วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

love letter& the great new year

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ
ลิงค์นี้นะค่ะ

love letter& the great new year
fic by..tom_emma

love letter& the great new year ฟิคตอนยาวแต่จบในตอน ต้อนรับปีใหม่ค่ะ

ขอแปะฟิค dream or true ไว้ก่อน เอาอันนี้มาลงแทน เพิ่งแต่งเมื่อเช้านี้เองค่ะ แต่งสดหน้าคอมเนี่ยแหละ เอามาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ทุกคนค่ะ

เช้าวันหนึ่งอากาศสดใสและหนาวเย็นจนเด็กนักเรียนทุกคนแทบจะไม่อยากลุกออกจากผ้าห่มของตนเองเลย เด็กชายผมสีดำขลับยุ่งเหยิงค่อยๆลืมตาสีเขียวมรกตของเขาตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย เขาคว้าแว่นตาของเขามาใส่แล้วลุกขึ้นมามองออกไปที่หน้าต่าง แสงแดดอ่อนๆยามเช้ากับสายลมเย็นๆของปลายฤดูหนาวพัดมาปะทะเข้ากับใบหน้าของเขา เขาเดินไปอาบน้ำล้างหน้าและแต่งตัวอย่างช้าๆด้วยความหนาวเย็น
“รอน... เฮ้ สายแล้วนะ ตื่นได้แล้ว เฮอร์ไมโอนีคงบ่นน่าดูถ้าเราลงไปสาย” แฮรรี่ร้องเรียกรอน เพื่อนสนิทที่มีผมสีแดงเพลิงและยังคงขดตัวอยู่ในกองผ้าห่ม รอนลืมตาขึ้นมานิดหน่อยก่อนจะครางออกมาอย่างงัวเงีย
“โอย สวรรค์เป็นพยาน ชั้นไม่อยากขยับตัวออกจากเตียงในวันแบบนี้เลยให้ตายสิ” รอนบ่นเสียงยานคางพลางดันตัวลุกขึ้น แฮรรี่ส่ายหน้าช้าๆก่อนที่จะหันไปมองเนวิลล์ เพื่อนร่วมห้องอีกคนของเขาที่ยังนอนไม่สนใจอะไรต่อไปบนที่นอนอุ่นๆของเขา
“เฮ้ เนวิลล์ นายก็ด้วยตื่นได้แล้ว เชมัสกับดีนลงไปแล้วนะ”แฮรรี่เรีกพลางหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมตามด้วยผ้าพันคอสีแดงทอง
“รอน ชั้นจะลงไปหาเฮอร์ไมโอนีก่อนนะ ก่อนที่เธอจะอารมณ์เสียเพราะรอพวกเรา” แฮรรี่บอกพลางคว้ากระเป๋าและเดินออกจากประตูห้องไป
“เออๆ เดี๋ยวชั้นตามไป”รอนตะโกนตอบกลับมาพลางแต่งตัวอย่งรวดเร็วเพื่อจะตามเพื่อนของเขาไป
แฮรรี่เดินลงมาจากหอชายและอดคิดไม่ได้ว่าเฮอร์ไมโอนีจะหงุดหงิดแค่ไหนที่ต้องรอพวกเขานานขนาดนี้ แต่เมื่อแฮรรี่เดินมาจนถึงห้องนั่งเล่นรวมของกริฟฟินดอร์ เขาก็อดประหลาดใจไม่ได้ เพราะในห้องนั่งล่นรวมตอนนี้ แน่นขนดไปด้วยคนตั้งแต่ปี1-ปี 7 เขามองไปยังโซฟาที่อยู่ใกล้เตาผิงที่ประจำของเขา เฮอร์ไมโอนีกำลังหัวเราะคิกคักกับปาราวตี ลาเวนเดอร์ เพื่อนของเธอ และยังมีจินนี่ เด็กสาวผมสีแดงเพลิงน้องสาวของรอน และยังมีคอลิน คลีฟลีย์ ที่กำลังเดินถืออะไรบางอย่างที่ดูเหมือนจดหมายสองสามฉบับมาสมทบด้วย เด็กสาวผมน้ำตาลหยิกเป็นลอนฟูหันมามองแฮรรี่ที่ยืนงงอยู่
“แฮรรี่ !! เธอลงมาสายนะ...แต่ช่างเถอะ มานี่สิ มีของเธอด้วยนะ” เฮอร์ไมโอนีร้องบอกใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ที่ว่าน่ะ อะไรหรอ?” แฮรรี่ร้องถามอย่างสงสัยพลางนั่งลงที่โซฟาข้างเฮอร์ไมโอนี
“อะไรกันแฮรรี่... เธอไม่ได้อ่านป้ายประกาศเมื่อวานหรอกหรอ?” ปาราวตีร้องถามด้วยความแปลกใจ
“อ๋อ... เมื่อวานแฮรรี่กับรอนกลับจากซ้อมควิดดิชแล้วก็ขึ้นนอนเลยน่ะสิ เลยไม่ได้อ่าน ชั้นคิดว่านะ..”เฮอร์ไมโอนีบอกเพื่อนของเธอ
“เออ..ใช่..ใช่ ชั้นหมายถึง มันเกิดอะไรขึ้นหรอ...”แฮรรี่ถามอย่าใคร่รู้
“คืองี้นะแฮรรี่ เมื่อวานเค้ามีติดประกาศน่ะเกี่ยวกับเทศกาลความรักน่ะ...โรงเรียนจัดขึ้นเพื่อความสนุกสนานน่ะนะ หลังจากที่พวกราเพิ่งจะเครียดจากการสอบ ว.พ.ร.ส. และการสอบอื่นๆของชั้นปีอื่น”เฮอร์ไมโอนีร้องบอกอย่างตื่นเต้น
“เทศกาลความรัก? วาเลนไทน์น่ะนะ? แต่นั่นเดือน...”แฮรรี่ถามเสียงงง แต่ยังพูดไม่ทันจบ ลาเวนเดอร์ก็ชิงพูดขึ้นก่อน
“ไม่ใช่วาเลนไทน์....หมายถึงเทศกาลส่งจดหมายรักน่ะ”ลาเวนเดอร์บอกพลางยิ้มแป้น ก่อนที่จะอธิบายต่อ
“จะมีการส่งจดมายรักให้ระหว่างกัน บางคนก็สารภาพรัก บางคนที่วางตัวหน่อยก็เขียนมาแบบไม่บอกให้รู้ว่าใครเป็นคนส่งมาให้ โอ..มันน่าตื่นเต้นมากเลยล่ะ จดหมายถูกสอดไว้ที่รูปภาพสุภาพสตรีอ้วนเกือบ 50ฉบับได้เลยเชียวนะ” ลาเวนเดอร์ยังคงตอบอย่างตื่นเต้น พลางหันไปอ่านจดหมายกับปาราวตี
“เอ้า แฮรรี่ !นี่ของเธอ”เฮอร์ไมโอนียื่นจดหมาย2ซองที่มีซองสีขาวและสีแดงให้เขา แล้วก้มลงอ่านจดหมายอีกฉบับของเธอ แฮรรี่รับจดหมายมาและรู้สึกแปลกๆที่ช่องท้อง เขาเหลือบไปมองดูเฮอร์ไมโอนีที่กำลังอ่านจดหมายอย่างเงียบๆ
“เฮอร์ไมโอนี นั่นของเธอหมดเลยหรอ?!!”แฮรรี่ร้องถามด้วยความตกใจกับกองจดหมายที่สูงขึ้นมาเหมือนกองการบ้านของรอนก็ไม่ปาน
“อ๋อ เนี่ยหรอ ...แค่ส่วนนึงน่ะ ที่เหลือเป็นของจินนี่กับปาราวตี”เฮอร์ไมโอนีบอกก่อนที่จะก้มลงอ่านจดหมายต่อ
“โอ เยี่ยมเลย ...คนที่ส่งจดหมายหาชั้นคงคิดจะให้ชั้นตามหาเจ้าของทุกคนเลยมั้งนี่”เฮอร์ไมโอนีร้องออกมาหลังจากเธออ่านจดหมายจบ
“ทำไมหรือ...”แฮรรี่ถามขณะที่เขากำลังอ่านจดหมายฉบับสีแดงอยู่
“ก็พวกเขาไม่คิดจะลงชื่อไว้เลยน่ะสิ เอ้อ...แต่อย่างน้อยชั้นก็รู้ฉบับนึงแล้วล่ะว่าใครส่งมา...”เฮอร์ไมโอนีก้มลงหยิบจดหมายที่มีซองสีฟ้าอ่อนๆขึ้นมาดูอีกที แล้วเธอก้พูดต่อ
