวแม่เหล็กที่เกิดขึ้น เธออดทนต่อแรงกระตุ้นที่จะกลับไปที่ห้องของเขา ที่สุดแล้วเธอก็ผล่อยหลับไป

ในตอนนี้ไม้กายสิทธิ์ของเธอส่องแสงเป็นสีฟ้าเรืองรอง และอุ่นเมื่อสัมผัส มันกำลังเรียกเธอไปหาเดรโก เธอรีบกระโดดออกจากเตียง และรีบกลับไปที่ห้องของเขา เขากำลังส่ายหัวไปมาพึมพำอะไรที่ไม่อาจเข้าใจได้ โดยอัตโนมัติ เฮอร์ไมโอนี่ร่ายคาถาที่จะส่งให้เธอเข้าไปในความฝันของเดรโก

เธอพบตัวเองอยู่ในห้องนอนเหมือนกับที่เธอเพิ่งจากมา เป็นห้องที่เธอพักขณะที่อยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอย ห้องที่มีแสงไฟของเตาผิงซึ่งคอยให้แสงสว่าง มัลฟอยยืนอยู่หน้ากองไฟ เขาสวมเสื้อคลุมพ่อมด มือข้างหนึ่งจับไม้กายสิทธิ์แน่นจนข้อมือเป็นสีขาว มืออีกข้างกำมัดแน่นอยู่ข้างตัวเขา เสียงร้องไห้แผ่วเบาของผู้หญิงคนหนึ่งจับความสนใจของเฮอร์ไมโอนี่ และเธอหันไปเห็น นาร์ซิสซา มัลฟอย นั่งอยู่บนโซฟา

ฉันจะฆ่าเขา มัลฟอยพูด ยังคงยืนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้าไฟ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

เดรโกลูกรัก ได้โปรดฟังแม่ ได้โปรดอย่าพูดเช่นนั้น ลูกก็รู้ ว่าแม่เจ็บปวดที่ได้ยินลูกพูดแบบนั้น

อะไรนะ! มากกว่าความเจ็บปวดที่เขาทำให้แม่ต้องเจ็บปวดอย่างนั้นเหรอ? เดรโก ถ่มน้ำลาย หันกลับไปเผชิญหน้ากับแม่ของเขา

ทำไม ทำไมแม่ยังอยู่กับเขา แม่กลับไปอยู่กับครอบครัวของแม่ได้ พวกเขาจะไม่โทษแม่ที่ทิ้งเขา

เขาไม่ยอมให้ลูกอยู่ห่างจากเขา ลูกรักแม่และแม่จะไม่ทิ้งลูก

เขาเป็นสัตว์ป่าเขาไม่ใช่มนุษย์

เขาจะไม่เป็นอย่างนั้นเดรโก เสียงของเธอแตกพร่า เมื่อเธอรีบพูดด้วยเสียงกระชับและแผ่วเบา

ถ้าลูกจะทำตามที่เขาบอก! นาร์ซิสซา เคลื่อนที่และแสงจากไฟตกกระทบอยู่ทั่วใบหน้าของเธอ เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างที่ได้เห็นใบหน้าบวมๆของเธอ มันเต็มไปด้วยรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำ เธอใช้ผ้าเช็ดที่ใบหน้าของเธอเบาๆ เมื่อเธอพูดปากที่ผิดรูปผิดร่างของเธอทำให้คำพูดบิดเบือนไป

เขาโกรธแม่ เพราะคิดว่าแม่ไม่พยายามมากพอที่จะทำให้ลูกรับตรา เดรโก เขาพูดว่า เจ้าแห่งศาสตร์มืดเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมลูกยังไม่รับตรามารอีก และนั้นทำให้เราทั้งหมดตกอยู่ในอันตราย พ่อของลูกแค่อยากให้ลูกยอมรับตรามารเท่านั้น และทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ครอบครัวของเราจะมีความสุข และจะกลับมาเป็นปกติ

เดรโกหลับตาลง ทำหน้าบูดบึ้งที่ได้ยินคำพูดของแม่ แม่ที่คอยช่วยเหลือเขาอยู่เสมอ ผู้ที่อยู่เคียงข้างเขาต่อสู้เป้าหมายแห่งศาสตร์มืดของพ่อในที่สุดก็ล้มเหลว สุดท้ายลูเซียส ก็ทำให้แม่ต้อง ทำให้สิ่งที่เขารู้ว่าเธอไม่อยากจะทำ เธอกำลังส่งเสริมให้เขากลายเป็นผู้เสพความตาย

ในฉับพลัน ความรู้สึกเสียใจท่วมท้นเขา เขาเปิดตาและจ้องมองไปที่ใบหน้าของแม่ เขาอยากจะเห็นดวงตาของเธอ เห็นว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการจริงๆนะเหรอ? และคิดถี่ถ้วนดีแล้วใช่ไหม

เขาประหลาดใจเมื่อจ้องไปที่เธอ เขาเห็นดวงตาของแม่จับจ้องอยู่ที่รูปปั้นยักษ์ทศกัณฑ์ทองสำริดซึ่งเป็นยักษ์ในตำนานของฮินดู เดรโกจำได้ว่ามันเป็นของขวัญที่พ่อของเขาให้ไว้กับแม่ อาทิตย์ก่อนนี้เขาเดินทางไปเอเชียตะวันออกเพื่อทำธุรกิจในเวลาสั้นๆ และซื้อมันกลับมาฝากเธอ

ยักษ์สิบหัว สวมมงกุฎแหลมคม และส่องแสงเป็นประกายอยู่บนหัวของทุกตน แขนทั้งสิบแยกออกจากแต่ละด้านบนลำตัว มือยี่สิบมือถือกริซอันแหลมคม

เมื่อพิจารณาจากทั้งหมดแล้วเดรโกคิดว่ามันเป็นของขวัญที่ไม่น่าดึงดูดใจมากที่สุดที่ผู้ชายคนหนึ่งจะให้ภรรยาได้ พ่อของเขาเป็นปลื้มกับสิ่งน่าเกลียดนี้ และ ยืนกรานให้นาร์ซิสซาวางโชว์ไว้ในห้องของเธอ

นั่นจะทำให้คุณรู้ว่า คุณจะคิดถึงผมเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า และเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่คุณจะหลับไป พ่อเขาพูดในขณะที่ช่วยเธอจัดวางมันลงบนชั้นในห้องนอนของเธอ

ในตอนนี้เดรโกคิดถึงคิดถึงคำพูดสละสลวยที่ผิดธรรมชาติ การแสดงความรักจากพ่อของเขาที่มีให่แก่แม่ ผู้หญิงที่เขาชอบทรมาน และ ทำให้ขายหน้า อันที่จริงเขาแทบจะไม่ปฏิบัติกับภรรยาด้วยความเคารพเว้นแต่จะอยู่ในสาธารณะเท่านั้น

ในตอนนี้ความหนาวเย็นวิ่งลงไปยังกระดูกสันหลังของเขา เมื่อความสนใจของแม่อยู่ที่รูปปั้นอย่างมั่นคง

เดรโกมองไปรูปปั้นอย่างเพ่งพินิจ เขาตกตะลึงที่ได้เห็นว่าหัวเล็กๆหัวหนึ่งของรูปปั้นส่องแสงประกายด้วยดวงตาสีฟ้าออกเทาสดใสแบบเดียวกับพ่อของเขา เมื่อเขามองมัน ดวงตาสีฟ้าหายไปเหลือไว้แต่เพียงรูปปั้นที่เผชิญหน้ากับแม่ของเขา

และในที่สุดเดรโกก็เข้าใจว่าพ่อของเขาร่วมเป็นพยานรับรู้การสนทนาระหว่างตัวเขากับแม่ รูปปั้นถูกร่ายเวทมนตร์สอดแนม ไม่ต้องสงสัยว่าที่แม่ของเขาถูกทำร้ายอย่างป่าเถื่อนในเช้าวันนั้นที่เธอยืนอยู่ในห้องนี้เพื่อร้องขอให้เดรโกหาวิธีทางใดก็ตาม ที่จะเอาตรามารออกไป

เขายืนนิ่ง และสวมกอดแม่ของเขา เธอลูบผมของเขาราวกับว่าเขาเป็นเด็กแม้ว่าเขาจะดูราวๆ 17 ได้แล้ว ผมเข้าใจแล้ว เขาพูดข้างหูของเธอด้วยเสียงกระซิบแผ่วเบาที่สุดจากนั้นพูดเสียงดัง

ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อที่จะไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับแม่อีก ผมจะรับตรามาร เดรโก กอดแม่ของเขาแน่นขึ้นและ ความฝันเปลี่ยนแปลงไป

เฮอร์ไมคิดว่า มันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับความฝันครั้งก่อน ผมและความสูงของเดรโกเหมือนเดิม หัวใจของเฮอร์ไมโอนี่แทบจะกระโดดออกไปจากอกเมื่อเธอรู้ว่าเขาอยู่ในป่า

ตรงหน้าเขา เปลวไฟสีเขียวลุกโชนอยู่บนพื้นดินทำให้ต้นไม้ที่อยู่รอบข้างบิดเป็นเกลียว และลู่เอน เต้นไปกับความมืด เดรโกกำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเปลวไฟในที่โล่งขนาดเล็ก กลุ่มชายในผ้าคลุมล้อมรอบเขาเป็นวงกลม ผู้เสพความตาย 10 คนยืนอยู่ใกล้กับเปลวไฟ และโวลเดอมอร์

ขณะที่เดรโกกำลังคุกเข่าอยู่นั้นโวลเดอมอร์พูดบางอย่างที่เฮอร์ไมไม่ได้ยิน จากนั้นลูเซียสที่ยืนอยู่ทางขวาของโวลเดอมอร์ก้าวขึ้นไป คว้าข้อมือข้างขวาของเดรโก และถกแขนเสื้อของเขาขึ้น ผิวสีขาวซีดของท่อนแขนที่เปลือยเปล่าของเดรโก เปล่งแสงในความมืด

เดรโกคอยเลี่ยงหนีเมื่อโวลเดอมอร์ยื่นนิ้วมือที่มีผิวหนังสีเทามาสัมผัสท่อนแขนของเขา จารึกลวดลายรูปงู และหัวกะโหลกลงสู่ผิวที่ไร้ที่ติของเขา เฮอร์ไมโฮนี่มองเดรโกกัดฟันแน่นในขณะที่ตรามาร ทำให้เกิดควันกลิ่นการเผาไหม้ของผิวหนังฟุ้งไปทั่วป่า

เธอยังคงมองดูด้วยความตกใจ ในขณะที่โวลเดอมอร์ฝากร่องรอยของตราลงบนแขนขอเดรโก มันถูกเติมเต็มด้วยน้ำหมึกสีดำ และเขียว อย่างน่าอัศจรรย์ งูเลื้อยผ่านปากของกระโหลก เมื่อมันปรากฏลงบนแขนของเดรโก เฮอร์ไมโอนี่เห็นถึงความทรมานอย่างเงียบๆบนใบหน้าของเดรโก และอยากจะร้องตะโกน เพื่อป้องกันเขาจากความเจ็บปวดของมัน

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น โวลเดอมอร์กดฝ่ามือสีเทาหุ้มกระดูกของเขาลงที่ตรา และ ดึงเดรโกให้ลุกขึ้น เดรโกที่ยังคงนิ่งเงียบด้วยความเจ็บปวดลุกขึ้นมาอย่างโซเซ

และในตอนนี้เด็กหนุ่ม เจ้าคือผู้เสพความตายแล้ว นับตั้งแต่วันนี้จนถึงวันตาย เจ้าให้สัญญาว่าจะมอบความภักดี และชีวิตต่อข้าเพียงผู้เดียว เขาจับหัวของเดรโก และบังคับให้มองตรงเข้าไปในดวงตาของเขาชั่วขณะต่อมา เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตกใจเพราะโวลเดอมอร์กรีดร้องด้วยความความโกธร ทันทีทันใดเดรโก ถูกมัดด้วยเกลียวเชือกหนาสีดำซึ่งระยิบระยับคล้ายเกล็ดของงูที่สะท้อนกับแสงจันทร์

จากนั้นโวลเดอมอร์โจมตีด้วยความว่องไวที่ไม่อาจมองเห็นได้ แสงวาบสีเขียวออกจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเขา และพุ่งชนที่ตรงหน้าอกของ เซเวอร์รัส สเนป

ไม่!

เดรโกร้องตะโกน แต่เขาถูกมัดแน่นไม่สามารถขยับตัวเพื่อช่วยเหลือพ่อทูนหัวของเขาได้เลย สเนปหงายหลัง ตัวงอล้มลงสู่พื้นภายใต้ความเจ็บปวดของคำสาป Cruriatos
เสียงร้องแหลมสูงของโวลเดอมอร์กลบคืนอันเงียบสงบนี้

คนทรยศ!
โวลเดอมอร์คำราม และยกไม้กายสิทธิ์ขึ้น ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเดือดดาล เหล่าผู้เสพความตายทั้ง 2 ด้านข้างกายเขาหลบหมอบด้วยความกลัว เมื่อโวลเดอมอร์ขยับเข้าไปใกล้สเนป ที่แน่นิ่งไปแล้ว

ใครอีก เซเวอร์รัส ที่ทรยศข้า เขาร้องถามด้วยเสียงกระซิบกระซาบ เขาคุกเข่าลงข้างสเนป และใช้นิ้วมือตะปุ่มตะป่ำของเขาปัดผมที่ปิดตาของสเนปอย่างใจดี

อ้า เซเวอร์รัส ผู้เสพความตายที่ภักดี ที่ไว้ใจได้ และ อุทิศตนเพื่อข้ามากที่สุด เจ้าจะตายในคืนนี้ ถ้าเจ้าทรยศข้าได้ บอกข้ามาว่ามีใครอีกบ้างที่ทำเช่นเจ้า ใครกัน ณ ที่ตรงนี้เป็นเช่นเจ้า?

เขากวาดตามองไปรอบๆเมื่อเขาพูดประโยคสุดท้าย จ้องมองไปที่ผู้เสพความตายของเขา
ที่ในตอนนี้กำลังหาที่หลบอยู่ใกล้ต้นไม้ ราวกับว่าพวกเขาพร้อมที่จะหนี

หรือจะเป็นเจ้า! แมคแนร์ ริกกิ้นส์ เครน! ชายที่โวลเดอมอร์เอ่ยชื่อก้มหน้าลง หลบเข้า
ไปใต้พุ่มไม้ในป่า พวกเขาร้องตะโกนว่าเป็นผู้เสพความตายที่ภักดี และไม่ทรยศต่อเจ้าแห่งศาสตร์มืด โวลเดอมอร์พูดกับพวกเขาโดยไม่หยุดด้วยน้ำเสียงโกธรจัด

บางที ใครบางคนที่ไม่ภักดี ไม่อุทิศตนเพื่อข้า อาจจะเป็นผู้มาใหม่ที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อข้า แสง
สีเขียวพุ่งออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของเขา และเดรโกที่ยังคงถูกมัดลอยผ่านอากาศ ตกลงสู่พื้นดินใกล้กับสเนป

นายท่าน! ลูเซียสก้าวมาข้างหน้า

เขาบริสุทธิ์ เขาไม่ได้ทรยศ เขา - - -

ใครบางคนที่ยังเด็ก และอ่อนแอ โวลเดอมอร์ร้อง ความโกธรของเขาถึงจุดสูงสุดอีกครั้งเมื่อเขาพูดตัดบท ลูเซียสโดยไม่แลตามอง เขาเสกคาถาใส่ชายทั้งสองที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นดิน และทั้งคู่ตัวงอในทันที

เฮอร์ไมโอนี่คิดว่าเธอได้ตายจากความเจ็บปวดแสนสาหัส ที่ต้องมองดูเดรโก อดทนต่อการ
ทรมานที่น่าสยดสยองเช่นนี้ ที่สำคัญคำสาปพิฆาตจะเปลี่ยนความเกลียดชังไปเป็นความเจ็บปวด ความเกลียดชังของผู้เสกคาถาจะเปลี่ยนแปลง และแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดบนร่างของเหยื่อ
เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าความเกลียดชังที่โวลเดอมอร์มีจะรุนแรง และทำให้เจ็บปวดมากกว่าที่พ่อมด หรือ
แม่มดปกติทั่วไปจะทำได้

ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาเข่าของเธออ่อนลง และทรุดตัวลงสู่พื้นดิน ยังคงไม่อาจ
ละสายตาไปจากชายทั้ง 2 คนได้ ขณะที่พวกเขาทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดอยู่บนผืนป่าซึ่งปกคลุมไปด้วยใบไม้ที่ชื้นแฉะ

พูดมาเดรโก เขากู่ร้องแทบจะเหมือนรักใคร่ และ ใช้ปลายไม้กายาสิทธิ์ลูบตรงหน้าผาก
ของเดรโก บอกข้ามาว่าเจ้าไม่ได้ทรยศข้า! บอกข้ามาว่ามีเพียงแค่เซเวอร์รัสที่ทำงานให้กับภาคี และ ข้าจะให้โอกาสเจ้า ข้าจะให้เจ้าฆ่าเซเวอร์รัสด้วยตัวของเจ้าเอง

นายท่าน! ลูเซียส ร้องอีกครั้ง เดินก้าวมาข้างหน้าพ่อมดทั้งสามกลางที่โล่ง

เขาไม่ใช่ผู้ทรยศ เขาไม่เคยทรยศ - - ลูเซียส ถอยหลังกลับ แต่ตัวของเขากระแทกกับ
ต้นไม้ ด้วยการสะบัดไม้กายสิทธิ์ของโวลเดอมอร์

หุบปาก! โวลเดอมอร์ถ่มน้ำลาย จากนั้นน้ำเสียงของเขาเปลี่ยนกลับไปเป็นน้ำเสียงนุ่มแบบล่อลวงอีกครั้ง

ข้าจะให้หนุ่มน้อยคนนี้เป็นคนทำ โวลเดอมอร์โน้มตัวลงไปหาเดรโกที่พื้น เขาพยายามหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็วจากความเจ็บปวดที่เขาต้องทน

