วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

JE TE VEUX ....ต้องการคุณ(13)

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้แต่งเองนะค่ะ นำมาจาบอร์ดตัวกวน
ลิงค์นี้นะค่ะ
http://www.212cafe.com/board/group/group_id/138/forumId/276/page/1

JE TE VEUX chapter 13 : ภรรยาคนใหม่ [เรท R นะจ๊ะ]
Chapter 13 :ภรรยาคนใหม่

แฮร์รี่ แฮร์รี่! นี่เธอเป็นบ้าอะไรน่ะ
สาวผมแดงเกรี้ยวกราดใส่ว่าที่สามีที่กำลังนอนปวกเปียกอยู่บนโซฟาโดยยกแขนข้างหนึ่งขึ้นปิดตา
และในมืออีกข้างหนึ่งถือขวดสุราไว้แน่นราวกับมันเป็นคนรักของเขา
จินนี่อยากจะตรงเข้าไปถีบว่าที่สามีซอมซ่อคนนั้นนัก
อยากจะถีบเขาให้ร่วงลงมาจากโซฟาตัวหรูที่เขาทำให้มันดูไร้ค่า
พอๆกับสภาพห้องนั่งเล่นในบ้านของเขาตอนนี้
ราวกับว่ามีพายุหมุนผ่านมาเมื่อครู่และพัดพาข้าวข้องกระจุยกระจาย
แม้แต่แว่นตากลมของเขาที่เขาแสนรักแสนหวงและไม่เคยเปลี่ยนเลยสักครั้งยังร่วงลงมากองอยู่ข้างๆโซฟาในสภาพยับเยินพอๆกับตัวของเขาเอง
เธอบ้าไปแล้วรึไง! ทำไมมันถึงได้ยุ่งเหยิงแบบนี้
จินนี่ตวาดใส่เขาที่ดูเหมือนจะเมามายและไม่รับรู้ใดๆ เธอเริ่มเดินไปทั่วห้องและลงมือเก็บกวาด
ขณะเดียวกับที่คนเมายกมือขึ้นออกจากดวงตา เผยให้เห็นดวงตาสีเขียวมรกตที่ชอกช้ำ....
เขาส่งเสียงครางเบาๆซึ่งทำให้จินนี่ต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา
และสภาพดวงตาสีเขียวหม่นหมองที่เธอเห็นนั้นทำให้เธอหยุดหายใจ
พระเจ้า... แฮร์รี่ พอตเตอร์ ร้องไห้
บ้าชิบ!เขากระซิบเหมือนคำราม ผงกหัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อรับน้ำสุราที่เขายกมันขึ้นกรอกใส่ปาก
ก่อนจะลงไปนอนอย่างรวดร้าวอีกครั้ง
นี่มันเรื่องบ้าอะไร แฮร์รี่ พอตเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นไอ้ขี้เมารึ!จินนี่ตะโกนอย่างขุ่นเคือง
เธอส่ายหน้าอย่างไม่นึกฝันขณะยืนเท้าสะเอวอยู่กลางห้องที่รกรุงรังนั้น...
ดวงตาสีฟ้าสุกใสของเธอกำลังตำหนิเขาเต็มๆ
และดูเหมือนเธอกำลังเริ่มพิจารณาว่าพิธีแต่งงานของเขาและเธอจะเกิดขึ้นหรือไม่
แฮร์รี่พยุงกายขึ้นนั่ง เขาส่งเสียงร้องเพราะอาการปวดตุ้บที่ขมับทั้งสองข้าง
แต่มันไม่สะเทือนเขาเลยแม้แต่น้อย...
ไม่เท่ากับความเจ็บแค้นที่จุกแน่นอยู่ในอกพร้อมกับคำถามที่ว่าเฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่ไหน
เมื่อเที่ยงหลังจากที่เขากลับมาจากคฤหาสน์มัลฟอยพร้อมกับความว่างเปล่า
สิ่งแรกที่เขาทำคือเทเหล้าใส่ปากทั้งที่ชีวิตนี้เขาแตะต้องมันเพียงสองสามครั้ง
และไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาดื่มจนเมามายขนาดนี้
ภาพยิ้มหวานของเฮอร์ไมโอนี่คอยกระตุ้นให้เขาดื่มมากๆเพื่อลบเลือนความเจ็บปวดออกไปจากใจ
แต่ยิ่งดื่มยิ่งแย่... เพราะทั้งรอยยิ้ม ประกายในดวงตาสีน้ำตาลกล้าหาญของเธอ
ใบหน้างดงามและลอนผมสีน้ำตาลแสนสวย
ทุกอย่างเริ่มประเดประดังเข้ามาในสมองราวกับเขาจดจำทุกอย่างที่เป็นเธอได้
ตลอดเวลาหลายปีเขาไม่เคยนึกเลยว่าเฮอร์ไมโอนี่จะแอบซ่อนอยู่ในความทรงจำของเขา
ไม่เคยนึกเลยว่าเขาจะจดจำทุกอย่างที่เป็นเธอได้มากขนาดนี้
รวมถึงกลิ่นหอมอ่อนๆที่ทำให้สดชื่นและการเคลื่อนไหวของเธอในคืนเต้นรำ เขาจดจำได้ดีทุกอย่าง...
แล้วตอนนี้เธออยู่ไหนกัน
ความคิดของเขาเริ่มย้อนนึกไปถึงวันแรกที่เขาเจอเธอในรอบหลายปีเมื่อเกือบหนึ่งเดือนที่แล้ว
ตอนที่เธอวิ่งมาชนเขาในสภาพยับเยินก่อนจะหมดสติลงในอ้อมแขนของเขา
การหายตัวไปของเธอในเวลานี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นด้วยหรือไม่ แล้วเขาจะต้องไปตามหาเธอที่ไหนล่ะ
เขาต้องเริ่มจากจุดไหน
ฉันอยากตาย...นั่นคือจุดสรุปของความคิด แฮร์รี่ยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบใบหน้าอย่างสิ้นหวัง
ดูเหมือนไหล่ของจินนี้จะแข็งตึงขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเขาพูดอย่างสิ้นคิดเช่นนั้น
ถ้าเธอพูดแบบนั้นอีกเธอตะได้ตายสมใจอยาก ... หยุดกินไอ้เหล้านรกนั่นนะ!
เธอรีบขู่ห้ามขึ้นเมื่อแฮร์รี่จ่อปากขวดน้ำสีอำพันที่ริมฝีปากของเขา
เธอรีบควักไม้กายสิทธิ์ออกมาและโบกให้มันลอยละลิ่วออกมาจากมือเขา
ก่อนที่เธอจะบังคับให้มันลอยฉิวไปกระทบกับผนังด้านหนึ่งและทำให้มันแตกกระจาย
เธอทำอะไร...
อย่าแก้ไขด้วยวิธีผิดๆสิ
ตอบฉันซิว่าถ้าเธอกินไอ้เบ้าบ้านั่นแล้วเธอจะพบเฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่ก้นขวดมั้ย!
จินนี่ก้าวอย่างเข้มแข็งมาหาแฮร์รี่ เธอยืนค้ำตระหง่านอยู่ตรงหน้าเขา
เธอรีบเก็บไม้กายสิทธิ์ใส่กระเป๋ากางเกงเพราะเกรงว่าเธออาจจะใช้มันกับผู้ชายขี้เมาที่ไร้สติก็ได้
ฉันไม่รู้จะทำอะไรดีแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะหาเฮอร์ไมโอนี่ได้ที่ไหน
บอกฉันซิจินนี่ว่าฉันจะหาเธอได้ที่ไหน!แฮร์รี่คร่ำครวญอย่างไร้สติ ฉันจะเป็นบ้าอยู่แล้ว!
ตอนนี้เธออาจจะเป็นอันตราย แค่คิดแค่นั้นฉันก็จะเป็นบ้าแล้วจินนี่! ทำไมเธอต้องมาหายไปตอนนี้!
เขาลุกขึ้นยืนโงนเงน ดวงตาสีเขียวเปล่งประกายความเสียใจและไร้สติ
จินนี่จำได้ว่าเธอเคยเห็นเขาในสภาพแบบนี้ตอนที่เขาสูญเสียซิเรียส แบล็คไป
แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้อยู่ในสภาพไร้สติเช่นนี้
ฉันเป็นห่วงเธอ!เขาตะโกนใส่หน้าเธอพร้อมกับเขย่าไหลเธอจนเธอสั่นไปทั้งตัว จินนี่ร้องอย่างงุนงง
เธอถูกแรงเขย่าของแฮร์รี่ทำให้เธอหัวหมุน
ฉันจะฆ่ามัน! จะฆ่าทุกคนที่ทำร้ายเธอ ฉันจะฆ่าทุกคนที่ทำให้เธอเจ็บปวด ฉันจะตามหาเธอให้พบ
แล้วฉันจะตามจองล้างจองผลาญไอ้คนที่มันเอาตัวเธอไป ฉันจะ...
เพี้ยะ!!!
