วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

JE TE VEUX ....ต้องการคุณ(1-2)

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1

chapter 1: สิ่งที่อยากได้ยังไงก็ต้องได้

อ๊ะ! อ๊ะ!
หญิงสาวครวญครางอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มผมบลอนด์...ดวงตาสีฟ้าซีดของเขานั้นแข็งกร้าวขณะที่เขายังคงขยับร่างเพื่อลิ้มรสความปรารถนา
ร่างขาวผ่องที่เชิญชวน...ชายใดได้เห็นก็ต้องหลงใหลจนแทบจะเป็ยบ้า...แต่สำหรับเดรโก
มัลฟอยนั้นไม่ใช่...ดวงตาและสีหน้าของเขาไม่ได้แสดงความพอใจออกมาเลย
เดรโก...รักฉันสิหญิงสาวเพ้อออกมาด้วยความปรารถนา
มัลฟอยเขม่นตาทันที..เขาหยุดการเคลื่อนไหวเสียดื้อๆ หญิงสาวมองเขาอย่างสงสัย
มัลฟอยผละออกจากร่างของหญิงสาวและฉวยเสื้อที่กองอยู่ข้างเตียงขึ้นมาสวม
เดรโกคะ..ทำไม...เธอถามอย่างเสียดาย ใบหน้าของเธอแดงจัด...หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง
มัลฟอยหันมามองเธออย่างเย็นชา เขาลุกขึ้นจากเตียงและติดกระดุมเสื้ออย่างหงุดหงิด
มัลฟอยเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งและฉวยกระเป๋าเงินขึ้นมา...เขาเหลือบมองหญิงสาวที่ทำหน้าสงสัย
มัลฟอยกระชากเงินปึกหนาออกมาจากกระเป๋าก่อนจะโยนใส่หน้าของหญิงสาว
ว้าย!!!เธอร้องอย่างตกใจ แบงค์เงินปลิวว่อนไปทั่วห้อง
มัลฟอยมองหญิงสาวอย่างเย็นชา...เขาหยิบเสื้อสูทขึ้นมาและพูดกับหญิงสาว
ลาก่อน...มัลฟอยพูดอย่างไร้น้ำใจ เขาเหลือบตามองหญิงสาวเป็นครั้งสุดท้ายและหันหลังจะเดินกลับ
หญิงสาวรีบกระวีกระวาดลงมาจากเตียง...เธอกอดขาของมัลฟอยเอาไว้
มัลฟอยมองเธออย่างหงุดหงิดและพยายามกระชากขาออก หญิงสาวคร่ำครวญอย่างเสียใจ
เดรโกคะ! ฉันรักคุณนะคะ...อย่าทิ้งฉันไปเลยนะคะ ฉันทำอะไรผิด...คุณบอกฉันสิคะ ฉัน...ฉันจะแก้ไข...
เธอร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าสงสาร แต่มัลฟอยกลับมองเธออย่างมาแยแส
เขากลอกตาไปมาอย่างรำคาญและพยายามสะบัดขาออก
เพราะเธอร้องเรียกหาความรักน่ะสิมัลฟอยตอบ หญิงสาวละล่ำละลักพูด
นั่นเพราะฉันรักคุณจริงๆนะคะ...ได้โปรดเถอะค่ะ...ฉันรักคุณจริงๆ!เธอคร่ำครวญปานจะขาดใจ
น้ำตาที่แสดงความอ่อนแอของเพศหญิงนั้นทำให้มัลฟอยรู้สึกหงุดหงิด เขาคำรามลอดไรฟันก่อนจะสะบัดขาออก
หญิงสาวลงไปนอนกับพื้น เธอเงยหน้าขึ้นมองมัลฟอย มัลฟอยเสยผมอย่างหงุดหงิด
มันเป็นไปไม่ได้หรอก! จำไว้ซะ...เธอน่ะ! เป็นแค่สินค้าที่ฉันซื้อมาเท่านั้น
มัลฟอยมองภาพของหญิงสาวเป็นครั้งสุดท้าย
เขาหันหลัง...และก้าวเท้าออกไปจากห้องโดยไม่สนใจเสียงเรียกของหญิงสาวคนนั้นอีก
เดรโก.......!!!!!!!

รถเฟอร์รารี่คันงามแล่นไปบนท้องถนนที่มืดมิดอย่างรวดเร็วไปปานลมพายุ
เจ้าของรถมีใบหน้าที่บางบอกว่ากำลังเดือดดาลและโกรธจัด
เขาเหยียบคันเร่งจนมิด...รถคันงามเร่งความเร็วขึ้นตามอารมณ์ของเขาที่แทบทะลุถึงขีดสุด
ทำไมผู้หญิงถึงเป็นแบบนี้กันทั้งโลกนะ!
มัลฟอยคิดอย่างหงุดหงิดขณะที่หักพวงมาลัยหนีรถเต่าคันหนึ่งที่แล่นช้าๆอยู่บนท้องถนน
เขามองไปตามทางข้างหน้าอย่างโมโห..เขาเกลียด...เกลียดคนที่เรียกร้องหาความรัก
เกลียดคนที่เอาตัวเองเข้าไปพังพันกับความรู้สึกเส็งเคร็งน่ารังเกียจ มัลฟอยคิด
เขาไม่ต้องการความรัก...และเขาก็เกลียดคนที่มีความรัก
บัดซอบ!!!มัลฟอยคำรามลั่นก่อนจะกระชากรถให้เร่งความเร็วขึ้นอีก...

.......ห้องทำงานนั้นถูกจัดแต่งไว้อย่างหรูหรา...เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนมีราคาแพง
บ่งบอกถึงสถานะของเจ้าของห้องว่าคงจะเต็มไปด้วยอำนาจและความมั่งคั่ง...แต่เจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวสวยนั้นกลับมีใบหน้าที่เหมือนกับโลกจะถล่มลงมาเสียวันนี้พรุ่งนี้...ริมฝีปากที่ฉาบแต้มด้วยลิป
สติกสีเงาจางๆปิดแน่น...มือของเธอวางประสานไว้ที่บนตักอย่างสงบเสงี่ยม
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองทอดไปยังวิวของมหานครนิวยอร์คอย่างเหม่อลอย...แม้แววตาของเธอจะดูเหมือนเรียบเฉยแต่ถ้าจ้องลงไปลึกๆกลับเต็มไปด้วยความกังวลและครุ่นคิด...หญิงสาวใช้มือม้วนผมสีน้ำตาลเป็นลอนสวยอย่างใจลอย..
.เธอกำลังคิดถึงเรื่องบางอย่าง...เรื่องที่ทำให้เธอต้องครุ่นคิดอย่างหนัก
เฮอร์ไมโอนี่!!!เสียงเรียกอย่างไร้เยื่อใยดังขึ้น...เฮอร์ไมโอนี่
เกรนเจอร์หลับตาแน่น...ก่อนจะกลั้นใจหมุนเก้าอี้ทำงานหันกลับไปทางที่เจ้าของเสียงยืนอยู่...ชายวัยกลางคน
ก้าวเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่อย่างรีบร้อน
เขาสวมสูทโก้หรูดูดี...แต่ใบหน้ายับย่นนั้นกลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และหิวกระหาย
สายตาของเขาที่จ้องมายังเฮอร์ไมโอนี่นั้นเหมือนกับกำลังจะพยายามหาช่องทางหาผลประโยชน์จากเฮอร์ไมโอนี่
คุณลุง...เฮอร์ไมโอนี่เรียกญาติผู้ใหญ่อย่างแข็งกระด้าง เลนนอน
เกรนเจอร์...ผู้มีศักดิ์เป็นลุงของเฮอร์ไมโอนี่นั่งลงที่เก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเฮอร์ไมโอนี่...เขายิ้มที่เต็มไปด้วยความละโมบมาให้เฮอร์ไมโอนี่...หญิงสาวแสร้งหันไปมองทางอื่น
เธอไม่ชอบสายตาของลุงเลนนอนเอาเสียเลย
เรามีทางแล้วชายแก่พูดด้วยเสียงสั่นเครือซึ่งเหมือนกับจะเก็บอาการตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่
เฮอร์ไมโอนี่หันมามองผู้เป็นชุงช้าๆอย่างไม่อยากจะมองเขานัก
ทาง? ทางที่เราจะพ้นจากหนี้ก้อนมหึมานี่น่ะเหรอคะ
เฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างไม่แน่ใจนัก...บริษัผลิตยาของเธอนั้นก็เหมือนกับบริษัทอื่นๆในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจนี้
...หนี้ก้อนมหึมาเกิดขึ้นเมื่อบริษัทของเธอขาดทุนย่อยยับจนต้องไปกู้ยืมเงินจำนวนมากจากธนาคาร...สิ่งที่เ
ฮอร์ไมโอนี่ขบคิดมาตลอดนั้นก็คือเรื่องนี้...เธอไม่อยากคิดเลยว่าบริษัทที่พ่อแม่ผู้ล่วงลับของเธออุตส่าห์สร้างเอาไว้จะเป็นอย่างไรเมื่อมันถูกโยกย้ายเข้าไปในคลังของธนาคาร...บิรษัทที่เหมือนกับเป็นตัวแทนของพ่อและแม่ของเธอ....เฮอร์ไมโอนี่ไม่ต้องการที่จะเสียมันไป
คุณลุงบอกว่าคุณลุงมีทางอย่างนั้นหรือคะเฮอร์ไมโอนี่ถามย้ำและมองลุงเลนนอนอย่างไม่ไว้ใจ
ชายคนนี้ก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอเมื่อตอนที่พ่อและแม่ของเธอเริ่มก่อตั้งบริษัท...พี่ชายของแม่ที่หายหน้าไปจนเกือบจะจำไม่ได้ จู่ๆก็ก้าวเข้ามาในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท
ทันทีที่พ่และแม่ของเฮอร์ไมโอนี่ตายไปเขาก็ตั้งตัวเป็นผู้ดำเนินงานต่างๆในบริษัท...ที่บริษัทต้องขาดทุนย่อยยับอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะลุงเลนนอนฉ้อฉลและบริหารงานอย่างไร้สติ
ฉันเพิ่งหาทางเจอเมื่อกี้เอง...ง่ายนิดเดียว ง่ายจนไม่น่าเชื่อเลยเฮอร์ไมโอนี่หลานรัก
ลุงเลนนอนพูดอย่างตื่นเต้นราวกับเจอหลุมทองคำ
เฮอร์ไมโอนี่มองชายแก่อย่างวมเพช...ดวงตาที่เต็มไปด้วยความละโมภนั้นทำให้เขาดูต่อเตี้ยเรี่ยดินเหลือเกิน