ช่างดูดีจริงๆ เด็กชายเลือดบริสุทธิ์ โวลเดอมอร์สัมผัสแก้มของเดรโกด้วยมือขาวซีดหุ้มกระดูกของเขา

เขาจะไม่ทำมันแน่ๆ

เดรโก พยายามลุกขึ้นนั่งแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเชือกหนาสีดำที่พันรอบเขาไว้

โวลเดอมอร์ก้าวออกห่างจากเขา และสะบัดไม้กายสิทธิ์อีกครั้ง ในฉับพลันเชือกร่วงหล่น
ลง เดรโกกลิ้งลงบนพื้น และพยายามพยุงตัวขึ้น เขายังคงหายใจหอบ เศษใบไม้ ดินชื้นแฉะติดอยู่บนเสื้อผ้า และผมของเขา

เขากำลังลุกขึ้นเมื่อโวลเดอมอร์ถกแขนเสื้อของเขา เปิดให้เห็นตรามารของเขา โวลเด
อมอร์กดนิ้วอันน่าสยดสยองลงไปที่ตรามาร ในทันใดผู้เสพความตายทุกคน ทั้งเดรโก และสเนปร้องด้วยความเจ็บปวด จับตรามารที่อยู่บนแขนของพวกเขา ทรุดตัวลงอย่างไร้เรี่ยวแรง

ข้าบอกให้เจ้าพูด หนุ่มน้อย! โวลเดอมอร์พูดด้วยความโกธรแค้น เดรโกเงยหน้าขึ้น
อย่างท้าทายอีกครั้ง ความเจ็บปวด และความเดือดดาลปรากฏอยู่บนใบหน้าขาวซีดของเขาอย่างชัดเจน

ไม่-ใช่-แค่-เขา! เขาร้องดังผ่านฟันที่ขบกันแน่นของเขา

เดรโก! พ่อ และพ่อทูนหัวของเขาตะโกนขึ้นพร้อมกัน เสียงแรกร้องด้วยความตกใจใน
ขณะที่อีกเสียงร้องเตือนไม่ให้สารภาพเพื่อช่วยชีวิตตัวเขาเอง

ภาคีรู้แผนการของท่าน เราทั้งคู่อาจจะตายที่นี่คืนนี้ และภาคีจะจัดการท่านได้สำเร็จ จำ
คำพูดของข้าไว้ พวกเขาจะหยุดท่านเพราะพวกเขาแข็งแกร่งกว่า และท่านเป็นคนบ้าเสียสติ คำพูดต่างๆดังก้องออกมาสู่ป่าอันหนาวเย็นคล้ายเปลวไฟจากปืนใหญ่ ดวงตาของโวลเดอมอร์ส่องประกายสีแดง และหรี่แคบลงเมื่อเขายกไม้กายสิทธิ์ขึ้น

ในทันทีที่เขาเริ่มจะลงมือ และจบชีวิตของเดรโก แสงวาบสีแดงปะทุจากต้นไม้ด้านหนึ่งของที่โล่ง แสงจากคาถาที่พุ่งออกมาเปลี่ยนความสนใจของโวลเดอมอร์ และในทันทีเขาป้องกันตัวเองจากคาถามากมายที่พุ่งตรงมาจากหลายทิศทางรอบตัวเขา ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเสียงร้องของความเจ็บปวด และคำสาปที่เสกใส่กันห่าใหญ่ สมาชิกภาคีต่อสู้กับผู้เสพความตาย มีกลุ่มควันสีขาว และกลุ่มควันสีดำตัดกันมากมาย เดรโกวิ่งเข้าไปคุ้มกันสเนป และพาเขาหลบเข้าที่ปลอดภัย

การต่อสู้โหมกระหน่ำเป็นเวลากว่า 20 นาที เวลาเพียงพอที่จะทำให้เดรโก และสเนปฟื้น
ตัว พวกเขาเข้าร่วมการต่อสู้กับภาคี การต่อสู้ดำเนินต่อไป และในที่สุดเธอเห็น แฮร์รี่กำลังต่อสู้กับโวลเดอมอร์ พ่อมดทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดท่ามกลางวงล้อมของการต่อสู้นั้น คาถากระจายไปทั่วท้องฟ้าแต่คำ สาปแช่งที่พุ่งผ่านแฮร์รี่ และโวลเดอมอร์เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังราวกับลำแสงของดาวกระจาย 10 นาทีต่อมาของการต่อสู้ ดูเหมือนแฮร์รี่กำลังอยู่เหนือกว่าโวลเดอมอร์

ในฉับพลันจากด้านข้างของที่โล่ง ลูเซียสกระโจนไปข้างหน้า ไม้กายสิทธิ์ของเขาชูไปที่
แฮร์รี่ ผู้ที่เพ่งความสนใจไปที่โวลเดอมอร์เพียงคนเดียว วินาทีต่อมาเดรโกขวางพ่อของเขาไม่ให้โจมตีแฮร์รี่ และ แสงสีเขียวปะทุจากไม้กายสิทธิ์ของเขาไปที่ ลูเซียส พ่อของเดรโกล่วงลงสู่พื้นดิน ตายแทบเท้าของลูกชาย ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างด้วยความตกใจ

สเนปลากเดรโกออกไปในทันทีที่โวลเดอมอร์พูดบางอย่างด้วยภาษาพาเซล และ สะบัดไม้กายสิทธิ์ของเขาในลักษณะแปลกๆ แฮร์รี่แสดงสีหน้าคล้ายเจ็บปวด เมื่อเลือดเปื้อนบริเวณด้านหน้าเสื้อของเขา แต่แล้วแฮร์รี่ไม่สนต่อความเจ็บปวดนั้น เขายืนขึ้น และ พ่งความสนใจของเขาอีกครั้ง ด้วยความพยายามอย่างมากในครั้งสุดท้าย เขาเสกคาถาพิฆาตใส่โวลเดอมอร์ และด้วยแสงที่สว่างวาบขึ้น โวลเดอมอร์ล้มลงกับพื้น และตายในทันที

เฮอร์ไมโอนี่ตั้งต้นวิ่งตรงไปยังแฮร์รี่ และเดรโก แต่แล้วนึกได้ว่านี่เป็นแค่ความทรงจำใน
ความฝัน เธอเชื่อมโยงกับร่างกายของเธอใหม่อีกครั้ง แทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่าเหตุการณ์ต่างๆที่เธอเพิ่งพบเห็นจะเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นในมือของเดรโก และที่กุมมือเธอไว้ เธอออกจากความทรงจำ และพบว่าตัวเองทับเขาบางส่วน ในขณะที่เธอคุกเข่าอยู่ข้างๆเตียงของเขา

ชั่วขณะต่อมา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอกอดเขาแน่นแล้วไม่ต้องการให้เขาทน
ทุกข์อยู่กับฝันร้ายอีกต่อไป เธอจึงเขย่าเขาเบาๆจนกระทั่งเขาตื่น

เขาสะดุ้งตื่น ตัวชุ่มเหงื่อ และหายใจเร็ว เขาเกือบจะทำให้เธอล้มลงสู่พื้นในทันที ผิวของ
เขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาหายใจเร็ว และ ถี่ เขามองไปรอบๆด้วยสายตาที่พร่ามัวอยู่ชั่วครู่ จากนั้นดวงตาเขาก็จับจ้องไปที่เธอ เฮอร์ไมโอนี่มองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น และรอคอยจนกว่าเขาจะเห็นเธอแล้วจริงๆ เมื่อเธอรู้ว่าเขาตื่นแล้วและเขาเห็นหน้าเธอ เขาดึงเธอเข้ามากอดแนบแน่น ฝังหน้าลงสู่คอของเธอ

เฮอร์ไมโอนี่กอดเขากลับ ลูบหลัง และไหล่ของเขาเบาๆเพื่อปลอบประโลม จนกระทั่งเขารู้สึกดีขึ้น เมื่อเขาคลายอ้อมกอด เธอมองเขาอีกครั้ง มือทั้ง 2 ข้างจับใบหน้าของเขาไว้

เดรโก ฉันไม่เคยรู้ ทำไมนายไม่บอกฉัน ทำไมไม่บอกใครๆ? เดรโกปิดตาราวกับว่าคำถามคงจะผ่านไปในไม่ช้า

มันไม่สำคัญแล้ว เฮอร์ไมโอนี่ สงครามสิ้นสุดลงแล้ว เรื่องในอดีตก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ

ไม่ เดรโก ไม่นะ เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างแน่วแน่ คนอื่นไม่รู้ว่าเธอทำอะไรในสงคราม ผู้คนยังคงคิดว่าครอบครัว มัลฟอย เป็นพวกผู้เสพความตาย นายเป็นเหมือนฮีโร่ได้มากพอๆกับสมาชิกภาคีคนอื่น หรือ เป็นมากกว่าเพราะอันตรายจากสิ่งที่นายทำ นายใกล้ชิดกับโวลเดอมอร์!

เฮอร์ไมโอนี่ อย่า! น้ำเสียงของเขาดุดัน เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะกระตุ้นเขา เธอจึงปล่อยให้มันผ่านไป

มันเป็นความฝัน เดรโก คามฝันที่มีคำสาปแช่ง นายเห็นมัน นายแค่ไม่รู้เพราะนายสนใจแค่พ่อเอ่อแค่ ลูเซียส ดวงตาของเธอประสานกันกับเขา และเธอรู้ดีว่า นี่ไม่ใช่หัวข้อที่เขาเต็มใจอยากจะพูดถึงนักในเวลานี้ เขาฆ่าพอของเขาเพื่อช่วย แฮร์รี่ พอตเตอร์

เธอโน้มตัวไปข้างหน้า และ กอดเขาเนิ่นนานอีกครั้ง นั้นก็เพราะเขาดูต้องการที่จะกอดเธอไว้ด้วยวงแขนทั้ง 2 ข้าง และอยู่อย่างนั้นเงียบๆ สัก 2-3 นาที

ฉันต้องใช้ผงฟลูไปหาบิล เขา และ เจ้าหน้าคนอื่นๆที่ทำลายคำสาปแช่งต้องรีบแก้คำสาปแช่งนั้น ในทันที พวกเขาจำเป็นต้องเห็นความทรงจำโดยเร็วที่สุด บิล วีสลีย์ มีเพนชิพที่ห้องพักของเขา และ-

ในขณะที่เธอพูด เฮอร์ไมโอนี่ยืนขึ้น และ ก้าวไปข้างหน้าเตาผิง

อย่าบอกนะว่าเธอจะไปหาวีสลีย์แล้วแต่งตัวแบบนั้น! เดรโกพูดเสียงขึงขัง เขายืนขึ้นทันที ส่งสายตาให้เธอในแบบเอาเป็นเอาตาย เขาหันกลับ เดินอาดๆไปจากห้อง และกลับมาในไม่กี่วินาที พร้อมกับเสื้อคลุมของเขาชุดหนึ่ง เขากางมันคลุมตัวเธอ และ ติดกระดุมเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนาที่สุด เธอพยายามที่จะไม่ยิ้มใส่เขา ที่ทำสีหน้าขุ่นเคืองในขณะที่เธอยกเสื้อคลุมที่ยาวเกินไปขึ้นเพื่อที่จะก้าวเข้าไปในเตาผิงด้วยผงฟลู

ห้องพักของบิล วีสลีย์! เธอตะโกน และภาพของเดรโกที่เลือนรางก็หายลับไป

Dream Girl 6

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1


Chapter 6
วันต่อมาเมื่อถึงเวลาอาหารเช้า เฮอร์ไมโอนี่เดินโซเซเข้าไปยังห้องอาหาร ดวงตาของเธอเป็นสีแดง พร่ามัว และบวมจากการนอนน้อย ผมของเธอมัดเป็นหางม้ายุ่งเหยิง และเธอยังคงอยู่ในชุดกางเกงนอนขายาวกับเสื้อยืดรัดรูปที่เธอเปลี่ยนหลังจากที่ มัลฟอย ออกไปจากห้องเมื่อคืนนี้

อรุณสวัสดิ์ เกรนเจอร์มัลฟอยพูด เฮอร์ไมโอนี่ มองใส่เขาโดยไร้คำพูดและทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เธอเสกให้กาน้ำชาลอยมาตรงหน้าเธอและเตรียมถ้วยชา เธอพึมพำกับตัวเองเกี่ยวกับการสนทนายามเช้าที่สดชื่น หลังจากชาถูกเตรียมพร้อม เธอจิบชาร้อนที่อยู่ในถ้วย และมองมัลฟอยผ่านขอบถ้วยชาของตัวเอง

เธอคิด...ทำไมเธอคล้ายกับมนุษย์ยุคหินกลับมาเกิดใหม่ในขณะที่ มัลฟอย นอนน้อยกว่าเธอ เขาไม่มีแม้แต่ถุงใต้ตา มันน่าหมั่นไส้จริงๆสำหรับชายที่ยังดูดีกับการนอนเพียงแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

ในขณะที่เธอคิด มัลฟอยเริ่มต้นพูด เธอต้องใช้เวลาชั่วครู่เพื่อรับรู้ว่า คำพูดนั้นกำลังออกมาจากปากของเขา และเธอควรจะฟัง

ตกลงเธอว่าไงเฮอร์ไมโอนี่

อ้า เอ่อ...มันเป็นทั้งหมดที่เธอจะพูด เพราะเธอได้ยินแค่ประโยคสุดท้ายที่เขาพูดเท่านั้น

ฉันบอกว่าฉันจะจัดงานปาร์ตี้มื้อค่ำเล็กๆเย็นนี้

โอ้ ได้ ได้เลยไม่เป็นปัญหาหรอก ฉันหมายถึง ฉันแค่จะอ่านหนังสืออยู่ในห้องและเอาอาหารขึ้นมาก่อนที่แขกของนายจะมาถึง พวกเขาจะไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะไม่ส่งเสียงหรอก จริงๆนะ

เฮอร์ไมโอนี่มัลฟอยทำเสียงราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก

ฉันไม่ได้ต้องการให้เธอหลบไป แต่ฉันหวังว่าเธอจะตกลงมาเป็นแขกให้กับฉันเฮอร์ไมโอนี่ไม่มีคำพูดใด

นายอยากให้ฉันมางานเลี้ยงมื้อค่ำของนายเหรอ

ใช่ นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันถามเธอเฮอร์ไมโอนี่เงียบไปชั่วขณะ เดรโกรหยักคิ้วให้เธอ ราวกับจะบอกว่า ไม่ใช่คำถามที่ตอบยากเลย

ฉันต้องเตรียมตัวให้เสร็จตอนกี่โมงล่ะ

หนึ่งทุ่มเขาพูด ขยิบตาให้เธอ เล็กน้อยก่อนลุกเดินจากไป เขาก้าวเดินออกไปจากประตูโดยไม่ชำเลืองมองกลับมาอีก เฮอร์ไมโอนี่จ้องตามเขา หน้าของเธอยังคงบูดบึ้ง และงงงวยจากการนอนน้อย

นั่นแหละคือเหตุผลที่ฉันถามเธอเธอพูดล้อเลียนด้วยเสียงสูงหลังจากเธอแน่ใจว่าเขาไปแล้ว

เยี่ยม! แล้วฉันจะใส่อะไรไปงานเลี้ยงมื้อค่ำที่คฤหาสน์มัลฟอยล่ะทีนี้เสียง ป๊อปดังขึ้นและชังกี้ปรากฏตัวแทบจะในทันที เฮอร์ไมโอนี่ร้องด้วยความตกใจ จากนั้นเธอกลืนน้ำลายและจับหน้าอกเมื่อเธอเห็นว่ามันคือ ชังกี้ นั่นเอง

ทำไมนายหญิงเฮอร์ไมโอนี่ ไม่ไปหา เมอร์ซิเออร์เบโลซล่ะ นายหญิงจะได้รับสิ่งที่สมบูรณ์แบบในชั่วอึดใจจากเขา เวลาที่นายหญิง มัลฟอย ของชังกี้ต้องการเสื้อคลุมที่เป็นทางการเธอจะไปหาเขา

เมอร์ซิเออร์เบโลซเหรอ เขาเป็นช่างทำเสื้อคลุมใช่ไหม

ใช่เจ้าค่ะนายหญิง ที่นั่นเป็นร้านขายเสื้อคลุมหรูที่ดีที่สุดในตรอกไดแอกอนและอะไรทำนองนั้นชังกี้ยิ้มกว้าง เฮอร์ไมโอนี่คิดชั่วครู่

ตกลงชังกี้ เธอจะไปกับฉันเพื่อช่วยฉันได้ไหมชังกี้ยิ้มกว้างและผงกหัวรับคำขอนั้น เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้น และรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อเปลี่ยนชุด เธอลืมความเหน็ดเหนื่อยและความอ่อนเพลียหายไปในทันที

หนึ่งชั่วโมงต่อมาที่ร้านของเมอร์ซิเออร์เบโลซ เฮอร์ไมโอนี่จ้องภาพสะท้อนของเธอจากกระจกวิเศษ ที่ร้านของเมอร์ซิเออร์เบโลซ กระจกแสดงให้เธอเห็นด้านหน้าของชุดราตรีที่เธอสวมใส่ และเมื่อเธอแกว่งไม้กายสิทธิ์ กระจกแสดงให้เธอเห็นว่าด้านหลังของเธอดูเป็นยังไง

เมอร์ซิเออร์เบโลซ กำลังเยินยอเธอ หนวดสีดำเล็กๆของเขาจับกันเป็นก้อนและตั้งขึ้นในขณะพูดเจื้อยแจ้วด้วยสำเนียงฝรั่งเศส

มัดมัวแซลเกรนเจอร์ โอ้พระเจ้า! ชุดนี้ทำให้คุณสวยจนน่าตกตะลึง ปม-คง-จา-มาย-ต้อง-เปลี่ยน-แปลง-อาราย ยังกับว่ามันถูกทำขึ้นมาเพื่อคุณอย่างนั้นแหละ