“แล้วยังจดหมายฉบับนี้ที่งมาแต่กระดาษเปล่า”เธอหยิบจดหมายที่อยู่ในซองสีขาวออกมาเปิดให้แอรรี่ดู มันว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
“ชั้นว่ามันน่าจะมีวิธีอ่านนะ...ชั้นหมายถึง คงไม่มีใครคิดจะส่งจดหมายที่ไม่มีข้อความหรอกจริงมั๊ย”แฮรรี่ตอบพลางยกกระดาษจดหมายนั้นส่องกับไฟหมายที่จะมองเห็นตัวอักษรในกระดาษนั้น แล้วรอนก็เดินลงมากับเนวิลล์พอดี
“พี่รอน!! มาดูนี่สิ มีของพี่ด้วยนะ” จินนี่ร้องเรียกทันทีที่เห็นพี่ชายของตน เมื่อรอนเดินมาจินนี่ก็ยื่นจดหมายที่มีซองสีเขียวเข้มมาให้เขา รอนเปิดอ่านทันทีอย่างตื่นเต้น
“ให้ตายสิ มีคนส่งให้ชั้นด้วยแฮะ”รอนร้องขึ้น
“เฮ้..นี่นายรู้ด้วยหรือว่ามีงานเทศกาลนี้”แฮรรี่ร้องถามขณะที่รอนกำลังอ่านอยู่
“แน่นอนสิ นี่นายอย่าบอกว่าไม่รู้นะ”รอนร้องถามโดยไม่ได้หันมามองหน้าแฮรรี่ และแอรรี่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
“หนูชื่นชมคุณมานานแล้วค่ะ คุณอาจจะไม่ได้สังเกตเห็น แต่ทุกครั้งที่เดินผ่าน ชั้นอดไม่ได้ที่จะมองคุณ คุณเป็นคนทีดูดีมากๆ โดยเฉพาะเวลาอยู่บนไม้กวาด ...”เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังรอน ทำให้รอนหน้าแดงจัดมากและหันไปโวยวายทันที
“ไม่ต้องปิดไปหรอกเพื่อน... โอ๊ย หวานเจี๊ยบชะมัด เด็กปี 4บ้านเรเวนคลอซะด้วย”เชมัสและดีนร้องขึ้นและพากันหัวเราะ
“ให้ตายสิ!!”รอนถบสออกมาพลางหันมาสนใจกับจดหมายของตนเหมือนเดิมท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ
“นั่นนายจะหัวเราะอีกนานมั๊ยแฮรรี่” รอนเหลือบตาไปมองเพื่อนรักของตนที่พยายามกลั้นหัวเราะ ก่อนที่เขาจะบังเอิญไปสบตากับดวงตากลมโตสีน้ำตาล และเขาก็ต้องหลบสายตาคู่นั้นทันที โดยไม่รู้ว่าเพราะอะไร
“ชั้นว่าไปกินข้าวกันเถอะ ถ้าเรายังไม่อยากโดนศาสตราจารย์ฟริตวิกสั่งกักบริเวณเพราะไปสายล่ะก็”รอนร้องด้วยใบหน้าที่เป็นสีแดงไปจนถึงหู
ทั้งสามคนเดินไปตามระเบียงที่เต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างพูดคุยกันถึงเรื่องจดหมาย มีแสงแดดรำไรส่องผ่านมาตามระเบียงทางเดิน จนมาถึงห้องโถงเสียงพูดคุยก็ยังคงดังอยู่ไม่เว้น
“รอน..เธอไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้นะ”เฮอร์ไมโอนีพูดพลางเหลือบมองด้วยสายตาสะอิดสะเอียน
“ก็..ชะ..หิว ..อี้ อา...”รอนพูดพลางเคี้ยวขนมปัง เบคอนและไข่ดาวอยู่เต็มปากของเขา
“เฮอร์ไมโอนี..ใครส่งจดหมายให้เธอมั่งหรอ”แฮรรี่ถามอย่างไม่ใส่ใจ แต่นั่นทำให้รอนสำลักน้ำฟักทองแล้วพ่นพรวดไปทางเนวิลล์ที่โดนน้ำฟักทองรอนไปเต็มหน้า จนเชมัสและดีนต้องเบ้หน้าอย่างสะอิดสะเอียน แฮรรี่ดูเหมือนจะงงกับปฏิกิริยาของรอนเป็นอย่างมาก
“ชั้นไม่รู้หรอก ก็พวกเขาไม่ได้ลงชื่อไว้เลยนี่นา”เฮอร์ไมโอนีตอบพลางทาเนยลงบนขนมปังของเธอ
“ก็ไหนเธอว่าพอจะเดาได้นี่นา...”แฮรรี่ถามต่อ
“แฮรรี่..เดาได้ ไม่ได้หมายถึงต้องถูกเสมอไปหรอกนะ...”เฮอร์ไมโอนีเงยหน้าขึ้นมาตอบแล้วก็ก้มลงไปง่วนกับขนมปังเธอต่อ แล้วทุกคนก็เงียบกริบลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงเคาะแก้วของศาสตราจารย์มักกอนากัล ชายชราที่มีเคราเงินยวงยืนขึ้น
“เอาล่ะ เป็นการกะทันหันไปหน่อย แต่พวกเราเพิ่งจะตัดสินกันได้เมื่อครู่นี่เอง พรุ่งนี้ เป็นวันปีใหม่ ฮอกวอตส์ของเรา จะจัดงานเลี้ยงขึ้น และด้วยเหตุนี้เอง วันนี้เราจะงดการเรียนเพื่อไปฮอกมีดส์สำหรับเตรียมชุดกัน”เมื่อศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์กล่าวจบเกิดเสียงฮือฮากันดังสนั่นด้วยความดีใจ
“เอาล่ะ เราจะไปฮอกมีดส์กันในอีก 1 ชั่วโมง ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมด้วย และเป็นที่แน่นอน นักเรียนชั้นปี1และ2 ต้องอยู่ที่โรงเรียน เพราะพวกเธอไม่ได้มีใบอนญาตจากผู้ปกครอง และชั้นก็จะไม่ห้ามให้พวกเธอไม่ฝากนักเรียนชั้นอื่นซื้อของหรอกนะ”ศาสตราจารย์มักกอนากัลป์กล่าวจบ มีเสียงโห่แสดงความไม่พอใจมาจากเด็กปี1-2 ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับหอ
“แฮรรี่ รอน... ชั้นขอตัวไปห้องสมุดหน่อยนะ...”เฮอร์ไมโอนีร้องขึ้นพลางลุกจากโต๊ะ
“แต่เธอก็เห็นว่าวันนี้ไม่มีเรียนนะ...”รอนร้องพลางเบ้หน้าถาม
“ใช่รอน แต่ชั้นอยากจะรู้ว่าใครเขียนจดหมายพวกนี้”เฮอร์ไมโอนีตอบพลางหยิบกระดาษเขียนจดหมายลึกลับที่ไม่มีข้อความขึ้นมาแล้วตรงรี่ไปห้องสมุดทันที ทำให้รอนและแฮรรี่หันมามองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตาว่า เธอไปห้องสมุดได้ทุกวันจริงๆ
เฮอร์ไมโอนีเดินไปถึงห้องสมุดที่เงียบผิดปกติ เพราะวันนี้ นักเรียนต่างไปอยู่ที่หอของตนเองเพื่อเตรียมตัวไปฮอกมีดส์ เธอเดินไปที่ชั้นหนังสือเพื่อหาตำราที่พอจะเกี่ยวข้อง
“เอ... น้ำยาล่องหน...คาถาว่าด้วยการปกปิด...อ้อนี่ไง... การเขียนจดหมายลับ!!” เธอหยิบหนังสือเล่มใหญ่ที่ชั้นบนสุดลงมาอย่างยากลำบาก เธอกระโดดขึ้นๆลงๆเพื่อที่จะหยิบหนังสือ จนเธอหงุดหงิดและหยิบไม้กายาสิทธิ์ออกมาเพื่อจะนำหนังสือลงมา แต่ก็มีมือๆหนึ่งหยิบหนังสือนั้นลงมาและยื่นให้เธอ
“ เอ่อ..ขอบคุ...มัลฟอย?” เธอร้องขึ้นทันทีเมื่อเห็นเจ้าของมือนั้น
“ชั้นรู้จักนามสกุลตัวเองดีเกรนเจอร์...”เขาพูดขึ้น”จะไม่ขอบคุณหน่อยหรอ?”