แรงฝ่ามือพอจะทำให้เขาฟื้นคืนสติได้ แฮร์รี่เจ็บชาไปทั่วซีกหน้าด้านหนึ่ง
แต่ความเจ็บนั้นคุ้มค่ามากเมื่อเขาสามารถเรียกคืนสติกลับมาได้
จินนี่หอบหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเธอพบว่าแรงฝ่ามือของเธอทำให้เขาคืนสติ
เธอยังคงสับสนกับตัวเองถึงตอนนี้... เธอตอบเขาเหรอ.. พระเจ้า...
เฮอร์ไมโอนี่...ถ้อยคำนั้นหลุดออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้น
ก่อนที่ความเงียบงันจะเข้าคลอบคลุมห้องรกรุงรังนั้น
ชายหนุ่มค่อยๆทรุดเข่าลงและเริ่มสะอื้นไห้เหมือนไม่ใช่ตัวเขาเอง จินนี่ถอนหายใจ...
ก่อนที่เธอจะทรุดลงตรงหน้าเขา ดึงเขาเข้ามากอดกระชับในอ้อมแขนของเธอ
ไม่เป็นไรแฮร์รี่... เฮอร์ไมโอนี่ต้องไม่เป็นอะไร เชื่อฉันสิเธอเอ่ยปลอบเขาอย่างอ่อนโยน
ลูบหลังและไหล่กว้างของเขาเหมือนเด็กๆ แฮร์รี่ซุกหน้าลงกับต้นคอของว่าที่เจ้าสาว
ปล่อยสะอื้นลงบนบ่านั้น และกอดเธอไว้แน่นเหมือนเธอเป็นที่พึ่งสุดท้าย
แฮร์รี่ที่รัก... เธอยังมีเวลาอีกสิบกว่าชั่วโมงนะในการตั้งสติและสงบใจ
เธอพูดพร้อมกับรอยยิ้มชวนฝัน ปล่อยวางและทำจิตใจให้ร่าเริง
เราจะไปพบพระเจ้าในวันพรุ่งนี้ด้วยจิตใจที่แจ่มใส
เพื่อให้พระองค์มองเห็นว่าเราเป็นสามีภรรยาที่แสนสุขเพียงใด...


เป็นไงพ่อยอดนักวางแผน แผนการลุล่วงมั้ยเพื่อนยากหนุ่มผมยาวกล่าวอย่างร่าเริง
เขาพาดเท้าลงบนโต๊ะเตี้ยในห้องนั่งเล่นอย่างสบายอารมณ์ ตรงหน้าเขาคือพ่อหนุ่มผมบลอนด์ที่กำลังยิ้มน้อยๆกับตัวเอง ในมือของทั้งสองมีบรั่นดีรสเลิศซึ่งพวกเขากำลังค่อยๆจิบกันอย่างช้าๆ พลางสนทนากันในห้องที่ห้ามคนอื่นเข้ามา
ง่ายเสียยิ่งกว่ากระดิกนิ้วมัลฟอยจิบบรั่นดีเล็กน้อย
นายน่าจะได้เห็นหน้าวีรบุรุษของเราตอนที่เขาพบแต่ความว่างเปล่าเขาจิบบรั่นดีอีกครั้ง
ดวงตาของเขาเป็นประกายแวววาวอย่างสุขใจ แต่แฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมบางอย่างที่ปรากฏให้เห็นผ่านดวงตาแวววาวคู่นั้น
เขาเป็นวีรบุรุษจริงๆนั่นแหละ ฉันได้ยินชื่อเขาบ่อยเสียยิ่งกว่าชื่อคุณลุงของฉันเสียอีก
ตั้งแต่เด็กๆแล้ว... ตอนที่หมอนั่นเป็นแชมป์ในการประลองเวทย์น่ะ
ฉันไม่อยากเชื่อเลยจริงๆว่าหมอนั่นจะเอาชนะวิกเตอร์ ครัม ได้ ตอนที่อยู่ที่เดิร์มแสตรงค์ฉันเห็นเจ้ายักษ์นั่นทุกวันจนไม่อยากจะคิดว่าเด็กชายตัวผอมๆอย่างพอตเตอร์จะเอาชนะเขาได้แม็คไกวน์เริ่มรำลึกถึงครั้งที่ยังศึกษาอยู่...
ความรื่นรมย์ของเขาทำให้เขาไม่ทันสังเกตเห็นว่ารอยยิ้มอารมณ์ดีของคนที่นั่งสนทนาด้วยหายไป
กลายเป็นความขุ่นเคืองใจในดวงตาสีเมฆครึ้มนั้นแทน
นายพูดเหมือนนายกำลังชื่นชมไอ้บ้านั่นเลยว่ะมัลฟอยเอ่ยอย่างไม่พอใจ
นั่นทำให้แม็คไกวน์ต้องหันมายิ้มแหยๆให้เขา
เปล่าหรอกเพื่อน ฉันก็แค่ย้อนอดีตเล็กๆของฉันน่ะ นายอย่าตีความเป็นอื่นสิ
เขาแก้ทางอย่างร้อนตัวแล้วรีบซดเครื่องดื่มในมือจนหมดแก้วก่อนที่เขาจะได้ซดเลือดของเขาแทน
หมอนั่นเหรอวีรบุรุษ ฮึ!
ชื่อเสียงของมันได้มากจากการที่พ่อของฉันต้องเข้าไปติดแหง็กอยู่ในคุกแล้วก็จบชีวิตลงในคุกบัดซบนั่น
นั่นแหละชื่อเสียงของมัน ตอนนั้นถ้าแม่ของฉันไม่พูดอะไรให้ฉันคิดได้ล่ะก็
ฉันคงตรงเข้าไปแล้วฝังมันลงในสุสานเดียวกับโวลเดอมอร์นั่นแหละ
คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของเขาทำให้แม็คไกวน์ที่กำลังเติมบรั่นดีให้ตัวเองสะดุ้งโหยงเสียจนเขาทำหกเลอะเท
อะใส่สูทสีน้ำตาลของเขา ชายหนุ่มน่าเหยเกและมองหน้าเพื่อนหนุ่มที่มีแต่ความเคียดแค้นในสีหน้า
นายกล้าพูดชื่อจอมมารได้ไงน่ะ โอ้โห!
น้ำเสียงนั้นไม่ได้ชื่นชมเลยสักนิดแต่เหมือนกับเอ่ยเตือนมากกว่า มัลฟอยทำเสียงหัวเราะในลำคอที่แห้งผาก
เขายิ้มอย่างสมเพช
ฉันไม่เคยมีความเคารพเขาอยู่แล้ว แม้ว่าพ่อของฉันจะบูชาเขาเท่าชีวิตก็ตาม...
เขาทำให้พ่อด่าฉันว่าเป็นไอ้ขี้ขลาดทุกครั้งที่พ่อจะประทับตรามารบนแขนฉันแต่ฉันไม่ต้องการ
ถึงฉันจะเคยใช้เวลาช่วงสั้นๆช่วยงานของเขาเมื่อตอนปีหก
แต่ฉันไม่ได้ทำไปเพราะเกรงกลัวเขาหรือเคารพความเชื่อบ้าๆของเขาหรอก
ที่ฉันทำเพราะฉันจะลบคำสบประมาทของพ่อที่ด่าฉันว่าไอ้ขี้ขลาดต่างหาก แล้วตอนนั้นฉันก็เป็นพวกเลือดร้อน
อยากทำอะไรที่ท้าทายและเสี่ยงตายเท่านั้น นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำให้ฉันรับทำงานบ้าๆนั่น
แล้วก็ไอ้งานบ้าๆนั่นแหละที่ทำให้ฉันเกือบต้องเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อในคุกอัซคาบันนั่น
ถึงตอนหลังฉันจะได้รับการปล่อยตัวเพราะถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะก็เถอะ
เขาจิบบรั่นดีให้ชุ่มคอขณะคิดถึงเรื่องเก่าๆ แม็คไกวน์เงียบไปนานแล้ว...
คงเพราะเขาไม่ต้องการจะขัดคอมัลฟอยผู้เลือดร้อนอีก
มัลฟอยรู้สึกดีขึ้นเมื่อนึกถึงปัจจุบันของเขาที่แสนรุ่งโรจน์
แม้เขาจะยังคงมีเลือดบริสุทธิ์อยู่เต็มเปี่ยม
แต่การหากินกับพวกมักเกิ้ลน่าโง่ก็ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอยู่ในทุกวันนี้
และเพราะการหากินกับมักเกิ้ลนั่นแหละที่ทำให้เขาพบเธอ...
มัลฟอยก้มตาต่ำมองปากแก้วชุ่มชื่นในมือของเขา
ภาพของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เป็นยัยหัวฟูบ้าเรียนปรากฏอยู่ในมโนนึก
ก่อนที่ภาพนั้นจะเปลี่ยนไปกลายเป็นเด็กหญิงที่น่ารัก... เด็กสาวที่สวยงาม
จนกระทั่งกลายเป็นหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบ
รอยยิ้มบางๆอย่างสุขใจที่ไม่แฝงเล่ห์เหลี่ยมใดๆค่อยๆทาบทับริมฝีปากของเขา
เขาเริ่มนึกถึงเส้นผมสีน้ำตาลที่นุ่มนวลเหมือนเส้นไหม ผิวขาวผ่องราวกับน้ำนม
ดวงตาสีน้ำตาลเหมือนสีของท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
จนไปถึงมุมบางมุมที่เขาแน่ใจว่าเป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้รู้จักเธอ...