ยังไงคะ
เฮอร์ไมโอนี่ถาม...อย่างไรถ้ามันเป็นหนทางที่จะช่วยให้สิ่งที่เธอรักเป็นของเธอตลอดไป...เธอก้พร้อมที่จะทำ
ง่ายมาก...พรุ่งนี้ตอนสองทุ่มไปพบกับเจ้าของธนาคารที่โรงแรมบริตินลุงเลนนอนพูดพลางกระตุกมุมปาก
เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว...เธอไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับการปลดหนี้
ทำไมหนูต้องไปที่นั่นด้วยล่ะคะ...มันเรื่องอะไรกัน...มันเกี่ยวกันยังไง หนูไม่เข้าใจ
เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วและเอนหลังลงกับเก้าอี้ทำงาน เธอใช้นิ้วแตะที่ริมฝีปากตัวเองอย่างครุ่นคิด
ลุงเลนนอนแอบกลอกตานิดหนึ่งโดยที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เห็น...
หนูไปพบกับเจ้าของธนาคารและเจรจาเรื่องหนี้สิน...อาจจะให้เขาลดหย่อนผ่อนอะไรก็ว่ากันไป
ยังไงไปเจอกันก็ดีกว่าการคุยกันผ่านจดหมายทวงหนี้หรือโทรศัพท์...โธ่! หลานรัก
อย่างน้อยให้เขารู้ว่าเรากังวลกับเรื่องนี้แค่ไหน...ให้เขารู้ว่าเรามีปัญหาอะไรบ้างโดยที่เราพูดออกมาเอง
มันดีกว่าผ่านจดหมายกระด้างๆเพียงฉบับเดียวลุงเลนนอนลุกจากเก้าอี้และเดินไปมาอย่างเพ้อฝัน
เฮอร์ไมโอนี่มองตามผู้เป็นลุงไปอย่างสับสน...แต่ถ้าเธอทำ...แล้วมันได้ผล...หรือถ้ามันไม่ได้ผลอย่างน้อยเ
ฮอร์ไมโอนี่ก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่อย่างน้อยเธอก็จะได้พูดในสิ่งที่เธออยากจะพูดให้นายธนาคารฟัง
ว่าไงล่ะหลานรักลุงเลนนอนเท้าแขนกับโต๊ะทำงานและจ้องเฮอร์ไมโอนี่เขม็ง
เฮอร์ไมโอนี่เหลือบตาขึ้นมองลุงเลนนอนอย่างครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ
ก็ได้ค่ะเฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างเบื่อหน่าย ลุงเลนนอนยิ้มกว้างอย่างกระหายและหัวเราะออกมาดังๆ
ฮ่าๆๆ นึกแล้วว่าหลานของลุงต้องฉลาด...ยังไงอย่าลืมล่ะ บริตินตอนเที่ยง แต่งตัวสวยๆนะหลานรัก
ทำไมหนูต้องแต่งตัวสวยๆด้วยเฮอร์ไมโอนี่ถามอย่างสงสัย ลุงเลนนอนรีบหุบยิ้ม
เขาทำท่ากระอักกระอ่วนก่อนจะพูดออกมา
ก็...ก็เผื่อเขาจะได้ใจอ่อนบ้างไงล่ะ หลานลุงสวยไม่มีที่ติอยู่แล้ว...ลุงไปนะ
ลุงเลนนอนพูดจบก็รีบสาวเท้าออกไปจากห้องทันที...
เมื่อเสียงปิดประตูหายไป...เฮอร์ไมโอนี่เอนหลังพิงเก้าอี้...เธอหลับตาลงอย่างเหนื่อยหน่าย...พยายามไล่คว
ามตึงเครียดทั้งหมดที่มีให้หายไป

เดรโก!!!
ชายหนุ่มร้องเรียกเมื่อเขาเห็นเพื่อนหนุ่มผมบลอนดืเดินหน้าบึ้งเข้ามาในร้านอาหาร...ชายหนุ่มผมน้ำตาลนั่ง
ลงกับเก้าอี้และไขว่ห้างอย่างสบายใจ มัลฟอยเดินมาที่โต๊ะอาหารด้วยฝีเท้าที่ดังโครมคราม
เขาถอดสูทออกและเหวี่ยงมันไว้ที่พนักเก้าอี้
เขานั่งลงที่เก้าอี้และส่งสายตาหงุดหงิดไปทางอื่น...ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลรินไวน์ลงในแก้วตรงหน้าของมัลฟอย
มัลฟอยยกมันกระดกขึ้นหมดแก้วด้วยเวลาไม่ถึงครึ่งนาที
ชายหนุ่มผมน้ำตาลยิ้ม...เขามองมัลฟอยด้วยดวงตาสีดำอย่างเจ้าเล่ห์
เป็นอะไรรึครับคุณชายมัลฟอยเขาพูดหยอกอย่างอารมณ์ดี...มัลฟอยส่งสายตาเหมือนจะฆ่ามาให้ชายหนุ่ม
หุบปากไปเลย..แม็คไกวน์มัลฟอยพูดอย่างไม่สบอารมณ์และส่งสายตาหงุดหงิดไปทางอื่นอีกครั้ง
แม็คไกวน์ยิ้มอย่างครึ้มอกครึ้มใจแล้วรินไวน์สีแดงสวยให้ตัวเองและมัลฟอย
ทำไมล่ะ...นายหงุดหงิดอะไรมาแม็คไกวน์ถามโดยไม่สนใจอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านของมัลฟอย
มัลฟอยหันมามองแม็คไกวน์อีกครั้ง...แม็คไกวน์ทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ
อะไร...อีกแล้วรึ!แม็คไกวน์พูดอย่างตกใจแต่กลับยิ้มร่า มัลฟอยถอนหายใจเบาๆและทำหน้าหงุดหงิด
เขายกไวน์ขึ้นกรอกใส่ปากอย่างอารมณ์เสีย..แม็คไกวน์ยิ้มนิดๆอย่างพอใจ
ผู้หญิงแต่ละคนที่นายหามาให้ฉันไม่ได้เรื่องสักคนมัลฟอยพูดอย่างบันดาลโทสะ
แม็คไกวน์ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเบาๆ มัลฟอยมองท่าทางของเขาอย่างหงุดหงิด
นายพูดแบบนี้มาสามสิบแปดคนแล้วแม็คไกวน์บอก มัลฟอยหันมามองแม็คไกวน์ตรงๆ
แต่ละคน...ไม่โลภมากอยากจะได้สมบัติฉันทั้งหมดก็งี่เง่าจะให้ฉันรับเป็นเมีย...อ้างเรื่องความรักบ้าบอ
ฉันจะประสาทกินอยู่แล้ว...ฉันหาผู้หญิงมานอนเพื่อให้ผ่อนคลายนะ..ทำไมมันกลับทำให้ฉันเครียดขึ้นมาอีกนะ