บางทีมันอาจจะทำขึ้นมาเพื่อคู่แฝดที่ร่ำรวยมหาศาลของฉันแต่บังอัญที่ฉันไม่มีคู่แฝดเสียด้วยสิ เฮอร์ไมโอนี่คิดด้วยความกลัดกลุ้ม ชุดหรูหรา ดูสวยงาม และเธอน่าจะยอมจ่ายมันด้วยความยินดีแต่ตัวเลขบนป้ายราคาช่างไม่น่าซื้อหาเอาเสียงเลย ไม่มีทางที่เธอจะยอมใช้จ่ายเงินจำนวนนั้นเพื่อชุดเพียงชุดเดียว แม้ว่าเธอจะมีเงินก็ตามแต่เธอก็คงจะไม่ยอมจ่ายเพื่อสิ่งนี้เป็นแน่

ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะเป็นหมอทั้งคู่ และมีอาชีพการงานที่ดีแต่เธอก็ภาคภูมิใจในตัวเอง ในฐานะที่เธอเองเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว เธอจะไม่ยอมรับความช่วยเหลือเรื่องเงินจากพ่อแม่ของเธอเป็นอันขาด เฮอร์ไมโอนี่มีห้องพักของตัวเองและซื้อมันตั้งแต่วันที่เธอเริ่มทำงานที่กระทรวง เธอได้เงินเดือนมากพอสำหรับคนวัยเช่นเธอ เธอมีเงินเพียงพอสำหรับการเป็นอยู่อย่างสบายแต่เธอก็ไม่ได้ร่ำรวยจริง

เฮอร์ไมโอนี่มองกระจกเป็นครั้งสุดท้ายและกลับเข้าไปยังห้องแต่งตัว เธอกลับออกมาอีกครั้งพร้อมกับชุดราตรีสีดำอีกตัวหนึ่ง พยายามที่จะไม่ทำหน้ามุ่ยเมื่อเธอมองตัวเองในกระจก ชุดดูสวยทีเดียว แต่เธอชอบชุดสีเทามุกมากว่า และหลังจากเห็นราคาของชุดผ้าไหมสีเทามุกเธอก็ตัดสินใจว่าแค่ชุดสีดำนี้ก็ใช้ได้แล้ว

ฉันคงจะเอาชุดนี้ค่ะ เมอร์ซิเออร์เธอพูดถอนหายใจอย่างรับสภาพ เมอร์ซิเออร์เบโลซเข้าใจสถานะภาพทางการเงินในทันทีและพยักหน้าอย่างมีชั้นเชิง

ชุดนี้ก็สวยมากเช่นกันเขาพูดอย่างเป็นกันเอง

ผมก็แค่ต้องเติมแต่งอะไรนิดหน่อยก็เท่านั้นและคุณก็จะสง่างามเฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกลับไปให้เขา และถอนหายใจในขณะที่เขาเริ่มปักเข็มหมุด ขีดชอล์คเพื่อแก้ไขบางอย่าง เธอจ่ายเงินสำหรับชุดตัวนั้น และทิ้งที่อยู่ที่จะให้ไปส่ง เมอร์ซิเออร์เบโลซให้คำมั่นว่า ชุดจะไปถึงตอนหกโมงเย็นและขอให้มีความสุข

เฮอร์ไมโอนี่และชังกี้เดินไปตามตรอกไดแอกอน และซื้อของกระจุกกระจิกบางอย่างจากนั้นกลับไปที่คฤหาสน์ เฮอร์ไมโอนี่จิบชาในห้องและจากนั้นนอนหลับอีกสองถึงสามชั่วโมง

ก่อนที่เธอจะรู้สึกว่าใกล้จะหมดวันแล้ว และเกือบจะถึงเวลางานเลี้ยง เฮอร์ไมโอนี่ตรงไปอาบน้ำ และจากนั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะเพื่อใช้ความเชี่ยวชาญทั้งหมดที่เธอมีเพื่อเกล้าผมขึ้นไปจนสำเร็จ เธอเรียนรู้เวทมนตร์เกี่ยวกับความสวยงาม มากมายตั้งแต่เธอออกจากฮอกวอตส์ และเธอก็ทำมันจนสำเร็จเสร็จสิ้น เธอรู้สึกมากกว่าความพอใจจากภาพสะท้อนในกระจก

ผมของเธอถูกรวบสูงขึ้นไปและไขว้กันอย่างหลวมๆไปยังมงกุฎบนหัวของเธอ ผมลอนสีน้ำตาลแดงหนาเป็นประกาย ตกลงตรงบริเวณหลังไปจนถึงเอวอย่างหลวมๆ มันดูสง่างามในขณะที่ดูเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน

เธอใช้คาถาตกแต่งดวงตาในโทนสีดำ และให้ความรู้สึกแบบสโมคกี้ ขนตาของเธอดูยาวและหนาขึ้น ริมฝีปากของเธอสมบูรณ์แบบด้วยสีชมพูธรรมชาติแวววาว และผิวของเธอขาวเนียนเปล่งปลั่ง

ในที่สุด ผมและใบหน้าของเธอถูกตกแต่งจนเสร็จ เธอเริ่มกระสับกระส่าย ไม่ใช่แค่ความกังวลใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้แต่ยังเป็นเพราะชุดที่เธอเลือกซื้อจาก เมอร์ซิเออร์เบโลซที่ยังมาไม่ถึง เธอนั่งลงพร้อมไขว้นิ้วเข้าด้วยกัน พยายามจดจำว่าไม่ควรกัดปากตัวเองหรือทำให้เครื่องสำอางเสียหาย

หลังจากช่วงเวลาอันยาวนานเธอได้ยินเสียงของสิ่งที่เธอกำลังรอคอย ในขณะที่เธอเร่งรีบไปที่หน้าต่าง เธอเห็นนกฮูกตัวใหญ่เกาะอยู่ที่ระเบียงพร้อมกับหีบห่อยาวในกรงเล็บของมัน

เธอเปิดหน้าต่างออกและดึงหีบห่อเข้ามาข้างใน นกฮูกมองเธอราวกับว่ามันคาดหวังจะได้อาหาร เธอยัดเหรียญลงในถุงหน้าท้องและปฏิเสธที่จะให้อาหารมัน

ไม่มีทางซะล่ะ ฉันสายแล้วเฮอร์ไมโอนี่พูดในขณะที่เธอปิดหน้าต่าง และรีบกลับเข้าไปที่ห้องนอน เธอเปิดหีบห่อนั้นออก ภาวนาให้คุณเบโลซแก้ไขชุดให้ได้ดีกว่า ที่เขาจะตรงเวลา ตอนนี้อีกสิบห้านาทีจะหนึ่งทุ่มแล้ว

เธอชะงักตัวแข็งทื่อ เมื่อเธอเห็นเนื้อผ้าไหมสีเทาเป็นประกายของชุดราตรีที่เธอเลือกในทีแรก เธอหยิบมันขึ้นมาด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอคิด...จะต้องเกิดความผิดพลาด! เธอแน่ใจว่า เมอร์ซิเออร์เบโลซเข้าใจว่าเธอเลือกจ่ายชุดราตรีที่แพงน้อยกว่า

เมื่อเธอยกชุดขึ้นมา เธอมองเห็นโน้ตเล็กๆหล่นออกจากหีบห่อ เธอหยิบมันขึ้นมาและอ่านอย่างรวดเร็วยิ้มให้กับข้อความที่เขียนด้วยลายมือเรียบร้อยและสง่างาม

เกรนเจอร์,

ชุดนี้เหมาะกับเธอมากกว่าชุดไหนๆ รีบใส่ซะเธอกำลังจะสายแล้วนะ

ด.ม.

เฮอร์ไมโอนี่กอดชุดไว้แน่น ความตื่นเต้นของเธอในตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เนื่องจากเธอกำลังจะได้ใส่ชุดที่สวยงามที่สุด ที่เธอได้จากคำกล่าวชมของเดรโก มัลฟอย

ในขณะที่เธอสวมชุด เธอมองตัวเองในกระจก ยิ้มกว้างอย่างไร้เหตุผล เธอหมุนตัวไปรอบๆ ผ้าไหมสีเทาเป็นประกายของชุด รัดทรวดทรงของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ เนื้อผ้าเบาบาง จนคิดว่ามันมองเห็นทะลุผ่านเข้าไปข้างในได้ ด้านหลังเว้าต่ำลงไป เผยให้เห็นแผ่นหลังขาวนวลเนียนของเธอ ภาพที่เธอเห็นทั้งหมดทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นดาราที่มาจากยุค 1920 ชังกี้ปรากฏตัวเข้ามาในห้องและร้องใส่เธอ

นายหญิงเฮอร์ไมโอนี่ช่างสวยงามเหลือเกิน!

ขอบใจชังกี้ แต่เธอดูไม่แปลกใจเลยที่ฉันใส่ชุดที่แตกต่างจากชุดที่ฉันซื้อในวันนี้เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เอลฟ์ ชังกี้หน้าแดงและพยายามหลบตาเธอโดยการมองไปรอบๆห้อง

ชังกี้หวังว่านายหญิงจะไม่โกรธ ชังกี้แค่คิดว่านายหญิงชอบชุดนี้มากกว่า ชังกี้แค่เอ่ยถึงมันให้นายท่านรู้ นายหญิงแค่พูดเปรยๆแต่ชังกี้รู้ว่านายหญิงชอบมัน นายท่านบอกให้กลับไปที่ร้านและเปลี่ยนแปลงชังกี้กุมมือเล็กๆเข้าด้วยกัน ด้วยความกังวลใจ

ฉันไม่ได้โกรธหรอกชังกี้เฮอร์ไมโอนี่รีบพูดให้เอลฟ์แน่ใจ

ฉันก็แค่สงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไรก็เท่านั้น

ชังกี้ดีใจที่นายหญิงไม่โกรธ เอาล่ะนายท่านกำลังรอนายหญิงอยู่ชั้นล่างเฮอร์ไมโอนี่ผิดหวังเล็กน้อยที่เขาไม่มารับเธอออกไปจากห้อง แต่เธอคิดไว้ว่ามันไม่ใช่เดทสักหน่อยและทำไมเขาต้องทำด้วยล่ะ?

เธอออกไปตามทางเดิน ตรงไปที่บันได เธอหยุดชะงักที่ด้านบน เดรโกอยู่ใกล้ปลายบันไดกำลังสนทนาอยู่กับพ่อมดตัวสูงในชุดเสื้อคลุมสีดำคนหนึ่ง แม่มดสาว 3 คนและพ่อมดหนุ่มอีกคนอยู่ห่างออกไป ใกล้กับเตาพิง

เมื่อเธอเริ่มเดินลงมาจากบันได พ่อมดทั้งคู่ที่อยู่ใกล้บันไดขั้นสุดท้ายเงยหน้ามอง ดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่ติดตรึงอยู่กับเดรโกในทันที เขาหันหน้าออกจากพ่อมดที่เขากำลังคุยด้วยเพื่อที่จะสามารถมองเห็นหน้าเธอได้ชัดเจนขึ้นในขณะที่เธอใกล้เข้ามา เฮอร์ไมโอนี่ยิ้ม เห็นสายตาที่เขามองเธอ มันเป็นสายตาที่แม่มดทุกๆคน อยากจะเห็นบนใบหน้าของพวกพ่อมดเมื่อพวกเธอพยายามแต่งตัว มันเป็นสายตาของความชื่นชมที่ผู้ชายแสดงต่อผู้หญิงที่สวยงาม

เมื่อเธอเดินมาถึงชั้นล่างของบันได เดรโกก้าวขึ้นไปรับเธอ เขาพาเธอเดินออกไปจากพ่อมดที่เขากำลังคุยด้วย และมุ่งตรงไปยังประตูสไตล์ฝรั่งเศสที่เปิดอยู่

เคราเมอร์ลิน เกรนเจอร์ ชังกี้พูดแค่ว่าชุดนี้ดูดีกว่าชุดที่เธอเลือกแต่- - -ดูเธอซิ เธอดูน่าตกตะลึงอย่างที่สุดในทีสุดเขาพูดออกมาอย่างง่ายๆ

ฉันจะต้องให้รางวัลแก่เอลฟ์สักหน่อยแล้วล่ะเขาพึมพำในขณะที่จิบเครื่องดื่มอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้เขา

ขอบคุณนะมัลฟอย แต่คืนนี้ฉันคิดว่ามันอาจจะไปได้ดีกว่าถ้าเธอเรียกฉันว่าเฮอร์ไมโอนี่เธอพูดพร้อมกับปัดบางอย่างที่ไม่มีอยู่จริงออกจากเสื้อคลุมของเขาอบ่างเขินอายและเขาไม่ทันสังเกตเห็นนิ้วมือที่กำลังสั่นของเธอ มันเริ่มสั่นในทันทีที่เธอก้าวเดินเข้ามาในห้อง เธอจำเป็นต้องหาข้ออ้างเพื่อจะมองไปทางอื่น หันไปจากสายตาที่มองทะลุผ่านเข้าไปในตัวเธอ มือของเขายังคงเกาะกุมแขนของเธอและมันเป็นเหตุให้เกิดความรู้สึกซาบซ่านแปลกที่สุดที่ตรงนั้น

เดรโกพ่อมดตัวสูงที่ยืนอยู่กับ มัลฟอย ก่อนหน้ากำลังเดินตรงมาหาพวกเขาพร้อมกับ คอกเทลสองแก้ว

นายพยายามที่จะเก็บแม่มดที่น่าทึ่งคนนี้ไว้คนเดียวตลอดเย็นนี้หรือไงเฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงและยิ้มให้พ่อมดที่หล่อเหลา

ยังกับว่าฉันอยู่ใกล้ๆนายได้เดรโกพึมพำ จากนั้นเขาพูดด้วยเสียงดังมากขึ้น

แอสตัน ฟอลล์บรู๊ค นี่คือ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เฮอร์ไมโอนี่เป็นเพื่อนที่โรงเรียนเก่า

เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เหรอแอสตันพูดอย่างไม่อ้อมค้อมจ้องไปที่เธอ

เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ คนที่- - -เฮอร์ไมโอนี่ เกรน--- เอ่อ

ใช่เดรโกตัดบท

เธอคือเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์คนนั้น

คุณเกรนเจอร์ เป็นเกียรติที่ได้พบคุณแอสตันพูด ดวงตาสีฟ้าสดใสของเขาแวววาวด้วยความสนใจในขณะที่เขาจับมือเธออย่างคล่องแคล่ว แอสตัน เป็นคนสูงมาก สูงกว่าเดรโกประมาณหนึ่งถึงสองนิ้ว ผมของเขาเป็นสีน้ำตาลเข้มและเขายังหล่อมากด้วย

มือของเดรโกยังเกาะอยู่ที่ข้อศอกของเธอไม่ยอมปล่อย และดึงตัวเธอไปพบกับคนอื่นๆในห้องซึ่งยากที่จะปลีกตัวออกมาได้

ช่วงเย็นผ่านไปอย่างน่ารื่นรมย์ เขาแนะนำให้รู้จักสุภาพบุรุษอีกคนคือ ออสการ์ ฟินตัน ภรรยาของเขาคือจูลี่ เป็นแม่มดสาวผมบลอนด์ที่สวยงามทีเดียว แม่มดอีกสองคนคือ แอมเบอร์และเจด ฟอลล์บรู๊ค ซึ่งเป็นน้องสาวของแอสตัน พวกเขาชอบใจมากที่ได้คุยกับเฮอร์ไมโอนี่ แต่เธอสังเกตเห็นว่าการสนทนาส่วนใหญ่จะอยู่กับเดรโกมากกว่า

ฟอลล์บรู๊ค เป็นตระกูลเลือดบริสุทธิ์และเป็นที่นับหน้าถือตา เฮอร์ไมโอนี่เคยได้ยินชื่อเสียงของพวกเขาเช่นเดียวกับตระกูลมัลฟอย พวกเขามาจากตระกูลพ่อมดที่เก่าแก่และมีเงิน เมื่อเธอถามแอสตันว่าทำไมเธอจึงจำเขาไม่ได้เลยตอนที่อยู่ที่ฮอกวอตส์ เขายิ้มอย่างเกียจคร้าน บอกเธอว่าธรรมเนียมของตระกูลฟอลล์บรู๊ค คือให้สมาชิกในครอบครัวจ้างอาจารย์พิเศษมาสอนที่บ้าน น้องสาวของเขาก็เรียนที่บ้านเช่นกัน

เมื่อได้เวลาอาหาร เดรโกจัดที่นั่งให้เธอนั่งด้านขวาของเขาก่อนที่แอมเบอร์จะเข้ามาแทรกได้ทัน เธอส่งสายตาขุ่นเคืองให้เฮอร์ไมโอนี่แต่ท่าทีของเธอเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างรวดเร็วเนื่องจากเธอนั่งฝั่งตรงข้ามเดรโก ในที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ต้องนั่งอยู่ระหว่างเดรโกกับแอสตัน เธอพูดคุยกับแอสตันมากกว่า ในขณะที่เขาดูเหมือนจะกระตือรือร้นที่จะรู้จักเธอมากขึ้น

เดรโกพูดกับเธอหลายครั้งระหว่างทานอาหาร แต่ดูเหมือนถูกผูกมัดให้ตอบคำถามมากจนเกินไป คำถามมากมายที่ตรงใส่เขาโดยเจด หรือแอมเบอร์ ฟอลล์บรู๊ค ก่อนที่มันจะยาวนานไปกว่านี้ก็ได้เวลาของว่างและกาแฟ เฮอร์ไมโอนี่เริ่มรู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อยเพราะแอสตันขยับเก้าอี้เข้าใกล้เธอทุกครั้งที่มีโอกาส เขาเอนตัวเข้าใกล้เธอมากเกินไปเวลาที่พูดคุยกัน และวางมือลงบนเก้าอี้ด้านหลังเธออย่างคุ้นเคย เธอเอนไปข้างหลังเมื่อเขาเอนเข้ามาใกล้ เธอเลื่อนเก้าอี้ออกห่างเขาทุกครั้งที่เขาเลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้ขึ้นอีก

อีกไม่นานฉันคงจะหงายหลังแน่เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิดในขณะที่เอนตัวไปข้างหลังอีกนิด ขณะที่แอสตันพูด และแล้วเดรโกก็ยื่นมือของเขาเพื่อขอให้เธอยืนขึ้น