กลิ่นหอมอ่อนๆที่ทำให้เขาสดชื่นและรู้สึกสงบ
เสียงหยาดเยิ้มของเธอที่ปลุกอารมณ์ของเขายามเขากับเธอแนบชิดติดกัน
หรือแม้แต่สัดส่วนทุกอย่างที่บ่งบอกถึงความสมบูรณ์พร้อมทางเพศของเธอ
ทุกอณูของเธอเด่นชัดอยู่ในใจของเขา และเหมือนกับเรียกร้องให้เขาได้สัมผัสอีกครั้ง
ราวกับว่าความคิดวาบหวามปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เริ่มแดงก่ำของเขา
ทำให้แม็คไกวน์พอจะอ่านความคิดของเขาได้ว่าเขากำลังคิดถึงอะไร
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลถอนหายใจก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ ดึงเท้ากลับมาและลุกขึ้นยืน
ซึ่งทำให้หนุ่มหน้าแดงตื่นจากความคิดรัญจวนใจ
นายจะกลับแล้วเรอะมัลฟอยถามเสียงแหบพร่า... แค่คิดถึงเธอเขาก็รู้สึกร้อนผ่าวตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ
แบะรวมไปถึงจุดอื่นๆตามร่างกาย
ฉันคิดว่าตอนนี้นายต้องการคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนคุยแบบฉันว่ะเดรโก เอาล่ะ! ตามสบายนะเพื่อน
คืนนี้มีสินค้ากำลังรอให้ฉันไปทดลองก่อนจะขาย นายสนใจมั้ยล่ะ?”
แม็คไกวน์พูดถึงธุรกิจค้าเนื้อสดที่เขาแสนจะภูมิใจและมีเพื่อนสนิทอย่างมัลฟอยเป็นลูกค้าคนสำคัญ
แต่ชายหนุ่มหน้าแดงกลับส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย แม็คไกวน์แทบจะอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อ
ไม่ล่ะ ขอบใจ...
ฉันจะต้องไปนัวเนียกับพวกสาวสกปรกแบบนั้นทำไมในเมื่อฉันมีผู้หญิงที่สวยกว่าและบริสุทธิ์กว่านั้น
เขากล่าว
แม็คไกวน์จากไป พร้อมกับความคิดที่ว่าเขาเห็นภาพหลอน... เดรโก มัลฟอยปฏิเสธผู้หญิง!
แถมสิ่งที่เขาเห็นคือรอยยิ้มนั่น
ไม่หรอก เดรโก มัลฟอยไม่มีทางยิ้มได้อ่อนโยนแบบนั้น สงสัยเขาคงจะจิบบรั่นดีมากเกินไป


อากาศเย็นชื้นเหมือนฝนจะตก เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า... ฝนไม่ตกในหน้าหนาวหรอก
ที่เธอหนาวอาจจะเป็นเพราะความรู้สึกที่ทิ่มแทงกระดูกเธอมากกว่า
อีกทั้งจิตใจของเธอที่รู้สึกเจ็บเสียจนด้านชา เธอคงไม่ต้องลิ้มรสความเจ็บปวดแบบนั้นอีกแล้ว
เพราะมันอาจจะเป็นครั้งที่เจ็บที่สุดในชีวิตจนไม่มีครั้งไหนๆเทียบเท่า
เธอซุกหน้าลงกับหมอนที่เธอใช้หนุนและใช้ซับน้ำตาในคราวเดียวกัน ห้องที่เหน็บหนาวนั้นมืดมิดและเงียบงัน
นอกจากเสียงลมหายใจที่แทบไม่ได้ยินของเฮอร์ไมโอนี่แล้วเธอก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นอีกเลย
แม้แต่เสียงหัวใจเต้นของตัวเองเธอก็แทบไม่ได้ยิน หรือเพราะมันเจ็บเสียจนตายไปแล้ว
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกร้อนที่ขอบตา...
ตอนนี้ในหัวของเธอเลิกคิดภาพที่แสนชอกช้ำของแฮร์รี่แล้ว ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่ภาพใบหน้าของมัลฟอย
ภาพหลังจากที่แฮร์รี่จากไปแล้ว และเขาจูบเธอพร้อมกับคำพูดที่เป็นปริศนา
เขามักจะพูดอะไรที่เดาไม่ได้อยู่แล้ว
แต่เธอนึกไปเองรึเปล่าว่าครั้งนี้เขาพูดมันด้วยน้ำเสียงแหบพร่าที่แสนอ่อนโยนจนทำให้เธอยอมรับจูบที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเสียงของเขา
เฮอร์ไมโอนี่ทุบกำปั้นลงบนหมอน เธอกัดริมฝีปากอย่างขื่นขม บ้ารึเปล่า!
มัลฟอยไม่มีทางอ่อนโยนได้หรอก ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ เขาเป็นผู้ชายหยาบกร้านชั่วร้าย
แล้วเขาก็คือคนที่ทำร้ายเธอทั้งกายและใจ คนแบบนั้นไม่มีทางอ่อนโยนได้
แม้ว่าริมฝีปากของเขาจะอ่อนนุ่มก็ตาม...
อะไรนะ!เธอถลึงตัวลุกขึ้นนั่งด้วยสภาพยุ่งเหยิง
ปากได้รูปสวยอ้าค้างเพราะความคิดของตัวเองเมื่อครู่ เฮอร์ไมโอนี่ยกมือทั้งสองขึ้นกุมศีรษะ
นี่เธอกำลังคิดถึงจูบของมัลฟอยงั้นเหรอ! แถมเธอกำลังคิดถึงความรู้สึกที่ได้จูบเขาด้วย
บ้าไปแล้วเฮอร์ไมโอนี่! เธอต้องบ้าไปแล้ว บ้า บ้า บ้า!
หญิงสาวส่ายหน้าระรัวและทุบกำปั้นลงบนหมอนเพื่อนยากอย่างไม่เว้นวรรค
เธอพยายามคิดว่าที่เธอคิดไปแบบนั้นเพราะตอนนั้นเธอกำลังเสียใจมากเสียจนคิดว่าจูบของมัลฟอยเป็นจูบของแฮร์
รี่ แต่เธอเคยจูบกับแฮร์รี่หรือ? ไม่เคย...
แล้วเธอคิดได้ยังไงว่าริมฝีปากของแฮร์รี่จะให้ความรู้สึกแบบนั้น บ้าจริง!
เธอกำลังหลงเสน่ห์จูบของมัลฟอยงั้นเหรอ
ทำอะไรน่ะเกรนเจอร์เสียงเคร่งขรึมดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงประตูที่เปิดอ้าออก
เฮอร์ไมโอนี่หยุดความคิดทุกอย่างในหัวสมองและชันกายนั่งเกร็ง
เธอจ้องเขม็งไปที่เงาสูงที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงฝีเท้าของเขาดังก้อง...
และเธอเห็นรางๆว่าเขาหยุดอยู่ที่ปลายเตียงพร้อมกับใช้มือล้วงกระเป๋ากางเกง
แม้เฮอร์ไมโอนี่จะมองไม่เห็นแต่เธอก็สัมผัสได้ถึงสายตากร้าวกระด้างที่จ้องมองเธออย่างจาบจ้วง
จนเธออดไม่ได้ที่จะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองเล็กน้อย
เธอชอบอยู่ในความมืดงั้นเหรอ?” เขาถามยียวน แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ได้แต่เงียบงัน
เธอไม่ปริปากพูดอะไรสักคำขณะที่เขาเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้งที่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยใช้มันเลยสักนิด
เขาเปิดลิ้นชักออกมา สักพักหนึ่งเขาก็กลับมาพร้อมกับเทียนไขที่ให้แสงสว่างในมือ
ฉันคิดว่าเธอคงจะชอบอยู่ในความมืดฉันเลยไม่ได้เปิดไฟ แต่เทียนไขก็ให้ความรู้สึกโรแมนติคดีใช่มั้ย
เฮอร์ไมโอนี่จ้องมองใบหน้าเลือนรางของเขาในความมืดอย่างโมโหแค้น
เขาวางเทียนลงบนเชิงเทียนบนโต๊ะเล็กๆที่หัวเตียง จากนั้นเขาก็นั่งลงบนขอบเตียงนั้น
เฮอร์ไมโอนี่เขยิบคัวเองมาที่ขอบเตียงอีกด้านหนึ่ง
และพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สนใจเขาซึ่งกำลังจ้องเธอเขม็ง
วันนี้เธอทำให้ฉันประทับใจนะเกรนเจอร์... ความรักของเธอช่างมีอนุภาพยิ่งใหญ่เสียจริงๆ
เขาแสร้งปรบมือให้เธอ เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากแน่นและเบือนหน้าหนีเขา...