“ไม่มีเหตุผลที่ชั้นต้องขอบคุณคนอย่างนาย ...” เฮอร์ไมโ อนีร้องและคว้าหนังสือเล่มนั้นมาจากมัลฟอยแล้วตรงไปนั่งที่โต๊ะตัวริมสุดทันที มัลฟอยมองตามเธอและเกิดรอยยิ้มที่มุมปากขึ้น เขาเดินมาหาเธอที่โต๊ะแล้วนั่งลงตรงข้ามเธอ เฮอร์ไมโอนีเหลือบตามองอย่างไม่พอใจที่เขามานั่งที่โต๊ะเธอ
“บังเอิญว่าเธอไม่ได้เป็นเจ้าของโต๊ะนี่นะเกรนเจอร์...”เขาพูดลอยๆพลางอ่านหนังสือที่เธอเปิดออกแล้วเบ้หน้าเล็กน้อย เฮอร์ไมโอนีพยายามที่จะไม่สนใจเขาและหยิบกระดาษจดหมายนั้นออกมาวางไว้บนโต๊ะ
“ไม่นึกว่าจะมีคนชอบยัยหนอนหนังสือสีโคลนหัวฟูอย่างเธอนะ”มัลฟอยร้องบอกโดยที่ไม่ได้มองหน้าเธอ เฮอร์ไมโอนีปิดหนังสือดังปัง แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวข้างๆอย่างหงุดหงิดและไม่ได้พูดอะไร สักพัก มัลฟอยก็เดินมานั่งที่โต๊ะเธออีกครั้ง
“นี่นายบ้าไปแล้วรึไง?!!” เด็กสาวร้องขึ้นอย่างหงุดหงิด
“ชั้นไม่เห็นว่าการย้ายโต๊ะนั่งจะเป็นเรื่องบ้าตรงไหนเลยนะ”เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจและไม่ได้มองมาที่เฮอร์ไมโอนี
“โอ..เมอร์ลินเป็นพยาน ชั้นจะสาปเธอแน่ถ้าเธอยังมาสร้างความวุ่นวายกับการตรวจจดหมายนี่อีก” เฮอร์ไมโอนีร้องพลางกุมศีรษะแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อเพื่อหาวิธีดีๆที่จะสามารถอ่านจดหมายว่างเปล่านี้ได้
“กล้ารึเปล่าล่ะ...ยัย-หัว-ฟู” มัลฟอยส่งสายตายียวนมาที่เธอทำให้ใบหน้าของเด็กสาวแดงขึ้นด้วยความโกรธ
“แล้วทำไมวันนี้พ็อตตี้กับวีเซิลถึงไม่มาซะล่ะ”มัลฟอยหยิบไม้กายาสิทธิ์ขึ้นมาควงเล่นทำให้เฮอร์ไมโอนีประหม่าเล็กน้อย แล้วเด็กสาวก็ถบสออกมาเสียงดัง
“ไม่ใช่เรื่องของนาย!!” เฮอร์ไมโอนีร้องแต่ยังคงระงับเสียงไว้เล็กน้อยเพราะเธออยู่ที่ห้องสมุด แล้วเริ่มต้นอ่านหนังสือต่ออีกครั้งโดยที่มัลฟอยไม่ได้พูดอะไร ระหว่างที่เฮอร์ไมโอนีก้มลงอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ มัลฟอยก็ใช้ไม้กายาสิทธิ์เรียกหนังสือเล่มต่างๆให้ลอยเสียดอากาศมา และเมื่อเขาเบื่อ ก็โบกให้มันลอยกลับไปที่เดิมและเรียกหนังสือเล่มอื่นมาแทน และทุกเล่มดูเหมือนเขาจะจงใจให้มันลอยมาเฉียดเด็กสาวเพื่อเป็นการสร้าความรำคาญ
“หยุดซะทีได้มั๊ยมัลฟอย!!”เฮอร์ไมโอนีร้องเสียงดังขณะที่กำลังขีดเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษ มัลฟอยรู้สึกพอใจไม่น้อยทีเดียวที่ยั่วโมโหเธอได้ เขาเหลือบมองสิ่งที่เธอเขียนอยู่แล้วฉวยมาจากมือเธออย่างรวดเร็ว
“อ้อ.. พยายามถอดความจดหมายประหลาดนี่อยู่หรอกหรือ..”มัลฟอยร้องขึ้นพลางก้มลงมองจดหมายที่เฮอร์ไมโอนีขีดเขียนบางอย่างลงไปเหมือนพยายามจะดูให้ออกว่ามีข้อความอะไรปรากฏขึ้นบ้าง
“เอาคืนมานะมัลฟอย!!”เด็กสาวตวาด
“ทำไมล่ะ? รึว่าคงจะเหลิงสินะที่นานๆทีจะมีจดหมายรักมาถึงตัวน่ะ ปกติไม่ได้รับความรักจากเจ้าพ็อตตี้รึไง”มัลฟอยพูดเหยียดๆพลางจ้องมาที่เธอด้วยสายตาที่เคร่งขรึมขึ้น เฮอร์ไมโอนีรู้สึกแปลกๆกับดวงตาสีซีดที่จ้องมาที่เธอ เธอไม่อยากจะคิดไปเองว่าเธอรู้สึกเหมือนมีแววตาเจ็บปวดแฝงอยู่ด้วย เฮอร์ไมโอนีหลบสายตาจากเขาก่อนจะพูดขึ้น
“อย่าเรียกพวกเขาแบบนั้นนะ!!”เธอร้องขึ้น ดวงตาสีซีดของมัฟอยหรี่ลงก่อนจะพูดด้วยเสียงเบา
“ปกป้องกันดีนะ...”เขาร้อง แล้วมองลงที่จดหมายของเฮอร์ไมโอนีในมือ เขายกขึ้นมาดมที่กระดาษเล็กน้อยและทำท่าครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆอย่างต่อเนื่อง
“ขะ..ขำอะไรของนาย!”เฮอร์ไมโอนีร้องออกมาด้วยความสงสัย
“ไม่นึกว่าหนอนหนังสืออย่างเธอจะไม่รู้จักน้ำยานี่นะ “เขาพูดในขณะที่ยังหัวเราะตัวงอ ทำให้เฮอร์ไมโอนีไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เธอถูกดูถูก
“จะให้ชั้นช่วยมั๊ยล่ะ...เธอคงไม่มีทางคิดออกทันในอีก 5นาทีก่อนจะไปฮอกมีดส์หรอก”เด็กหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปพูดเยาะๆตรงหน้าเธอ
“ชั้นไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ก่อนไปฮอกมีดส์!!”เด็กสาวร้องตอบด้วยความหงุดหงิด
“แต่ชั้นว่าเธอจะไม่คิดอย่างงั้นแน่...”มัลฟอยยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะชายตามามองเธอเป็นเชิงขอคำตอบ เฮอร์ไมโอนีนิ่งเงียบและกำลังครุ่นคิดบางอย่างอยู่
“มีข้อแลกเปลี่ยนอีกล่ะสิ...”เธอถามพลางถอนยาว ซึ่งมัลฟอยก็เลิกคิ้วสูง ก่อนจะตอบ
