วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2556

สลับร่างสร้างรัก

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=icu11&topic=16&Cate=11

สลับร่างสร้างรัก (ภาค 1)
fic by..tom_emma
ฟิคคู่ D/Hr


เช้าวันหนึ่งอากาศค่อนข้างร้อน ซึ่งฮอกวอตส์ไม่ค่อยได้สัมผัสอากาศแบบนี้ซักเท่าไรนัก
“โอ๊ย ทำไมมันถึงได้ร้อน ร้อน แล้วก็ร้อนอย่างงี้นะ...” รอนครางออกมาขณะที่เพิ่งกลืนแฮม ไส้กรอก เบคอนและขนมปังลงท้อง “นี่มันร้อนที่สุดในรอบศตวรรษเลยนะ”เขายังคงพูดต่อ
“นี่รอน นายรู้มั๊ย ถ้านายจะไม่พูดคำว่าร้อนซักหนึ่งนาทีนี่ชั้นจะขอบใจนายมากเลย ยิ่งนายพูดนายยิ่งใช้พลังงานมาก ทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญอาหารที่นายกินไม่หยุดนี่ แล้วนายก็จะยิ่ง ร้อน ร้อน ร้อน และก็ร้อนขึ้นด้วย”เฮอร์ไมโอนีบ่นออกมาด้วยความรำคาญที่รอนเอาแต่บ่นเรื่องอากาศที่มันแก้ไขไม่ได้มาประมาณครึ่งชั่วโมงได้แล้ว
“เฮ้อ ... ชั้นไปล่ะ ชั้นมีเรียนวิชาอักษรรูนโบราณในอีกไม่ถึงสิบนาทีนี่แล้ว ...แล้วเจอกัน” เฮอร์ไมโอนีพูดพลางลุกเดินไปด้วยร่างกายที่มีเหงื่อเต็มไปหมด
“ เอ้อ .. โชคดี ไม่ส่งนะ เพราะชั้นขี้เกียจขยับให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานอย่างที่เธอบอก” รอนพูดพลางเบ้หน้าไปทางแฮรรี่เยาะเย้ยที่เฮอร์ไมโอนีว่าเขา ซึ่งนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนีหันมามองด้วยสายตาขุ่นเขียวแล้วเดินจากไป
“ให้ตายสิ ...ทำไมชั้นต้องมาวิ่งไปไหนต่อไหนวันที่ร้อนๆอย่างงี้ด้วยนะ “ เธอบ่นพึมพำขณะวิ่งไปเรียนเพราะเธอกำลังจะไปสาย ขณะที่เธอเลี้ยวตรงหัวมุมบันไดหนึ่ง เธอก็ชนกับคนๆหนึ่งเข้าอย่างจังแล้วก็กลิ้งตกบันไดไปดัวยกันทั้งคู่ ทั้งสองหัวฟาดพื้นอย่างแรงแล้วก็สลบไป พร้อมกับเสียงกรีดร้องของคนที่เห็นเหตุการณ์
เมื่อเฮอร์ไมโอนีตื่นขึ้น เธอพบว่าเธออยู่ในห้องพยาบาล เธอลืมตามองเพดานโดยไม่ขยับตัวเพราะเธอรู้สึกเหมือนว่าตัวเธอยังระบมอยู่ทั้งตัว ซักครู่มาดามพรอมฟรีย์ก็เดินเข้ามา
“ อ้าว ตื่นแล้วหรือทั้งสองคน ...เธอสองคนตกบันได แล้วหมดสติไป พอดีเด็กบ้านฮัฟเฟิลพัฟผ่านมาแล้วเขาก็พาเธอสองคนมาส่งที่นี่” มาดามอธิบาย ทำให้เฮอร์ไมโอนีนึกขึ้นมาได้ว่าเธอวิ่งไปชนคนๆนึงล้มลงไปพร้อมกับเธอ แล้วเธอก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาคือใคร ในขณะที่คิดอยู่มาดามก็พูดขึ้นมาพอดี
“อ้อ มิสเตอร์มัลฟอย มีมิสพากินสันเอาของมาเยี่ยม ชั้นวางไว้ตรงนี้นะ “ มาดามพูดจบเธอก็วางช่อดอกไม้ช่อใหญ่ไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ทำให้เฮอร์ไมโอนีสะดุ้งเฮือก
“ตายล่ะวา นี่ชั้นชนไอ้เจ้ามัลฟอยงั้นรึ ให้ตายสิ ทำไมวันนี้ถึงซวยขนาดนี้ “ เธอคิด
“ เอาล่ะ เธอสองคนพักผ่อนไปซะ ชั้นจะไปพบอาจารย์ใหญ่ก่อน” มาดามพูดจบก็เดินออกไปจากห้องพยาบาล
เฮอร์ไมโอนีก็ลุกจากเตียงทันที ด้วยเหตุผลที่ว่า เธอเกลียดการนอนอยู่นิ่งๆเฉยๆ ขณะที่เธอกำลังแหวกผ้าม่านออก ก็พอดีกับที่เตียงข้างๆเธอแหวกม่านออกด้วย ซึ่งมันคงเป็นเตียงของมัลฟอย เพราะมัลฟอยเองก็ไม่ชอบการนอนเฉยๆเช่นเดียวกัน แต่เมื่อม่านแหวกออก เฮอร์ไมโอนีเห็นตัวเองกำลังนั่งมองมาอยู่ เธอเห็นดังนั้นเธอก็ขยี้ตาแล้วมองอีกที
“นี่ชั้นคงต้องให้มาดามเช็คสายตาชั้นแล้วมั้งเนี่ย” เธอพูดพลางเพ่งสายตาไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ยังไม่ทันจะคิดจบก็มีเสียงร้องขึ้นมา
“เหวอออออออออ ...ทำไมชั้น...” เสียงร้องของเด็กผู้ชายดังมาจากร่างที่นั่งตรงข้ามเฮอร์ไมโอนี
“นั่น ... เสียงเธอ...มัลฟอย? งั้นนั่น...ร่างชั้น...” เฮอร์ไมโอนีพูดตะกุกตะกักพร้อมมองลงไปที่ตัวเธอ ตอนนี้เธอใส่ชุดควิดดิชสีเขียวสะดุดตา มือเธอก็ใหญ่ขึ้นผิดปกติ ผิวสีซีดลง และที่สำคัญหน้าอกเธอหายไปไหนเนี่ย...?
“กรี๊ดดดดดดด” เธอกรีดร้องขึ้นทันทีเมื่อเริ่มประติดประต่อเรื่องได้ ใช่แล้ว นี่พวกเขา สลับร่างกันนั่นเอง
“ โอ๊ยยย จะกรี๊ดไปหาพระแสงที่ไหน แล้วอย่าเอาร่างชั้นไปทำท่าอะไรทุเรศแบบนั้นได้มั๊ย” มัลฟอยบ่น
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย “ เฮอร์ไมโอนีร้อง
“จะไปรู้เรอะไง “ มัลฟอยตอบไม่สบอารมณ์ “ ชั้นตะหากที่ควรถาม ทำไมชั้นต้องมาอยู่ในร่างสีโคลนแบบนี้ด้วย หัวฟูๆของเธอนี่น่ารำคาญชะมัด” เขาพูดพลางดึงหัวเฮอร์ไมโอนีด้วยท่าทางรังเกียจ
“ นี่นาย ถ้านายยังไม่อยากกลายเป็นตัวเฟเร็ตล่ะก็อย่าทำแบบนั้นกับร่างชั้น แล้วทำอย่างกับชั้นอยากอยู่ในร่างนายนักล่ะ หัวเหนียวๆเหนอะๆไปด้วยน้ำมันงี้ หน้าตางี้ แล้วที่สำคัญ นายไปทำอะไรมาถึงเหม็นเหงื่อขนาดนี้” เธอร้องบ้าง
“ นี่เธอแหกตาดูรึเปล่า ชุดควิดดิชก็อยู่โทนโท่นั่นไง ชั้นคงไม่ไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยว ด้วยชุดนั้นหรอก” เขาตอบ
“ให้ตายสิ นายนี่มันสกปรกชะมัด “ เฮอร์ไมโอนีเบ้ปาก “ก็ชั้นกำลังจะไปอาบน้ำ แล้วก็มาชนพวกเลือดสีโคลนนี่ซะก่อนน่ะสิ “ มัลฟอยตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“แล้วนี่ชั้นจะทำยังไงเนี่ย ชั้นจะกลับไปอาบน้ำล่ะ” เธอพูดพลางหันหลังกลับแล้วเธอก็กรีดร้องขึ้นมาอีก
“โอ๊ยยย เธอจะร้องอะไรอีกล่ะห๊า” มัลฟอยเริ่มหงุดหงิด ซึ่งไม่แปลกเลยที่อากาศร้อนๆอย่างนี้จะทำให้คนระเบิดได้ง่ายกว่าปกติ “ ก็ชั้นอยู่ในร่างเธอ แล้วชั้นจะอาบน้ำยังไงกัน ไม่สิ ...ที่ชั้นห่วงคือ เธอในร่างชั้น “ เธอพูด
“ โอ๊ย ใครเค้าอยากทำอะไรร่างเธอกัน” มัลฟอยพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเต็มที่
“ ทำไม่ทำนายก็เห็นอยู่ดี เอาล่ะ ชั้นให้เธออาบน้ำได้ แต่ห้ามถอดเสื้อผ้าชั้น เวลานอนก็นอนชุดนี้ ห้ามถอดเด็ดขาด “ เฮอร์ไมโอนีพูดด้วยเสียงเฉียบขาด
“หา นี่เธอจะบ้าหรอ เธอจะให้ชั้นอยู่ในสภาพเน่าเหม็นสาบเลือดสีโคลนยังงี้น่ะนะ? “ มัลฟอยร้อง
“ใช่ ก็เธอจะเหม็นหรือไม่เหม็นมันก็เรื่องของเธอ แต่เธอ ห้าม –ถอด-ชุด-เด็ด-ขาด” เธอเน้นเสียง
“แล้วเธอล่ะ ถ้างั้นชั้นให้เธออาบได้ แต่ต้องให้แครบกับกอยล์อาบให้” มัลฟอยเรียกร้องบ้าง
“ว่าไงนะ นี่ชั้นเป็นผู้หญิงนะ “เฮอร์ไมโอนีแผดเสียงดัง
“แต่ตอนนี้เธออยู่ในร่างผู้ชาย และชั้นก็ไม่ยอมให้เธอแตะต้องร่างชั้นด้วย “ เขาบอกบ้าง
“ โอเค ก็ได้ ชั้นก็ไม่อยากทำอะไรกับร่างเน่าๆของเธอนักหรอก ชั้นจะกลับล่ะ ขอรหัสด้วย”เธอบอก
“ หา ว่าไงนะ” มัลฟอยถาม “ ก็รหัสบ้านเธอไงล่ะ เธอคงไม่คิดจะให้ชั้นกลับหอกริฟฟินดอร์หรอกนะ” เธอย้อน
“ อ๋อ เลือดบริสุทธิ์ ...” มัลฟอยตอบพลางยิ้มเย้ยๆ ซึ่งนั่นทำให้เฮอร์ไมโอนีในร่างมัลฟอยเบ้ปากไปอีกทางแล้วเธอก็เดินไปอย่างหงุดหงิด “ เดี๋ยวซิ แล้วบ้านเธอล่ะ” เขาตะโกนถาม
“ชั้นไม่รู้!!!!.. “ เธอตะคอกด้วยความอารมณ์เสียแล้วเดินจากไป “ อ่าว เฮ้ .. แล้วชั้นจะเข้าบ้านไงล่า” มัลฟอยร้อง
เมื่อเฮอร์ไมโอนีเดินมาถึงทางเข้าบ้านสลิธีลิน เธอก็หยุดแล้วบอกรหัส “ เลือด..บริสุทธิ์” เธอบอก แล้วรูปภาพก็เปิดออก “ ฮึ รหัสทุเรศๆ “ เธอบ่นแล้วเดินเข้าไป เธอเดินขึ้นบนหอชายซึ่งนับเป็นโชคดีที่ผังห้องของบ้านนี้คล้ายๆบ้านกริฟฟินดอร์ แต่ที่ทำให้เธอปวดหัวคือ “ แล้วมัลฟอยอยู่ห้องไหนเนี่ย” เธอบ่นอย่างหงุดหงิด แต่เธอก็สะดุดตากับ ห้องๆหนึ่งที่หน้าประตูมีติดป้ายว่า “ ซีกเกอร์” เฮอร์ไมโอนีเห็นดังนั้นจึงเปิดเข้าไป แล้วเธอ็พบแครบกับกอยล์นั่งอยู่ เธอรู้สึกโล่งอกที่เข้าถูกห้อง เพราะถ้าให้เธอเดินวนหา คงถูกจับได้แน่
“ ไปไหนมาน่ะมัลฟอย” แครบถาม “ ไป..เอ่อ.. อ้อ ก็ไปซ้อมวิดดิชไง” เฮอร์ไมโอนีในร่างมันฟอยตอบ
“เอ้อ แครบ กอยล์ นายช่วย...เอ่อ...อาบน้ำ...ให้ชั้นทีซิ..” เฮอร์ไมโอนีพูดด้วยความยากลำบาก แล้วถ้าแครบกับกอยล์มีสมองมากกว่านี้คงสังเกตเห็นว่าใบหน้าของร่างมัลฟอยแดงขึ้นมาแล้ว
“ เอ่อ .. ได้ๆ “ กอยล์ตอบ แล้วทั้งหมดก็เข้าไปในห้องน้ำ เฮอร์ไมโอนีถอดเสื้อออกอย่างกล้าๆกลัวๆ พอเธอมองในกระจกเธอก็ต้องใจเต้นแรงเพราะเธอไม่เคยเห็นร่างเปลือยของผู้ชายคนไหนนอกจากพ่อเธอเลย