เธอกำลังด่าตัวเองที่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะอ่อนโยน
แต่สิ่งที่ทำให้เธอแทบจะหลั่งน้ำตาออกมาก็คือความรู้สึกพ่ายแพ้และหมองเศร้า
ความรักของเธอที่มีต่อพอตเตอร์ช่างทรงอนุภาพจริงๆ
มัลฟอยเอื้อมมือออกไปและจับลอนผมนุ่มสลวยของเฮอร์ไมโอนี่มาคลึงเคล้นเล่น
เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแน่นขณะที่มัลฟอยเขยิบตัวเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ...
จนลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเลินไล้อยู่ที่คอระหงของเธอ
แต่มันก็เป็นแค่ความรักต่ำๆที่ยังไงก็ไม่ช่วยให้เธอรอดพ้นไปจากเงื้อมมือของฉันได้
สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เส้นผมสีน้ำตาลที่พันนิ้วของเขา
แต่ผมทั้งปมหายไปจากมือเขาเมื่อเจ้าของผมหันมาประจันหน้ากับเขาด้วยแววหน้าเดือดดาล
มีประกายใสๆเอ่อล้นอยู่ที่ขอบตาของเธอ
มันไม่ใช่แค่ความรักต่ำๆ เพราะมันเกิดขึ้นกับคนที่รู้ค่าของมัน
และเพราะมันเกิดขึ้นด้วยความยินยอมพร้อมใจและบริสุทธิ์
ฉันว่าความรู้สึกต่ำๆที่เธอว่าน่าจะหมายถึงความรู้สึกขยะแขยงที่คนบางคนถูกคนชั่วย่ำยีมากกว่า
จากแววตาที่หยอกเอินและสนุกสนานของชายหนุ่มกลับถูกแทนที่ด้วยความโกรธเดือดดาลที่ครุกรุ่นอยู่ในดวงตาคู่นั้น เฮอร์ไมโอนี่คลี่ยิ้มที่มุมปากอย่างมีชัยที่เธอทำให้เขาโกรธขึ้นมาได้
แต่เธอจะต้องเสียใจแน่ๆหากรู้ว่าชัยชนะเล็กๆของเธอแลกมาด้วยมูลค่าที่สูงนัก
ต่ำ... คนชั่ว เธอคิดว่างั้นเหรอเกรนเจอร์
เธอจะคิดแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อเธอยังไม่ได้ลองอีกครั้งก่อนที่เธอจะพูดแบบนั้น!
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงแค่ช่วงเวลาเพียงแค่กระพริบตาเท่านั้น
เขาอาศัยความว่องไวและจิตใจที่ร้อนรุ่มของเขาโถมกายทาบทับร่างบาง
มือของหญิงสาวป่ายปะท่ามกลางเสียงหวีดร้องคละเคล้ากับเสียงฉีกขาดของผ้าฝ้ายผืนบางที่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่มัลฟอยโยนให้เธอเพื่อสวมใส่ปิดบังร่างกาย เขาให้เธอ และเขาก็ฉีกกระชากมันอย่างไร้ความปรานี
หยุดเดี๋ยวนี้นะมัลฟอย! เธอไม่มีสิทธิ์!เธอคำรามใส่เขาด้วยแววตาเดือดดาล
แต่สายตาของเขาที่เธอได้รับกลับมามีเพียงแต่ความดำมืดที่แสนอำมหิต
มือป่ายเปะเรียวบางของเธอนั้นเหมือนกับสร้างความรำคาญให้เขา
ชายหนุ่มกดตรึงมันลงกับพื้นที่ข้างศีรษะของหญิงสาว
เขาก้มหน้าลง... ใบหน้าเรียบตรึงจรดจ่ออยู่ที่กกหูขาวซีดของเธอ มีสิทธิ์สเกรนเจอร์
อย่างน้อยฉันก็ได้ในสิ่งที่พอตเตอร์มันไม่ได้ ตัวเธอไงล่ะ!ราวกับคำกล่าวก่อนเริ่มงานพิธี
ชายหนุ่มฟัดต้นคอระหงของหญิงสาวอย่างหื่นกระหาย
ไม่สนใจเสียงกรีดร้องที่เหมือนกับกับมีดแหลมกรีดทึ้งอกเขา
อย่า! ฉัน...ฉันไม่ได้รักเธอ ฉันรักแฮร์รี่! เธอไม่สิทธิ์ทำกับฉันแบบนี้
ใบหน้าของแฮร์รี่ผุดขึ้นมาในมโนนึก คำร้องห้ามของเธอไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย
แต่กลับยังผลให้มัลฟอยเลื่อนใบหน้าขึ้นมาและบดขยี้ริมฝีปากบางจนน่ากลัวว่าเรียวปากนุ่มจะฉีกขาดเพราะแรงขยี้
ฉันไม่สนเขาพึมพำขณะที่ริมฝีปากของเขายังแนบแน่นกับริมฝีปากของเธออยู่
เขาถูไถริมฝีปากตัวเองบนริมฝีปากนุ่มเพื่อปิดกลั้นเสียงประท้วงร้องห้าม
มีเพียงเสียงอื้ออึงในลำคอแสดงความหวาดกลัวเท่านั้นที่เล็ดลอดออกมากระตุ้นความสะใจของเขา
เขาแล่บลิ้นออกมาชิมรสริมฝีปากเค็มๆเพราะเปื้อนน้ำตาของเธอ แต่เธอกลับเม้มปากแน่น เขาสบถในลำคอ เธอมักจะทำแบบนี้ทุกครั้ง ซึ่งเขาไม่พอใจ!
อย่าทำแบบนี้อีกเกรนเจอร์ คราวนี้ฉันไม่ใจเย็นพอจะมาละเมียดละไมกับเธอหรอกนะ เปิดปาก!
มัลฟอยถอนใบหน้าออกมาและตะคอกใส่ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่อย่างหัวเสีย
แต่เธอที่ยังเม้มปากแน่นอยู่นั่นแหละที่ทำให้อารมณ์เดือดดาลของเขาพลุ่งพล่าน!
อย่าต่อต้านฉัน! เกรนเจอร์ เธอทำไม่ได้หรอก!เขาข่มขู่ คำว่าทำไม่ได้
ของเขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่โกรธเคือง เธอนอนมองเขาด้วยความโกรธาอย่างสิ้นท่า
ไม่!เฮอร์ไมโอนี่ปฏิเสธเสียงกร้าว และทันใดนั้นด้วยความประหลาดใจยิ่ง
เฮอร์ไมโอนี่เงื้อมือขึ้นชกเข้าไปที่กรามแข็งของมัลฟอยสุดแรง
จนเขาเซล้มลงไปนอนบนพื้นที่เตียงข้างๆตัวเขาและยกมือขึ้นกุมใบหน้าตัวเองอย่างปวดร้าว
เฮอร์ไมโอนี่ฉวยโอกาสนั้นรวบสาบเสื้อที่เผยอ้าของเธอเข้าหากันและกระโจนลงจากเตียงพลางสะอื้นฮัก เธอวิ่งไปถึงประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทแล้ว แต่เธอกลับเปิดมันไม่ได้! เฮอร์ไมโอนี่พยายามดึงมือดึงของบานประตูใหญ่ทะมึนนั้นอย่างสิ้นหวัง เมื่อไม่เห็นว่ามันจะขยับออกเธอก็โวยวายเตะถีบมัน
เปิดสิ! เปิด! ให้ฉันออกไป!เฮอร์ไมโอนี่พยายามกลืนน้ำตาที่หลั่งรินออกมาเพราะความกลัว
ขณะที่มือขาวซีดโผล่ออกมาจากความมืด กระชากผมนุ่มสีน้ำตาลอ่อนมาเต็มกำมือ
โอ๊ย!เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นกุมศีรษะ และหวีดร้องสุดเสียง
ด้านหลังของเธอคือมัลฟอยที่เต็มไปด้วยความโกรธ คางของเขาบวมม่วง
และริมฝีปากที่เม้มแน่นเพราะความโกรธมีหยดเลือดเล็กๆไหลริน
เฮอร์ไมโอนี่แหงนคอไปด้านหลังและส่งเสียงหวีดร้อง
นังตัวดี!เขาคำรามลั่นทำฉันแสบนัก! มานี่!
เขาเลื่อนมือมากระชากข้อมือของเฮอร์ไมโอนี่และออกแรงดึงเธอ
เฮอร์ไมโอนี่มองไปยังจุดหมายที่เขาจะลากเธอไป เตียงนั้นราวกับเป็นหลักประหารของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่พยายามดึงตัวเองไว้ เธอเงยหน้าที่เปรอะเปรื้อนด้วยรอยน้ำตาขึ้นมองมัลฟอย
เขาเหมือนกับซาตานที่ขึ้นมาจุติบนโลกอีกครั้ง
ไม่! ปล่อยเฮอร์ไมโอนี่ร้องห้ามและยันตัวเองไว้เพื่อต่อต้านแรงของมัลฟอย
เขากัดฟันแน่นและออกแรงดึงเธออีก แรงของซาตานราวกับมีมหาศาลไม่สิ้นสุด
และเธอก็คือผู้พยายามตานแรงของซาตานาตนนั้น
มานี่เกรนเจอร์!