เราทุกคนออกไปที่ห้องดนตรีกันดีไหมเขาพูดโดยไม่มองไปที่แอสตันเลย พวกเขาเดินไปที่ห้องดนตรี ในขณะที่สุภาพบุรุษทั้งหลายกำลังเชื้อเชิญเหล่าสุภาพสตรี เดรโกนำทางเฮอร์ไมโอนี่ไปพร้อมกับให้เธอเกาะกุมแขนของเขาไว้ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้พิจารณา หรือคิดว่าเธอดีใจแค่ไหนที่จะอยู่ห่างจากแอสตันหรือเธอรู้สึกสบายใจแค่ไหนที่ตัวเธออิงแอบแนบชิดเดรโกในขณะที่พวกเขาเดินไปด้วยกัน ห้องดนตรีโอ่อ่าอย่างมาก มันถูกตกแต่งในสไตล์เฟรนซ์ร็อคโก้ที่มีการประดับประดาไปด้วยเครื่องตกแต่งเคลือบทองและใบไม้สีทองสวยงาม มีเครื่องดนตรีมากมาย ไวโอลีนวางอยู่ในกล่องแก้วชั้นบนเพื่อป้องกันฝุ่น เปียโนตัวใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมกินเนื้อที่ในหนึ่งกำแพงและฮาร์พสไตล์พระ
เจ้าหลุยส์ที่ 16 ฝังเหลี่ยมอย่างงดงาม ตั้งอยู่ใกล้เตาผิง

เธอจะเล่นไหมล่ะเดรโกถามใกล้ๆหูของเธอ เมื่อเธอชื่นชมไวโอลีน เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัว

ไม่ใช่ไวโอลีน น่าเสียดายแม่ให้ฉันเรียนเปียโนสองครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลาหกปีกับมาดามเอ็มมานูเอล ฉันรักเปียโน แต่เธอเป็นหญิงชราที่ร้ายกาจแต่เธอก็ใจกว้าง
เดรโกหัวเราะเบาๆเมื่อเขามองเธอ จากนั้นหันกลับไปมองที่ไวโอลีนอย่างพิจารณา ราวกับว่าเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน

เธอไม่เคยบอกฉันว่าเธอเล่นได้ เกรน- - -เอ่อ เฮอร์ไมโอนี่เธอยิ้มเล็กน้อยให้เขาซึ่งตอนนี้ดูประหลาดใจและตอบกลับเขา

ก็นายไม่เคยถามเขาหันหัวไปด้านข้าง มองเธอและเขาหยักไหล่

เล่นสักหน่อยไหมมันเป็นคำถามไม่ใช่คำขอ และเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็ว เธอไม่เคยชอบเล่นให้ใครฟัง แต่ที่นี่มีคนไม่มากนักและเปียโนช่างสวยงามชวนให้เล่นเหลือเกิน

เธอเดินไปที่เครื่องดนตรี เธอเคยเห็นแกรนด์เปียโนแบบนี้จากในรูปเท่านั้น ซึ่งทำขึ้นในกลางถึงปลายปี ค.ศ.1800 ก่อนที่แกรนด์เปียโนยุคใหม่จะถูกพัฒนา ของจริงๆมันช่างสวยงามเลยเกิน เปียโนที่มีการแกะสลักอย่างซับซ้อนดูเหมือนมันจะเรียกร้องหาเธอและนิ้วมือของเธอปรารถนาที่จะทดลองมัน

เฮอร์ไมโอนี่รู้จากการอ่านว่ามันมีอายุอย่างน้อยที่สุด 145 ปีมาแล้ว เปียโนตัวนี้ทำด้วยไม้พยุงและแป้นคีย์สีขาวทำจากงาช้าง ในขณะที่แป้นคีย์สีดำทำจากไม้มะเกลือที่หาได้ยาก

นายไม่มีเนื้อเพลงของมักเกิ้ลแน่ๆเฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ

นั่นคือทั้งหมดที่ฉันรู้จักดีพอที่จะเล่นต่อหน้าผู้คนได้เดรโกยิ้ม และเดินไปยังชั้นวางของที่เต็มไปด้วยเนื้อเพลงเมื่อเขาเปิดมันออก

แม่ฉันเขาอธิบายข้ามไหล่ให้เธอฟัง

เธอชอบในสิ่งที่ชอบ ไม่ว่าจะมาจากโลกพ่อมด แม่มด หรือโลกมักเกิ้ลก็ตามเฮอร์ไมโอนี่เขย่งตัวไปยังชั้น และกวาดตามองเพื่อเลือกเพลงหลังจากนั้นชั่วครู่เธอเห็นในสิ่งที่เธอหวังว่าจะเจอ

เพลงนี้แหละเธอพูดสบตากับเขา เธอรู้ดีว่าดวงตาของเขาอ่อนลงเพราะไวน์แต่เธอไม่สนใจ

กลุ่มคนที่เหลือกำลังเดินรอบๆห้อง เพื่อสำรวจและมองดูเครื่องดนตรีต่างๆ เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงและลองกดแป้นคีย์ เครื่องดนตรีมีเสียงที่สมบูรณ์แบบอย่างที่เธอเคยเรียนรู้มา

รูปทรงสี่เหลี่ยมทำให้มันมีเสียงคล้ายฮาร์พโบราณ เธอคิดว่ามันจะต้องมีเสียงแบบเดียวกับในยุค ค.ศ. 1850 โดยไม่ต้องเกริ่นนำเธอจัดแจงตัวเองให้นั่งลงบนเก้าอี้ รอยยิ้มหนึ่งครั้งและเริ่มเล่น
ท่วงทำนองไพเราะอ่อนนุ่มในเพลงน็อคเทิร์นวินซีไมเนอร์ ของโชแปงขับขานไปทั่วห้อง

เฮอร์ไมโอนี่ที่ถูกดึงไปอยู่ในเสียงเปียโนอันไพเราะ เธอไม่รับรู้ถึงคนอื่นๆอีกต่อไป จนกระทั่งเธอเล่นจนจบในหลายนาทีต่อมา

ทุกคนตบมือชื่นชมเธอยกเว้นเดรโก เขายืนพิงที่ปลายสุดของเปียโน มือของเขาวางที่โครงของเปียโน และจ้องมองเธออย่างตั้งใจ ดวงตาเป็นประกายของเขาเป็นสีเข้ม มันเต็มไปด้วยความรู้สึกแรงกล้า เฮอร์ไมโอนี่จ้องกลับไป และรู้สึกเหมือนถูกเขาดึงดูด

ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนโดยมีเดรโกช่วย เธอรู้สึกถึงมือหนักๆข้างหนึ่งวางอยู่บนไหล่ของเธอ แอสตันโน้มตัวลงประชิดเธออีกครั้งและกระซิบที่ข้างหู

เธอดูเหมือนกับนางฟ้า และเธอเล่นได้ดุจมาจากสวรรค์เขาจับมือเธอเพื่อช่วยให้ลุกขึ้นยืน

ฉันสนใจเธอ...เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ได้โปรดนั่งกับฉันและเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับตัวเธอ

เธอยิ้มให้อย่างสุภาพ และนั่งลงในเก้าอี้ที่เขาพาไปข้างๆกองไฟ อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกห่างไกลจากความอบอุ่นในฉับพลัน เธอฝืนทนต่อแรงกระตุ้นที่จะไม่เหลือบมองไปทางเดรโก

สามสิบนาทีต่อมา มันปรากฏได้ว่าความคิดของแอสตันที่จะทำความรู้จักเธอมากขึ้น คือ การพูดกับตัวเขาเอง และค้นพบว่าเขาประทับใจเธอมากแค่ไหน เฮอร์ไมโอนี่เริ่มมีปัญหากับการพูดคุยในเรื่องที่น่าเบื่อ และดีใจมากเมื่อ ฟินตันพูดถึงการลากลับของพวกเขา

ภายในครึ่งชั่วโมง แอมเบอร์ เดินไปทั่วเพื่อมองหาพี่ชายของเธอ และบอกให้รู้เป็นนัยๆว่าเธอเหนื่อยและพร้อมที่จะกลับแล้ว เดรโกเรียกหาเสื้อคลุม และส่งมันให้พวกเขาที่ประตูได้ทัน เมื่อพวกเขากล่าวคำขอบคุณแก่เดรโก การสนทนายังคงยืดเยื้อจนถึงสิบนาที ในที่สุดพวกเขาก็จากไป

เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหนื่อย และด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อยที่มอง เดรโกปิดประตูหน้าบานใหญ่ และหันมาหาเธอ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงด้านหน้า และเอนหัวไปทางด้านข้างเล็กน้อย ชั่วขณะเขารู้สึกว่าเฮอร์ไมโอนี่กำลังตัดสินใจบางสิ่ง เขาเพ่งพินิจเธออย่างช้าๆและตั้งใจ ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ดวงตาของเขาที่สำรวจไปทั่วทุกอณูของใบหน้าประสานกับดวงตาเธอเข้าจนได้

เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นด้วยความปรารถนา มันไม่อาจซ่อนจากดวงตาสีเทาของเขาได้ เขาเดินตรงไปหาเธออย่างช้าๆ ราวกับว่ากลัวเธอจะหนีไป เขาจับมือเธอในทันที และดึงเธอให้ไปกับเขา จนกระทั่งพวกเขาอยู่ในห้องดนตรีอีกครั้ง โดยปราศจากคำพูด เขาถอดเสื้อคลุมสีดำตัวนอกออก และเหลืออยู่เพียงแค่เสื้อเชิร์ตกับกางเกง ด้วยการโบกไม้กายสิทธิ์ของเขาเพียงหนึ่งครั้ง เปียโนเริ่มเล่นอีก เธอประหลาดใจเพราะมันเป็นเพลงเดียวกับที่เธอเล่น เล่นแบบเดียวกับที่เธอเพิ่งจะเล่นจบไป ระดับเสียงโน้ตดนตรีเป็นแบบเดิมอย่างน่ามหัศจรรย์ เธอหันไปหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆทีหนึ่ง เขาพยักหน้า และพูดในขณะที่ดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขน และเริ่มเต้นรำช้าๆกับเธอ

ข้อบกพร่องเดียวในตอนที่ฉันฟังเธอเล่นเขาพูดพึมพำใกล้ๆผมของเธอในขณะที่กอดเธอแน่นขึ้นไปอีก

คือการที่ฉันไม่อาจเต้นรำกับเธอได้ พร้อมๆกับที่เธอกำลังเล่นอยู่

รอยข่วนเบาๆจากหนวดเคราของเขาที่ถูแก้มของเธอ ทำให้รู้สึกจั๊กจี้ เธอสูดกลิ่นที่ร้อนแรงสดชื่นของเขาในขณะที่หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำใส่แผ่นอกของมัลฟอย

และท่าทีเวลาที่เธอเล่น...เขาพูดต่อพร้อมกับดึงเธอเข้ามาใกล้ขึ้นอีก แขนทั้งสองโอบล้อมเอวของเธอไว้ แก้มของเขาปะทะหัวของเธอ

มันทำให้ฉันอยากที่จะทำบางอย่าง มากกว่าแค่กอดเธอ

มือของเธอวางพักอยู่บนไหล่ของเขาอย่างอ่อนโยน และเพราะคำพูดของเขาทำให้ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วท้องของเธอ มือของเธอเคลื่อนที่อย่างไม่รู้ตัว มันเลื่อนไปที่ด้านหลังคอของเขา นิ้วมือของเธอเล่นปลายผมนุ่มลื่นดุจเส้นไหมของเขา ในทันใดเดรโกหยุดเต้น และใช้มือข้างหนึ่งจับคางของเธอซึ่งเป็นบังคับให้เธอเงยหน้ามองเขาในขณะที่พูด

เธออาจจะเสียใจในภายหลัง แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่คิดเสียใจจากนั้นเขาจูบเธออย่างอ่อนโยนครั้งหนึ่ง ครั้งที่สอง และครั้งที่สาม... ริมฝีปากบางของเขาที่ประกบปากของเธอ มันอุ่นและสมบูรณ์แบบ เธอไม่อาจคิดหรือได้ยินอะไรได้อีก เขาร้องครางเบาๆและหยุดชั่วขณะเมื่อมองดูเธอในขณะที่ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ ตาของเธอเหม่อลอยและดูงุนงง

ด้วยรอยยิ้มเฉื่อยชาครั้งหนึ่ง เขาจูบที่ปลายจมูกของเธอ และเลื่อนมือข้างขวาขึ้นไปที่ผมนุ่มเหมือนเส้นไหมของเธอ ริมฝีปากของเขาลดต่ำลงมา ประกบที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เป็นอารมณ์ที่ถวิลหามากกว่าเดิม

ลิ้นของเขาสัมผัสริมฝีปากของเธอที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นแปลกใหม่นี้ ปากของเธอเผยอออกเพียงเล็กน้อยและเขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดรอดไป ลิ้นของเขาเลื่อนเข้าไปในปากอุ่นๆ เพื่อลิ้มรสชาติอันหอมหวานของเธอ

เฮอร์ไมโอนี่จูบเขากลับอย่างกลัวๆในทีแรก จากนั้นจึงเรียนรู้จังหวะในการจูบ ด้วยอารมณ์ที่รุนแรงมากขึ้นในขณะที่ จังหวะการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นด้วย เธอรู้สึกว่าปอดทั้งสองข้างกำลังแผดเผา เธอต้องการอากาศแล้วในตอนนี้ เดรโกดึงริมฝีปากออกจากเธอ และไล่จูบไปที่คอของเธอเบาๆ

เขาจูบเธอ พร้อมกับสำรวจแก้มสีชมพูน่ารักและคางของเธอ ในขณะเดียวกันเฮอร์ไมโอนี่ ปล่อยให้มือเตร็ดเตร่ไปทั่วกล้ามเนื้อด้านหลังของเขา ผ้าลินินราคาแพงที่เขาสวมใส่อยู่คืออุปสรรคเดียว ที่กั้นระหว่างมือของเธอกับผิวหนังของเขา จากนั้นเขาประกบปากเธออีกครั้ง และเธอต้องอ้าปากค้าง เมื่อเดรโกพาพวกเขาทั้งสองหายตัวไปยังทางเดินหน้าประตูห้องที่เธอพักอยู่ในคฤหาสน์

เดรโกโน้มตัวลงประชิดเธอ หลังของเธอกระแทกยันกับกำแพง จูบของเขาช่างอ่อนนุ่มละมุนละไมและลื่นไหลซึ่งทำให้เธอต้องร้อนเป็นไฟ มือด้านซ้ายของเขากางออกอยู่ที่ด้านหลังของเธอเพื่อทำให้เธอเข้ามาใกล้มากขึ้น ในขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ช่วยพยุงเธอไว้ไม่ให้ล้ม เฮฮร์ไมโอนี่ได้แต่คิดถึงสัมผัสนุ่มนวลเหมือนกำมะหยี่จากปากของเขา และมือที่ลูบไล้อยู่บนตัวเธอ ชีพจรของเธอกำลังเต้นเร็ว และการสัมผัสทั้งหมดนี้ไม่อาจเพียงพอสำหรับเธอได้อีกต่อไป

หลายนาทีที่ยาวนานของการจูบอย่างรุ่มร้อน เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงเดรโกราวกับว่ามันดังอยู่ในอุโมงค์ที่ทอดยาว

เฮอร์ไมโอนี่...เดรโกกำลังพึมพำเรียกชื่อเธอในระหว่างจูบ

เฮอร์ไมโอนี่เขาเริ่มอีกครั้ง

เธออยากให้ฉันหยุดไหมในตอนนี้เธอไม่อาจคิดอะไรได้อีก เธอกำเสื้อของเขาแน่น

ไม่! นาย...จูบ...สมบูรณ์แบบที่สุด

เฮอร์ไมโอนี่เดรโกเรียกชื่อเธอ หลังจากจูบเธออย่างอ่อนโยนอีกครั้ง ก่อนจะหยุดชั่วครู่เพื่อมองเธอ ดวงตาสีเทาของเขาแผดเผาดวงตาของเธอ คล้ายกับเหล็กที่หลอมละลาย

ถ้าไม่หยุดในตอนนี้ เราจะต้องลงเอยบนเตียงของฉัน เธออยากให้เรามีอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้หรือเปล่าเฮอร์ไมโอนี่

คำพูดของเขาทลายหมอกแห่งความปรารถนาของเธอ

ฉัน-ฉันไม่เคย เอ่อ-นายก็รู้ ฉันอยากจะรอจนกว่า-โอ้! เดรโก ฉันเสียใจ ฉันไม่คิดว่า... ฉันแค่ยังไม่พร้อมที่จะ...เดรโกตัดบทด้วยการประทับจูบของเขาลง เมื่อรู้ตัวอีกทีเธอก็อยู่ในอ้อมแขนของเขา และเขากำลังอุ้มเธอเข้าไปในห้อง เธอพบว่าตัวเองอยู่บนโซฟา เดรโกคุกเข่าอยู่ข้างๆเธอ เขาจูบเธออย่างช้าๆ อ่อนโยนและความใคร่กระหายลดลงแล้ว ในที่สุดเขาก็เอียงหน้าผากของเขาไปกับหน้าผากของเธอและถอนหายใจ

ชู่! เธอทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ

อะไรนะ?” เฮอร์ไมโอนี่ร้องถาม ฉันจะทำมันได้ยังไง ในเมื่อฉันไม่รู้ว่าต้องทำแบบไหน ฉันหมายถึง...ฉันไม่มีประสบการณ์มากนักในเรื่องทำนองนั้น และฉันก็เกือบจะทำมัน และ... - - - -
เฮ้เดรโกแทรกในขณะที่เธอโวยวายและในตอนนี้เธอเกือบจะร้องไห้แล้ว

เธอคือผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ เธอไม่รู้หรอกว่ามันกระตุ้นอารมณ์แค่ไหนที่ได้รู้ว่าเธอไม่เคยใกล้ชิดกับใคร แต่เธอเกือบจะหัวเสียเพราะฉัน ฉันพูดได้ว่ามันมากกว่าคำพูดใดๆเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นทั่วร่างกายของเธอเพราะคำพูดของเข า เขาไม่ได้หัวเราะที่เธอยังเวอร์จิ้น เขาคิดว่ามันเซ็กซี่ เธอโน้มตัวไปข้างหน้า มอบจูบลึกซึ้งและอบอุ่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์มากมายให้แก่เขา