ช่างเป็นปัญหาที่น่ากลุ้มใจแม็คไกวน์พูด...แต่ด้วยเสียงที่เบามากๆ
แล้วนายอยากได้แบบไหนไม่ทราบ
แม็คไกวน์ถาม...มัลฟอยเหลือบตาขึ้นมองแม็คไกวน์ที่ยิ้มรออยู่แล้ว...มัลฟอยมองแม็คไกวน์อย่างกระอักกระอ่วน..มัลฟอยทำเหมือนอ้าปากจะพูด...แต่เขาก็ทุบโต๊ะดังปัง!
ฉันไปแล้วมัลฟอยพูดและหันหลังทำท่าจะเดินกลับ แม็คไกวน์ยกแก้วไวน์ขึ้นเป็นเชิงตอบรับ
มัลฟอยหยิบสูทขึ้นมาสวม
คิดได้เมื่อไรแล้วโทรหาฉันนะแม็คไกวน์บอกและยิ้มอย่างมีเลศนัย
มัลฟอยหลบสายตาของแม็คไกวน์และรีบกระแทกเท้าออกไปจาก

เฮ้อ!
มัลฟอยถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย...เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มสบายในห้องนอนที่มืดมิด...เขาดึงเนคไทน์ให้คลายออกและหลับตาลง...หน้าต่างที่ไม่ได้ปิดทำให้ม่านสีขาวปลิวไสว...มัลฟอยได้ยินเสียงจอแจและเสียงรถยนต์ด้านนอกเบาๆ มัลฟอยลืมตาในความมืด...เขาคิดถึงเรื่องที่แม็คไกวน์พูดกับเขา...
ฉันอยากได้ผู้หญิงแบบไหนนะ...มัลฟอยพึมพำอย่างครุ่นคิด...เขาเสยผมขึ้น....
....ผู้หญิงที่ฉันอยากได้...ผู้หญิงที่เข้มแข็ง...ไม่ใช่ผู้หญิงที่ร้องไห้กับอะไรง่ายๆ
เป็นผู้หญิงที่ทระนงหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง...ไม่ก้มหัวให้ใครง่ายๆ......
มัลฟอยคิด...สายตาของเขาเหมือนเลื่อนลอยไปไกล...มัลฟอยล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบมือถือขึ้นมา
เขากดหาเบอร์ในรายชื่อ...แม็คไกวน์ เขามองชื่อนั้นอย่างครุ่นคิด...และในอีกอึดใจหนึ่งเขาก็กดโทร
ได้แล้วรึมัลฟอยเสียงแม็คไกวน์ดังลออดมาจากโทรศัพท์
เอ่อ..อืม...มัลฟอยบอก
นี่! ฉันเพิ่งได้เข้ามาใหม่ สเป็คนายเลยล่ะ...เอวเล็กอกโต...ว่าไง นายสนใจมั้ย
ไม่ล่ะแม็คไกวน์...มัลฟอยทำหน้าแหยง
เขาเดาได้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นอย่างไร...คงจะเรื่องมากขี้ตื๊อเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ
แล้วนายอยากได้ยังไงล่ะ
แม็คไกวน์ถามด้วยเสียงเหนื่อยใจ...มัลฟอยหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง...ก่อนที่เขาจะตัดสินใจพูด...
ฉันอยากได้...ผู้หญิงที่...เอ่อ...หยิ่งนิดหน่อย
แล้วก็....เอ่อ...คือ.....เอาเป็นว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่หาได้ดาษดื่นน่ะ
มัลฟอยรู้สึกว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
และแม็คไกวน์ที่เงียบไปนั้นก็คงจะคิดว่าเขาบ้าไปแล้วเช่นกัน...นี่เขาทำอะไรลงไปนะ เขาประสาทไปแล้วแน่ๆ
ได้แม็คไกวน์พูด
อะไรนะ!!!มัลฟอยพูดเสียงดังและกระโดดลุกขึ้นนั่ง
ฉันบอกว่า...ฉันมีนะ อย่างที่นายต้องการน่ะ...แล้วอีกอย่าง...เขาเป็นลูกหนี้ของธนาคารนายด้วย
มัลฟอยคิดว่าเขาประสาทไปแล้ว
แต่เขากลับรู้สึกว่าการที่หาผู้หญิงแบบที่เขาบอกได้นั้นต้องเป็นเรื่องบ้ามากกว่า...ผู้หญิงที่ว่า...จะเป็นยังไงกันนะ
นาย...มีงั้นเหรอ...มัลฟอยถามอย่างไม่เชื่อหู
ใช่...แต่แพงหน่อยนะ นายสนใจมั้ยล่ะแม็คไกวน์ถาม...มัลฟอยทำหน้าครุ่นคิด
แต่หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นานเขาก็พูดว่า.....
ตกลงมัลฟอยบอก...เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาพูดอะไรออกไป...
งั้น...พรุ่งนี้ที่โรมแรมบิรตินตอนสองทุ่ม...สินค้าพร้อมรออยู่ที่ห้องแล้ว...พรุ่งนี้ฉันจะคีย์การ์ดห้อ
งไปให้นาย’....ถึงตอนนี้มัลฟอยเองยังแทบไม่เชื่อตัวเองเลยว่า...เขาทำบ้าอะไรลงไปวะ!
เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แต่เขาก็ได้สิ่งที่เขาต้องการ...นั่นก็เยี่ยมยอดเหมือนกัน
อืม...แค่นี้นะมัลฟอยกดวางสาย..เขานอนแผ่หลาลงไปบนเตียงอีกครั้ง
แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความคิดมากมาย...น่าแปลกที่เขารู้สึกว่าใจของเขาเต้นแรงอย่างแปลกประหลาด...ผู้
หญิงที่เขาต้องการ มัลฟอยเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาต้องการผู้หญิงแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า
....ผู้หญิงที่ฉันอยากได้...ผู้หญิงที่เข้มแข็ง...ไม่ใช่ผู้หญิงที่ร้องไห้กับอะไรง่ายๆ
เป็นผู้หญิงที่ทระนงหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง...ไม่ก้มหัวให้ใครง่ายๆ......
เราอยากได้ผู้หญิงแบบนั้นอย่างนั้นเหรอ...
มัลฟอยยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก...เขาหลับตาลง..พยายามครุ่นคิดว่า...ผู้หญิงที่เขาต้องการนั้น...เขาได้ความคิดนี้มาจากไหน...เหมือนจะเลือนรางเหลือเกิน...ผู้หญิงคนนั้น...เหมือนกับว่า...เธอจะมีตัวตนอยู่จริงๆ