ไม่! ปล่อยฉันไป
โธ่เว้ย!เขาคำรามลั่นเหมือนเทพแห่งสายฟ้าที่บ้าคลั่ง ก่อนจะออกแรงดึงอย่างไร้เมตตา
เฮอร์ไมโอนี่ต้องจำนนก้าวเท้าออกไปตามแรงกระชากนั้นก่อนที่เธอจะล้มลงบนเตียงกว้างที่เป็นเหมือนลานประหาร
ชีวิต เขาไม่ยอมให้โอกาสเอเงยหน้าขึ้นจากพื้นเตียงที่ทำให้หน้าเธอระบมช้ำ
มัลฟอยก้าวขึ้นเตียงมาและนังคุกเข่าบนกายเธอเสมือนเครื่องพันธนาการตรึงเธอไว้ไม่ให้ลุกหนี
เขาแม่แยแสแม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะดิ้นพล่านและป่ายมือเหมือนจะทำร้ายเขา
ในเมื่อเธอหนีไปไหนไม่ได้เขาก็ไม่สนว่าเธอจะทำอย่างไร
บทลงโทษที่ 1 สำหรับเด็กดื้อที่ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่
เขากล่าวเสียงวางอำนาจขณะค่อยๆลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีสะอาดของเขาอย่างใจเย็น
เขามองสาวน้อยที่ดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างเขา
แววตาของเธอตื่นตระหนกขณะเดียวกันก็เหมือนจะรับรู้ชะตากรรมของตัวเอง
เสื้อเชิ้ตสีขาวหลุดพลิ้วออกจากร่างกายเมื่อเขาถอดมันออกและโยนมันส่งๆไปทางด้านหลัง
จากนั้นเขาจึงขยับขึ้นหาเธอ ตรึงข้อมือเธอไว้ทั้งสองข้างจนเฮอร์ไมโอนี่แทบจะดิ้นไม่ได้
และบรรจงจูบเธออย่างเผ็ดร้อน
อย่าหันหน้าหนีเขาพึมพำและแนบริมฝีปากลงไปขยี้ปากของเธออีกครั้ง
คราวนี้รุนแรงกว่าเดิมด้วยแรงโทสะจนเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนตัวเองขาดอากาศหายใจ
ริมฝีปากของเขาส่งความร้อนผ่านผิวปากและลุกลามเผาไหม้ไปทั่วร่างของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ร้อน...
และเมื่อมัลฟอยถอนริมฝีปากออกช้าๆ เธอจึงอ้าปากเพื่อรับอากาศ แต่เขากลับประกบปากเธออีกครั้ง
สอดลิ้นชิมรสหวานภายในปากของเธออย่างชำนาญ
อื้อ!เฮอร์ไมโอนี่ร้องอย่างอึดอัดเมื่อลิ้นของเขากระตุ้นแล่บเลียปลายลิ้นของเธอ
ส่งความรู้สึกเสียวซ่านแบบที่ไม่ควรจะรู้สึก เขาตวัดลิ้นพันลิ้นของเธอ
ดวงตาสีซีดออกคำสั่งให้เธอทำตามเขา... และเธอปฏิเสธ
ถึงแม้เธอจะไม่ให้ความร่วมมือเขาก็อาศัยความชำนาญของเขาเองได้
เขาชิมลิ้นของเธอเหมือนมันเป็นขนมหวานที่เขาหิวอยาก
เสียงครางอื้ออึงในลำคอของเธอสอดประสานเป็นเสียงเดียวกับเสียงหอบหายใจหนักหน่วงด้วยความปรารถนาของเขา
สิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้กางเกงผงาดขึ้นดันเนื้อผ้าอย่างเห็นได้ชัดและส่งความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
เขารู้ว่ามีเพียงหญิงสาวที่เขากำลังตะกรามปากเธอคนเดียวเท่านั้นที่จะดับไฟตัณหาของเขาได้
และเขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไป...
อย่าดื้อกับฉันอีกเกรนเจอร์เขาถอนริมฝีปากออกและพูดด้วยเสียงขาดห้วง
จากนั้นจึงแยกสาบเสื้อขาดวิ่นของเธอออก
เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างสับสนและพยายามปกปิดซ่อนร่างที่ไร้สิ่งปกปิดของเธอไว้...
เขาปัดมือเธอออกอย่างไม่แยแส และดึงทึ้งชุดของเธอออกจนเศษผ้าชิ้นสุดท้ายหลุดตามมืดมา
เขาโยนมันทิ้งไป... และหันกลับมาสนใจกับร่างขาวผ่องที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดของเธอ...
ฉันเป็นพวกที่จะอ่อนโยนกับคนที่สนองตอบฉันเท่านั้นเขาดึงมือของเธอออก เธอร้องลั่น...
ทรวงอกผุดผาดสีขาวนวลเผยล่อตาอยู่ตรงหน้าและเผอิญว่าเธอไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย!
เขากระชากเสียงเหมือนกับที่ตอนนี้กระชากมือเธอตรึงลงกับพื้นเตียงอีกครั้งและก้มหน้าลงไปฟอนเฟ้นโนมเนื้ออวบอิ่มตรงหน้าทันที
อย่า!คำร้องห้ามปลิวไฟพร้อมกับสายลม มัลฟอยใช้ลิ้นที่ริมรสริมฝีปากของเธอลิ้มรสผิวเนื้อตึงแน่น
เขาจงใจประทับรอยสีแดงเข้มไว้บนผิวนุ่มเนียน
ริมฝีปากของเขาค่อยๆเลื่อนลงมาเรื่อยๆจนเจอกับวงผิวสีชมพูอ่อนนุ่มที่ล่อตากว่าส่วนอื่นบนเนินออกอิ่ม
ด้วยความที่สิ่งที่ผงาดตื่นอยู่ในกางเกงแทบจะรอไม่ไหว
เขาจึงลิ้มรสอมปลายถันสีอ่อนนั่นไว้ในปากอย่างรวดเร็ว
อย่า! ยะ...อย่าเธอกล่าวห้ามในสิ่งที่ไร้ผล
ร่างของเธอบิดเร่าโดยที่ประสาทของเธอไม่ได้ออกคำสั่ง
ความรู้สึกของเธอทั้งหมดพลุ่งตรงไปที่ปลายถันที่เริ่มแข็งชันและถูกริมฝีปากของเขาดูดดุน
สร้างความรู้สึกกระสันซ่านให้แก่เธอ จนเธอแทบจะอดกลั้นเสียงครวญครางที่อยากจะร้องออกมาไม่ได้
มัลฟอยชิมรสหวานอย่างหิวกระหาย เขาไม่สามารถเล้าโลมให้เธอพร้อมได้อีกต่อไปในเมื่อเขาเองพร้อมและแทบจะเกินคำว่าพร้อมแล้ว เขายอมปล่อยมือเธอและใช้อีกมือหนึ่งนวดเคล้นทรวงอกอีกข้างหนึ่งก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะตามไป มือนั้นเลื่อนลงมาจากทรวงอก ไล่ลงมาถึงเรียวสะโพกบาง ไปถึงขาอ่อนด้านใน... และสู่จุดเร้นลับที่เขาปรารถนา
เฮอร์ไมโอนี่จิกเล็บลงบนไหล่ของมัลฟอยเพื่อสะกดตัวเองไม่ให้เปล่งเสียงร้อง
เธออยากจะเปล่งเสียงร้องห้ามเขาแต่เกรงว่าเสียงที่ออกมาจะเป็นเสียงแห่งความต้องการเสียมากกว่า
เธอรู้สึกได้ถึงปากของเขาที่ดูดปลายถันของเธออย่างช่ำชอง มือของเขาที่เลื่อนไล้จาก้นขาด้านใน...