ถึงอย่างไรฉันก็ไม่คิดว่าเราจะทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆเขาพูดเมื่อเธอผงะตัวออก รอยยิ้มของเขาสั่นเล็กน้อย ลมหายใจเร็วขึ้น

ตอนที่ฉันกับรอนคบกัน หลังจากที่จบการศึกษา ฉันคิดจริงๆว่าเราจะเข้ากันได้ นายรู้ใช่ไหม จากนั้นไม่กี่อาทิตย์ต่อมา สงครามเริ่มต้นขึ้น และเรายากที่จะได้พบกันเพราะมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน ฉันเลิกกับเขาเมื่อฉันต้องเดินทางกลับไปกลับมาระหว่างประเทศญี่ปุ่น เพื่อฝึกการพินิจใจ หลังจากสงครามฉันย้ายไปอยู่ที่นั่นโดยเฉพาะเธอมองเขาอย่างเสียใจ

ไม่มีโอกาสที่จะเดทในวัดญึ่ปุ่นเช่นกันถ้านายพบว่าตัวเองอยู่ที่นั่น 4 เดือนผ่านไปเมื่อสิ้นสุดการฝึก และฉันกลับบ้าน รอนกับฉันพยายามเริ่มต้นใหม่แต่มันไม่เป็นผล เราทั้งคู่เปลี่ยนไปมาก และมีความต้องการหลายอย่างที่ไม่เหมือนกัน ตอนนี้ฉันอายุ 21 และยังไร้ประสบการณ์ในเรื่องความสัมพันธ์จริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวงนาย ฉันแค่ - - -

เฮอร์ไมโอนี่เดรโกพูด เขาสัมผัสที่หลังของเธอเบาๆในขณะที่เขากอดเธอ

เธอไม่ต้องอธิบายอะไรให้ฉันฟัง ฉันไม่ใช่ยักษ์กินคนนะ เธอรู้ไหม ฉันไม่เป็นไรที่เธอ...ปฏิเสธฉันในตอนนี้เขายิ้มให้เธออย่างเจ้าเล่ห์ และหน้าแดง

ฉันควรจะออกไปซะที หรือไม่ ฉันก็คงออกไปไหนไม่ได้เลยเขาพูด

เฮอร์ไมโอนี่อยากบอกให้เขาอยู่กับเธอสักพัก แต่เธอเข้าใจว่าเขาต้องพยายามควบคุมความปรารถนาของตัวเองแค่ไหน เธอเดินไปส่งเขาที่ประตูและยืนพิงประตู เมื่อเขาจูบเธออีกครั้ง ดึงเธอเข้ามากอดอย่างรุนแรงก่อนที่จะตัดสินใจจากเธอไป เขาหายตัวไปยังห้องของตัวเอง ดวงตาสีเทามองเธออย่างรักใคร่และอาวรณ์ ก่อนที่เขาจะหายตัวไป

เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอ่อนเพลียเมื่อเขาออกไปแล้ว ทั้งหมดที่เธอทำได้คือถอดเสื้อออก และเตรียมตัวเข้านอน เธอเปลี่ยนชุดนอนกึ่งชุดชั้นในสีเนื้อตัวใหม่ที่ เมอร์ซิเออร์เบโลซ พูดชักชวนให้เธอใส่

อย่างน้อยที่สุดถึงฉันจะมีเซ็กส์ไม่ได้ ฉันก็ยังดูเซ็กซี่เธอคิดทันทีที่กำลังล้มตัวลงนอน ชังกี้เข้ามาในห้องของเธออย่างเร็ว

เฮอร์ไมโอนี่มองเอลฟ์ตัวจ้อย ในมือกำลังถือถ้วยยา มันถอนหายใจด้วยความเหนื่อยในขณะที่เธอลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง เธอรีบสวมเสื้อคลุมเข้าชุด เดินอย่างเร่งรีบและตามชังกี้เข้าไปในห้องของเดรโก เขากำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมของเขาเปียกจากการอาบน้ำ และเขาอยู่ในชุดกางเกงนอนพอดีตัวสบายๆ และกำลังจะสวมเสื้อทีเชิร์ตสีขาวสะอาด เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากของตัวเอง เมื่อมองเห็นแผ่นอกที่มีมัดกล้ามของเขา

เมื่อเขาเห็นคนทั้งสอง ที่กำลังรอส่งถ้วยยาให้ เดรโกโยนเสื้อไว้ข้างๆและสายตาของเขาติดแน่นอยู่กับเธอในแบบที่ทำให้หัวใจกำลังจะหยุดเต้น เขาลุกขึ้นยืนและเดินไปรับถ้วยยาจากชังกี้

ขอบใจชังกี้ไปได้แล้วชังกี้จากไปก่อนที่เธอจะทันได้เปิดปากเรียกให้มันหยุด

บ้าที่สุด เฮอร์ไมโอนี่เขาพูดวางถ้วยยาลงบนโต๊ะเสียงดัง

เธอพยายามฆ่าฉันใช่ไหมที่เข้ามาที่นี่ในชุดแบบนั้น

เธอมีเวลาแค่เสี้ยววินาทีมองเขาด้วยความงุนงง ก่อนที่เขาจะดึงเธอเข้าไปหาและใช้ปากของเขาบดขยี้เธอ วินาทีต่อมาแขนของเธอโอบล้อมรอบคอของเขา นิ้วมือของเธอจมอยู่ในผมของมัลฟอย และความคิดทั้งหมดก็หายวับไป

มือของเดรโกเลื่อนต่ำลงไปที่หลังของเธอ ต่อไปที่สะโพกแน่นๆของเธอ เพื่อดึงเธอให้เข้ามาใกล้ขึ้นอีก สะโพกของเธอและเขาแนบชิดเสียดสีกัน ด้วยการปลุกเร้าอารมณ์ของเขา ริมฝีปากของเขาย้ายลงมาสัมผัสบริเวณคอของเธอ ทั้งกัดเบาๆ ทั้งเคล้าคลึง เนื้อที่ตรงนั้นและลิ้นของเขาสัมผัสกัน

เธอปล่อยมือไหลลงและมันไถลไปบนหน้าอกเปลือยเปล่าของเขา ปลายนิ้วลูบไล้ไปยังบริเวณหัวนมที่เกร็งของเขา เดรโกร้องครางและดูดคอของเธออย่างหนักหน่วงกว่าเดิม เพื่อเป็นการเอาคืน จากนั้นละทิ้งมันไปเพื่อเริ่มต้นจูบที่ปากอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่รู้ว่าทุกอย่างกำลังร้อนขึ้นอย่างเร็วแต่เธอไม่อาจหยุดมันได้มากไปกว่าการหยุดหายใจ

มือแข็งแรงของเดรโกโอบไปยังเอวของเธอพร้อมกับที่เขาเริ่มปลดสายรัดเสื้อคลุมของเธอหลุดออกมาเผยให้เห็นผิวกายที่นวลเนียนของเธอภายใต้ชุดนอนสีเนื้อที่บางเบา

ตอนนี้ตัวเขาเองไม่สามารถบังคับสติ และมโนสำนึกใดๆได้อีกต่อไปแล้ว เขาได้แต่เพ่งมองสัดส่วนของเฮอร์ไมโอนี่ ที่อยู่ภายใต้ชุดนอนกึ่งๆชุดชั้นในที่บางเบาจนเห็นด้านในได้อย่างชัดเจนเดรโกสัมผัสไหล่เปลือยเปล่าของเธอแล้วจูบเบาๆมือของเขาค่อยๆเลื่อนสายชุดนอนให้พ้นจากไหล่ลงมากองที่พื้นได้สำเร็จ

เขาลากลิ้นโลมเลียจากซอกคอขาวละเอียดและหอมละมุนลงมาจนถึงทรวงอกที่ถูกห่อหุ้มด้วย บราเซียสีเนื้อตัวเล็ก มือทั้งสองของเขาเริ่มลูบคลำไปทั่วทรวงอกทั้งสองของเธออย่างช้าๆ

ความต้องการที่จะปลดปล่อยมันพลุ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเธอ ในขณะที่เธอเริ่มแอ่นตัวขึ้นเพื่อรับปลายลิ้นสัมผัสของเดรโกที่ลากโลมเลียไปทั่วหน้าท้องขาวนวลไร้ไขมันของเธออย่างเสียวซ่าน ก่อนที่จะวกไล้ลิ้นเลื่อนมาจนถึงทรวงอกอิ่มนั้นแทนมือของเขาที่ตอนนี้มันลูบไล้ไปทั่วสะโพกเนียนแน่นแล้ววกขึ้นมาที่เอวคอดกิ่วก่อนจะเลี้ยววกไปด้านหลังและเขาก็ใช้เวลาไม่ถึงวินาทีปลดตะขอบราเซียด้านหลังออกไปอย่างง่ายดาย ทรวงอกสวยได้รูป เมื่อมันเป็นอิสระจากสิ่งปกปิด จึงดีดพุ่งออกมาประจักษ์แก่สายตาเขาในทันที ทรวงอกคู่นั้นมันช่างสวยงามจนเขาอดใจไว้ไม่อยู่

เดรโกรีบฝังใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาสัมผัสไปทั่วทรวงอกคู่สวยที่ตั้งตระหง่านชูชันเหมือนล่อหลอกให้เขาได้สัมผัส และเขาก็ไม่คิด ที่จะปฎิเสธมันด้วย เดรโกฟอนเฟ้นทรวงอกคู่นั้น อย่างกระหายด้วยลิ้นที่ชำนาญ จนสติของเธอ กระเจิงไปกันคนละทิศละทาง

ปลายจงอยสีชมพูระเรื่อแข็งชูชันเพราะอารมณ์ของเจ้าของที่กำลังพลุ่งพล่าน หรือเพราะปลายลิ้นของชายหนุ่มที่ปลุกเร้าอารมณ์ของเธอมิรู้ได้

เดรโกเปลี่ยนจากการสัมผัสด้วยปลายลิ้นมาเป็นนิ้วเรียวสวยของเขาที่เขี่ยหัวนมสีชมพูไปมาอย่างแผ่วเบาบางครั้งก็บีบบี้ดุนดัน จนเลือดสาวในกายของเธอวิ่งวนไปมาทั่วร่างจนขนลุกซู่ด้วยความเสียวซ่าน

เดรโก อือ .....เธอครางเบาๆพร้อมกับที่ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปทั่วตัว เฮอร์ไมโอนี่พยายามแล้วที่จะคุมสติตัวเองต่อต้านกับความปรารถนาอันล้ำลึก แต่...มันช่างยากเหลือเกิน

เธอทำให้ฉันคลั่งรู้ ไว้เสียด้วย เฮอร์ไมโอนี่เขาพูดขณะที่พรมจูบไปทั่วเรือนร่างที่กึ่งเปลือยของเธอ

เดร.. เดรโก อ่า......พอ...เฮอร์ไมโอนี่ครางเสียงร้องห้ามเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือร้อนผ่าวของเดรโกล้วงลึกเข้าไปยังกางเกงในตัวน้อยที่ปกปิดของสงวนของเธอไว้ โดยที่ไม่ยอมปลดปล่อยมันออกจากตัวของหญิงสาวเสียด้วยซ้ำ

เธอแทบจะยืนไม่ไหวเมื่อปลายนิ้วของเขาสัมผัสไปยังปากทางเข้าของเนินเนื้ออวบอูมของเธอ เขาเพียงแค่ลูบแผ่วเบาเธอก็สั่นสะท้านแล้ว

เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเมื่อปลายลิ้นของเขาค่อยๆดูดกลืนปทุมถันสีชมพูสดอีกครั้ง เธอกำลังเสียการควบคุมตัวเองอย่างหนัก ตอนนี้จังหวะการเคลื่อนไหวของทั้งมือและปากของเขาประสานกันอย่างกลมกลืน จนเธอแทบทนไม่ไหว นิ้วของเดรโกเริ่มไม่ใช่แค่การลูบคลำธรรมดาแล้วตอนนี้เขาค่อยๆใช้ปลายนิ้วของเขาลุกล้ำเข้าไปยังด้านในที่คับแน่นนั้นอย่างชำนาญ
เฮอร์ไมโอนี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจระคนกับความเจ็บที่ได้รับเมื่อเดรโกซอยนิ้วมือของเขาเข้าออกอย่างรวดเร็วนับสิบๆครั้ง มือของเธอทั้งสองข้างที่กอดบ่ากำยำของเขาแน่นในตอนนี้จำเป็นต้องละมือข้างหนึ่งมายึดมือที่เขากำลังโถมนิ้วเข้าออกอย่างรวดเร็ว

อือ ..เจ็บ เจ็บนะเดรโก

เธอจ้องมองริมฝีปากของเดรโกที่กำลังดูดกลืนปลายถันของเธออย่างสนุก ยิ้มเจ้าเล่ห์เร่าร้อนปรากฏขึ้นเมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาจากยอดอกนั้น ดวงตาเป็นประกายล้อเลียนเมื่อเห็นแก้มนวลใสแดงระเรื่อด้วยความอาย และเป็นไปอย่างช้าๆเขาถอนมือออกจากสัดส่วนนั้นที่เต็มไปด้วยคราบน้ำสีขาวขุ่นเต็มนิ้วมือของเขา ในขณะเดียวกันที่ร่างของเดรโก ละห่างออกจากอีกฝ่าย อย่างอ้อยอิ่ง และแทบจะในทันทีที่เขาตวัดมือของเขาโอบอุ้มร่างบางของเธอที่กำลังงุนงงเดินตรงไปที่เตียงคิงไซร์ของเขาอย่างรวดเร็ว

อย่าปฎิเสธความต้องการของตัวเอง ปล่อยใจของเธอสิ เฮอร์ไมโอนี่

เขาพูดและวางร่างของหญิงสาวไว้บนเตียงเขาผละกายของเขาลงยืนอยู่ข้างเตียงสายตาของเขายังคงจับจ้องไปทั่วร่างงามของเธอขณะที่เขาเองปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากร่างของเขาอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่มองจ้องเดรโกที่กำลังปลดสิ่งที่ห่อหุ้มตัวเองออกจนกระทั่งบ๊อกเซอร์ถูกเขาดึงออกไปจากตัวเองเป็นชิ้นสุดท้าย สัดส่วนที่แข็งขืนของเขาก็ปรากฏแก่สายตาของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับหน้าแดงใจเต้นระรัวเธอหันหน้าหนีทันทีเช่นกันเมื่อเธอเห็นแววตากับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเดรโกฉายเต็มใบหน้า

เธอไม่มีเวลาคิดอะไรไปมากกว่านี้ เมื่อรู้สึกได้ว่าเนื้ออุ่นๆที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของความเป็นชายของเขากำลังทาบทับมายังร่างของเธอ เธอหายใจได้ไม่ทั่วท้อง

เดรโกเธอกระซิบเรียกชื่อเขาปากคอสั่นเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
ฮือเดรโกส่งเสียงถามสั้นๆแต่ริมฝีปากของเขายังทำหน้าที่สำรวจความงดงามไปเรื่อยๆแทบทุกตารางนิ้ว เขาลากจุมพิตแผ่วเบาขึ้นไปตามลำคอระหงของเธอ ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่ข้างซอกใบหูจนเธอขนลุกซู่ไปทั้งตัว

เธอส่งเสียงหอบและเริ่มเบียดทรวงอกที่เปล่าเปลือยไปกับแผ่นอกแข็งแกร่งของเขา
เขาไซ้ซอกคอต่ำลงมาเรื่อยๆจนถึงทรวงอกอิ่มและอ้าปากไล่งับหัวนมสีชมพูเล่นไปมาอย่างไม่รู้จักเบื่อ ลิ้นของเดรโกปาดหัวนมทั้งสองข้างไปมาจนเปียกชุ่ม แล้วดูดดุนหัวนมจนมันกลายเป็นสีแดงเกือบเข้ม

อาร์......อือ ....เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากปล่อยเสียงครางออกมาเต็มที่ มือไม้ป้ายสะเปะสะปะไปทั่วลำตัวของเขาและสิ่งนั้นมันยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เขาเกิดอารมณ์จนยากที่จะยับยั้งได้
เดรโกเปลี่ยนการจู่โจมจากด้านบนมานั่งคุกเข่าที่ปลายเท้าของเธอ มือของเขาเอื้อมมาจับที่สะโพกอวบแน่นของเธอแล้วใช้นิ้วชี้เกี่ยวขอบกางเกงในสีเนื้อรูดลงมาจนถึงปลายเท้า ในตอนนี้ทั้งเธอและเขาเปลือยเปล่าแล้วอย่างแท้จริง เดรโกเหวี่ยงกางเกงในไปทางด้านหลังอย่างไม่สนใจว่ามันจะไปตกส่วนใดของห้อง ในเวลานี้สิ่งที่เขาสนใจที่สุดดูเหมือนมันจะอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
ร่างกายเปล่าเปลือยขาวนวล อยู่กลางเตียง นอนหอบหายใจรัวเร็ว และที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นคือเธอ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ คนที่เขาปรารถนาเหลือเกินยามที่อยู่ใกล้ชิดกัน เธอช่างสวย และสมบูรณ์แบบที่สุด และในตอนนี้เขาคงจะเป็นคนบ้าแน่ ถ้าปล่อยเธอออกไป

เดรโกจับข้อเท้าของเธอแล้วถ่างออกจนกว้าง พลางแทรกตัวของเขาเข้าไประหว่างกลาง เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดเมื่อเห็นเขาจ้องส่วนนั้นตาไม่กระพริบเธอใช้มือปิดป้องเนินเนื้ออวบอัดนั้นอย่างเขินอาย

เดรโกหัวเราะเบาๆเขาชอบกับความไร้เดียงสาของเธอมันเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ให้เขาดีนัก เขาจับมือเธอแล้วดึงออกให้สัดส่วนนั้นเปิดเผยอีกครั้ง

อย่างรวดเร็วเขาฝังใบหน้าของเขาลงไปยังเนินเนื้อที่ปรากฏอย่างไม่รังเกียจ เฮอร์ไมโอนี่แขม่วหน้าท้องอย่างเสียวซ่านเมื่อปลายลิ้นของเขาสอดพุ่งเข้ามาด้านใน ซอกหลืบและลากเลียไปทั่วซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอร้องครางแทบขาดใจ