JE TE VEUX :chapter 2 : โซ่ตรวน

.....หญิงสาวนั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวสวย...รองเท้าส้นสูงสีแดงนอนอยู่บนพื้นพรม...เธอส่ายเท้าเล่นไปมา..
.มือของเธอลูบไล้อยู่ที่กรอบรูป...รูปซึ่งเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำของเธอ...ความหลังและอดีตที่แสนสุขใจ
เฮอร์ไมโอนี่กำลังคิดถึงเมื่อครั้งเธอยังเรียนอยู่ที่ฮอกวอตส์...อยู่กับเพื่อน...และคนที่เธอรัก...เขายิ้มร่าอยู่ในกรอบรูปนั้น...ดวงตาสีเขียวมรกตที่มองครั้งใดก็รู้สึกอุ่นใจ...เฮอร์ไมโอนี่มองชายในรูปอย่าง
คิดถึง...เธอและเขาไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้ว...นานจนไม่แน่ใจว่าเขาจะคิดถึงเธอเหมือนที่เธอคิดถึงเขารึเปล่า
แฮร์รี่...
เฮอร์ไมโอนี่เรียกชื่อเขาเบาๆ...แม้เขาจะไม่ได้รับรู้ว่ามีคนคนหนึ่งที่คิดถึงเขาอยู่ก็ตาม...เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลง...ปล่อยให้น้ำตาแห่งความท้อและความเดียวดายไหลออกมาช้าๆ...ไม่มีครั้งใดที่เธอจะรู้สึกทรมานใจเท่าในเวลานี้...ความเหงาเดียวดาย...ความเหนื่อยล้า..และความรู้สึกต่างๆที่ทำร้ายจิตใจกำลังประเดประดังเข้ามาหาเธอ...เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอจนแทบจะสู้กับปัญหาต่างๆไม่ไหว...เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นคน
อ่อนแอขนาดนี้...เธอซุกหน้าลงกับพนักโซฟา...และร้องไห้อย่างสุดกลั้น
ถ้าเวลานี้...เธออยู่เคียงข้างฉัน...ต่อให้ฉันต้องเจอกับอะไร...ฉันก็พร้อมที่จะสู้
แต่แฮร์รี่...ฉันรู้ว่าเธออยู่ไกลเหลือเกิน
เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยเสียงสั่นเครือ...ในห้องที่มีแต่เธอเท่านั้น...ที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เข้มแข็งอย่างที
่ใครๆเข้าใจ

4.58 น.
มัลฟอยรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนหลับยาก...แต่เขาเองก็ไม่เคยตาแข็งขนาดนี้...เขานอนแผ่อยู่บนเตียงในชุดเดิม..
.จิตใจเฝ้าประพึงไปถึงอีกสิบหกชั่วโมงข้างหน้า...ผู้หญิงที่เขาต้องการ...เธอจะเป็นแบบไหนกันนะ
ถ้าเธอเป็นผู้หญิงที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างที่เขาต้องการ...ทำไมเธอถึงได้ยอมพลีร่างกายเพื่อแลกกับเงิน..
.หรือเขาจะโดนแม็คไกวน์หลอกเสียแล้ว
แต่ถึงอย่างไรมัลฟอยก็อยากจะรู้นัก...ว่าผู้หญิงในอุดมคติของเขา...ตัวจริงจะเป็นอย่างไร....
....ถึงตอนนี้มัลฟอยก็ยังตั้งคำถามกับตัวเองไม่เลิก
ผู้หญิงที่เขาพูดนั้น...เขาไปลอกแบบมาจากใคร...ดูเหมือนเธอคนนั้นจะอยู่ในความทรงจำของเขา
แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นเป็นใครกันแน่...เหมือนกับว่าเธอคนนั้นเป็นคนสำคัญเสียจนมัลฟอยต้องจดจำภาพเธอ
เอาไว้...แต่ถึงอย่างไรมัลฟอยก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่าเธอคนนั้นเป็นใครกัน
บ้าไปแล้วเรา
มัลฟอยพึมพำและหัวเราะเบาๆในลำคอ.....เขามองออกไปด้านนอก...คิดถึงสิ่งที่ตัวเองตั้งตารอ...

....เหมือนสมองจะระเบิด
มัลฟอยคิดและใช้กำปั้นทุบที่ท้ายทอยตัวเองเบาๆ...เมื่อคืนกว่าเขาจะหลับก็ปาเข้าไปหกโมงเช้า
และเขาก็ยังต้องแหกตาตื่นมาทำงานตั้งแต่แปดโมงครึ่ง
มัลฟอยเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้และหลับตาลง...ถ้าผู้หญิงที่ทำให้เขาต้องอดตาหลับขับตานอนตั้งตารอไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาต้องการจริงๆล่ะก็...เขาจะถลกหนังหัวแม็คไกวน์
คุณมัลฟอยคะ!
เลขาสาวชะโงกหน้าเข้ามาหามัลฟอย...เขาสะดุ้งตัวและมองเลขาสาวที่หอบแฟ้มเอกสารเอาไว้ในอ้อมแขน เธอขมวดคิ้วนิดหนึ่งแล้วยิ้มแบบฝืดๆให้มัลฟอย
ไม่สบายหรือเปล่าคะเธอถามอย่างเป็นห่วง...มัลฟอยมองเธออย่างเหนื่อยใจแล้วส่ายหน้า
ดูเหมือนหญิงสาวจะรู้ว่าเจ้านายของเธอไม่ต้องการให้ถามซอกแซก
เธอวางกองเอกสารในมือลงบนโต๊ะของมัลฟอย...มัลฟอยชำเลืองตามองมันนิดหนึ่งอย่างเหนื่อยใจ
นี่เป็นข้อมูลของลูกค้าที่กู้เงินกับธนาคารของเราไปค่ะ..และยังไม่ได้ชำระคืนเธอพูดอย่างคล่องแคล่ว
มัลฟอยส่ายหน้าและโบกมือเป็นเชิงว่าให้จัดการเอาเอง
จะไม่ดูเสียหน่อยรึคะเลขาสาวถาม
คุณจัดการเองเลย...เอ่อ...ไม่งั้นก็วางไว้นี่แหละ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาจัดการ
วันนี้ผมปวดหัว...จะขอกลับก่อนมัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย
เขาคว้าสูทสีดำขึ้นมาและสวม...เลขาสาวมองเขาอย่างสงสัย...มัลฟอยหลบตา...ก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋าและสาวเท้าออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

....แสงแดดยามบ่ายสะท้อนดวงตาสีฟ้าซีดของมัลฟอยให้ดูน่าหลงใหล...มัลฟอยกางแขนทั้งสองข้างวางพาดไว้บนพนักเก้าและนั่งด้วยท่าที่สบายที่สุด
เขาไขว้ขาและกระดิกเท้า...ส่งสายตารำคาญให้กับบรรดาหญิงสาวที่พยายามลอบมองเขาและส่งสายตาเชิญชวนมาให้...
สีหน้าของมัลฟอยเต็มไปด้วยความหงุดหงิดรำคาญใจ
มัลฟอยคายเน็คไทน์ออกและปลดกระดุมเสื้อ..จากนั้นเขาก็หลับตาเพื่อพยายามจะไม่สนใจสายตาของบรรดาผู้หญิงที่
เขาเห็นว่าช่างเป็นสิ่งที่ไร้ค่าเหลือเกิน...
ไง!
เสียงทักของชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับร่างของแม็คไกวน์ที่นั่งลงบนม้านั่งข้างๆมัลฟอย...มัลฟอยเปิดเปลือกตาชำเลืองมาเขานิดหนึ่งก่อนจะหลับตาต่อ
แม็คไกวน์หยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋า...เขาจุดมวนหนึ่งและส่งให้มัลฟอย
มัลฟอยรับมาโดยไม่เอ่ยอะไรและยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น
มัลฟอยอัดควันมรณะเข้าไปเต็มปอดและพ่นควันนั้นออกมา แม็คไกวน์ใช้มือคีบบุหรี่อยู่ที่ปากของตัวเอง
เอ้า!แม็คไกวน์ใช้ปากคีบบุหรี่แทนมือแล้วยัดคีย์การ์ดใส่มือข้างหนึ่งของมัลฟอย
มัลฟอยดึงบุหรี่ออกจากปากและมองคีย์การ์ดในมือตัวเองอย่างตกตะลึง
นี่คือ....มัลฟอยถามอย่างเงอะงะ
กุญแจเปิดกรงของนกน้อยไงล่ะแม็คไกวน์ยิ้มให้มัลฟอยและพ่นควันใส่หน้าเขา
มัลฟอยมองคีย์การ์ดในในมืออย่างตกตะลึง...เหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เขาประคองคีย์การ์ดในมืออย่างทะนุถนอมราวกับเป็นของมีมูลค่าราคาแพง
แม็คไกวน์มองมัลฟอยอย่างแปลกใจ...เขาพ่นควันออกมาอีกครั้งและจี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ข้างม้านั่ง
อย่ามัวแต่มองล่ะ...ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกันที่นายบอกว่าอยากได้ผู้หญิงแบบนั้นน่ะ...เหมือนไม่ใช่นายเลย
แม็คไกวน์อดที่จะบ่นให้เพื่อนฟังไม่ได้...เขารู้จัดดับมัลฟอยมาเกือบแปดปีและมีหน้าที่เป็นนายหน้าหาผู้หญิงอย่างที่มัลฟอยต้องการเพื่อใช้เป็นเครื่องระบายอารมณ์...ผู้หญิงที่มัลฟอยชอบนั้นคือพวกผู้หญิงสวยเลอเลิศหุ่นนางแบบ...หรือไม่ก็อ่อนหวานน่ารัก
แล้วแต่ว่าครั้งนั้นอารมณ์ของมัลฟอยจะต้องการผู้หญิงแบบไหน...นี่เป็นครั้งแรกที่มัลฟอยต้องการให้เขาหาผู้หญิงโดยไม่พูดถึงเรื่องหน้าตาสักคำเดียว เพราะฉะนั้นเขาจึงแปลกใจมากกว่าทุกครั้ง
ไม่ว่าจะเพราะอะไรแต่ฉันต้องไปแล้วแม็คไกวน์บอกพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้
มัลฟอยสอดคีย์การ์ดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อย่างหวงแหน
แม็คไกวน์หันมายิ้มให้มัลฟอยด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์
มัลฟอยทำหน้าราวกับเจอของขม...แต่แม็คไกวน์ก็ยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดี
บอไว้ก่อนนะว่าคราวนี้แพงกว่าทุกครั้งแม็คไกวน์ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
มัลฟอยพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้...
ที่โรมแรมตอนสองทุ่ม อย่าลืมล่ะพ่อหนุ่มช่างฝัน
อยากตายมั้ยแม็ค?!” มัลฟอยคำรามใส่ แม็คไกวน์หัวเราะและเดินจากไปโดยโบกมือจากด้านหลังมาให้
สายตาของมัลฟอยเต็มไปด้วยความกังวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
รู้สึกแปลกใจตัวเองที่เขาตื่นเต้นกับการที่จะได้พบกับผู้หญิง...ก็แค่สินค้าธรรมดาที่เขาเคยเจอมาเป็นร้อย
ครั้ง
แต่คราวนี้ราวกับว่าเขาจะได้เจอกับสิ่งเลอค่า...สิ่งที่เขาตามหา...แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ยอมพลีร่างกายเพื่อเงินก็ตาม...