และค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปในจุดเร้นลับ
อา...เธอเปล่งเสียงอย่างไม่คาดฝัน
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกได้ว่าปากของเขาที่อมปลายถันของเธออยู่แสยะยิ้มก่อนที่เขาจะทำหน้าที่ของเขาต่อ
นิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มเคลื่อนเข้าไปยังส่วนกลางของหว่างขาบาง
เนื้อนิ่มด้านในนั้นร้อนผ่าวและมีความชุ่มชื้นเพียงน้อยนิดซึ่งเขาไม่พอใจ
เขาค่อยๆใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงเคล้นตุ่มไตบนเนียนเนื้อสาวเพื่อสร้างน้ำที่เขาต้องการ
เธอเปล่งเสียงร้องอย่างสุดกลั้น
อ๊า...มัลฟอย! อย่าทำแบบนี้.. อ๊ะ
อย่าอะไร อย่าหยุดรึเขาพูดอย่างขบขันและเริ่มใช้นิ้วกลางของเขาเคลื่อนที่เสียดสีเนื้อแดงแน่น
เสียงครวญครางของเธอปานจะขาดใจ เฮอร์ไมโอนี่กระเถิบตัวลงมาเพื่อจะหนีจากนิ้วมือของเขา
แต่กลับกลายเป็นว่าต้นขาของเธอได้สัมผัสกับเครื่องหมายของบุรุษเพศที่ตื่นตัวของเขา
เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากเหมือนกับจะเปล่งร้อง
เธอซบหน้าลงบนไหล่กว้างของชายหนุ่มและจิกเล็บลงบนเนื้อไหล่ของเขาอย่างอับอาย
จังหวะสาวนิ้วของมัลฟอยเริ่มเร็วและแรงขึ้นเมื่อหยาดน้ำที่เขาต้องการเริ่มเปียกชุ่มตามนิ้วมือของเขาที่สาวออกมา มัลฟอยมองภาพนั้นอย่างเบิกบานเมื่อเธอเกือบจะพร้อมแล้วสำหรับเขา
จากนิ้วหนึ่งเริ่มกลายเป็นสองนิ้วเพื่อเพิ่มไฟราคะให้โหมกระหน่ำ
อ๊า...อ๊า อ๊ะ!เสียงของเธอเปล่งออกมาประสานตามจังหวะเคลื่อนไหวที่นิ้วของเขา
นิ้วของมัลฟอยปียกชุ่มด้วยน้ำเหนียวเหนอะที่เกิดจากความต้องการทางเพศของเธอ
เธอปฏิเสธเขาแต่ไม่อาจปฏิเสธร่างกายของตัวเองได้ มัลฟอยดึงนิ้วเยิ้มฉ่ำออก
เฮอร์ไมโอนี่หายใจเสียงขาดห้วงเพราะสิ่งที่เธอเริ่มจะคุ้นเคยหลุดหายไป
เธอไม่ชอบแน่เหรอเกรนเจอร์...เขาชูสองนิ้วที่หยาดเยิ้มด้วยน้ำจากกายเธอให้เธอดู
เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงและเบือนหน้าหนี ดูสิ...เธอพร้อมยิ่งกว่าอะไรเขหัวเราะเบาๆในลำคอ
และก้มลงมองหว่างขาของเธอที่เยิ้มเหนียว เขารู้ดีว่าเธอกำลังต้องการ...และเขากำลังจะมอบให้เธอ
มัลฟอยเม้มปากแน่นขณะเริ่มปลดกางเกงของเขาออก
ชายหนุ่มเลื่อนขอบกางเกงลงและเปิดเผยความต้องการของเขาออกมา
เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแน่นเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร ขาของเธอถูกแยกออกถ่างกว้าง
น้ำตาเริ่มไหลรินเมื่อรู้สึกว่าเขาขยับเข้ามาอยู่ตรงหว่างขาของเธอ
และเพราะความชุ่มชื้นที่เขาสร้างเอาไว้
เรียวเนื้อที่แข็งแกร่งของเขาจึงสอดใส่เข้าไปในสิ่งเร้นลับของเธออย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว
อ๊า!เฮอร์ไมโอนี่เหยียดกายตรงเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ใช่ของเธอถูกสอดใส่เข้าไปในจุดของเพศหญิง
ก่อนที่เธอจะงอตัวและผวาขึ้นเกาะกอดคอมัลฟอยไว้
มือทั้งสองข้างจับผมบริเวณท้ายทอยของชายหนุ่มไว้เป็นที่ยึด หลังของเธอลอยขึ้นไม่ได้แนบติดกับที่นอน มัลฟอยรู้สึกว่าการกระทำที่มีผลมาจากความตกใจของเธอทำให้ท่อนเนื้อของเขาสอดลึกลงไปในกายของเธอยิ่งกว่าเดิม
เกรนเจอร์เขาพูดเบาๆก่อนที่สะโพกของเขาจะเริ่มขยับช้าๆแต่ลึกล้ำ มือของเขาตะครุบจับสะโพกบางของเธอไว้เพื่อเป็นหลักกระแทก มัลฟอยแหงนหน้าไปทางด้านหลัง อารมณ์พลุ่งพล่านเพราะตัณหาของเขาค่อยๆรุนแรงขึ้นตามจังหวะกระแทกสอดใส่ที่เริ่มโหมแรงและถี่กระชั้น
อา....อา อาเฮอร์ไมโอนี่ครวญครางอย่างยอมจำนน เธอห้ามเขาไม่ได้และห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้
แก่นกายของเขาเสียดสีร่องเนื้อของเธอจนเกิดความร้อนไปทั่วร่างกายที่ร้อนแรงยิ่งกว่าไฟเผา เธอส่งเสียงร้องครางระงมและดังลั่น มัลฟอยเริ่มตาพร่า รสชาติของเนื้อสาวของเธอทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนไก่อ่อน
ดังอีกสิ...เกรนเจอร์เขากระซิบข้างหูเธออย่างเพ้อฝัน
เขาอยากจะได้ยินเสียงร้องที่บอกถึงความปรารถนา อยากจะเห็นดวงตาที่ฉ่ำเยิ้มด้วยความต้องการ
แต่ใบหน้าของเธอแนบอยู่ที่ไหล่ของเขา มัลฟอยเอี้ยวหน้าดู และพบใบหน้าที่แดงซ่านเหมือนถูกสีทาบทับ
ริมฝีปากฉ่ำเยิ้ม และสีหน้าสับสนระคนกับความเสน่หา
ฉันจะทนไม่ไหวแล้วเกรนเจอร์
มัลฟอยพึมพำและจับสะโพกของเธอให้ยกลอยขึ้นเพื่อสัมผัสกับทุกอณูบนแก่นกายของเขา
อา อ๊ะ!...อ๊ะ!เธอตอบเขาด้วยเสียงครวญร้อง
หว่างขาของเธอเปรอะเปื้อนด้วยน้ำตัณหาที่อยู่ภายในกายเธอโดยมัลฟอยเป็นผู้ทำให้มันหลั่งและเป็นผู้ปลดปล่อ
ยมันออกมาตามจังหวะที่เขาถอนกายออก เธอเริ่มรู้สึกถึงจุดเล็กๆของความรู้สึกเสียวซ่านที่เริ่มขยายขึ้น
เหมือนมัลฟอยที่เขาเห็นสวรรค์อยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มเร่งจังหวะเพื่อจะพาทั้งเขาและเธอไปให้ถึงสวรรค์นั้นด้วยความผาสุก
เสียงสอดใส่ดังสนั่นเหมือนเสียงระฆังสวรรค์ที่กำลังเปิดออก
ฉันไม่ไหวแล้วเขาร้องเสียงแหบพร่าและกดลึกจมดิ่งสู่ร่องลึกของเธอ เฮอร์ไมโอนี่เองก็เช่นกัน
เธอเกือบจะรับมันไม่ไหวแล้ว...
ฉันไม่ไหวแล้ว!
มัลฟอยเปล่งเสียงก่อนที่เขาจะดึงสะโพกของเธอให้รับแก่นกายชายของเขาเข้าไปให้ลึกที่สุด
อ๊า! มัลฟอยเฮอร์ไมโอนี่ร้องลั่นและกอดคอมัลฟอยแน่นเหมือนกับกลัวว่าตัวเธอจะหลุดลอยไป
น้ำแห่งกามตัณหาของชายหนุ่มฉีดใส่ร่องลึกของหญิงสาว
อามัลฟอยครางด้วยความรู้สึกที่ถึงจุดสุดยอด
เขารู้ว่าเธอถึงจุดเดียวกับเขาแล้วเพราะภายในของเธอที่บีบรัดแก่นกายเขาเหมือนกับจะไม่ไห้เขาถอนมันออก เขาหอบหายใจพร้อมกับเฮอร์ไมโอนี่...
ก่อนที่เธอจะคว้าคอเขาและล้มลงนอนแผ่บนเตียงโดยมีมัลฟอยนอนทับร่างเธอ
ใช้ทรวงอกอิ่มแน่นของเธอหนุนต่างหมอน ผมที่ตกลงมาแนบใบหน้าของชายหนุ่มเปียกชื้นเพราะหยาดเหงื่อจากการร่วมรักที่รุนแรง เขาเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่ปรือตาอย่างเสน่หา ริมฝีปากบวมฉ่ำเผยอขึ้นเหมือนรอรับจุมพิต...
เฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป...
เธอรู้แต่เพียงว่าทุกอย่างเกิดขึ้นตามความต้องการของสัญชาตญาณดิบของมนุษย์เท่านั้น
แก่นกายชายที่ยังคงฝังลึกอยู่ในร่างของเฮอร์ไมโอนี่ขยายแข็งขึ้นอีก เฮอร์ไมโอนี่ผวาและจ้องมองมัลฟอยอย่างตระหนก เขายิ้มให้เธอและพยุงกายขึ้น จับสะโพกของเธอเป็นที่มั่นอีกครั้ง...
คราวนี้การขยับตัวของเขาง่ายขึ้นเพราะมีทั้งน้ำของเธอและเขาจากการร่วมรักเมื่อครู่ที่ช่วยหล่อลื่น
และนี่คือบทลงโทษที่ 2” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ก่อนที่เสียงหัวเราะจะเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางไม่สิ้นสุด...


เมื่อแสงสีนวลของดวงตะวันทาบลงบนแผ่นฟ้า... ร่างของชายหนุ่มผละออกจากร่างของหญิงสาว
เขานอนหอบหายใจอยู่ครู่ใหญ่ขณะที่ตระหนักได้ว่าบทลงโทษนี้คงจะเป็นบทสุดท้ายแล้ว บทลงโทษของเขามีถึง
1...2...3...4...5...
