นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1
Chapter 2
หลายชั่วโมงต่อมา เฮอร์ไมโอนี่ รู้สึกเหน็ดเหนื่อย
บางสิ่งที่ทำให้สภาพร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง
และความอ่อนแรงนั้นทำให้มันยากมากขึ้นที่จะยังคงจดจ่อกับการพินิจใจ
เธอมองเห็นความหวาดกลัวมากมายในความคิดของเขา ภาพของสงคราม
การกระทำอันโหดร้ายที่เขารู้เห็น และความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม น่ากลัวจาก
พ่อและแม่ของเขา เฮอร์ไมโอนี่เคารพสิทธิ์ส่วนตัวของเขามากเท่าที่จะเป็นไปได้
ความทรงจำใดๆที่เธอเข้าไปซึ่งแสดงให้เห็นว่า มัลฟอยในวัยเด็ก
ซึ่งเด็กกว่าที่เขาเป็นอยู่เมื่อสองปีก่อน เธอจะออกมาจากความทรงจำนั้นทันที
อย่างไรก็ตามเธอตกตะลึงเกินกว่าที่จะออกจากความทรงจำแรกที่เธอเข้ามา
เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องรับประทานอาหารของคฤหาสน์มัลฟอย
เผชิญอยู่กับใบหน้าของลูเซียส มัลฟอย ที่กำลังตบภรรยาของเขา นาร์ซิสสา ซ้ำไปซ้ำมา
ในขณะที่เขาตำหนิเธอด้วยเสียงสุขุม เงียบขรึมแบบแปลกๆ
เมื่อเธอล้มลงสู่พื้นและสะอึกสะอื้น เขาคุกเข่าลงข้างตัวเธอเพื่อฉุดเธอขึ้นมา
ด้วยผมสีบลอนด์เงิน
เธอกล้าดียังไง!
เธอคิดว่าลูกชายของฉันจะต้องเอาตัวไปเกี่ยวดองกับน้องสาวที่รักอยู่กับพวกมักเกิ้ลของเธอหรือไง
ถ้าเธอคิดจะพาลูกชายของฉันเข้าใกล้ พวกทรยศต่อสายเลือดบริสุทธิ์โสโครกนั่นอีกล่ะก็
ฉันจะฆ่าเธอ ด้วยตัวของฉันเอง เขาพูดสลับกับการตบเธออย่างไร้ความปราณี
เฮอร์ไมโอนี่ยืนแน่นิ่งด้วยความตกใจ และตระหนักได้ว่า
ลูเซียสต้องหมายถึงแม่ของท็องส์ แอนโดรเมด้าแน่ๆ แอนโดรเมด้าเป็นน้องสาวของนาซิสสา
และแต่งงานกับมักเกิ้ล การเคลื่อนไหวอย่างหนึ่งแวบเข้ามาในหางตาของเธอ
เธอหันไปมองและเห็นเดรโกน้อย อายุไม่เกิน 5 ขวบ
หมอบหลบอยู่ใต้โต๊ะอาหารกำลังมองมาจากช่องระหว่างเก้าอี้ไม้แกะสลัก
ในขณะที่พ่อของเขาทุบตีแม่ ใบหน้าของเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา และเขาเอามือปิดปากไว้เพื่อป้องกันเสียงสะอื้น
เฮอร์ไมโอนี่หนีจากความทรงจำนั้น
และออกจากความทรงจำอื่นๆของมัลฟอยในวัยเด็กซึ่งเธอแน่ใจว่าทั้งหมดมีสาระสำคัญแบบเดียวกัน
ลูเซียส มัลฟอยตีทั้งลูกชายและภรรยาของเขาอย่างโหดร้ายสำหรับการกระทำใดๆ
ที่เขาคิดว่าผิดและเป็นสิ่งที่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติแก่ครอบครัว
ความทรงจำที่เธอกำลังมองหาต้องเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายสิ
มันไม่ใชเรื่องพวกนี้เลย
เธอต้องจดจ่อกับมันแล้วในตอนนี้เพื่อแฮร์รี่ มันจะต้องเป็นความทรงจำ
ที่มีมัลฟอยวัย 19 ปี และในการต่อสู้ในป่ากับโวลเดอมอร์
หลังจากค้นหาความทรงจำ ด้านหลังประตูที่ถูกปิดล็อคอย่างแน่นหนาทุกบาน