“อันนั้นมันเป็นเรื่องแน่นอนล่ะนะเกรนเจอร์ เพียงแต่ ชั้นยังไม่เอาตอนนี้หรอก”มัลฟอยตอบและเมื่อเห็นว่าเฮอร์ไมโอนีนิ่งเงียบ จึงถือเป็นอันตกลง เขาวางกระดาษเขียนจดหมายลงบนพื้นและหยิบไม้กายาสิทธิ์ขึ้นมา
“อิสเซ็นดิอุม” มัลฟอยร้องขึ้น ทันใดนั้นกระดาษนั้นก็เผาตัวเองไหม้ดำไปหมด
“นั่นนายจะทำอะไรน่ะ!!”เฮอร์ไมโอนีรีดร้องขึ้นทันที และรีบเข้าไปเพื่อจะดับไฟแต่มัลฟอยฉุดเธอเอาไว้ก่อน
“อย่าเพิ่งรีบร้อนซิเกรนเจอร์!”มัลฟอยร้องบอก เมื่อไฟมอดดับลง เขาก็เดินไปหยิบกระดาษมาให้เด็กสาวดู กระดาษตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำ ปรากฎตัวหนังสือสีขาวให้เห็นชัดเจน เฮอร์ไมโอนีรับกระดาษมาอย่างทึ่งๆ
“ชั้นกับพ่อใช้วิธีนี้ส่งจดหมายบ่อยๆ จะได้ไม่ต้องกลัวเวลาจดหมายส่งไม่ถึง”เขาพูดอย่างไว้เชิงพลางควงไม้กายาสิทธิ์เล่น แต่เฮอร์ไมโอนีไม่สนใจ เธออ่านข้อความในจดหมาย “พรุ่งนีจะมีการไปเที่ยวฮอกมีดส์ ผมอยากจะขอนัดเจอคุณที่ต้นไม้ใหญ่หลังหมู่บ้านฮอกมีดส์ ตอนบ่ายโมง แล้วผมจะคอย” เฮอร์ไมโอนีอ่านจดหมายเสร็จก็มีเสียงดังขึ้น
“นักเรียนที่จะไปฮอกมีดส์...ได้เวลาแล้ว”เสียงมาดามพินซ์ร้องบอก ทำให้เฮอร์ไมโอนีพับจดหมายเก็บใส่ในเสื้อ คลุมเธอแล้วเดินออกจากห้องสมุด แต่มัลฟอยก็ดึงแขนเธอไว้ก่อน
“แล้วเธอจะต้องวิ่งมาหาชั้นอีกครั้งแน่ๆ เกรนเจอร์...”เด็กหนุ่มพูดจบก็เดินจากไปปล่อยให้เฮอร์ไมโอนียืนงงอยู่

เมื่อมาถึงที่หมู่บ้านฮอกมีดส์ เด็กทั้งสามคนต่างเลือกเดินไปซื้อของต่างๆ พวกเขาเข้าไปในร้านฮันนี่ดุ๊กส์
“แฮรรี่ นายว่าหัวแมลงสาปชุบน้ำตาลนี่เป็นไง?”แฮรรี่เบ้หน้าเมื่อรอนยื่นมันมาใกล้
“โธ่รอน เห็นๆอยู่ว่าแฮรรี่ไม่ชอบ!! แล้วนายว่าไงถ้าชั้นจะซื้อลูกอมแมงมุมพองตัวให้นาย..มันเจ๋งดีนะ อมแล้วตัวจะพองเหมือนลูกโป่งเลยล่ะ แถมจะมีขนขึ้นเหมือนแมงมุมนี่เด๊ะเลย”เฮอร์ไมโอนีร้องบอก
“เธอก็รู้ว่าชั้นเกลียดแมงมุม” รอนร้องด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย หลังจากที่ทั้งสามคนซื้อขนมต่างๆมาจนเต็มถุงก็เดินไปร้านขายของเล่นตลกซองโก้ เพื่อไปซื้อระเบิดเหม็น หรือ ลูกอมอ้วก หรือแม้แต่หูยาวยืดที่เฟร็ดและจอร์จประดิษฐ์ขึ้น ทั้งสามเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้และซื้อของมาอีกหลายอย่างจนเมื่อยกันไปทั้งตัว
“ไปนั่งกินบัตเตอร์เบียร์กันดีมั๊ย...”รอนร้องถาม
“เอ้อ นั่นสินะ เมื่อยจะตายอยู่แล้ว”แฮรรี่เห็นด้วยกับรอนในขณะที่เฮอร์ไมดอนีก้มดูนาฬิกาที่บอกเวลา บ่ายโมง
“ตายล่ะ!! เอ่อ พวกเธอไปกันเถอะนะ ชั้นมีนัดตอนบ่ายโมงน่ะ แล้วเจอกันขากลับละกันนะ”เฮอร์ไมโอนีพูดรัวเร็วก่อนจะออกวิ่งไป
“นั่นเขานัดอะไรกับใครหรอ?”รอนหันมาถามแฮรรี่อย่างฉุนเฉียวไม่พอใจ ซึ่งแฮรรี่ก็ได้แต่ยักไหล่ไม่รู้ แล้วทั้งสองคนก็เข้าไปนั่งดื่มบัตเตอร์เบียร์กัน
เฮอร์ไมโอนีรีบวิ่งไปจนถึงสถานที่นัด เมื่อเธอมองซ้ายมองขวาเธอก็ถอนใจยาว
“เฮ้อ..ค่อยยังชั่วหน่อยที่ยังไม่มีใครมา”เธอร้องด้วยเสียงหอบแห้งจากการวิ่งมา
“ใครว่าล่ะ เธอมาสายไป5นาทีนะ”เสียงเย็นๆยานคางดังมาจากด้านหลังเธอ เฮอร์ไมโอนีสะดุ้งเอือก
“มัลฟอย..เธอมาได้ไง?”เธอร้องถามทันที ทำให้มัลฟอยเบ้หน้าเล็กน้อย
“ทำไมจะมาไม่ได้ละ ก็ชั้นเป็นคนนัดเธอออกมานี่นา” มัลฟอยตอบเสียงเย็นในขณะที่เฮอร์ไมโอนีอ้าปากค้างด้วยความงงและตกใจ
“เอ่อ...เอาล่ะ...เธอเรียกชั้นออกมา...มีธุระอะไร..”เฮอร์ไมโอนีพยายามตั้งสติก่อนจะถามออกไป เด็กสาวพยายามอย่างยิ่งที่จะแน่ใจว่าเธอเห็นว่าใบหน้าขาวซีดของมัลฟอย มีรอยสีแดงปรากฏขึ้นที่แก้มจริงๆ
“คือว่า..นี่ก็เป็นปีสุดท้ายของฮอกวอตส์แล้ว...ชั้นหมายความว่า...เอ่อ...ชั้นอยากรู้ว่า..เธอมีคู่ไปงานปีใหม่รึยัง?”มัลฟอยถามในขณะที่เหลือบตามองขึ้นไปข้างบนเพื่อจะหนีสายตากลมโตสีน้ำตาลของเด็กสาว เฮอร์ไมโอนีรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆทันที เธอรู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนขึ้น
“เอ่อ...นายกำลังจะ...เอ่อ...ชวนชั้นไป..งานเต้นรำงั้นหรือ?” เธอตะกุกตะกักถาม ซึ่งมัลฟอยก็เงียบอยู่พักหนึ่งก้มหน้าลงเพื่อไม่ให้เธอเห็นใบหน้าที่แดงก่ำไปถึงหูก่อนจะตอบเสียงเบา
“ก็...ทำนองนั้น...”เขายืดตัวขึ้นตอบอย่างไว้เชิงแต่ก็ยังคงหลบตาเด็กสาวอยู่ดี
“ชั้นก็ยังไม่มีคู่หรอกนะ...เอ่อ...ถ้าเธอไม่รังเกียจพวกเลือดสีโคลนอย่างชั้นล่ะก็...”เธอตอบ
“งั้นเอาเป็นว่าตกลงใช่มั๊ย” มัลฟอยถามเธอเสียงเบาอย่างไม่แน่ใจ และเฮอร์ไมโอนีก็พยักหน้าช้าๆเป็นเชิงตอบ
“ไปหาอะไรกินกันหน่อยมั๊ย?” มัลฟอยถามเสียงเบาขัดขึ้นมาหลังจากที่ทั้งสองเงียบกันไปพักหนึ่ง