และอีกหลายครั้งตลอดคืนจนถึงเช้า
เขามองนักโทษของเขาที่นอนหอบหายใจรวยรินและสิ้นสติ ร่างของเธอเปียกชุ่มและแดงช้ำ
มัลฟอยยิ้มนิดหนึ่งก่อนผละลุกจากเตียง
เขาเดินทั้งที่เปล่าเปลือยอย่างนั้นไปยังห้องน้ำและเริ่มชำระล้างร่างกายอย่างอารมณ์ดี
เฮอร์ไมโอนี่ยกมือที่อ่อนแรงขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง เธอสูญเสียให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอไม่อาจปฏิเสธเขาได้ และที่ปวดร้าวที่สุกคือเธอไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของตนเองได้
มัลฟอยสอนให้เธอเรียนรู้...ให้เธอยอมรับในความต้องการที่เขาปรนเปรอให้...
ป่านนี้แฮร์รี่จะเป็นอย่างไรบ้าง เขาจะเลิกล้มการตามหาเธอมั้ยนะ
แม้เธออยากจะออกไปจากที่นี่เพียงใดแต่เธอก็ไม่อยากให้เขากลับมาที่นี่อีก
มัลฟอยเป็นอสรพิษที่กำลังรอจ้องเล่นงานเขาอยู่
เฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถยอมรับได้หากเธอจะต้องสูญเสียเขาไปเป็นครั้งที่สอง
ครั้งแรกเธอสูญเสียเขาให้กับจินนี่...
อีกประมาณครู่ใหญ่ๆเขาจำก้าวออกมาจากห้องน้ำ
ดวงตาพร่างพรายเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมของเขาจ้องมองมายังเธอ
เฮอร์ไมโอนี่กลืนน้ำตาและรีบยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเปลือยเปล่าของเธอไว้
ขณะที่มัลฟอยก้าวมายืนอยู่ที่ริมเตียง...และนั่งลงข้างๆเธอ
อยากได้อีกสักบทมั้ยจ๊ะ...ทูนหัวเขาถามเสียงหยาดเยิ้ม เฮอร์ไมโอนี่ฆ่าเขาทางสายตา
เธอพยายามจะไม่สบอารมณ์กับการยั่วประสาทของเขา
และเขาดูจะไม่สะทกสะท้านที่สายตาของเธอไม่ส่งความเป็นมิตรให้เขาเลย
เขาเอื้อมมือมาเกลี่ยเส้นผมรุงรังออกจากใบหน้าขาวซีดของเฮอร์ไมโอนี่เอ...
นี่เธอรู้มั้ยว่าวันนี้วันอะไรเขาหลิ่วตาทำท่าสงสัย
เฮอร์ไมโอนี่มองเขาแวบหนึ่งขณะพยายามเบี่ยงหน้าหลบสัมผัสของเขา
ไม่รู้เหรอ?” เขาน้ำเสียงผิดหวัง ยิ้มร่าให้เธออย่างอารมณ์ดี...
อย่ามายุ่งกับฉันได้มั้ยเฮอร์ไมโอนี่ปัดมือเขาออกด้วยท่าทางขยะแขยง มัลฟอยกลั้วขำในลำคอ
มือของเขาเลื่อนต่ำลงมาลูบไล้นวลแก้มขาวของเธอ...
ลมหายใจร้อนผาวของเขารวยรินอยู่ที่ต้นคอระหงของเธอยามที่เขาประชิดหน้าลงไป
กระซิบประโยคที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ใจหายวาบ
วันนี้เป็นวันที่จินนี่ วีสลี่ย์จะเปลี่ยนนามสกุลเป็นจินนี่ พอตเตอร์
เฮอร์ไมโอนี่ชาไปทั้งตัว การที่ถูกขังอยู่ในคฤหาสน์ปิศาจนี่ทำให้เธอลืมวันเวลา
วันนี้เป็นวันแต่งงานของแฮร์รี่กับจินนี่ ผู้ชายที่เธอรักกำลังจะไปแต่งงานกับหญิงอื่น...
น้ำตาที่เหือดแห้งกลับรินไหลอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นนั่ง...
สีหน้าของเธอสับสนและเว้าวอนยามที่เธอมองมัลฟอย มือของเขายังคงลูบไล้นวลแก้มชื้นของเธอ
ดีใจมั้ยล่ะ ที่รักของเธอกำลังจะแต่งงานกับเพื่อนรักของเธอ
สีหน้าของมัลฟอยเปลี่ยนเป็นเรียบตึงขณะที่เขาจ้องมองใบหน้าที่สับสนของหญิงสาว
เธอกำลังจะร้องไห้...เพื่อมันอีกแล้ว! เขาอยากจะจับตัวเธอเขย่าและบอกให้เธอเลิกร้องไห้ให้พอตเตอร์
แค่วันนี้วันเดียว! ได้โปรดให้ฉันไปเถอะนะ ฉันอยากจะไปงานแต่งงานของพวกเขา ได้โปรดให้ฉันไปเถอะ
เธออ้อนวอนอย่างน่าเวทนา มัลฟอยกัดฟันแน่นภายในริมฝีปาก ดวงตาของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน เขามองเธอด้วยแววตาเย็นชา
เธอจะไปดูคนที่เธอรักกำลังจะเป็นของคนอื่นทำไมมัลฟอยถามเสียงเครียด เธอรักมันมากขนาดนี้เชียวรึ?
ยอมแม้แต่ตัวเองจะเจ็บปวดเพียงเพื่อให้ได้พบมัน มัลฟอยกำลังโกรธจัด
ฉันอยากไป ฉัน...ฉันรู้ว่าฉันต้องไป แฮร์รี่คงจะเฝ้ารอให้ฉันไป ฉันต้องไปนะมัลฟอย!
ชายหนุ่มกำลังสับสนในแววตาสีน้ำตาลกระจ่างที่ไม่เคยดูร้อนรนเท่านี้มาก่อน
ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกจุกแน่นอยู่ในอกของชายหนุ่มเมื่อมองหญิงสาวกำลังอ้อนวอนเขาด้วยน้ำตานองหน้าเพี
ยงเพื่อจะได้ไปเห็นผู้ชายที่เธอรักกำลังจะแต่งงานกับหญิงอื่น
มัลฟอยไม่อยากคิดว่าพอตเตอร์จะมีความสำคัญกับเฮอร์ไมโอนี่ขนาดนี้
และเขาไม่อยากจะคิดว่าเธอรักเขามากขนาดนี้
ขอให้พอตเตอร์ไปลงนรก!
ไม่!เขาตอบเสียงห้วน และทำให้ประกายความว้าวุ่นในดวงตาของเธอเข้มขึ้น ฉันไม่ให้เธอไป
เธอเป็นนักโทษของฉัน เธอจะไปไหนมาไหนตามใจชอบได้ยังไง ฉันไม่ให้เธอไปไหนทั้งนั้นแหละ
เขากล่าวอย่างไร้ความปรานีและกำลังจะเดินหนีเธอที่มองเขาเหมือนกำลังจะอ้อนวอนขอชีวิต
แต่เมื่อเขาหันหลังและขยับเท้าเดินจากเธอมาได้แค่สองก้าวเท้านั้น
ร่างของเธอที่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าห่มเพื่อซ่อนเร้นร่างกายที่เขาเพิ่งได้เชยชมกลับหล่นลงมาจากเตียงและกระแทกอย่างแรงบนพื้นหินแข็งกระด้างข้างกายเขา แขนของเธอโอบรอบเรียวขาแกร่งของเขา
ใบหน้าของเธอซบอยู่บนต้นขาของเขา
เกรนเจอร์!เขาตะคอก แต่ไม่ใช่เสียงที่แสดงอำนาจหรือความไม่พอใจ
เป็นเสียงที่แสดงได้ถึงความตกใจและห่วงใยอย่างชัดเจน ยัยบ้าเอ๊ย! ทำไมเธอทำแบบนี้ เธอไม่เจ็บรึไง
ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!เขาพยายามดึงขาออกจากอ้อมแขนของเธอ แต่เขาทำไม่ได้...
อันที่จริงเขาไม่อยากจะออกแรงสะบัดขาของเขาออกเพราะเกรงว่ามันจะกระทบกระเทือนเธอ บ้าเอ๊ย!