“ มัลฟอยมีกล้ามด้วยหรือเนี่ย...” เธอคิด “ เฮ้ ถอดกางเกงแล้วมาอาบซักทีซิ” แครบเรียก
“ หา เอ่อ อ่า อ้อ ใช่ๆ “ เฮอร์ไมโอนีหน้าแดง และเธอก็ถอดกางเกงโดยที่เธอหลับตาปี๋แล้วก็รีบเดินลงไปในอ่างอาบน้ำทันที แครบกับกอยล์ถูสบู่ให้เขา แต่นั่นทำให้เฮอร์ไมโอนีแทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เพราะเธอบ้าจี้
“ โอ๊ย พอแล้ว พอๆ ชั้นอาบเองดีกว่า พวกนายออกไปก่อนเถอะ” เฮอร์ไมโอนีร้อง แล้วแครบกับกอยล์ก็เดินออกไป ซึ่งเป็นธรรมดาในความโง่ของพวกเขาที่จะไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของมัลฟอยที่เปลี่ยนไป
เฮอร์ไมโอนีก้มลงอาบน้ำให้ร่างของมัลฟอยเองแล้วก็เผลอก้มมองไปที่ไหนเข้า
“ว้ายยยย!!!!!!!..ตายแล้ว..” เธออุทานเสียงดังหน้าแดงก่ำหลับตาปี๋ทันทีแล้วรีบขึ้นมาเช็ดตัว เกิดความวุ่นวายอยู่นานกว่าเธอจะแต่งตัวเสร็จซึ่งเล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน พอเธอออกจากห้องน้ำเธอก็เห็นแพนซี่ พากินสัน นั่งอยู่บนเตียงๆนึงใส่ชุดนอนบางๆเหมือนมาอ่อย
“ธะ..เธอ .. มาได้ไง “ เฮอร์ไมโอนีร้องถามด้วยความประหลาดใจพลางเบ้ปากด้วยความสะอิดสะเอียนกับท่ายั่วที่ดูทุเรศตาของแพนซี่
“แหม เดรโกก็ ก็เราเป็นแฟนกันนี่” แพนซี่ตอบพลางเข้ามาโอบรอบคอเฮอร์ไมโอนีในร่างมัลฟอย และประโยคนั้นก็ทำให้แครบกับกอยล์มองหน้ากันอย่างงงๆ รวมทั้งเฮอร์ไมโอนีก็อึ้งไปชั่วขณะ
“ ธะ..เธอ หมายความว่าไง “ เฮอร์ไมโอนีถามตอบ “ แหมมม อย่าทำงงงั้นซิ “ แพนซีพูดด้วยเสียงที่เธอดัดให้แหลม และท่ายั่วต่างๆของเธอแทบทำให้เฮอร์ไมโอนีอาเจียนออกมาเป็นภาษาต่างดาว และที่สำคัญ เธอพยายามจะจูบเฮอร์ไมโอนี ถ้าจะว่ากันก็คือ พยายามจะจูบมัลฟอยนั่นล่ะ
“ ออกไปนะ .. แครบ กอยล์ ...ช่วยหน่อยซี่...” เธอพูดอย่างยากลำบากเพราะเธอต้องพยายามดันปากแพนซี่ให้ออกจากปากเธอ ซึ่งก็คือปากมัลฟอยนั่นล่ะ แครบและกอยล์ ลูกสมุนร่างยักษ์ ก็มาลากแพนซี่ที่โวยวายยกใหญ่ออกจากห้องทันที
“ เฮ้อ แฮ่กๆๆ ขอบ..ขอบใจมาก” เฮอร์ไมโอนีตอบด้วยใบหน้าซีดจากความตกใจและสยองต่อภาพที่เห็น ซึ่งสร้างความงงให้กับลูกน้องงี่เง่าทั้งสองเป็นอันมาก เพราะแต่ไหนแต่ไร มัลฟอยไม่เคยพูดขอบใจให้กับทั้งสองเลย
คืนนี้เธอขอตัวนอนก่อนทันที เพราะเธอยังคงตื่นเต้นตกใจ ที่สำคัญ เธอเห็น...อะไร..ของมัลฟอยตอนอาบน้ำ ... ที่...ทำให้เธอนอนไม่หลับ แล้วเธอก็หน้าแดงไม่หายซักที เธอจึงเริ่มคิดโน่นคิดนี่เพื่อกลบเกลื่อนความอายของตัวเอง แล้วสมองเธอก็ไปหยุดลงที่เรื่องที่แพนซี่ว่า มัลฟอยเป็นแฟนกับแพนซี่ เป็นความจริงหรือเปล่า เมื่อเธอคิดไป ก็ทำให้เธอรู้สึก ใจเต้นแปลกๆ และรู้สึกหงุดหงิดบอกไม่ถูก
ทางด้านมัลฟอยที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าหอนอนกริฟฟินดอร์ เนื่องจากเฮอร์ไมโฮนีไม่ได้บอกรหัสผ่านเขา เขาเดินวนไปมาเพื่อรอให้มีเด็กกริฟฟินดอร์ซักคนมาแล้วเขาจะได้ตามเข้าไป แต่นั่นสร้างความรำคาญให้สุภาพสตรีอ้วนเป็นอย่างมาก “นี่เธอ อย่าเดินวนไปวนมาได้มั๊ย ชั้นเวียนหัวแล้ว” เธอเอ่ยออกมา
“ เออ โทษทีละกัน “ มัลฟอยในร่างเฮอร์ไมโอนีบอก แต่เขาก็ยังไม่เลิกเดินซักที
“ นี่ เธอจะบวชเป็นพระรึไง ฝึกเดินจงกลมหรือ” สุภาพสตรีอ้วนบ่นด้วยความเหลืออด
“ โอ๊ยย ยุ่งจริง” เขาร้องแล้วก็ไปยืนพิงเสาอยู่ต้นหนึ่ง แต่คราวนี้เขาสั่นเท้ารอแทน รองเท้าเขากระทบพื้นเป็นจังหวะ จนทำให้สุภาพสตรีอ้วนฉุนขาด “ ตกลงเธอจะเข้ารึไม่เข้าเนี่ย ถ้าจะเข้าก็ขอรหัสผ่านด้วย ...”
“โอ๊ยยยย ชั้นไม่รู้ว้อยยย” มัลฟอยสติขาดผึง เขาตะคอกกลับ แต่แล้วรูปภาพก็เปิดออกด้วยความงงของมัลฟอย
“ให้ตายสิ นั่นเป็นรหัสบ้านก็ไม่บอก ให้ยืนคอยอยู่ได้ ใครเป็นคนตั้งรหัสกันนะ อยากเห็นหน้าจริงๆ พวกชั้นต่ำ”เขาบ่นอุบขณะเดินผ่านรูปภาพ แล้วสุภาพสตรีก็มองตามแล้วพูดตอบ “ ก็เธอเป็นคนตั้งเองไม่ใช่รึไงนะ”
“เออ คงใช่ ชั้นลืมแล้ว “ มัลฟอยตอบกลับด้วยความรำคาญ เมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องโถง เขาก็เจอแฮรรี่กับรอนนั่งเล่นหมากรุกพ่อมดกันอยู่ เขาจึงกะจะย่องขึ้นไปบนหอนอนหญิงเลย แต่แล้ว
“ อ้าว เฮอร์ไมโอนี วันนี้ไปไหนมาน่ะ ไม่เห็นเธอเลยตั้งแต่เธอไปเรียนอักษรบ้าบอไรนั่น” รอนร้องถาม
“ เอ่อ...อ๋อ ชั้นไปห้องสมุดน่ะ” มัลฟอยพยายามตอบให้ดูเหมือนเฮอร์ไมโอนีมากที่สุด “ ชั้นไปก่อนนะ ชั้นเหนื่อย”
คำพูดนั่นทำให้รอนกระซิบกับแฮรรี่ “ ทำไมเขาไม่โกรธที่ชั้นไปว่าวิชาอักษรไรนั่นของเขาล่ะ” รอนกระซิบเสียงเบา
“ เขาอาจจะเหนื่อยก็ได้” แฮรรี่ตอบเสียงเบาให้รอน แล้วก็หันไปถาม “ เธอไม่ไปห้องพยาบาลหน่อยหรอ”
“ เอ่อ ไม่ล่ะ ชั้นไปนะ เจอกันพรุ่งนี้พอต... เอ๊ย แฮรรี่ รอน” แล้วเขาก็รีบวิ่งขึ้นหอนอนทันที โชคเข้าข้างเขาที่หอนอนกริฟฟินดอร์จะติดป้ายชื่อหน้าห้องไว้ จึงไม่ยากที่จะหาห้องของเฮอร์ไมโอนีเจอ เมื่อเขาเข้าไป ก็รีบจัดแจงอาบน้ำทันทีด้วยความอับร้อนมาทั้งวัน เขาถอดเสื้อคลุมและทุกอย่างออกจนเหลือแต่เสื้อเชิ้ตข้างในสาวที่ยาวลงมาพอประมาณตามที่สัญญาไว้กับเฮอร์ไมโอนี แล้วเขาก็ลงอาบน้ำในอ่าง ฟองสบู่ถูกพ่นออกมาอัตโนมัติซึ่งมันเป็นสิ่งที่ฟร็ดกับจอร์จสร้างขึ้นเพื่อใช้อาบน้ำเฉพาะหอกริฟฟินดอร์เท่านั้น มัลฟอยเริ่มลงมือถูตัวขณะที่เขาถูหน้าอก เขาก็สะดุ้งเฮือกใหญ่แล้วมองลงทันที
“ หวา ตายล่ะสิ ลืมไปว่านี่มันร่าง... ผู้หญิง... “ เขานึกพลางหน้าแดงไปถึงใบหู เมื่อเขาสังเกตดูอีกที เขาก็เห็นว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวเวลาโดนน้ำนั้น ไม่ได้ช่วยปกปิดอะไรได้เลย เพราะเสื้อสีขาวแนบเนื้อเห็นถึงข้างในนั่น แล้วเขาก็ นึกไปถึงเมื่อกี๊ตอนถูสบู่เขาเผลอไปจับโดนหน้าอกเฮอร์ไมโอนีโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดถึงแค่นั้น เลือดกำเ***็พุ่งทะลักออกมาทันที เขารีบคว้าไม้กายสิทธิ์มาแล้วร่ายคาถาให้ผ้ามาผูกตาตัวเองไว้ แล้วรีบแต่งตัวให้เร็วที่สุดถึงแม้จะเสียเวลากับการใส่ยกทรงไปประมาณสิบห้านาทีก็ตาม เขาออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้าแดงงงงมาก เลือดกำเดาไม่หยุดไหล เขามานั่งอยู่บนเตียงซักพักเขาก็นึกถึงเฮอร์ไมโอนี
“ ตายล่ะ ลืมไปว่าเตียงของเจ้าแครบมันพังไปนี่นา แล้วมันก็มานอนเตียงชั้น ... “ เขานึกขึ้นได้ก็รู้สึกเป็นห่วงเฮอร์ไมโอนีกลัวว่าเธอจะโดนเจ้ายักษ์นั่นทับตายไปซะก่อน เขาจึงรีบวิ่งลงมาจากห้อง ทั้งๆที่เลือดยังไม่หยุดไหลนั่นล่ะ เขาวิ่งไปหาแฮรรี่ทันที “ เฮ้ พอต เอ๊ย แฮรรี่... ยืมผ้าคลุมล่องหนหน่อยสิ พรุ่งนี้จะเอามาคืน” เขากล่าวอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะชาตินี้เขาจะขอร้องแฮรรี่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย
“ได้สิ แต่เธอจะเอาไปทำอะไร ...เฮ้ย เธอ ทำไมเลือดออกอย่างงั้นล่ะ” แฮรรี่ร้องอย่างตกใจ
“ อ๋อ ชั้นจะคลุมมันไปห้องพยาบาลน่ะสิ ตะกี๊ชั้นเดินชนตู้น่ะ “ เขาพูดกลบเกลื่อน
“ ชนตู้ ? เธอนี่โง่ชะมัด” รอนร้องตอบ นั่นทำให้มัลฟอยอยากจะกระโดดถีบรอนซะจริงเมื่อเขาได้เสื้อคลุมเขาก็รีบคลุมมันแล้วไปยังหอสลิธีลินทันที
ทางด้านเฮอร์ไมโอนี ขณะที่แครบกำลังจะเข้ามานอนที่เตียงด้วย
“นี่นายจะทำอะไรน่ะ..” เธอร้องพลางถอยตัวไปชิดติดกำแพง
“ อ่าว ก็ชั้นนอนกับนายมาสองวันแล้วนิ เตียงชั้นมันพัง ลืมแล้วรึ” แครบอธิบาย ซึ่งไม่นึกว่าจะมีสมองพอจะอธิบายอะไรได้กะเค้า
“ อะ...งั้น.. วะวันนี้นายไปนอนกะกอยล์โน่นไป ชั้นอยากนอนคนเดียวมั่ง ..” พูดจบเธอก็ปิดม่านที่เตียงนอนทันที แครบจึงต้องไปนอนกับกอยล์เพราะเขาไม่กล้าขัดคำสั่งมัลฟอยนั่นเอง คืนนั้นเฮอร์ไมโอนียังคงไม่หลับที่ไม่หลับเพราะเธอรู้สึกแปลกๆ หลับไม่ลง แล้วทันใดนั้น ม่านของเตียงเธอก็แหวกออก เธอเห็นหัวของตัวเธอเองโผล่ออกมา “ กรี๊....อุ๊บ...” แต่มัลฟอยเอามือปิดปากเธอทัน