“อืม”เด็กสาวตอบเสียงเบา ทั้งสองเดินมาจนถึงร้านไม้กวาดสามอัน แถวนี้ผู้คนจะแน่นและคึกคักเบียดเสียดกันมา ซึ่งเฮอร์ไมโอนีไม่ค่อยจะชอบนัก เด็กสาวถูกฝูงคนเบียดจนล้มลงไปกับพื้น
“โอ๊ย ให้ตายสิ!!”เธอร้องออกมาอย่างหัวเสีย แต่แล้วเธอก็รู้สึกเหมือนร่างกายเธอถูกยกขึ้น เธอหันกลับไปมองด้านหลัง เด็กหนุ่มผมทองบลอนด์กำลังพยุงร่างเธอให้ลุกขึ้นจากด้านหลัง แล้วใช้ตัวเขากันกระแสฝูงคนที่เดินผ่านมา เขาเอาแขนข้างหนึ่งมาโอบรอบไหล่เธอให้มาอยู่ใกล้ๆเขาแล้วพาเธอเดินไป เฮอร์ไมโอนีหน้าแดงจัดและรู้สึกใจเต้นแปลกๆ
“แวะเข้าร้านฮันนี่ดุ๊กส์ก่อนได้มั๊ย” เขากระซิบบอกเธอก่อนที่จะพาเธอเข้ามาในร้านฮันนี่ดุ๊กส์
“จะซื้ออะไรมั๊ย?”มัลฟอยหันมาถาม
“ไม่ล่ะ ชั้นซื้อแล้ว” เธอตอบพลางหน้าแดงเพราะเธอยังคงรู้สึกถึงสัมผัสจากเขาเมื่อครู่อยู่ เธอรู้สึกว่ามัลฟอย อบอุ่นอย่างเหลือเชื่อ ไม่นานนักมัลฟอยก็เดินมาหาพร้อมกับถุงขนมถุงใหญ่ในมือ
“ไปเถอะ...”มัลฟอยร้องบอกพลางคว้ามือเธอแล้วเดินต่อไป
“เอ่อ..ไม่กลัวใครจะเห็นหรือว่าเธอเดินจับมือกับชั้น”เฮอร์ไมโอนีถามเสียงเบาในขณะที่ทั้งสองมุ่งหน้าสู่ร้านไม้กวาดสามอัน
“ไม่” เขาตอบสั้นๆแล้วพาเธอเดินเข้าร้านไม้กวาดสามอัน มัลฟอยให้เธอไปหาที่นั่งในขณะที่เขาไปสั่งบัตเตอร์เบียร์สองแก้ว
“นั่นมัน เฮอร์ไมโอนี...มากับ..มัลฟอย!!”รอนร้องและรู้สึกฉุนขึ้นมาทันทีเขาลุกจากเก้าอี้ทันที
“เดี๋ยวซิรอน ... ใจเย็นหน่อย” แฮรรี่ร้องบอก
“นายจะให้ชั้นใจเย็นกับ...ไอ้มัลฟอยงั้นหรือ”รอนร้องบอกด้วยความโกรธอย่างเห้นชัด
“เอาน่า .. ตอนนี้ก็ดูเขาไม่ได้ทำอะไรนี่นา “แฮรรี่บอกพลางเหลือบตามอง “ชั้นว่าอย่าเพิ่งทำตัวให้มีพิรุธเลย”
แต่ดูเหมือนรอนจะทำอย่างที่แฮรรี่บอกไม่ได้แม้แต่น้อย เขาจ้องไปที่มัลฟอยด้วยสายตาอาฆาต และใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ
“ทำไมนายถึงมาชวนชั้นล่ะ”เฮอร์ไมโอนีถามหลังจากที่ยกบัตเตอร์เบียร์ขึ้นดื่ม ทำให้มัลฟอยสำลักบัตเตอร์เบียร์เล็กน้อย
“รังเกียจรึไง?”เขาถามกลับซึ่งเฮอร์ไมโอนีหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ความจริง...ถ้าเธอทำตัวแบบนี้ที่โรงเรียน...ชั้นอาจจะชอบเธอก็ได้นะ”เฮอร์ไมโอนีพูดเสียงเบาแต่ตอนนี้มัลฟอยสำลักบัตเตอร์เบียร์อีกครั้งแล้วจ้องมาที่เธอตาไม่กระพริบ
“ชะ..ชั้นหมายถึง..โอ...อย่าเข้าใจผิดนะ..ชั้นหมายถึงเราคงไม่ต้องคอยทะเลาะกันน่ะ”เธอรีบแก้ตัวทันที
“เอ่อ..ใช่..ชั้นรู้น่า...ชั้นก็แค่...อยากไปงานกับเธอ...”เขาตอบโดยไม่ได้มองหน้าเธอ
“ทำไมล่ะ”เด็กสาวถามต่อด้วยความใคร่รู้ มัลฟอยหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง
“นี่เธอหยุดถามได้มั๊ย!!” มัลฟอยร้องเสียงดัง แต่เพราะในร้านนั้นมีเสียงคุยคลุ้งไปหมด จึงไม่มีใครได้ยิน
“ทำไมเจ้านั่นต้องหน้าแดงด้วย!!!”รอนร้องถามแฮรรี่ด้วยความโมโห
“นั่นสินะ ..ไม่ได้ยินอะไรเลย” แฮรรี่ตอบ ไม่นานนักเฮอร์ไมโอนีกับมัลฟอยก็ลุกออกจากร้าน แฮรรี่และรอนจึงไม่รอช้าที่จะตามไปดูเลย เฮอร์ไมโอนีและมัลฟอยเดินคุยกันไปรอบๆหมู่บ้านฮอกมีดส์
“นั่นเฮอร์ไมโอนีคุยอะไรอยู่นะ!! ทำไมต้องหัวเราะร่วนอยู่กับเจ้านั่นด้วย” รอนบ่นให้แฮรรี่ฟังตลอดทางจนแฮรรี่เริ่มเอือมระอา แต่เขาก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมเฮอร์ไมโอนีถึงมากับมัลฟอยได้ จะเป็นไปได้มั๊ยว่ามัลฟอยส่งจดหมายรักให้เฮอร์ไมโอนี? แต่แล้วเขาก็สั่นหัวไล่ความคิดนี้ออกไป เพราะคงจะไม่มีใครเชื่อที่ว่ามัลฟอยจะส่งจดหมายรักให้เฮอร์ไมโอนีที่เป็นทั้งเลือดสีโคลนและเพื่อนสนิทแฮรรี่ พอตเตอร์ที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา
“เราแยกกันได้แล้วมั้ง อัศวินของเธอคงรอแย่แล้ว”มัลฟอยร้องบอก แล้วก็ต้องเงียบทันทีเมื่อเห็นสายตาขุ่นเขียวของเฮอร์ไมโอนี
“โอเคๆ.. มาเจอชั้นคืนนี้ที่ชั้นเจ็ดห้องริมสุดทางขวาตอนสามทุ่มนะ” มัลฟอยก้มลงกระซิบบอกที่ข้างหู ทำให้เฮอร์ไมโอนีหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วมัลฟอยก็เดินจากไป เฮอร์ไมโอนียืนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินกลับไปหาเพื่อนทั้งสองของเธอบ้าง แฮรรี่และรอนรีบวิ่งไปรอที่ร้านไม้กวาดสามอันทันที เมื่อเออร์ไมโอนีมาถึง แฮรรี่ก็ แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร
“ไง เฮอร์ไมโอนี”แฮรรี่ร้องทัก
“ไปไหนมา”รอนร้องถามห้วนๆและใส่อารมณ์เล็กน้อย เฮอร์ไมโอนีหันมามองแฮรรี่เล็กน้อยด้วยความงง