.....ภาพในกระจกตรงหน้าสะท้อนภาพของหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง...แต่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอนั้นกับฉายแววเศร้าและอ้างว้าง
เธอบรรจงใช้หวีแปรงผมสีน้ำตาลทิ้งตัวเป็นลอนสวยอย่างเชื่องช้า...ริมฝีปากของเธอเม้มแน่นซึ่งเป็นอาการในยามที่เธอเหม่อลอย...เธอวางหวีลงอย่างเชื่องช้า...ทุกอิริยาบถเป็นไปด้วยความไม่เร่งรีบเหมือนกับว่าเธอต้องการให้เวลาเดินช้ามากที่สุด เฮอร์ไมโอนี่ม้วนผมขึ้นเป็นมวยไว้ด้านบน
เปิดต้นคอขาวนวลละเอียดหยอกล้อเล่นกับแสงไฟจางๆ...เธอแต้มน้ำหอมอ่อนๆลงบนต้นคอเบาๆ
ชุดแซ็คสีน้ำเงินเข้มทำให้เธอดูภูมิฐานและสง่างาม...เฮอร์ไมโอนี่ไม่ได้แต่งกายให้สวยเลอเลิศอย่างที่ลุงเลนนอนได้สั่งย้ำนักย้ำหนา
เพียงแต่ทำให้ตัวเองดูดีมากที่สุดเท่าที่จิตใจอันห่อเหี่ยวของเธอในตอนนี้จะทำได้
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่...มองตัวเองในกระจกอย่างสิ้นหวัง
เธอลุกขึ้นจากโต๊ะเครื่องแป้งและสวมรองเท้าส้นสูงหุ้มข้อที่เตรียมไว้...สายตาของเธอมองไปที่รูปถ่ายที่เธอหวงแหนอย่างหมดอาลัยตายอยาก...ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมาจากห้อง...เผชิญกับสิ่งที่เธอต้องการให้เกิดขึ้นช้าที่สุด
เสียงร้องเท้าส้นสูงกระทบกับบันไดหินอ่อน....เฮอร์ไมโอนี่ย่างเท้าลงมาจากบันไดอย่างเหม่อลอย...เธอไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจิตใจของเธอถึงกงัวลเรื่องที่จะต้องไปคุยกับนายหน้าธนาคาร...เหมือนมีสิ่งหนึ่งร่ำร้องฉุกรั้งไม่ให้เธอไป...เฮอร์ไมโอนี่ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกเช่นนั้นมันคืออะไร
แต่เธอก็ยังอดรู้สึกใจหายไม่ได้เหมือนกัน..ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร...
โอ้! เฮอร์ไมโอนี่!ลุงเลนนอนร้องเสียงใสอย่างปลื้มใจ
เฮอร์ไมโอนี่ชำเลืองมองมนุษย์หน้าเงินอย่างเย็นชา...ลุงเลนนอนพาร่างท้วมเตี้ยเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่
เขาจับไหล่ของร่างที่ซังกะตายของหญิงสาวอย่างภาคภูมิใจ
หนูสวยมากเลย...ดีแล้วๆลุงเลนนอนชมอย่างปลื้มปีติ เฮอร์ไมโอนี่ตัวดมองชายแก่อย่างจับพิรุธ
ลุงเลนนอนพยายามหลบสายตาของเธอ...เฮอร์ไมโอนี่ปัดมือของลุงเลนนอนออกอย่างดูแคลน
หมายความว่าไงคะ ดีแล้ว...เฮอร์ไมโอนี่ถามและพยายามส่งสายตาจับพิรุธ
ลุงเลนนอนก้าวถอยหลังออกมาแล้วแกล้งกระแอ้มไอ
เอ้อ!ลุงก็หมายความว่าดีแล้วที่หนูแต่งตัวดี...เอ่อ..นายธนาคารเขาจะได้ให้เกียรติหนูบ้างไงล่ะจ๊ะ
ลุงเลนนอนพูดออย่างกระอักกระอ่วน
เฮอร์ไมโอนี่พยายามหาพิรุธในชายแก่...แต่เธอก็ชำเลืองมองเขาอีกครั้ง..และก้าวเดินฉับๆจากไปโดยไม่กล่าวล่ำลา ทิ้งให้ลุงเลนนอนยืนอยู่ในคฤหาสน์หลังงามเงียบๆ และแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจเพียงลำพัง

ทันทีที่ชายหนุ่มผมบลอนด์ก้าวเข้าไปในโรมแรมบริตินที่หรูหรา...เขาก็ต้องแอบลอบสบถออกมาเบาๆเมื่อเจอกับสายตายั่วยวนและเสียงซุบซิบจากบรรดาสาวๆที่บริเวณล็อบบี้...เขาชะงักเท้าและหัยขวับส่งสายตาดุดันผ่านแว่นกันแดดไปให้หญิงวัยกลางคนสองคนที่กำลังซุบซิบชี้ชวนกันมองมาที่เขา เธอทั้งสองหุบปากลง
มัลฟอยบ่นขมุบขมิบและก้าวขายาวๆไปที่เคาน์เตอร์...พนักงานชายต้อนรับก้าวมาหาเขาอย่างสุขุมที่หลังเคาน์เตอร์ มัลฟอยถอดแว่นกันแดดอกและถามกับพนักงาน
ห้อง 5028 มีคนมารึยังมัลฟอยถามอย่างไว้ตัว พนักงานชายก้มลงกดอะไรสักอย่างลงบนแป้นคอมพิวเตอร์
เขาเงยหน้าขึ้นและยิ้มต้อนรับให้มัลฟอย
ยังครับ...แต่มีคนจอง...
ขอบใจมัลฟอยชูคีย์การ์ดให้พนักงานดูแล้วสาวเท้าออกไป.....