“เธอจะกรี๊ดบ้าไรกลางค่ำกลางคืนงี้ เดี๋ยวคนก็ตื่นกันหมดหรอกกก....” มัลฟอยบ่นเสียงเบา แล้วค่อยๆปล่อยมือออก “ นั่น เสื้อคลุมของแฮรรี่นี่ ...แล้วนายมาทำไม....” เธฮร้องเสียงเบา
“ชั้นยืมพอตเตอร์มา เพราะนึกขึ้นได้ว่าปกติแครบมันจะมานอนด้วย กลัวเธอจะโดนมันทับตายซะก่อน “ เขาตอบพลางก้าวขึ้นไปบนเตียงเดียวกับเธอ “ นะ ..นายจะทำอะไรน่ะ “ เธอร้องแล้วถอยกรูดไปชิดผนังอีกครั้ง
“นี่เธอ...เธอจะให้ชั้นที่อยู่ในร่างเธอ ยืนอยู่ในห้องหอพักชายกลางหอสลิธีลินรึไง. มัลฟอยถามกลับ
“ เอ่อ ..ปะเปล่า..” เธอตอบพลางขยับให้เขาเข้ามา
“ว่าแต่เธอยังไม่โดนทับตายสินะ” มัลฟอยหันมาถาม เฮอร์ไมโอนีสะดุ้งเฮือก หน้าเริ่มร้อน เพราะตอนนี้มัลฟอย
อยู่ใกล้เธอมากถึงจะเห็นเป็นร่างตัวเองก็เถอะ “ อะ.. ถะ..ถ้าโดนทับตายแล้วชั้นจะคุยกับนายอยู่นี่ได้ไง “ เธอตอบแบบไม่สบตา
“ งั้นรึ เฮ้อ...” เขาตอบแล้วล้มลงนอนบนเตียง
“นี่นาย เธอนอนแบบนี้แล้วชั้นจะไปนอนไหนล่ะ” เฮฮร์ไมโอนีถามเสียงเบาด้วยความไม่พอใจ มัลฟอยเหล่ตามองเธอ “ก็นอนด้วยกันสิ” เขาตอบแล้วก็ดึงเธอลงมานอนข้างๆเขาพลางกอดเฮอร์ไมโฮนีที่ดิ้นๆอยู่
“นาย จะทำอะไร..” เธอถามเสียงขุ่น
“ ชู่ววว ถ้าเจ้าพวกนั้นตื่นจะทำไงล่ะ” มัลฟอยตอบพลางจ้องลงไปในตาสีซีดซึ่งนั่นเป็นร่างเขาเอง แต่เป็นร่างเขาที่กำลังหน้าแดงถึงใบหู ผมบรอนซ์ลงมาปรกหน้า และเธอก็หลบสายตาเขาทันที
“ มัลฟอย...” เฮอร์ไมโอนีเรียกเขาขณะที่เธอกำลังอยู่ในอ้อมแขนเขา
“อะไร...” เขาถามกลับ “ นายเป็น...แฟน..แพนซี่หรือ” เธอถามด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“ หา??? ใครบอกเธอ ..แล้วชั้นไปเป็นแฟนยัยนั่นตั้งแต่เมื่อไรกัน ..ให้ตายสิ” เขาบ่นทันที
“เธอจะไปเดินเล่นมั๊ย ชั้นเบื่อ..” มัลฟอยหันไปถามเฮอร์ไมโอนี
“อะ ..เอ่อ..ก็ได้” เธฮตอบแล้วทั้งสองก็คลุมสื้อคลุมล่องหนเดินไปจนถึงทะเลสาบ อากาศตอนกลางคืนหนาวเย็น
มัลฟอยเอาเสื้อคลุมของตนคลุมให้เฮอร์ไมโอนี
“ เอ่อ .. มาคลุมด้วยกันเถอะ” เฮอร์ไมโอนีบอก “ ชั้นแค่ไม่อยากให้ร่างชั้นเป็นหวัดหรอกนะ”
มัลฟอยยิ้มมุมปากแล้วก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอเพื่อห่มเสื้อคลุมเดียวกัน นั่นทำให้เฮอร์ไมโอนีรู้สึกหวิวๆ และเธอก็คิดว่า มัลฟอย คนเย็นชาคนนี้ เป็นคนอบอุ่นขนาดนี้เชียวหรือ มิน่า แพนซีถึงได้ตามแจขนาดนั้น เมื่อเธอคิดถึงตอนนั้น เธอก็ถามเขาอีกครั้ง “ เธอ ...มีคนที่ชอบรึยัง?” เธอถามพลางก้มหน้ามองพื้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ มัลฟอยหันมามองเธอด้วยความตะลึงและไม่คิดว่าคนอย่างเฮอร์ไมโฮนีจะถามออกมา
“มีแล้ว ...” เขาตอบสายตามองออกไปยังทะเลสาบ คำตอบนั้นทำให้เฮอร์ไมโอนีสะดุ้งเล็กน้อย เธอรู้สึกเจ็บแปลกๆ “ แล้วเธอล่ะ?” เขาถามบ้าง
“ไม่รู้สิ... ชั้น ..ยังไม่เข้าใจว่าชั้นรู้สึกยังไง...” เธอตอบ แล้วหันไปมองเขาแบบเลี่ยงๆ “ คนที่เธอชอบ เป็นแพนซี่รึเปล่า?” เฮอร์ไมโอนียังคงถามต่อ แต่เขาเงียบ สายลมเย็นๆปะทะหน้าตลอดเวลา และเสียงน้ำในทะเลสาบกระทบกัน “ ชั้นไม่เคยชอบยัยนั่นหรอก... ทำไมเธอถามแบบนั้น” มัลฟอยพูด
“ เอ่อ.. เปล่า แค่สงสัย” เธอตอบ “ หึงรึไง...” เขาหันมายิ้มมุมปาก
“ จะบ้าหรอ ใครจะไปหึงนายกัน” เธอตอบทันทีที่เขาพูดจบ
“งั้น ..หลบหน้าทำไมล่ะ” มัลฟอยพูดพลางเชยคางเธอขึ้น และจ้องลงไปในดวงตาสีซีดนั่น ใบหน้าเขาเข้าใกล้เธอขึ้นเรื่อยๆ “ ชั้นน่ะ...” เขาพูดแล้วเขาก็หยุดชะงักไป
“ ไม่เอาดีกว่า ...ชั้นยังไม่อยากบอกในสภาพแบบนี้เท่าไร” เขาบอก
“ หมายความว่าไง “ เฮอร์ไมโอนีถาม
“ เปล่า กลับเถอะ เดี๋ยวเธอจะทำให้ร่างชั้นเป็นหวัด” มัลฟอยพูดพลางส่งมือคู่เล็กๆให้ เฮอร์ไมโอนีก็จับมือนั้นแล้วเดินกลับปราสาทท่ามกลางความสงสัยในประโยคที่ทิ้งไว้ของมัลฟอย
ในเช้าวันต่อมา เฮอร์ไมโอนีต้องไปเรียนวิชาไหนต่อไหนอย่างน่าเบื่อ ซึ่งแน่นอน การที่เธอพลาดเรียนวิชาตัวเลขมหัศจรรย์ และอักษรรูนโบราณ ก็ทำให้เธอหงุดหงิดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เธอรำคาญที่สุดก็คือ การที่ต้องมาคอยนั่งแกะมือของแพนซีที่ตามจอแจเธอไม่เว้น ต่อไปเป็นวิชาปรุงยาของเสนปซึ่งปกติเรียนกับสลิธีลิน ระหว่างเดินไปคุกใต้ดิน เธอก็เดินสวนกับมัลฟอยในร่างเฮอร์ไมโอนีที่มากับแฮรรี่และรอน ซึ่งดูหน้ามัลฟอยแล้วเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ต้องอยู่กับแฮรรี่และรอนตลอดทั้งวัน เธอแอบสังเกตปากเขาที่บ่นตลอดเวลาว่า
“ชั้นจะไม่มีวันมาเดินกับพวกพ่อมดชั้นต่ำอย่างนี้อีกเป็นแน่ “ หรือไม่ก็ “ทำไมต้องเป็นเจ้าแผลเป็นนี่ด้วย...”
ในชั่วโมงเสนปวันนี้ทุกอย่างผิดปกติมาก เฮอร์ไมโฮนี เกรนเจอร์ ซึ่งปกติจะเป็นคนที่ตอคำถามได้ทุกอย่าง กลับไม่ยกมือตอบเลยแม้แต่น้อย แต่ เดรโก มัลฟอย กลับยกมือตอบเอาๆจนผิดปกติ
“ เฮ้ เฮอร์ไมโฮนี ทำไมไม่ยกมือตอบเหมือนแต่ก่อนล่ะ เธอจะยอมแพ้มันหรอ” รอนกระซิบถาม
“ เหอะน่า .. ชั้นไม่มีอารมณ์” เขาตอบด้วยอาการเบื่อหน่ายที่เฮอร์ไมโอนีเอาร่างเขาไปทำท่าทางชั้นต่ำแบบนั้น
“ วีสลีย์ เกรนเจอร์... พวกเธอไม่มีสิทธิ์คุยในชั่วโมงชั้น...หักกริฟฟินดอร์ 20 คะแนน ฐานไม่ให้ความเคารพต่อชั้นที่กำลังสอนอยู่ “ เมื่อเสนปพูดจบ เฮฮร์ไมโอนีก็ทำตาขวางใส่มัลฟอยทันที เพราะเขาทำให้กริฟฟินดอร์ถูกตัดคะแนน วันนี้การเรียนการสอนมีแต่ความเบื่อหน่ายให้กับเฮฮร์ไมโอนีและมัลฟอย และการที่แพนซี่ตามประกบเฮอร์ไมโอนีตลอดก็ทำให้เธอถึงขีดสุดแล้ว เธอเดินไปหามัลฟอยท่าทีปึงปัง แล้วลากมัลฟอยออกมาจากแฮรรี่กับรอน “ เฮ้ย ... นายจะทำอะไรเฮอร์ไมโฮนีน่ะไอ้มัลฟอย “ แฮรรี่ร้องทันที ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองหน้าเขา
“ แก...กล้าเรียกชั้นว่าไอ้หรือ...” มัลฟอยในร่างเฮอร์ไมโฮนีตอบอย่างเคียดแค้น
“ แฮรรี่ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวชั้นมา” เฮอร์ไมโอนีในร่างมัลฟอยตอบอย่างอ่อนโยนพลางสงยิ้มให้ ซึ่งนั่นทำให้รอนและแฮรรี่หันมามองหน้ากันอย่างงงๆ “ สองคนนั่นคงเอาหัวไปโหม่งโลกมารึเปล่าเนี่ย” รอนถามย่างสงสัย
“ เฮ้ เธอจะไปไหน??” มัลฟอยร้องถาม
“ ห้องสมุด ชั้นต้องหาทางคืนร่างให้ได้เลย ชั้นไม่ยอมให้ชั้นต้องมาทนยัยแพนซี่หรือต้องมาลำบากตอนอาบน้ำแล้ว” เธอตะโกนบอกแต่ประโยคหลังเสียงกลับแผ่วลงและหน้าเริ่มแดง เมือไปถึงห้องสมุดเธอก็ไปหยิบหนังสือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมากองไว้บนโต๊ะ ซักเกือบยี่สิบเล่มได้
“ เธอ ...คงไม่คิดแบบนั้นหรอกจริงมั๊ย “ มัลฟอยถาม
“ ใช่ ...เราต้องอ่านมันให้หมด..ภาย-ใน-วัน-นี้” เธอเน้น
“นี่เธอจะบ้าหรอ” มัลฟอยโวยทันที แต่เฮฮร์ไมโอนีไม่สนใจและเริ่มลงมืออ่านทันที ทั้งสองคนนั่งอ่านไปจนเย็น เมื่ออ่านหมด มัลฟอยล้มแผละกบโต๊ะทันที
“ โอ๊ย ..ไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวกับตกบันได้แล้วเปลี่ยนร่างกันเลยนี่” เขาร้องเสียงยานคางด้วยความเหนื่อยล้า
“ เฮ้อ ...แล้วชั้นจะทำยังไงดีเนี่ย...” เฮอร์ไมนีเริ่มท้อแท้ แต่แล้วเธอก็นึกขึ้นได้
“จริงสิ เราสลับร่างเพราะตกบันไดใช่มั๊ย บางที อาจเป็นเพราะเราตกบันไดไง” เธอร้องแววตามุ่งมั่น
“เดี๋ยวสิ ..นี่เธออย่าบอกนะว่า เราต้องไปตกบันไดน่ะ” มัลฟอยทำหน้าแหวทันที
“ใช่แล้ว มาเร็ว “ เธอลากเขาไปยังบันไดเดิมทันที
“ นี่สมองเธอคงกระทบกระเทือนหรือไม่เธอก็คงบ้าไปล้วแน่ๆ” มัลฟอยร้อง
“ ก็ชั้นไม่อยากอยู่ในร่างเธอนี่นา หรือเธออยากอยูร่างชั้นกัน” เธอแหวใส่
“ เฮอะ ร่างสีโคลน....ใครจะอยากอยู่กัน” มัลฟอยตอบกลับบ้าง พลางเบ้หน้าไปทางอื่น เมื่อทั้งสองมาถึงบันได
“ เอาล่ะ นับพร้อมกันแล้วโดดเลยนะ” เธอบอกเสียงแข็ง แต่ร่างกายกลับสั่นด้วยความกลัว
“ นี่เธอเอาจิงอ่ะ “ มัลฟอยมองหน้าเฮอร์ไมโอนีอีกครั้งเผื่อเธอเปลี่ยนใจ
“อย่าล้อเล่นน่ะ ไม่งั้นเราจะถ่อมานี่ทำไมกัน” เธอหันมาพูดกับเขา “ เอาล่ะ นับละนะ 1-2-…”
“สา-มมมม” แล้วทั้งสองก็ปิดตาสนิทโดดลงบันไดไป ทั้งสองคนกลิ้งหล่นจนถึงข้างล่าง