“ไปเอ่อ..ก็บอกเธอไปแล้วนี่ว่าชั้นมีนัดน่ะ!!”เฮอร์ไมโอนีร้องตอบบ้าง “ไม่เอาน่ารอน เธอจะมาห้ามไม่ให้ชั้นทำอะไรไม่ได้หรอกนะ” รอนเตรียมจะแหวกลับแต่แฮรรี่ก็แทรกขึ้นก่อน
“กลับกันเหอะ...ชั้นว่า..เอ่อ...ดีมั๊ย?”แฮรรี่ถามพลางเดินนำไป โดยที่รอนไม่ยอมคุยกับเฮอร์ไมโอนีเลย

เมื่อถึงเวลาสามทุ่มไฟจากเตาผิงในห้องนั่งเล่นรวมมอดดับไปแล้ว เฮอร์ไมโอนีย่องลงมาจากหอนอนหญิงเพื่อจะออกไปตามที่นัดกับมัลฟอยไว้ เธอเดินไปตามระเบียงชั้นเจ็ดอย่างหวั่นๆเพราะคงไม่ดีแน่ถ้าเจอฟิลล์หรือคุณนายนอร์ริสตอนนี้ เธอรีบเดินเข้าไปยังห้องที่นัดไว้แล้วปิดประตูไล่หลังทันที เมื่อเธอหันไปมองรอบห้องเธอก็สะดุ้งตกใจทันที
“ว้า....!! อุ๊บ...” เธอกรีดร้องทันทีแต่ก็มีมือหนึ่งมาปิดปากเธอไว้ทันก่อนที่เสียงของเธอจะปลุกทุกคนที่หลับอยู่
“ชั้นเอง...” มัลฟอยร้องบอกก่อนที่จะค่อยๆคลายมือออกช้าๆ
“อย่าทำให้ตกใจซิ ...ว่าแต่เรียกออกมาทำไมดึกดื่นอย่างนี้นะ” เฮอร์ไมโอนีร้องถามทันที
“ทวงสัญญาน่ะสิ คงไม่ลืมนะที่ชั้นช่วยเรื่องจดหมายน่ะ”มัลฟอยร้องบอก “เวลาที่ผู้หญิงอยู่กับผู้ชายสองต่อสองน่ะ อันตรายนะรู้มั๊ย?” เฮอร์ไมโอนีรีบคว้าไม้กายาสิทธิ์ขึ้นมาข้างตัวทันที
“อย่าแม้แต่คิดเชียวนะมัลฟอย”เฮอร์ไมโฮนีร้องพลางถอยหลังไปจนชิดกำแพง ในขณะที่มัลฟอยก้าวเข้ามาหาเธอ
เด็กหนุ่มกดข้อมือเธอลงกับกำแพง แล้วบีบมือที่เธอถือไม้กายาสิทธิ์จนเธอต้องปล่อยมันเพราะความเจ็บ
“ของตอบแทนจากเธอที่ชั้นอยากได้คืออะไรรู้มั๊ย” เขากระซิบเสียงเบาพลางโน้มหน้าเข้ามาหาเธอช้าๆ ใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันไม่กี่เซ็น เด็กสาวหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที เสียงหัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา และดวงตาสีซีดที่จับจ้องมาที่เธอ มัลฟอยจูบลงที่แก้มสีชมพูของเธอก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนมาหยุดที่ริมฝีปากเรียวบางของเธอ
“ไม่..เดี๋ยวสิ...อุ๊บ” เฮอร์ไมโอนีพยายามดิ้นและร้องห้ามแต่ก็ถูกกลบลงด้วยริมฝีปากของเด็กหนุ่มที่ประกบลงบนริมฝีปากเธออย่างอ่อนโยน เขาขยับปากอย่างเร่าร้อนขึ้น เฮอร์ไมโอนีหน้าแดงเข้มและรู้สึกวูบไปทั้งตัว เธอรู้สึกเหมือนร่างกายเธออ่อนยวบไปหมด มัลฟอยค่อยๆคลายมือที่กดเธอออกแล้วโอบไปรอบเอวเธอ เขาดึงเธอเข้ามาแนบชิดกับเขา เฮอร์ไมโอนีค่อยๆขยับริมฝีปากตอบช้าๆ เธอใช้สองมือโอบไปรอบคอเด็กหนุ่ม ทั้งสองผละออกจากกันช้าๆ พร้อมกับลมหายใจที่หอบเป็นช่วงๆ เฮอร์ไมโอนีเข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้น เธอรู้สึกสับสนว่า ทำไมเธอจึงไม่ปฏิเสธเขา
“จูบเก่งนี่...”มัลฟอยก้มลงมากระซิบที่หูเธอทำให้เธอหน้าแดงจัด
“ทำไม...” เฮอร์ไมโอนีตะกุกตะกักถาม แต่มัลฟอยก็จูบเธออีกครั้งอย่างแผ่วเบา
“ฉัน...รักเธอ...”เขากระซิบเสียงเบาก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องนั้น และก็ยังไม่ลืมที่จะหันมาบอก
“ชั้นยังอยากได้คำตอบในเร็ววันนี้ด้วยนะ”เขาพูดจบก็เดินจากไป เฮอร์ไมโอนีถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะเดินกลับหอตน
“ไปไหนมาน่ะ”เสียงหนึ่งดังขึ้นทันทีที่เฮอร์ไมโอนีปีนข้ามช่องรูปภาพมา
“รอน!!” เฮอร์ไมโอนีร้องด้วยเสียงตกใจ “เอ่อ...แฮรรี่ล่ะ” เธอถามปัดๆพลางเดินไปที่โซฟาใกล้เตาผิง
“ไปข้างนอก ...เธอยังไม่ตอบคำถามชั้นเลยนะ”รอนเดินเข้ามานั่งที่โซฟาข้างๆเฮอร์ไมโอนีที่เพิ่งทรุดนั่งลง
“เอ่อ...ไป...นิดหน่อยน่ะ”เธอตอบ พลางมองหน้ารอนที่ดูจะโกรธอย่างเห็นได้ชัด
“ไปหาไอ้มัลฟอยงั้นรึ!!”รอนร้องลั่นทำให้เด็กสาวสะดุ้งเฮือกทันที
“เธอ...เห็น?” เฮอร์ไมโอนีร้องเสียงเบา ตอนนี้หน้าของรอนแดงยิ่งกว่าสีผมเขาซะอีก
“เธอไปกับหมอนั่นได้ยังไง !!เธอหักหลังพวกเราหรือ?!! ทำไมเฮอร์ไมโอนี ทำไมเธอไม่เคยสนใจชั้นบ้างเลย!!!”รอนร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขากดเธอลงไปนอนที่โซฟาแล้วขึ้นคร่อมเธอ
“ชั้นน่ะชอบเธอมาตั้งนานแล้ว!!!แต่เธอไม่เคยมองชั้นเลย ไม่เคยเลย!!”รอนร้องเสียงดังก่อนจะกดมือทั้งสองข้างของเธอแล้วก้มลงจูบเธอที่แก้มสีชมพูทั้งสองและพยายามจะเลื่อนมาจูบที่ปากของเธอ แต่เฮอร์ไมโอนีดิ้นอย่างแรง พร้อมกับร้องขอให้เขาปล่อยเธอ “เพี๊ยะ!!” หน้าของรอนหันไปตามแรงจากฝ่ามือของเด็กสาว และพอดีกับที่แฮรรี่ปีนข้ามช่องรูปภาพเข้ามาเห็นพอดี