ฉันเป็นอะไรไปวะ! มัลฟอยคิดอย่างหงุดหงิด
ให้ฉันไปเถอะนะ แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น...กางเกงขายาวของเขาชื้นเพราะชุ่มน้ำตาของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่ขอร้องเขาอย่างปวดร้าว
เธอรู้ว่าหากเธอไปที่โบสถ์นั่นและพบแฮร์รี่อยู่ในชุดเจ้าบ่าวยืนเคียงข้างจินนี่อยู่หน้าแท่นพิธีเธอคงจะเ
จ็บช้ำจนวันตาย แต่เธอจะต้องตายเดี๋ยวนี้แน่หากเธอไม่ได้เห็นภาพนั้น
เธอต้องการไปหาเขาโดยที่ไม่รู้ว่าอะไรเรียกร้องเธอ
แต่ต่อให้มัลฟอยจะต้องขนศพของเธอไปที่โบสถ์แห่งนั้นเพื่อจะได้ไปงานแต่งงานของแฮร์รี่เธอก็จะทำ
ไม่! ฉันไม่ให้เธอไปและเธอต้องลุกขึ้นเดี๋ยวนี้มัลฟอยดันแขนผอมบางที่โอบรัดขาของเขาออก
แต่มันไม่งายเลย.... ประสาทของเขาตึงเครียดจนเห็นเส้นเลือดผุดอยู่ที่ขมับ
ภาพของเฮอร์ไมโอนี่ที่อ้อนวอนร้องขอเขาทำให้หัวใจเขาเต้นแรง และนำความปวดร้าวน่ารังเกียจมาให้เขา
ให้ฉันไปเถอะนะ ได้โปรด...เธอวิงวอนพร้อมเสียงสะอื้น
ไม่! ไม่มีวันเขาปฏิเสธอย่างไม่ใยดี
ขอร้องล่ะมัลฟอย
หยุดนะเกรนเจอร์!เขาเบือนหน้าหนีน้ำตาของเธอ
เธอจะให้ฉันทำอะไรก็ได้!
ข้อเสนอของเธอทำให้มัลฟอยนิ่งคิด ใบหน้าของเขาเรียบขึ้นเพราะกำลังครุ่นคิด
ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ค่อยๆลดเสียงสะอื้นลงเมื่อเห็นท่าทีของมัลฟอยซึ่งแสดงให้เห็นว่าเธออาจจะกำลังมีความหวังมัลฟอยคค่อยๆคุกเข่าลง สายตาเครียดเคร่งของเขาจับจ้องอยู่ที่ดวงตาสีมะฮอกกานีของหญิงสาว ก่อนที่เขาจะค่อยๆโน้มตัวลงมาข้างหน้าเธอ... ใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงแค่ลมหายใจปัดผ่าน เฮอร์ไมโอนี่อยากจะเบือนหน้าหนีสายตาที่ร้อนแรงแทบจะกลายเป็นเผาไหม้ของเขา
แต่เธอประจักษ์ว่ามัลฟอยยื่นมือออกไปหยิบบางสิ่งออกมาจากลิ้นชักที่โต๊ะข้างเตียง...
เขาค่อยๆถอยตัวออกห่างแต่ยังคงระยะที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกถึงความร้อนของลมหายใจอ่อนของเขาได้
เธอแน่ใจนะว่าจะยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้ไปงานแต่งงานบัดซบนั่นเขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
สายตาของเขายังคงตรึงดวงตาของเธอไว้
ใช่! ฉันจะยอมทำทุกอย่างเฮอร์ไมโอนี่ตอบอย่างมาดมั่น...
ความมั่นใจของเธอหายวาบไปเมื่อมัลฟอยยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เธอ...
กระดาษมรณะที่เธอจำได้ดีว่ามันคือใบทะเบียนสมรสซึ่งมัลฟอยเคยพยายามโอ้โลมให้เธอเซ็นต์
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าจากกระดาษแผ่นนั้นอย่างรวดเร็วและจ้องมองลงไปในดวงตาของมัลฟอย...
เขาไม่แสดงความรู้สึกใดๆในสายตานอกจากความมุ่งมั่นที่น่ากลัว เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนกับจะหมดแรง...
ถ้าเธออยากไป เธอก็ต้องยอมเป็นภรรยาของฉัน
เขายื่นข้อตกลงที่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ค่อยๆปล่อยน้ำตาออกมา.. เธอค่อยๆก้มหน้าลงอย่างยอมจำนน
ยอมรับความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นเพราะความอ่อนแอของตัวเองเธอ
เมื่อเธอถามตัวเองว่าเธอจะยอมเป็นภรรยาของมัลฟอยเพื่อแลกกับการได้พบกับแฮร์รี่ในวันสำคัญของเขามั้ย?
เธอพบว่าตัวเองตอบว่าใช่
และนั่นคือความพ่ายแพ้ทุกอย่าง เฮอร์ไมโอนี่ค่อยๆหลับตาลงอย่างขมขื่น ก่อนที่เธอจะค่อยๆก้มหน้าลง...
ยอมรับความพ่ายแพ้ ยอมรับข้อเสนอที่เหมือนกับเป็นการขายวิญญาณของตัวเองให้กับซาตาน
มัลฟอยไม่ยิ้ม...
และเฮอร์ไมโอนี่จะไม่มีวันเห็นความดีใจที่ลุกโชติช่วงเหมือนเปลวไฟอยู่ในดวงตาสีซีดที่เรียบเฉยของเขา เขาท่องคาถาเบาๆและปากกาขนนกก็อยู่ในมือของเขา เขาส่งมันให้เธออย่างไม่รอช้า...
เซ็นต์สิเกรนเจอร์เขาบอกเธอ
หัวใจของเขาเต้นถี่แรงและรู้สึกว่าทุกวินาทีที่ผ่านไปขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำปากกาขนนกไว้ในมือนั้นช่างเชื่องช้า หัวใจของเขาเร่งเธอให้รวดเร็วกว่านี้...
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นสบตาผู้กำชัยชนะ สีหน้าของเธอเจ็บช้ำและว่างเปล่า
ก่อนที่เธอจะก้มหน้าลงอีกครั้ง... มือของเธอสั่นระริกเหมือนริมฝีปาก
ขณะที่เธอยกมือขึ้นจรดปากกาลงบนเนื้อกระดาษ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนกับตัวเองไร้วิญญาณ
และหนึ่งนาทีต่อมา... เฮอร์ไมโอนี่ก็กลายเป็นภรรยาของมัลฟอยอย่างถูกต้อง
ทันทีที่เธอปล่อยปากกาลงอย่างหมดแรง เฮอร์ไมโอนี่ก็ค่อยๆสะอื้นออกมาก่อนจะกลายเป็นการร่ำไห้
เธอยกมือที่สะเทาทั้งสองข้างขึ้นปิดใบหน้าที่เปียกชุ่มของเธอ
เธอรู้สึกเจ็บในหัวใจเหมือนถูกมีดกรีดแทงอย่างโหดร้าย
ขณะที่ผู้หญิงทุกคนดีใจที่ได้เป็นภรรยาของผู้ชายคนหนึ่ง
แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับรู้สึกเหมือนใกล้ตายเมื่อเป็นภรรยาของมัลฟอย
และในขณะที่เธอกำลังเสียใจกับการได้เป็นภรรยาคนใหม่
จินนี่กลับกำลังปลื้มใจกับการได้เป็นภรรยาของแฮร์รี่ที่เธอรัก!
ช่างเป็นความรู้สึกปวดร้าวและชอกช้ำ
ขอบคุณมัลฟอยพูดเบาๆ... เขาค่อยๆประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากภรรยาของเขาอย่างทะนุถนอม
เธอทำดีแล้วเกรนเจอร์เขาจรดริมฝีปากลงบนแก้มนวลชื้นของเธอ
มัลฟอยอยากจะกู่ร้องบอกโลกออกมาดังๆว่าเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ หญิงสาแสนเสน่ห์ แสนสวย
แสนเก่งที่ผู้ชายทั้งในโลกมักเกิ้ลและโลกผู้วิเศษต่างก็พยายามแย่งกันครอบครองเธอ
แต่ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขาแล้ว ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้อง
เขาอยากจะร้องบอกว่าเขาเป็นเจ้าของเธอ
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าแดงก่ำขึ้นให้ฉันไปได้รึยังเธอถามด้วยเสียงที่เหมือนกระซิบ
มัลฟอยพยักหน้าช้าๆ
เขาท่องคาถาเบาๆอีกครั้งหนึ่งและชุดสีขาวสะอาดที่ดูหรูหราเหมาะสมสำหรับการไปร่วมพิธีแต่งงานก็ปรากฏอยู่ข้างกายเขา เขาค่อยๆดึงผ้าห่มที่คลุมร่างอ่อนแรงของเฮอร์ไมโอนี่ออก
เธอเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าเขาและมัลฟอยต้องกัดฟันเพื่อข่มอารมณ์ไม่ให้รับขวัญภรรยาของเขาในตอนนี้ เขาค่อยๆบรรจงสวมชุดสีขาวให้เธออย่างเบามือ เฮอร์ไมโอนี่ยอมปล่อยให้เขาทำ...
เพราะเธอไม่มีหัวใจให้กับสิ่งอื่นอีกแล้ว
ฉันจะพาเธอไปเอง ภรรยาของฉันเขากระซิบข้างหูเธอและอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง
นำเธอออกไปสู่นอกคฤหาสน์เพื่อให้เธอได้ชมฟ้ากว้างที่เธอเกือบจะลืมมันไปแล้ว
รถยุโรปสีดำคันหรูเคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์ที่เหมือนฝันร้าย
มุ่งหน้าสู่โบสถ์ศักสิทธิ์เพื่อร่วมพิธีแต่งงานของแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ จินนี่ วีสลี่ย์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น