“ โอยยยย เจ็บชะมัด...” เขาร้องขึ้นเมื่อลุกขึ้นมาก็รีบมองร่างตัวเองทันที แต่มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เขายังใส่กระโปรง มีผมสีน้ำตาลฟูฟ่อง” เฮ้ เกรนเจอร์ เป็นไงมั่ง? “ เขาถาม
“ อู๊ยยยย เจ็บบบบ เรากลับเหมือนเดิมรึยัง “ เธอถามทันที
“ ไม่เห็นเปลี่ยนเลย ให้ตายสิ ชั้นต้องมาเจ็บฟรีเนี่ย มันอะไรนักหนากับเรื่องบันไดเนี่ย “ มัลฟอยบ่น
“โอ๊ยยยย ชั้นอยากกลับร่างเดิม ...” เธอร้อง แล้วทั้งสองก็กลับหออย่างห่อเ***่ยวใจ เฮอร์ไมโอนีเซนิดหน่อยแต่มัลฟอยเข้ารับไว้ได้ “ นี่เธอ เดินดีๆหน่อยซิ ชั้นในร่างเธอ รับน้ำหนัก ร่างผู้ชายไม่ค่อยไหวหรอกนะ”
เขาพูดขณะที่ยังกอดเฮอร์ไมโอนีไว้อยู่ ซึ่งทำให้เธอหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้
“ อะ..นะนายจะเบียดมาทำไม ถอยไปนะ...” เธอร้องเสียงสั่นแล้วรีบวิ่งกลับหอสลิธีลินทันที ปล่อยให้มัลฟอยยืนงงอยู่ เช้าวันต่อมา ขณะที่เฮอร์ไมโอนีจะไปเรียนวิชาสมุนไพรศาสตร์ ซึ่งวันนี้เธอก็หนีไม่พ้นที่จะต้องรับการรัง
ควานจากแพนซี่ แต่ระหว่างทางตรงหัวมุมบันได แฮรี่กับรอนก็มาดักไว้
“ เฮ้มัลฟอย เมื่อวานนายทำอะไรเฮอร์ไมโอนีน่ะ ...” รอนถามขึ้น เมื่อเฮอร์ไมโอนีเห็นสถานการณ์แบบนี้เธอก็ทำอะไรไม่ถูก เธอพยายามคิดประโยคที่มัลฟอยจะพูดถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ อะ..เอ่อ.. แล้วไง ? นายสองคนจะเดือดร้อนไปทำไมกัน “ เธอพยายามพูดให้เหมือนมัลฟอย แล้วมัลฟอยที่แว่บไปเข้าห้องน้ำก็ผ่านมาพอดี
“ก็เพราะเฮอร์ไมโอนีเป็นเพื่อนเราน่ะสิ” แฮรรี่ตอบ “ นายอย่าคิดจะทำอะไรเธอเด็ดขาด”
“ ฮึ ... ชั้นไม่เคยอยากจะทำอะไรยัยเลือดสีโคลนหรอก มันสกปรกน่ะ...” เธอตอบเกร็งๆ มัลฟอยที่ยืนฟังอยู่อดขำกับการพยายามด่าตัวเองของเฮอร์ไมโอนีไม่ได้ แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อรอนพุ่งพรวดเข้าไปชกหน้าเฮอร์ไมโอนีในร่างมัลฟอยทันที โดยที่แฮรรี่เองก็ห้ามไม่ทัน
“ แกกก อย่ามาดุถุกเพื่อนชั้นะเว่ยย” เขาพุดพลางชกหน้าทันที และนั่นทำให้แพนซี่กรีดร้องดังลั่น ร่างของเธอค่อยๆหงายหลังตกบันได แต่มัลฟอยในร่างเฮอร์ไมโอนีวิ่งมาคว้าเอาไว้(สร้างความแปลกใจให้แฮรรี่และรอนเป็นอันมาก) แต่เพราะตอนนี้เขาอยู่ในร่างผู้หญิง ทำให้เขาไม่สามารถต้านแรงได้ ทั้งสองตกบันไดลงไปด้วยกัน
“ว้ายยยยยย เดรโกกกก ตายแล้ว” แพนซี่ร้อง และทุกคนก็รีบวิ่งลงไปดู ทั้งเฮอร์ไมโอนีและมัลฟอยสลบไปแล้ว..
มัลฟอยฟื้นขึ้นมาในห้องพยาบาลในวันหนึ่ง
“ อ้าว มิสเตอร์มัลฟอย ฟื้นแล้วหรือ” มาดามพรอมฟรีย์ร้องเรียก
“ ตะกี๊มาดามเรียกผมว่าไงนะครับ “ เขาถาม
“ ก็มิสเตอร์มัลฟอยไง ... เอ้อ ชั้นไม่มีเวลามาไร้สาระกับเธอหรอกนะ ชั้นไม่ว่าง ถ้าเธอฟื้แล้วก็ออกจากห้องพยาบาลได้แล้วล่ะ” เธอพูดพลางเดินออกจากห้องพยาบาล มัลฟอยมองร่างตัวเองอย่างพิจารณา มันกลับเป็นเหมือนเดิมแล้วจริงๆ
“ กลับเหมือนเดิมแล้วหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นที่เตียงฝั่งตรงข้าม
“ อ่าว ฟื้นแล้วหรือเกรนเจอร์” มัลฟอยถามพลางแหวกม่านออก ซึ่งก็เห็นเฮอร์ไมโอนีนั่งหย่อนขาอยู่ข้างเตียง
“ อืมม วันนี้ช่างสบายใจจังเลย” เธอร้องพลางบิดขี้เกียจ “กลับเหอะ ชั้นไม่ชอบห้องพยาบาลเท่าไรหรอก” เธอว่า
ทั้งสองจึงเดินออกจากห้องพยาบาล
“ คราวนี้ เธอจะบอกชั้นได้รึยัง “ เธอถามเสียงเบาโดยไม่มองหน้ามัลฟอย
“ บอกอะไรของเธอ” เขาถามงงๆ
“ก็...เรื่องที่เธอยังพูดไม่จบเมื่อคืน....” เธอบอกพลางหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ เธอเดินเร็วขึ้นด้วยความเขินจนสะดุดเท้าตัวเองตรงบันได(อีกแล้ว)ที่เดิมกับที่เธอตก แต่ครั้งนี้ มัลฟอยอยู่ข้างหลังเธอรับเธอไว้ในอ้อมแขน ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนีหน้าแดงเป็นลูกตำลึง
“ เอ่อ...ขอโทษ...” เธอรีบดันเขาออกด้วยความอาย แต่เธอก็ทรุดฮวบทันที
“ เป็นอะไรอีกล่ะ? “ มัลฟอยถามพลางนั่งลงดูอาการเธอ
“ เอ่อ..เท้าคงเคล็ดน่ะ ไม่เป็นไรหรอก...” เธอตอบ แต่ทันใดนั้น มัลฟอยก็อุ้มเธอขึ้นไว้ในวงแขนเขา
“ อะ..ทำอะไรของนายน่ะ ชะ ชั้นไม่เป็นไรหรอก ชั้นเดินเองได้..” เธอตอบตะกุกตะกักพลางใจเต้นแรง
“ เงียบเถอะน่า แล้วก็อย่าดิ้น เดี๋ยวได้ตกลงไปอีกหรอก ไอ้บันไดบ้านี่ ชั้นเบื่อมันเต็มทน” เขาพูดเสียงดุเธอ
ทำให้เฮอร์ไมโอนียอมแต่โดยดี เธอเอาแขนโอบรอบคอเขาแล้วซบหน้าลงกับไหล่เขา ทำให้เธอได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวเขา และทั้งสองก็เริ่มหน้าแดงเหมือนๆกัน
“ เธอจะตอบชั้นได้รึยังที่ถามน่ะ...” เฮอร์ไมโอนีกระซิบถามเขา มัลฟอยวางเธอลงที่มุมเสาต้นใหญ่มุมหนึ่ง
“ เธอรู้มั๊ย ชั้นไม่เคยชอบหรือพิศวาสยัยแพนซี่นั่นเลย..” เขาพูดขึ้น พลางมองลงไปในดวงตากลมโตของเธอ
ใบหน้าของเขาค่อยๆเลื่อนมาใกล้ เฮอร์ไมโอนีใจเริ่มเต้นรัวแรง
“ ชั้นบอกเธอไปว่าชั้นมีคนที่ชอบแล้ว .. จำได้มั๊ย? “ เขาถามใบหน้าเขาตอนนี้อยู่ห่างเธอไม่เท่าไร เฮอร์ไมโอนีพยักหน้าอันแดงก่ำของเธอเป็นเชิงตอบ
“ ชั้น..ชั้นรักเธอ ... เกรนเจอร์ ..ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร..ไม่ร็ว่าทำไม ชั้นถึงคิดถึงแต่เธอ..ขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอตอนนั้น เพราะชั้นอยากจะใช้ร่างของชั้นเป็นคนบอกมากกว่า.” เขาตอบด้วยเสียงแผ่วเบา และเอาหน้าผากทาบไว้กับหน้าผากเธอ เป็นเชิงหยั่งใจและมองลงในดวงตาคู่น้ำตาลที่กำลังจ้องตอบด้วยใบหน้าแดงแจ๋ทั้งสองคน เขาโน้มหน้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆ
“ ไม่ปฏิเสธหรือ? “ มัลฟอยกระซิบถาม “ ถ้างั้นชั้นถือว่านั่นเป็นคำตอบนะ...” เฮอร์ไมโอนีค่อยยๆหลับตาลง เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ปฏิเสธเขาที่เป็นศตรูกับเธอมาโดยตลอด ตอนนี้หัวใจเธอแทบจะออกมาเต้นข้างนอก มัลฟอยประกบริมฝีปากเขาเข้ากับปากสีชมพูของเธอ อย่างแผ่วเบาอยู่นาน แล้วค่อยๆคลายออก แล้วเฮอร์ไมโอนีก็เป็นฝ่ายโน้มเข้าไปจูบเขาอีกที เธอเอาแขนโอบรอบคอเขา ปลายนิ้วสัมผัสเส้นผมสีบรอนซ์อ่อนนุ่ม เขาจูบกันเร่าร้อนขึ้น มัลฟอยเอามือข้างหนึ่งช้อนไว้ใต้คอเชิงประคอง และใช้แขนอีกข้างโอบกอดเธอไว้แน่น เหมือนเธอกำลังจะจากไป เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่มีใครรู้ มัลฟอยดันตัวเธอไปพิงเสา และกดมือทั้งสองของเธอนาบไว้กับเสา และจูบเธออย่างเร่าร้อนขึ้น ซึ่งเฮอร์ไมโอนีรู้สึกเหมือนร่างกายเธออ่อนยวบไปหมด เธอไม่อาจปฏิเสธเขาได้อีกแล้ว เธอรักเขา มัลฟอยเลื่อนปากเขามาตามลำคอของเธอ และสอดมือเข้าไปในเสื้อคลุมเธอ ในเสื้อสเวตเตอร์!!! เฮอร์ไมโอนีสะดุ้งเฮือก มัลฟอยรีบผละออกทันที ทั้งสองมองตากันพลางหอบหายใจ
“ ขะ..ขอโทษ...” เขาพูดด้วยใบหน้าสีชมพู “ เอ่อ.. ไปกันเถอะ ชั้นจะไปส่งนะ” เขาพูดจบก็อุ้มเธอขึ้นแล้วเดินไปยังหอกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนีซบไหล่เขาพลางนึกถึงตอนจูบกับมัลฟอยเมื่อกี๊ และตอนที่จูบของเขาเร่าร้อนขึ้น จนเหมือนจะเริ่มเลยเถิดแล้ว...แต่เธอก็อดรู้สึกดีไม่ได้ เธอคิดว่าเมื่อกี๊ ถ้ามัลฟอยไม่ผละออก จะเป็นยังไงต่อนะ เพราะเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกปฏิเสธเขาเลย เธอคิดไปแล้วก็เริ่มหน้าแดง เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกทีมัลฟอยก็พามาส่งหน้าหอเธอแล้ว เขาวางเธอลง
“ ไปล่ะ ฝันดีนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน” เขาพูดพลางจูบหน้าผากเธออย่างอ่อนโยน
“ เอ่อ...อืม... “ เธอตอบ แล้วเขาก็หันหลังเดินไป แล้วเฮอร์ไมโอนีก็ตะโกนตามหลังไปว่า
“ ชั้น...รักเธอนะ” นั่นทำให้มัลฟอยหันมายิ้มให้เธอด้วยใบหน้าแดงถึงใบหู เธอยืนมองเขาจนลับตาจึงกลับเข้าหอนอน เธอขึ้นไปบนห้องแล้วล้มตัวลงบนเตียงทันที เธอคิดว่า วันนี้ช่างมีความสุขที่สุดเลยจริงๆ แล้วเธอก็หลับไปพร้อมกับหัวใจที่ยังเต้นแรงไม่หาย