ทันทีที่เท้าของเฮอร์ไมโอนี่เหยีบบลงบนพรมสีแดงหรูของโรมแรม...อาการใจสั่นและหวั่นวิตกก็เกิดขึ้น
สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าอยากจะไปให้พ้นจากที่นี่เหลือเกิน
แต่เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอจึงรู้สึกเช่นนั้น
คืนนี้เฮอร์ไมโอนี่ดูโดดเด่นมากเมื่อเข้ามาในล็อบบี้ของโรมแรม
ชุดสำน้ำเงินเข้มทำให้เธอดูสง่าและมีท่าทีเย่อหยิ่งเล็กน้อย...เฮอร์ไมโอนี่สำรวจตัวเองในเงากระจก...สำรว
จเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่สวยจนเกินไปในคืนนี้
ห้อง 5028 มีคนมารึยังเฮอร์ไมโอนี่ถามพนักงานต้อนรับหลังจากที่ได้ถอนหายใจแล้ว
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าอย่างนอบน้อม
มาแล้วครับ เพิ่งเมื่อสักครู่นี้เองเขายิ้มอย่างมีไมตรี
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้...เธอล้วงลงไปในกระเป๋าถือ...สัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เธออุ่นใจและรู้สึกมั่นใจขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจอีกครั้ง...และก้าวเดินไปที่ลิฟท์....