“รอน!!เธอมัน...หยาบคายที่สุด!!! ชั้นไม่คิดเลยนะว่าเธอจะทำแบบนี้กับชั้น!! ทำไมชั้นจะไม่สนใจเธอกัน ชั้นรู้ว่าเธอส่งจดหมายมาให้ชั้นตั้งแต่ที่ชั้นเปิดอ่านมันครั้งแรกแล้ว ชั้นรู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับชั้นมานานแล้ว!!!ชั้นรู้ที่เธอเกลียดวิกเตอร์เพราะอะไร แต่เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะมาบังคับให้ชั้นชอบใคร รักใคร ปฏิเสธใคร หรือแม้แต่มาบังคับที่จะจูบชั้น!!!” เฮอร์ไมโอนีร้องรัวเร็วด้วยใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความอายและความโกรธ ดวงตาสีน้ำตาลของเธอมีน้ำตาเอ่อคลอ
“ชั้นเสียใจ...แต่ชั้นคิดไว้ว่าชั้นจะบอกเธอในวันที่เธอกล้าที่จะมาบอกชั้นด้วยตัวเธอเอง ว่าชั้นคิดกับเธอแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น “ เมื่อพูดจบเธอก็วิ่งขึ้นหอนอนเธอทันที
“นายคงมีเรื่องอยากจะระบายให้ชั้นฟังนะ”แฮรรี่พูดขึ้นในขณะที่รอนนั่งไม่ไหวติงอยู่บนโซฟา

ในตอนค่ำวันต่อมาเมื่องานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนต่างแต่งตัวด้วยชุดราตรีสวยงาม เฮอร์ไมโอนีลงไปที่ห้องโถงก่อนแล้วเพราะเธอพยายามเลี่ยงไม่อยากเจอหน้ารอน งานเลี้ยงเริ่มขึ้นอย่างคึกคัก นักเรียนบางบ้านแต่งชุดเลียนแบบศาสตราจารย์เสนป โดยใส่ วิกผมที่มีน้ำมันจับเป็นก้อน บางคนแต่งเป็นผีประจำบ้านเพื่อให้ดูตลกขบขัน โดยเฉพาะบางคนที่แต่งเป็นบารอนเลือดเพื่อจะได้ไปข่มขู่พีฟส์ ผีจอมกวนได้ เฮอร์ไมโอนีวันนี้แต่งชุดสีขาวกระโปรงพริ้วยาวจรดพื้น ผมสีน้ำตาลยาวตรงที่มีริบบิ้นสีขาวประดับไว้สวยงามเธอดูสวยมากในสายตาของชายหลายคนที่เห็น เธอกำลังยืนอยู่ด้านข้างฟลอร์ที่มีหลายคู่ทยอยลงไปเต้นรำกัน
“มายืนใจลอยอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะ...” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูเธอ เขาเป็นเด็กหนุ่มผมสีทองบรอนด์ที่วันนี้ไม่ได้ทำผมเรียบแปล้ แต่กลับปล่อยมันลงมาให้พลิ้วไหวไปตามสายลมของปลายฤดูหนาว เขาแต่งตัวด้วยชุดสีขาวทั้งชุด เสื้อคลุมปกตั้ง ทำให้วันนี้เขาเป็นคนที่ดูดีมากจนเกือบมากที่สุดเลยทีเดียว
“ให้เกียรติซักเพลงได้มั๊ย” มัลฟอยถามอย่างสุภาพจนเด็กสาวไม่อยากเชื่อว่าเขาจะเป็นคนพูด
“เอ่อ..อืม” เฮอร์ไมโอนีหน้าแดงเล็กน้อยเพราะเธอรู้สึกว่าเธอและมัลฟอยกำลังเป็นเป้าสายตาของหลายๆคน เพราะวันนี้ทั้งสองคนดูดีมาก มัลฟอยเอามือโอบเธอเข้ามาใกล้ และจ้องมองลงมาในดวงตาของเธอ
“คำตอบล่ะ...” มัลฟอยถามเสียงเบา ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนีหน้าแดงทันที
“กรี๊ดดดดดดดด”เสียงแหลมๆดังขึ้นข้างๆ แพนซี่ พากินสันที่มากับชุดราตรีสีดำประโปรงผ่าข้าง เดินมาขวางระหว่างมัลฟอยกับเธอทันที
“เดรโก... ที่เธอปฏิเสธชั้นเพราะเธอจะมากับยัยนี่เนี่ยนะ!!” แพนซี่ร้องเสียงออดอ้อน ซึ่งนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนีรู้สึกฉุนขึ้นมาทันที
“ยัยเลือดสีโคลน!! อย่างเธอน่ะ เดรโกไม่มีวันลดสายตาลงไปมองหรอกนะรู้มั๊ย...ยัยสกปรกชั้นต่ำ!!” แพนซี่แหวเสียงดังทำให้เฮอร์ไมโอนีรู้สึกอายอย่างมาก เธอหันหลังเดินหนีไปทันที
“เกรนเจอร์...” มัลฟอยร้องเรียกแต่ก็สายไปแล้วเพราะเฮอร์ไมโอนีหายไปในหมู่คนที่กำลังเต้นรำอยู่กลางฟลอร์
“อย่าไปใส่ใจเลยเดรโก ...”แพนซี่ส่งเสียงอ้อนพลางกอดคล้องแขนกับแขนของมัลฟอย ซึ่งเขาพยายามที่จะแกะออกเต็มที่
“ปล่อยชั้นนะแพนซี่!! แล้วอย่ามาเรียกชื่อชั้น!!!”มัลฟอยร้องบอก
“เดรโก เธอถูกยัยนั่นใช้คำสาปสะกดใจรึไงน่ะ!!” แพนซี่แหวอีกครั้ง
“ก็ยังดีกว่ามางานกับเธอก็แล้วกัน” มัลฟอยคำรามตอบเธออย่างเย็นชาก่อนที่จะสะบัดเธอออกแล้วตามหาเฮอร์ไมโอนีทันที เฮอร์ไมโอนีที่เดินมาหยุดอยู่ข้างฟลอร์ด้วยน้ำตาที่คลออยู่ที่ดวงตาสีน้ำตาลทั้งสองข้าง
“เอ้า...” มีมือหนึ่งยื่นบัตเตอร์เบียร์มาให้เธอ เมื่อเธอหันกลับไปมอง
“รอน...แฮรรี่” เฮอร์ไมโอนีร้องด้วยความแปลกใจ แต่ก็รับบัตเตอร์เบียร์มาแต่โดยดี เธอยังคงลำบากใจที่จะคุยกับรอนอยู่
“เอ่อ...ชั้นขอโทษนะ...เรื่อง...เธอก็รู้..เมื่อคืนนี้...” รอนบอกพลางก้มหน้าไม่กล้าสบตากับเธอ
“เอ่อ..อืม...ช่างมันเถอะ...”เฮอร์ไมโอนีตอบพลางยิ้มรับซึงดูเหมือนรอนเองก็ดีใจมาก
“ เอาล่ะ ดื่มให้กับความเป็นเพื่อนมาตลอด 7ปี” แฮรรี่พูดขึ้นพลางชูถ้วยบัตเตอร์เบียร์ และรอนกับเฮอร์ไมโอนีก็ทำตาม
“cheers!!” ทั้งสามร้องขึ้นพร้อมกันแล้วดื่มบัตเตอร์เบียร์จนหมดแก้ว รอนและเฮอร์ไมโอนีต่างยิ้มให้กัน