จบภาค 1

ยิ่งกว่าสิ่งใด-เรท (ภาค 2 ต่อจากสลับร่างสร้างรัก)
fic by..tom_emma
ฟิคคู่ D/Hr

ปีนี้เป็นปีสุดท้ายในฮอกวอตส์ของสามสหายรัก แน่นอน ปีนี้ก็เป็นปีที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับเฮอร์ไมโอนี สาวน้อยผมหยิกสีน้ำตาล เด็กอัจฉริยะบ้านกริฟฟินดอร์ เช่นเคย กลับกัน วันนี้เธอรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เพิ่งเป็นอาทิตย์แรกของการเปิดเรียนปีเจ็ดแท้ๆ นั่นเป็นเพราะ เดี๋ยวนี้ เพื่อนรักของเธอ ทั้งแฮรรี่และรอน ต่างก็ไม่ค่อยสนใจเธอเลย เพราะทั้งสองคนมีแฟนกันไปหมดแล้ว รอนเป็นแฟนกับปัทมา ซึ่งรอนมักจะใช้เวลาแทบทั้งวันอยู่กับเธอและคอยหยอกล้อเล่นกับปัทมา สองต่อสองเสมอ ส่วนแฮรรี่เอง ก็คอยตามหาแฟนของเขาไม่ขาดสาย ใช่แล้ว แฟนของแฮรรี่คือจินนี่ น้องสาวของรอนที่เพิ่งตกลงเป็นแฟนกันเมื่อตอนก่อนปิดเทอมที่ผ่านมานี่เอง ท้งสองคนมักจะแยกตัวไปจู๋จี๋หรือไม่ ถ้าจินนี่ติดเรียน แฮรรี่ก็จะไปซ้อมควิดดิชตลอด ซึ่งการที่เพื่อนรักของเธอมีแฟนไปหมดแล้ว ทำให้เธอร็สึกโดดเดี่ยว เหมือนเธอถูกทิ้ง

“โครมมมม” เสียงเฮอร์ไมโอนีทิ้งหนังสือลงบนโต๊ะกริฟฟินดอร์ระหว่างคู่แฮรรี่และรอนกลางโถงใหญ่ดังขึ้นด้วยความหงุดหงิดของเธอ ซึ่งทำให้แฮรรี่ รอน จินนี่ และปัทมามองหน้ากันอย่างสงสัย เฮอร์ไมโอนีชำเลืองตาลงไปมองคู่แฮรรี่ทางขวา และชำเลืองไปทางซ้ายเพื่อมองคู่รอนบ้าง ก่อนที่เธอจะถอนใจเฮือกใหญ่และเดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก

“ เฮอร์ไมโฮนีเป็นอะไรของเขาน่ะ?” รอนถามพลางมองหน้าเพื่อนรักเขา

“ ชั้นจะไปร้ได้ไงล่ะ ไปทะเลาะกะใครมารึไงนะ” แฮรรี่ตอบพลางยักไหล่เป็นเชิงว่าเขาไม่รู้จริงๆ

เฮอร์ไมโอนีเดินออกไปนั่งที่ทะเลสาบเช่นเดิมเหมือนทุกๆวัน เธอมองลงในน้ำอย่างเหม่อลอย แล้วก็เริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า

“ แฮรรี่กับรอน บ้าที่สุดเลย “ เธอร้องออกมาพร้อมเขวี้ยงหินก้อนเล็กๆไปในน้ำสุดแรงเพื่อระบายอารมณ์

“ เรื่องแค่นี้ ชั้นไม่สนใจหรอก อยากจะไปคุยกับใครก็เชิญเลย “ เธอยังร้องต่อ แต่ตอนนี้เธอกลับก้มหน้านั่งกอดเข่าปล่อยให้น้ำตาค่อยๆไหลออกมา

“ ยายฟูเกรนเจอร์ มาทำพื้นโรงเรียนเลอะอีกแล้ว “ เสียงหนึ่งดังมาจากต้นไม้ต้นหนึ่ง เฮอร์ไมโอนีรีบเช็ดน้ำตาแล้วหันไปทางต้นไม้ต้นที่ใกล้เธอที่สุด

“ นายอย่ามายุ่งดีกว่า ทำอย่างกะเลือดนายสะอาดตายนักล่ะ “ เธอตะคอกกลับและเดินปึงปังมาดูที่ต้นไม้ เธอมองไปรอบๆ แต่กลับไม่มีใครซักคน

“ ออกมาเดี๋ยวนี้นะมัลฟอย “ เธอร้องถาม

“ไม่ล่ะ ชั้นกะลังสบาย “ เขาเอ่ยขึ้น ทำให้เฮอร์ไมโอนีพอจะเดาจากเสียงว่าตอนนี้เขาอยู่ด้านบนของเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองบนต้นไม้ เขานอนอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่อันหนึ่งอย่างสบายใจ

“ จะขึ้นมามั๊ยล่ะ ? บนนี้ วิวสวยนะจะบอกให้” เขาเหล่ตาลงมองเธออย่างขี้เกียจจัด แต่เฮอร์ไมโอนีดูลุกลี้ลุกลนประหลาดๆ

“ กลัวรึไง ? หรือว่า เด็กอัจฉริยะอย่างเธอ ผู้ได้ท็อปทุกวิชา กลับปีนต้นไม้ไม่เป็น?” เขายิ้มด้วยความเย้ยหยัน

“ ฮึ เรื่องแค่นี้ ชั้นกลัวตายล่ะ “ พูดจบเธอก็ลงมือปีนขึ้นไปบนกิ่งไม้ทันที แต่เพราะเธอใส่กระโปรง จึงไม่ค่อยเหมาะกับการปีนต้นไม้เท่าไร เธอเหยียบพลาดไปเหยียบเสื้อคลุมตัวเอง

“ว้ายยยยย” เธอร่วงลงอย่างรวดเร็ว แต่ทัดใดนั้นตัวเธอก็หยุดอยู่กลางอากาศ แล้วค่อยๆลอยขึ้นด้านบน

“ ให้ตายสิ เธอนี่ ทำให้ชั้นต้องลุกขึ้นมาเลยเห็นมั๊ย อุตส่าห์กำลังนอนได้ที่ “ มัลฟอยบ่น พลางบังคับไม้กายสิทธิ์ชี้ลงที่ตักเขา แล้วเฮอร์ไมโอนีก็ลอยมานั่งบนตักเขา เขาเอามือโอบเธอไว้ไม่ให้ตกลงไป

“ นะ นาย ปล่อยชั้นนะ “ เฮอร์ไมโอนีเริ่มดิ้นทันทีเมื่อมัลฟอยคลายคาถา วิงกาเดียม เลวิโอซ่า

“ นี่เธอ อยู่นิ่งๆจะได้มั๊ย ชั้นไม่อยากจะตกลงไปกับเธอด้วยหรอกนะ “ เขาพูดเสียงดุ เฮอร์ไมโอนีชะเง้อลงไปมองด้านล่าง ตอนนี้เธออยู่บนตำแหน่งที่สูงทีเดียว ถ้าตกลงไปคงเจ็บไม่น้อย หรือถ้าลงผิดท่า เธออาจคอหักตายก็ได้ เธอจึงยอมอยู่เฉยๆ แต่ว่า ก็อดหน้าแดงไม่ได้ เพราะตอนนี้เธอนั่งอยู่บนตักมัลฟอย และเขากำลังกอดเธอไว้แนบตัวเขา เธอได้กลิ่นหอมๆของเขา แล้วเริ่มใจลอย ทำให้มัลฟอยฉวยโอกาสหอมแก้มเธอไปฟอดใหญ่