เฮอร์ไมโอนี่ต้องสรุปว่าความทรงจำไม่ได้อยู่ที่นั่น ไม่เลย
อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ความทรงจำที่ถูกป้องกันอย่างแน่นหนาตรงหน้าเธอ
สิ่งหนึ่งที่แน่นอน คือ มัลฟอยไม่พยายามจะซ่อนความทรงจำนั้น
และมันควรจะอยู่หลังประตูที่ถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนาประตูหนึ่ง
ถ้าเขามีความทรงจำอื่นๆนับพันในช่วงชีวิตของเขา
มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับเธอในการค้นหาความทรงจำเหล่านั้นทั้งหมดโดยไม่ดูความทรงจำอื่นๆ
เฮอร์ไมโอนี่แน่ใจว่ามัลฟอยจะไม่ยอมให้เธอค้นหาความทรงจำที่อยู่ในหัวของเขาทุกวันแน่
และเธอยังรู้อีกว่าแฮร์รี่ไม่มีเวลามากพอที่จะรอ
คำสาปที่เขาได้รับจากโวลเดอมอร์ในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
ดูเหมือนจะไม่สำคัญอะไรเลยในทีแรก รอยแผลหยั่งลึกและยาวประมาณ 10 นิ้วอยู่บนหน้าอกของเขา ผู้ที่รักษาให้เขา
ทำความสะอาดและปิดบาดแผลด้วยเวทมนตร์โดยไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดๆไว้เลย
หลังจากที่เขามาถึงเซนต์มังโก และทุกสิ่งดูปกติดี
สามเดือนต่อมาบาดแผลเกิดขึ้นใหม่อีกครั้งพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจำนวนมาก
มันขาวซีดพอๆกับบาดแผลอายุสามเดือนซึ่งไม่อาจรักษาได้
ผู้รักษางุ่นงงแต่ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาสามารถสมานบาดแผลได้ 10 สัปดาห์ต่อมาเกิดเรื่องแบบเดิมขึ้นอีก มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ในแต่ละครั้งบาดแผลจะเปิดออก และมันเริ่มยากที่จะรักษา
ซึ่งใช้เวลาไม่นานก่อนที่บาดแผลจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
จากสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น นี้ทำให้แฮร์รี่มีเวลาเหลือเพียงแค่ 10
อาทิตย์ ก่อนที่บาดแผลจะปรากฏขึ้นอีกครั้งและมันต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการร่ายเวทมนตร์ช่วยสมานบาดแผล
ตลอดเวลามานี้แฮร์รี่อ่อนแรงลงจากการเสียเลือด
เขาเบื่อหน่ายกับการที่ต้องรักษาซ้ำไปซ้ำมา เฮอร์ไมโอนี่ รอน
และทุกๆคนรอบข้างแฮร์รี่รู้ดีว่าถ้ามันยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปเขาอาจจะตายในไม่กี่เดือนนี้
เธอต้องหาวิธีการรักษา
ส่วนที่ยากที่สุดในการรักษาคือไม่มีใครรู้ว่าโวลเดอมอร์ใช้คำสาปอะไรสร้างรอยแผลบนหน้าอกของแฮรี่
ทุกๆคนที่อยู่ในป่าซึ่งเห็นการต่อสู้ระหว่างแฮร์รี่และโวลเดอมอร์
บางคนล้มตาย หรือ กำลังต่อสู้อย่างรุนแรงในระหว่างสมรภูมิรบ
ซึ่งพวกเขาไม่มีเวลาพอที่จะหยุดสังเกตพ่อมดสองคนต่อสู้กันในทุกนาที
คนที่ยังมีชีวิตอยู่
ในช่วงเวลาของค่ำคืนนั้นได้รับการตรวจสอบความทรงจำแล้วและพวกเขาเห็นบางสิ่งซึ่งไม่อาจจดจำได้
มัลฟอย
คือคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ก่อนที่พวกเขาจะต้องทิ้งความหวังในการหาทางรักษาแฮร์รี่
และมุ่งความสนใจเพียงอย่างเดียวไปยังคาถาแห่งศาสตร์มืด
ด้วยการหวังโชคที่มองไม่เห็น
เฮอร์ไมโอนี่ต่อสู้เพื่อให้น้ำตาแห่งความผิดหวังอันขื่นข่มกลับเข้าไป
เธอเหนื่อยล้า สมาธิของเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และเธอรู้ดีว่ามันไร้ความหวัง
ฟินิเต้ อินคันทาทัม เธอพึมพำและรับรู้ว่าตัวเธอกลับไปสู่เก้าอี้นวมอีกครั้ง
ห้องหมุนวนอยู่ตรงหน้าในขณะที่ มัลฟอย กะชากมือของเขาออกจากการจับของเฮอร์ไมโอนี่
เฮอร์ไมโอนี่คงจะล้มถ้า บิล วีสลีย์ ไม่ได้จับไหล่เพื่อยึดตัวเธอไว้
ตัวของเธอเอนไปมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย
เขาส่งน้ำให้เธอดื่มและหลังจากนั้นไม่นานเธอรู้สึกว่าห้องหยุดหมุนและสามารถนั่งลงได้เองโดยปราศจากการช่วยเหลือ
นาฬิกาที่อยู่บนโต๊ะชี้ให้เห็นว่าเป็นเวลามากกว่าชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่เธอร่ายคาถาใส่
มัลฟอย
มัลฟอย ลุกขึ้นยืนหันหลังให้
เขากำลังมองออกไปนอกกรอบกระจกขนาดใหญ่ของประตูแบบฝรั่งเศสมองไปยังน้ำพุ
และสวนที่อยู่บริเวณนั้น
เห็นอะไรที่เธออยากเห็นไหม เกรนเจอร์
เขาถามและเป็นสาเหตุให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงเพราะเธอนึกถึงภาพ
มัลฟอยกับแม่มดผมบลอนด์ เขาหันไปหาเธอและเหมือนจะรู้ในสิ่งที่เธอคิด
เขายิ้มเยาะในใบหน้านั้นอย่างล้อเลียน
เมื่อเฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงจัดดัวยความอับอายกับสิ่งที่ได้เห็น
เธอกัดริมฝีปากจนเจ็บก่อนจะกลั้นใจตอบกลับออกไป
ไม่มีอะไรที่ฉันชื่นชอบ
คุณมัลฟอยและที่สำคัญมากกว่านั้นคือไม่มีอะไรที่จะช่วยแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้เลย
สำหรับความคิดของฉัน
และจากความผิดพลาดของเธอหลังจากที่รอนกับเธอเลิกกัน
ดูเหมือนว่าพอตตี้จะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแน่ ฉันเดาว่า
เธอจำเป็นต้องมีแผนการสำรองไว้บ้างแล้วล่ะ
รอยยิ้มเยาะเย้ยของเขาถูกแทนที่ด้วยสายตารอบรู้ ในขณะที่เขากวาดสายตาของตัวเองข้ามไหล่ของเธอไปยังผมสีแดงและร่างกายสูงใหญ่ของ
บิล วีสลีย์ ผู้ซึ่งมือข้างหนึ่งยังคงอยู่บนไหล่ของเธอราวกับว่า
เขากลัวว่าเธอจะเซถลาล้มลงอีกครั้ง
ปากของเฮอร์ไมโอนี่อ้าค้างด้วยความตกใจ มือของบิลจับไหล่ของเธอแน่น
จนเกือบจะสร้างความเจ็บปวดในขณะที่เขารั้งตัวเธอเพื่อก้าวเข้าไปหา มัลฟอย
บิล เฮอร์ไมโอนี่เรียกเขาเกือบจะตะโกน
ให้ฉันกับคุณมัลฟอยอยู่ตามลำพังได้ไหม
บิลเลิ่กคิ้วใส่เธอเป็นเชิงตั้งคำถาม ว่าเธอแน่ใจนะว่ากำลังทำอะไรอยู่
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าให้เขาและใบหน้าของเขายังคงเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เขาหันกลับไป