“ชั้นไม่น่าโง่เลย...ถึงเราจะไม่ได้เป็น..เอ่อ..แต่เราก็ยังเป็นพื่อนกันได้นี่นะ”รอนบอกเฮอร์ไมโอนีที่ยิ้มรับ
“แฮรรี่..รอน..ตลอดเจ็ดปีมานี่ เธอสองคนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้น ชั้นเองก็รักพวกเธอไม่น้อยไปกว่าใครเลย...ชั้นดีใจที่เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ทั้งปีหน้าและต่อๆไป” เมื่อเธอพูดจบ เธอก็โผเข้ากอดเด็กหนุ่มทั้งสองคนอย่างรักใคร่
“ให้ตายสิ แต่ชั้นก็ยังไม่ชอบเจ้ามัลฟอยนั่นอยู่ดี..” แฮรรี่ร้องบอก แต่เฮอร์ไมโอนียิ้มรับด้วยแววตาเศร้าๆ
“ทีแรกชั้นก็คิดอย่างนั้น แต่ว่า ความจริงเค้าเป็นคนที่อบอุ่นมากเลยนะ...”เด็กสาวยิ้มเล็กๆมาให้
“โทษทีนะ องครักษ์ทั้งสอง ชั้นขอตัวยัยนี่ไปก่อนแล้วกัน...” เสียงเย็นๆดังขึ้นมาจากด้านหลังของเฮอร์ไมโอนี มัลฟอยยังคงวางท่าและส่งสายตารังเกียจไปที่แฮรรี่และรอนเหมือนเดิม เขาคว้าข้อมือเด็กสาวแล้วดึงเธอไปกับเขาทันที
“ดูสายตานั่นสิ อย่างงี้ชั้นจะยอมรับลงได้ไงกัน”แฮรรี่บ่นต่อพลางส่ายหัวเหนื่อยใจ
มัลฟอยพาเฮอร์ไมโอนีออกมานอกปราสาทและเดินไปยังบริเวณทะเลสาบที่วันนี้ดูเงียบเหงาเนื่องจากทุกคนต่างสนุกสนานกันอยู่ในปราสาท
“ปล่อยได้แล้ว ชั้นเจ็บนะ..”เฮอร์ไมโอนีดึงแขนเธอกลับมา และไม่ได้สบตากับเขา สายลมเย็นๆพัดกระทบใบหน้าทั้งสอง เฮอร์ไมโอนีอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อเธอมองใบหน้าของมัลฟอยในยามที่แสงจันทร์ส่องสะท้อนเส้นผมสีทองของเขาเป็นประกายและพลิ้วไหวไปตามแรงลม เขาดูดีมากเหลือเกินในความคิดเธอ
“มีอะไรล่ะ ไม่ไปกับแพนซี่หวานใจเธอหรือไง” เฮอร์ไมโอนีถามเสียงเข้ม แต่นั่นทำให้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้าของมัลฟอย เขาเดินเข้ามาใกล้เธอช้าๆ
“หึงหรอไง” เขาถามพลางยิ้มน้อยๆอย่างพอใจ
“ใครจะหึงนายกัน” เฮอร์ไมโอนีแหวกลับแล้วหันหลังจะเดินหนีทันที แต่มีมือนึ่งมาโอบเธอไว้จากด้านหลัง
“ปล่อยนะ...เดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้า!!”เธอพยายามดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของมัลฟอย
“ไม่มีใครมาหรอกน่า” เขาพูดแล้วจับเธอหันมาหาเขา “เธอยังไม่ได้ให้คำตอบชั้นเลยนะ...” เฮอร์ไมโอนีหน้าแดงขึ้นมาทันที แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นมาจากในปราสาทเบาๆ
“ปีใหม่จะมาถึงแล้ว เรามานับถอยหลังพร้อมกันเถอะ 10.......9 ....8…” เกิดเสียงเฮดังมาจากในปราสาททุกคนต่างพร้อมกันนับถอยหลัง
“ เอ่อ...ชั้น...”เฮอร์ไมโอนีพูดเสียงเบา ในขณะที่มัลฟอยโน้มตัวลงมาใกล้เธอมากขึ้นจนแทบจะแนบสนิทกัน ดวงจันทร์ส่องแสงประกายลงมาสะท้อนกับผืนน้ำ พร้อมกับเสียงนับถอยหลังที่ดังคลอมาตามสายลม “.7….6…5..”
“ว่าไงล่ะ ...” มัลฟอยกระซิบถามพลางเอามือหนึ่งโอบรอบเอวเธอ อีกมือหนึ่งเชยคางเธอขึ้นมาสบสายตาสีซีดของเขาที่แฝงไปด้วยความอบอุ่นจนเฮอร์ไมโอนีรู้สึกร้อนไปทั้งตัว เสียงนับถอยหลังยังคงดังต่อเนื่อง
.4….3…2….1…”
“ชั้นก็...รักเธอ....เดรโก....” เฮอร์ไมโอนีตอบเสียงเบาและริมฝีปากของมัลฟอยก็ประกบกับริมฝีปากสีชมพูของเธอทันที เฮอร์ไมโอนีเอาสองแขนของเธอพาดไว้บนไหล่ของเขาเธอรู้สึกถึงเส้นผมที่อ่อนนุ่มของเขา สัมผัสถึงความอบอุ่นจากมัลฟอย เด็กหนุ่มกระชับร่างเธอเข้ามาใกล้ขึ้นอีก เฮอร์ไมโอนีรู้สึกร้อนวูบ ทั้งสองขยับริมฝีปากอย่างแผ่วเบาอบอุ่น มีเสียงเฮดังลั่นจากปราสาท พร้อมคำอวยพรต่างๆ พลุหลากสีสันถูกจุดขึ้นเหนือทะเลสาบทำให้นักเรียนต่างออกมามุงดูที่ทะเลสาบกัน แสงจากพลุส่องระยิบระยับอยู่เหนือผิวน้ำ สายลมสุดท้ายของปีพัดผ่านไป ค่ำคืนที่สวยงามประดับไปด้วยแสงจากปราสาทและดอกไม้ไฟจำนวนมาก มัลฟอยโอบกอดเฮอร์ไมโอนีไว้แนบอก เด็กสาวรู้สึกเหมือนมีหยดน้ำหยดลงมาถูกหลังมือเธอ เมื่อเอเงยหน้าขึ้นมอง
“เธอ..ร้องไห้หรือ?” เด็กสาวถามพลางเอามือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาช้าๆที่ดวงตาสีซีดของเด็กหนุ่ม
“เปล่าหรอก แค่ดีใจน่ะ...ไม่คิดว่าเธอจะ...ตกลง” มัลฟอยยิ้มบอกอย่างอ่อนโยน เด็กสาวรู้สึกเหมือนต้องมนต์ทุกครั้งที่สายตานั้นจ้องมองมาที่เธอ
“happy new year เฮอร์ไมโอนี...” มัลฟอยกระซิบบอกที่ข้างหูเธอ
“happy new year เดรโก..” เฮอร์ไมโอนีกระซิบบอก ทั้งสองยิ้มให้กัน เฮอร์ไมโอนีน้ำตาคลอทั้งสองข้างก่อนที่ทั้งสองจะจูบกันแผ่วเบาอยู่เนิ่นนาน

จบจ้า.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น