“ ทำอะไรของนายน่ะ” เธอถามเสียงดังด้วยสายตาขุ่นเขียว พลางผลักเขาออกห่าง

“ รางวัลที่ชั้นช่วยเธอไม่ให้ตกลงไปเจ็บเมื่อกี๊ไง รึว่าเธอจะให้อย่างอื่น?” เขาถามยั่วยวนกวนตีน

“ ชั้นไม่ให้อะไรทั้งนั้นหละ” เธอตอบแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น แต่มัลฟอยก็ดึงเธอเข้ามาใกล้ ใบหน้าชิดกับเธอ

“ แต่ชั้นบังคับ “ เขาพูดแล้วก็จูบเธอทันที เฮอร์ไมโอนีอึ้งไปพักหนึ่ง มัลฟอยจึงถือโอกาสเอามือโอบเธอและค่อยๆเลื่อนลงมาจูบที่ซอกคอเธอ

“ ปะ ปล่อยนะ นายนี่มัน ...จอมลามกที่สุด” เธอร้องพลางผลักเขาออกไปสุดแรงด้วยใบหน้าที่แดงยิ่งกว่าสีผมรอนซะอีก

“ โธ่เอ๊ย กลัวอะไร ตอนที่เราเปลี่ยนร่างกันครั้งที่แล้ว ชั้นเห็นยิ่งกว่านี้อีก” เขาพูดแบบยิ้มๆมาที่เธอ

“นะ นาย ...เห็น ? อีตาบ้า ไหนว่าจะไม่ถอดเสื้อผ้าชั้นไงล่ะ เลวร้ายที่สุดเลย อีตาลามก โรคจิต” เธอร้องเสียงดังต่อกันเป็นชุดแทบไม่หยุดหายใจ แล้วเอามือตีไปที่ชายหนุ่มด้วยใบหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม และเริ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ โธ่เอ๊ย จะ..จะบ้าหรอ ชะ..ชั้น ปล่าวทำอะไรร่างเธอทั้งนั้นแหละ ไม่เห็นอะไรเลยนะ ไม่เห็...น” เขาพูดแล้วก็คิดถึงตอนที่เขาอาบน้ำในร่างเฮอร์ไมโอนี ตอนนั้นเขาใส่เสื้อสีขาวลงแช่น้ำ ความจริงถึงไม่เห็นชัดเจน แต่ก็เหมือนเห็นอยู่ดี แล้วเขาก็เผลอแตะหน้าอกเธอโดยไม่ได้ตั้งใจด้วย คิดถึงแค่นี้ มัลฟอยก็หน้าแดงจัดและเงียบไป

และเฮอร์ไมโอนีก็ฉลาดพอท่จะรู้ว่าอาการของมัลฟอยตอนนี้หมายถึงอะไร เธอแทบจะกรี๊ดลั่น ทั้งตบทั้งตี ทั้งด่ามัลฟอยยกใหญ่

“ โอ๊ยยยย ขอโทษ ก็ชั้นไม่ได้ตั้งใจนี่นา แต่ว่าชั้นเห็น แว๊บบบ เดียวเองนะ แว๊บเดียวจริงๆ” มัลฟอยร้อง

“ แว๊บเดียวหรือหลายแว๊บก็เห็นอยู่ดี ไม่รู้ล่ะ มัลฟอยบ้าที่สุด” เธฮพูดแล้วก็งอนเขาทันที เธอปีนกลับลงไปข้างล่างเพื่อเดินกลับปราสาทไป ก่อนกลับเธอก็หันมาแลบลิ้นใส่มัลฟอยทีนึง

“ อีตาบ้านั่น ... ชั้นไม่ยอมจริงๆด้วย” เธอบ่นพึมพำขณะที่เธอจะเดินกลับหอนอน แต่เธอก็เปลี่ยนใจแล้วไปห้องสมุดแทน เมื่อเธอเดินไปถึงห้องสมุด วันนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไง ห้องสมุดถึงแทบจะไม่มีคนเลย วันนี้ดูเหมือนจะเงียบมากกว่าปกติซักสองเท่าได้ เธอเดินไปหยิบหนังสือที่ชั้นหนังสือพลางบ่นพึมพำ

“ ห้องสมุดเงียบๆงี้สิดี ชั้นจะได้ไม่ปวดหัวอีก” เธอคิดยังไม่ทันขาดคำ เธอก็ได้ยินเสียงดัง “กึก ..” และตามมาด้วยเสียงเหมือนหนังสือเล่มใหญ่ตกลงที่พื้นหลายๆเล่ม เธอจึงตัดสินใจเดินไปดู เสียงนั้นดังมาจากชั้นหนังสือด้านใน เธอค่อยๆย่องไป ยิ่งเข้าใกล้เธอยิ่งได้ยินเสียงมากขึ้น มันเป็นเสียงผู้หญิงกำลังร้องอะไรบางอย่าง เมื่อเธอโผล่หน้าแอบดู เธอก็ต้องตกใจแทบจะเป็นลมช็อคตาย เธอเบิกตามองอย่างไม่เชื่อสายตา “นั่นมัน ....” เธอร้องเบาๆ

“ อืมมมม ....อะ..อา....” เสียงผู้หญิงผมแดงหน้าตาสละสวยครางออกมา เธอคือจินนี่นั่นเอง เธอกำลังจูบกับแฮรรี่เพื่อนสนิทเธออย่างเร่าร้อน แต่ที่เฮอร์ไมโอนีตกใจยิ่งกว่านั้นคือ สภาพของทั้งสองคน เสื้อผ้าทั้งสองคนหลุดลุ่ย กระดุมเสื้อของจินนี่หลุดหมดทุกเม็ด และแฮรรี่ก็กำลังปลดบราของจินนี่ออก เขาเอามือลูบไล้ไปตามเลือนร่างของเธอ

มีเสียงครางออกมาเป็นจังหวะ

“ ดะ..เดี๋ยวสิ ...แฮรรี่ นี่มันห้องสมุดนะ ...” จินนี่ร้องออกมา แต่แขนของเธอยังคงโอบกอดรอบคอแฮรรี่ไว้

“ อืมมม ไม่มีใครมาหรอกน่า....” แฮรรี่ตอบเธอ เฮอร์ไมโอนีเห็นอะไรต่อมิอะไร มากจนเธอไม่อยากจะเห็นและไม่อยากจะเชื่อว่า นั่นคือแฮรรี่ พอตเตอร์ เพื่อนรักของเธอเธอไม่เคยคิดเลยว่าแฮรรี่กับจินนี่จะเลยเถิดไปถึงขั้นนี้

เธอรู้สึกอยากจะเป็นลม แล้วเธอก็เซไปชนใครคนหนึ่ง เธอรีบหันไปมองทันที

“ มัลฟอย..” เธอร้องเสียงเบาแทบจะที่สุด

“ เห็นแล้วหรอ ... เฮ้อ เธอรับไม่ได้อย่างที่คิดจริงๆ” มัลฟอยร้องพลางมองไปที่แฮรรี่กับจินนี่

“ เธอ...เธอรู้?” เธอร้องถาม

“ แน่สิ ชันเห็นไอ้หัวแผลเป็นนี่แอบออกมาลับๆล่อๆหลายครั้งแล้ว แล้วชั้นก็เคยตามมาดู ที่ไหนได้ นัดน้องสาวไอ้กระนั่นมานี่เอง ชั้นเห็นมัน .... เอ่อ ... นั่นล่ะ ตั้งหลายครั้งแล้ว” เขาพูดพลางหน้าแดงและเกาหัวแก้เขิน

เฮฮร์ไมโอนีอึ้งกับคำบอกเล่าของมัลฟอยไปพักใหญ่ “ เอ่อ ...เราไปเถอะนะ ชั้น...รู้สึก...ไม่ค่อยดีน่ะนะที่มายืนแอบดูแบบนี้น่ะ เหมือนพวกถ้ำมอง” เธอพูดพลางเดินนำมัลฟอยออกจากห้องสมุด

“ นั่นเธอจะไปไหนล่ะ?” มัลฟอยถามพลางเดินไล่หลังมา

“ก็กลับหอน่ะสิ” เธอตอบทันที

“ หอไหน? “ เขาถามต่อ

“ อืม หอพรีเฟ็คดีกว่า วันนี้ชั้นไม่อยากเจอหน้าแฮรรี่กะรอน ชั้นทำตัวไม่ถูก ...” เธอตอบเขาอย่างตะกุกตะกัก

“ ก็ดี ชั้นก็ไม่อยากกลับไปเจอยัยแพนซี่เน่านั่นมาทำท่าน่าสะอิดสะเอียน” เขาร้องพลางเบ้หน้าไป นั่นทำให้เฮอร์ไมโอนีหัวเราะออกมาเบาๆ ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขาสองคนเป็นพรีเฟ็คประจำบ้านแต่ละคน และพรีเฟ็คกับประธานนักเรียน ก็จะมีหอนอนเฉพาะ ซึ่งแยกออกมาจากหอนอนของบ้านทั้งสี่และแน่นอน หรูกว่าหอนอนของแต่ละบ้านด้วย เมื่อทั้งสองคนมาถึงห้องนั่งเล่นรวมในหอนอนพรีเฟ็ค เธอก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาใหญ่ยักษ์ ซึ่งเป็นโซฟาลงคาถา โดยมันจะปรับขนาดไปตามคนนั่งนั่นเอง

“ ชั้นไม่นึกเลยนะว่าพวกนั้นเค้า...” เธอเริ่มเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ

“ งั้นรึ งั้นจะบอกให้อีกอย่างนะ ว่าไม่ใช่แค่เจ้าพอตเตอร์หรอกนะที่มัน มีอะไรแล้วน่ะ” มัลฟอยหันมาบอกอยางยิ้มๆ เฮอรืไมโฮนีตาโตหันขวับมามองหน้าเขาทันที

“ เธอหมายความว่าไง?” เธอถาม

“ เธอก็รู้อยู่ ... ชั้นหมายถึงไอ้กระวีสลีย์ “ เขาตอบพลางเดินเข้ามาหาเธอเพื่อให้คุยถนัดๆ

“ เจ้านั่นก็เคยแล้วเหมือนกัน....” เขาโน้มตัวเข้ามากระซิบอกเธอเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครได้ยิน ถึงแม้ในห้องนั้นจะไม่มีใครเลย แต่การจะพูดเรื่องแบบนี้ดังๆมันก็ไม่ดีท่าไรนัก

“ บ้าน่า..” เธอร้องหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู “ ทำไมพวกเขาไวไฟกันอย่างนั้นนะ “ เธอถามพลางหน้าแดง

“ เธออยากรู้หรือ” มัลฟอยถามแล้วขยับเข้ามานั่งข้างๆเธอ เขาเอามือข้างหนึ่งโอบเอวเธอไว้

“ จะ...ทำอะไรน่ะ ? “ เธอถามหน้าแดงจัดขณะพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนเขา แต่มัลฟอยกอดเธอไว้แน่น

“ ผู้ชายก็อย่างงี้แหละ ไม่แปลกหรอกที่เพื่อนเธอจะมีอะไรแล้ว”เขาพูดแล้วจ้องลงไปในดวงตาสีน้ำตาลของเธอ ดวงตาสีซีดที่ดูอบอุ่น หนักแน่น ดวงตาคู่นั้นที่ทำให้ใจเธอหวั่นไหว เธอเคยจูบกับเขามาแล้วในตอนที่เขาสารภาพรักกับเธอ ในตอนนั้นสายตาที่ดูอบอุ่นคู่นั้นก็จ้องเธอแบบนี้ หัวใจเธอเต้นแรง และร่างกายเธอเริ่มร้อนวูบ

มัลฟอยโน้มตัวเข้ามาจูบเธออย่างแผ่วเบา อบอุ่น เขาดันเธอลงไปนอนบนโซฟาที่บัดนี้เปลี่ยนรูปร่างคล้ายเตียงใหญ่แล้ว เขาเอามือกดมือเธอทั้งสองข้าง และมองเธอนิ่ง ใบหน้าทั้งสองชิดกันมาก