และส่งสายตาปรามๆให้ มัลฟอย ก่อนที่เขาจะออกไปจากห้อง ปิดประตูขนาดมหึมาตามหลังเขา
นายรู้ได้อย่างไรว่ารอนกับฉันเลิกกัน? หนังสือพิมพ์ไม่ได้พูดถึงครอบครัวของรอน
ไม่ปล่อยให้นายรู้ความลับนั่นหรอก นายสอดแนมฉันหรืออะไรแบบนั้นเหรอ ความโมโหที่
มัลฟอย พูดถึงบางสิ่งซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวโดยไม่ใส่ใจ
ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หยุดชั่วขณะ เธอยืนขึ้นและเดินอาดๆเข้าไปหา มัลฟอย
เอาล่ะเกรนเจอร์ ถ้าฉันรู้ว่าเธอกำลังหงุดหงิด
ฉันจะไม่ดูความทรงจำมากมายครึ่งหนึ่งของเธอ อย่างที่ฉันทำ
นายทำอะไรนะ! เฮอร์ไมโอนี่ร้องเสียงดัง มัลฟอยสำรวจเล็บมือของเขาด้วยความเบื่อหน่าย
แต่เฮอร์ไมโอนี่เห็นประกายของความมีชัยปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา
หลังจากที่เขารับรู้ถึงการระเบิดอารมณ์ของเธอ
เธอคิดว่าเธอจะเที่ยวเตร็ดเตร่ไปในความคิดของฉัน
และพยายามเข้าไปในที่ที่เธอไม่ได้ครอบครองโดยกันฉันออกไปจากความคิดของเธอในขณะที่เธอสำรวจมันหรือไง
ฉันคงจะไม่รอคอยอย่างไร้จุดหมายโดยไม่ทำอะไรเลยหรอกนะ
และถึงฉันสะกดใจได้ดีกว่าการพินิจใจเกรนเจอร์! แต่ฉันทำได้ทั้งสองอย่าง
เธอควรจำได้นะว่าก่อนที่เธอจะจ้องตากับฉัน แล้วเอาฉันออกไปจากสมองของฉันเอง
ฉันเริ่มเบื่อ เบื่อ...ฉันก็เลยมองดูอะไรในหัวของเธอในขณะที่เธอยุ่งอยู่ในหัวของฉันไงล่ะ
เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
เธอเผลอเปิดความคิดของตัวเธอเองได้อย่างไร มัลฟอย
ต่อสู้อย่างดุเดือดในตอนที่เธอเข้าไปในความคิดของเขาครั้งแรก
แต่จากนั้นเมื่อเธอสัมผัสมือของเขา แรงต้านทานทั้งหมดของเขาที่มีต่อการลุกล้ำของเธอหายไป
เธอควรสงสัยบางสิ่งแต่เธอหมกมุ่นอยู่กับการค้นหาเกินกว่าจะต้องกังวลว่าเขาหายไปไหน
และอะไรที่เขาอาจจะทำ เฮอร์ไมโอนี่โกรธตัวเองที่ปล่อยให้ มัลฟอย เข้าควบคุมเธอได้
มัลฟอย มองไปที่เธอ รอยยิ้มเยาะเย้ยของเขาไม่ได้สื่อสารกับดวงตาของเขาเลย และน้ำเสียงของเขาราบเรียบในขณะที่เขาพูด
ไม่มีทั้งน้ำเสียงเย้ยหยันหรือถากถางใดๆ
นั่นไม่ใช่การรุกล้ำขั้นต่ำหรอกหรือ มัลฟอย
เฮอร์ไมโอนี่มองค้อนไปที่เขาอย่างไม่พอใจ แต่เธอแน่ใจในสิ่งที่ตัวเองพูด
เธอหันกลับและเดินออกไปจากห้องทันที ออกไปสู่ทางเดินกว้างและเกือบจะถึงบิลที่ซึ่งกำลังยืนอยู่หน้าห้องโถง
ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงเรียกแหลมเล็กของเอลฟ์ประจำบ้านที่เรียกเธออยู่ด้านหลัง
นายหญิงเกรนเจอร์ ลืมเสื้อคลุมเจ้าค่ะ
เอลฟ์ตัวกระจิดริดตัวเดิมที่ปิดไฟให้มัลฟอยก่อนหน้า
พยายามแบกเสื้อคลุมของเธอโดยไม่ให้ส่วนใดสัมผัสถูกพื้นสีดำแวววาว
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มให้กับเอลฟ์ตัวเล็กและโค้งตัวลงเพื่อรับมันมา
ขอบคุณมาก! ฉันคงแย่ถ้าไม่มีมัน!