มัลฟอยวางเท้าพาดไว้บนโต๊ะรับแขก...มือของเขาคีบบุหรี่เอาไว้อย่างเบื่อหน่าย
เขามองออกไปทางหน้าหน้าต่างด้านนอก...แสงสีของมหานครนิวยอร์คราวกับการแสดงที่ดูเท่าไรก็ไม่มีวันเบื่อ
มัลฟอยพ่นควันบุหรี่ลอยฉุยและปล่อยให้มันระเหยไปในอากาศ...เขากำลังคิดใคร่ครวญตัวเองอยู่เงียบๆ...ปล่อยใ
ห้สมาธิไหลกลับเข้ามาหาตัวเองหลังจากที่มันระเหยหายไปตั้งนานแล้ว...สิ่งที่มัลฟอยต้องการที่สุดในตอนนี้.
..น่าจะเป็นเสียงเคาะประตูห้องทางด้านหลังของเขามากกว่าสิ่งใด
ก๊อกๆๆ
...ราวกับเสียงระฆังของสวรรค์ มัลฟอยสะดุ้งตัวเล็กน้อย...บุหรี่เลื่อนหลุดจากมือ
มัลฟอยหยิบบุหรี่ขึ้นมาคีบไว้อย่างมั่นคงและทำตัวให้เป็นปกติมากที่สุด
เข้ามา!
มัลฟอยตะโกนออกไป...เขาได้ยินเสียงประตูเปิดและเสียงรองเท้าส้นสูงย่ำลงบนพรม...เสียงปิดประตูดังขึ้นเบาๆ
...เหมือนกับว่าเธอคนนั้นจะหยุดยืนอยู่กับที่
...เฮอร์ไมโอนี่ยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก...เธอพยายามชะเง้อหน้ามองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางที่ไว้ตัวที่สุด
แต่เธอก็เห็นเพียงมือที่คีบบหุรี่ของเขาที่ยืนออกมาจากโซฟาที่หันหลังให้เธอ...เท้าของเขาพาดอยู่บนโต๊ะรับแขก เฮอร์ไมโอนี่เบ้ปากและแอบสบถๆในใจ
มารยาทต่ำเฮอร์ไมโอนี่คิด
คุณใช่คนที่จะมารึเปล่ามัลฟอยถาม...เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้งเฮือก เสียงนี้...ช่างคุ้นหูเหลือเกิน
แม้ว่าเสียงนั้นจะฟังดูแตกต่างไปจากที่เธอคิดว่าเคยได้ยินแต่เธอก็รู้สึกว่าคุ้นหูมาก...เสียงที่ฟังดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง..เสียงนี้ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงเรื่องแย่ๆอย่างบอกไม่ถูก
ค่ะ
เฮอร์ไมโอนี่ตอบไปหลังจากที่พยายามใคร่ครวญคิด...มัลฟอยแทบจะทำบุหรี่หล่นจากมือ...น้ำเสียงนุ่มที่ทำให้นึกถึงความเข้มแข็ง...มัลฟอยรู้สึกคุ้นหูกับเสียงนี้เหลือเกิน
มันทำให้เขารู้สึกตะขิดตะขวงใจและรำคาญนิดๆอย่างบอกไม่ถูก
ใครวะ! มัลฟอยคิด...ฉับพลัน! เขาลุกขึ้นจากโซฟาและหันไปมองเจ้าของเสียง
ทันทีที่ได้เห็น...มัลฟอยถึงกับตาค้างและยืนยิ่งอยู่อย่างนั้น...เขารู้สึกชาวาบไปทั้งตัว
เฮอร์ไมโอนี่เกร็งตัวแน่น...ทันทีที่เขาคนนั้นหันมาเธอแทบจะเก็บเสียงร้องเอาไว้ไม่ได้...ริมฝีปากของเธอสั่ยระริก...ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างอย่างตกตะลึง
กะ...แก! มัลฟอย!
เฮอร์ไมโอนี่หลุดปากออกมาประโยคหนึ่งและชี้นิ้วไปที่มัลฟอย...มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ตาค้าง
เขาก้าวเดินออกมายืนอยู่ตรงหน้าเฮอร์ไมโอนี่และขมวดคิ้วด้วยความตระหนก
เธอ! ยัยเกรนเจอร์!มัลฟอยขยับปากช้าๆ เขาหรี่ตามองเฮอร์ไมโอนี่อย่างไม่นึกฝัน...เฮอร์ไมโอนี่
เกรนเจอร์ ศัตรูคู่อาฆาตตลอดชาติของเขา...ยัยผู้หญิงอวดดี จองหอง
โวยวายน่ารำคาญ...เลือดมักเกิ้ลโสโครกที่เขาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ยอมแตะต้องยัยโสมมคนนี้เด็ดขาด!
ทำไม! ทำไมแกมาอยู่ที่นี่!เฮอร์ไมโอนี่อยากจะแหกปากลั่น
เธอตวัดแขนเข้ามาไว้ข้างลำตัว...มาดของผู้หญิงเย่อหยิ่งและสง่างามหายวับไป
เหลือแต่ผู้หญิงปากเก่งจัดจ้านเหมือนเมื่อหลายปีก่อน
ฉันต้องถามเธอต่างหาก! เกรนเจอร์!มัลฟอยตวาดใส่
เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเธอก้าวหนึ่ง...เฮอร์ไมโอนี่ขยับเท้าหนีไปอีกหนึ่งก้าว
สายตายังคงจ้องกันดุเดือดอย่างไม่ละเว้น
แล้ว...แล้วนายธนาคารล่ะ! เขาอยู่ไหน!
เฮอร์ไมโอนี่ถามและมองล่อกแล่ก...ที่จริงหญิงสาวกำลังพยายามหาทางหนีทีไล่ เดรโก มัลฟอย
ผู้ชายที่แค่เจอหน้ากันก็รู้สึกว่าอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่!
นายธนาคาร...
มัลฟอยทวนคำพูดช้าๆ...เขาพยายามค้นหาความจำในสมองของเขา...ชายหนุ่มยกบุหรี่ขึ้นสูบเพื่อลดความตึงเครียด
สายตาของเขาจ้องไปทางอื่นเพื่อหลบสายตาที่อาจจะฆ่าเขาได้ของเฮอร์ไมโอนี่
ฉันบอกว่า...ฉันมีนะ อย่างที่นายต้องการน่ะ...แล้วอีกอย่าง...เขาเป็นลูกหนี้ของธนาคารนายด้วย
ใช่แล้ว!
แม็คไกวน์บอกกับเขาทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้...ผู้หญิงที่จะมาหาเขาเป็นลูกหนี้ของเขา...และยัยเกรนเจอร์ก็โ
วยวายหานายธนาคาร...ซึ่งก็คือตัวเขาเอง!!!
เธอ! เธอเป็นผู้หญิงที่แม็คไกวน์ส่งตัวมารึ!มัลฟอยยิงคำถามอย่างกระแทกกระทั้น
เฮอร์ไมโอนี่ก้าวถอยหลังไปอีก เธอมองมัลฟอยเหมือนกับว่ากำลังมองคนเสียสติ
เธอเชิดหน้าอย่างเย่อหยิ่งทั้งๆที่สีหน้าเต็มไปด้วยคำว่า กลัว
แม็คไกวน์! แม็คไกวน์บ้าอะไรของแก! ฉันไม่รู้จักเฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงดังฉะฉาน
มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่เหมือนเธอเป็นตัวประหลาด
เขาขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด...โดนแม็คไกวน์ต้มเสียเปื่อยเลย...ยัยเกรนเจอร์โดนหลอกมา...และเขาก็โดนเจ้าแม็คไกวน์หลอกต่อมาอีกทอดหนึ่ง
เธอโดนหลอกแล้ว! เกรนเจอร์!มัลฟอยตะเบงเสียงและหันกลับไปเตะโซฟาอย่างหงุดหงิด พัง! พังหมดเลย เพราะไอ้แม็คไกวน์บ้านั่นตัวเดียว เขาอุตส่าห์นอนฝันหวาน..ไม่สิ!
อดตาหลับขับตานอนตั้งตารอเวลานี้มาทั้งวัน แต่กลับมากลายเป็นไอ้โง่ให้คนอื่นด่า
และคนที่ด่าก็คือยัยเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์! ผู้หญิงที่น่าขยะแขยงยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ!
โดนหลอก! หลอกอะไร! ก็ฉันจะมาคุยเรื่องหนี้กับ.......
โว้ย!!!!!มัลฟอยคำรามลั่นและหันกลับมามองเฮอร์ไมโอนี่อย่างเดือดดาล ทำไมยัยนี่มันโง่อย่างนี้นะ!
น่าจะอ่านเรื่องทั้งหมดออกได้แล้ว
ก็ฉันนี่แหละนายธนาคาร! เจ้าหนี้เธอไง! แล้วเธอมาที่นี่ก็เพราะฉันบอกให้แม็คไกวน์ช่วยหาผู้หญิงมาให้!
ผู้หญิงขายตัวน่ะ! เข้าใจมั้ย!มัลฟอยอยากจะตีอกชกหัวตัวเอง
เฮอร์ไมโอนี่นิ่งอึ้งตะลึงไปทันที...เธอโดนหลอกมาขาย...และมัลฟอยก็เป็นคนซื้อ...แถมเขายังเป็นเจ้าหนี้ของเธอ...เฮอร์ไมโอนี่นิ่งตาค้าง....เธอกำลังคิดเรียงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดในสมอง
ฮ่าๆๆ นึกแล้วว่าหลานของลุงต้องฉลาด...ยังไงอย่าลืมล่ะ บริตินตอนสองทุ่ม แต่งตัวสวยๆนะหลานรัก
.....เฮอร์ไมโอนี่แทบจะลงไปกองกับพื้น...ทำไมเธอถึงโง่อย่างนี้นะ
เธอเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว..ลุงเลนนอนขายเธอ!!! ตาแก่โลภมากตัวสร้างปัญหานั่น!
ขายเธอให้กับมัลฟอย!...ทำไมเธอถึงไม่เฉลียวใจตั้งแต่แรกนะ...ทำไมถึงไม่สงสัยกับคำพูดและท่าทางมีพิรุธของ
ตาแก่นั่น!!
มัลฟอยมองเฮอร์ไมโอนี่ที่อึ้งตะลึงอย่างเหยียดหยาม...ผู้หญิงปากกล้าอวดเก่งเมื่อตอนอยู่ที่ฮอกวอตส์...สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการขายตัวเองขัดดอก...ที่แท้เธอเองก็เป็นเหมือนผู้หญิงกระหายเงินทั่วไป...ยอมนอนกับคนอื่นเพื่อแลกกับเงิน
ฮึๆๆ....ฮะ.ๆๆๆๆๆๆมัลฟอยระเบิดเสียงหัวเราะอย่างดุร้าย
เขาก้าวถอยหลังไปและจี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ ในที่สุด!
ยัยผู้หญิงที่เคยตะโกนด่าเขาปาวๆก็ต้องคลานเข้ามาสยบอยู่แทบเท้าเขา...มัลฟอยคิดอย่างสะใจ...เขาแทบจะหยุด
หัวเราะไม่ได้ เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยอย่างโกรธแค้น
เธอปาดน้ำตาแห่งความโกรธและผิดหวัง...สายตาของเธอที่จ้องมัลฟอยนั้นแทบจะฆ่าเขาให้ตาย
สารเลว....!เฮอร์ไมโอนี่สบถเบาๆ
เธอปาดน้ำตาอีกครั้งและเขม่นตามองมัลฟอย....ศัตรูที่เธอไม่มีวันก้มหัวให้...แต่วันนี้เธอกลับถูกเขาหัวเราะอย่างไร้ค่า!
เธอว่ายังไงนะ!มัลฟอยหยุดหัวเราะ เขาถาม..เน้น..ย้ำ
ขอให้เมื่อกี้ตัวเองหัวเราะจนประสาทเสียไปหน่อย...เพราะถ้าเธอพูดอย่างที่เขาได้ยินเมื่อครู่จริงๆล่พก็..
.ยัยนี่กลายเป็นศพออกไปจากห้องแน่!
สารเลว!!เฮอร์ไมโอนี่ตอบย้ำคำอย่างสะใจ เธอยิ้มเหี้ยมเกรียมทั้งน้ำตา
ความโกรธและความเสียใจที่ถูกหลอกทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกว่าตัวเองประสาทไปแล้ว!
กล้าหาญมาก...ที่ด่าฉัน
มัลฟอยำยักหน้าช้าๆ...เขาเขม่นตา...พยายามระงับอารมณ์ไม่ให้ฆ่ายัยเลือดโสโครกนี่ให้เสียราคามือ...แต่เท้าของเขากลับไม่หยุดอยู่กับที่
มัลฟอยย่างสามขุมเข้าไปหาเฮอร์ไมโอนี่ช้าๆ...เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเย้ยหยัน...แต่เท้าของเธอกลับก้าวถอยหลังไป
อย่างหวาดกลัว
เธอเป็นใคร! ถึงมาด่าฉันได้! มัลฟอยตวาดใส่ปละกดไหล่เฮอร์ไมโอนี่ให้ติดผนัง
เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแน่นด้วยความเจ็บปวด เธอลืมตาขึ้น...จ้องมองมัลฟอยด้วยแววตแข็งกร้าว
แก...แกซื้อผู้หญิงด้วยเงิน!
เห็นผู้หญิงเป็นของไร้ค่าต่ำต้อยที่เศษสวะอย่างแกจะเหยียบย่ำได้ง่ายๆ...แกเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น!
ซื้อผู้หญิงด้วยเงิน! และแกก็ดูถูกฉัน!คนชั้นต่ำอย่างแก!เฮอร์ไมโอนี่ระบายออกมาอย่างสุดกลั้น
เธอรู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่ถูกคนชั้นต่ำน่ารังเกียจอย่างมัลฟอยดูถูก...มัลฟอยกระตุกมุมปาก
เขาหอบหายใจถี่..เหมือนระเบิดลูกใหญ่กำลังใกล้เวลาที่จะปะทุตัวเองเต็มที
เศษสวะ! ชั้นต่ำ!มัลฟอยพูดลอดไรฟันออกมา...ยัยผู้หญิงน่าเงินโสโครก...ด่าเขาอย่างเจ็บแสบ
มัลฟอยบีบไหล่เฮอร์ไมโอนี่แน่น อยากจะทำให้ยัยผู้หญิงปากเก่งนี่ละเอียดคามือ
เฮอร์ไมโอนี่หน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
สายตาที่มัลฟอยมองเธอนั้นช่างโหดเหี้ยมจนเฮอร์ไมโอนี่ต้องเบือนหน้าหนี
อย่ายั่วอารมณ์ฉัน..เกรนเจอร์ ถึงเธอจะถูกหลอกมาก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำอะไรเธอไม่ได้!
เมื่อได้ฟังที่มัลฟอยพูดเฮอร์ไมโอนี่ก็เริ่มดิ้น มือของเธอรัวทุบที่แผ่นอกกว้างแข็งแรงของเขา
มัลฟอยเห็นท่าทางของเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูหวาดกลัวเขาก็ยิ้มที่มุมปาก...สายตาของเขาที่มองเธอเหมือนมองลูกไก่
ที่กำลังพยายามจะหนีออกจากเขียงเชือด!
กลัวล่ะสิ...มัลฟอยยิ้มเยาะ...เฮอร์ไมโอนี่มองเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ เธอพยายามดิ้นหนี
มัลฟอยกับรั้งตัวเธอเข้ามาใกล้ตัวเขามากขึ้น
ฉันไม่กลัวคนอย่างแกหรอก! ทำไมฉันจะต้องกลัวลูกของคนขี้คุกด้วย!เหมือนน้ำมันราดลงไปบนกองไฟ
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มมีชัยเมื่อมัลฟอยนิ่งไป...แต่แรงของเขาที่บีบไหล่ของเฮอร์ไมโอนี่กลับแน่นขึ้น...เฮอร์ไม
โอนี่พยายามกลั้นเสียงร้อง มัลฟอยมองเธอเหมือนกับอยากจะฆ่าให้ตาย
เธอว่าใคร!
ยังไม่รู้ตัวอีกรึ! พ่อใครล่ะที่ถูกแฮร์รี่โยนเข้าไปอยู่ในอัซคาบันน่ะ!!!
เกรนเจอร์!!!มัลฟอยเลื่อนมือมาที่คอเพรียวของเฮอร์ไมโอนี่
ทันทีที่เขาออกแรงบีบคอของเธอ...เฮอร์ไมโอนี่ดิ้นสุดแรงพื่อเอาชีวิตรอด
ดวงตาของมัลฟอยกราดเกรี้ยวเหมือนมัจจุราช เฮอร์ไมโอนี่พยายามดึงมือของมัลฟอยออก
เธอดิ้นทุรนทุรายและมองมัลฟอยด้วยสายตาหวาดกลัว
กลัวฉันรึ! เธอกลัวฉันใช่มั้ยเกรนเจอร์!!มัลฟอยกราดเกรี้ยว เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยตาเขียว
ทั้งที่ใบหน้าของเธอนั้นซีดขาวเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจ
แต่สายตาที่เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยกลับแสดงถึงความเคียกแค้นและหยิ่งทระนง!
ไม่กลัว! ฉันไม่กลัวลูกคนขี้คุกอย่างแก! มัลฟอย
เกรนเจอร์!มัลฟอยตะเบงเสียงใส่ ชายหนุ่มขบกรามแน่นอย่างข่มอารมณ์
เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากเพื่อหายใจแต่ความกลัวที่ฉายออกมาทางแววตาของเธอนั้นกลับไม่มีให้เห็นอีกแล้ว!
ดี...เธอไม่กลัวฉันใช่มั้ย...มัลฟอยกัดฟันพูด เขาคลายมือที่บับรัดคอของเฮอร์ไมโอนี่ออก
ยังไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะหายใจ มัลฟอยกระชากแขนของเฮอร์ไมโอนี่อย่างแรง
เขาออกแรงดึงเธอที่เหมือนม้าพยศ มัลฟอยถีบประตูห้องออกและเหวี่ยงเฮอร์ไมโอนี่ลงไปบน...เตียง!!!
โอ๊ย!เฮอร์ไมโอนี่ร้องลั่นเมื่อร่างของเธอล้มโครมลงไปบนเตียง
มัลฟอยยืนตระหง่านมองเฮอร์ไมโอนี่อยู่ข้างเตียง
ราวกับว่าเขากลายร่างเป็นปิศาจร้ายที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งที่เขาเกลียด!!!
เธอไม่กลัวฉันใช่มั้ย...เกรนเจอร์...
มัลฟอยพยักหน้าช้าๆ...เขาย่างสามขุมเข้าไปหาเตียงนั้นช้าๆ...เฮอร์ไมโอนี่กระเถิบตัวหนีเมื่อสัมผัสถึงสิ่
งที่กำลังจะเกิดขึ้น...ลางสังหรณ์ของศตรีเพศทำให้รู้ถึงอารมณ์อันขุ่นมัวของชายที่ยืนอยู่ข้างเตียงนั้น
เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยอย่างตื่นตระหนก แต่ฉับพลัน! เธอนึกถึงบางอย่างที่จะทำให้เธอรอดพ้นจากมัลฟอยได้!