“ มะ..มัลฟอย” เธอร้อง พลางสบตาดวงตาซีดที่ทำให้เธอแทบละลาย ร่างกายเธอเริ่มอ่อนยวบ เธอไม่รู้ว่าทำไมพอมองตาคู่นี้ เธอถึงรู้สึกว่าเธอไม่อาจปฏิเสธอะไรได้เลย

“ ชั้นเอง ก็ต้องการเธอนะ...เกรนเจอร์ “ เขามองด้วยสายตาคมกริบ บาดลงที่ใจเธอ เธอรู้สึกถึงลมหายใจเขา เสียงหัวใจของเขา เธอพยายามห้ามตัวเอง

“ เธอ...หมายความว่าไง?” เธอถามด้วยความยากลำบาก มัลฟอยก้มหน้ามาเขาพูดพร้อมประกบริมฝีปากเข้ากับเธออย่างเร่าร้อน

“ ชั้น...อยากได้ตัวเธอ....” เฮฮร์ไมโอนีรู้สึกร้อนไปทั่วร่าง เธอหน้าแดงและเริ่มหายใจหอบเป็นจังหวะ เธอรู้สึกถึงลิ้นเขาที่สัมผัสลิ้นเธอ เฮอร์ไมโอนีรู้สึกว่าจูบครั้งนี้ ไม่เหมือนกับจูบครั้งไหนๆที่ผ่านมาเลย มัลฟอยไม่เคยจูบเธอเร่าร้อนขนาดนี้ ปกติจะเป็นจูบที่แผ่วเบาอ่อนโยน มัลฟอยเริ่มถอดเสื้อคลุมเธอออก เขาจูบไล่ลงมาที่ซอกคอเธอ มือข้างหนึงเขาลูบไล้ไปบนต้นขาเธอ และเริ่มล้วงเข้าไปมากกว่านั้น เขาปลดเน็คไท และค่อยๆปลดกระดุมทีละเม็ด และจูบไล่ตามลงมา เขาเอามือจับหน้าอกเธอ

“ อะ มัลฟอย ....อา....เดี๋ยวสิ...” เธอพยายามห้ามใจตัวเอง แต่ตอนนี้เธอปฏิเสธไม่ได้เลยเพราะตอนนี้ใจเธอเองก็อยากให้เขาสัมผัสเธอแบบนี้ไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธฮเอามือโอบรอบคอเขา ลูบไล้ไปตามเส้นผมสี

บรอนซ์นุ่มสลวยที่บัดนี้ลงมาปรกหน้าเขาแทนที่จะหวีเสยขึ้น มัลฟอยถอดบราเธอออกและเริ่มจูบลงที่หน้าอกเธอ

เฮอร์ไมโอนีสะดุ้งขึ้นและครางออกมาเบาๆ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงคนผ่านเข้ามาในหอพรีเฟ็ค ทั้งสองคนรีบผละออกจะกันและแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เจ้าของเสียงฝีเท้าเดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นรวมที่หอพรีเฟ็ค

“ อ่าว เฮอร์ไมโอนี กลับมาแล้วหรอ ทำไมหน้าแดงอย่างนั้น” แฮรรี่ร้องถาม แฮรรี่เองก็เป็นประธานนักเรียน จึงมาอยู่หอนี้ด้วย เฮอร์ไมโอนีไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ส่ายหน้าอย่างเดียว เธอหันหลังให้มัลฟอยด้วยใบหน้าที่แดงจัดไม่แพ้กัน แฮรรี่มองด้วยความงง และเขาก็เดินขึ้นหอนอนเขาพลางส่งสายตาไม่เป็นมิตรมาให้มัลฟอย เพราะเขาไม่พอใจที่เห็นเฮอร์ไมโอนีอยู่กับมัลฟอยเท่าไร “ ชั้นไปก่อนนะ แล้วอย่าลืมลงไปทานข้าวล่ะ รอนจะมารอ

หน้าหอพรีเฟ็ค” เขาพูดก่อนเดินหายลับไป เฮอร์ไมโอนีก็ไม่ได้ตอบอะไรเช่นเดิม มัลฟอยเดินมาโอบเธอไว้จากด้านหลัง แล้วกระซิบที่หูเธอ

“ ชั้นขอโทษ ...ถ้าเมื่อกี๊ชั้นทำให้เธอไม่พอใจ ... แต่ว่าชั้นจริงใจนะ”เขาพูดและกอดเธอไว้ เฮอร์ไมดฮนียังคงเงียบอยู่ แต่ตอนนี้หน้าเธอแดงจัดมาก

“เป็นชั้นได้มั๊ย? เขาหันตัวเธอมาแล้วเอามือเชยคางเธอขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าทั้งสองห่างกันไม่กี่เซ็น

เฮอร์ไมโอนีหน้าแดง ใจเต้นรัว เธอพยักหน้าแล้วตอบเบาๆ “ อืม” มัลฟอยอุ้มเธอขึ้นไปบนห้องนอนของเขา แล้วลงคาถาล็อคห้องเอาไว้ เขาวางเธอไว้บนเตียง แล้วขึ้นคร่อมตัวเธอ ทั้งสองสบตากันอยู่นาน

“ เธอจะไม่เริ่มก่อนแน่นะ “ มัลฟอยถามเสียงเจ้าเล่ห์

“ อีตาบ้า...” เธอตอบหน้าแดง มัลฟอยจูบเธอ แล้วใช้ลิ้นชอนไชในปากเธอ เขาคลายจูบออกแล้วถามเธอ

“ ไม่ปฏิเสธใช่มั๊ย ? “ เขายังคงถามเพื่อให้เธอลองทบทวนให้มั่นใจ เฮอรืไมโอนียิ้มเล็กน้อย แล้วเอามือโอบรอบคอเขา แล้วพูดเบาๆว่า “ อืม ..ชั้นรักเธอนะ....เดรโก...”

“เธอรู้มั๊ย คำพูดนั่น ทำให้ชั้นอดใจไม่ไหวแล้ว” เขาพูดพลางจูบลงที่ซอกคอเธอ เขาเอามือจับหน้าอกเธอค่อยๆปลดกระดุมออก เสื้อผ้าของทั้งสองค่อยๆหลุดออกทีละชิ้น มัลฟอยเอามือล้วงเข้าไปในกระโปรงเธอ มืออีกข้างก็ปลดบราออก และค่อยๆบรรจงจูบลงบนหน้าอกเธอ

“ อ๊า .... อืมมมม “ เสียงครางเบาๆ ของเธอเคล้ากับน้ำตาแห่งความอบอุ่น เขาค่อยๆถอดชั้นในเธอออก

มัลฟอยเคลื่อนจูบลงไปเรื่อยๆ เขาใช้ลิ้นเลียxxx และเฮอร์ไมโอนีก็เริ่มครางเสยงดังขึ้น ลมหายใจทั้งคู่เริ่มหอบหนักขึ้น

“ เดรโกกก ...ชะ..ชั้นกลัววว” เธอร้องขึ้นพร้อมน้ำตาคลอ

มัลฟอยโน้มตัวลงมาจูบเธอแผวเบา แล้วกระซิบ” อย่าเกร็งนะ ชั้นจะไม่ทำเธอเจ็บ ... ชั้นจะอ่อนโยนกับเธอ เพราะชั้นรักเธอนะ...” เขาพูดแล้วก็ใช้สองนิ้วใส่เข้าไปในร่างเธอเพื่อให้ปรับตัว แล้วเขาจึงจับต้นขาเธอยกขึ้นแล้ว ......

เข้าในร่างเธอ

“ อ๊า อ๊า อ๊า “ เธอครางเสียงสั่น รู้สึกวุบไปทั้งตัว ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มันเป็นความเจ็บที่แสนหวานและอบอุ่น ตอนนี้เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนที่เธอรักแล้ว ทั้งสองเหงื่อออกเต็มตัว มัลฟอยล้มลงนอนข้างๆเธอเขาโอบเธอไว้ มีรอยเลือดของความบริสุทธิ์หลงเหลืออยู่บนเตียง ตอนนี้เธอไม่บริสุทธิ์อีกต่อแล้ว เพราะตอนนี้เธอเป็น

ของคนๆนึงที่เธอรักมาก

เช้าวันต่อมา เฮอร์ไมโอนีสะดุ้งตื่นขึ้นมา เธอพบว่าเธอยังคงนอนอยู่ในอ้อมแขนมัลฟอย ใบหน้าทั้งสองชิดกันมาก เธอสังเกตว่า มัลฟอยโตเป็นหนุ่มแล้ว หน้าตาก็หล่อเหลาขึ้นมาก ผมของเขาตอนนี้ลงมาปรกหน้าทำให้ยิ่งดูดีขึ้นมาก ร่างกายเขามีมัดกล้าม เนื่องจากเขาเป็นนักกีฬาควิดดิช เธอยังคงอยู่ในอ้อมแขนเขา พลางคิดถึงเรื่องของเมื่อคืนนี้ เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงยอมเขา แต่ว่า เธอก็รักเขามาก คิดถึงตรงนี้เธอก็โน้มเข้าไปจูบเขาเบาๆ เพื่อไม่ให้เขาตื่น แต่มัลฟอยก็เริ่มขยับริมฝีปากตาม เฮอร์ไมโอนีสะดุ้งแล้วผละออกมา แต่มัลฟอยกอดเธอไว้แน่น

“ น่าจะปลุกก่อนนะ จะได้ได้อรรถรสมากกว่านี้” เขาบอกกวนๆ พลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“ จะบ้าหรอ ชั้น...ทำไมชั้นต้องปลุกนายด้วย”เธอพูดพลางกลับตัวหันหลังให้เขา

“ ไปดีกว่า เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย” เธอพูดแล้วลุกขึ้นเพื่อจะไปอาบน้ำพลางลากผ้าห่มที่คลุมตัวเธออยู่ไปด้วย

“ แล้วนั่นเธอจะเอาผ้าห่มไปไหนน่ะ? “ มัลฟอยถามพลางเบ้หน้าด้วยความงง

“ อ่าว ... แล้วนายจะให้ชั้นเดินโทงๆไปหรอไง” เธอหันหลับมาถามเป็นเชิงว่า นายโง่หรือแกล้งโง่กัน

“ อายอะไรล่ะ เมื่อคืนก็เห็นมาหมดแล้วแท้ๆ “ เขาพูดพลางส่งยิ้มที่มุมปากมาให้ เฮอร์ไมโอนีหน้าแดงทันที

“ ตาบ้า....” แล้วเธอก็จะเดินเข้าห้องน้ำก็มีเสียงถามอีก

“ จะอาบน้ำหรอ ? อาบด้วยกันมั๊ย “ เขาถามเธอต่อ

“ ฝันไปเถอะย่ะ” เธอรีบเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เธอเปิดฝักบัวแล้วอาบน้ำอย่างสบายใจ พลางคิดว่า เธอยังรู้สึกเจ็บกับครั้งแรกอยู่เลย แล้วเธอก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืน มันทำให้เธอหน้าแดงและไม่เข้าใจว่าเธอทำได้ไง เธอสะบัดหน้าไล่ความคิดนี้ออก เพออาบน้ำเสร็จเธอก็เดินออกมา เธอพบว่ามัลฟอยไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว เธอร้องหา

“ มัลฟอย? เธอไปไหนน่ะ” เธอมองลอกแลกแล้วก็มีใครมาโอบเธอจากด้านหลัง

“เรียนชั้นหรอเกรนเจอร์? ติดใจเรื่องเมื่อคืนหรือไง”เขากอดเธอไว้ เฮอร์ไมโอนีดิ้นอย่างแรง

“ ปล่อยชั้นนะ...” เธอหน้าแดงมาก เมื่อเธอหลุดออกมาได้ เธอก็รีบวิ่งไปหน้าประตู แล้วมัลฟอยก็ดึงเธอให้หันกลับมาแล้วจูบเธอีกครั้ง

“ จูบสวัสดีตอนเช้า .... แล้วเผื่อคืนนี้เราจะได้จอกันที่นี่อีก...” เขายิ้มพลางหัวเราะเจ้าเล่ห์

“ ไม่มีทาง” เธอบอกหน้าแดงจัดแล้ววิ่งออกไป

“ เธอไปไหนมา ทำไมเมื่อวานไม่มาทานมื้อเย็นล่ะ” รอนถามทันทีเมื่อเฮอร์ไมโอนีมาถึงโต๊ะกริฟฟินดอร์