เฮอร์ไมโอนี่รู้ดีว่าเอลฟ์ประจำบ้านพอใจสูงสุดที่ตัวเองเป็นประโยชน์
เธอจึงยกยอว่าเธอพอใจแค่ไหนที่เอลฟ์รับใช้เธอ
เอลฟ์หน้าแดงและยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันสีขาวเรียงกันเป็นแถวอย่างงุนงง
ชังกี้ ดีใจที่ได้ช่วยนายหญิง
ชังกี้ไม่ต้องการให้นายหญิงจากไปโดยไม่มีเสื้อคลุม
เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มเพราะชื่อของเอลฟ์
ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เอลฟ์เป็นอยู่
มันผอมและตัวเล็กจิ๋วจนดูเหมือนว่าจะถูกลมพัดปลิวได้ง่ายๆ
ขอบใจอีกครั้ง ชังกี้ ฉันหวังว่าจะได้พบเธออีกครั้ง
โอ้! ชังกี้หวังว่านายหญิงจะกลับมาอีก
นายท่านต้องการหญิงสาวแบบนายหญิงเพื่อช่วยเขา
ชังกี้พยายามแล้วแต่ไม่อาจหยุดม้าราตรีได้
ดวงตาสีฟ้าขนาดใหญ่ของชังกี้เต็มไปด้วยน้ำตา ซึ่งไหลลงสู่ใบหน้าของเธอเป็นสายเล็กๆ
โธ่! ชังกี้ได้โปรดอย่าร้องไห้ เฮอร์ไมโอนี่พูด แต่มันสายไปแล้ว
ร่างกายกระจิดริดของชังกี้กำลังสั่นเทาด้วยอาการกลั้นตัวเองไม่ให้ร้องไห้
เฮอร์ไมโอนี่งุ่นงงกับสิ่งที่เอลฟ์ตัวเล็กกำลังพูดถึง
ม-ไม่-ว่าชังกี้จะทำอะไร ไม่อาจหยุด ม-ม้าพวกนั้น
และนายท่านต้องทุกข์ทรมานยามหลับจากเขา...คน-ที่-ต้อง-ไม่-เอ่ย-นาม
และชังกี้ไม่อาจให้ม้าราตรีไปให้พ้นได้
ม้าราตรีเหรอ? เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ
และนายท่านร้องตะโกนถึงเขา...คน-ที่-ต้อง-ไม่-เอ่ย-นาม
และตะโกนอีกว่า แฮร์รี่ระวัง! และนายท่านพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และม้าพวกนั้นมาทุกค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็นคาถาประเภทไหนที่ชังกี้พยายามใช้
มันก็ไม่อาจช่วยนายท่านได้เลย ชังกี้ ทำให้นายท่านผิดหวัง
ชังกี้ เฮอร์ไมโอนี่กระซิบเสียงเบาและแตะไปที่ไหล่ของเอลฟ์
เธอหมายถึงฝันร้ายใช่ไหม? นายท่านมัลฟอยฝันร้ายอย่างนั้นใช่ไหม?
ช-ใช่! ชังกี้กล้ำกลืน หน้าอกเปราะบางของเธอกระพือขึ้นลงอย่างรวดเร็วระหว่างเสียงสะอึกสะอื้น
ชังกี้ อย่ากังวลไปเลย
ฉันจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยนายท่านมัลฟอย
เสียงสะอึกสะอื้นของชังกี้ลดลงและเธอเงยหน้าขึ้นมองเฮอร์ไมโอนี่ ด้วยสายตาบูชา
โอ้! ชังกี้จะซาบซึ้งในบุญคุณของนายหญิงตลอดไป
ถ้านายหญิงสามารถหยุดม้าพวกนั้นได้ ชังกี้โถมตัวของเธอใส่เฮอร์ไมโอนี่
โอบแขนของเธอแน่น
หลายนาทีต่อมาและการมั่นใจอีกครั้งว่าเฮอร์ไมโอนี่สามารถหลุดพ้นจากชังกี้ได้แล้ว
เธอออกไปจากคฤหาสน์กับบิล
ซึ่งเขาได้ยินแค่ในส่วนของการสนทนาระหว่างชังกี้กับเฮอร์ไมโอนี่เท่านั้นและเขาดูสับสนอย่างมาก
อย่าใส่ใจเลยบิล แล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง
เฮอร์ไมโอนี่พูดเมื่อเธอถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉันคิดว่าเราอาจจะไม่ได้วันพักผ่อนแล้วล่ะ
เพราะเรามีงานต้องทำอีกมาก!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น