แอ็กซิโอ!ไม้กายสิทธิ์!เฮอร์ไมโอนี่ตะโกนและเหวี่ยงมือขึ้น
กระเป๋าถือของเฮอร์ไมโอนี่ที่ตกอยู่บนพื้นดิ้นขลุกขลัก
ไม้กายสิทธิ์ชำแลกตัวผ่านเนื้อผ้าของกระเป๋าและลอยดิ่งตรงมายังห้องที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังตกอยู่ในอันตราย.
..ตอนนั้นเองที่เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอยางมีความหวัง...ไม้กายสิทธิ์ลอยหวือมา..แต่แล้วรอยยิ้มของเฮอร์ไมโอนี่
ก็จางหายไปเมื่อมือของมัลฟอยคว้าไม้กายสิทธิ์ไว้ เขามองเฮอร์ไมโอนี่ที่ตกตะลึงและยิ้มอย่างเหนือกว่า
ยังฉลาดเหมือนเดิมเลยเกรนเจอร์...ฉันนึกว่าพอเธอกลับมาอยู่กับพวกเลือดสีโคลนเหมือนเดิมแล้วจะลืมคาถาง่า
ยๆกับไม้กายสิทธิ์ไปซะอีกมัลฟอยพูดพร้อมกับหัวเราะราวกับอสรพิษ
เขามองไม้กายสิทธิ์ในมือแวบหนึ่งก่อนจะใช้มือหักมันออกเป็นสองท่อน!!
อย่านะ!เฮอร์ไมโอนี่ร้องลั่น ความหวังของเธอพังทลายลงตรงหน้า
มัลฟอยโยนซากไม้กายสิทธิ์ลงบนพื้น...เขาหันมาจ้องเฮอร์ไมโอนี่...มองเธอที่ตื่นกลัวอย่างพอใจ
ไหนล่ะ...มาดคนเก่งมันหายไปไหนมัลฟอยก้าวไปที่เตียงอีกครั้ง...มือของเขากระชากเนคไทน์ของตัวเอง
เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยอย่างตื่นตระหนกขณะที่เธอขยับตัวหนีเรื่อยๆ
อย่านะ...
เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆด้วยเสียงต่ำแหบแห้ง...เธอขยับตัวหนีอีกเล็กน้อย...สายตาของเธอยังคงจ้องมองมัลฟอย...
ชายหนุ่มก้มลงมองดูเธอและโยนเนคไทน์ทิ้งไป..
อย่าเข้ามานะมัลฟอย!น้ำเสียงของเฮอร์ไมโอนี่สั่นเครือเหมือนจะร้องไห้
มัลฟอยยิ้มเหี้ยมที่มุมปากขณะที่ขยับตัวขึ้นมาบนเตียง
เขามองเฮอร์ไมโอนี่เหมือนลูกแกะน้อยที่กำลังจะถูกนายพรานจับ...แต่ลูกแกะน้อยก็มาติดบ่วงของนายพรานเอง
มัลฟอยหัวเราะเบาๆ...
หยุดนะ!เฮอร์ไมโอนี่หนีไม่ได้แล้ว
มัลฟอยดึงกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด...แผ่นอกกว้างแข็งแรงเผยออกมา
เฮอร์ไมโอนี่ตัวสั่นอย่างหวาดกลัว...ขณะที่มัลฟอยโน้มตัวลง...
ไม่..........!!!!!เฮอร์ไมโอนี่ร้องลั่น...มัลฟอยกดร่างเฮอร์ไมโอนี่ลงบนเตียง
มือทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกตรึงไว้กับเตียง...
...ท่ามกลางเสียงร้องของหญิงสาวกับอารมณ์เสน่หาของชายหนุ่มที่พลุ่งพล่าน..บางสิ่งกำลังเกิดขึ้นอย่างเงีย
บๆ...สิ่งที่จะทำให้หัวใจสองดวงผูกพันธ์กันไปชั่วนิรันดร์...ท่ามกลางรอยน้ำตา...และความเสียใจ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น