“ ใช่เฮอร์ไมโอนี ชั้นไม่เห็นเธอจะอยู่ในห้องเธอเลยนะ “ แฮรรี่ถามด้วย

“ แล้วเธอก็ไม่ได้กลับหอกริฟฟินดอร์ ด้วย” รอนเสริม และนั่นทำให้เธอเริ่มรำคาญและมองค้อนเขาสองคนว่าทีพวกเขาทิ้งเธอไว้คนเดียวตั้งหลายครั้ง เธอแค่หายไปแค่ครึ่งวันค่ำรีบบ่นกันก่อนเชียว

“ ว่าไงล่ะเฮอร์ไมโอนี” รอนยังถามไม่เลิก

“ พวกเธอเคยสนใจชั้นด้วยหรือไงล่ะ ? เมื่อก่อนทั้งที่เราสนิทกันขนาดนั้นแท้ๆ เดี่ยวนี้พวกเธอไม่เคยเห็นชั้นอยู่ในสายตา จะบอกให้ก็ได้ว่าเมื่อคืนชั้นอยู่กันคนที่มีเวลาให้กับชั้นทุกครั้งที่ชั้นต้องการ ไม่เหมือนพวกเธอที่จะคิดถึงชั้นก็ในตอนที่พวกเธอไม่มีอะไรจะคิดแล้วเท่านั้น” เธอร้องเสียงดังด้วยใบหน้าบึ้งตึงและโกรธจัด เธอรู้ว่าพวกเขาแค่เป็นห่วงเธอ เธอไม่ควรพูดแบบนั้น แต่คำพูดเหล่านั้นมันเก็บไว้ในใจเธอมานานแล้ว มันเลยต้องพูดออกมา พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้น แล้วเธอก็เดินปึงปังไปทันที

“ เดี๋ยวสิ เฮ้??” แฮรรี่มองตามอย่างงๆ เฮอรืไมโอนีเดินมาจนจะถึงริมทะเลสาบ แต่ก็ได้ยินเสียงๆนึงก่อน เธอจึงไปยืนแอบฟังตรงต้นไม้ที่ใกลที่สุด

“ ทำไมเธอทำแบบนี้ เมื่อคืน มีคนเห็นนะ เธออยู่กับแม่นั่นที่หอพรีเฟ็คทั้งคืน ?” แพนซี่ สาวบ้านสลิธีลินที่หวงมัลฟอยยิ่งกว่าใครร้องเสียงดัง

“แล้วไง ไม่ใช่เรื่องเธอซักหน่อย ถอยไปซะ ชั้นจะไปหาเขา” มัลฟอยตะโกนขึ้นบ้างพลางส่งสายตาดุดันไปที่เธอ

“ ไม่ เดรโก เธอกำลังทำผิดนะ เมื่อคืนนี้เธอกับแม่นั่นทำอะไรกันบ้าง” เธอร้องถามต่อ

“ เธอเป็นแม่ชั้นรึไงถึงต้องมารู้เรื่องชั้นทุกอย่าง ห๊า? “ มัลฟอยร้องถามกลับ

“ ชั้นก็แค่เป็นห่วงเธอนี่นา ยัยนั่นมันเลือดสีโคลน ไม่เหมาะกับเธอซักนิด” เธอร้องน้ำเสียงดูถูกมากๆ

“ หยุดพูดแค่นั้นล่ะพากินสัน ไม่งั้นล่ะก็ ไม่จบแค่นี้แน่” เขาพูดและส่งสายตากินเลือดกินเนื้อไปที่เธอ ทำให้เริ่มมีน้ำตาคลอที่ตาเธอ

“ เดรโก ? นี่เธอโดนล้างสมองไปแล้วหรือไง เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ยัยนั่นมีอะไรดี ชั้นเองก็รักเธอไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ” เธอตอบน้ำตาไหลอาบแก้ม

“ แต่..ชั้น-ไม่-ได้-รัก-เธอ-เลย-แม้-แต่-น้อย” มันฟอลเน้นเสียงด้วยความเย็นชา นั่นทำให้เธอโห่ร้องขึ้นมาพอดี

“กลับไปซะ แล้วอย่ามายุ่งกับชั้นอีก ชั้นรักเพียงแค่เกรนเจอร์เท่านั้น แล้วก็ อย่ามาเรียกชื่อชั้นแบบนั้นอีก ชั้นไม่เคยอนุญาตให้เธอเรียกชื่อชั้นเลย พากินสัน” เขาพูดแววตาน่ากลัว เฮอร์ไมโอนีที่แอบฟังอยู่ถึงกับหน้าแดงที่มัลฟอยบอกว่ารักเธอ เธอเดินออกมาเพื่อจะไปหามัลฟอย แต่เธอก็เห็นภาพที่ปวดใจที่สุด

“ ได้สิ แต่ก่อนไป ....” แพนซี่พูดจบ จังหวะเดียวกับที่เฮอร์ไมโอนีก้าวออกมาแล้วมัลฟอยก็เห็นเฮอร์ไมโอนีพอดี แพนซี่โผเข้าจูบที่ริมฝีปากเขา เธอเอามือโอบคอเขา และจูบเขาอยู่นาน มัลฟอยอึ้งไปอยู่นานก่อนจะตั้งสติได้และผลักเธอออกไป เขาเอาหลังมือขึ้นมา แตะที่ปาก ด้วยใบหน้าที่งงงัน แต่เขาไม่สนใจแพนซี่ซักนิด เขามองไปหาเฮอร์ไมโอนี ที่กำลังยืนน้ำตาไหลลงมาทีละหยอ

“ อ้อ ยัยเลือดสีโคลน มาได้จังหวะพอดีเลยนะ เขา เป็นของชั้นแล้ว” แพนซี่พูดล้อเลียนพลางปาดน้ำตาออก

“ทำไม? มัลฟอย เธอ...ทำแบบนี้...แล้วมามีอะไรกับชั้นเมื่อคืนทำไม?!!!!!!!!”เฮอร์ไมโอนีร้องเสียงดังแล้วรีบวิ่งไป มัลฟอยจะวิ่งตามไป แต่แพนซี่ฉุดไว้

“ เธอนอนกับยัยนั่น?” เธอถาม

“ อย่ามายุ่ง คนที่ชั้นรักมีแต่เกรนเจอร์ เขาคือคนที่ชั้นอยากอยู่ใกล้ อยากสัมผัส อยากได้ทุกอย่างที่เป็นเขา ไม่ใช่เธอ เลิกยุ่งกับชั้นซะที” เขาตวาดใส่แล้วรีบวิ่งตามเฮอร์ไมโอนีไป เฮอร์ไมโอนีร้องไห้กับตัวเอง พลางคิดว่ามันเป็นความผิดของเธอ เธอก็รู้ว่ามัลฟอยไม่ผิด แพนซี่ตะหากที่เป็นฝ่ายจูบเขา แต่เธอก็ทนเห็นภาพนั้นไม่ได้ ทำให้เธอเจ็บ แล้วก็ไปว่ามัลฟอยอย่างนั้น

“ นี่ เค้าคงโกรธชั้นจริงๆแล้วล่ะมั้ง?” เธอบ่นกับตัวเอง

“ ชั้น...บ้าที่สุด...” เธอพึมพำแล้วทรุดตัวกับพื้นสองมือโอบกอดตัวเองเหมือนบรรยากาศรอบด้านหนาวขึ้น น้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุดนี่ บ่งบอกว่าเธอรักเขามากแค่ไหน เขาที่คอยใส่ใจเธอในทุกเรื่อง เขา ที่มีเวลาให้เธอในขณะที่เพื่อนเธอไม่มี เขา ที่ไม่เคยทิ้งเธอไป

“ เขาเลิกรักชั้นแล้วใช่มั๊ย .... มัลฟอย...” เธอคร่ำครวญออกมาทั้งน้ำตา หิมะค่อยๆตกลงมาเงียบๆ เฮอร์ไมโอนีแหงนหน้ามองฟ้า

“ หิมะ? มันตกลงมาซ้ำเติมความหนาวในใจชั้นหรือ” เธอยื่นมือออกไปรองรับเกล็ดหิมะที่ร่วงโรยลงมา เธอก้มลงมองหิมะบนมือพร้อมน้ำตาที่ไหลรินไม่ขาดสาย เหมือนหิมะที่ตกไม่หยุดนี่ แต่แล้วเธอก็รู้สึกว่า รอบๆตัวเธอทำไมถึงไม่มีหิมะตกเลย ทั้งที่ด้านนอกหิมะยังตกอยู่ ยังไม่ทันที่เธอจะหันไปมองอะไร

“ เค้าว่ากันว่า หิมะที่ตกเงียบๆ มักจะเกิดปาฏิหารย์นะ” มัลฟอยยืนถือร่มอยู่ด้านหลังเฮอร์ไมโอนี เธอรีบลุกขึ้นและหลบสายตาเขาทันที

“ ชั้นขอโทษ เกรนเจอร์ มันเป็นอุบัติเหตุนะ...” มัลฟอยพยายามอธิบาย

“ ใช่ ชั้นรู้ เธอ...เธอไม่ผิดหรอก ชั้นรู้...” เธอร้องพยายามหันตัวหนีมัลฟอย แต่เขาจับแขนทั้งสองข้างของเธอไว้ แล้วดึงเธอเข้ามา เฮอร์ไมโอนีได้แต่ก้มหน้าหลบเขากับน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล

“ ไม่เอาน่า เธอก็รู้ว่าชั้นไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ “ มัลฟอยพูดพลางดึงเธอเข้ามาเพื่อจะมองหน้าเธอ แต่เธอก็พยายามดิ้นออก “ ชั้นก็รู้มัลฟอย ....ว่าเธอไม่ได้ทำอะไร ....แต่ว่า ชั้นทนไม่ได้..” เธอพูดเสียงสะอึกสอื้น แฮรรี่และรอนเดินผ่านมาและเห็นเหตุการณ์ณ์เข้า ในสถานการณ์แบบนั้น พวกเขาคงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก มัลฟอยกำลังแกล้งจนเฮฮร์ไมโอนีร้องไห้ แต่ก่อนที่แฮรรี่กับรอนจะก้าวขาเข้าไปช่วย มัลฟอยก็ดึงเฮอร์ไมโอนีเข้ามาจูบ ร่มหล่นจากมือเขาไปอยู่บนพื้นที่ขาวด้วยหิมะ เขาคลายจูบออกครู่หนึ่งแล้วโน้มเข้าจูบเธออีกครั้ง มือทั้งสองโอบกอดเธอแน่น ท่ามกลางหิมะหนาวที่ตกลงมาเงียบๆ เฮอร์ไมโอนีรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มัลฟอยให้เธอ เธอค่อยๆเอามือขึ้นมากอดเขา และจูบเขาตอบ ทั้งสองค่อยๆคลายริมฝีปากแล้วมองตากัน มัลฟอยเอามือปาดน้ำตาเธอออก “ ชั้นรักเธอคนเดียวนะเกรนเจอร์ เธอเชื่อชั้นมั๊ย” มัลฟอยกระซิบถาม

“ อืม” เธอตอบพลางยิ้มๆ แล้วเธอก็ซบหน้าลงกับไหลของเขา ตอนนี้รู้สึกว่าหิมะจะไม่ตกลงสู่ทั้งสองคนเลย

แฮรรี่กับรอนมองหน้ากันงงๆ ต่างฝ่ายต่างพูดไม่ออก แต่ก็ยิ้มออกมาเมื่อคิดถึงว่า ในที่สุด เพื่อนคนสำคัญของเขาก็ออกห่างจากพวกเขา และมองผู้ชายคนอื่นบ้างซักที เพราะที่ผ่านมา เธอจะอยู่กับพวกเขาจนทำให้เธอไม่สนใจผู้คนรอบข้างว่ามีผู้ชายหลายคนที่ให้คามสำคัญกับเธอมากไม่แพ้พวกเขาเลย ถึงคนที่เธอลือกจะไม่เป็นที่พอใจสำหรับทั้งสองมากนัก แล้วทั้งแฮรรี่และรอนก็เดินจากไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้ทั้งสองคนยืดกอดกันสัมผัสถึงความอบอุ่นท่ามกลางหิมะที่โปรยลงมาเบาๆ

- - - - - - - - จบ - - - - - - --

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น