เฮอร์ไมโอนี่พยายามกระเถิบสะโพกของเธอ ถอยห่างจากความเสียวซ่านนั้น แต่ฝ่ามือของเดรโก กลับดึงรั้งสะโพกของเธอ ให้แนบชิดกับใบหน้าของเขาเข้าไปอีก

ความรู้สึกในยามนี้ของเธอมันช่างทรมานเหลือเกิน ความหวาดกลัวผสมผสานกับความตื่นเต้นที่ถูกรุกเร้าอย่างรุนแรงมันบีบคั้นจนเธอแทบคลั่ง เลือดในกายของเธอมันไหลเวียนสูบฉีดไปมาจนแทบทะลักล้นออกมานอกกายความเสียวเมื่อเขาฝังลิ้นลงอย่างหนักและลึก มันพุ่งไปยังหน้าท้องและลงไปที่ปลายขาจนชาวูบและแล้วความทรมานของเธอก็สิ้นสุดลงเมื่อสายธารของความความเสียวซ่านพุ่งขึ้นถึงขีด สุด นิ้วเท้าหงิกงอเกร็งร่างแอ่นสะท้านรู้สึกถึงน้ำขาวขุ่นสีขาวที่ทะลักออกมาราวทำนบกั้น เฮอร์มโอนี่นอนหอบหายใจอย่างหมดแรง แทบจะทันที

เดรโกยิ้มกริ่มเมื่อส่วนนั้นของเธอเต้นตุบๆจนปลายลิ้นของเขารู้สึกได้และไม่นานต่อมา เมื่อเขาเห็นน้ำขุ่นขาวข้นล้นทะลักออกมาตรงส่วนนั้น เขาจึงได้รับรู้ว่าเธอได้รับการปลดปล่อยไปแล้วและนั่น มันจะเป็นตัวช่วยให้เธอเจ็บน้อยลงยามที่เขาปฎิบัติการแบบเอาจริง

เดรโกระบายลมหายใจยาวเหยียดแล้ววางมือบนหน้าอกของเธอบีบเคล้นคลึงเบาๆเพื่อเพิ่มอารมณ์และสิ่งนั้นก็ปลุกเร้าอารมณ์ของเธอขึ้นมาอีกครั้ง เธอจ้องมองเขาเมื่อเขามองสบตาเธอ แววตาเขามีประกายวาบขึ้นมาเหมือนเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาแววตาแห่งความปรารถนาไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากของทั้งคู่ นอกจากความเข้าใจของความต้องการที่มันฉายออกมาทางแววตาของเขา เธอเผยอยิ้มอย่างเอียงอายและพยักหน้าเล็กน้อย เป็นการตอบรับเขา เขายิ้มให้เธอพร้อมกับที่เขาประชิดตัวเธออีกครั้ง

ริมฝีปากจู่โจมโลมเลียลำคอของเธอเบาๆเพื่อปลุกเร้าอารมณ์, มือของเขาขยำแก้มก้นเนียนนุ่มดึงให้เข้ามาแนบชิดเขา

"เธอสวยไปทั่วตัวเลย ทุกซอกทุกมุม เธอรู้ไหม" เขาพึมพำกับผิวกายเธอที่หอมติดจมูกขณะกำลังหอมแก้มใสแดงละเรื่อนั้น เขารู้ว่าเธอเขินอายกับคำพูดเขา ใช่.....ทุกซอกทุกมุม ก็สิ่งนั้นเขาเพิ่งพิสูจน์ไปเมื่อไม่กี่นาทีที่เพิ่งผ่านมานี้เอง มือของเขาลูบไล้แก่นกายที่เปียกเยิ้มของเธออีกครั้งและนิ้วมือแทบจะทั้งหมดของเขาก็ดุนดันแก่นกายของเธออีกหน

เฮอร์ไมโอนี่ถอนใจหนักๆผ่านเข้าไปในปากเขาเมื่อเขาบดริมฝีปากเข้าครอบคลุมริมฝีปากสีแดงสดนั้น ดวงตาของเธอหรี่ปรือเมื่อเขาแทรกลิ้นเข้าไปยังด้านในของริมฝีปากได้รูปและคราวนี้ลิ้นของเธอก็ตอบสนองอย่างฉับไวกลับปลายลิ้นของเขา

เฮอร์ไมโอนี่เขากระซิบชื่อเธอมือของเธอเกาะบ่าเขาแน่นขณะที่เธอขยับสะโพกเสียดสีกับแก่นกายที่ชูชันของเขาโดยไม่รู้ตัว

มือของเดรโกเลื่อนมาที่ข้อพับของหญิงสาวแล้วงอขาพับขึ้นขณะที่แก่นกายของเขาจรดไปยังแก่นกลางของเธอเขาค่อยดันส่วนนั้นเข้าไปเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนี่ก็สะดุ้งเฮือกความเจ็บปวดเริ่มมาเยือนอีกครั้งแต่คราวนี้มันมากมายเหมือนร่างกายของเธอกำลังจะฉีกขาด เธอร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวด

เดรโก เจ็บ ....เจ็บจังเบาหน่อยเดรโกเม้มริมฝีปากแน่นเขายังคงเดินหน้าต่อไปถึงแม้จะรู้ว่าเธอยังคงเจ็บปวดอยู่แต่เขาไม่มีทางเลือก เขาจับสะโพกของเธอไว้แน่นแล้วสอดใส่ส่วนนั้นของเขาให้ลึกที่สุดจนเกือบหมด

อุ้บเขาได้ยินเสียงเธอร้องจุกด้วยความเจ็บปวด จนเขาต้องดึงร่างเธอเข้ามากอดแทบจะกลายเป็นร่างเดียวกัน เขาตัดสินใจ แช่แก่นกายของเขาไว้นิ่งๆสักพัก เขาก้มลงพรมจูบไปทั่วใบหน้าของเธอเหมือนให้เธอคลายความเจ็บปวด เขาลองขยับส่วนล่างเข้าออกอย่างช้าๆไปมาห้าหกครั้ง สักพักเขาก็ได้ยินเสียงตอบสนองจากเธอเสียงครางที่สร้างความกระสันต์ให้กับเขามากยิ่งขึ้นและสิ่งที่เขาเริ่มแน่ใจว่าเธอคลายความเจ็บเป็นความเสียวซ่านแทนคือสะโพกที่เด้งขึ้นรับยามที่เขาถอนมันออกจากกายเธอ

เมื่อเดรโกเห็นดังนั้นจึงยึดเอวคอดไว้มั่นแล้วดันสะโพกของเขาจากช้าแล้วสาวให้เร็วและแรงยิ่งขึ้นพละกำลังที่หนุ่มแน่นของเขาทำให้เขาสาวสะโพกเข้าออกอย่างต่อเนื่องไม่มีเหนื่อย มือใหญ่หนาของเขาวางบนหน้าอกแล้วบีบเคล้นอย่างมันมือพร้อมๆกับสะโพกของเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน

มือของเฮอร์ไมโอนี่จิกกับผ้าปูที่นอนแน่น เธอกัดริมฝีปากและหลับตาพริ้มปล่อยตัวปล่อยใจรับความกระสันที่เกิดขึ้นอย่างเต็มใจ เดรโกจับท่อนขาเพรียวงามของเธอขึ้นมาพาดบ่า โล้ตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยก่อนจะดันสะโพกเขาขยับเข้าออกอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่ครวญครางดังขึ้น ตัวของเธอเริ่มเกร็งมือของเธอจิกไปที่ท่อนแขนของเขาจนเลือดซิบเขารู้ได้ในทันทีว่าเธอกำลังอยู่ที่ขอบเหวแล้วเขาจึงส่งสะโพกของเขาเข้าออกตัวเธอจนรัวยิบเพื่อส่งเธอไปยังฝั่งได้โดยดีและแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็ตัวเกร็ง ร้องครางออกมาดังลั่นห้อง

อออออออา......เดรโก.....อื้ยยยยยเธอหลับตาคิ้วขมวดและบิดเกร็งสะโพกไปมาสองสามครั้งก่อนแน่นิ่งนอนหอบหายใจสะท้อนไปมาภายในร่องหลืบถูกขับดันไปด้วยน้ำขุ่นขาวและการตอดรัดจากสัดส่วนของร่องหลืบนั้น

เดรโกเองก็รู้สึกได้ว่าตัวเขาเองก็จวนเจียนจะกระฉูดอยู่แล้ว เขาปล่อยขาเพรียวของเธอวางไว้บนเตียงพลางสอดหัวเข่าไว้ที่ข้างตัวของหญิงสาวสองมือยาวเรียวกระชับที่เอวไว้มั่นแล้วเร่งกระแทกสัดส่วนของเขาเข้าออกที่ยิบ แรงกระแทกของเขาคราวนี้มันรุนแรงจนเต้านมเต่งกระเด้งกระดอนไปมาตามแรงกระแทกกระทั้น เฮอร์ไมโอนี่ครวญครางแทบขาดใจขาขาวเนียนของเธอถ่างกว้างเพื่อรองรับสัดส่วนที่กระแทกกระทั้นเข้าไปในตัวเธอ เดรโกเกร็งสะโพกถี่ยิบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ตัวเขาจะเกร็งและกระคุกแล้วกระฉูดน้ำกามชุดใหญ่เข้าไปยังร่องรักของเธอ

เดรโก ร้องครางลั่นห้องอย่างสุขสมผสานไปกับเสียงร้องของหญิงสาวดังคับห้อง เขายังคงบดเบียดสะโพกของขายังไม่ยอมถอนออกมาจากกายเธอเขาเอนตัวลงมาทาบทับหญิงสาวปากยังคงซุกที่ซอกคอขาวผ่องและสะโพกก็ยังคงซุกตัวอย่างสงบไม่ยอมถอนออกมา มือของเขาก็ยังคงคลึงเคล้นที่ทรวงอกทั้งสองอย่างสุขใจ เพียงสักพักที่ทั้งสองอยู่ในลักษณะนี้ เฮอร์ไมโอนี่พยายามดันร่างของเขาที่ยังคงทาบทับตัวเธอให้ออกไป เธอกำลังจะลุกขึ้นอย่างยากลำบากเพราะเดรโกไม่ยอมที่จะปล่อยตัวเธอไปง่ายๆเขาดึงตัวเธอให้มานอนลงอีกครั้งแล้วจูบกระหน่ำเพื่อเร้าอารมณ์เธออีกรอบแต่คราวนี้เธอไม่ยอมอีกต่อไป

หยุดเถอะ ฉันอยากพักเฮอร์ไมโอนี่เอี้ยวคอหลบใบหน้าเธอแดงซ่าน พระเจ้า ถ้าเธอไม่หยุดเขาในตอนนี้เธอคงระบมไปทั้งตัวแน่

ในที่สุดเดรโกหยุดจูบที่กำลังโหมกระหน่ำ และกำลังร้อนเพิ่มขึ้นของพวกเขา เขาช่วยส่งเธอไปยังประตูหน้าห้องของเธอ และเขาพูดข้างๆหูของเธอว่า

ได้โปรดเฮอร์ไมโอนี่ ล๊อคห้องของเธอไว้ซะ เพราะถ้าฉันเข้าห้องเธอได้ฉันจะไม่ยอมให้เธอได้นอนตลอดคืนนี้แน่

เขามอบจูบครั้งสุดท้าย และปล่อยเธอไป เธอปิดประตูห้องและยืนพิงประตู เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอรีบเดินโซเซเหมือนคนหมดแรงไปที่เตียงนอน และซุกอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่นๆ เธอรู้สึกคล้ายกับว่าได้กลับไปอยู่ในอ้อมแขนของเดรโกอีกครั้ง เธอรู้สึกได้ถึงความปวดหนึบๆทั่วร่างกาย โดยเฉพาะท้องน้อยที่ปวดแปลบๆทุกครั้งยามเธอพลิกตัวเธอหวังว่าถ้าเธอนอนพักเต็มอิ่มอาการมันคงจะดีขึ้นในไม่ช้า เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงอย่างอ่อนเพลียแต่กลับมีรอยยิ้มอย่างมีความสุขเต็มใบหน้าของเธอ

-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.--.-.-.-.-.--.-.-.-..-.---..-.-.--..

Dream Girl 5

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1


Chapter 5
หลังจากวันที่ยาวนานในกระทรวง เฮอร์ไมโอนี่กลับไปที่คฤหาสน์มัลฟอย เธอกินมื้อเย็นตามลำพังในห้องของเธอ ชังกี้บอกกับเธอว่าเดรโกติดงาน และเฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจทนกินอาหารเพียงลำพังในห้องขนาดใหญ่ ที่เป็นทางการและน่าอึดอัดแบบนั้นคนเดียว เธอไม่รู้ว่า มัลฟอยทำได้ยังไง เธอเอายาไปให้เขาพร้อมชังกี้ราวๆ 10 นาฬิกาในคืนนั้น โดยไม่มีคำพูดใดๆและไม่แม้กระทั่งชำเลืองมองเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอยรับยาไปกินอย่างขุ่นเคือง
อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่ได้ขว้างแก้วเหมือนตอนนั้นและทำเรื่อง... เฮอร์ไมโอนี่ครุ่นคิด และหยุดความคิดพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ

ราวตีสอง ไม้กายสิทธิ์ของเธอสั่นไหว และ เกิดแสงวาบ มันปลุกเฮอร์ไมโอนี่ให้ตื่น ผู้ติดตามกำลังทำงาน เฮอร์ไมโอนี่วิ่งไปที่ห้องของ มัลฟอย อีกครั้ง เธอนั่งลงที่ปลายเตียงเพื่อยื้อแย่งมือข้างหนึ่งของเดรโก เอามือของเขาออกจากผ้าปูที่นอนที่พันกันยุ่งเหยิง เธอจับมือเขาไว้และกระซิบคาถาซึ่งส่งเธอเข้าไปยังโลกแห่งความฝันของเขาในทันที

เป็นอีกครั้งที่ความฝันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความทรงจำ ที่เธอกำลังค้นหาเกี่ยวกับคำสาปแช่งที่แฮร์รี่ถูกสาปโดยโวลเดอมอร์ แต่มันกลับเป็นความทรงจำที่น่ากลัวอีกอัน ครั้งนี้โวลเดอมอร์ปรากฏตัวในบ้านที่ไม่มีใครรู้จัก เขากำลังทรมานผู้ติดตามที่ภักดีของเขา ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจ เช่นเดียวกับพ่อมดที่เกิดจากมักเกิ้ลที่ถูกจับบางคนที่เธอเคยเห็น

เฮอร์ไมโอนี่กังวลที่จะพาตัวเธอเอง และ มัลฟอย ออกไปจากฉากที่น่าสะพรึงกลัวนี้ เป็นอีกครั้งที่เธอจับมือของเดรโกและบีบมันแน่น พวกเขาทั้งคู่หกคะเมนไปด้วยกัน ไปยังที่นั่งกำมะหยี่ในโรงละคร เฮอร์ไมโอนี่มองไปรอบๆ เห็นคลื่นใบหน้ายิ้มแย้มของคนส่วนใหญ่ที่เป็นผู้หญิงที่อยู่ในโรงละคร เธอมองไปที่ มัลฟอย ซึ่งนั่งอยู่ถัดจากเธอ และเธอยิ้มให้เขาอย่างหวานชื่น ดวงตาของเขาเพ่งพิจารณาความรื่นเริงใจของเธอ และเขาเกือบจะพูดบางอย่างเมื่อม่านบนเวทีเปิดขึ้น ไม่นานนักผู้หญิงร่างท่วมคนหนึ่งเดินขึ้นไปตรงไมโครโฟน เสียงปรบมือในโรงละครขนาดใหญ่ดังขึ้น และ ผู้หญิงคนนั่นเริ่มพูด
ขอบคุณ! ขอบคุณ ท่านสุภาพสตรีและท่านสุภาพบุรุษเพียงน้อยนิดที่ฉันเห็น! ยินดีต้อนรับทุกๆท่านสู่การแสดงครบรอบ 5 ปีของวาจีน่า โมโนล็อก!

มัลฟอยขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังดวงตาของเฮอร์ไมโอนี่ ในทันทีที่เธอโบกมือให้เขา และปล่อยมือเขาไป เธอพบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนเตียงของมัลฟอย และมองดูชายที่ซึ่งกำลังหลับใหล มัลฟอยไม่ได้ฟาดฟันผ้าปูเตียงไปทั่วทุกทิศทาง อีกต่อไปแล้ว แต่ใบหน้าในยามหลับของเขาดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกว้างและกลับไปที่ห้องของเธอ เธอรู้สึกพอใจที่เธอพาเขาไปยังสถานที่นี้ เธอยังไม่วางใจในตัวเขาเท่าไหร่นักถึงแม้ว่าเขาจะรับปากกับเธอแล้วก็ตาม เธอหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าที่ บูดบึ้งไม่พอใจของเขา

มัลฟอยคงจะฝันถึงการแสดงของ วาจีน่า โมโนล็อกยืดยาวเป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมง เธอเคยดูการแสดงนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในการเดินทางกระชับความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก มันเป็นงานใหญ่ถ้าคุณเป็นผู้หญิง สำหรับเหตุผลบางประการ เธอรู้ว่า มัลฟอย คงจะไม่พอใจนัก

เช้าวันถัดมาเฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว เมื่อมัลฟอยเดินเข้ามาในห้องอย่างสง่าผ่าเผย เธอตกตะลึงจากความสมบูรณ์แบบและความไร้ที่ติที่เขาเป็นอยู่ เธอกวาดตามองไปตามรูปหน้ายาวๆของเขา และชื่นชมกับการได้รับรู้ถึง ท่าทีสง่างามเรียบง่ายที่เธอเห็น

เขาเพียงแค่คำรามตอบ เมื่อเธอกล่าวทักทายเขาในตอนเช้า ด้วยเสียงที่เหมือนกับคนร้องเพลง เขาทิ้งตัวลงนั่งในเก้าอี้ และใบหน้าของเขา คล้ายกับจมลงในกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เขาอ่านอยู่

เฮอร์ไมโอนี่เข้าใจความหมายในทันที และหลังจากทานอาหารเสร็จอย่างเงียบๆ เธอเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย เกี่ยวกับเรื่องล้อเล่นขำๆของเธอ มัลฟอย ต้อนรับเธอในฐานะเจ้าบ้าน และเธอไม่รู้ว่าเขาจะมีอารมณ์ขันเช่นเดียวกับเธอหรือเปล่า บางทีเธอไม่ควรอย่างนั้นเลย เธอควรใคร่ครวญก่อนชั่วครู่ จากนั้นโดยไม่รู้สึกตัว เธอเชิดคางขึ้นเป็นการท้าทาย มันก็แค่เรื่องล้อเล่นธรรมดา ถ้าเขาเริ่มโกรธ เขาก็แค่ไปให้พ้น อีกอย่างนี่มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่เขาเคยทำกับเธอนั่นมันสาหัสเสียกว่าอีก การคุกคามเธอ การแตะต้องตัวเธอ เธอแทบจะสะดุ้งในทันที เธอรีบออกจากห้วงความคิดที่ท้าทายของเธอ นั่นก็เพราะมัลฟอยรับรู้ทีท่าที่เธอแสดงออก และเขาบ่นพึมพำจากด้านหลังของหนังสือพิมพ์

ช่วยพูดอีกครั้งได้ไหมเฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา ยากที่จะซ่อนความเบิกบานใจเอาไว้

ฉันได้ยินไม่ชัด

ฉันพูดว่า...มัลฟอยคำราม เหวี่ยงหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ

ชายหาดก็ดีอยู่แล้ว!เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เธอกัดริมฝีปากของตัวเองเพื่อกลั้นหัวเราะ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ เธอเพ่งสมาธิของเธอทั้งหมดให้อยู่ที่การทาเนยขนมปังปิ้ง

เธอคิดว่ามันสนุกมากใช่ไหม?” เขาพูดจ้องดูเธอ เฮอร์ไมโอนี่จับคางของตัวเองชั่วครู่ และขมวดคิ้ว

ไม่สนุกนักหรอกเธอพูดอย่างไตร่ตรอง

ปกติแล้วไม่...จริงๆ และฉันก็ไม่สนุกเลย เว้นแต่เมื่อคืนนี้ ฉันว่ามันเป็นเวลาที่ฉันรู้สึกตลก น่าขันอย่างที่สุดเธอทนไม่ไหวอีกต่อไปและยิ้มกว้างให้เขา อย่างน่าประหลาดใจเฮอร์ไมโอนี่มองเห็น ในขณะที่เขาพยายามกลั้นยิ้มอย่างหนัก ซึ่งในที่สุดเขาก็ทำไม่ได้

ใช่ อื่มมัลฟอยพูดผ่านรอยยิ้มของตัวเอง

ฉันเตรียมตัวที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อเธออย่างที่สุด ตราบเท่าที่ฉันจะไม่ลงเอยกับการแสดงของผู้หญิงแบบนั้นอีกต่อไป พระเจ้ารู้ว่าถ้าฉันไล่เธอไปอีก เธออาจจะปล่อยฉันในความทรงจำตอนทำบิกีนี่แว็กซ์ครั้งล่าสุดของเธอเดรโกหดตัว จากนั้นเอนหลังกลับไปและหยิบหนังสือพิมพ์ในส่วนภาคธุรกิจมาอ่าน

เป็นความคิดที่ดีนะ มัลฟอยเธอพูดอย่างสดใส รอยยิ้มกว้างในขณะที่เธอยืนขึ้นเพื่อจากไป

ฉันไม่ได้คิดถึงมันเขากลอกตาและฝังจมูกลงในหนังสือพิมพ์อีกครั้ง

ในขณะที่เธออกไปจากห้องอย่างไรก็ตามเขาเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์โดยอัตโนมัติ ดวงตาของเขาอ้อยอิ่งอยู่บริเวณบั้นท้ายและด้านหลังของเธอในขณะที่เธอออกไปจากห้องอย่างสง่างาม เขาเขย่าเตือนตัวเองหลังจากที่เธอเลี้ยวตรงมุมออกไปนอกสายตาของเขาแล้ว เขาพยายามจดจ่อที่จะอ่านหนังสือพิมพ์อีกครั้ง อย่างไรก็ตามความคิดของเขายังคงวนเวียนอยู่กับผมสีน้ำตาลแดงเหมือนเส้นไหม สะโพกกลมกลึงและดวงตาสีน้ำตาลทองแดง

สองถึงสามสัปดาห์ต่อมาเป็นไปตามแบบแผนและผ่านไปอย่างปกติ เฮอร์ไมโอนี่ให้ตัวติดตามความทรงจำแก่เดรโกในยานอนหลับทุกคืน เธอต้องเจอความทรงจำโหดเหี้ยมนับไม่ถ้วนจากความทรงจำในวัยเด็กและตอนเป็นผู้ใหญ่

เธอดึงเขาขึ้นจากฝันร้ายไปยังที่ที่ปลอดภัยที่เขาจะได้ฝันและนอนหลับและตื่นอย่างสดชื่นและได้รับการพักผ่อน รอยคล้ำใต้ตาเขาเลือนหายไปแล้วซึ่งรวมถึงความซีดเซียวในตัวเขา เขามีแนวโน้วที่จะมีอารมณ์ดีกว่าปกติ

ระหว่างวันพวกเขายังคงสามารถเข้ากันได้ดีและแม้กระทั่งเป็นเพื่อนกัน เมื่อพวกเขากินอาหารเย็นด้วยกันพวกเขาจะพูดคุนกันถึงเรื่องวันวานเก่าๆที่ฮอกวอตส์ หรือ สิ่งที่แต่ละคนทำหลังจากสงครามสิ้นสุดลง เฮอร์ไมโอนี่พบว่าเดรโกฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เขาสามารถพูดคุยโต้ตอบกับเธออย่างเปิดเผยแทบจะทุกสิ่ง เขามีไหวพริบที่ว่องไว และบางครั้งเขาทำให้เธอไม่อาจคาดคิดได้จริงๆ

เช้านี้เธอกินอาหารเช้ากับเดรโก เธอกำลังคิดถึงเขาในแบบที่เป็นเดรโกมากกว่า มัลฟอย เขาดูแตกต่างจาก มัลฟอย อารมณ์ร้ายและอันตรายที่เธอรู้จักที่ฮอกวอตส์

พวกเขาถกเถียงกันเรื่องกฎหมายใหม่ของวิเซ็นกามอตส์ ที่บังคับให้แม่มดและพ่อมดทั้งหลายจ่ายภาษีเพื่อดูแลสิ่งมีชีวิตที่แก่ชราและไม่แข็งแรงในโลกเวทมนตร์ เดรโกไม่พอใจกฎหมายนี้ และเปิดใจว่ามันไร้สาระ ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่คิดว่ามันมีเหตุผลอย่างที่สุด และอย่างน้อยพวกเขาน่าจะพิจารณาถึงสภาพความเป็นทาสของสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสารที่ติดอยู่ตลอดชีวิตของพวกเขา

ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต หลังจากเสร็จสิ้นภาระหน้าที่และความจงรักภักดี เอลพ์ประจำบ้าน 68.4 เปอร์เซ็นต์ถูกปลดปล่อยจากการได้รับเสื้อผ้า แต่พวกเขาไม่ได้รับแม้กระทั่งแค่คำขอบคุณ!

20 นาทีต่อมาเดรโกเดินออกไปจากห้องอาหารเช้า เขาไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจ ราวกับว่าเขากลัวที่จะเหลียวหลังกลับมาเจอเฮอร์ไมโอนี่ เธอเริ่มกล่าวคำปราศรัยของเธออีกครั้ง เขาก้มมองลงไปยังเข็มกลัดติดปกเสื้อสีดำมันวาวขนาดเล็กของเขา ตัวอักษรสีขาวเป็นระเบียบสะกดคำว่า ส.ร.ร.ส.อ. ปรากฏอยู่บนเข็มกลัด เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหัวในขณะที่เธอมองไปที่เขา เธอไม่แน่ใจว่าเขาเพิ่งติดเข็มกลัดคำว่า ส.ร.ร.ส.อ. เพื่อทำให้เธอหยุดพูด หรือเขาเริ่มเข้าใจถึงสภาพเลวร้ายที่เอลฟ์ประจำบ้านได้เจอกันแน่ เธอหยุดพูดและถอนหายใจออกมาอย่างยอมจำนน
เขาอาจจะติดมันมาก่อนหน้านี้ก็ได้เธอคิด เช้าวันนั้นเธอถามชังกี้เกี่ยวกับแผนการชีวิตข้างหน้ายามแก่เฒ่าของชังกี้
เราเอลฟ์ประจำบ้านตระกูลมัลฟอย อยู่ในครอบครัวตลอดไป แม้ว่าเราเจ็บป่วยหรือแก่เกินกว่าจะรับใช้แต่นายท่าน มัลฟอย ย้ำชัดเจนว่า เอลฟ์ที่เลิกทำงานจะมีบ้านอยู่ที่คฤหาสน์มัลฟอย ตราบนานเท่าที่เอลฟ์จะมีชีวิตอยู่

จากเหตุผลบางข้อ เธอรู้สึกภูมิใจในตัวเดรโก หลังจากที่เธอได้คุยกับชังกี้ เธอพยายามเก็บความรู้สึกในขณะที่เธอให้คำปรึกษาว่าเอลฟ์ไม่เคยได้รับสิ่งใดตอบแทน และต้องแน่ใจที่จะมีแผนการสำรอง เอลฟ์มองเธอราวกับว่าเธอเป็นคนโง่ แต่เห็นด้วยว่าเธอน่าจะติดต่อญาติห่างๆบ้าง เฮอร์ไมโอนี่ออกไปจากคฤหาสน์ด้วยความสุขและไร้กังวล

เธอยังคงอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน หลังจากใช้เวลาวุ่นๆอยู่ที่กระทรวง เธอไปที่บ้านของแฮร์รี่กับจินนี่หลังจากเลิกงานเพื่อไปตรวจดูว่าแฮร์รี่เป็นอย่างไรบ้าง การได้เห็นแฮร์รี่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หายจากอารมณ์ผ่อนคลายที่เธอมีตลอดทั้งวัน เขาไม่เคยดูแย่เท่านี้มาก่อน

ขณะที่เธอฝืนแสดงสีหน้ากล้าหาญ ในเวลาที่อยู่กับคนทั้งคู่ ที่สุดแล้ว เธอก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ หลังจากที่เธอกลับออกจากบ้านของแฮร์รี่ หลังจากที่เธอกลับไปยังคฤหาสน์ ทุกอย่างที่เธอทำได้คือไปที่ห้องของตัวเอง เธอทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าโซฟา และ ระเบิดน้ำตาออกมา

แฮร์รี่กำลังพ่ายแพ้ การสู้ต่อคำสาปแช่ง และสิ่งที่เขาต้องเผชิญ มันทำให้เธอเหมือนถูกอิฐจำนวนมากกระแทก เธอมองเพื่อนรักที่สุดกำลังจะตาย และเธอไม่อาจหยุดมันได้ เธอไม่รู้ว่าเธอจะนั่งอยู่ตรงนั่นได้นานแค่ไหน ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างควบคุมไม่ได้ เธอไม่อาจหยุดและไม่ต้องการจะหยุดร้องไห้ เธออดกลั้นมานานแล้ว และในตอนนี้การได้เห็นแฮร์รี่อ่อนแอลงทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าเขากำลังจะตายในไม่ช้า

เขาไม่สมควรที่จะตาย เขาผ่านพ้นเรื่องราวต่างๆมากมายในช่วงชีวิตอันสั้นของเขา และในตอนนี้เมื่อเขาสามารถที่จะมีความสุขหลังจากสงครามสงบ เขากับต้องพบว่าตัวเองจะตายก่อนวัยอันควร ความคิดต่างๆเริ่มทำให้เธอสะอื้นอีกครั้ง ใบหน้าของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาอย่างขมขื่น

ในฉับพลัน มัลฟอย อยู่ตรงนั้น เขาโอบกอดเธอด้วยแขนที่แข็งแกร่งของเขา ใบหน้าของเธอซบอยู่ที่ไหล่ของเขาขณะเดียวกับที่เขายกเธอขึ้นนั่งลงบนตัก เขายกมือขึ้นลูบผมเธอเบาๆเพื่อปลอบใจในตอนที่เธอร้องไห้ เขากอดเธอไว้แน่นกอดเธออย่างอ่อนโยน

ชู่ส์เขาบอกกับเธอ

ไม่เป็นไรแล้ว มันกำลังจะดีเขาตบหลังเธอเบาๆ ด้วยมือข้างที่ว่าง ราวกับว่าเธอเป็นเด็กเล็กๆที่มีแผลที่หัวเข่า
หลังจากนั้นเป็นเวลานานจากความเหนื่อยล้า เสียงร้องไห้ของเธอค่อยๆลดน้อยลงและเงียบไปในที่สุด

เธอรู้สึกปลอดภัยและมั่นคงอย่างประหลาดที่นั่งอยู่ตรงนั้น ถูกโอบกอดโดยชายคนหนึ่งที่เธอคิดเสมอว่าเขาเป็นศัตรู ดวงตาของเธออิดโรยเพราะความเหนื่อยล้า ทั้งหมดเกิดจากความสบสนทางอารมณ์และการนอนที่ไม่เพียงพอของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้ขัดขืนเมื่อเขาอุ้มเธอไปที่เตียง เขาวางเธอลงและเธอเงยหน้ามองเขาผ่านหนังตาหนักๆเพื่อให้เห็นใบหน้าชัดเจนขึ้น

เธอคงต้องหาคำพูดซักคำเพื่ออธิบายว่าเขาดูเป็นยังไง และคงจะเรียกมันว่าหลอกหลอนได้ในขณะหนึ่ง ในช่วงวินาทีเธอเห็นความเสียใจและความเจ็บปวดในดวงตาของเขา ก่อนที่เขาจะดึงผ้าห่มขึ้นจนถึงไหล่ของเธอและหันกลับออกไปจากห้อง

เดรโกเธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือ เสียงนั้นดังอยู่ในห้องที่เงียบสงัด เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเรียกเขาให้กลับมา ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเรียกเขาว่า เดรโก แทนที่จะเป็น มัลฟอย เธอรู้แค่เพียงว่า เธอไม่อาจทนให้เขาจากไปได้ เสียงของเธอสั่นด้วยความอ่อนเพลียพร้อมด้วยน้ำตาที่ไหลรินออกมา

เขาหันกลับมาอย่างช้าๆ เพราะเสียงเรียกของเธอราวกับว่าเขากลัวที่จะหันมาและเห็นเธออีกครั้ง ดวงตาสีเทาที่เป็นประกายจ้องมองไปที่เธอด้วยความลังเล ความเศร้า และบางทีอาจจะด้วยบางสิ่งที่เหมือนกับจะเป็นการคาดหวังให้เกิดความลึกซึ่งใดๆ

ได้โปรดเสียงเธอเบาเกือบจะกระซิบ

อย่าไปเฮอร์ไมโอนี่พยายามทำเสียงให้เป็นปกติ ราวกับว่าเธอไม่ได้ขอร้อง เธอรู้ดีว่าถ้าเขาไม่อยู่เธอคงจะไม่
สามารถทนมันได้

เดรโกยืนนิ่งตรงที่เขายืนอยู่ที่หน้าประตูและหันไปทางเธอ เขาลูบที่ปากของตัวเองเบาๆ ดูเหมือนคิดทบทวนให้ดี ก่อนที่จะพูดบางอย่างกับเธอ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงและเดินกลับไปที่เตียงของเธอ ทิ้งตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆเตียงของเธอ และยืดขายาวๆของเขาออกไปข้างหน้า ไขว้ข้อเท้าและส่งรอยยิ้มที่ดูไม่สมดุลนักให้เธอ เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มกลับไปให้เขา เธอวางหัวลงบนหมอน เพียงไม่นานดวงตาของเธอเริ่มปิดลง เธอกำลังฝันเห็นหนังสือ...ไม้กวาดมากมาย และดวงตาสีเทาเป็นประกาย...

เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งตื่นขึ้น เธอมองไปรอบๆ สายตาของเธอประสานกับการเพ่งมองของเดรโก มัลฟอยผ่านความมืด เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงมือของเขาที่วางอยู่บนมือของเธอ และเขายังอยู่ตรงนั้นที่ๆเธอปล่อยให้เขานั่งก่อนที่เธอจะหลับไป สายตาของเฮอร์ไมโอนี่ตรวจสอบมือของเขาที่วางอยู่บนมือของเธออย่างละเอียด ในทันทีที่รู้ว่ามือของเขาอยู่ตรงไหน เดรโกรีบยกมือของเขากลับราวกับว่ามันจะถูกไฟเผา
เดรโกเหรอ กี่โมงแล้วเธอถาม พยุงตัวขึ้นด้วยข้อศอก เธอใช้มือข้างหนึ่งจับผมที่เหมือนเส้นไหมของเธอออกจากไหล่โดยอัตโนมัติ

ฉันเดาว่าคงใกล้เที่ยงคืนเขาตอบ

นายล้อเล่นใช่ไหม!เธอลุกขึ้นนั่งตัวตรงด้วยความตกใจ

ทำไมนายไมปลุกฉันล่ะเขาเพียงแค่หยักไหล่และส่งยิ้มที่ไม่สมดุลให้เธออีกครั้ง

ดูเหมือนว่านายต้องการที่จะพักผ่อนบ้างแล้วล่ะเฮอร์ไมโอนี่จับจ้องเขาในความมืดมิด

ทำไมนายยังอยู่ที่นี่ล่ะ

ก็เธอบอกให้ฉันอยู่เขาพูดราวกับว่ามันเป็นคำถามโง่ๆ

นายเหนื่อยหรือเปล่า

เหนื่อยนิดหน่อยเขาตอบ ใช้มือลูบผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยของเขาให้เข้าที่

แต่ดูเหมือนว่าฉันคงนอนไม่ได้ถ้าไม่มียานอนหลับ

โอ้เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างเงียบๆ

คืนนี้เรายังไม่ให้ยานอนหลับกับนายเลย เดรโกฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะหลับไป ฉันไม่รู้ตัว

ไม่ต้องโทษตัวเองหรอกตอนนี้เขายืนขึ้นแล้ว ยืดเส้นยืดสายหลังจากที่นั่งอยู่ที่เดิมมานาน

ทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะดวงตาของเธอเคลื่อนมองไปที่เขา ที่ตอนนี้นั่งลงที่ปลายเตียงของเธอ เดรโกไม่ได้พูดอะไร
อีก เขาแค่รอฟังเธอ

อ้า ฉันเข้าใจแล้วมัลฟอยพูด ขณะที่เขายืนกอดอก

นายเข้าใจอะไรเฮอร์ไมโอนี่ถาม

พอตเตอร์ใช่ไหมมัลฟอยพูดราวกับว่ามันเป็นคำเดียว ที่เขาไม่ต้องการคำอธิบายใดๆอีกต่อไป

เธอก็รู้ เกรนเจอร์ เธอไม่อาจควบคุมทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ และ ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่อาจควบคุมว่ามันจะเกิดขึ้นกับ
ใครมัลฟอยพูดเพราะเขาฉลาดพอที่จะอ่านความคิดของเธอออก น้ำตาและความผิดหวังเกิดขึ้นเพราะเธอไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้

แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่เคยหยุดความพยายามของเธอเฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองดูเขา คาดว่าจะพบรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา แต่เธอก็ต้องแปลกใจที่ได้เห็นเขาเพ่งมองเธออย่างวิตกกังวล

จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งหนึ่งที่ฉันยกย่องในตัวเธอมากที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ประหลาดใจกับคำพูดนั้นของเขา ซึ่งมันทำให้ตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง

โอ้ เมอร์ลิน เฮอร์ไมโอนี่ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอร้องไห้อีกเขาพูดด้วยเสียงเกือบจะตกใจ เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเพราะสีหน้าร้อนรนของเขาและยิ้มกว้างให้เขาผ่านดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอ

โอ้ อย่างกังวลไปเลย มัลฟอย ฉันจะไม่ร้องไห้อีกแล้วล่ะ

ขอบคุณพระเจ้าเดรโกพูดเนิบๆ

ฉันต้องใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีกว่าจะเอาขี้มูกยืดๆของเธอออกไปจากเสื้อได้

โอ้ยเขาร้องเมื่อเฮอร์ไมโอนี่ชกที่ไหล่ของเขาแรง

ฉันไม่ได้ป้ายขี้มูกใส่นายสักหน่อย!เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างขุ่นเคืองใจผ่านรอยยิ้มของเธอ

ก็ได้ ก็ได้ สุดแล้วแต่เธอเถอะเดรโกยอมอ่อนให้กับเธอ เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะเยาะเขา และยิ้มออกมาอีกครั้ง

เรื่องตลกของเขาเป็นไปตามที่เขาตั้งใจ และมันทำให้เธอหยุดร้องไห้ เธอเล่าให้เขาฟังว่า เขาไปเยี่ยมแฮร์รี่กับจินนี่ และเธอก็ต้องประหลาดใจที่เขาฟังเธอพูด เขาไม่ได้ยิ้มเยาะในขณะที่เธอพูดถึงเพื่อนที่ป่วยอยู่ของเธอหรือทำให้มันเป็นเรื่องตลก เขาแค่ฟัง... เฮอร์ไมโอนี่พลั่งพรูความรู้สึกกลัวให้เดรโกรู้ เธอไม่แน่ใจนักว่าทำไมถึงไว้ใจเขาและเธอเชื่อเขา เธอเล่าว่าแฮร์รี่ป่วยแค่ไหน เล่าว่าจินนี้ต้องดูแลเขาตอนกลางวันและกลางคืนเช่นเดียวกับที่ต้องดูแลลูกสาววัยหนึ่งขวบ เล่าว่าแฮร์รี่รู้สึกเป็นภาระให้แก่จินนี่มากแค่ไหน และเขารู้สึกไร้ค่าที่ไม่อาจช่วยดูแลลูกของพวกเขาเองได้

เดรโกรับฟังอย่างตั้งใจ ถามเพื่อความกระจ่างในสิ่งที่เขาไม่รู้จากสิ่งที่เธอพูดและพยักหน้าเมื่อเขาเข้าใจ เธอไม่อาจห้ามน้ำตาได้อีกครั้ง เมื่ออธิบายว่าแฮร์รี่ระเบิดความผิดหวังออกมายังไงในตอนที่มือของเขาสั่นมากขึ้น ขณะที่เขาหั่นอาหารกินตอนมื้อเย็น เดรโกนั่งบนเตียงนอนของเธอและเป็นอีกครั้งที่เขากอดเธอในขณะที่เธอร้องไห้

เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ความเงียบกลับเข้ามาอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัวเอาความกลัวทั่งหมดเกี่ยวกับแฮร์รี่มาสุ่มให้เขา เธอถามเขาเกี่ยวกับคฤหาสน์มัลฟอย ถามเกี่ยวกับชีวิตในวัยเด็กที่เขาผ่านพ้นมา ก่อนที่เขาจะไปที่ฮอกวอตส์

เดรโกเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับชีวิตในวัยเด็ก เขาเล่าเรื่องของแม่เป็นส่วนมาก เล่าว่าเธอรักเขามากเกินไปและตามใจเขาจนเสียคน

ห้องนี้เป็นห้องของแม่เขาบอกและมองไปรอบๆห้องที่มืดมน ราวกับว่าเขามองเห็นช่วงเวลาที่เขาและแม่อยู่ร่วมกัน

เธอเคยนั่งบนโซฟาตรงหน้ากองไฟและอ่านหนังสือให้ฉันฟังเป็นชั่วโมงเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ถึงอารมณ์บางอย่างใน
น้ำเสียงของเขา เธอรับรู้ว่าเขากำลังโล่งใจในช่วงเวลาที่อยู่กับแม่ เขาดูเหมือนเขย่าตัวเองเพื่อเรียกสติก่อนที่จะเล่าต่อไป

เธออยากมีลูกหลายคน หลังจากที่เธอมีฉัน เธอแท้งลูกอีกหลายครั้ง ในที่สุดพวกเขาก็ล้มเลิกความหวังที่จะมีลูกอีก ฉันคิดว่าตั้งแต่นั้นมาฉันกลายเป็นทุกๆสิ่งสำหรับเธอ ฉันหมายถึงตอนที่ฉันอายุแค่เจ็ดหรือแปดขวบแต่เธอทุ่มเททุกๆเรี่ยวแรง ทุกๆความรักให้แก่ฉัน

พ่อของนายไม่รู้หรือว่านายว้าวุ่นใจแค่ไหนเฮอร์ไมโอนี่ถาม และเข้าใจในทันทีว่าการเอ่ยถึง ลูเซียส มัลฟอยเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่จะพูด

ลูเซียส...เขาพูด ไม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อ

เขาตำหนิเธอที่ไม่สามารถอุ้มท้องลูกอีกคนจนครบกำหนดได้ เขาจะพูดเหน็บแนมแม่ทุกๆครั้งที่เขาทะเลาะกัน จากนั้นก็จะเมินเฉยต่อน้ำตาของแม่ พร้อมกับถอนหายใจแสดงถึงสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นความอ่อนแอแบบปกติวิสัยของเธอดวงตาของเดรโกมืดมัวไปด้วยความโกรธในขณะที่เขาพูดต่อ

เขารับใช้ โวลเดอมอร์เจ้าศาสตร์มืด พลังและความบริสุทธิ์ที่เขาแทบจะไม่เห็นในตัวของแม่หรือฉัน นอกเสียจากว่าเราจะเป็นหนทางไปสู่สิ่งเหล่านั้นดวงตาของเขามืดมัวด้วยความเจ็บปวดและความโกรธ เฮอร์ไมโอนี่ รู้ว่าเขานึกถึงบางสิ่งที่เขาไม่ต้องการจะพูดถึง

ฉันคิดว่าแม่เสียใจที่แต่งงานกับเขา เธอรับรู้มันได้หลังจากที่พวกเขาแต่งงานกันหนึ่งปีมาแล้ว ฉันเกิดได้ 1 ปีครึ่งและพวกเขาไม่มีลูกอีกตั้งแต่นั้นเดรโกจดจ่ออยู่กับความทรงจำของแม่ เขาพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ชอบและชื่นชมมาก การรำลึกถึงอดีต ความรู้สึกสบายๆในห้องของเธอ พูดถึงนาร์ซิสซา มัลฟอย

ผู้หญิงซึ่งมีเงินทอง และทรัพย์สมบัติมากมาย เธอจะตกแต่งห้องของตัวเองยังไงก็ได้ตามที่เธอต้องการ เธอตกแต่งห้องได้ขัดแย้งกับห้องทั้งหมดในบ้านซึ่งดูเป็นพิธีรีตองมากเกินไปและน่าอึดอัด การเดินเข้าไปในห้องของเธอทำให้รู้สึกแตกต่างเหมือนกับกลางคืนกับกลางวัน เดรโกพูดถึง นาซิสซาในแบบที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกคล้ายกับว่ารู้จักเธอมาก

รวมทั้งการนั่งอยู่ในห้องของเธอยิ่งทำให้รู้สึกราวกับว่าทั้งหมดเป็นความจริงมากขึ้น เดรโกพูดว่าเธอดีเลิศแค่ไหน ที่พยายามสร้างโลกให้กับเขา เธอพยายามปกป้องเขาจากอันตรายที่พ่อทำให้มันเกิด มากเท่าที่เธอจะทำได้ และเล่าเรื่องผิดหวังอย่างมากในช่วงวัยแรกรุ่น จนถึงวัยรุ่นของเขา

ในช่วงเลานั้นเดรโกยอมรับว่า เขาไม่ต้องการสิ่งใดเว้นแต่ความเอาใจใส่ และความรักของพ่อเท่านั้น

ฉันได้แต่คิดว่าทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้พ่อพอใจคือการเป็นเหมือนเขาเดรโกพูดอย่างเย้ยหยันพร้อมส่ายหัว เขาย้อนคิดช่วงวัยเด็กของเขาครู่หนึ่ง

ตอนนั้นฉันผลักไสแม่ออกไป ฉันฟังคำของพ่อที่บอกว่าเธออ่อนแอ และเชื่อว่าตัวเองจะต้องแข็งแกร่งให้ได้แบบพ่อ ฉันต้องขจัดความอ่อนแอในตัวเองและความรักที่มีให้แก่แม่ออกไป เขาปิดตา ก้มหัวลงเล็กน้อย เป็นนาทีก่อนที่จะเริ่มพูดอีกครั้ง

ตอนฉันอายุ 16 ในที่สุดฉันก็เริ่มสงสัยในตัวของ ลูเซียส และความคิดผิดแปลกของเขาในเรื่องอำนาจและความรักเดรโกยืนขึ้นและเดินกลับไปกลับมา ในห้องอย่างช้าๆในขณะที่เขาพูด ใช้มือปัดผมไปทั่วในบางครั้ง ราวกับว่าเขาจะสามารถขจัดความทรงจำต่างๆออกไปได้ด้วยการทำเช่นนั้น

เมื่อฉันเริ่มไม่เชื่อฟังเขา และปฏิเสธที่จะทำตาม เขาใช้อาวุธสูงสุดกับฉัน เพื่อให้ทำในสิ่งที่เขาต้องการ เขาพูดว่า เขาจะพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าฉันโง่ยังไงที่รักแม่ เขาใช้แม่เพื่อบังคับฉันเขาพูดถึงขุมนรกที่เขาและแม่ต้องพบเจอในขณะที่ ลูเซียส ผู้เลวทราม พยายามควบคุมเขา มันช่างทำให้เสียเกียรติ เจ็บปวดทรมาน และ โดยเฉพาะเมื่อลูเซียสตัดสินใจที่จะพิสูจน์ นั่นก็คือการทำร้ายแม่

ทุกๆครั้งที่เดรโกไม่ยอมเชื่อฟังหรือขาดความกระตือรือร้น แม่ของเขาต้องเป็นผู้รับเคราะห์ เดรโกย้อนคิดถึงช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อเขาเผชิญหน้ากับพ่อ พร้อมที่จะสู้กับเขา และลงโทษเขาหรือแม้กระทั่งฆ่าเขาเพื่อปกป้องแม่ ลูเซียสหัวเราะและเสกคาถาป้องกันที่ทำลายไม่ได้ล้อมรอบตัวเขาเอง และ นาร์ซิสซา เดรโกต้องฝืนทนดูในขณะที่ลูเซียสทำร้ายเธออย่างรุนแรง และมันจะรุนแรงมากขึ้นไปอีกสำหรับความพยายามของเดรโกที่จะหยุดเขา

ในที่สุดเดรโกตกอยู่ในความเงียบ เขาอาจจะไม่ต้องการหรือไม่เต็มใจที่จะเล่าให้เธอฟัง เกี่ยวกับชีวิตวัยเด็กที่ยุ่งยากของเขา เฮอร์ไมโอนี่รับรู้ได้ว่าต้องเปลี่ยนความเงียบด้วยการเล่าเรื่องพ่อและแม่ของเธอ

ในทีแรกเดรโกเงียบ แต่ในไม่ช้าเขาถามคำถามเกี่ยวกับการถูกอบรมสั่งสอนแบบมักเกิ้ลของเธอก่อนที่จะเข้าฮอกวอตส์ เมื่อเธอพูดถึงพ่อแม่ของเธอซึ่งต้องการเป็นนักไต่เขา เขาทึ่งกับการบรรยายถึงการตั้งแคมป์แบบมักเกิ้ลของเธอ

ถ้าอย่างนั้นภายในเต็นท์ก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าที่มันเป็นใช่มั้ย มันใหญ่แค่พอจะจุเตียงผ้าใบได้แค่สองเตียงเท่านั้นเองเหรอ แล้วเธอจะแช่อาหารในตู้เย็นหรือทำอาหารโดยไม่มีครัวได้ยังไงล่ะ และห้องน้ำล่ะอยู่ที่ไหนเมื่อเธออธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับอาหารกระป๋อง, ทำอาหารด้วยการก่อไฟ และใช้ที่โล่งเป็นห้องน้ำ เขาดูตกใจ

เกรนเจอร์ มันล้าสมัยมาก!ทั้งสองคนคุยกันหลายชั่วโมงจนเพลีย พวกเขาเลยนั่งเงียบๆเป็นเวลานาน
ในที่สุดเดรโกลุกขึ้นและพูดว่า ถึงเวลาที่เขาต้องไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดเขาลงเอยด้วยการนอนข้างๆเฮอร์ไมโอนี่ นอนอยู่ด้านบนของหมอนที่เธอหนุน คอยปลอบเธอ หลังจากที่พวกเขาไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก สองถึงสามชั่วโมงต่อมา เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่นาฬิกาและเห็นว่ามันเกือบจะตีสามแล้ว เธอลุกขึ้นนั่ง เธอกับเดรโกรลุกเดินไปยังประตูที่เชื่อมห้องของพวกเขาไว้

อื่มเฮอร์ไมโอนี่พูด คล้ายกับว่าเธอกำลังพูดราตรีสวัสดิ์หลังจากเดทครั้งใหญ่ครั้งแรก

ฉ-ฉันดีใจที่เราได้คุยกันใน...หลายเรื่อง ขอบคุณที่ปล่อยให้ฉันร้องไห้และระบายให้นายฟังเดรโกเอื้อมมือขึ้นไป และปัดผมสีทองแดงลอนออกไปจากแก้มของเธอ เขาลูบผมลอนนุ่มเหมือนเส้นไหมระหว่างนิ้วมือของเขา จากนั้นดวงตาของเขาฝังแน่นเข้าไปในดวงตาของเธอ สื่อความหมายเป็นคำพูดนับพันอย่างเงียบๆ แต่เมื่อเขาปริปากพูดมันออกมา มีเพียงแค่คำไม่กี่คำ

ได้ทุกเมื่อ เกรนเจอร์ด้วยรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง เขาหันกลับไปและเดินเข้าไปในห้องนอนของเขา เฮอร์ไมโอนี่ปิดประตูและเอนหลังพิงประตูอยู่อย่างนั้น เธอปล่อยลมหายใจที่เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังกลั้นมันอยู่ เธอคิด...ทำไมเธอจึงรู้สึกผิดหวังเมื่อเขาจากไป

.-.-.-.-.-.-.-.-.-.-.--.-.--..............................-.-.-.-.-.-.-.----.-

ตอนนี้อาจจะไม่มีเรทแต่ตอนหน้ามีแน่
ลงตอนหน้าให้ดูนิดนะ

เธอรู้สึกถึงมือหนักๆข้างหนึ่งวางอยู่บนไหล่ของเธอ แอสตันโน้มตัวลงประชิดเธออีกครั้งและกระซิบที่ข้างหู
เธอดูเหมือนกับนางฟ้า และเธอเล่นได้ดุจดั่งลงมาจากสวรรค์เขาจับมือเธอเพื่อช่วยให้ลุกขึ้นยืน
ฉันสนใจเธอ...เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ได้โปรดนั่งกับฉันและเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับตัวเธอ

มีฉากนี้ก่อนที่อีกฉากจะตามมาค่ะคราวนี้ไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะค่ะมาดูนะว่าคราวนี้จะรอดหรือไม่รอด แต่ตอนหน้าเตรียมทิชชูไว้เยอะๆนะ

เธอมีเวลาแค่เสี้ยววินาทีมองเขาด้วยความงุนงง ก่อนที่เขาจะดึงเธอเข้าไปหาและใช้ปากของเขาบดขยี้เธอ มือของเดรโกเลื่อนต่ำลงไปที่หลังของเธอ ต่อไปที่ก้นแน่นๆของเธอ เพื่อดึงเธอให้เข้ามาใกล้ขึ้นอีก สะโพกของเธอและเขาแนบชิดเสียดสีกัน การถูกปลุกเร้าอารมณ์ของเขา ริมฝีปากของเขาย้ายลงมาสัมผัสบริเวณคอของเธอ ทั้งกัดเบาๆ ทั้งเคล้าคลึง เนื้อที่ตรงนั้นและลิ้นของเขาสัมผัสกัน